เปิดตำนานของวิเศษสุดยอด

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Silver11Wing, 9 มีนาคม 2014.

  1. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ทำใมมันยากนัก๒

    ขออนุญาตครับ
    เห็นบางท่านชักชวนคนมาลงทุน ทั้งหาของ ทั้งออกค่าใช้จ่าย เป็นเงินสูงถึง หลักล้าน

    แล้วผมเอน็จอนาจใจแทน

    ผมตะเวณไปทั่วในวงการนี้ พบเจอคนเป็นจำนวนมาก
    บางคน บางท่าน บางกลุ่ม ทำมา ๒๐-๓๐ ปี ยังหาเงินล้านเดียวยังหาไม่ได้

    บางคน บางท่าน บางกลุ่ม ทำมา ๕-๑๐ ปี หมดไป หลัก ล้านบ้าง หลัก ๑๐ ล้านบ้าง หลัก ๒๐ ล้านบ้าง

    มีบางท่านหมดไปเกือบ ๒๐๐ ล้าน ถ้าไม่เจอทั้งคนสนิท ถ้าไม่เจอทั้งญาติสนิท ผมก็ไม่เชื่อเหมือนกัน

    วงการนี้ หน้าใหม่ๆ วงการนี้ มือใหม่ๆ หมุนเวียนเปลี่ยนกันเข้ามาไม่ขาดสาย

    คนที่เขาเข้าถึงจริง คนที่เขารู้จริง เงียบเป็นเป่าสาก เพราะกลัวว่า พูดมากไปเป็นการเพิ่มคู่แข่งให้ตัวเอง

    พวกที่เที่ยวโพนทนา

    ล้วนพวก ใจไม่ถึง
    ล้วนพวก ไม่สู้พอ
    ล้วนพวก ไม่ทรหดพอ

    เจอพวกหลอกลวงต้มตุ๋น แล้วผ่านไปไม่ได้ สูญเงินเปล่า

    แล้วเที่ยวไปออกข่าว แล้วเที่ยวไปโพนทนา แล้วเที่ยวไปกระจ่ายข่าว

    เรื่องราวชั่วร้ายเลวทราม ต่างๆนาๆ

    ธุรกิจก็คือธุรกิจ ซื้อมา ขายไป กำไร ขาดทุน

    ของอย่างเดียวกัน บางคนได้มาฟรีๆ
    ของอย่างเดียวกัน บางคนได้มาถูกๆ
    ของอย่างเดียวกัน ต่างคน ต่างได้มา ด้วยต้นทุน ลดหลั่นกันไป

    ของอย่างเดียวกัน บางคน ขายได้ ราคาถูกๆ
    ของอย่างเดียวกัน บางคน ขายได้ ราคากลางๆ
    ของอย่างเดียวกัน บางคน ขายได้ ราคาสูงๆ
    ของอย่างเดียวกัน บางคน ขายได้ ราคาสูงลิบลิ่ว

    ของชิ้นเดียวกัน อยู่กับบางคน ไม่มีฤทธิ์ ไม่มีเดช ทดสอบกี่ครั้งๆ ก็ไม่ผ่าน
    ของชิ้นเดียวกัน อยู่กับอีกคน มีทั้งฤทธิ์ มีทั้งเดช ทดสอบเมื่อไรก็ผ่าน

    แล้วจะเชื่อใคร?
    แล้วจะโทษใคร?

    บุญ วาสนา บารมี สติ ปัญญา
    ทัศนคติ จริต นิสสัย สันดาน

    ข้อจำกัดของแต่ละผู้คน

    รวมถึง

    อด ทน ต่อสู้ ฝ่าฟัน

    ใครอ่านเกมออก ใครมองทะลุปรุโปร่ง ก็คนนั้นล่ะครับ มีสิทธิ ทำงานให้สำเร็จได้

    ขนาดมีพระเครื่องที่ ลองแล้ว ลองอีก ทั้ง .๓๘ ลูกโม่ ทั้ง ๑๑ มม.

    เล็งพระแล้ว ''แชะ''
    เล็งขึ้นฟ้า ''โป้ง''

    ลองจนเมื่อย ลองจนเบื่อ แค่ค่าใช้จ่ายแค่ หมื่นเดียว แลกกับของผ่าน ทดสอบแค่ สองนัด รับ ๘๐ ล้านบาทไทย

    เจ้าของยังไม่ยอมเอาพระเข้าสนามเลยครับ

    แล้วจะให้หาไพรดำ แล้วให้ออกเงินอีก ๑ ล้านบาท ชาติใหนจะหาเจอครับ

    เพราะ ครีมตาทิพย์ ก็ดี ครีม ปากเคล็ด ก็ดี หรือแม้แต่เหล็กไหลน้ำหนึ่ง ก็ดี

    ก็เห็นปู่ฤๅษี แจกลูกศิษย์ ออกบ่อยไป ค่าครูก็แค่ หลักร้อยแก่ๆ หรือหลักพันต้นๆ ก็แค่นั้นเอง

    ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะผมไปรู้ไปเห็นมาด้วยตนเอง

    ปู่ท่านจะทำ ครีมตาทิพย์+ครีมปากเคล็ด เป็นของอย่างเดียวกัน ท่านจะทำครั้งละ โหล คือ ประมาณ ๒ ลิตร หมดแล้วทำใหม่

    เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ท่านบอกเล่าว่า

    ''ขนาดข้าทำเอง หาของเอง ยังใช้ทุนไป ๗ ล้านบาท เป็นคนอื่นทำ ไม่รู้จะหมดเท่าไร?"

