เรามาหาความรู้เตรียมตัวรับมือกับภัยพิบัติใหญ่กันดีกว่าครับ..!!!

ตามนั้น ครับ ลุงแมว ถ้าลุงแมว กลัวลูกหาไม่เจอ แนะนำให้ลูกย้ายก่อน แล้วลุงย้ายตามครับ
อิอิ

 

ตามจิตนาการของผม ฝั่งตะวันออกนี่ ถ้าคลื่นเข้า ลึกจากชายฝั่งไปเยอะๆ นี่ น้ำจืดคงจะหาลำบากนะครับ การฟื้นฟูดิน กลับสู่สภาพเดิมอาจต้องใช้เวลา มีการท่วมขังของน้ำเค็ม ในที่ลุ่ม (น้ำเข้ามาแต่ออกไม่ได้) มีการเน่าเสียของต้นไม้ที่ตายเพราะน้ำเค็ม มลพิษจะเยอะหลายด้าน

ปล. มโนเองครับ

 

มโนได้อย่างมีเหตุผล สะท้อนความจริงตามลักษณะ
ของภูมิศาสตร์ ถ้าเป็นแถบที่ลุ่มใกล้ทะเลคงเกิด
สถานการณ์ดังกล่าวไว้ค่อนข้างแน่ และมันทำให้ลุง
ต้องทบทวนความปลอดภัยอีกครั้งว่าจะต้องเผชิญ
เหตุการณ์อย่างว่า มากน้อยเพียงใด และมีทางออกอย่างไร??

 

FYI ... อาวุธเส้นแสง มันมาแล้วครับ..!!!
......................................................

สำเร็จ! กองทัพสหรัฐฯ คิดค้น "เลเซอร์แคนนอน" ใช้จอยบังคับ !!!

"ปืนใหญ่ลำแสงเลเซอร์พลังงานสูง" ของเล่นทางทหารชิ้นใหม่ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากวิดีโอเกม ซึ่งจะมาเปลี่ยนอาวุธที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันกลายเป็นของโบราณ เริ่มทดสอบใช้ได้จริงแล้ววันนี้ในสหรัฐฯ

หลังตกเป็นอาวุธในจินตนาการของเหล่าเกมเมอร์และคออนิเมะกันมานานหลายปี ในที่สุดสุดยอดอาวุธแห่งความเพ้อฝันอย่างปืนเลเซอร์ได้กลายเป็นจริงขึ้นมาแล้ว เมื่อประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา ออกมาประกาศความสำเร็จในการประดิษฐ์คิดค้นปืนใหญ่ลำแสงเลซอร์ที่ใช้ยิงได้จริงเป็นเจ้าแรก ชิงตัดหน้าญี่ปุ่นที่ดีแต่ตั้งโชว์

สำหรับอาวุธมหาประลัยตัวใหม่ที่กำลังอยู่ในระหว่างขั้นตอนการทดสอบนี้มีชื่อเรียกว่า High Energy Laser Mobile Demonstrator (HEL MD) โดยมันเป็นผลงานที่เกิดจากความร่วมมือกันระหว่างกองทัพสหรัฐ ที่ได้จับมือกับบริษัท Boeing Defense, Space & Security (หน่วยงานหนึ่งของบริษัทโบอิ้งผู้ผลิตเครื่องบินรบ ที่มุ่งเน้นพัฒนาเทคโนโลยีอาวุธทางการทหาร)

ซึ่งรูปร่างหน้าตาของเจ้า HEL MD นั้นมันจะเป็นปืนใหญ่พลังงานโฟตอนที่ติดตั้งอยู่บนรถบรรทุกขนาดยักษ์ ที่ต้องใช้ 2 คนในการบังคับ โดยคนแรกจะทำหน้าที่เป็นคนขับรถ ในขณะที่อีกคนที่นั่งข้างๆจะคอยทำหน้าที่ล็อคตำแหน่งเป้าหมายเล็งยิงปืนใหญ่เลเซอร์ด้วยแลปท็อปกับคอนโทรลเลอร์เอ็กบ็อกซ์360

"เคิร์ต วอร์เดน" (Kurt Warden) หัวหน้าแผนกพัฒนาซอฟต์แวร์ของโบอิ้ง กล่าวว่า "ทางเราต้องการให้อาวุธตัวนี้สามารถใช้งานง่ายได้ด้วยเพียงคนๆเดียวกับแลปท็อปและจอยเอ็กบ็อกซ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถรู้ได้ด้วยสัญชาตญาณ และไม่จำเป็นต้องไปเสียเวลาเรียนรู้เอาจากสถาบันฝึกสอนนานเป็นปี"

