...สิ่งทั้งปวงย่อมเกิดด้วยเหตุปัจจัยมากมายหลายประการ.....หาได้เกิดเองโดยปราศจากเหตุหรือเกิดโดยบังเอิญไม่... ความที่สิ่งทั้งปวงเป็นอนัตตา...
....ท่านจขกท. มีความเป็นชาวพุทธที่หาได้ยากในปัจจุบัน ...ความคิดที่จะเปลี่ยนแปลงใครอื่นนั้น เป็นเจตนาไม่อาจเป็นไปได้...
.......เหตุแห่งการมีมิจฉาทิฏฐิ ไม่มีความรู้เรื่องกรรมและผล... ..... ไม่เชื่อว่ากรรมมีผล เห็นผิดว่าตายแล้วสูญ.. .....เห็นว่าเกิดมาชาติเดียว...
...คำตอบอยู่ตรงที่ high light ... ถ้อยคำของพาลชนเหล่านั้นย่อมไม่มีประโยชน์ทั้งแก่ตนและคนอื่น..เพราะไม่เป็นเป็นไปเพื่อศรัทธา ทาน...
...พระพุทธองค์ทรงตรัสสอนว่า"เจตนาเป็นกรรม" ดังนั้น เมื่อพิจารณา ข้อความที่ท่านจขกท.แสดงไว้ว่า... .. นี้เป็นเจตนาที่ดีเป็นไปกับ"กุศล"...
เจตนาแรกของท่านจขกท.นั้น "เป็นบุญ"..มีอยู่และสำเร็จไปแล้วด้วยความเพียร ส่วนเจตนาหลังที่ตามมา(มีการฉลองเหล้าเบียร์ของกินกับแกล้มต่างๆ...
...จริงแท้แน่นอน.....:cool::cool: ท่านsupakoกรุณาอธิบายให้ทราบเป็นความรู้เรื่องพ่อ...
...เมื่อไม่ได้ทำผิดอะไรก็ไม่ควรขออภัย..นะครับ..
...ก็ถูกอยู่แล้วว่าเอาเงินไปให้กัปปิยการกทำหน้าที่จัดหาสิ่งควรแก่สมณะบริโภค...ชัดเจนว่าอย่าเอาเงินถวายพระโดยตรง...
..ข้าพเจ้าทราบว่า...ไม่ว่าอดีต อนาคตและปัจจุบัน ตัณหาเป็นตัวสร้างวัฏฏะ..เพราะอวิชชาจึงมีตัณหา เพราะตัณหาจึงมีอุปทาน...
..เรื่องเช่นนี้ไม่ใช่สาระที่ข้าพเจ้าสนใจเลย..เพราะไม่มีประโยชน์ และเป็นทางมาของกิเลสมีมานะหรืออัตตาได้มาก เมื่อท่านมีก็ดีสำหรับท่าน...
..ท่านน่าจะทราบจากpostแรกของข้าพเจ้าแล้วว่ามีจุดประสงค์ใด .. ท่านเล่ามีจุดประสงค์ใดจึงมาในที่นี้..
..บอกตรงๆว่าไม่เคยอ่านข้อเขียนของใครๆนัก ทั้งเพิ่งทราบว่าท่านเป็นอริยบุคคลในเวลานี้ .. การมีเมตตานั้นถ้าไม่มีปัญญาย่อมทำไม่ได้...
..ท่านน่าจะทราบว่า ความคาดหวังเป็นปัจจัยแก่ความสมหวังและผิดหวังได้ เมื่อคาดสิ่งใดไม่ได้สิ่งนั้นโทมนัสย่อมหวังได้..จึงเป็นที่มาของการถูกรมควันไฟ...
ท่านเป็นคนที่พยายามจะทำตนให้น่ารัก และอิงอาศัยสิ่งนอกตัวเป็นตัวกำหนด ไม่มีความมั่นใจ หรือศรัทธาสิ่งใดแท้จริง...เรื่องเช่นนี้...
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค เช่น พลังจิต, พุทธศาสนา