เปิดตำนานของวิเศษสุดยอด

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Silver11Wing, 9 มีนาคม 2014.

  1. Prajean

    Prajean เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2014
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +240
     
  2. chattrg

    chattrg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    4,337
    ค่าพลัง:
    +13,231
    ตามอ่าน
    ได้ความรู้มาก

    ถ้า จะหาของดี เป็น ศิริมงคล ช่วยในการทำงาน

    อะไรดีที่สุด ครับ

    เจอ อุปสรรคมาหลายปีแล้ว

    จนเกือบท้อใจ
     
  3. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    รางเนื้อชอบรางยา

    ขออนุญาตครับ

    บุญ วาสนา บารมี สติ ปัญญา ทัศนคติ นิสสัย สันดาน

    ของแต่ละคนไม่เท่ากัน ไม่เหมือนกัน

    ความรัก ความชอบ
    งานที่ถนัด
    งานที่สร้างรายได้
    งานที่ทำให้รวย
    งานที่ทำให้เป็นเศรษฐี
    งานที่ทำให้เป็นมหาเศรษฐี

    ทุกอย่างขึ้นกับ

    ความสบายใจ
    ความเชื่อมั่น
    ความมุ่งมั่น
    ความอดทน
    ความต่อสู้
    ความฝ่าฟัน

    ผมก็บอกบ่อยๆว่า

    อยากรวยก็สังเกตุรอบๆตัวว่า ใครทำอะไร แล้ว รวย

    ช้า เร็ว มาก น้อย

    ศึกษา เจาะหารายละเอียด พินิจ พิเคราะห์

    แล้วก็เลือกเอาซักอย่างสองอย่าง

    ผมเคยคุยกับแม่ค้าข้าวปิ้ง ข้าวโพดย่าง
    แกก็มีแค่ เตาถ่านสองใบ กาละมังสองใบ ขาตั้งเตา โต๊ะวางของขาย เก้าอี้นั่ง หมวกกันแดด ร่มใบใหญ่บังแดด
    แกนั่งยิ้ม ปิ้งย่างขายทั้งวัน ก็เห็นแกมีความสุขดี

    ถ้าจะให้แนะนำ

    1 ตะกรุดทองคำ หุ้มไม้แหญ่แย้ จากพระตะบอง ประมาณ 25000 บาท (ท่านไม่ทำให้ทุกคนนะครับ)
    แก้กัน ถอน ไสยเวทย์ได้ทุกระดับ

    ทำน้ำมนต์ค้าขาย ถอนคุณไสย์ ยาสั่ง ได้
    เมตตามหานิยม สุดยอด

    2 พระสมเด็จ จากกรุพระธาตุพนม 3000-5000 บาท
    พุทธคุณครอบจักรวาล
    บูชาแล้ว จิตใจชุ่มเย็น สุขกายสะบายใจ เห็นผลทันที

    ขอโมทนาบุญ

    ลุงมหา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กุมภาพันธ์ 2015
  4. Prajean

    Prajean เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2014
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +240
    เรียน คุณลุงมหา

    ผมได้เดินทางไปกราบรูปหล่อหลวงปู่ใหญ่ที่วัดในไร่แล้ว ขอบคุณคุณลุงมหามากที่กรุณาบอกทาง

    ในวัดในไร่ มีวิหารสองหลังเก่าและใหม่และมีรูปหล่อหลวงปู่ใหญ่ในทั้งสองวิหาร
    ไม่ทราบว่ามีเหตุพิเศษใดเกิดขึ้นจึงได้มีการสร้างวิหารและรูปหล่อใหม่ที่สวยงามมาก

    ขอบคุณครับ
     
  5. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    อัศวินครูเสด

    ขออนุญาตครับ

    ชอบเรื่องหลวงปู่ใหญ่ ต้องอ่านที่มีผู้รวบรวมเอาไว้แล้วตามรูปครับเล่มละ 50 บาท ที่ร้าน 7-11

