วิริยาธิกะพิเศษบันทึก

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย pco-, 7 มิถุนายน 2010.

  1. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    เรื่องการปกครองแบบใหนจึงจะดีที่สุด หากเป็นสมัยปัจจุบัน ก็ต้องบอกว่ามันต้องบ้านใครบ้านใคร ครอบครัวคนใหนก็ครอบครัวนั้น ครอบครัวไทยก็ครอบครัวไทย

    สมมุติหนึ่งหมู่บ้าน มีหนึ่งร้อยหลังคาเรือน สมมุติหนึ่งครอบครัวมีสิบคน ปู่ย่า พ่อแม่ เมีย และลูก แค่ครอบครัวเล็กๆนี้ คิดว่าจะต้องปกครองสูตรเดียวกันทั้งหมดมันจะเหมาะกับทุกบ้านหรือไม่

    บ้านที่หนึ่งต้องการให้ปู่เป็นใหญ่ทุกคนต้องเคารพเชื่อฟังปู่
    บ้านที่สองบอกปู่แก่แล้วการตัดสินใจอาจสู้พ่อไม่ได้ ให้พ่อปกครองดีกว่า
    บ้านที่สามบอกว่าทั้งพ่อทั้งปู่หัวโบราณ นักอนุรักษนิยมไม่เปลี่ยนแปลงอะไรง่ายๆ ยึดตึดกับเรื่องเก่าๆ จึงตามใครไม่ค่อยทัน เอาลูกดีกว่าให้เป็นผู้นำ และให้ลูกปกครอง ปู่กับพ่อนั่งดู

    สามบ้านนี้มันก็มีข้อดีข้อด้อยของมัน ทุกคนที่ปกครองก็จะมีข้อจำกัดของตัว ยกเว้นจะต้องเก่งกาจรอบรู้จริงๆ แล้วใครจะเป็นคนที่เก่งแล้วรู้จริงทั้งหมด อันนี้ไม่ว่าคนใหนจะปกครองมันก็มีข้อดี ข้อด้อยหากพูดในแง่วิชาการ

    แต่การปกครองที่มีผู้อยู่ในความปกครอง หากว่าพูดเรื่องดีหรือไม่ดีมันเถียงกันยันตาย ตายแล้วก็ยังสรุปไม่ได้

    แต่หากว่าทำให้ถูกต้องตามทำนองครองธรรมอันนี้ทำได้ทั้งสามบ้าน ดีไม่ดีไม่ต้องมาพูด ถูกใจใคร ไม่พอใจใคร ไม่ต้องเอามาให้น้ำหนัก เอาเรื่องที่มันถูกต้องตรงไปตรงมา เอามาพูดเอาปฏิบัติอันนี้มันจึงจะพออยู่ได้

    ผมเองในกลุ่มของผม คนในปกครอง ผมทำคณะเล็กๆ รวมทั้งคนใต้บังคับบัญชาทั้งหมด ผมยึดหลักแบบนี้ อคติทั้งสี่เอาทิ้งไป อันนี้มีไม่ได้ รักให้ตายอย่างไรก็ลำเอียงไม่ได้ ใช้อำนาจบาทใหญ่มาอย่างไรก็วางลงซะ หากไม่ใช่อำนาจที่ดีที่ถูกต้อง ผมเองก็ปกครองคนมาไม่น้อย ในปัจจุบันก็ปกครองคนไม่น้อยเหมือนกัน ทำในเรื่องที่ถูกนี่ ทำได้ แล้วก็ไม่ยาก

    แต่จะทำให้ดีอย่างใจของใครคนใดคนหนึ่งที่ไม่ถูกต้อง อันนี้ทำไม่ได้


    ค่อยมาต่อนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 สิงหาคม 2014
  2. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814



    :cool:({) สวัสดีครับ ไม่เป็นไรก็ขออนุโมทนาสาธุด้วยครับ อนุโมทนามัย บุญสำเร็จด้วยการโมทนาสาธุ ก็ได้ ๒๐ เปอร์เซ็นของผู้กระทำต้นบุญ ที่ครูบาอาจารย์ท่านกล่าวเอาไว้ โมทนาอย่างเดียว ไม่ดี เพราะเกิดไปชาติหน้าจน ต้องทำให้มันครบทุกๆอย่างที่เป็นบุญ แต่พุทธภูมินี่ ไม่ต้องพูดถึงเขารู้ดีอยู่แล้ว แต่รู้ซึ้งขนาดไหนแล้วแต่ละบุคคล แต่ในหมู่ของพวกเราก็เข้าใจกันดี สาธุด้วยครับ :cool:
     
  3. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814






    :cool:({) สวัสดีครับพี่ พีซีโอ พี่ๆน้องๆทุกๆท่าน การที่พูดมาอย่างละเอียดโดยผมไม่ต้องพูดซ้ำอีก และขออนุโมทนสาธุบุญทุกอย่างที่พี่ทำ และชอบใจ เหมือนเตือนสติ ในการบอก ผมปลูกต้นไม้ผลไม้ ไม่เคยอฐิษฐานแบบพี่ว่า สักที มันลืมไปหมด เมื่อพี่พูด อืม ... เหตุผลดี ส่วนใหญ่รวมยอด อฐิษฐาน ว่า ถ้ายังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด คำว่าไม่มีจงอย่าปรากฎแก่ข้าพเจ้า ในโลกนี้เขามีอะไรกันขอให้มีให้คครบ และต่อท้ายด้วย อิทธิฤทธิ์ บุญญาฤทธิ์ ปัญญาฤทธิ์ จงบังเกิดแก่ข้าพเจ้าโดยฉับพลับ ขอให้ถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเทอญ ถึงไม่ถึง จำเป็นต้องเกิดอีก มันก็เหลือน้อยชาติลงตามที่พี่และผมเข้ากันนั่นแหละครับสวัสดี:cool:




    และนำภาพพระที่หล่อไปเมื่อวันที่ ๑๔/๘/๕๗ นำภาพรถเครื่องผมที่ถวายไว้ ที่สำนักสงฆ์เขากะจี เมื่อ ๓ ปีที่แล้ว ทางเข้าลำบากมากครับ ทางลูกรัง ๔ กิโล ๗๐๐ เมตร เข้าไปรับหลาน ไปส่งที่เขากะจี ก็เลยถ่ายภาพ รถเครื่องที่ถวายไป ยังอยู่ไหม ท่านบอกนำไปแต่งใหม่ เสียเงินไป ๔,๐๐๐ กว่าบาท ครับ ก็เลยถ่ายภาพมาให้ชมกันครับ ต้องขออภัย แค่นี้ต้องถ่ายมาให้ดูด้วยหรือ


    พิมพระนี้ที่พี่มีส่วนร่วม ส่งเงินมาช่วยสร้าง ท่านมีโครงการจะสร้างให้ครบพระพุทธเจ้า ๒๘ พระองค์ครับ ค่อยๆทำไปครับ ไม่มีบ้านคน แต่รอยอดีด อดีดเป็นทางเดินทัพของพระนเรศวร และวัดเก่าคนที่ได้มโนเขาบอก และมีก้อนดินเผาอยู่ในถ้ำเป็นหลักฐาน ก้อนใหญ พอๆกับอยุธยา แต่ว่า ความหนาๆกว่าครึ่งครับผม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN2256.jpg
      DSCN2256.jpg
      ขนาดไฟล์:
      107.7 KB
      เปิดดู:
      34
    • DSCN2255.jpg
      DSCN2255.jpg
      ขนาดไฟล์:
      108 KB
      เปิดดู:
      42
    • DSCN2257.jpg
      DSCN2257.jpg
      ขนาดไฟล์:
      102.1 KB
      เปิดดู:
      23
    • DSCN2258.jpg
      DSCN2258.jpg
      ขนาดไฟล์:
      83.4 KB
      เปิดดู:
      31
    • DSCN2259.jpg
      DSCN2259.jpg
      ขนาดไฟล์:
      100.6 KB
      เปิดดู:
      22
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 สิงหาคม 2014
  4. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    โมทนาสาธุอย่างยิ่งครับพี่ เอารูปแมงกะไซมาลงน่ะดีมากครับ หลายๆคนเห็นก็ชื่นใจโมทนาสาธุการไปกับพี่ด้วย วันก่อนได้โอนสตางค์จากกองทุนมาเป็นเรื่องของยานพาหนะ อันนี้พี่จะเอาไปถอยจักรยาน หรือพี่จะเอาไปเป็นค่าซ่อมแมงกะโซคันที่พี่ถวายพระท่านไปแล้วก็ได้ เอาที่มันสะดวกนะพี่

