ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดพ่อสมหวังบรรจุธาตุพระปัจเจก(ขอทรัพย์พระปัจเจก) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    ก่อนนอนก็อย่าลืมกราบพระทำจิตให้เป็นกุศลและภาวนาแผ่เมตตากันนะครับ อะไรทุกข์อะไรกลุ้มปล่อยวางมันก่อนนะ :cool:
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    ก็เพิ่งกลับจากไปส่งของมาได้นั่งคุยอะไรหลายๆเรื่อง พอดีเปิดไลน์อ่านมีพี่ท่านนึงที่บูชาของไปบอกว่าเพิ่งได้รับโทรศัพท์จากบริษัทที่ไปสมัครงานมาว่ารับเราเข้าทำงานแล้วดีใจสุดๆ อันนี้ก็ยินดีด้วยนะครับ เหมือนจeได้ว่าขอให้ได้งานก็ขอให้ทุกคนมาร่วมยินดีกัน ผมเชื่อว่าคนที่ได้งานในจังหวะเวลานี้ ผมเชื่อว่าจิตท่านคงจะปิติดีใจกันสุดๆอยู่แล้ว มาร่วมยินดีกันนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤษภาคม 2016
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    เฉลย / มีหลายท่านสอบถามว่าผงอะไรที่เราปิดไว้ที่ท่านใช้เป็นตัวกระตุ้นให้ตะกรุดพรายกุมารบรมครูพระเข้านางนี้มีอานุภาพมากขึ้น เพราะเกรงว่าจะเป็นผงพรายผงผีหรือผงอาถรรพ์ ที่จริงเกรงว่าถ้าบอกไปมันจะไม่ค่อยงามแต่ไหนๆก็ถามกันแล้วเราเบื่อตอบรายคนเหมือนกันเพราะมันยาว จะอธิบายคร่าวๆไว้ให้ จะได้สบายใจว่ามันไม่ใช่ผงอาถรรพ์

    ผงที่พอกผสมกับผงพรายกุมารนั้นก็คือผงลบวิชาของครูบาวัง วัดบ้านเด่นนั่นเอง ซึ่งท่านปั้นแท่งชนวนมวลสารมาจากว่านยาศักดิ์สิทธิ์มีฤทธิ์ในตัวเองทั้งนั้น ครูบาวังนี้ต้องบอกว่าเสน่ห์มือหนึ่งของสายเหนือเลยและในขณะเดียวกันของปลอมก็มีเกลื่อนกลาดมากไม่เว้นแม้แต่เวปพระดังๆ พระของท่านแท้ๆจึงมีราคาสูงโดยเฉพาะวิชาม้าเสพนางนี่ขลังแบบลูกโดด

    เราจะพูดถึงผงลบที่ใช้พอกตะกรุดกันต่อ เป็นผงวิชาห้าสายที่ได้ชื่อว่ามีอานุภาพรุนแรงที่สุดในโลกแล้วตามสายวิชาฝ่ายเหนือ นั่นคือ
    - ม้าเสพนาง
    - วัวเสพนาง
    - ช้างประสมโขลง
    - วัวกินนมเสือ
    - หนูกินนมแมว
    และผงวิเศษทั้งห้าประการทางมหาเสน่ห์นี้ พ่ออาจารย์ท่านไม่เคยยอมนำออกมาจัดสร้างอะไรเลยเพราะท่านบอกว่าคุณแห่งวิชานั้นแรงนักที่สำคัญคือลบยาก ทุกอณูเปี่ยมไปด้วยพลังจิตในครูบาอาจารย์อย่างแท้จริง โดยเฉพาะเป็นผงของครูบาวังยิ่งหายห่วง จะมีก็แต่หนนี้ที่ท่านยอมนำมาผสมกันเข้าผงกับผงพระขุนแผนพรายกุมารของหลวงปู่ทิมเพื่อพอกไว้ด้านนอก โดยดำริว่าจะทำบูชาคุณครูบาวังแทนความระลึกถึงท่านเสียหนหนึ่ง ทีแรกท่านว่าไม่ให้บอกเพราะเดี๋ยวคนจะมองข้ามเรื่องเมตตาไป พอรู้ว่าเป็นเสน่ห์แบบสุดยอดมีผงขั้นหัวกะทิที่ได้ชื่อว่าเป็นที่สุดสายวิชามหาเสน่ห์แล้วเขาจะไม่มามองจุดนี้ แต่ก็ยังยืนยันคำเดิมถ้าถามมาเราก็ตอบให้ คือหลักใหญ่เอาไว้ใช้ทางเมตตามหานิยมนะครับ เสน่ห์เดี๋ยวมันเป็นผลพลอยได้เองนี่เป็นจุดยืน
    รายการนี้ใครจองทันก็ดีใจด้วยเพราะท่านใช้ผงวิชาทำสูตรทุกอย่างแบบตั้งใจมากๆจริง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 645743.jpg
      645743.jpg
      ขนาดไฟล์:
      23.2 KB
      เปิดดู:
      96
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 พฤษภาคม 2016
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    เช้าๆก็มาคุยกันสบายๆ พอดีเมื่อวานได้คุยไลน์กับพี่คนหนึ่งที่เพิ่งบูชาตะกรุดรกแมวไป ก็แปลกใจแต่แรกว่าจะเอาไปทำอะไร เพราะมาถามวิธีใช้จะสื่อจะให้เรียกชื่อยังไงเพราะมีความจำเป็นต้องใช้ เราก็บอกว่าให้เรียกแมว พี่เค้าบอกเราว่าอย่าเล่น555 ก็ยังไม่รู้ความจำเป็นของพี่เค้าอยู่ดีว่าทำไมต้องรีบใช้

