โพชฌงค์ ธรรมของพระอริยะเจ้า

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ขันธ์, 1 กุมภาพันธ์ 2008.

  1. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ใครทำกายปัสสัทธิได้มีคุณวิเศษ แต่ต้องทำให้ชำนาญเป็นวสีนะ

    ลบกวน ขยายหน่อยครับ
     
  2. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    หากว่า ไม่เป็นวสี กว่าจะทำให้มันปัสสัทธิ ก็ยากนะสิ เพราะมันไม่ชำนาญ

    ทีนี้ พอทำจนชำนาญ นึกเดี๋ยวนั้น กายระงับเดี๋ยวนั้น
    นั่นแหละ ที่สุด
     
  3. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    โพธิปักขิยธรรม 37 กอง มี มหาสติปัฏฐานสูตร เป็นหมวดหลัก ในทางปฏิบัติ ฝึกฝนสติปัฏฐานให้เป็นวสีก็เพียงพอแล้ว ท่านอาจารย์พระพุทธทาสกล่าวว่า ธรรมหมวดอื่นๆ เป็นส่วนขยายออกไปจากสติปัฏฐานนี่แหล่ะ กระผมเห็นว่า กรณีนี้สำหรับปุถุชน

    แต่หากภูมิธรรมสูงมากแล้ว สามารถมองเห็นธรรมด้วยตาธรรมได้อย่างชัดเจน ค่อยจำแนกประเภทต่อไปเพื่อประกอบการอธิบายวิเคราะห์วิพากษ์วิจารณ์ธรรมด้วยปัญญาของตน เพราะการได้ดวงตาเห็นธรรม ไม่จำเป็นต้องรู้จักชื่อของธรรมว่ามีกี่หมวด อะไรบ้าง เพราะจะทำให้ผู้ฝึกใหม่ยิ่งสับสนโดยไม่จำเป็น

    ขอยกตัวอย่างที่นึกได้ตอนนี้คือ พระอัสชิเถระที่สอนธรรมสั้นๆ ให้กับพระสารีบุตรจนได้ดวงตาเห็นธรรม ณ เวลานั้น เชื่อว่า ยังไม่มีใครได้ยินคำว่า โพชฌงค์ เลยด้วยซ้ำ
     
  4. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    คุณ วิมุตติเข้าใจอะไรคลาดเคลื่อนมาก การทำมหาสติปัฎฐานให้บริบูรณ์นั้น จะเกิดขึ้นแต่พระอริยเจ้าเท่านั้น ปุถุชนไม่มีทางเห็นครบ

    ปุถุชนนั้นเห็นแต่เพียงเป็นสติ การจะมีมหาสติต้องมีปัญญาขัดเกลาเพื่อให้เห็นตัวที่ละเีอียดได้ ดังนั้นจึงต้องผ่านวิปัสสนาญาณมาก่อน และต้องผ่านธัมมวิจยเพื่อเห็นธรรมอันยิ่งขึ้นไป จึงจะเรียกได้ว่า มหาสติ คือเอาสตินำหน้า

    การเห็นธรรมนั้นไม่จำเป็นต้องเรียกชื่อแล้วจะเอาอะไรมาเป็นสมมติบอกว่า ธรรมอันใด ยิ่งขึ้นไปหรือไม่

    คนที่ฝึกใหม่สับสนจะสับสนนั้นผมก็พูดไปตั้งแต่ต้นว่า ปุถุชนควรเอาธรรมข้อใด
    กัลยาณปุถุชนควรเอาธรรมข้อใด พระอริยะควรเอาธรรมข้อใด

    และสำหรับ เรื่อง พระสารีบุตรดวงตาเห็นธรรมนั้น คุณวิมุตติทราบได้อย่างไรว่า ดวงตาเห็นธรรมในครั้งนั้น ท่านจะไม่เดินโพชฌงค์ต่อ

    เรื่องของโพชฌงค์เป็นธรรมที่เกิดขึ้นเองตามขั้นตอน ไม่จำเป็นต้องเรียกชื่อก็ได้ เพราะธรรมจะเป็นเหตุเป็นผลเกิดตามลำดับของตัวเอง แต่ว่าผู้ที่ติด ติดตรงไหน ก็ติดตรงปีติ คือ ไม่รู้ตัว ยึดในปีติเป็นของตัว แล้วคนที่สอนเขาจะบอกว่าอย่างไรถ้าไม่เรียกชื่อ

