ฝันไปถึง เมืองบังบด เมืองผี แดนลับแล แล้วแต่จะเรียก

เขียน ๒๑.๓๒

เห็นเพื่อนๆ มากันแยะเชียว
เห็นกระป๋องเบียร์ช้าง ใบที่สอง
เห็นหมาสี่ห้าตัว วิ่งตามกันไป อย่างไว
เห็นภารกิจของเรา ที่พี่น้องญาติเพื่อน มาช่วยกัน

ไม่เห็น อะไรที่ไม่ดีเลย ขอบอก
ไม่เห็น อุปสรรค หรือขวากหนามใดๆ
ไม่เห็น มารซักตน มีแต่พี่น้องญาติเพื่อนกัน
ไม่เห็น ภัยพิบัติ ที่อาจคร่าชีวิตคนมากมาย มีแค่จิ๊บๆ


superหนุมาน / ชาวหมู่บ้านในนิทาน
.

 

เขียน ๒๒.๒๒

หวังว่า ภูเขาไฟที่ไหน คงไม่ระเบิด ให้มันแรงนักนะ ....

ทีแรกก็คิดว่าเยลโล่สโตนซะอีก แต่ก็นะ
ถ้ามันระเบิด โลกคงจะแย่ ไกอาไม่น่าจะชอบ

ถึงเราจะอยากระเบิดเมกาทิ้ง แต่ก็นะ
แถวนั้นคนดีก็แยะอยู่ ถึงยิวชอบทำยุ่ง แต่ ก็ ช่างหัวมันเหอะ
เลื่อนไปอีกซักแป๊บนึง ก็คงไม่เป็นไร ถึงจะครบหกเจ็ดแปดแสนปีแล้วก็เหอะน่า นะ

อีกไม่นาน เมกามันก็แพ้ภัยตนเองแล้ว ใครจะใหญ่ ก็ไม่ได้ตลอดหรอก เนอะ
คราวนี้ โลกคงหมุนมาทางจีนแล้วหล่ะ แต่ก็ไม่แน่ ว่าจีนจะคอนโทรลได้แค่ไหน
ถ้ามันยังคิดจะใช้การค้าครองโลก ก็คงไม่นานนัก ชิบหายแน่ ขอบอก

๕๕๕ โชคดีจัง ที่เป็นแค่นักเล่านิทาน จากหมู่บ้านในนิทาน
ก็ขอขอบคุณท่านเต๋อด้วยละกัน ที่อุตส่าห์แต่งเพลงไว้ให้ใช้งาน นานแล้ว หึหึหึ


กระต่ายป่า ข้างวัด / ค้างคาวแห่งแสง
.

ปล. ท่านจารุ เค้าแจกตั๋วปลอดภัยให้สองใบแล้วครับ หึหึหึ ท่านกะลูกชาย

 

ถ่ายช่วงไม่มีจันทรุปราคา แล้ว

ช่วยดูให้หน่อยครับ ว่าเห็นไรมั้ย พอดีถ่ายตอนจังหวะเมฆมาบังพอดี เมฆรูปร่างแปลกๆดี

ถ้าใช้จินตนาการ นิดๆ ดูเหมือนคล้ายๆตัวไรซักอย่างมีปีกบินกลางดวงจันทร์ ถ้าเอียงขวามอง
แต่ถ้ามองอีกมุม เอียงซ้ายหน่อยๆ ก็คล้าย พระพุทธรูป ปางลีลา

 

อสุราที่มีฤทธิ์มาก

 

เยือนถิ่น ดินแดนอันเป็นที่รัก

ปลงอนิจจา แม้อัคนียังคลอนแคลนไปตามกาลเวลา

รูปขันธ์ไม่อาจทนต่อกาลเวลา แต่ดวงจิตกับเต็มไปด้วยสัญญามากมาย

พนมรุ้ง ดินแดนอันสูงส่ง บัดนี้ กลายเป็นที่เต็มไปด้วยฝูงชน

ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ แต่บัดนี้ เต็มไปด้วยเสียงอันโหวกเหวกโวยวาย