    เหตุที่ผมไม่ขวานขวยเข้ากลุ่มลูกศิษย์ขององค์ท่านก็เพราะว่า
    สำหรับผมแล้ว คณะขององค์ท่านทำงานคล้ายๆกับ กลุ่มอัศวินที่ไปรบสงครามครูเสด
    เพียงแต่ต่างกันที่รูปแบบ

    แต่ตัวผมเองทำงานในอีกรูปแบบหนึ่ง

    ขอโมทนาบุญ
    ลุงมหา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กุมภาพันธ์ 2015
  6. chij

    chij สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +19
    ผมก็ชอบซื้อหนังสือเรื่องหลวงปู่ใหญ่ ที่จำได้ ประมาณ 5-6 เล่มแล้วครับรวมทั้งเล่มที่ลุงมหาลงไว้ด้วยครับ ผมก็ซื้อมาแต่นานล่ะครับ เล่มที่ลุงมหาลง นี้จะมีรายละเอียดที่มากหน่อย อนุโทนาบุญครับ
     
  7. battosai

    battosai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +345

    สาธุ ครับ ลุงมหา
     
  8. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ลุงมหาคะ พระธาตุหากได้มาแล้ว นอกจากฤทธิ์เรื่องสมาธิแล้ว

    ขอรบกวนลุงมหาแนะนำด้วยค่ะ

    ป.ล.เรื่องเบี้ยแก้ด้วยค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มีนาคม 2015
  9. นักรบโบราณ

    นักรบโบราณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    310
    ค่าพลัง:
    +973
    เบี้ยแก้คล้ายของหลวงพ่อเกษม เขมโก แห่งสุสานไตรลักษณ์ รุ่นสุริยคราส
     
  10. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ขออนุญาตตอบค่ะ เป็นเบี้ยแก้ ของพระอาจารย์ที่เคารพ ในจังหวัดบุรีรัมย์ค่ะ
    แต่ตอนรับมา เมื่อกำในมือ จุดศูนย์กลางฝ่ามือจะร้อนค่ะ มีเพื่อนๆหลายคน
    กำก็ร้อนเช่นเดียวกันค่ะ

    ขอบคุณที่รับฟังค่ะ
     
  11. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ของวิเศษสุดยอด VS เครื่องรางของขลัง

    ขออนุญาตครับ

    พระธาตุถือเป็นของวิเศษสุดยอด เพียงแต่ว่าจะให้คูณอย่างเด่นชัด ต่อเฉพาะผู้ถือศีลขั้นละเอียด(กุศลกรรมบท ๑๐)เท่านั้น
    นอกจากนี้เหล่าเทวดาที่รักษาพระธาตุก็ให้คุณอย่างสูงเช่นกัน

    เบี้ยแก้ก็คือปรอท+อาคม ถือเป็นเครื่องรางของขลังเท่านั้น
    เมื่อปรอทมีคุณวิเศษของปรอทเอง แล้วถูกเก็บกักไว้ในหอยเบี้ยและลงอาคมเอาไว้ไม่ให้ปรอทหนีออกมา
    ปรอทจึงออกฤทธิ์ปกป้องตัวเองรอบๆตัวปรอทเอง
    จึงทำให้ฤทธิ์นั้นปกป่องผู้พกพาด้วย

    แต่ว่าปรอทก็มีจิตวิญญาน เมื่อมาถูกขังอยู่ในเบี้ยแก้เป็นการสมควรหรือ?

    ดังนั้นผู้มีคุณธรรมหลายๆท่าน ก่อนสิ้นอายุขัยของตน
    มักจะขอบคุณจิตวิญญานของปรอทในเบี้ยแก้ ขอขมากรรมแล้วปลดปล่อยเขาให้เป็นอิสระ
    จะได้ไม่มีเวรไม่มีกรรมต่อกันยึดยาวอีกต่อไป

    ปรอทสำเร็จจึงถือเป็นของวิเศษใกล้ๆเหล็กไหลตาย

    เหล็กไหลตายคือเหล็กไหลที่อัญเชิญองค์เทพออกจากเหล็กไหลเหลือแต่เนื้อเหล็กไหลเปล่าๆ
    หรือองค์เทพเสด็จออกไปเอง

    ปรอทสำเร็จผมคาดว่าครูบาอาจารย์น่าจะถอดถอนจิตวิญญานออกจากเนื้อปรอทแล้ว
    แต่ยังคงมีฤทธิ์ใกล้เคียงปรอทเป็นที่มีจิตวิญญานอยู่

    ขออนุโมทนาบุญ

    ลุงมหา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มีนาคม 2015
  12. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ว่านล้อมเต่า?