    คุณวิมุตติ ยังต้องศึกษาต่อไปอีกมาก ตำราหรือความรู้ทิ้งมันลงไปบ้าง

    กิเลสในใจก็ดูให้มากๆ


    ในพระสูตรเรื่องอานาปานสติ พระพุทธองค์ กล่าวกับ ภิกษุในสำนักของพระพุทธองค์ คุณวิมุตติคิดว่า มีปุถุชนหรือ พระอริยะมากกว่ากันในสำนักพระพุทธองค์ อีกทั้ง โพชฌงค์นั้นพระพุทธองค์ท่านยกขึ้นมาเป็นบทประกอบ กับ อานาปานสติ

    คนที่ยังไม่รู้ ก็จะเหมาเอาว่า ธรรมอันนี้ใช้ได้กับทุกคน แต่ผมผ่านมาแล้วย่อมทราบดีว่า มันละเีอียดเกินกว่าคนจะหยั่งได้

    เอาง่ายๆ แค่คำว่า ธัมมวิจย นี้เราก็ต้องรู้แล้วว่ามันละเีอียดแค่ไหน
    หรือ ปีติ หรือ ปัสสัทธินั้น หากขาดมหาสติ ย่อมไม่ละเีอียดพอที่จะทวนจิตไปละ ปีติซึ่งคนธรรมดาย่อมหมายเอาว่าปีตินั้นเกิดขึ้นกับตัว อันไม่สามารถละได้

    แต่ในที่นี่ ปีตินั้นต้องละต้องระงับ ต้องทวน กายนุสติปัฎฐานในรอบที่ละเีอียดยิ่งกว่าทั่วไปมาก

    ก็ขี้เกียจจะพูดให้ฟังต่อ เอาเท่านี้แล้วกัน
     
  5. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    ใจเย็นๆ ท่าน ผมไม่ได้แย้งอะไรเลย

    ผมบอกว่า ปุถุชน เอาสติปัฏฐานให้ดีก่อนเถอะ
    ถ้าปัญญามากแล้ว ค่อยจำแนก ก็หมายถึง ค่อยมองถึงโพชฌงค์ ก็ถูกต้องแล้วหนิ

    ส่วนท่านขันธ์กับท่านเอกวีร์ มีปัญญามาก ก็คุยเรื่องโพชฌงค์ ก็ดีแล้ว ไม่ได้ว่าอะไร

    หวังว่าคงกระชับพอ...

    ปล. ส่วนพระสารีบุตร ก็ต้องเดินโพชฌงค์สิ แต่ตอนนั้นไม่มีชื่อเรียก จะเป็นอะไรก็ช่างมันเถอะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กุมภาพันธ์ 2008
  6. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    แล้วใครว่า ผมใจร้อนหละ คุณวิมุุตติจะแย้งก็แย้งไปสิ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ผมก็ชี้แจงความจริงไงว่า


    กรณีนี้ผมก็บอกว่า ไม่ใช่ ของปุถุชน เพราะโพธิปักขิยธรรมนั้น เป็นของพระอริยะ

    คุณวิมุตติ พูดขัดกันเองนี่



     
  7. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    ขัดตรงไหน งง

    พูดอีกครั้งว่า ไม่ได้แย้ง

    เฮ้ออออ...
     
  8. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    เอาเถิด ต่อความยาวสาวความยืด ก็บอกว่าจะแย้งก็แย้ง ไม่แย้งก็ไม่แย้ง
    <!-- / message --> <!-- sig -->
     
  9. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    เป็นลูกศิษย์ใครดีหละครับ ถ้าเป็นลูกศิษย์ผม ผมยินดี แต่อย่าเรียกว่า ศิษย์เลย เรียกว่า กัลยาณมิตรต่อกันเถิด ผมยินดีให้ คำแนะนำเต็มที่

    ถ้าเป็นลูกศิษย์ท่านอื่น ก็คงจะแนวเดียวกัน

    ศีล รวม ถูกต้องแล้ว เพราะว่า ศีลนี้ อยู่เฉยๆ มันก็ไม่ต้องแตกออก จะแตกออกเมื่อเจอ เหตุ และเหตุนั้นทำให้เสื่อมจากความปกติของใจ
    จึงต้อง สร้างกรอบเอาไว้เมื่อ เจอเหตุว่า จะไม่ออกนอกกรอบนี้ไป

    ดังนั้น หากไม่เจอเหตุ จิตเป็นปกติ เป็น super ศีลอยู่แล้ว
     
  10. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    คุยอะไรกันอะ งง

    อ.ขันทวิมุตติ ( เรียกเต็มๆ )