    จนเมื่อวานพี่ท่านนี้ไลน์มาหาถามเราว่ารู้มั๊ยว่าเอาตะกรุดรกแมวไปทำไร เราก็บอกว่าไม่รู้ เค้าก็เล่าว่าหนูที่บ้านอยู่มานานจนอ้วนแล้วพี่เค้าโดนกดดันให้จัดการกับหนูเลยเครียด เราก็ยังไม่คิดไปถึงตะกรุดนะพอดีนึกถึงกาวดักหนูแต่จะดูทรมานสัตว์มากไปเลยบอกเขาไปว่ากรงสิ ให้ใช้กรง

    พี่เค้าก็เล่าต่อว่าเซ่นรับตะกรุดด้วยข้าวปลาทูวันพุธ รุ่งขึ้นหนูตกอ่างน้ำโดนรวบไปทิ้งนอกบ้านยังไม่ได้เอ่ยปากบอกน้องเหมียวเลย จบเคส

    ก็โอเคนะอ่านแล้วรู้สึกยิ้มๆน่ารักดี ลืมคิดไปว่าแมวจับหนู ตอนถามมาทีแรกเลยไม่รู้ว่าเอาไปทำอะไร อ่านแล้วผมขำมากที่จริงตะกรุดรกแมวก็ดีทางเมตตามหานิยม การค้าขาย โชคลาภในตัวอยู่แล้ว หรือใครจะเอาไปเลี้ยงแบบพยนต์แมวก็คงต้องหมั่นพุดคุย หยอกล้อ และเลี้ยงเขาด้วยอาหารแบบแมวๆ ที่แมวชอบ อันนี้ก็ลองทำดู แมวเป็นสัตว์ที่รักและให้คุณกับเจ้ของอยู่แล้ว
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    สัปดาห์หน้าเล่นเกมแจกหลวงปู่ทวดพิมพ์เตารีดกัน จะวันไหนต้องติดตามนะครับ
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    เมื่อคืนก็ได้อนุโมทนาทางไลน์กับคุณพี่ท่านหนึ่งไปและคุยกันเรื่องการสวดมนต์ ซึ่งการสวดมนต์นี้สำหรับคนที่ใส่ใจและปฏิบัติก็กลายๆว่าจะเป็นกิจวัตรในชีวิตประจำวันที่ต้องทำไป ถ้าทำเป็นนิสัยแล้วมันจะชินและชำนาญไปเอง

    ทีนี้เราก็มาพูดกันถึงเรื่องการสวดมนต์ตอนเที่ยงคืน ที่จริงพ่ออาจารย์ท่านจะสอนว่าการสวดมนต์นั้นเป็นมงคลเสมอจะทำเวลาใดก็ได้ เพราะว่าเป็นพุทธพจน์ เป็นการสรรเสริญคุณของพระรัตนตรัยและคุณธรรมทั้งหลาย สิ่งเหล่านี้เป็นมงคลอยู่ในตัวในกาลทุกเมื่อ