    ผู้ให้ยานชื่อว่าให้ความสุข ซ่อมยานมันก็ชื่อว่าซ่อมความสุข ไม่เป็นไร ชื่อว่าความสุขเหมือนกัน อานิสงค์ มันคล้ายกัน (เอหรือไม่คล้ายหว่า เพราะชาตินี้ซ่อมรถให้ชาวบ้านมาจนลืมนับว่าเท่าไร กว่าจะมามีเป็นของตัวเอง)เอาแบบว่าเวลาไปขอสาว หากว่าขอพี่สาวไม่ว่าง เขายกน้องสาวให้มา แต่ไม่เอาสามขวบนะพี่ เลี้ยงกว่าจะโตเราก็ตายก่อน ขอแบบใกล้ๆแก้วใหญ่น่ะแบบว่าหุงข้าวถูบ้านได้แล้วน่ะพี่

    แล้วเรื่องยานพาหนะเกิดใหม่เมื่อไรก็ขอให้ปู่กับย่าไปถอยไอ้แบบนี้ไว้ไปโรงเรียน เอาซะตั้งแต่ยังไม่เข้าท้องแม่ ปู่กับย่านี่ต้องไปเรียกแล้วเรียกอีก ว่าคุณหลานเอ๊ยมาเกิดช่วยใช้สตางค์ปู่ทีหว่า สตางค์ปู่มันเหลือใช้ หลานรักมาช่วยที แบบไอ้ชาตินี้มันไม่ไหว ไปโรงเรียนอย่าว่าจะแต่มีรถเลย รองเท้าก็ไม่มีจะใส่ไปพี่รองเท้าแตะฟองน้ำตราช้างดาวนี่แหละ แค่นี้ก็จนปัญญาแล้วพี่ สตางค์ไปโรงเรียนก็ไม่มี ข้าวกลางวันก็ไม่รู้จักกับเขา หลักสูตรวิริยาธิกะนี้นี่แหมน่ารักมาก

    เนี่ยพี่บุญทรงไอ้แบบนี้ที่วิหารน้ำน้อยนี่เป็นประจำไปไหว้พระ มีไม่น้อยที่ไปขอให้มีลูก แล้วเท่าที่สังเกตมานาน ก็มีคนมาแก้บนเรื่องนี้ไม่น้อยที่เขาขอแล้วเขาก็มีกันจริงเหมือนกัน บางคนเมื่อมีแล้วก็มายกเป็นลูกบุญธรรมให้กับผมก็มี

    เรื่องการอธิฐานเราก็อธิฐานของเราส่งเดชไป พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านบอกพวกเราเสมอ ว่าทำบุญอย่าลืมอธิฐาน ใครไม่เอาก็ช่างเขานะพี่ ส่วนพวกเรา เราเอาตามพ่อบอก ท่านบอกอย่างใหนทำอย่างนั้น เรื่องนี้มันมีผลนะพี่หากเราศึกษาพระสูตรต่างๆ บุคคลตัวอย่างนั้นมีสารพัดให้เราเห็น บังเอิญน่ะพี่ ผมมันชอบประวัติศาสตร์ ก็เห็นว่าคนรุ่นก่อนๆที่ท่านฉลาดน่ะท่านฝังทรัพย์ไว้ตรงใหน ไอ้เซ่อๆอย่างเราก็ไปขุดเอาของท่านมาใช้ ไม่ต้องไปคิดเริ่มต้นใหม่ บางทีคิดอะไรได้เข้าก็เข้าใจว่าตัวเองฉลาดล้ำลึก พอดูไปดูมาอีกทีโธ่เอ๊ยท่านที่ทำอย่างที่เราคิดได้ตอนนี้ท่านเข้าพระนิพพานไปซะไม่รู้กี่อสงไขยไปแล้ว ไอ้เราเพิ่งจะแค่เห็นเพียงร่องรอยรูปภาพซากของฟอสซิลของท่าน

    การที่เราอธิฐาน เราอธิฐานเผื่อลูกเผื่อหลานหมู่คณะใคร เราเองหลักสูตรบังคับอยู่แล้ว เขาให้จนก็ต้องจน เขาให้ลำบากก็ต้องลำบาก อยากจะนอนแช่แอร์ เดินดูดอกไม้ นั่งฟังนางสาวฟ้าสีซอให้ฟัง อยู่ที่พรหมบ้าง เทวโลกบ้างสักสิบหกอสงไขย แล้วค่อยมาเลี้ยงควายไถนาบ้าง มาเป็นกรรมกรหิ้วปูนสักแสนกัปก็พอ ก็ไม่ได้อีก บอกว่าถ้ากลับกันละพอได้ คือเลี้ยงควายซะสิบหกอสงไขย หิ้วปูน ซะเก้าหมื่น อีกหมื่นก็หาที่หลบแดดเอาเอง เทียบกันแล้วให้เข้าร่มหน่อยเดียว นอกนั้นกลางแจ้งโน่น

    พอดูไปดูมาโบราณกาลเขาทำได้มาซะตั้งแต่ปู่ยังเป็นเด็ก

    พูดเรื่องนี้แล้วอยากเป็นมหาเศรษฐีซะทันทีแก้รำคาร มัวเป็นคนจนกันอยู่ได้รู้ก็รู้กันนะพี่พวกเรานี่ว่าความจนมันทำอะไรไม่ได้ ไปขอลูกสาวใครเขาก็ไม่ให้ ใครมาขอแค่ลูกแมวผมก็ไม่ให้เหมือนกันนั่นมันเป็นงั้น รถไฟไทยมีมาตั้งแต่พ่อของปู่ยังวัยรุ่น ปัญญาในการรักษากันให้ดี รักษาแล้วพัฒนาให้มันดีมันก้าวหน้านี่แทบมองไม่เห็น ไม่รู้ว่าฉลาดปัญญาดีประสาอะไร กะอีแค่ตู้รถไฟตู้โดยสาร ตู้ขนส่ง ปัญญาในการผลิตยังไม่มี ตู้รถไฟโดยสารแท้ๆ เมืองไทยน่ะมีคนเรียนวิศวะมาก็ไม่น้อย ตายไปแล้วก็ไม่น้อย สถาบันการศึกษาแล้วมีคณะวิศวกรรมศาสตร์ก็มาก มีปัญญาแค่ซื้อเขาอย่างเดียวทำเองไม่ได้ซะที มันเป็นไง

    ตู้โดยสารนอนชั้นหนึ่งใช้ของญี่ปุ่น มาจนมันจะพังคาที่ ตู้ชั้นสองนอนใช้ของเกาหลี ส่วนของพี่ไทยเราตู้นั่งชั้นสามผลิตได้บ้างที่โรงงานมักกะสัน ขอความกรุณาตั้งใจทำให้มันอย่างเลวก็พอๆกับเขาหน่อย อย่าทำเหมือนจงใจแพ้สถานเดียว

    ก็จะฝากโอฬารไว้ก่อนอย่าเพิ่งเอาซะพังพาบตอนนี้ หากPCOและคณะกลับมาได้อย่าว่ากันหากว่าโหดตั้งแต่สามขวบ