โดยปืนใหญ่เลเซอร์ในเวอร์ชันต้นแบบนี้ สามารถปล่อยพลังงานลำแสงเลเซอร์ได้เพียง 10 กิโลวัตต์เท่านั้น ซึ่งพลังงานระดับนี้สามารถใช้ยิงทำลายกระสุนปืนครกหรือมิสไซล์ได้เลยทีเดียว แต่ว่าทางบริษัทโบอิ้ง ระบุในอนาคตจะพัฒนาให้มันสามารถปล่อยลำแสงได้สูงถึง 50-60 กิโลวัตต์ เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการยิงโจมตีทำลายจรวด รวมถึงเหล่ายานพาหนะไร้คนขับทั้งหลาย

ปัจจุบันทางโบอิ้ง ได้เริ่มทำการทดสอบ HEL MD ในสนามจริงแล้วในรัฐฟลอริด้าที่มีหลากหลายสภาพอากาศทั้งลมแรง ฝนตก และหมอกลงจัด ซึ่งผลปรากฏว่ามันสามารถยิงทำลายทุกเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งความสำเร็จในครั้งนี้ของกองทัพสหรัฐฯยังเป็นตัวสนับสนุนคำพูดของแอคติวิชัน ที่เคยออกมาระบุว่าในเกมชูตติ้งภาคใหม่ Call of Duty: Advanced Warfare จะใส่อาวุธยิงพลังงานลำแสงที่อ้างอิงตามอาวุธอนาคตในความเป็นจริง

refer :

 

โพสส่วนใหญ่ เดี๋ยวนี้จะเป็น การแชร์ข่าวซะเยอะละ ตั้งกระทู้เสร็จ โพสไปโพสมา
กลายเป็นกระทู้ข่าว ไม่ก็กลายเป็นกระทู้ธรรม

ท่านใดมีข้อมูลจะ มาเล่าให้ คนอ่านได้มโน ช่วยมาเล่า เพื่อสร้างเสริมจินตนาการหน่อยครับ
(ไม่เอาแนวสวนปรุงนะครับ) อิอิ

 

ซึ่งสมาชิก เวปพลังจิต นี้ที่ติดตามกันมานาน พอพูดปุบก็จะรู้ว่า สื่อถึงอะไร ในทันที
อย่างเรื่องอาวุธเส้นแสงก็เช่นกัน ...

 

เป็นข่าวยืนยัน สิ่งที่คิด ที่เชื่อ นั่นแหละครับ

ผมไม่มีข้อมูลด้านนี้มาก ตอนนี้ กำลังคิดว่าจะเล่าเรื่อง แนวสวนปรุงดี หรือว่าเล่าแนว "ต้องรอด" ดี

 

เล่มนี้น่าสนใจอ่านครับ เรื่องการจะระเบิดแก่งหินที่เชียงแสน มีการลงนามในรัฐบาลสมัยนั้นแล้ว แต่มีการคัดค้านจากชาวบ้านในพื้นที่ เรื่องถูกระงับไว้อยู่ แต่ถ้าผ่าน
การที่ "ชีจะเป็นโขง โขงจะกลายเป็นทะเล" ไม่ใช่เรื่องในความเชื่อแล้วล่ะ

 

แผ่นดินไทยไม่ยกให้ใคร... แต่หายไปง่ายๆ จริงหรือ?


แผ่นดินไทยไม่ยกให้ใคร... แต่หายไปง่ายๆ จริงหรือ?

มัวแต่กลัวจะเสียดินแดนให้เพื่อนบ้านอย่างกัมพูชา ในกรณีพิพาทเรื่องเขาพระวิหาร

แต่เชื่อมั้ยว่ามีข้อมูลที่น่าตกใจที่คนไทยควรรู้ ซึ่งหากไม่ช่วยกันดูแล

แผ่นดินอาจหายไปง่ายๆ จากศัตรูตัวร้ายที่เรียกว่า " ภัยธรรมชาติ"

มีรายงานว่าในไม่กี่สิบปีที่ผ่านมาแผ่นดินไทย หายไปนับร้อยเมตร

ที่ดินบางแปลงเหลือแค่โฉลด ซึ่งกรมโยธาฯ ออกมายอมรับเองว่าไทยเราเสียดินแดนริมแม่น้ำโขงร่วม 300 ไร่ ต่อปี