ผู้คนแต่งกายไม่สุภาพ นุ่งสั้น เอวลอย นมหก เทพเทวากลับเบือนหน้าหนี

วันนี้ไปมาหลายที่ พนมรุ้ง ปราสาทเมืองต่ำ วัดเขากระโดง

แต่ถ่ายมาได้แค่นี้ เต็มไปด้วยผู้คน ไร้ความสงบ ไร้ความเคารพ

ชวนให้ปลงสังเวช

กลิ่นปราสาทอันหอมกรุ่น เต็มไปด้วยเครื่องหอม และดอกไม้
ถูกแทนที่ด้วยกลิ่นสาป และความเหม็นอับ
ที่เช่นนี้ จักให้เทพเทวาอยู่ได้เช่นไร
จัดพิธีบวงสรวงเทพ แต่ที่สถิตย์แห่งเทพ กลับไม่ได้รับการบูชา

มันก็ให้เจ็บปวดใจนัก

ที่พนมรุ้ง มีพลังงานอยู่มากมาย
การเลือกพนมรุ้งนั้น เป็นที่ตั้งของเทวสถานนั้น
มิใช่การเลือกเพียงแค่เพราะเป็นภูเขาใหญ่หรือภูเขาสูง

ครานั้นนเรนทราทิตย์ ได้นิมิตถึงศิวะเทพมาเนรมิตปราสาทให้ดู
หากเจ้าปฏิบัติบูชาเรา และยินยอมรับใช้ ถวายตัวเพื่อศิวะเทพ
ปฏิบัติบำเพ็ญดังเช่นโยคี เมื่อเจ้าได้อำนาจแล้ว จักไม่หลงใหลต่อมัน
ข้าจักมอบพร ให้เจ้าชนะศึกทุกทิศ

เมื่อนเรนทราทิตย์ได้นิมิตนั้น ทรงส่งพราหมณ์และขุนศึกไปติดตามหาเทวสถาน
พบเทวสถานซึ่งขณะนั้น เป็นเพียงปรางค์ยอดเดี่ยว บูชาพระศิวะ ไกล้เคียงกับปากปล่องภูเขา ปัจจุบันหน้าจะอยู่ไกล้ บาราย ด้านข้างปราสาท
ท่านจึงไปบูชา พร้อมมเหสี หากแผ่นดินที่ข้าปกครอง เป็นปึกแผ่น ร่มเย็น เป็นสุข
และข้าสามารถมอบอำนาจนั้นให้แก้ผู้สืบบัลลังค์ ข้าจักสละอำนาจและกิเลส
บำเพ็ญตนดังเช่นโยคี

และกษัตริย์ตัดแล้วไม่คืนคำ นเรนทราทิตย์ ปฐมวงค์แห่งกษัตริย์ขอม
ได้ทำตามความตั้งใจ ทุกประการ ทั้งปราสาทพนมรุ้ง และการปฏิบัติบูชา

ขอนอบน้อมเคารพ แก่กษัตริย์และมเหสีของท่าน
ขอเคารพต่อโยคีนเรนทราทิตย์

ป.ล.รูปพระอาทิตย์กับต้นไม้ ดูแล้วเห็นอะไรกันบ้างไหม

 

เนื่องจากความสลดใจ เลยไปพบป้ายสถานที่แหล่งท่องเที่ยวของบุรีรัมย์
และในเมื่อวันนี้ไปแบบโดดเดี่ยวผู้น่ารัก เลยไปต่อที่วัดป่าละหานทราย

นึกว่าหลงไปอยู่ยุคอโยธยา สมัยที่ไทยใหญ่ ยังเป็นชาติอยู่
ที่นั่น สร้างเหมือน พระราชวังไทยใหญ่ เหมือนทุกประการ จนเรานึกว่าย้อนเวลาอยู่
เพียงแต่เปลี่ยนพระเป็นบัลลังค์ และเหล่าข้าราชบริพารหมอบกราบอยู่

เป็นศิลปะเหมือนศิลปะโยนกนคร ผสานกับ มอญและพม่า หรือจะเรียกว่า ล้านนาก็ได้
แต่ก็มีความเป็นตัวของตัวเอง


