รบกวนขอวิธีที่จะทำให้โลภะและราคะเบาบางโดยไม่ต้องปลงอสุภะ

รู้สึกว่าตั้งแต่เข้ามาในเว็บนี้ สร้างศัตรูเอาไว้เยอะ

 

เค้าป่าวน๊า เค๊าไม่ใช่ วงจุด ไม่ใช่จอน

 

อ้าววว ทักผิด ขอโทษที :'(

 

ตัวผมมีแค่ ID นี้เท่านั้น ถ้าเกิดวันใดจับพลัดจับผลู ถูกสอย ก็คงไม่มีอีกแล้ว...

 

เวลาไปตรวจ พวกที่โดนข้อหา มักเว้าหยั่งเดียวกันโม๊ดดดดดด ว่า

" รู้จักตั้งแต่รัฐมนตรี มาจนถึงผู้ว่า ผู้กำกับ พอเช็คกลับ เอ๊า! ท่านเหล่านั้นบ่ฮู้จั๊กมัน สักราย ฮา "

 

มันก็ธรรมดา เพราะขณะที่เขาเข้าหาหลวงพ่อหลวงปู่เพื่อรับฟังซึมซับคำสั่งสอนนั้น
เขาก็เข้าหาท่านบาทหลวง โต๊ะอิหม่าม เพื่อรับฟังซึมซาบคำสั่งสอนด้วยเช่นกัน
ขณะที่เขาขอบวชในพระพุทธศาสนานั้น เขาก็เข้าพิธีรับศีลมหาสนิทจากบาทหลวงด้วยเช่นกันจงอย่าได้ลืมข้อนี้เสีย
ดังนั้นจึงไม่มีอะไรมาการันตีได้ว่า บุคคลผู้นี้จะเป็น สัมมาทิฏฐิ หรือมิจฉาทิฏฐิ
การจะรับฟังธรรมใดๆจากเขา จึงต้องใช้วิจรณญาณ และการตรวจสอบกับพระไตรปิฎกให้มากๆ :boo:

 

ทั้งนี้ โปรดอโหสิแก่กันเมื่อถกสิ้นสุด สาธุๆ

 

กระแสโลกมีกฏมีกติกามากหลายให้ยึดถือเกาะเกี่ยว
ถ้าใครทำผิดกฏหรือออกนอกกฏกติกาจะถูกกาหัวว่า
มิจฉาทิฏฐิ
ส่วนใครยึดกฏยึดกติกาได้แข็งโป๊กได้ชื่อว่าเป็น
สัมมาทิฏฐิ
แต่ในทัศนะของผู้พ้นโลกกลับไม่ใช่

จึงทำให้คนยังไม่พ้นโลกจำต้องตีโพยตีพายกันไป ยังไงก็ไม่ยอม
ทั้งนี้เพราะไม่สามารถ"ละ"ในสิ่งที่ตนยึดออกไปได้
เข้าใจอย่างนี้ถูกหรือผิดฮะ

 

คนพ้นโลกดูท่าดูทางว่า
ท่านเหล่านั้นจะวาง"คัมภีร์"
ทั้งหมดไว้ข้างหลัง....
แต่ยังเห็นความสำคัญว่าจำเป็น
สำหรับผู้ต้องการใช้เป็นเข็มทิศนำ
ทางสำหรับผู้สนใจใหม่ทุกรูปทุกนาม

 

ผมก็สงสัย

เมื่อปรุโปร่แล้ว

แต่ทำไม ยังเป็น ชายสามโบถ

ชายสามโบถ หมายความว่า

เข้าโบถ 3 ศาสนา


ถ้าฟังหลวงปู่พุธ ได้ปรุโปร่ง

คงจะได้ยิน คำว่า พระโสดาบัน มีความเคารพ เข้าถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
ไม่มีอื่นใด นอกจาก สรณะทั้งสาม

ฉะนั้นแล้ว การเป็นชายสามโบถ มันขัดกันน๊า

อีกอย่างนึง หลวงปู่ท่านเน้นห่วงนักปฏิบัติมาก
เกี่ยวกับนิมิตที่ไปเห็นใสสมาธิ ถึงขนาด หลวงปู่ ท่านกล่าวมาให้เป็นข้อคิดว่า

สิ่งที่เห็นในสมาธิมันเป็นของปลอม

เพราะหลวงปู่ท่านเอาหลักฐานที่ว่า ท่านภาวนาจน ร่างกายตัวเองแหลกเหลวเป็นผุยผง
แต่ พอลืมตาออกมา ร่างกาย ก็ยังอยู่เหมือนเดิม


หากเราไปหลงในสมาธินิมิต ในระหว่างภาวนา มันจะเป็นการหลงทาง
ท่านมักจะเตือนเสมอ


พี่ศรี มีโอกาสไปหาพระผู้ใหญ่

พี่ศรี ลองถามท่านไหมว่า หากคนบรรลุอรหันต์แล้ว
แล้วยังกลายมาเป็นพระศรีอาริยะเมตตรัย อีก มันเข้าข่าย วิปลาสไหม