จากปัญหาการพังทลายของตลิ่งริมน้ำในหลายพื้นที่ ตั้งแต่จังหวัดเชียงราย เลย หนองคาย นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี

ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีการสร้าเขื่อนมาป้องกันไว้

สิ่งที่น่ากลัวคือ การที่ร่องน้ำลึกของแม่น้ำโขงเปลี่ยนไป

จะทำให้แนวเขตประเทศที่กำหนดไว้โดยสนธิสัญญาเปลี่ยนไปด้วย

จนอาจส่งผลให้ไทยเสียดินแดนให้ประเทศลาวมากขึ้น

นอกจากนี้ยังมีกรณีแผ่นดินหายเนื่องจากการกัดเซาะชายฝึ่งของคลื่นและลมทะเลตลอดแนวชายฝั่งทะเลไทย

โดยพื้นที่ที่ถูกกัดเซารุนแรงที่สุดของประเทศ ได้แก่ สมุทรปราการ ตามมาด้วยชายทะเลฝั่งอ่าวไทย อย่างจันทบุรี ระยอง ตราด

หากไม่รีบแก้ปัญหาอาจต้องเสียแผ่นดินให้แก่ธรรมชาติอย่างแท้จริงก็ได้

จากนิตยสาร Lisa weekly vol.9 No 25 2.7.08

 

ในปัจจุบันที่เห็น ก็ก่อสร้างแนวเขื่อน ก้นสนุกสนาน จนชาวบ่น ถนนพังหมดแล้ว ... คงเริ่มตื่นตัวกันมานานแล้วละ..

 

คุณ "เด็กผู้ชายครับ" ได้อ่านหัวข้ออาวุธลำแสงที่คุณนำมาลงเพิ่มในกระทู้แล้วสมาชิกบางท่านว่าจะเป็นกระทู้ข่าวไป แต่ผมเห็นว่ามันก็ให้มุมคิดกับเราดีนะครับ
อย่างเช่นตอนท้ายข่าวที่ว่า"ซึ่งผลปรากฏว่ามันสามารถยิงทำลายทุกเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ "
แต่ในข่าวไม่ได้กล่าวถึงเลยว่าเป้าหมายนั้นเคลื่อนที่อย่างไร และมีความเร็วเท่าใด
คราวนี้เรามาคิดว่าถ้าเป้าหมายที่จะยิงด้วยปืนใหญ่เลเซอร์คือหัวรบที่ถูกเพิ่มความเร็วจนถึงระดับไฮเปอร์โซนิค(คือเกินมัค๕ขึ้นไป)และกำลังวิ่งเข้าหาปืนใหญ่เลเซอร์ ลำแสงเลเซอร์พลังงานสูงจะหยุดยั้งโมเม้นต์ตั้มการทำลายของหัวรบต่อตัวปืนเลเซอร์เองได้หรือไม่
เรามาดูตามหลักวิทยาศาสตร์กันครับ ปืนใหญ่เลเซอร์จะยิงได้ในแนวเส้นตรงเท่านั้น ดังนั้นจะเห็นและยิงเป้าหมายเมื่อพ้นเส้นขอบฟ้าขึ้นมาเท่านั้นคือห่างจากตัวปืนในแนวระนาบประมาณ ๑๒ ไมล์ทะเล บนบกจะมองเห็นได้ใกล้กว่านี้อีกครับ ระยะแค่นี้จรวดไฮเปอร์โซนิคจะเข้าถึงเป้าหมายได้เร็วมากๆครับ ผมคิดว่ายากที่จะหยุดยั้งการทำลายของจรวดไฮเปอร์โซนิคต่อตัวปืนใหญ่เลเซอร์
หากว่ายิงจนหัวรบระเบิดใกล้ตัวปืนใหญ่คลื่นกระแทกจากการระเบิดอาจทำลายตัวปืนเลเซอร์ได้ ด้วยคลื่นความเร็วสูงมากความเร็วต้นที่เคลื่อนเข้ามาก็ระดับไฮเปอร์ฯอยู่แล้วบวกกับความเร็วของคลื่นแรงระเบิดอีก

 

ขออนุญาตแก้ไขข้อมูลพรับ..
ข่าวเรื่องภูเขาไฟทีเวียนนาข้างล่างนี้เป็นข่าวลวงนะครับ.!!!

.....................................................