    ใครกล้าจ่ายก็จ่ายไป แต่จะคืนทุนหรือไม่ ก็พากันคิดกันเอาเอง

    เพราะคนที่พานายไปเสียเงิน ๒๐ กว่าล้านแค่เวลา ๔-๕ ปี

    เขาบอกออกมาว่า '' ผมพอแล้ว ผมเลิกแล้ว ผมไม่เอาอีกแล้ว''

    ส่วนคนที่ไปกับนายที่เสียไปเกือบๆ ๒๐๐ ล้านบอกแค่ว่า

    ''ผมไม่อยากจะพูดถึงมันอีก ดูเหมือนใกล้จะได้ แต่มันพลิกหนีได้ตลอด ผมเข็ดแล้ว ผมพอแล้ว''
    ''ขนาดตามนายไปเฉยๆ รถพังไป ๕ คัน มอเตอร์ไซด์พังไปอีก ๑ คัน เหลือแต่จักรยานก็ยังไม่เลิก''
    ''ดอกยางจะมีหรือไม่ ไม่สนใจ ขอให้ติดเครื่องได้เป็นพอ ได้ข่าวที่ใหน บึ่งไปลูกเดียว''

    วงการนี้ สำหรับผู้มี บุญ บารมี สติ ปัญญา อย่างพอเพียง

    ใครคิดว่าตัวเองแน่ เก่งจริงก็เข้ามาเลย

    เสือ สิง กระทิง แรด หรือแม้แต่ ฮายีน่า รออยู่เพียบ

    ขอโมทนาบุญ

    ลุงมหา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กรกฎาคม 2015
  2. Silver11Wing

    Silver11Wing ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +570
    ผู้น้อยขอน้อมรับคำชี้แนะครับลุงมหา

    ตัวผมเองไม่ได้คิดเข้าวงการ หรือหากินกับวงการนี้นะครับ

    ก็แค่ได้รับได้รู้เรื่องราวสิ่งต่างๆเหล่านี้และเกิดสนใจครับ

    หาอะไรอยู่ ก็ถามหาออกมาตรงๆครับ หากันซื่อๆครับ ไม่ได้คิดอะไรมาก

    เคยเสียเงิน เสียเวลา กับสิ่งเหล่านี้มามากเหมือนกันครับ

    แต่คงไม่มากเท่าไหร่ ถ้าเทียบกับคนอื่นๆอีกมาก

    เพราะมีไม่มากจะให้เสียครับ ถ้ามีก็คงหมดเหมือนกัน

    ได้เรียนได้รู้อะไรมากมายครับ ไม่เสียปล่าว

    ตอนนี้ก็หาอย่างมีสติครับ ไม่ใช้เงิน ไม่ใช้เวลา อย่างลุ่มหลงมัวเมาครับ

    ที่มาถามหา ก็มาถามหาคนที่มีครับ ไม่ได้มีเจตนาให้ใครไปหา

    ***เอาเป็นว่าขอเตือนนะครับสำหรับใครที่ได้มารู้มาเห็น มาอ่านอะไรในนี้แล้ว เกิดกิเลสความโลภขึ้น ขอให้ดึงสติกลับมานะครับ อย่าได้ไปตามหาของอย่างที่ว่านี้ โดยการทุ่มเงิน ทุ่มเวลาลงไป ถ้าหาไม่ได้สิ่งที่เสียไปทั้งหมดอาจจะไม่ได้คืนมาอีกเลยครับ***

    แต่ถ้าสนใจแล้วถามหาคนใกล้ชิด คนรู้จัก โดยไม่ต้องเสียเงิน เสียเวลามากนัก ก็ลองดูได้ครับ หาแบบตั้งสติกันนิดนึงนะครับ สิ่งที่ต้องระวังมากที่สุด คือ ความโลภในใจเราครับ

    ใครมีใครหาได้ PM มาคุยกันได้ครับ

    สายวิชาที่จะไปทำกันนั้น ได้ทั้งตาทิพย์ ปากเข็ด และอื่นๆอีกที่ไม่อยากเปิดเผยให้รู้เป็นสาธารณะครับ

    ทีแรกก็ว่าจะบอกแต่เรื่องตาทิพย์อย่างเดียว เห็นลุงมหาพูดเรื่องปากเข็ดขึ้นมา ก็จะบอกเพิ่มให้อีกอย่างก็ได้ครับ คือได้ปากเข็ดด้วย

    ส่วนอย่างอื่นไม่ขอบอกเป็นสาธารณะครับ จะบอกกับผู้ที่ไปทำร่วมกันเท่านั้น

    ไพลดำ 1 หัว ทำได้ไม่กี่คนครับ แต่ไม่ใช่แค่คนเดียวแน่นอน

    ถ้าพูดไปขนาดนี้แล้วคนที่รู้เรื่องจะทราบแล้วครับ ว่าผมหมายถึงสายวิชาไหน

    และคนที่เคยทำสำเร็จคือใคร และไปถึงไหนกันแล้ว

    ยังไงอ่านจบแล้วได้โปรดอย่าลืมคำเตือนกันนะครับ



    ลุงมหาสบายดีนะครับ ไม่ได้คุยกันนานเลย

    ยังไงก็ขอขอบคุณลุงมหาครับที่มาเตือน
     
  3. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    รกพระอินทร์ ๒

    ขออนุญาตครับ

    ได้ยินศิษย์คุยกันว่าเจอกาฝากมะขามแล้ว ถามกันไปมาว่า ''ทำอะไรได้บ้าง''
    ผมก็เลยบอกไปว่า