    ขออนุญาตครับ

    ผมได้รับการบอกเล่าจากเพื่อนพ้องนัองพี่ในวงการว่า

    หาว่านล้อมเต่าได้แล้ว
    ครูบาอาจารย์ก็เชิญไว้แล้ว
    สถานที่ก็อำเภอหนึ่งในจังหวัดสกลนคร
    วันก็ช่วงข้างขึ้นนี้ล่ะ
    ผู้สนับสนุนก็บรรดาขาใหญ่ที่มาสั่งเอาไว้

    อ้าวลึมบอกไป จะทำ ว่านตาทิพย์ กันครับ

    ราคาจองก็มิตรภาพสุดๆ ตลับละ ๕๐ ล้าน

    ใครที่สั่งไว้้เตรียมของแลกเปลี่ยนได้

    ขอโมทนาบุญ

    ลุงมหา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มีนาคม 2015
  13. ลุงจิ๋ว

    ลุงจิ๋ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2008
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +990

    ตลับละ 50 ล้าน...โอ้!!! พระเจ้าช่วย กล้วยทอด
     
  14. HS6GIN

    HS6GIN Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2008
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +98
    สวัสดิีค่ะ

    ตามอ่านมาตั้งแต่หน้าแรก สนุกและได้ความรู้มากเลยค่ะ
     
  15. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,791
    ค่าพลัง:
    +3,204
    ปี ๒๕๕๓
    เหล็กไหลจักรพรรดิ

    ท่านใดอยากทราบบ้าง ว่ามีอานุภาพอย่างไร แตกต่างจากเหล็กไหลทั่วไปในถ้วนทั่วทุกสารทิศอย่างไร? จะตอบให้ทราบครับ ว่าอยู่ที่ไหน มีลักษณะอย่างไร มีอำนาจอย่างไร สัณฐานอย่างไร ?

    จริงๆแล้วผมพึ่งจะอัดเป็นคำพูดไฟล์วีดีโอไว้ แต่ยังมิได้นำลงเลย ก็ขอกล่าวด้วยอักษรแทนนะครับ เป็นห้วงๆ