    แต่ว่าประเดฺ็นที่จะหยิบมาพูดกันนั้นก็คือการสวดมนต์ตอนเที่ยงคืน ทำไมต้องดึกขนาดนั้นและจะได้อานิสงค์ผิดแปลกอย่างไรจากการสวดปกติธรรมดา

    สำหรับการสวดมนต์ตอนเที่ยงคืนนั้นจะเป็นการสวดที่นิยมทำกันมาแต่โบราณ โดยเฉพาะการสวดถวายครูบาอาจารย์และสวดเพื่อเชิญเทวดาตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครองรักษาเราตั้งแต่เกิดมารวมไปถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีบุญวาสนาผูกพันธ์กัน ซึ่งในห้วงชีวิตหนึ่งนั้นเราได้เชิญท่านมา เช่นเทวดาที่ถูกเชิญลงมาสถิตย์กับเครื่องมงคล พระเครื่องเหล่านี้เป็นต้น

    เพราะโดยธรรมเนียมแล้วเทพยดาเจ้าทั้งหลายนั้นย่อมมาชุมนุมกันเพื่อเฝ้าสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า รับฟังธรรมเทศนาและทูลถามคำถามที่ติดค้างไม่อาจแก้ไขได้ด้วยตนเองในเวลานั้น จึงถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันสืบมาที่จะสวดมนต์เพื่อจะถวายครูบาอาจารย์และเทพยดาในเวลาดังกล่าว ด้วยว่าหากกระทำหน้ารูปพระปฏิมาอันเป็นสัญลักษณ์แทนสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว เทพยดาเหล่านั้นก็จะอนุโมทนาและออกมาร่วมสวดร่วมสร้างบารมีไปพร้อมกับเราด้วย ถือเป็นวาระโอกาสที่เขาจะได้ฟังธรรม ได้ทบทวนธรรมและได้บูชาธรรมของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปพร้อมกับเรา ดุจว่าได้สร้างบารมีร่วมกัน

    พ่ออาจารย์ท่านมักสอนมักกล่าวว่า แม้ตัวเราเองก็อย่าไปมองข้ามว่าเป็นสิ่งเล็กน้อย ด้วยว่าเทวดาที่เข้าพิทักษ์รักษาคุ้มครองชีวิตเรานั้นท่านมีหน้าที่สำคัญอยู่มาก และการที่ตัวเราเองจะช่วยเหลือสรรพชีวิตให้เค้าได้กอบการทำกุศลต่างๆนั้นนับเป็นเรื่องที่ประเสริฐอย่างยิ่ง จุดนี้เรายอมเสียเวลากันได้หรือไม่ อาจจะนอนช้าลงหน่อย แต่ได้บุญได้อานิสงค์หนักมาก

    ตรงนี้ถ้าเราทำได้บุญกุศลแม้เราจะไม่รู้ไม่เห็นแต่ว่าอีกโลกหนึ่ง กับตัวเทพยดาเหล่านั้น บุญกุศลนี้มันทั้งยกฐานะ เปลี่ยนแปลงชีวิตเขา คลายวิบากกรรมคำสาปพันธนาการทั้งหลายที่เขาติดอยู่ นี่แหละที่สำคัญ เมื่อมีบุญคุณร่วมกันเค้าก็ต้องตอบแทนพระคุณ ยิ่งเป็นเทพยดาอันจะอภิบาลและเคยมีเวรมีกรรมร่วมกับเรามาแล้ว คือมีชะตาต้องกันนั่นแหละ การที่เราทำแบบนี้เหมือนเปิดทางให้เขามาช่วยเหลือเราได้มาก เต็มที่กว่าเดิม มากกว่าใช้ชีวิตอยู่ไปวันๆไม่รับรู้เรื่องราวซึ่งกันและกัน

    สำหรับมนต์คาถาที่นิยมสวดกันในเวลาเที่ยงคืนนี้ ก็คือบทพระพุทธพจน์ต่างๆที่เป็นโอวาทเป็นธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีอยู่ในมนต์พิธีไม่ว่าจะ 7 ตำนาน 12 ตำนาน ตลอดจนมนต์บทอื่นๆที่พิจารณาคำแปลดูแล้วว่าเป็นบทธรรมบทโอวาทล้วนสวดได้ทั้งสิ้น