    พี่บุญทรงบางทีที่ผมพิมพ์มามันสกดผิดก็มีคำใหนที่สกดผิด พี่ช่วยแก้ให้ทีครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 19 สิงหาคม 2014
  5. TheVisionMind

    TheVisionMind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2014
    โพสต์:
    1,827
    ค่าพลัง:
    +2,227
    เรื่องรถไฟ .. เห็นว่าตอนนี้รางรถไฟที่มีอยู่ทั่วประเทศเป็นรางกว้าง 1 เมตร ซึ่งจะไม่รองรับรถไฟสมัยใหม่
    ที่จะมีการเชื่อมระหว่างประเทศไปถึงเมืองจีนด้วย ซึ่งใช้รางกว้าง 1.4 เมตร

    ดังนั้น ทิศทางที่จะทำรางรถไฟคู่ ณ ตอนนี้คือจะยังคงเป็นรางกว้างขนาด 1 เมตร เพื่อใช้งานคู่กับของเก่า
    สำหรับใช้ภายในประเทศไปก่อน

    ส่วนรางใหม่ซึ่งกว้าง 1.4 เมตร ก็มีแนวคิดที่จะสร้างเป็นรางที่สาม ต่อไป .. อ้าว!

    คำถามคือ .. แล้วขยายความกว้างรางเดิมไม่ได้เหรอ?
    ผมเดาว่าตัวนอนที่ใช้รองใต้รางที่ใช้อยู่เป็นล้านๆ ก้อน คงจะยาวไม่พอคงต้องเปลี่ยนใหม่
    หมด (เสียดายแย้ถ้าต้องลื้อทิ้ง สู้ทนใช้จนหมดอายุแล้วเปลี่ยนเป็นตัวหนอนยาวก็ได้แต่ก็ต้องใช้เวลา
    ยืดออกไปตราบเท่าที่จะเปลี่ยนตัวหนอนหมด)

    คำถามต่อไป แล้วรางคู่ที่จะเพิ่ม จะถือโอกาสใช้ตัวนอนยาวรองรับ รางขนาด 1.4 เมตร
    เลยได้หรือป่าว หากเปลี่ยนก็แค่ขยายราง ... อันนี้ดันไม่มีคนคิด

    มีแต่จะคิด เพิ่มเป็นรางที่สาม ... เฮฮาประเทศไทย!

    ... จริงๆแล้ว คนไทย .. คิดแบบคนรวยนะคร้าบบบบบ
    ... แต่รวยหรือป่าว ก็เห็นๆ กันนะคร้าบบบบ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 สิงหาคม 2014
  6. White Sage

    White Sage เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +1,743

    สาธุค่ะคุณอาPCO (ขอเรียกคุณอานะคะ เพราะอายุพอๆกับลูกเลยค่ะ - -*) หนูชื่อเฟมนะคะ (ขออนุญาตแนะนำตัว) สำหรับตัวเองนั้นถือหลักของหลวงพ่อท่านเหมือนกันค่ะ กล่าวคือความเป็นเด็กหรือเป็นผู้ใหญ่นั้นไม่ได้ดูกันด้วยอายุ แต่ดูกันด้วยพรหมวิหารธรรมอันเป็นธรรมสำหรับผู้ใหญ่ แล้วก็ดูกันด้วยเหตุด้วยผลและผลงานการกระทำ แต่ในอีกทางหนึ่งนั้นก็ถือความอ่อนน้อมและนับถือในความดีความรู้ของท่านที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่เหมือนกันค่ะ


    ถ้าเรื่องการเมืองการปกครอง ก็เป็นตามที่พี่Kittipiriyapong(Armarmy) และคุณอาPCOว่ามาค่ะ คือในยุคแรกๆนี่เขาจะตั้งธงหาคำตอบว่าระบอบการปกครองใดดีที่สุดสำหรับมนุษย์ แต่ถ้าในช่วงหลังจากนั้นเค้าจะมองถึงข้อดีข้อด้อยของแต่ละระบอบ และก็ยอมรับว่าระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยนั้นไม่ได้ดีที่สุดค่ะ


    ทางพระพุทธศาสนานั้น มันก็เป็นปรากฎการณ์ปกติธรรมดาของแต่ละยุคแต่ละกัปแต่ละสมัยที่จะมีรูปแบบการปกครองและรายละเอียดที่แตกต่างกันไป ซึ่งพวกเรานั้นก็น่าจะเคยเวียนว่ายตายเกิดมาพบครบทุกรูปแบบแล้วนั่นเอง แต่สิ่งที่สำคัญที่คุณอาPCO ชี้ประเด็นไว้ก็คือความเหมาะสมของรูปแบบการปกครองที่จะใช้ต่างหากที่เราต้องนำมาพิจารณากัน


    ซึ่งถ้าถามตามความคิดเห็นส่วนตัว ยอมรับว่าจะมองไปที่สภาพความเป็นจริงของคนในประเทศเราก่อนว่าส่วนใหญ่มีลักษณะแบบใด แล้วก็พบว่าถ้าเอาหลักเรื่องของจิตเข้ามาจับแล้ว พูดกันแบบตรงๆเลยก็คือคนไทยส่วนใหญ่ขาดองค์ความรู้ทางพระพุทธศาสนาที่สำคัญไป กล่าวคือยังไม่สามารถเข้าถึงความดีในระดับพื้นฐานอันได้แก่ ศีล ๕ และเข้าถึงความดีในระดับจิตใจที่เป็นพื้นฐานคือ พรหมวิหารธรรม ๔ ได้ และเมื่อสภาพการณ์เป็นเช่นนี้ การแยกแยะคนดีคนชั่วจึงยังไม่เกิดขึ้นรวมถึงยังไม่เข้าใจสภาพความเป็นจริงของมนุษย์ ว่าสุดท้ายแล้วคนเรามันไม่มีใครแตกต่างกันและไม่มีใครดีไปกว่าใคร เพราะคนที่จะดีได้จริงๆนั้นต้องเข้าถึงความเป็นพระอริยเจ้าก่อน


    และเมื่อนำมาจับกับหลักทางการเมือง เราก็พบอีกว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่ได้มีความรู้ทางการเมืองเท่าใดนัก เพราะการเรียนการสอนของเราเน้นการศึกษาศาสตร์แต่ละศาสตร์แบบแยกส่วน มันเลยเป็นจุดอ่อนที่ทำให้ไม่ทันกระแสของความเชื่อ ความคิด และวาทกรรมที่เค้าสอดแทรกมาอย่างแยบยลและรุนแรงผ่านทางระบบการศึกษา(ที่หล่อหลอมคนมานับสิบๆปีโดยไม่รู้ตัว) จิตวิทยาการสื่อสาร(การโฆษณาชวนเชื่อ) และหลักความเชื่อทางศาสนา จนสุดท้ายก็แพร่ระบาดไปทุกวงการไม่เว้นแม้แต่ในหมู่ผู้ปฏิบัติธรรม ที่แม้แต่จิตใจก็ยังไม่เข้มแข็งและรู้ทันเท่ากิเลสที่เข้ามาทางอายตนะทั้ง ๖ ของตน


    ดังนั้นถ้าถามว่าระบอบการปกครองไหนดีและเหมาะสมกับประเทศเรา ส่วนตัวมองว่าจะเป็นระบอบใดก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นการปกครองที่รวมศูนย์อำนาจอยู่ที่คนๆเดียว หรือรวมศูนย์อยู่ที่กลุ่มบุคคล หรืออำนาจอยู่ในมือประชาชนทุกคนแล้วเลือกตัวแทนเข้าไปบริหาร เพราะสิ่งที่ต้องการจริงๆคือผลงานที่เห็นเด่นชัดและเป็นรูปธรรม มีประสิทธิภาพประสิทธิผล และเป็นไปเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประชาชนอย่างแท้จริง