    ภาค ๑ เริ่มเรื่อง
    สวัสดีครับ บทนี้กระผมจะมากล่าวถึงเรื่อง "เหล็กไหล" เหล็กไหลที่หลายท่านคิดว่าเข้าใจว่าเป็นธาตุกายสิทธิ์ สามารถจับได้แต่ต้องได้ มีอานุภาพนานัปการ มีสีอย่างนั้น สัณฐานอย่างนั้น ที่ต่างพบเห็นเป็นชิ้นเป็นอันเยอะแยะมากมาย แต่คราวนี้ กระผมจะขอพูดถึง อานุภาพของเหล็กไหลที่กระผมได้ สัมผัสเอง เห็นเอง รับมาเอง พิสูจน์เอง แต่กระผมก็ไม่ได้ยึดติดนะ ว่าได้พบแล้ว หรือยินดีสักเท่าใดนัก คือพอใจจะอยู่ก็อยู่พอใจจะไปก็ไป ไม่ได้คิดว่ามีเหล็กไหลแล้ว จะดีอย่างนั้น อย่างนี้ จะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เหล็กไหลที่กระผมได้พบแตกต่างมาก แตกต่างจากเหล็กไหลที่กล่าวขานร่ำลือกัน ทั่วทั้งแผ่นดิน หากเปรียบเทียบอานุภาพ ก็เหมือนฟ้ากับเหว ถ้าเหล็กไหลชนิดอื่นๆที่ได้บันทึกไว้ตามความรู้ความเข้าใจในเว็บไซด์ หนังสือต่างๆ ก็เป็นเพียงแค่ชั้นรองลงมา เหล็กไหลที่ผมได้พบก็เป็นระดับจักรพรรดิ แต่มีที่มาหรือข้อแม้อย่างไรหรือครับ ก่อนที่ผมจะได้พบในคืน วันเพ็ญ เดือน ๗ ปี๕๓ อยากจะให้รู้พื้นฐานว่า กลิ่นตัวมนุษย์เรานี่เป็นร่างกายที่ไม่สะอาด มีแต่น้ำเลือด น้ำหนอง น้ำลาย ปัสสาวะ อุจจาระ มีแต่สิ่งน่ำเหม็น มีแต่สิ่งปฏิกูล อยู่เต็มร่างกาย เป็นขันธ์ที่ไม่เที่ยง ไม่งดงาม ไม่หอมหวานด้วยศีล ท่านที่ได้ศึกษามาก่อนแล้ว จะทราบได้ว่ากลิ่นตัวมนุษย์มีความเหม็นมาก เหม็นจนถึงสวรรค์ชั้นฟ้า แม้แต่ภูติผีปีศาจบางตัวบางชนิด ยังไม่อยากอยู่ใกล้มนุษย์ คือสารพัดจะกิน คือกินในเลือดในเนื้อของสัตว์ในห่วงโซ่อาหาร โดยมีความพึงพอใจจะกินเช่นนั้น โดยมิได้พิจารณาซึ่งแตกต่างกับพระสงฆ์ท่านผู้เจริญแล้ว ท่านจะพิจารณาเสมอ ๆแต่มนุษย์ส่วนมากเราค่อนข้างจะไม่ได้พิจารณาก่อน ว่าเลือดเนี้อที่เลี้ยงปากเลี้ยงท้องเรานี้ ธาตุเหล่านี้มาจากใคร โดยลืมคิดไปว่า ด้วยไม่ได้ศึกษาก็ดี ยังไม่มีความรู้ก็ดี คือมีแต่ชักชวนกันไปกินด้วยความสนุกเพลิดเพลินกันอย่างเดียว ไม่ได้ใส่ใจเลยว่า คือไม่รู้ว่า" สัตว์เหล่านั้น เคยเกิดเป็นมนุษย์และสารพัด แต่ต้องไปเสวยชาติเกิดเป็นสัตว์นั้น ต้องถูกกินถูกฆ่าตามวิบากกรรม มีความรู้สึกนึกคิดบ้างไม่มีบ้างหลงบ้างในสังสารวัฎรนี้ และเมื่อกินดังงั้น จึงส่งผลให้เนื้อหนังมังสามนุษย์ มีกลิ่นเหม็นมาก จนต้องใช้ พะอบน้ำหอมกันจ้าละหวั่น เพราะเหม็นไง มันมีกลิ่นซึมออกมาตามผิวหนัง เหงื่อไคล และว่าด้วยธาตุกายสิทธิ์นี้ที่ ผู้ไม่ถือศีลก็ดี ผู้ที่ยังกินเลือดเนื้อผู้อื่นอยู่ก็ดี หากไม่มีบุญเก่าสัมพันธ์กัน เขาจะอยู่ด้วยหรือ จึงเป็นอันตรายอย่างมาก หากนำไปฝังหรือติดเนื้อติดตัวไว้ ธาตุกายสิทธิ์เหล่านี้จึงประสงค์กินแต่อาหารที่หอมหวานเท่านั้น ไม่กินของคาวอย่างเด็ดขาด (อนาคต เดี๋ยวคงมีพวกเหล็กไหลมาร กินเลือดกินเนื้อกินของคาว ออกมาอีกแน่ สงสัย )
    .......................................จบภาค๑ ...............................................