    ๑. ทำน้ำมันตาทิพย์ ถ้ามีขนาดปูดใหญ่พอเพียง
    ๒. ทำเครื่องราง มหาอุด สูตรนี้สายอยุธยาช่ำชองมาก เพราะบอกเล่าต่อๆกันมาจากสายนี้

    เขาก็เลยตัดมาให้ผมเอาไปทำต่อ ผมไม่แน่ใจก็ให้เขาพาไปดูต้นด้วย
    เมื่อดูต้นแล้วก็ถ่ายถาพมาให้ดูนี่ล่ะครับ

    ชุดนี้ได้จาก จ.นครพนม แดนพุทธภูมิครับ

    ขอโมทนาบุญ

    ลุงมหา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กรกฎาคม 2015
  4. mind stone

    mind stone เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2010
    โพสต์:
    532
    ค่าพลัง:
    +1,296
    กาฝากต้นแจ้งทำได้มั๊ยครับลุงมหา
     
  5. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ตาทิพย์ๆๆ

    ขออนุญาตครับ

    สูตรทำน้ำมันตาทิพย์มีหลายสูตรมากๆครับ เช่น

    สูตร๑ ใช้หัวว่านไพรดำ อันนี้ราคาสูงครับ หลักล้าน สูตรนี้ดีที่สุด

    ส่วนสูตรอื่นๆที่พอทำได้เช่น

    กาฝากต้นแจ้ง อันนี้ใช้รวมกับ ไม้แย้กอด

    กาฝากลิ้นฟ้า

    กาฝากมะขาม

    กาฝากไผ่

    ทุกอย่างต้องรู้วิธีตัด และห้ามทำพิธีขอหวยก่อน
    มีกาฝากไผ่เท่านั้นที่ทำหวยมาก่อนก็ยังใช้ได้

    กาฝากมะขาม กาฝากลิ้นฟ้า กาฝากต้นแจ้ง อาจารย์จะบอกวิธีขอวิธีตัดให้ ให้ตัดเอามาเอง

    แต่กาฝากต้นใผ่ อาจารย์ต้องไปทำพิธีเอง

    มีทั้งแบบซื้อขาด และ แบบทำแล้วแบ่งของ

    ขอโมทนาบุญ

    ลุงมหา
     
  6. spaiderman

    spaiderman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    588
    ค่าพลัง:
    +6,900
    ได้บังเอิญเข้ามาอ่านและพบกระทู้นี้โดยบังเอิญ ได้อ่านบทความของหลายๆ ท่านแล้วก็ได้ความรู้เพิ่มขึ้นอีกมากเลยครับ โดยเฉพาะบทความของ "ลุงมหาด" ผมยอมรับเลยครับว่า ถึงผมจะไม่เคยพบเจอตัวจริง ไม่เคยพูดคุยด้วยเป็นการส่วนตัว รู้จักลุงมหาดผ่านบทความผ่านตัวอักษรในกระทู้นี้ ผมรู้สึกเคารพและเลื่อมใสในตัวคุณลุงและผมสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่ยิ่งใหญ่และน่าเคารพในตัวคุณลุงมหาด เท่าที่คุณลุงได้เมตตามาชี้แนะและแบ่งปันในบอร์ดนี้ ผมรู้สึกว่ามันแค่เศษเสี้ยวเมื่อเทียบกับที่คุณลุงมี หลายอย่างที่ผมได้อ่านแล้วทำให้ผมได้แง่คิดดีๆ หลายๆ อย่าง รวมถึงข้อสงสัยในใจบางข้อก็ได้ความกระจ่าง ก็ต้องขอขอบคุณคุณลุงมหาดมากน๊ะครับที่เมตตาเข้ามาร่วมสนทนาและแลกเปลี่ยนความคิด ความรู้ ประสบการณ์ รวมถึงท่านเจ้าของกระทู้ และท่านอื่นๆ ด้วยน๊ะคับ จะคอยติดตามกระทู้นี้ต่อครับ ^__^
     
  7. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ผมเป็นตัวผมเอง

    ขออนุญาตครับ

    ขอขอบคุณครับที่ท่านกล้าหาญชาญชัยแสดงตนออกมา

    ตัวผมก็เป็นตัวผมเอง เพียงแต่ช่วงยาวๆของชีวิต ปฏิบัติอย่างเอาจริงเอาจังก็เท่านั้น

    ถ้าอยากอ่านมันๆ ก็ตามดู ก็ตามอ่านที่ ชื่อ ''ลุงมหา'' เมื่อเข้าในชื่อนั้นไม่ได้ติดต่อกันนานหลายเดือน

    ผมจึงต้องลงทะเบียนใหม่ในชื่อ ''ลุงมหา๑'' (''ลุงมหา'' กับเลข ''๑'' ไทย)