    และบุคลล หรือกลุ่มบุคคล หรือตัวแทนประชาชนที่เข้ามาบริหารนั้นก็ต้องอยู่ในฐานะที่ประชาชนสามารถตรวจสอบขุดคุ้ยทุกซอกทุกมุมได้อย่างเต็มที่ว่ามีความรู้ความสามารถจริงแท้แค่ไหน มีความดีมากน้อยเพียงไรทั้งต่อหน้าและลับหลัง จะได้มั่นใจว่าเหมาะสมจริงและไม่สร้างภาพ จะได้รู้ว่าคิด พูด และทำทุกอย่างอย่างสมเหตุสมผลทั้งในทางโลกและทางธรรมจริง ซึ่งบอกตรงๆว่ายากมากค่ะ และโลกยุคปัจจุบันเค้าก็นิยมระบบการปกครองแบบตัวแทนประชาชนอยู่ ฮ่าๆๆๆ



    สุดท้ายถ้าถามเฟมตอนนี้ ยอมรับว่าปลงกับกรรมของคนในประเทศนี้จริงๆ ที่ต้องมาเกิดในประเทศที่อยู่ในช่วงของความเสื่อมโทรมอย่างถึงที่สุด ที่ระบบต่างๆถูกทำลายจนย่อยยับและไม่เคยได้รับสิ่งดีๆที่จะทำให้เป็นมนุษย์ที่มีคุณภาพกันเลย อาจจะเป็นเพราะกรรมของพวกเรา(ประชาชน)ทุกคนกระมัง ที่เคยเกิดมามีอำนาจวาสนาแล้วใช้ไปในทางที่ไม่ดี ทำร้ายและเอารัดเอาเปรียบผู้น้อยทุกวิถีทาง ชาตินี้เลยต้องกลับมาเกิดเป็นคนธรรมดาๆแล้วเจอการทำกลับทุกวิถีทางแบบนี้เช่นกัน


    ตอนนี้ที่เป็นห่วงมากที่สุดก็คือวงการพระพุทธศาสนา เพราะถูกกระแสการเมืองเข้ามาส่งผลอย่างมากมายจนทำให้ผู้ปฏิบัติธรรมไขว้เขวออกนอกเส้นทางของการหลุดพ้น และเกิดการปรามาสพระภิกษุสงฆ์ที่ท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบว่าเป็นฝ่ายนั้นฝ่ายนี้อย่างไม่รู้ตัว อันจะก่อให้เกิดโทษอย่างร้ายแรงตามมา ส่วนตัวก็เจออยู่เคสหนึ่งที่มีคนกล่าวถึงพระองค์หนึ่งว่าท่านเป็นสีนั้นสีนี้ แต่โชคดีที่เฟมเคยไปทำบุญกับท่านและอ่านคำสอนของท่านมาตั้งแต่เริ่มปฏิบัติธรรมแรกๆเนื่องจากท่านเป็นพระที่ปฏิบัติตามคำสอนของหลวงพ่อ ทำให้เรายังไม่ปักใจเชื่อ และพอได้ไปอ่านคำกล่าวของท่านในเรื่องแนวๆการเมืองก็พบว่าจริงๆแล้วท่านไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดเลย และสิ่งที่ท่านพูดนั้นก็เป็นไปเพื่อให้ญาติโยมพุทธบริษัทมีสติปัญญารู้เท่าทัน และรู้จักแยกแยะเหตุและผลให้ออก แล้วว่ากันไปตามเนื้อผ้าตามความจริง และสุดท้ายก็ให้เข้ามายึดหลักธรรมคำสอนของพระพุทธองค์นั่นเอง


    ซึ่งจุดนี้เฟมว่าเฟมเห็นด้วยกับท่านนะ เพราะเรื่องนี้พอมันลามเข้ามาในหมู่ผู้ปฏิบัติธรรม ถ้าไม่สอนให้เค้าเข้าใจเหตุเข้าใจผลก่อน บางทีมันแกะอารมณ์ที่เข้ามาไม่ออกจริงๆแล้วมันจะเป็นอุปสรรคขวางกั้นความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรม ซึ่งจุดนี้ถ้าใครมองไม่ออกหรือไม่มองให้ดีๆแล้ว ก็อาจเข้าใจแบบผิวเผินแล้วเผลอไปตัดสินว่าท่านเป็นสีนั้นสีนี้โดยไม่รู้ตัวเลยเหมือนกัน ซึ่งเป็นอะไรที่น่ากลัวมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบและทรงอยู่ในคุณธรรมความดีจริงๆ ดังนั้นเฟมเลยรีบชี้แจงมุมมองของเฟมให้กับคนที่มาบอกโดยด่วนเลย จะได้เป็นการกระตุ้นเตือนให้เค้าลองคิดให้ดีๆก่อน ก่อนที่จะแพร่ความคิดเห็นแบบนั้นออกไปเป็นวงกว้าง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2014
  7. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    คุณหลานเฟมที่จริงน่าจะเป็นลูกสาว น่าจะมาเกิดกับแม่ใดแม่หนึ่งช่วยงานพ่อ เอาละมันยังมีเกิดมีตายอีกหลายรอบแล้วแต่เวรก็แล้วกัน เอาละวันนี้พูดเรื่องการปกครองแต่จะเอาสำนวนบ้านๆมาคุยนิดหน่อย เอาอย่างนี้เอาง่ายๆ

    ในโลกนี้หรือโลกใหนๆ การปกครอง ไม่มีใครถึงพร้อมไปด้วยประการทั้งปวงเท่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    แต่แม้ว่าอย่างนั้นมันก็ยังมีคนที่ไม่ชอบใจ แม้แต่นักบวชแท้ๆที่ไปอาศัยผ้ากาสาวพัตรเลี้ยงชีพอยู่กับพระพุทธศาสนา ยังมีการหลีกเลียงท้ายที่สุดขั้นแบ่งแยกการปกครองในสมัยพุทธกาลที่เทวทัตแยกคณะออกไป

    ที่นี้เราก็หันกลับมามองการปกครองแบบทั่วไปมันก็ได้แค่ระดับหนึ่ง กลุ่มหนึ่งเท่านั้นที่พอจะเอาอยู่กันอย่างสงบสุข แม้มีความเชื่อความเคารพสิ่งใดสิ่งหนึ่งสรณะ ก็ยังมีการแตกแยกกัน แม้ในปกครองคณะสงฆ์ไทยก็มีสองนิกาย คือมหานิกาย และธรรมยุตินิกาย หากมานั่งคุยกันว่าแบบใหนดีกว่าแบบใหนหาเหตุหาผลมันก็กลายเป็นต้องรบกัน

    ฉะนั้นเมื่อเรารู้ธรรมชาติธรรมดามันเป็นแบบนี้ สำหรับผม ผมบอกได้เลยว่าอะไรก็ได้ที่จะใช้เป็นหลักการปกครอง เพราะไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่มันดีมันได้ มันเหมาะสมแค่ชั่วระยะหนึ่งเท่านั้น

    ทำไมถึงพูดแบบนี้ เพราะว่าไม่ว่าแบบใหนๆหากเราเป็นคนที่พึ่งตนเองก่อนเสมอ เราก็ไม่เดือดร้อนอยู่แบบใหนมันก็พออยู่ได้ อยู่ในการปกครองแบบโจรหากเราอยู่แบบโจรเราก็ไม่เดือดร้อน หากอยู่ในการปกครองแบบคนดีมีศีลธรรม แล้วเราก็อยู่แบบคนมีศีลธรรมมันก็อยู่ได้อีก

    ถูกไม่ถูกดีไม่ดีไม่ได้พูด แต่พูดในแง่การปกครองทำยังไงให้เป็นปรึกแผ่นเป็นเนื้อเดียวกัน หากไม่เป็นปรึกแผ่นก็มองว่าการปกครองไม่ดี

    หากเป็นโจรมันก็ต้องการปกครองแบบโจร หากเป็นพระก็ต้องปกครองแบบพระ นี่เราพูดในแง่การปกครอง