เสียดายมากที่วันนี้ไม่ได้เจอหลวงพ่อ
ดูรูปเอานะ ว่าทำไมอยากเจอ สงสัยหลวงพ่อจะเคยฝันยุคเดียวกันกับจารุ

ป.ล.วัดนี้ต้องไปอีกแน่นอน จะไปร่วมสร้างเจดีย์ และไปกราบหลวงพ่อให้ได้ ซักครั้ง
ใครอยู่ไกล้ๆ ก็แวะไปได้นะจ๊ะ มีใน google map

 

เล่าต่อไป ๆๆๆ พี่สิงห์ ก็เคยมีเมีย เป็นชาวไต หรือสาวไทยใหญ่

....

ไปที่ไหน ได้เมียที่นั่น ...

 

ผมขออนุญาตสอบถามปลัดขิกตนนี้รวมตะกรุดครับ ว่าเด่นด้านไหน ผมได้มาสิบกว่าปีแล้วครับรู้สึกชอบแต่ไม่ทราบสำนักและพุทธคุณ ขอขอบคุณล่วงหน้าแม่หญิงครับ

 

ปลัดขิกก็ทำมาเพื่อจุดประสงค์เดียว คือสาวรักสาวหลง เมตตามหานิยม
และบางทีก็นำไปแขวนไว้ใต้หิ้งพระในร้านค้า ประเภทค้าขายดี มั้งคะ

 

เมื่อคืนประมาณ 6 ทุ่มดูรูปที่จารุ บอกภาพพระอาทิตย์และต้นไม้เห็นเงาคนยืนมากมากมาย(ไม่เคยเห็นภาพถ่ายติดบางสิ่งมากขนาดนี้) แล้วเข้านอน สวดมนต์ปกติ แล้วหลับตานอน หลับปุ๊บ เห็นบ่อน้ำและมีงูยักษ์ลอยครึ่งตัวมองมาทางเรา แต่ไม่ส่งความรู้สึกว่าดีหรือไม่ดี เป็นอารมณ์เหมือนสังเกตการณ์นะ...ตกใจจึงลืมตา พอหลับใหม่ก็เห็นอิก 2-3 รอบ เริ่มไม่สนุก จึงแผ่บุญ หลับอีกครั้งไม่เห็นแล้วอะ เกี่ยวกับจ้องภาพของแม่หญิงจารุ ป่าวน้อ

 

ตรงข้ามต้นไม้ นั้น มีบ่อน้ำขนาดใหญ่อยู่ ติดกับบาราย หรือ บ่อน้ำโบราณ
ที่แห้งขอด

ที่บริเวณต้นไม้ เป็นประตูมิติ ขนาดใหญ่ มีบางสิ่ง เหมือนคน เงาดำ ยืนอยู่มากมายในรูปภาพ ในบริเวณที่ต้นไม้ใหญ่และพระอาทิตย์ที่คุณเห็น

อาจจะเป็นชาวบาดาล ที่มีปราสาทอยู่ใต้น้ำ ปราสาทนั้น มีลักษณะเหมือนปราสาทหินพนมรุ้ง ทุกปราการ

ก็น่าจะเกี่ยวข้องกันอยู่ นะจ๊ะ

ถ่ายมาสองรูป นี่อีกรูป

รูปนี้ เหมือนเห็นปราสาท และมีประตู ขนาดเท่าคน อยู่ตรงกลางภาพพอดี

ป.ล.ระวังโดนดูดเข้าประตู

ป.ล.2 เพราะตอนถ่ายคนถ่ายกำลัง กำหนดจิต ว่าประตูจงเปิด ทหารยามเฝ้าประตูเลยโผล่มาในภาพเต็มเลย
จะยกทัพมาบังประตูเลยมั้ง

 

เห็นรูปแบบในรูปครับพี่จารุไม่เห็นอะไรมากกว่านั้น
ในชีวิตไม่เคยสัมผัสอะไรพิเศษได้แต่กลับชอบเป็นพิเศษ

 