    ถ้าอยากอ่านธรรมปฏิบัติมันๆ ก็ค้นหาที่ ''สติดีดออกจากสมาธิ'' ในกูเกิ้ลได้

    น่าเสียดายที่ท่านเจ้าของกระทู้ทนแรงเสียดทานไม่ใหว ก็เลยปิดกระทู้ไป

    ในบอร์ดนี้ก็เช่นกัน ผมถือว่าผมเข้ามาเขียนเป็นวิทยาทาน

    ใครเข้าใจก็หาประโยชน์ได้ ใครไม่เข้าใจก็เรื่องของเขา

    ขอโมทนาบุญในกุศลผลบุญของท่านที่รับรู้ได้

    ขอโมทนาบุญ

    ลุงมหา

    ญาติธรรมหลายๆท่านเป็นห่วงว่า ผมทำไมจึง ลดหย่อนการปฏิบัติ

    แต่ผมถือว่า ผมเป็นตัวของตัวเองดีที่สุด การทนุบำรุงพระพุทธศาสนา เป็นเรื่องยากสุดๆ

    แต่ผมก็เพียรพยายามทำในมุมของตนเอง ก็เพราะว่า

    มันยาก
    มันท้าทาย
    มันไม่มีใครทำได้

    ก็แค่นั้นเอง

    บนเส้นทางการเวียนว่ายตายเกิดอันยาวไกล
    มันไม่ใช่แค่ไปให้ถึงในเส้นทางที่สั้นที่สุด
    แต่ไปในเส้นทางที่คุ้มมากที่สุดต่างหาก

    เพราะบนเส้นทางนั้น ไม่ใช่เฉพาะ บุญ-กุศล หากแต่เป็น บุญ-บารมี ด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กรกฎาคม 2015
  8. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ทำไมมันยากนัก 3

    ขออนุญาตครับ

    ผมโลดแล่นในวงการนี้แม้ไม่นาน ผมก็พอสรุปได้ว่า ที่ควบคุมมนุษย์ในทุกๆวงการคือ

    ศรัทธา ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา
    ทัศนคติ จริต นิสสัย สันดาน
    ข้อจำกัดของแต่ละผู้คน

    เมื่อคนผู้หนึ่ง เมื่อคนกลุ่มหนึ่ง เมื่อคนหลายๆกลุ่ม ทำงานใดๆก็ตาม

    งานจะสำเร็จกันหรือไม่ ก็ขึ้นกับองค์ประกอบ ของความสำเร็จว่า ครบถ้วนหรือไม่?

    เมื่อองค์ประกอบของความสำเร็จไม่ครบถ้วน
    แล้วงานจะสำเร็จออกมาได้อย่างไร?

    น่าเสียดาย เพราะข้อจำกัดของแต่ละบุคคล
    น่าเสียดาย เพราะข้อจำกัดของแต่ละกลุ่ม

    ล้วนแตกต่างออกไป ตามองค์ประกอบของบุคคล
    ล้วนแตกต่างออกไป ตามองค์ประกอบของกลุ่มนั้นๆ

    เมื่ออยากจะทำให้ องค์ประกอบของความสำเร็จครบถ้วน

    ก็ต้องรวบรวมบุคลต่างๆเข้ามาใว้ด้วยกัน ซึ่งก็คือ

    การรวบรวมเอาบุคลต่างๆเข้ามาใว้ด้วยกันจนทำให้มีองค์ประกอบของความสำเร็จครบถ้วน

    หรืออีกแบบหนึ่งก็คือ การรวบรวมเอากลุ่มต่างๆเข้ามาใว้ด้วยกัน
    จนเกิดการมีองค์ประกอบของความสำเร็จครบถ้วน

    จึงจะทำงานให้สำเร็จออกมาได้

    อยากให้มีประสิทธิภาพ อยากให้มีประสิทธิผล ก็คือ
    ลดจำนวนคน ลดจำนวนกลุ่ม ให้เหลือน้อยที่สุด แต่ก็ยังมีองค์ประกอบของความสำเร็จครบถ้วนอยู่ได้

    ที่น่าแปลกประหลาดก็คือ แต่ละคน แต่ละกลุ่ม กลับไม่มีใครสามารถ
    มององค์ประกอบของความสำเร็จได้ครบถ้วน

    ที่น่าแปลกประหลาดยิ่งขึ้นก็คือ แต่ละคน แต่ละกลุ่ม
    กลับหลงผิด กลับหลงประเด็น เพราะต่างก็เชื่อมั่นว่า
    องค์ประกอบที่ตนยึดถืออยู่นั้นแต่ละองค์ประกอบล้วนถูกต้องแม่นยำทั้งสิ้น

    โดยมองไม่ออกว่า

    ที่ผิดๆตรงใหน?
    ที่ผิดๆอย่างไร?
    แล้วจะแก้ไขได้อย่างไร?

    จึงทำให้งานมันสำเร็จออกมาไม่ได้

    กว่าจะรู้ตัวว่าองค์ประกอบของตน ของกลุ่มตนผิด

    แม้หมดอายุขัยตายไปแล้ว ก็ยังไม่เข้าใจ
    แม้หมดตัวแล้ว ก็ยังไม่เข้าใจ
    แม้อ่อนหล้าแล้ว ก็ยังไม่เข้าใจ

    ก็เพราะว่ามนุษย์นั้น ไม่สามารถเข้าใจ ในสิ่งที่เกินกำลังของตนจะเข้าใจได้

    กลับไปคิดจะทำในสิ่งที่ไม่มีทางที่จะเป็นไปได้ แล้วมันจะสำเร็จได้อย่างไร?

    แล้วมันจะสำเร็จได้อย่างไร?