เมื่อวันสองวันที่แล้ว..
มีรุ่นพี่ท่านนึงในกลุ่มไลน์ BTG
แจ้งข่าวการระเบิดรอย่างรุนแรงบนดวงอาทิตย์
พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า.. " อีกไม่วันสองวัน
ภูเขาไฟที่ไหนจะระเบิดโชว์ขึ้นมาอีกหว่า.??? "

" หรือ... จะมีภูเขาไฟลูกใหม่ๆอะไรเกิดขึ้นมาอีกหรือป่าวละนี่.??? "

มาเมื่อห้านาทีที่แล้ว..
คุณหมอท่านนึงในกลุ่มไลน์.. ก็ลงข่าวให้ทราบกันว่า..

...." ภูเขาไฟประทุกลางกรุงเวียนนาครั้งแรกในรอบ 120 ปี "

--------------------------------------------


อืม.!!!
ดูท่าทาง.. โลกเราคงจะมีอะไรที่เราไม่เคยเห็น
มาแสดงโชว์ให้ดูเป็นระยะๆ นะครับ..!!!

 

เอาไปหาใน GOOGLE IMAGE ไม่มีนะคุณ

ใน นี้ก็ไม่มี vaac

http://www.meteo.fr/vaac/evaa.html

 

ตามไปดูเหมือนกันครับ ได้ภาพมาใก้ลเคียงสุด เท่านี้ อาจต้องซูมใกล้ๆ มั้งครับ ถึงจะเห็นภูเขา

 

ขอบคุณครับ..
ได้เช็คข้อมูลแล้ว.. ไม่พบเช่นกันครับ
เป็นข่าวลวงนะครับ..
ขอแก้ไขข้อมูลเพื่อความถูกต้องนะครับ..

 

FYI... จาก ดร. เอมี่ โพสเอาไว้ในไลน์กลุ่ม
ขออนุญาตเอามาแชร์เป็นข้อมูสเพื่อทราบกันนะครับ..

.............................................
มหันตภัยใต้สมุทรภูเขาไฟใกล้'ระนอง' :
แม้เหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 8.6 ริกเตอร์ บริเวณนอกชายฝั่งทางตอนเหนือของเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 11 เมษายน ที่ผ่านมา จะไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทยซ้ำรอยเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อปี 2547 แต่คนไทยทั้งประเทศคงไม่สามารถวางใจได้ หลังผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวระบุว่า แผ่นดินไหวครั้งล่าสุดอาจไปกระตุ้นให้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่บริเวณหมู่เกาะอันดามันและนิโคบาร์ ซึ่งตั้งอยู่กลางทะเลอันดามัน ห่างจาก จ.ระนอง เพียง 200 กิโลเมตร ซึ่งหากเกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงมากกว่า 7.9 ริกเตอร์ บริเวณนี้ อาจทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิขนาดใหญ่พัดถล่มจังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามันของประเทศไทย สร้างความเสียหายร้ายแรงกว่าปี 2547 เสียอีก

รศ.ดร.ธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล หัวหน้าหน่วยศึกษาพิบัติภัยและข้อสนเทศเชิงพื้นที่ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วิเคราะห์ว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 11 เมษายน มีความรุนแรงระดับ 8.8 ริกเตอร์ และซ้ำด้วย 8.9 ริกเตอร์ ในเวลาไล่เลี่ยกัน หลังจากนั้นยังมีอาฟเตอร์ช็อกระดับความรุนแรงขนาดมากกว่า 5 ริกเตอร์ ตามมาอีก 26 ครั้ง ในจุด เดียวกัน และเป็นที่น่าสังเกตว่า นับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวขนาด 9.2 ริกเตอร์ ทางตอนเหนือของเกาะสุมาตรา เมื่อปี 2547 ได้เกิดแผ่นดินไหวลามขึ้นมาทางตอนเหนือมากขึ้นเรื่อยๆ โดยพื้นที่การไหวเป็นแนวซิกแซ็ก ระดับความลึกอยู่ในชั้นเมนทอล ลึกลงไปใต้ระดับพื้นดินประมาณ 22 กิโลเมตร ซึ่งต่ำกว่าชั้นเปลือกโลก

"ตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา เกิดแผ่นดินไหวซ้ำลามทั่วบริเวณบันดาอาเจะห์ จากการศึกษาที่ผ่านมาพบว่า บริเวณนี้แผ่นดินไหวใหญ่แต่ละครั้งจะมีวงรอบห่างกัน 200-600 ปี แต่ระยะหลังเกิดแผ่นดินไหวบริเวณนี้ซ้ำหลายครั้งในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี แผ่นดินไหวครั้งล่าสุดลึกกว่าเมื่อปี 2547 ซึ่งอยู่ในระดับเปลือกโลก น่าติดตามว่า แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นครั้งนี้อาจกระตุ้นให้เกิดซ้ำอย่างรุนแรงได้อีก โดยจุดความเสี่ยงแผ่นดินไหวน่าจะอยู่ในแถบหมู่เกาะนิโคบาร์ ซึ่งเยื้องกับ จ.ระนอง ของประเทศไทย" รศ.ดร.ธนวัฒน์ วิเคราะห์

รศ.ดร.ธนวัฒน์ ขยายความว่า บริเวณหมู่เกาะนิโคบาร์รวมถึงหมู่เกาะอันดามัน ตั้งอยู่กลางทะเลอันดามันต่อเนื่องมาจากตอนเหนือของเกาะสุมาตรา อยู่ในความปกครองของอินเดีย และอยู่ในแนวรอยเลื่อนของแผ่นเปลือกโลก ห่างจาก จ.ระนอง เพียง 200 กิโลเมตร แผ่นดินไหวใหญ่ครั้งที่ผ่านมาอาจไปกระตุ้นให้แผ่นเปลือกโลกบริเวณนี้เกิดการขยับตัวเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ได้ อีกทั้งบริเวณนี้ยังเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟใต้ทะเลบาร์เรน (Barren) ซึ่งยังคุกรุ่นอยู่ ภูเขาไฟอาจปะทุทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้เช่นกัน และหากแผ่นดินไหวทำให้เกิดแผ่นดินถล่มใต้ทะเลก็จะทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิพัดถล่มชายฝั่ง ซึ่งจะพัดถล่มจังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามันของประเทศไทยแถบ จ.ระนอง จ.พังงา ได้ภายในเวลาไม่เกิน 30 นาที ซึ่งความรุนแรงจะมากกว่าปี 2547 มาก

ข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับ ดร.ภาสกร ปนานนท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหว จากภาควิชาวิทยาศาสตร์พื้นพิภพ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่ระบุว่า แผ่นดินไหวครั้งใหญ่จะทำให้แผ่นเปลือกโลกเคลื่อนที่ มีการสะสมหรือปลดปล่อยพลังงาน ซึ่งจะเลื่อนขึ้นไปตามแนวรอยเลื่อน ขณะที่น่าจับตาคือบริเวณหมู่เกาะอันดามันและนิโคบาร์ เพราะเป็นแนวที่ติดกับบริเวณที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งล่าสุด อาจเกิดการกระตุ้นให้เปลือกโลกบริเวณนี้ขยับตัวจนเกิดแผ่นดินไหว หากเป็นการไหวในแนวดิ่งไม่ว่าเลื่อนขึ้นหรือเลื่อนลงอาจทำให้เกิดคลื่นสึนามิพัดถล่มพื้นที่ชายฝั่งทะเลอันดามันของประเทศไทย ไล่ตั้งแต่ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ อย่างรุนแรง และในเวลาอันรวดเร็ว เพราะจุดดังกล่าวอยู่ใกล้กับจังหวัดเหล่านี้มากกว่าทางตอนเหนือของเกาะสุมาตรามาก

ดร.ภาสกร บอกด้วยว่า นอกจากภูเขาไฟใต้ทะเลบริเวณหมู่เกาะนิโคบาร์แล้ว ไล่ลงมาทางตอนล่างไม่มากนัก บริเวณแถบไหล่ทวีปมะริด หรือที่เรียกกันว่า สะดือทะเล ห่างจากเกาะภูเก็ตไปทางประเทศอินเดียประมาณ 200 กิโลเมตร ยังพบมีแนวโคลนร้อน หรือมัดโวคาโน ซึ่งถูกค้นพบเมื่อปี 2549 โดยคณะนักวิจัยชาวไทยคือ รศ.ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ในขณะนั้นเชื่อว่าเป็นภูเขาไฟใต้น้ำจำนวน 4 ลูก มีฐานกว้างประมาณ 500 เมตร สูง 60-70 เมตร ก่อนจะได้รับการยืนยันว่าเป็นเพียงแนวโคลนร้อน ซึ่งในบริเวณนี้ก็ต้องศึกษาเช่นกันว่าจะได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวครั้งที่ผ่านมา จนนำมาสู่การสะสมพลังงานหรือปล่อยพลังงานออกมาจนอาจทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้หรือไม่