    ภาค ๒ " สถานที่อยู่ของเหล็กไหล "
    ท่านที่ได้ศึกษามาบ้างย่อมรู้ว่า ธาตุกายสิทธิ์นี้ต้องการสิ่งที่ มีความหอม หวาน และเย็น หรืออาจจะเป็นหนาวร้อนก็ได้ตามสภาวะ ตามลักษณะอุณหภูมิ กระผมถือศีลเพียงเจ็ดวัน ไม่กินดื่มในเลือดและเนื้อ คือล้างท้องให้สะอาดจากอาหารที่เจือปนด้วยเลือดเนื้อก่อน สมาทานศีลเอง แต่มิได้ทำเพื่อตนเอง หรือมีเจตนาจะแลกเปลี่ยนเอาสิ่งใดจากการถือศีล เพราะมีหมายกำหนดการจะเข้าป่่า ขึ้นเขาไปตามแนวชายแดน ระหว่างพรหมแดนไทยมาเลย์เซีย คือ เทือกเขา สันคาราคีรี มันจะมีถ้ำ มีแก่งหิน แอ่งน้ำใส ผมไปนั่งสมาธิที่นั่น ไม่นานหรอก ไม่กี่สิบนาที เพราะบรรยากาศสงบมาก แม้จะมีพวกลิงป่าโหนต้นไม้เล่นไปมาก็ตาม ด้วยศีลด้วยภาวนา เจตนาอยากจะฉุดช่วยสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์ อาจเป็นอานิสงค์ให้ได้พบพาน ก็ค้างที่เทือกเขาลูกนั้น ๒ วัน
    ................................จบภาค ๒ ............................

    ภาค ๓ ( การปรากฎตัวของธาตุกายสิทธิ์ )
    ตอนขากลับก็จะต้องเดินข้ามภูเขา ๒ ลูก และเดินลงมาเรื่อยๆจนถึงชายป่า ที่เป็นป่าชายเลน และก็นั่งเรือข้ามแม่น้ำกลับมายังที่พัก ครั้นกลับมาถึงสถานที่พัก ทำกิจธุระส่วนตัวเรียบร้อย ก็นั่งสมาธิแผ่เมตตาจิต พิจารณาถึงเรื่องราวต่างๆ คิดถึงคุณธรรมข้อต่างๆ และก็ล้มตัวเข้านอนไป ในโรงนอนขนาด ๒๐ คนที่สร้างขึ้นเป็นที่พักผ่อนในคืนนั้นขึ้น ๑๕ ค่ำ และแล้วก็ถึงเวลาที่สิ่งนั้นปรากฏตัวขึ้น ชนิดทะลุทะลวงฝาฝนังมาเลย ด้วยขนาดที่ใหญ่โตขนาดลำต้นตาล ความยาวประมาณ๓๐-๔๐ เมตร มีสีและสัณฐานที่ระบุได้ยาก และพุ่งเข้าสู่บริเวณลำตัวตรงหน้าท้องของกระผม คือพุ่งหายเข้าไปเลยและแรงสั่นสะเทือนทั้งโรงนอนเลยทีเดียว แต่กับไม่มีใครรู้สึกตัวเลย เหมือนถูกอะไรบางอย่างสะกดให้หลับสนิท หรือเพราะความอ่อนเพลียของพวกเขากันแน่ ผมผงกศรีษะลืมตามองอย่างตะลึงโดยตลอด พลางคิดในใจ ว่าโดนอะไรเข้าแล้วหนอ งูหรือนาคหรือเปรตกันแน่นะ ความรู้สึกมันสุดๆเลยล่ะครับ เหมือนเอาอะไรเข้ามายัดในร่างกายของเรา และก็ได้แต่มองจนส่วนท้ายของสิ่งๆนั้น วิ่งเข้าไปจนสุด แล้วค่อยๆคิดว่า จะเอายังไงกับเจ้าสิ่งนี้ดี ( ตอนนั้นนึกว่าซวยแล้ว ) ก็เลยลุกขึ้นมานั่งสมาธิ เพื่อพิจารณาดูว่า สิ่งๆนั้นคืออะไรกันแน่
    ...........................จบภาค ๓ .............................