    ง่ายๆๆ ง่ายแสนง่าย

    รวบรวมองค์ประกอบของความสำเร็จให้ครบถ้วน

    รวบรวมคนที่มีองค์ประกอบของความสำเร็จมาให้ครบถ้วน

    รวบรวมกลุ่มของคนที่มีองค์ประกอบของความสำเร็จมาให้ครบถ้วน

    งานก็จะสำเร็จออกมาได้

    ว่าแต่ว่า แล้วจะแบ่งสรรปันส่วนกันอย่างไร?

    ตกลงสัดส่วน ตกลงผลประโยชน์ ไม่ลงตัว
    มีคน มีกลุ่ม เอาองค์ประกอบของความสำเร็จออกไป
    งานล่ม เสียทั้งเงิน เสียงทั้งชื่อเสียง เสียทั้งความเชื่อถือ เสียทั้งเวลา

    ง่ายใหม ยากใหม น่าสนใจใหม มีอะไรที่ยากกว่านี้ใหม

    จากประสบการที่ผมพบเจอมา ไม่น่าเชื่อว่า งานจะล่ม เพราะองค์ประกอบของความสำเร็จที่ดูว่าง่ายแสนง่าย

    แต่กลับหาคนที่มีบุญวาสนาบารมี มารับรู้ มาเข้าใจ กลับยากอย่างยิ่ง

    ที่เขียนให้อ่านมานี่ พากันเข้าใจใหม

    มองเห็นประโยชน์ของข้อคิด ของข้อเขียนของผมบ้างใหม?

    ขอโมทนาบุญ

    ลุงมหา
     
  9. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ทำไมมันยากนัก 3

    ขออนุญาตครับ

    ผมโลดแล่นในวงการนี้แม้ไม่นาน ผมก็พอสรุปได้ว่า ที่ควบคุมมนุษย์ในทุกๆวงการคือ

    ศรัทธา ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา
    ทัศนคติ จริต นิสสัย สันดาน
    ข้อจำกัดของแต่ละผู้คน

    เมื่อคนผู้หนึ่ง เมื่อคนกลุ่มหนึ่ง เมื่อคนหลายๆกลุ่ม ทำงานใดๆก็ตาม

    งานจะสำเร็จกันหรือไม่ ก็ขึ้นกับองค์ประกอบ ของความสำเร็จว่า ครบถ้วนหรือไม่?

    เมื่อองค์ประกอบของความสำเร็จไม่ครบถ้วน
    แล้วงานจะสำเร็จออกมาได้อย่างไร?

    น่าเสียดาย เพราะข้อจำกัดของแต่ละบุคคล
    น่าเสียดาย เพราะข้อจำกัดของแต่ละกลุ่ม

    ล้วนแตกต่างออกไป ตามองค์ประกอบของบุคคล
    ล้วนแตกต่างออกไป ตามองค์ประกอบของกลุ่มนั้นๆ

    เมื่ออยากจะทำให้ องค์ประกอบของความสำเร็จครบถ้วน

    ก็ต้องรวบรวมบุคคลต่างๆเข้ามาใว้ด้วยกัน ซึ่งก็คือ

    การรวบรวมเอาบุคคลต่างๆเข้ามาใว้ด้วยกันจนทำให้มีองค์ประกอบของความสำเร็จครบถ้วน

    หรืออีกแบบหนึ่งก็คือ การรวบรวมเอากลุ่มต่างๆเข้ามาใว้ด้วยกัน
    จนเกิดการมีองค์ประกอบของความสำเร็จครบถ้วน

    จึงจะทำงานให้สำเร็จออกมาได้

    อยากให้มีประสิทธิภาพ อยากให้มีประสิทธิผล ก็คือ
    ลดจำนวนคน ลดจำนวนกลุ่ม ให้เหลือน้อยที่สุด แต่ก็ยังมีองค์ประกอบของความสำเร็จครบถ้วนอยู่ได้

    ที่น่าแปลกประหลาดก็คือ แต่ละคน แต่ละกลุ่ม กลับไม่มีใครสามารถ
    มององค์ประกอบของความสำเร็จได้ครบถ้วน

    ที่น่าแปลกประหลาดยิ่งขึ้นก็คือ แต่ละคน แต่ละกลุ่ม
    กลับหลงผิด กลับหลงประเด็น เพราะต่างก็เชื่อมั่นว่า
    องค์ประกอบที่ตนยึดถืออยู่นั้นแต่ละองค์ประกอบล้วนถูกต้องแม่นยำทั้งสิ้น

    โดยมองไม่ออกว่า

    ที่ผิดๆตรงใหน?
    ที่ผิดๆอย่างไร?
    แล้วจะแก้ไขได้อย่างไร?

    จึงทำให้งานมันสำเร็จออกมาให้ได้

    กว่าจะรู้ตัวว่าองค์ประกอบของตน ของกลุ่มตนผิด

    แม้หมดอายุขัยตายไปแล้ว ก็ยังไม่เข้าใจ
    แม้หมดตัวแล้ว ก็ยังไม่เข้าใจ
    แม้อ่อนหล้าแล้ว ก็ยังไม่เข้าใจ

    ก็เพราะว่ามนุษย์นั้น ไม่สามารถเข้าใจ ในสิ่งที่เกินกำลังของตนจะเข้าใจได้

    กลับไปคิดจะทำในสิ่งที่ไม่มีทางที่จะเป็นไปได้ แล้วมันจะสำเร็จได้อย่างไร?

    แล้วมันจะสำเร็จได้อย่างไร?