    ก็ถือโอกาสมาพูดคุยกันในยามเช้าบอกกล่าวสิ่งดีให้กันและกันรู้ ถ้าท่านใดพอมีเวลาว่างและคิดว่าจะทำได้เป็นประจำทุกวัน ไม่หนักเกินไป ไม่ส่งผลกับภารกิจการดำรงค์ชีวิตของตน หรือว่าใครนอนช่วงนี้อยู่แล้วก็ลองทำดู ท่านว่าทำไปเถอะ ถึงเวลาชีวิตเปลี่ยนมีแต่ดีกับรุ่งแน่นอน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2016
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    อีกสองสามวันมาเล่นเกมส์กันนะ ติดตามๆ
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    พูดคุยเรื่องดวงชะตา

    ก็มาพูดคุยกัน วันนี้ได้ไปส่งของและนั่งคุยกับพี่ท่านหนึ่ง ก็มาปรึกษาเรื่องน้องชาย เขาว่าน้องเขามีนิสัยเสียอยู่อย่างหนึ่งคือชอบดูดวง เป็นคนที่ผมไม่รู้จะเรียกว่าไงนะ แต่จะดูหลายหมอมาก แบบว่าดูไปเรื่อยๆหลายๆหมอหลายๆการทำนายดูจนเจอถูกใจตัวเอง แล้วก็จะวนเวียนอยู่ในวงจรหมอดู ดูดวงแบบนี้ ต้องแก้กรรมบ้าง ต้องทำพิธีบ้างอะไรต่างๆมากมาย พอเดือนชนเดือนเอาว่ามีเงินเท่าไหร่ก็หมดไปกับพวกดวงชะตานี่แหละ แล้วก็ต้องไปดูอยู่เรื่อยๆ เหมือนติดเป็นนิสัยไปแล้ว

    ผมว่าลักษณะเช่นนี้น่ากลัวนะ แล้วก็มีหลายๆคนดูโดยทั่วไปเลยที่นั่งดูแลกระทู้นี้มา หลายคนปักใจเชื่อเรื่องดวงกันจริงๆ เพราะหลายครั้งมักจะมีคำถามเข้ามาว่าเจอสิ่งแย่ๆแบบนั้นแบบนี้แล้วก็ฝากดวงมาให้ ฝากให้ท่านดูให้เลย ผมก็เคยพูดหลายทีว่าจริงๆมันไม่ใช่เนื้อหาสาระอะไรเลย เพราะดวงคนมันเปลี่ยนได้ตลอด แล้วไอ้ตัวที่ทำให้มันเปลี่ยนนั้นก็คือตัวของเราเอง ก็รู้ว่ามันแย่มันไม่ดี แล้วจะไปรู้ให้มันอคติทำไม วันไหนดีวันไหนรุ่งก็เฮฮาไป วันไหนร่วงวันไหนท้อก็โทษดวงชะตาโทษสวรรค์โทษวัตถุมงคล เอาว่าโทษหมดแต่ลืมโทษตัวเอง

    ถ้าในภาคปฏิบัติกันจริงๆ อันนี้เราเตือนอยู่ประจำ พ่ออาจารย์ท่านก็ย้ำเสมอ ไอ้เรื่องดวงพวกนี้เราไม่ต้องเอาใจไปยึดติดอยู่กับมันเลย มันจะทำให้ใจเราเศร้าหมองรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ แล้วจะพาลโทษเวรกรรมโทษชะตาเกิดตนเองเสียด้วย

    ถ้าจะมองในแง่ดวงชะตา เราต้องรู้ก่อนว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองนั้น เหนือกว่าดวงชะตาก็คือกรรม หรือที่เรียกกฏแห่งกรรม สิ่งนี้ไม่ใช่จะแก้ไขด้วยวิถีดวงดาวหรือว่าจะมานั่งเลือกเวลาเกิดได้ เพราะกรรมของตนนั่นเองที่เป็นสาเหตุเป็นเผ่าพันธุ์ให้เราเกิด จะดวงแบบใดเกิดมาใต้อิทธิพลดาวดวงใดทุกอย่างท่านว่ามันมีลิขิตและหน้าที่ในวาระของตัวเอง ซึ่งคนที่เพียรทำและกำหนดลิขิตนั้นก็คือผลของการกระทำตัวเอง