    ทีนี้เมื่อเรารู้ว่าธรรมดามันเป็นแบบนี้ เราก็มาดูกันว่า บ้านเมืองของเรามันเหมาะที่จะปกครองแบบใหน อิศระเสรี มันก็ต้องเสรีแบบไทยๆที่เคารพคนดี เคารพผู้ใหญ่ แล้วอีกหลายๆอย่างแบบวิถีไทย

    อ้อคุณหลานเฟมช่วยแก้คำที่พิมพ์ผิดให้ค้วยครับ
     
  8. White Sage

    White Sage เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +1,743

    แฮ่ ขอบคุณนะคะคุณอาที่เมตตา ถ้ามีวาระเหมาะเจาะต้องกัน อันจะส่งเสริมให้ก้าวหน้าในพระโพธิญาณ ก็อาจจะมีโอกาสนั้นอยู่เหมือนกันค่ะ (ช่วงนี้เฟมกำลังคิดถึงเรื่องอธิษฐานบารมีอยู่พอดี เลยรู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เพราะถ้าเรารู้จักอธิษฐานและได้ไปอยู่ในจุดที่จะทำให้สามารถต่อยอดบุญบารมีได้ดีที่สุดก็เป็นเรื่องที่ควรจะทำ)


    ถ้าเรื่องช่วยงานนี่เต็มใจค่ะ จริงๆเล็งไว้อยู่เหมือนกันแต่แรกว่าอยากจะส่งเงินผ่านกองทุนของคุณอาPCO เพราะมีหลายอย่างอยากจะช่วยด้วยอีกแรงค่ะ(อย่างโครงการซ่อมพระพุทธรูปทั่วประเทศนี่ชอบมากๆเลยค่ะ) ไว้ยังไงถ้าหากว่าสถานการณ์อำนวยกำลังทรัพย์อำนวยจะขออนุญาตประสานงานอีกทีนะคะ :)


    ปล. เห็นคุณอาบุญทรงทำงานพระศาสนาแล้วรู้สึกมีปีติกำลังใจขึ้นมาเลยค่ะ กำลังใจอย่างนี้เลยค่ะที่อยากจะทำตาม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2014
  9. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    เรื่องการอธิฐานนั้นมีความสำคัญ การปรารถนาพระโพธิญาณไม่ใช่การอธิฐานกันครั้งสองครั้ง หากเราลองศึกษาพระสูตรเราจะเห็นว่าแม้องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์ท่านเวลาที่ทำบุญให้ทานท่านก็อธิฐานเป็นแบบอย่างไว้มากมาย

    การอธิฐานมันก็คือการตั้งใจมั่นในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง อย่างกับคนที่จะทำอะไรสักอย่างมันก็ต้องมีจุดมุ่งหมายที่แน่นอน เป็นการปักธงชัยเอาไว้ที่เบื้องหน้าแล้ว แล้วก็ทำทุกอย่างทุกวิถีทางเพื่อไปให้ถึงธงชัยนั้น วิถีของพุทธภูมิหลวงพ่อบอกว่ามีจุดดึงจุดรั้งมาก คำว่าจุดดึงก็คือภาระหน้าที่ต่างๆที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย

    ยิ่งเมื่อมีจุดดึงจุดรั้งมากภาระมาก มันก็จำเป็นต้องมือเครื่องมืออุปกรณ์สารพัดอย่างที่จะต้องนำมาแก้ไขเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างทาง

    เหมือนการขับรถเดินไกลมันก็จะต้องมีจุดแวะจุดพักไปตลอดทาง ขับรวดเดียวหาดใหญ่ถึงเชียงใหม่ มันก็ไม่ไหวและไม่เห็นความเป็นไปของวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านอะไรเลย พุทธถูมิขับรถมันเป็นการขับเพื่อสำรวจสถาพความเป็นอยู่ชาวบ้านเขา ต้องเข้าตรอกซอกซอยมั่วมันไปทุกหมู่บ้านตำบลกว่าจะโผล่เชียงใหม่ก็ไม่รู้นานเท่าไร

    เพราะฉะนั้นแผนที่การเดินทางต้องวางจุดทั้งใกล้ทั้งไกลไว้ตลอดเส้นทางป้องกันการหลงทาง แม้จะต้องขับวกวนบ้าง แต่มีจุดหมายปลายทางที่ตั้งใจไว้ คือการอธิฐานทั้งใกล้ทั้งไกล อธิฐานใกล้คือเรื่องต่างๆที่จำเป็นต้องมีไว้เป็นทุน อย่างไรเสียเราก็ไปถึงจนได้

    ตัวอย่างการอธิฐานฉะเพาะเรื่องคือพระเจ้ากุสราช และสมเด็จพระนางเจ้าประภาวดี นี่อธิฐานอย่างสั้นอย่างฉะเพาะกิจฉะเพาะเรื่อง


    การอธิฐานเป็นบารมีตัวที่แปดของบารมีสิบมีความสำคัญมาก

    ๑ ทานบารมี
    ๒ ศีลบารมี
    ๓ เนกขัมมะบารมี
    ๔ ปัญญาบารมี
    ๕ วิริยะบารมี
    ๖ ขันติบารมี
    ๗ สัจจะบารมี
    ๘ อธิษฐานบารมี
    เมตตาบารมี
    ๑๐ อุเบกขาบารมี<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 สิงหาคม 2014
  10. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814


    :cool:({)สวัสดีครับ พี่พีซีโอ พี่ๆน้องๆทุกๆท่าน แหม ท่านธัมมะสามี หายหน้าหายตาไปเลยนานแล้ว ไม่รู้เป็นไรหรือเปล่า อาซือเจ๊พักนี้ไปพักผ่อนที่ไหนหนอ หายหน้าไปแบบนี้ ไม่มีใครพูดถึงตะปิ้งปิดปิ ของโบร่ำโบราณ ในสมัย ก่อน พ.ศ .๑๐ มีทั้งตะปิ้งเงิน ตะปิ้งนาค แหมอาซือเจ๊ แกมีตะปิ้งทองคำด้วยฮ้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
    :cool:


    และอีกหลายๆท่านที่ไม่ได้เข้ามาคงมีภารกิจกัน ใครมีหน้าที่อะไรก้ไปทำกัน หน้าที่ส่วนรวมคือ ชาติ ศาสนา พระมห่กษัติย์ ใครทำได้แค่ไหนก็แล้วแต่กำลังแต่ละท่านครับ ต้องขอขอบคุณ ที่พี่พีซีโอพูดถึงบารมี ๑๐ สาวกอาจจะหย่อนบางอย่างได้ ทำไม่เหมือนพุทธภูมิ พระอรหันต์ครั้งพุทธกาล บิณถบารตอาหาร ไม่ได้ก็มี ได้มาก็ไม่อิ่มท้องก็มี เพราะท่านขาดการให้ทาน ให้แต่ธรรมะเป็นทาน จึงได้ตรัสรู้เป็นพระอรหันต์


    ส่วนพุทธภูมินั้น ขาดไม่ได้เลย แม้แต่นิดเดียว ต้องทำหนักทุกตัว บารมี ๑๐ จนถึง ปรมัถบารมี ๆ ๓๐ ทัต ทุกตัวย่อมสำคัญเท่ากัน เหมือนกันหมด เห็นพระอรหันต์ในสมัยพุทธกาล บิณถบารตไม่ได้ข้าว น่าคิดมากครับพี่ :cool:
     
  11. Kittipiriyapong

    Kittipiriyapong สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +20
    เดี๋ยวมาคุยด้วยครับ จองพื้นที่นี้ไว้สักวัน
     