    ง่ายๆๆ ง่ายแสนง่าย

    รวบรวมองค์ประกอบของความสำเร็จให้ครบถ้วน

    รวบรวมคนที่มีองค์ประกอบของความสำเร็จมาให้ครบถ้วน

    รวบรวมกลุ่มของคนที่มีองค์ประกอบของความสำเร็จมาให้ครบถ้วน

    งานก็จะสำเร็จออกมาได้

    ว่าแต่ว่า แล้วจะแบ่งสรรปันส่วนกันอย่างไร?

    ตกลงสัดส่วน ตกลงผลประโยชน์ ไม่ลงตัว
    มีคน มีกลุ่ม เอาองค์ประกอบของความสำเร็จออกไป
    งานล่ม เสียทั้งเงิน เสียงทั้งชื่อเสียง เสียทั้งความเชื่อถือ เสียทั้งเวลา

    ง่ายใหม ยากใหม น่าสนใจใหม มีอะไรที่ยากกว่านี้ใหม

    จากประสบการที่ผมพบเจอมา ไม่น่าเชื่อว่า งานจะล่ม เพราะองค์ประกอบของความสำเร็จที่ดูว่าง่ายแสนง่าย

    แต่กลับหาคนที่มีบุญวาสนาบารมี มารับรู้ มาเข้าใจ กลับยากอย่างยิ่ง

    กลับหาคนที่จะมารวบรวมองค์ประกอบนั้นได้ยากอย่างยิ่ง

    ทั้งๆที่มันง่ายแสนง่ายสำหรับผม

    ที่เขียนให้อ่านมานี่ พากันเข้าใจใหม

    มองเห็นประโยชน์ของข้อคิด ของข้อเขียนของผมบ้างใหม?

    ขอโมทนาบุญ

    ลุงมหา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กรกฎาคม 2015
  10. ถวายบูชา

    ถวายบูชา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    169
    ค่าพลัง:
    +560
    คุณลุงมหารู้จักผมฤาษีที่เกิดงอกจากถ้ำไหมครับอยากฟังครับ
     
  11. Silver11Wing

    Silver11Wing ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +570

    ลุงมหาครับ อ่านบทความนี้ของลุงมหาก็รู้สึกสกิดใจอยู่ไม่น้อยเหมือนกันครับ

    แต่ด้วยความด้อยปัญญาของผู้น้อย ทำให้ไม่สามารถ หาคำตอบได้ว่า

    องค์ประกอบของความสำเร็จที่ขาดไป คือ อะไร

    แต่ผมก็ยึดหลักอิทธิบาทสี่ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา

    ก็ทบทวนอยู่ทุกครั้ง ก็ไตร่ตรองอยู่ทุกทีครับ

    ว่าที่ทำอยู่ยังขาดอะไร ว่าที่ทำอยู่จะทำยังไงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ให้สำเร็จได้เร็วขึ้น

    คงไม่มีใครเกิดมาแล้วรู้เลยจริงมั้ยครับ ก็ต้องคิดกันไป ทำกันไป เรียนรู้กันไป

    และก็เสาะแสวงหากันไป หาตำรา หาผู้รู้ หาครูบาอาจารย์ คอยบอกกล่าว สั่งสอน และตักเตือน

    ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน ที่ผมกับลุงมหาได้มาพูดคุยกัน

    จิตผม ใจผม อาจจะกำลังค้นหา ผู้รู้ ครูบาอาจารย์ อยู่เพื่อหาคำตอบ ให้กับเป้าหมายที่หวังอยู่

    ในคำตอบ ของคำถามนั้น ที่ว่าองค์ประกอบของความสำเร็จ คืออะไร

    ลุงมหาพอจะบอกกล่าว ให้ผู้น้อยได้รับได้รู้ เพื่อถือว่าเอาบุญสักหน่อยจะได้มั้ยครับ

    ด้วยความเคารพอย่างสูงครับ ช่วยชี้ทางให้ผู้น้อยด้วยครับ
     
  12. spaiderman

    spaiderman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    588
    ค่าพลัง:
    +6,900
    อ่านบทความของคุณลุงมหาแล้ว ผมก็มานั่งคิดว่า ควรจะพิมพ์ลงในกระทู้ดีมั้ย ไม่ได้กลัวว่าจะเข้าใจผิด แต่กลัวว่าคิดผิดแต่ไม่รู้ตัวเองว่าผิดมากกว่า ที่สำคัญ กลัวว่าอาจจะไปทำให้ท่านผู้ใดหมั่นใส้หรือเปล่า ถ้าทำให้ท่านผู้ใดไม่พอใจ กระผมก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยน๊ะครับ...... ตามที่ผมเข้าใจคือ องค์ประกอบที่สำคัญ ไม่ได้อยู่ที่จำนวนคน ไม่ได้อยู่ที่จำนวนทรัพย์ แต่อยู่ที่ตัวเรา ใช่ไหมครับ เพราะอย่างที่คุณลุงแจงว่า "ศรัทธา ทาน ศีลครบ สมาธิ ปัญญา ทัศนคติ จริต นิสสัย สันดาน" ทุกอย่างมันสามารถรวมอยู่ในตัวเราได้ และสิ่งเหล่านี้นอกจากที่คุณลุงกล่าวมา ผมคิดว่ามันอยู่ที่วาสนาด้วย หากแม้ว่า "ศรัทธา ทาน ศีลครบ สมาธิ ปัญญา ทัศนคติ จริต นิสสัย สันดาน" สิ่งเหล่านี้ครบ แต่วาสนาไม่ถึง ถึงแม้เราจะมีทุนมากถึงขนาดตั้งหน้าตั้งตาทำต่อไปได้จนตายโดยไม่เดือดร้อน แต่ก็ไม่อาจได้มา หรือบางคนมีวาสนา แต่ถ้าสิ่งเหล่านั้นไม่ครบ ก็อาจมีโอกาศพบ เจอ แต่ก็ไม่อาจได้ครอบครอง และถ้าสิ่งที่ผมเข้าใจนั้นถูกต้อง ผมว่าท่าน Silver11Wing คงต้องย้อนกลับไปพิจารณาดูจากจุดเริ่มต้นใหม่แล้วละครับ ถ้าไม่อย่างนั้นเส้นทางของท่าน Silver11Wing คงจะอีกยาวไกลมากๆ บางครั้ง ความพยายาม อาจไม่สู้วาสนา ฟ้าลิขิต ผิดหรือถูกประการใด ก็ขอให้ทุกท่านชี้แนะด้วยครับ อย่างที่บอก ผมกลัวว่าคิดผิดแต่ไม่รู้ตัวเองว่าผิดมากกว่า...
     