    ภาค ๔ [แสดงอานุภาพในนิมิต]
    และเมื่อได้เข้าสู่สมาธิในบัดดลนั้น ก็ได้ปรากฎร่างหญิงชราซึ่งกำลังเดินข้ามถนน ท่ามกลางฝูงชนและยวดยานผ่านไปมา ซึ่งตัวของข้าพเจ้าเองก็อยู่ในที่นั้นด้วยแต่อยู่ฝั่งตรงกันข้าม ของทางม้าลาย ตอนนั้นกำลังเป็นห้วงรถวิ่งด้วยสัณญาณไฟจราจรให้ทางเป็นสีเขียว และก็มีรถบรรทุกกำลังขับตรงมาเพื่อข้ามสี่แยกนี้ไป ทันใดนั้นหญิงชราคนนั้นก็ได้ เดินข้ามทางถนนทางม้าลายโดยไม่สนใจ ว่าจะถูกเฉี่ยวชนหรือไม่ กลับเดินชักช้าอืดอาดเป็นอย่างมาก จนกระผมต้องร้องห้ามว่าอย่า อันตราย อย่าข้ามมา พยายามจะวิ่งไปช่วย แต่ไม่ทันการเสียแล้ว ร่างนั้นได้ถูกรถบรรทุก๑๐ล้อชนและเหยียบซ้ำ อย่างไม่ปราณีปราศรัยไปเสียแล้ว ทิ้งไว้แต่เรือนร่างของหญิงสาววัยชรานั้น ให้ทอดอาลัย กระผมเลยวิ่งเข้าไปเพื่อจะพยายามให้การช่วยเหลือ ถึงแม้จะไม่ทันการแล้วก็ตามที ด้วยความรู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถให้การช่วยเหลือได้เท่าทันเวลา ท่ามกลางผู้คนนับ๑๐ กำลังยืนพูดคุยกันอย่างจอแจ เพราะตกใจ ในขณะที่กระผมกำลังเข้าไปสวมกอดดึงร่างนั้นขึ้นมา และพูดว่า "ไม่น่าเลยครับคุณยาย"
    แต่เหตุการณ์กลับตาลปัตร เพราะมีเสียงหัวเราะอย่างตลกชอบใจ จากร่างของหญิงชราผู้นั้น แล้วร่างนั้นก็พลันลุกขึ้นมาขยับโยกซ้ายโยกขวา ทำทีท่าว่าสบายเนื้อสบายตัวอย่างสุดแสน พร้อมกับแยกร่างออกเป็นหลายร่าง และกลายร่างเป็นอย่างอื่นได้หลายๆอย่าง เป็นสิ่งของหรือเป็นอาวุธเป็นใบไม้บ้าง ต้นไม้บ้าง ก้อนหินบ้าง ที่กระผมสังเกตุ กว่าอย่างอื่นคือที่เหมือนพวกนับรบมีชุดเกราะสีดำปนน้ำเงิน วิ่งไปมาอย่างรวดเร็วมาก คือไม่สามารถมองตามได้ทัน เดี๋ยวผลุบเดี๋ยวโผล่ตรงนั้นตรงนี้ คือ ตรงที่สูงบ้าง ยอดไม้บ้าง ในอากาศบ้าง เหมือนจะแสดงแสนยานุภาพของตน เพื่อให้เห็นอย่างอัศจรรย์ แน่นอนสภาวะนั้นเป็นเหมือน ความสามารถที่มีไม่รู้จบ เป็นระยะเวลาพอได้สักระยะก็หายไป กระผมจึงลืมตาขึ้นอย่างตกตลึง เฮ้ย ทำไมมันซุกซนอะไรแบบนี้นะ ซนเหมือนลิงจริงๆ ซึ่งในขณะนั้นที่ภายนอกมีกำลังพลกำลังนั่งพักผ่อน กันประมาณ ๑๐ กว่าคน รวมทั้งเวรยามที่หน้าฐาน ซึ่งห่างกันเพียง ๒๐-๓๐ เมตร เพียงแค่มีฉากผ้าบังเท่านั้น เมื่อลืมตาขึ้นคิดพิจารณาแล้วถึงในสิ่งที่เห็น จึงหลับตาตั้งจิตอธิษฐานต่อ ว่าด้วยเหตุอันใด จึงเป็นเช่นนี้ เป็นอำนาจของผู้ใดบันดาลมา หรือด้วยบุญกุศลเก่าของตนเองเกี่ยวพันกัน