  12. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    พระอรหันตที่ท่านบิณฑบาตรแล้วไม่ได้อาหารในสมัยพุทธกาล เป็นเพราะในอดีตท่านได้มีการกลั่นแกล้งพระอริยเจ้าในในอดีตก่อนหน้านั้น กรรมชั่วตามสนองท่านมาทุกท่าน แม้ชาติสุดท้ายของท่าน

    วันหน้าค่อยนำรายละเอียดของท่านรวมไว้ที่นี่นะพี่

    งานก่อสร้างของพี่ก็ค่อยเป็นค่อยไปนะพี่ดูอาการแล้วก็น่าจะเหนื่อยไม่น้อย
    เดี๋ยวมาต่อครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 สิงหาคม 2014
  13. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814


    :cool:({) สวัสดครับคุณ แหม ไม่ต้องจองหรอกครับ มาเมื่อไหร่ ก็ใช้ได้เลย ฮ้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ:cool:
     
  14. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    หากว่าเราจะเปลี่ยนหมอนรองรางรถไฟจากเดิมที่รองรับรางกว้าง1เมตร เป็น1.4เมตร พูดในแง่วิศวกรรมมันทำได้ทุกอย่าง

    ในแง่วิศวกรรมสำหรับผม ผมก็คิดว่าหากเราจะต้องทำรางคู่ในอนาคต ต้องขยายรางจาก1เมตร เป็น1.4เมตรเพื่อเชื่อมต่อกับเพื่อนบ้าน เพื่อการพัฒนาด้านอื่นๆ ลงท้ายด้วยความปลอดภัย

    แต่ความจริงในปัจจุบันด้านวิศกรรมหากจะออกแบบพัฒนา ประดิษคิดค้นสาธาระณูประโภคใดๆเพื่อนำมาใช้งาน มันต้องมีความปลอดภัยต่อคน ต่อสิ่งแวดล้อมก่อน นี่ว่ากันคร่าวๆอย่างสั้น

    เรื่องของรถไฟจากการที่ผมเห็นมาตั้งแต่จำความได้ และก็เดินทางด้วยรถไฟก็มากขนาดผมเองจำไม่ได้ว่าจำนวนเที่ยวของการเดินทางเท่าไร

    มองในแง่ใหนในตอนนี้ก็จำเป็นที่จะต้องพัฒนาต้องมี หากผมมีสตางค์ผมคงทำรางคู่1.4เมตรก่อน เพื่อการขนส่งและการโดยสารผู้คนและเพิ่มความเร็วรถ แล้วก็สร้างทางยกระระดับรถไฟความเร็วสูง

    มันก็คงใช้สตางค์มากในการก่อสร้าง อันนี้หากทำอย่างคนจนอย่างผมเท่าที่ดูตอนนี้ก็คงจะสร้างรางที่สองให้เป็นรางคู่ก่อน ขนานไปกับรางเก่าที่มีอยู่ในปัจจุบันก็อย่างที่ชาวบ้านเขาก็ทำนี้แหละ

    ไอ้ราง1.4ก็สร้างไป วางไปมันเรื่อยเฉื่อย แล้วหากจะทำหรือจะซื้อตู้หรือหัวรถจักรเพิ่มก็ซื้อแต่ขนาด1.4 รวมทั้งเอาไอ้1เมตรมาหงายท้องมันดูว่าใส่ล้อแม็กขยายเป็น1.4ซะดีไม๊ หากว่ามีความจำเป็นว่าใส่1.4แล้วมันจะทำให้ดูเท่ แล้วสาวๆหันมามองรถไฟคนรวย เราก็เปลี่ยนเราก็ดัดแปลงมันซะ ไอ้1เมตรก็ที่เหลือแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วก็แค่ใช้งานมันไปจนหมดอายุของมัน

    เราก็มองเห็นรางๆว่ามันพอจะทำได้

    ทีนี้ในเมื่อตอนนี้ชาวไทยเรากำลังตื่นตัวดีแล้วเรื่องรถไฟเราก็ควรลงมือตัดสินใจทำ

    แล้วสตางค์ว่าไง หากใครเขาให้ยืม เราก็ยืมมันส่งเดชไปเหอะ ทรัพยากรณ์ต่างๆของเรามีมากพอ มีเกินพอที่จะทำมันด้วยซ้ำไป รวมทั้งทรัพยากรณ์มนุษย์ ผมมองเห็นว่ามีไม่น้อยกว่าใครเขา ขอเพียงแต่มองในแง่ความเป็นไท อย่าเอาใจของความเป็นทาสมามองมันก็จะเห็นว่าเรามีทุนทรัพย์อยู่แล้วไม่น้อยกว่าใคร มีเครื่องมืออะไรมีจอบมีเสียมอยู่แล้ว ก็ทำมันส่งเดชไปก่อนแล้วก็ค่อยหามาเพิ่มเติมในภายหลัง

    เพราะเรารวยเขาถึงให้ยืม หากเราจนไม่มีใครเขาประสาทกลับให้ยืม ก็อย่ามาเอาความเป็นอะไรที่ไม่ใช่ไท ของตัวเองที่ใจมันอยากจะเป็นทาสมาคิด แล้วก็คัดค้านตะบันราดหาเหตหาผล ประสาคนที่ขี้เกียจที่อ้างสารพัดเพื่อไม่ทำงาน

    ผมมันถือว่าเป็นลูกหลานว่านเครือของท่านมาฆมานพ มันมีแต่คิดจะทำมันขึ้นมาให้เป็นประโยชน์ให้ได้ก่อน ยิ่งคิดในแง่ความมั่นคงของชาติมันยิ่งสมควรทำโดยเร็ว

    เดี๋ยวมาต่อครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 25 สิงหาคม 2014
  15. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814



    :cool:({) สวัสดีครับพี่ พีซีโอ พี่ๆน้องๆทุกๆท่าน งานนี้ก็หนักเอาการครับ เพราะไม่ใช่นักบวช และไม่ใช่วัด คนเขาจึงไม่เห็นความสำคัญ ในการทำ ผมไปขอ ส้วมเคลื่อนที่ สาธารณะ จากนายกเทศมนตรี คำสั่งยังไม่ออกมาเลยครับ โทรติดตามหลายเที่ยวแล้ว ขนาด สุขของสุขาในการปลดทุกข์ ยังไม่มีเลย จะขอใช้ ของชาวบ้าน ซึ่งมีทั้ง ราชการ ราชการปลดเกษียน พ่อค้า ซึ่งอาศัย อยู่ที่นี้ ไม่ใคร่ มีใครสนใจ แต่ผมเอง ก็ไม่ได้ใส่ใจเท่าใดนัก แล้วแต่ ศรัทธาปะสาทะ ของเขาเหล่านั้น สักวันข้างหน้า หวังว่า เขาคงสนใจกันบ้างนะครับ :boo:


    มีคนไม่กี่คนที่ร่วมบุญ และเห็นด้วย แต่ส่วนใหญ่ เป็นคนข้างนอก ผมไม่มี ญาณ แต่ผมมองไปในอนาคต ด้วยใจอยากทำ เพื่อ ชาติ ศาสนา พระมหากษัติย์ แม้แต่คนเพียงน้อยนิด ก็ยังดี และส่วนรวม และโดยเฉพาะ วิญญาณ อาฆาต งูเหลือม ๑๐ กว่าตัว ตัวขนาดขา ยาว ๒-๓ วา ซึ่งผมมารู้ทีหลัง ว่าเจ้าของโครงการมีหลายคน คนที่สั่ง ให้รถแบ๊กโฮ ขุดหลุม ฝังงูเหลือม ตายไป ๑๐ กว่าตัว ใครๆที่รู้เขาเรียก งูเจ้าที่ หลังจากนั้นไม่นาน คนขับรถแบ๊กโฮ โดนรถชนตาย คนสั่ง ก็โดนรถชนตาย คนที่มีส่วนร่วม ตายหมด เวลาผ่านไป ถึง ๑๙ ปี ๒๐ ปีในที่นี้ไม่มีใครทำประโยชน์อะไร ที่สาธารณะประโยชน์