  13. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ขาด ตก บก พร่อง

    ขออนุญาตครับ

    ท่าน spaiderman ถ้าติดตามอ่านข้อคิดข้อเขียนของผมคงมองเห็น คงจะจำได้ที่ผมมักจะเขียนว่า

    บุญ วาสนา บารมี สติ ปัญญา
    ทัศนคติ จริต นิสสัย สันดาน
    ข้อจำกัดของแต่ละผู้คน

    แต่รอบนี้กลับเขียนออกมาว่า

    ศรัทธา ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา

    แทน

    บุญ วาสนา บารมี สติ ปัญญา

    แม้ผมจะรู้ว่า ขาด ตก บก พร่อง แต่ก็ปล่อยให้ผ่านไป

    เพราะต้องรีบออกเดินทาง สำหรับผมแล้ว การเดินทางข้ามเขต ๕ จังหวัดในวันเดียวเป็นเรื่องปรกติ

    ขอโมทนาบุญ

    ลุงมหา
     
  14. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    รายละเอียดเยอะครับ

    ขออนุญาตครับ

    ผมฤๅษีที่งอกจากถ้ำมีรายละเอียดเยอะครับ

    อยากรู้รูปแบบใหนถามมานะครับ แนบรูปมาด้วยก็ดี

    ขอโมทนาบุญ

    ลุงมหา
     
  15. smoke777

    smoke777 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2013
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +11
    อยากได้ไม้แหย่แย้ๆๆๆๆๆๆ
     
  16. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ขาดวัตถุประสงค์?

    ขออนุญาตครับ

    อยากได้ไปทำอะไรครับ
    ถ้าอยากได้ไปป้องกันคุณไสย์+เปิดช่องทำมาหากิน ต้องมี 25,000 บาท + เบื้องบนอนุญาต
    ถ้าอยากได้ไปหาเจ้าสาว ที่หมายปอง รักจริงหวังแต่ง ก็ ขุนแผนพรายกุมาร หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ จ.ระยอง รุ่นนี้ผสมไม้แหญ่แย้เยอะมากๆ

    นอกจากนี้ต้องมีทุนหลักล้านก็ไม่รู้จะหาได้หรือเปล่า
    เพราะต้องกำเงิ่นล้านไปขอร้อง ผู้พาไปอีกที
    ดูๆหาไพรดำจะง่ายกว่า แต่ไพรดำต้องมี 2 ล้านครับ

    ขอโมทนาบุญ

    ลุงมหา
     
  17. smoke777

    smoke777 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2013
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +11
    555 โดนใจคับลุง

    ปันหาคือ บ่มีเงินแสนเงินล้านแบบนั้นสิ ถ้ามี เอาไปเป็นทุนจีบสาวแบบใช้ไอโฟนแต่งตัวหรู รถหรู ไปผับก็จีบได้แล้ว เพราะหล่ออยู่แล้วแต่บ่รวย ไม่ต้องห้อยขุนแผนรึไรทั้งนั้น

    คนหล่อขั้นเทพ+รวย+รถหรู ไม่ห้อยอะไรเลย ยังไงก็ชนะ-- พวกขี้เหล่ และไม่รวย ต่อให้ห้อยขุนแผน ปู่ทิม พันองค์้เต็มคอก็แพ้อยู่ดี สาวไม่สนหรอก ทอลองได้ที่พาราก้อน รึผับหรูที่ที่ทองหล่อ ต่อให้สีผึ้งเขียวถังนึงไปทาตัวสาว ก็จีบสู้ไอ้พวกไฮโซ หล่อ รวย รถหรู ไม่ได้อยู่ดี กำ..
     
  18. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ยอมแพ้ซะแล้ว

    ขออนุญาตครับ

    ยอมแพ้ตั้งแต่ต้นเลยหรือ?