เอาไว้ เดี๋ยวไปฟังหลวงพ่อทูล แล้ว มาใหม่ครับ



จะว่าไปก็เสียดาย อุส่า เกรินไว้กับหลวงปู่ละมัย
กะจะพาพี่ศรีไป ดันไม่ทันท่าน คงเป็นไปตามกรรม

พี่ศรีไปคนเดียว แต่ดันไม่ได้เจอซะงั้น ไม่งั้น มันส์น่าดู

 

ไม่เชื่อหรอก หุหุ

 

ครับโผ๊มมมม

 

อยากได้มากกกกกกกกกกกกกกกกก ซื้อให้หนุหน่อย

 

บางคนยกตัวเทียบพระพุทธเจ้า พระท่านเลยไม่อยากแตะ หลายองค์ท่านก็คงเฉย แผ่เมตตาให้สำนึกเร็ว นับวันยิ่งไปกันหญ่ายยยยย

 

ทางแห่งความพ้นทุกข์นั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ชอบแล้วว่า
ต้องละตัณหาทั้ง ๓ (กามตัณหา,ภวตัณหา,วิภวตัณหา)เสียก่อนจึงเข้าถึงได้ เรื่องนี้ไม่มีใครไปเปลี่ยนแปลงได้
เพราะเป็นอริยสัจจ์ ถ้าใครออกมาประกาศว่า สามารถทำให้เข้าถึงความดับทุกข์ได้
โดยไม่ต้องละตัณหาทั้ง ๓ ก็เท่ากับค้านอริยสัจจ์
เป็นอันคัดค้านคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปด้วย

 

ไปกินอะไรมา ดี หมี ที่เห็น หรือเปล่า

โพสหลังๆ ไม่มีเรื่อง การสะกดคำ มีแต่
เนื้อหาเชิงปฏิบัติ( ภาวนามัย ) เป็น เกณฑ์ ...เข้าเป้า..ลึกซึ้ง....แปลก
เพียงแรกแลบันดาลปีติเอ่อพ้นพรรณนา เห็นลีลาพาใจให้เย็นระงับนิ่ง
ทุกทุกสิ่งรอบรายกลับกลายภิรมย์สิ้น ความไร้มลทินอันยากเปรียบปาน
ความสราญวิมลแห่งผู้รู้ สุดแห่งยอดครู องค์สัพพัญญูเอก

ความซับซ้อนโอฬารที่มีที่เป็นอยู่ ครวญคิดดูเหมือนไร้ผู้อาจหยั่งรู้สิ้นแล้ว
แม้พบปราชญ์ผู้แพรวปัญญาแสนเรืองรอง ได้เรียนลองไตร่ตรองนานช้ารู้จำพ่าย
เพียงผู้ได้เป็นนายแห่งปัญญา จึงกาจกล้าท่วงทันสัจจะนั้น
เลิศยิ่งสามัญ ปัญญาพระพุทธส่อง

กลางหนทางวิบากยังมีศาลาร่ม ให้ชื่นชมธาราแห่งความการุณย์อันแท้
ซาบซึมแผ่ผ่านใจอันร้อนด้วยไฟใหญ่ ดับเชื้อไฟให้สิ้นสุดลงสิ้นทางต่อ
แบกรับกรรมเพียงพอแค่ชาตินี้ ได้จบทีเพราะมีเส้นทางไว้
ให้ได้โพล่งพลันสู่การรับรู้ใหม่ พระผู้จอมธรรมตถาคตพระองค์นั้น?



******************************************************************************



ภาพ ปลาย่างกรอบ จากอินเตอร์เน็ต : แสดงถึง ความเป็น สัปปายะ จริง หรือไม่จริง ฮะ !!!?

 

ตามคาด อิอิ

 

ใช่ ยังไงการออกความคิดเห็นควรยึดหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นหลัก การแสดงความคิดเห็นตามใจชอบของตัวเอง ควรระวังให้มาก

ตกลงที่คุณศรีบอกว่าลพ.ฤาษีลิงขาวมีเมีย นี่มีหลักฐานยืนยันมั้ย จะได้สิ้นสงสัย

 

ครับ ถึงแม้มีใครบางคนเชื่อว่าตนเองเป็นโพธิสัตว์ แต่ตราบใดที่ยังไม่ได้ตรัสรู้
ก็ไม่ควรยกตนเองเทียบเท่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
การอวดอ้างตนเองว่ามีวิธีการใหม่ๆที่ทำให้คนเข้าถึงธรรมได้
แล้วดูถูกกรอบกฏเกณฑ์เก่าๆที่ถูกสืบทอดกันมาว่าเป็นวิธีการที่ล้าหลัง
นับเป็นบาปมหันต์ ไม่น่าจะใช่สิ่งที่มีอยู่ในความคิดของผู้ที่จะมาตรัสรู้
ในวันข้างหน้า

 

คุณเอกวีร์ วันนี้มาแปลก ว่าเป็นร่ายมาเชียว จริงๆแล้ว ผมไม่ได้ลึกซึ้งอะไร
แค่แสดงความคิดเห็นไป ตามหลักคำสอนที่เคยได้ยินได้ฟังมาเท่านั้น