อือประตูเปิดจริงด้วย. สังเกตุพวกง่องแง๋งหลังประตูได้.
มันยากมากนะที่จะถ่ายรูปติด แม้ว่าตาปกติเราจะเห็นได้ชัดก็ตาม
ปล.เปิดแล้วได้ปิดหรือเปล่าตรงนี้สำคัญกว่านะ
เด่วมีคนไปแถวๆนั้นคงได้มีฮา.๕๕๕

 

คนถ่ายคงหน้าแปลก พวกบังบด เมืองหน้าด่านบาดาล
ที่อยู่หลังประตู เลยออกมาเป็นบังบดมุง คิดแล้วก็ขำเนาะ 555
โดดกันง่องแง้ง ย้องแย้ง พยายามหลบนึกว่ามองไม่เห็น
แต่พอรู้ว่าเรามองเห็น เลยออกมากันเต็ม มากันทั้งหมู่บ้านเลยมั้ง

ตรงต้นไม้นั้น วันนั้น เป็นที่จอดรถของพวกคนที่มาขายของ งานขึ้นเขาพนมรุ้ง
เค้าทำเป็นตลาดย้อนยุค กลิ่นอาหาร เศษอาหารเน่าเหม็นมาก เค้าเอาของมาทิ้งไว้ตรงนั้น ดูแล้วก็อนาถใจ รถคนขายของก็จอดอยู่ไกล้ๆตรงนั้น
คนบนรถเห็นเราจ้องไปตรงต้นไม้ ซักพัก ก็มองเรากันใหญ่
เห็นท่าไม่ดี เลยทำเนียนไปหาของกินต่อ เค้าคงว่า มองไรวะ บ้าเปล่า
มีแต่ป่ากับต้นไม้ 555

 

จริงๆ ก็น่าสงสาร บังบดที่นั่น มีคนบังอาจ มาเปิดประตูมิติไว้
ไม่ใช่จารุ เปิดแล้วมันคิดว่ามันปิด แต่มันดันปิดไม่เป็น

ไม่รู้จะใช่พวก ที่มาทุบทำลายบันไดพญานาคที่เป็นข่าว ที่ทุบรูปทวารบาลหรือไม่
พวกมันคิดจะทำลายมนตรา ที่ดูแลปราสาท แต่ทำอย่างไรก็ไม่สำเร็จ
มันจึงทุบเอามือเทวรูป มาทุบหัวพญานาคแทน
เมื่อพญานาคที่เฝ้าอยู่ ไม่มีที่สถิตย์ จึงหนีลงไปบาราย กลับสู่เมืองบาดาล
เมื่อพวกอุทยานมาพบ จึงซ่อมแซม ให้พญานาคกลับมาเช่นเดิม
แต่ไม่ได้ทำพิธีอัญเชิญ ดวงจิต กลับมาสถิตย์ ยังเศียรพญานาค
ทำให้พวกท่านได้แต่ เฝ้ามองจากบารายเก่า ส่วนประตูเมืองบังบดก็ปิดไม่สนิท
ตอนที่เห็น พวกนั้น อยู่หลังประตู เค้าดูหวาดกลัวเรามาก จนเรายืนนิ่ง
กำหนดจิตด้วยเมตตา พวกเค้าจึงออกมายืนออกันหลังประตู

เราปิดประตูไม่ได้ เพราะประตูนั้น ก่อนนั้น เหล่าโยคี ปิดไว้ด้วยเวทย์ชั้นสูง
เมื่อมีพวกจิตมาร มาเปิด มาทำลายเวทย์นั้น เลยเกิดช่องโหว่ทางมิติ
เมื่อมองภาพ จึงรู้สึกเหมือนโดดดูด ไปในรูป
ถ้าจะปิดประตู คงต้องอัญเชิญเทพ ต้องมีธูปเทียน
เราเลยคิดว่าวันหลังจะไปขอหวย เอ้ย ไปปิดประตู วันนั้น คนมากไป

กระแสจิตว้าวุ่น ไม่เหมาะด้วยการอันควร

ไม่ใช่แค่เราเข้าไปไม่ได้ พวกเค้าก็ออกมาไม่ได้

เป็นอีกที่ ที่น่าเวทนา

 