    อยากมีแฟนเยอะๆ ก็ต้องศึกษา ว่าคนอื่นเขาทำได้อย่างไร?
    ไม่ใช่มาบอกว่า ต้องมีเงิน ต้องมีทุน ต้องมีรถหรู

    ต้องเริ่มต้นเท่าต้นทุนที่มี นี่ล่ะครับ
    เหมือนกับอยากจะค้า อยากจะขาย อยากจะลงทุน
    ก็ต้องอด ก็ต้องทน สะสมเงินทุน สะสมองค์ความรู้ องค์ความชำนาญ
    มีแต่เงินทุนอย่างเดียวไม่รอดหรอกครับ

    อยากมีแฟนแยอะ ก็ต้องศึกษา ก็ต้องเรียนรู้
    เรียนรู้ สังเกตุ จดจำ ฝึกฝน

    คนมีเงิน คนมีทุน คนมีรถหรู ใช่ว่าจะได้เปรียบ
    ผมใช้เวลาเป็นปีนอนอยู่ชายหาดที่เมือง อีล๊าท ประเทศอิสราเอล สมัยอายุยี่สิบกลางๆ
    นอกจากต้องเรียนภาษาอังกฤษแล้ว ผมยังต้องเรียนรู้ การสร้างความสัมพันธ์กับสาวๆ ไปด้วย
    สร้างความสัมพันธ์เป็นแล้ว ก็ต้องเรียนรู้วิธีพาสาวๆขึ้นสวรรค์อีก

    สรุปผมทำงานสร้างฐานทัพอากาศ มีลูกน้องเกือบๆ 50 คน แต่ตัวผมเองทำงานแค่วันละ 4-5 ชั่วโมงเท่านั้น

    ที่เหลือใช้ชีวิตเพลย์บอยอยู่แถวๆชายหาด บาร์เบียร์
    เพื่อนๆชาวยุโรปนึกว่าผมเป็นลูกมหาเศรษฐี มีอพาร์ทเม้นต์อยู่
    กินอยู่อย่างกับราชา มีเพื่อนฝูงมากหน้าหลายตา

    บางคนไม่เชื่อว่าผมทำงานเพราะเห็นผมไม่ทำอะไรทั้งวัน
    ผมต้องบอกว่าผมไปทำงานตีสี่ เลิกงาน สิบเอ็ดโมง ก็พอแล้ว
    หรือบางวันผมไปทำงานเที่ยงวัน เลิกงานห้าโมงเย็น
    ไม่ว่าคนไทยด้วยกัน หรือฝรั่งก็จับไม่ได้ว่าผมโดดงานเกือบทุกวัน

    อยากได้อะไร อยากเป็นอะไร ก็ต้องเรียนรู้ สังเกตุ จดจำ ฝึกฝน ให้ชำนาญ ก็แค่นั้นเอง

    องค์หลวงตามหาบัวท่านบอกท่านสอนว่า

    "จิตไม่มีอายุ ไม่มีวันแก่ ไม่มีวันเจ็บ ไม่มีวันตาย"

    แต่ที่ท่านไม่บอกก็คือว่า เมื่อปฏิบัติไปๆ

    จิตจะสดชื่นขึ้นๆ
    สติปัญญาจะรวดเร็วยิ่งขึ้นๆ
    อายุของจิตจะปรับลดลงๆ จนไปถึงจุดหนึ่ง
    ก็จะคงสะภาพอยู่อย่างนั้นไม่ได้แก่ไปตามอายุทางกายแต่อย่างไร?

    ท่านย่อมรู้ว่า จะระวังรักษาจิต อย่างไร
    ท่านย่อมรู้ว่า จะระวังรักษากาย อย่างไร

    และเมื่อถึงอายุที่รางกายเริ่มทรุดโทรม สัญญาความจำ ก็จะเริ่มจางลดลงๆ จึงปลดปล่อยไปตามธรรมชาติ

    ขอโมทนาบุญ

    ลุงมหา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 สิงหาคม 2015
  19. Silver11Wing

    Silver11Wing ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +570
    ลุงมหาครับ ถ้ามีโอกาสรบกวนถ่ายรูปมาให้ชมเป็นบุญตากันบ้างนะครับ

    เคยแต่ได้ยิน ยังไม่เคยได้เห็นสักทีครับ พระส่อง

    มีทีมงานเคยไปหา รู้จุด รู้ตำแหน่ง มีเป็นไหเลยครับ แต่เอาขึ้นมาไม่ได้

    วิชา บารมี ยังไม่ถึงกันครับ
     
  20. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ครูบาอาจารย์ผู้เก่งกาจ

    ขออนุญาตครับ

    ครูบาอาจารย์ ที่สามารถ แก้อาถรรย์ได้ทุก อย่าง
    ครูบาอาจารย์ที่อัญเชิญได้ทุกสิ่ง

    ที่ผมพบ ที่ผมเจอ มีแค่สามองค์

    องค์แรกคือทายาทสายฤทธิ์ของหลวงปู่ใหญ่ หลวงปู่ขาว พุทธรักขิโต

    องค์ที่สองเป็นมหาฤาษี เป็นอาจารย์ของผมเอง รวมทั้งพวกสายไสย์เวทย์อีกจำนวนมาก
    ผู้คนเป็นจำนวนมาก อยากพบอยากเจอท่าน โดยเฉพาะลูกศิษย์ ที่ขี้ผึ้งตาทิพย์หมด หรือขี้ผึ้งปากเคล็ดหมด ต้องไปขอใหม่
    หรือแม้แต่เหล็กไหลหายต้องไปขอใหม่

    องค์ที่สามเป็นพระหนุ่มทายาทสายวัดอโศการามที่แม้แต่ศิษย์ร่วมสำนักก็ไม่รู้จักท่าน
    องค์ท่านได้เมตตา มอบพระเครื่อง 1 องค์ และของขลังอีก 1 องค์ ห้อยคอประจำตัวผมอยู่ปัจจุบัน

    ขอโมทนาบุญ

    ลุงมหา
     

แชร์หน้านี้

Loading...