    ภาค ๕ {เจ้าแห่งเทือกเขาสันคาราคีรีแสดงฤทธิ์} ค่อยมาเล่าต่อครับ..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 เมษายน 2015
  16. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    รู้จริงเห็นจริง???

    ขออนุญาตครับ

    ผมหายไปจากเว็บพลังจิต ตั้งแต่ปลายเดือน มีนาคม เพราะมือถือผมหาแบตใหม่ไม่ได้

    ราคาที่พูดถึงนี้เทียบได้แค่เด็กเกิดใหม่เท่านั้นเมืี่อเทียบกับทั้งหมดในวงการนี้

    ก็วงการ ของวิเศษของหายากนี่ล่ะครับ

    เรืีองของๆวิเศษ เรียงตามลำดับสูงสุดคือ

    1.น้ำมันตาทิพย์
    2.พญาปากเคล็ด
    3.เครื่องรางมหาอุด
    4.เครื่องรางแคล้วคลาด
    5.เครื่องรางเมตตามหานิยม

    ส่วนสายไสย์เวทย์ ที่ทำเท่าที่พบเจอก็มี

    1.ไสย์เวทย์สายลาว
    ไม่ใช่ใครที่ใหน ก็ปู่มหาฤๅษี ในคราบของปู่ผ้าขาว ที่ผมเคยขึ้นขันธ์เป็นศิษย์ท่านเมื่อสิบกว่าปีก่อน
    วิชาการของท่านก็ไสย์เวทย์สายขอม เพียงแต่ท่านเป็นคนไทยอีสานพื้นเพเป็นชาวอุบล

    2.ไสย์เวทย์สายเขมร จุดศูนย์กลางอยู่ที่ บ้านตูม ก็บ้านเกิดของกำนันคนดัง ที่รู้กันว่า ผู้ยิ่งใหญ่แห่งภาคตะวันออกนั่นล่ะ ลึกกว่านี้บอกเล่าไม่ได้

    3.ไสย์เวทย์สายพระ ก็ศิษย์สายหลวงปู่ใหญ่ ที่แตกแขนง ออกมาเป็นสายสมเด็จลุน และ ศิษย์เอกท่านอื่นๆ

    ขอโมทนาบุญ

    ลุงมหา

    ญ่
     
  17. ลุงจิ๋ว

    ลุงจิ๋ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2008
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +990
    "ลุงมหา" แกรู้เยอะ รู้จริง..แฮ่ะ !
     
  18. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    สูตรการทำน้ำมันตาทิพย์

    ขออนุญาตครับ

    การทำน้ำมันตาทิพย์นั้น เท่าที่พบเจอมี ... สูตร
    ที่แปลกขึ้นไปอีก อาจารย์ที่ทำมักจะรู้เพียงสูตรเดียวเท่านั้น

    สูตร 1 ส่วนประกอบหลัก ว่านไพรดำตัวผู้ 1 หัว + ว่านไพรดำตัวเมีย อีก 1 หัว และ ว่านหญ้าคานะปัดตลอด อีก 1 หัว

    ว่ากันว่า สูตรนี้ ได้ผลสูงที่สุด นิยมมากที่สุด

    วิธีทดสอบว่านไพรดำคือ

    1 ใช้มีดคมๆฟันไปที่ใบไพรดำ ต้องฟันไม่ขาด
    2 ใช้มือจับที่ใบไพรดำ แล้วใช้มีดฟันไปที่แขนข้างที่จับไพรดำนั้น ต้องฟันไม่เข้า
    3 ใช้ปืนยิงไปที่ไพรดำ ต้องยิงไม่ออก
    4 ใช้หัวไพรดำ ขีดที่ผิวกะลามะพร้าว แล้วผ่าดูเนื้อใน เนื้อมะพร้าวต้องดำ
    5 ใช้หัวไพรดำ ขีดไปที่หม้อหุงข้าว ข้าวทั้งหม้อต้องดำหมด