จารุ จะให้เราลองปิดประตูมิติ ที่ทางขึ้นเขาพนมรุ้ง ดูมั้ย เผ่อจะปิดได้ จากหน้ากระทู้นี้เลย ถามก่อน

 

แล้วถ้าเรานึกในใจเล่นๆหล่ะ จะได้มั้ย ว่าประตูจงเปิด ตามสถานที่ต่างๆที่เราไปเที่ยวชม แล้วก็ถ่ายรูปเล่นๆ
แล้วจะเกิดผลอะไรยังไงมั้ย ? มีความเป็นไปได้ที่คนจากประตูที่เปิด จะตามเรามามั้ย

 

อ่านมาตลอด ชอบค่ะวันนี้ มาเล่าเรื่องตัวเองบ้างนะคะ เมื่อ3-4ปีก่อนนะ เคยฝันเห็นถ้ำแห่งหนึ่งเรียงรายไปด้วยไข่ใบโตๆเรียงวางเต็มถ้ำไปหมด ไข่ใบขาวนวลนะคะ เราก้อเดินรีบหาทางออก หาเท่าไหร่ก้อยิ่งเดินลึกลงไปทุกที สุดท้ายไปเจอชายหญิงคู่หนึ่งแต่งตัวแบบโบราณคล้ายๆเทพอินเดียประมาณนั้น ทั้งสองนุ่งผ้าแพรออกสีส้มๆนะคะ ผู้หญิงผมดำหน้าสวยผิวขาว หุ่นดีบอบบาง ใส่ชุดเครื่องประดับทองงดงามยังกะนางในวัง ผู้ชายเราพยายามมองหน้าแต่ไม่เห็นค่ะ เห็นแต่ข้างหลังขาวมาก ผมดำหยิกแบบหนังอินเดีย สูงล่ำแค่ข้างหลังก้อรู้ว่าหล่อจริงๆ ในฝันเรางงๆนะ ว่าเรามายืนดูหรือเราเป็นพวกเค้า เพราะในฝันเรารู้สึกว่าเรารู้ว่าพวกเค้าคุยอะไรกัน แต่ความรู้สึกคือ ผู้หญิงเสียใจมากร้องไห้หนักจนแทบจะสิ้นใจ ผู้ชายไม่พูดอะไร ได้แต่คอยกอดไว้ ผู้หญิงก้อร้องๆ เรารู้สึกว่าผู้หญิงไม่อยากจากผู้ชายคนนี้ไป แต่ต้องไป แต่ไม่รู้ไปไหน สุดท้ายเราก้อตื่นน้ำตาเต็มหน้าเลยค่ะ เหนื่อยด้วย
แวะมาเล่านะคะ เผื่อจะบอกว่าคืออะไร ขอบคุณค่ะ

 

ถ้าปกติทั่วไป ต่อให้ตะโกน ประตูก็ไม่เปิดหรอกนะ ขนาดผู้ทรงศีล
ถ้าไม่ได้รับอนุญาต ก็ห้ามผ่านนะ และเหมือนที่คุณ nopphakan และ
หลายคนสงสัย ทำไมมีพวกมิติอื่น ติดมาในภาพเราเต็มเลย
ก็คงมีเหตุผลอยู่ ตามมามั้ย น่าจะตามนะ แล้วแต่คนที่เปิดด้วย

ก็ยังสงสัยอยู่ น่าสงสัยอยู่

 

ลองดูก็ได้ค่ะ ปิดได้ก็ดี

แต่เล่าก่อนว่า ที่พนมรุ้ง ตรงองค์ปราสาทตรงกลาง ปราสาทประธานนั้น
เป็นประตูมิติ ที่เป็นท่อเชื่อมกับด้านบน ธรรมดาประตูทั่วไปก็เป็นระนาบเดียวกับเรา
แต่ประตูมิติบนยอดเขา เป็นแนวตรง เชื่อมขึ้นสู่จักรวาล

ถ้าปิดประตูด้านล่าง ทางลงบาดาล จะมีผล กับบริเวณนั้น อย่างไร
เราไม่รู้ได้

ถ้าพวกทวารบาลกับพญานาค โกรธขึ้นมา ก็ตัวใครตัวมัน 555 โกยจ้าโกย