    ทวนปิติ ด้วยอานาปานสติแล้ว จนปิติเหมือนหายไป(ไม่ชัด หรือ อาจผิดทาง)
    แล้วก็เกิดสภาวะธรรมใหม่ขึ้นมา ไม่เรียกชื่อ จะปัสสัทธิไหม ไม่อาจล่วงรู้
    แต่เผลอไปติด จงใจรวมจิตกระมัง เลยแน่นหน้าอก แต่ถ้าใช้วิธีหลวงพ่อ
    ท่านให้หายใจออกยาวๆ ก็แก้ได้ ( แหม พึ่งเข้าใจ ท่านเรียกว่า เคล็ดลับ ให้ฟรี
    ไม่คิดสตังค์ ) ก็ไปแกว่งแถวกระหม่อมบ้าง หน้าอกบ้าง เบาๆไม่แน่น สงสัย
    จะไปติดปิติอีกตัวกระมัง

    เลยถามๆ เพราะผมทำขณะโพสเว็บนี่แหละ

    ก็ถามซ้อนอีกที ว่าต้องหาที่สงบๆไหม ต้องทำสมาธิในรูปแบบไหม
    หรือว่า ทำไปทั้งๆ ชีวิตประจำวันนี้แหละ

    เผื่อจริงไม่ถึงไหน จะได้เอาแห้วไปอัดกระป๋องขาย
     
  11. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    อ้อ เข้าใจครับ ท่านเล่าปัง ต้องลูปๆคลำอยุ่ ดูว่า ดันจากทิศไหน ควบคุมให้ตรงข้าม และ ฝืนให้มันระงับ ต้องค่อยๆ สังเกตุก่อน คือ กลับมาที่ กายานุสติปัฎฐาน ดูที่ลม
    เวลาที่มันปัสสัทธิ มันจะเหมือนไม่มีตัว คือ เบามากๆ ทีนี้ ก่อนจะเบา เราก็ต้องดูทิศทาง ของกายลมให้ชัด มันจะมีทางของมัน เช่นถ้ามันขึ้น ก็หายใจเข้า แล้วสำเหนียกว่าระงับ ควบคุมให้มันลง มันดันออกก็สำเหนียก คือ ตั้งจิตไว้ว่า จะคุมให้ลมนั้นเข้า พอมันอยู่ตรงกลางแล้วมันนิ่งนั้นแหละ
    แสดงว่าถูกจุด
    แล้วเราจะค่อยๆ คุม ความเป็นกลางไว้ได้ทั่วจิต
    ผมนั่งอยู่นี่ มันก็ไม่รู้สึกที่ตัวนะ คือ ปัสสัทธิมันได้
     
  12. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ทำสมาธิ ทำที่ไหนก็ได้ พอจิตสงบเพราะละตัณหาได้ แล้วไม่ต้องทำ มันเป็นเอกคตาเองครับ แต่ถ้าจะทำก็เพื่อเจริญกำลังจิต เอาไว้มีกำลังทวนกระแส
     
  13. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    เอ๊ะ แต่มันเบาๆ แล้วเหมือนอยู่นอก อันนี้ที่เขาพูดกันว่า มันนอกๆ หรือ


    * * * *

    กายลม อะไรไม่รู้ สมมติไปยังงั้นๆ คุณทำได้อาจเรียกอีกชื่อ เช่น โปร่งๆ
    ว่างๆ ไหลๆ ฯ ขอคำรับรองด้วย อ.ขันทวิมุตติ ( ชื่อแห่งการสมานฉันท์ )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กุมภาพันธ์ 2008
  14. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    กายลม เอาง่ายๆ ก็ลมหายใจนี่แหล่ะ

    ในหมวด กายานุปัสนาสติปัฏฐาน กายมีสอง คือ กายหยาบ เป็นส่วนของร่างกาย และ กายลม เป็นลมในกาย ถือว่าเป็นกายละเอียด
     
  15. chanin

    chanin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2005
    โพสต์:
    675
    ค่าพลัง:
    +1,332
    โพชฌงค์ ๗ คือ องค์แห่งการตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้านะครับ
    มี ๗ อย่าง ตามลำดับ
    ฟังเสียงสวดและคำแปลได้ที่
    http://www.oknation.net/blog/buddhamantra/video/14381
     
  16. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    ไม่ใช่เฉพาะพระพุทธเจ้า พระอรหันต์ก็ด้วย