    พ่ออาจารย์ท่านมักจะกล่าวเตือนว่า เรื่องเวรกรรมนี้เมื่อมีก็ต้องเผชิญ เสด็จพระใหญ่และวิสุทธิเทพหลายพระองค์เองก็เป็นห่วงตรงนี้อยู่มาก เพราะคนปัจจุบันนั้นเสียชาติที่เกิดมาเป็นมนุษย์อยู่อย่าง คือเค้าจะไม่รู้จักคุณ รู้จักแสวงหาบำเพ็ญในภพปัจจุบัน เค้าจะไปห่วงอดีต ห่วงกรรม ห่วงดวงชะตาอันเป็นของที่สืบเนื่องต่อมาจากภพอดีต แต่ปัจจุบันเค้าจะไม่แก้ไข

    การกระทำในปัจจุบันนี่แหละที่เป็นสิ่งสำคัญที่สุด สามารถแก้วิบากกรรมหนักได้ด้วยมือเรา และยังสามารถกำหนดอนาคต ดวงในวันข้างหน้าและชาติหน้าได้ด้วยตัวของเรา เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วยังจะต้องไปใส่ใจกับมันอยู่ทำไม

    พระพุทธเจ้าท่านตรัสมงคล 38 ประการ มีสิ่งใดบ้างก็กำหนดจดจำกันไว้เสียแล้วก็ทำให้ได้ตามนั้น ที่สำคัญคือหมั่นรักษาศีล 5 ไม่มีออดแอดข้ออ้างที่จะแก้ตัวสารพัดเพื่อจะเอาตัวรอดและทำตัวให้สบาย กับแค่ศีล 5 ถ้ายังรักษาไม่ได้ความเป็นมนุษย์ยังบกพร่องก็ไม่ต้องมาพูดกัน ถ้าอยากดีขึ้นได้ชื่อว่าเป็นมนุษย์สมบูรณ์ก็ต้องทำให้ได้ หมั่นอวยทานให้เป็นคุณลักษณะที่ดีของตนและก็ฝึกเจริญภาวนาไปไม่ให้ขาดช่วง แผ่เมตตาเอาความปรารถนาดีความเอื้ออารีย์ของตนหยิบยื่นแก่สรรพสัตว์ แผ่ไปเถิดไม่ต้องกลัวว่าใครเขาจะไม่ได้ แผ่ไปให้กว้างใหญ่ให้รู้กันทั่วหมื่นโลกธาตุในแสนโกฏิจักรวาล

    ถ้าทำได้ตามนี้มันไม่ใช่แก้ชั่วครั้งชั่วคราว แต่มันแก้ได้ในระยะยาว คุณแห่งศีลมีอยู่ในโลก คุณแห่งทาน คุณแห่งพรหมวิหาร คุณแห่งการภาวนา ทุกสิ่งล้วนมีอยู่จริงในโลก คุณเหล่านี้แม้เทพยดาทั้งหลายก็สรรเสริญนัก ถ้าทำได้ตามนี้ไม่ต้องเสียเวลาไปยึดติดกับดวงชะตาใดๆเลย เพราะอดีตและสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วไม่ใช่เรื่องที่จะแก้ไขได้ มาเริ่มมทำปัจจุบัน กรรมในปัจจุบันนี่เอง ที่จะเปลี่ยนปัจจุบันของเราได้ เราต้องเปลี่ยนความเชื่อความศรัทธาของตนเสียก่อน นอกจากนั้นยังต้องเปลี่ยนความคิดและการกระทำทั้งหลายด้วย เมื่อทำได้เช่นนี้เชื่ออย่างยิ่งว่าต่อไปคงจะไม่นั่งกังวลเรื่องดวงชะตาอีก


    * ก็ฝากเอาไว้ด้วยความปรารถนาดี เป็นห่วงกันจริงๆ ไม่อยากให้หลงทางแบบนั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 พฤษภาคม 2016
  9. p'สัน

    p'สัน สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2016
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +18
    ตะกรุดท้าวก่ำกาดำยังมีเหลือไหมดอกละเท่าไหร่รบกวนแจ้งหน่อยครับคุณกรณ์
     