    โครทำอะไรก็มีแต่เจ๊ง ไม่มีใครค่อยเข้ามาเหมือนเมืองปิดจริงๆ นอกจากคนดีมีศิลธรรมจึงอยู่สบายหน่อยครับ และก้เป็นสุสานนกพิราบ ตายนับไม่รู้เท่าไหร่ และผมเคยคุย กับคนเก่าอีกคน เขาบอก ปลาที่เขาเลี้ยงเมื่อก่อน ตัวขนาด ๑๐ กว่าโล ถึงหลายสิบโล และเป็นป่าที่อยู่อาศัยของสัตว์มากมาย และเมื่อผมนิมนต์ ครูบาขี่ม้ามาทำบุญ (ครูบาเหนือชัย) ท่านเทศให้วิญญาณอาฆาตฟัง) ท่านบอกเยอะมาก และผมต้องการ ให้เจ้าของโครงการ มอบที่ดินให้สิทธิ์ชาวบ้าน โดยเร็ว ก่อน ที่ ท่านเจ้าของโครงการ และ ชาวบ้าน และผมจะตายไปก่อน โดยที่ไม่ได้ทำอะไรกันเลย ยังมีเรื่องอีกเยอะไม่สามารถมาคุยที่นี้ได้หมด และ ผมหวังไว้ลึกๆ ต้องการ ให้คนหรือ หลายๆคนเข้ามารักษาใจ จากน้อยไปหามาก


    ทำได้แค่ไหนก็แค่นั้นแบบพี่ว่า ค่อยเป็นค่อยไป วันนี้ไม่เสร็จ วันหน้าคงเสร็จ หรือ เดือนหน้า ปีหน้า ฮ้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ พี่ว่าไง ต้องรอให้พี่มาช่วยกันแล้วแหละครับ สวัสดี:cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 สิงหาคม 2014
  16. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    ไม่เป็นไรพี่ชาตินี้ไม่เสร็จต่อชาติหน้า น้องนางทั้งหลายเอ๊ยคุณพี่PCOมั่วๆเอาว่าคุณน้องนางหลายน้องนางที่เคยรู้จักในอดีต แอบหนีแม่มาเกิด หากว่านึกถึงอดีตแต่หนหลังได้เมื่อไร

    แล้วก็ถึงแม้ว่าจำไม่ได้ หรือเอาแม้แต่ว่า เอ้าไม่รู้จักกันในอดีตก็ได้ มันได้ทั้งหมด ขอว่าหากได้ข่าวนี้ก็แอบๆไปช่วยพี่บุณทรงบ้างเด๊อ

    เดี๋ยวค่อยมาคุยต่อนะพี่
     
  17. scorpion03

    scorpion03 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +816
    สวัสดีท่านทั้งหลาย

    ขออนุโมทนา ในกุศลเจตนาที่ท่านทั้งหลายได้กระทำแล้วด้วยดี สาธุ

    วันนี้จะขอพูดเรื่องของบ้านเมืองสักหน่อยนะ

    ประเทศไทย กำลังจะมีรัฐบาลแล้วนะ ซึ่งเราก็หวังไว้ในใจว่า ท่านผู้ที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นคณะรัฐมนตรี ก็ดี จิตใจของท่านเหล่านั้น น่าที่จะมีศีล มีธรรมนะ

    ตัวของเราไม่มีความสามารถอะไร ก็ได้แต่ตั้งอกตั้งใจ อยากให้อะไรมันออกมาดี เพื่อประโยชน์สุขของราษฎร โดยส่วนรวม สำหรับตัวของเราแล้ว โลกใบนี้ ไม่มีอะไรที่เราต้องการ ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สิน เงิน ทอง หรือว่า ยศฐาบรรดาศักดิ์ อะไรที่ไหน

    เพราะเหตุว่า เราเชื่อตามที่ท่านผู้รู้บอกไว้ว่า คนเราเกิดมาเท่าไร ก็ต้องตายจากกันไปทั้งหมดเท่านั้น เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ก็ไม่รู้ว่า จะอยากได้อยากดี อะไร ให้มันมากเรื่องมากราว การเกิดมาเป็นมนุษย์ สำคัญอยู่สิ่งเดียว คือการทำความดี

    เพราะว่า ความดี หรือว่า กรรมดี เท่านั้นเอง ที่จะสามารถติดตัวของเราท่านทั้งหลาย เมื่อตายจากโลกนี้ไปแล้ว ทรัพย์สมบัติ ต่าง ๆ ยศฐาบรรดาศักดิ์ต่าง ๆ ต่างล้วนเป็นเพียงภาพลวงตา ไม่มีสาระ ไม่มีแก่นสารอะไร

    เราก็ขอให้จิตใจ ของท่านผู้ที่จะมาเป็นคณะรัฐบาล ต่อจากนี้ไป มีศีล มีธรรม ประจำใจ ตลอดจน มี หิริ และโอตัปปะ คือ มีความละอาย และเกรงกลัวต่อการกระทำความชั่ว ความเลว ต่าง ๆ

    เราขอเพียงเท่านี้นะ เรื่องอื่น ๆ ที่ดี ๆ และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในชาติโดยส่วนรวม จะตามมาเอง ก็ด้วยมีศีล เป็นพื้นฐาน

    ไม่รู้หละนะ เราฝากเอาไว้แล้ว ฝากไว้กับพระเสื้อเมือง พระทรงเมือง พระสยามเทวาธิราชเจ้า ฝากให้ท่านคอยดูแลในเรื่องดังกล่าว ให้ท่านประคับประคองจิตใจ ของท่านผู้ที่จะมาปกครองประเทศ ให้อยู่ในศีล ในธรรม อะไร ที่จะเป็นเหตุทำให้ คณะรัฐบาลต่อจากนี้ไป ละเมิดศีล ละเมิดธรรม หรือว่า ขาดซึ่งความมี หิริ และโอตัปปะ ก็ขอให้จิตใจของคณะรัฐบาลนั้น จง คิดไม่ออก บอกไม่ถูก ทำอะไรไม่ได้

    สรุปคือ คิดได้แต่เรื่องที่ดี มีประโยชน์ต่อประเทศชาติ ความคิดอันใด ที่เป็นโทษ ต่อชาติบ้านเมือง ก็ให้หัวสมองมึนชา หาข้อสรุปอะไรไม่ได้ คิดได้คล่องแคล่ว เฉพาะในส่วน ที่เป็นความดี มีประโยชน์ต่อประเทศชาติ และประชาชนในชาติ โดยส่วนรวมนะ

    เราตั้งสัจจะเอาไว้แล้วนะ และก็เชื่อว่า เทวดา เขารับปาก ว่าจะช่วยดูแลในเรื่องนี้ให้ เราก็สบายใจ จะเรียกว่า เราตรึงหลักเอาไว้ ก็ว่าได้ ไม่ยอมแล้ว ไม่ให้แล้ว ที่คนชั่ว คนเลว จะเข้ามาบริหารชาติบ้านเมืองอีกต่อไป ถ้าจะเข้ามาไม่ว่าด้วยเหตุอันใด ก็ต้องให้มีอันเป็นไป อยู่ไม่ได้ ร้อนรุ่ม ทำเนียบรัฐบาล จะเป็นที่เฉพาะให้คนดี มีศีลธรรม เท่านั้น ที่จะเข้าไปทำงานได้

    มันต้องเล่นกันแบบนี้ ถึงจะได้ดี หลายท่านอ่านมาถึงตรงนี้ ก็คงจะคิดไปว่า เจ้า Scorpion 03 มันคงเป็นบ้าไปแล้ว มีอย่างที่ไหน ที่จะไปบังคับจิตใจของผู้คน โดยเฉพาะ คนที่จะเป็นคณะรัฐบาล ปกครองประเทศ มันเป็นไปไม่ได้ เพ้อเจ้อกันไปใหญ่แล้ว