"นอกจากแนวรอยเลื่อน ภูเขาไฟและแนวโคลนร้อนในทะเลอันดามันแล้ว บนฝั่งของภาคใต้แถบ จ.ระนอง กระบี่ พังงา ภูเก็ต และตรัง ยังมีรอยเลื่อนที่ยังคงมีพลังงาน ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ก็เพิ่งเคยเกิดแผ่นดินไหวทั้งที่ จ.ตรัง และที่ จ.พังงา แต่ขนาดไม่ใหญ่มากประมาณ 3 ริกเตอร์ ซึ่งเท่าที่มีข้อมูลบริเวณนี้สามารถเกิดแผ่นดินไหวในระดับรุนแรงได้ไม่เกิน 7 ริกเตอร์ โดยระดับ 5 ริกเตอร์ถือเป็นเรื่องธรรมดา ที่พร้อมจะเกิดขึ้นได้ หากจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวเกิดขึ้นในแหล่งชุมชนสามารถสร้างความเสียหายได้มากเช่นกัน" ดร.ภาสกร ขยายความ

ทั้งนี้ นับตั้งแต่ปี 2547 มีความผิดปกติเกิดขึ้นในจังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามันของประเทศไทยค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในปี 2553 และ 2554 ทั้งเหตุการณ์แผ่นดินไหวใน จ.ตรัง และ จ.พังงา ที่สร้างความแตกตื่นเป็นพิเศษคือในเดือนพฤษภาคม 2554 เกิดดินแยกและมีโคลนร้อนปะทุขึ้นมาจากใต้ดินเป็นระยะทางยาวกว่า 100 เมตร ในสวนปาล์มของนายอุทิศ ชูมี ภายในหมู่บ้านตะเคียนงาน หมู่ 3 ต.บางหิน อ.กะเปอร์ จ.ระนอง

เหตุการณ์ลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาก่อนเมื่อปี 2548 ที่บริเวณปากคลองช้างแหก อ่าวแหลมสน หมู่ 8 ต.ราชกรูด อ.เมือง จ.ระนอง โดยครั้งนั้นชาวบ้านในพื้นที่พบเห็นฟองผุดขึ้นมาจากท้องทะเลเหมือนน้ำเดือดเป็นแนวยาวกว่า 1 กิโลเมตร เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดพบใต้ทะเล ซึ่งมีความลึกประมาณ 7 เมตร มีรอยแยกของพื้นดินกว้างประมาณ 3 นิ้ว ยาวนับกิโลเมตร

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความแตกตื่นให้แก่ประชาชนใน จ.ระนอง และพื้นที่ใกล้เคียงเป็นอย่างมาก จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีหน่วยงานใดยืนยันได้อย่างชัดเจนว่า ปรากฏการณ์แผ่นดินแยก และโคลนร้อนที่ปะทุขึ้นจากพื้นดินเกิดจากสาเหตุอะไร

 

copy มาจากในกลุ่มไลน์..
เอามาแชร์ข้อมูลกันครับ..

.......................................

หนาวขั้วโลก เริ่มแล้วที่ฟินแลนด์

หิมะตกทางภาคตะวันออกและตอนเหนือของฟินแลนด์ ในเดือนกันยายนฤดูใบไม้ร่วง ??

เมื่อวันที่ 25 กย. ชาวบ้านส่วนใหญ่ในเมือง Ilomantsi ซึ่งตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกของฟินแลนด์ รู้สึกแปลกใจเมื่อพวกเขาพบว่ามีหิมะตกสูง 10 นิ้ว ในเดือนกันยายน อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ส่วนทางตอนเหนือของฟินแลนด์พบว่ามีหิมะตกสูงไม่ต่ำกว่า 10 นิ้ว เช่นกัน โดยอุณหภูมิในช่วงกลางคืนจะลดต่ำลงเหลือ -1 องศาเซลเซียส ทั้งนี้ทางด้านกรมอุตุฯ รายงานว่า หิมะจะยังคงตกต่อเนื่องไปจนสุดสัปดาห์นี้

หิมะตกทางภาคตะวันออกและตอนเหนือของฟินแลนด์ ในเดือนกันยายนฤดูใบไม้ร่วง ?? | สถานการณ์ภัยพ