    เป็นองค์แห่งการตรัสรู้ คำว่า ตรัสรู้ ก็หมายถึงได้ดวงตาเห็นธรรม แต่จะเห็นระดับไหน ก็ค่อยว่ากันอีกที

    พระพุทธเจ้าตรัสรู้ ก็อาศัยโพชฌงค์

    พระอรหันต์ตรัสรู้ ก็อาศัยโพชฌงค์ เช่นกัน
     
  17. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    สวัสดีอาจารย์

    แอบไปฝึกวิชาใจเย็นมา ครับ

    การพิจารณาความตาย พิจารณาอย่างไรครับ มีกี่วิธี
     
  18. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    ยังไงก็อย่าอ่านแล้วติด สมมติบัญญัตินะ ใครใช้ศัพท์ผิดศัพท์ถูกก็ปล่อยๆไป
    เอาไว้เห็นว่าเขายึดมั่นถือมั่น ก็ค่อยชี้ๆ

    อย่างตรัสรู้นี่ ใช้แล้วหวาดเสียเนอะ ถ้ากลัวติด ก็ใช้ ทางสว่าง นี่คือตัวอย่าง
    ณ คุณ nsthai อย่าไปติดกับคำศัพท์ ขอให้ลงลึกไปที่สภาวะธรรมจริงๆ จะ
    คุยกันได้เรื่อยๆ

    อย่าง ธรรมทั้งหลาย ล้วนเกิดแต่เหตุ อันนี้ก็เป็นประโยคธรรมดาๆ นะ
    ใครอ่านก็เข้าใจ อ่านแล้วเข้าใจแล้ว เผลอคิดว่าบรรลุก็มี จริงไหม
    แต่มาวันนี้นะ ประโยคนี้ไม่ธรรมดาสำหรับเรานะ เป็นประโยคที่อัศจรรย์
    ประโยคเล็กๆแค่ประโยคเดียว ใช้ทำความเข้าใจศาสนาพุทธได้ตลอดสาย
    ได้ทุกระดับสภาวะธรรม เช่น ปิติ ที่ผมติด ถ้ารู้จักใช้ปฏิภาณ ก็จะเข้าใจ
    ว่ามันคือ สภาวะทุกข์อย่างหนึ่ง ซึ่งก็ต้องมีสาเหตุ ก็หาสาเหตุให้พบก็จะ
    พ้นทุกข์

    เนี่ยะ ประโยคง่ายๆ แต่ขั้นโพชฌงค์ก็ยังใช้กล่าวได้อยู่เลย

    ธรรมะของพระพุทธองค์ ท่านเลือกใช้คำง่ายๆ แค่กำมือเดียว
    ก็แทงตลอดได้ถึงสุดจักรวาล ( อย่าติดคำว่าจักวาลอีกละ
    เป็นอุปมาอุปไมยยกย่องครับ -- กลัวลุงใบไม้เอามาจับไปเป็นต้นธาตุอีก :) )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กุมภาพันธ์ 2008
  19. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ถูกแล้ว ท่าน เอกวีร์ เรื่องของปีติ นั้นจะมีอาการอย่างไร ก็ตาม
    มันมักจะเกิดจากธาตุลม เพราะว่า มันมาเร็วไปเร็ว ก็ใช้อานาปานสติกำกับ

    ปีตินี้มันก็เป็นผัสสะอย่างหนึ่งที่จะทำให้เกิด เวทนา รวมไปถึงตัณหาได้
    ก็ละมัน การจะดับผัสสะ ก็ต้องดับ ที่เหตุคือ สังขารที่ยึดไปว่าปีตินี้เกิดที่เรา ของเรา หานัยยะโดยลึกของคำนี้ให้ได้ คลายด้วยการทวน ให้เห็นว่า เรากำลังยึด


    สำหรับ คุณ ฐานัฎ เรื่องการพิจารณาความตาย ยังไม่ควรพิจารณาครับ
    หากว่า ยังเป็นฆราวาส ควรเจริญสติ ยุคนี้สติสำคัญที่สุด สติที่กิน เดิน ยืน นั่งนอน นี้แหละ

    เพราะว่า การพิจารณาความตาย ย่อมทำให้จิตหดหู่เศร้าหมอง เป็นเพียงองค์สมถะ ถ้าหากว่ายังไม่เกิดความประมาทในชีวิต ก็ไม่จำเป็นต้องไปสุดโต่งในด้านนั้นครับ
     
  20. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    แล้วมีธรรมใดที่ทำให้จิตใจแช่มชื่น เบิกบาน คลายเศร้าหมอง ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...