    ก็ไม่ว่ากันนะ ก็ดู ๆ กันต่อไปก็แล้วกัน ความเป็นจริงที่กำลังจะปรากฏให้เห็นต่อทุกคน จะเป็นเครื่องบอกเองแหละนะ ว่าอะไร เป็นอะไร

    อย่าถือคนบ้า บอ อย่างเราเลยนะ วัน ๆ ก็คอยแต่เพ้อเจ้อว่า ประเทศไทยกำลัง จะอุดมไปด้วยศึล ด้วยธรรม กำลังจะเป็นแผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง ราษฎร ชาวไทย กำลังจะมีความสุขกันอย่างถ้วนหน้า
     
  18. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    ตัดมาบางส่วนจากที่เคยเขียนบันทึกไว้ จำไม่ได้ว่าจากหนังสือเล่มใหนเพราะว่าสมัยเป็นนักบวชจะเข้าป่า ก่อนจะออกจากวัดศรีมณีวรรณ ก็เอาหนังสือแทบทุกเล่มของพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่มีสะสมไว้ นำไปถวายคืนหนึ่งลังใหญ่ ถวายไว้กับหลวงพ่อ ท่านรับไว้กับมือของท่านเอง ท่านถามว่าทำไมเอามาคืน

    ก็กราบตอบท่านว่าเกล้ากระผม หลังจากที่สร้างโรงสีที่วัดศรีมณีวรรณเสร็จ ก็จะเข้าป่า หนังสือเหล่านี้ล้ำค่าควรแก่เป็นธรรมทานก็จริง แต่ที่นั่นไม่ค่อยมีคนสนใจ หนังสือก็วางอยู่ในที่ต่ำบ้าง ที่ไม่สมควรที่จะวางบ้าง เกล้ากระผมเห็นว่าหากนำมาถวายคืนไว้ที่วัดท่าซุงคนที่นำไปส่วนมากจะเป็นคนที่สนใจใฝ่ธัมมะมากกว่า จะเป็นประโยชน์ จะเกิดประโยชน์สูงสุด มากกว่า หนังสือธัมมะของหลวงพ่อ หากมีคนเอาไปวางในที่ ที่ไม่สมควรก็จะเป็นโทษ จะเป็นการปรามาส และอีกอย่างเกล้ากระผมปรารถนาว่า หากเกิดใหม่คราวใด แม้ไม่พบหลวงพ่อที่จะแนะนำสั่งสอนอีก ก็ขอให้การถวายหนังสือธัมมะทั้งหมดของวัดท่าซุง ถวายไว้ในพระพุธศาสนานี้ เกล้ากระผมเกิดมาเมื่อไรความรู้เดิมทั้งหมดที่รู้อยู่ในชาตินี้ ขอจงนึกได้ ระลึกได้ทันที เหมือนการนอนหลับไป แล้วตื่นขึ้นมาใหม่ก็จำเรื่องเดิมแต่หนหลัง ต่อได้ทันทีขอรับ

    พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านยกมือพนมโมทนา ท่านบอกว่าจงสมความปรารถนาลูกเอ๊ย

    หนังสือที่หลวงพ่อท่านเขียนเรื่องดวงเมือง ก็อยู่ในลังหนังสือชุดที่ถวายกลับคืนไว้ที่วัดท่าซุง ผมเห็นว่าเรื่องราวที่หลวงพ่อเขียนเล่าไว้ในอดีตเมื่อไม่นานมานี้ มาตรงกันกับเหตุการณ์ปัจจุบันพอดี เมื่อชะตาเมืองเป็นแบบนี้ ก็กราบขอบคุณพี่ทหารหัวใจไททุกท่าน ชะตาบ้านเมืองต้องมีทหารคุ้มครอง ก็ขอฝากหน้าที่ไว้กับท่านทั้งหลาย แล้วก็อย่างที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อเคยบอกไว้ว่าในอนาคตอันใกล้ บรรดานักรบไทยในอดีต ไทยเก่าๆ ที่เป็นเทพเจ้าเหล่าเทวาขณะนี้ ก็จะเข้าสิงใจ ให้คนไทย มีใจเป็นไทมากขึ้น หนังสือเล่มนี้ว่าไว้อย่างนี้ครับ

    ดวงทหารคู่กับดวงเมือง
    <O:p</O:p
    ขอให้ทหารทุกคนจงสำนึกตนเองว่าเราต้องมีความสามัคคี-เด็ดเดี่ยว-ไม่ประมาท-กล้าหาญ-และพร้อมที่จะยอมตายเพื่อชาติบ้านเมืองและพระบวรพุทธศาสนาเมื่อถึงคราวจำเป็น
    <O:p</O:p
    เพราะบ้านเมืองจะอยู่รอดปลอดภัยก็เพราะทหารเท่านั้นทั้งนี้เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑.เมื่อพระองค์จะเริ่มสร้างเมืองหลวงใหม่ได้ทรงผูกดวงเมืองและวางลัคนาดวงเมืองไว้ให้คู่กับดวงทหารโดยให้ทหารเป็นผู้ปกป้องคุ้มครองบ้านเมือง บ้านเมืองจึงจะอยู่รอด
    <O:p</O:p
    ที่พูดนี้มิใช่จะมายุยงให้ท่านทั้งหลายกระด้างกระเดื่องทำการปฏิวัติรัฐประหารยึดอำนาจจากใครๆเพียงแต่...ขอให้เราทุกคนช่วยกันควบคุมสถานการณ์ไว้ให้บ้านเมืองสงบสุขเท่านี้ก็ได้ชื่อว่าทหารควบคุมรักษาเมืองแล้ว
    <O:p</O:p
    ดวงชะตาของทหารนั้น เข้าเกณฑ์ "ราชาโชค" ตั้งแต่เดือนตุลาคม ๒๕๑๘ แล้วและจะโคจรเข้าควบคู่กับดวงเมืองตั้งแต่ เดือนมกราคม ๒๕๑๙ เป็นต้นไปซึ่งจะมีอิทธิพลให้ประเทศชาติบ้านเมืองค่อยคลี่คลายไปในทางดีขึ้นขณะนี้บ้านเมืองของเราอยู่ในสภาพป่วยไข้จำเป็นจะต้องได้รับการเยียวยารักษาหรืออาจจะต้องถึงกับผ่าตัดบ้างอาการของบ้านเมืองจึงจะดีขึ้น<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 สิงหาคม 2014
  19. (-*-)

    (-*-) เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    664
    ค่าพลัง:
    +1,060
    เมื่อวานผมได้ฟังท่านประยุทธพูด โห ท่านพูดได้ถึงเนื้องานจริงๆ ในแต่ละเรื่อง
    ผมว่าท่านทำงานลงรายละเอียดได้ดีมากๆ ตรงจุดของปัญหาหลายเรื่องเลย
    ซึ่งเมื่อพูดได้ตรงจุดไม่ใช่การพูดดราม่า ก็ย่อมแก้ปัญหาได้ตรงจุดไม่ใช่การหาเสียงสร้างภาพ
    (หรือไม่ ทีมงานระดับสูงที่คอยช่วยเหลือท่านก็เก่งเอามากๆ)

    ตอนนี้ผมเริ่มเชื่อว่าท่านจะนำประเทศได้สำเร็จนะครับ
     
  20. tbravo

    tbravo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    257
    ค่าพลัง:
    +517
    ดวงทหารต้องคู่กับดวงเมืองครับ

    เลือดทุกหยดในกายข้า ขอพลีให้แผ่นดินไทยที่ข้ารักสุดหวงแหน
    จิตวิญญาณขอถวายบูชาพระศาสนา
    กายข้านี้ขออุทิศเชิดชูปกป้ององค์ราชา
    ทุกอณูแห่งข้าสละแล้วเพื่อพระโพธิญาณ
     

แชร์หน้านี้

Loading...