    ส่วนที่คนทางฝั่งไทยเรียกไพรดำนั้น เอารูปให้คนทางฝั่งลาวดู
    เขาก็ได้แต่ อมยิ้ม ไปจนถึงขำกลิ้ง เท่านั้นเอง

    ทำให้นึกถึงคุณตา ตอนท่านป่วยอายุ 96 หมอจะฉีดยา
    แทงเท่าไรก็ไม่เข้า แทงแรงๆเข็มหักซะอีก
    น้าชายต้องเข้าไปบอกว่า พ่อๆขอหมอฉีดยาหน่อยจึงฉีดเข้าได้

    คุณตาลุงมหาเป็นคนเชื้อชาติลาว สัญชาติไทย

    ที่ฟีนแทงไม่เข้าก็เพราะว่า ทั้งตัวท่านสักลายแบบ เอาเนื้อเป็นตัวหนังสือ
    เอาว่านไพรดำที่สักนั้นเป็นพื้น ชนิดที่ว่ามองไกลๆนึกว่าใส่เสื้อผ้า
    ทั้งๆที่ไม่ได้ใส่อะไรเลย

    จะหาว่านไพรดำต้องหาจาก ชาวข่า ในลาว ต้นตำหรับดั้งเดิมครับ

    ที่ว่า ไพรดำๆ ที่อยู่ฝั่งไทยนั้น ไม่ลอง ไม่รู้

    เพราะไพรดำเรา ไม่เหมือน ไม่ใช่ ไพรดำแบบ ของแท้ดั้งเดิม

    ที่ว่ากันว่า น้องๆเหล็กใหลน้ำหนึ่งโน่นล่ะครับ

    ครูบาอาจารย์ที่ท่านทำสูตรนี้ เป็นพระสงฆ์ อีกต่างหาก

    เวลาทำก็ใช้วันอังคารข้างขึ้น วันเดียวเสร็จ

    ทำเสร็จก็จะได้ เกือบๆจะเต็มบาตรพระ

    ฝ่ายของ กับฝ่ายทำแบ่งกันคนละครึ่ง ก็ประมาณฝ่ายละลิตรครึ่ง

    ราคาตามใบสั่ง ขวดยาแดงละ 200 ล้านบาท

    เอาไปใช้ที่ลาสเวกัส ไม่มีใครบอกว่าทำเงินเท่าไร?

    มิน่าล่ะ น้องที่โทรหาถึงบอกว่า ชีวิตนี้ขอทำอย่างเดียว

    น้ำมันตาทิพย์ๆๆ

    ทำน้ำมันตาทิพย์เสร็จ คงมีวัดเกิดใหม่อีกหลายวัด

    ขอโมทนาบุญๆๆ

    ลุงมหา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤษภาคม 2015
  19. mind stone

    mind stone เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2010
    โพสต์:
    532
    ค่าพลัง:
    +1,296
    ขอบคุณท่านลุงมหาครับ...ได้ความรู้เพิ่มขึ้นหลายหย่างครับ พรรคพวกที่มีว่านไพลดำ ลองทดสอบดูแล้ว ข้าวดำทั้งหม้อ ขีดไปที่กะลามะพร้าว เนื้อมะพร้าวเปลี่ยนเป็นสีดำ ใช้มือกำไพลดำไว้ เข็มแทงไม่เข้า...
    กำลังเสาะหาอาจารย์ที่สามารถทำน้ำมันตาทิพย์อยู่ครับ...
     
  20. sritrang

    sritrang เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2013
    โพสต์:
    6,131
    ค่าพลัง:
    +1,616
    เจอแล้วบอกด้วยนะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...