  10. p'สัน

    p'สัน สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2016
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +18
    ผมว่าจะถามคุณกรณ์แต่ก็ลืมเพิ่งนึกได้จากที่ผมบูชาตะกรุดรกแมว9ชีวิตเห็นคุณกรณ์พิมพ์บอกว่าพ่ออาจารย์จะอุดตะกรุดด้วยรกแมวกับไม้กาฝากแล้วพอกด้วยผงต่างอุดนี่หมายถึงใส่ตรงกลางช่องตะกรุดหรือเปล่าครับถ้าใช่งั้นตะกรุดของผมตรงกลางทำไมถึงกลวงว่างเปล่าละครับ
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    * สืบเนื่องจากตะกรุดรกแมวเก้าชีวิต เป็นตะกรุดที่มีความต้องการสูงแล้วพ่ออาจารย์ท่านก็เลิกทำไปพักนึง แต่ก็มีโทรศัพท์เข้ามาขอให้ท่านทำตลอด เนื่องจากเป็นเครื่องมงคลอีกชนิดหนึ่งที่มีประสบการณ์มาก ครั้งนี้ท่านจึงเมตตาใช้มวลสารเดิมจัดสร้างไว้เป็นรอบสุดท้ายอีก 10 ดอก แต่ว่าท่านได้เพิ่มผงใบไม้รู้นอน 7 ชนิดตามสูตรการทำตะกรุดมหาระงับพิศดารพอกไว้ด้วย และตะกรุดรกแมวครั้งนี้ก็ยังมีอานุภาพเด่นทางหนุนดวงและปราบศัตรูเพิ่มขึ้นจากพุทธคุณตามสูตรสนธิ์เลขยันต์ที่ท่านลงไป ดูจากผงที่ท่านพอก รุ่นนี้สุดๆจริงๆ มีจิตน้องแมวแน่นอน พยนต์แมวถือว่าให้คุณกับเจ้าของแม้ครอบครองเขาให้ความรักเขา ซึ่งที่ผ่านมาท่านจะอุดผงมวลสารไว้ภายใน แต่ครั้งนี้ท่านคลุกฉาบทาพอกลงที่ตัวตะกรุดเลย เพราะท่านถือว่าเพิ่มพุทธคุณทางด้านหนุนดวงลงไป จะอุดจะตันไม่ได้

    ก็ขอตอบนะครับ บางอย่างก็ลงรายละเอียดไว้ดีแล้ว ถ้าอ่านให้ดีก็จะไม่เกิดคำถาม ปกติที่อุดด้านในนั้นด้านนอกจะไม่ถักหรือคลุกอะไรเลยเป็นสมัยที่ท่านทำยุคแรกๆ ก็ตามที่ได้แจ้งไว้แล้วในข้อมูลตอนเปิดจองรบกวนอ่านให้ละเอียด


    - ส่วนรายการที่สอบถามก็หมดไปนานแล้วเช่นกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มิถุนายน 2016
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    อมตะ

    ก็มาต่อกันที่เกล็ดความรู้ เนื่องจากมีหลายท่านบอกว่าอยากอ่านต่อ เราไม่ได้ลงให้มาซักระยะหนึ่งแล้ว ก็จะเริ่มจากคำถามที่ว่ามีเทพองค์ใดไหมที่ไม่ต้องเข้าสู่วงจรของวัฏสงสาร

    อันนี้ก็รู้สึกเหมือนเคยพูดไปแล้วรึเปล่าผมจำไม่ได้นะ คำว่าวงจรของวัฏนี่คือการเวียนว่ายตายเกิด เราต้องมาดูหน่วยเวลาของเทพเจ้าก่อน เทพเจ้านี้เราจะถือว่าเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงเพราะเกี่ยวเนื่องอยู่ในปรากฏการณ์ทางแสงสว่าง เค้าจะมีวงจรชีวิตที่คำนวณออกมาเป็นหน่วยเวลาของมนุษย์ยาวนานมาก ตั้งแต่หลายๆล้านๆปีจนถึงเป็นโกฏิเป็นอสงขัย ยิ่งชั้นสูงๆ รูปพรหม อรูปพรหมนี่จักรวาลจะแตกทำลายไปไม่รู้กี่รอบเค้าก็ยังคงอยู่ นับกันเป็นหน่วยตัวเลขคงไม่ไหวต้องนับกันเป็นกัปเป็นกัลป์ทีเดียว เรียกว่าอยู่จนวางเฉย อยู่จนลืมตายนั่นเอง

    ดังนั้นจากคำถามข้างต้น พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าหากยังเป็นเทพเจ้าอยู่ ต่อให้หน่วยของกาลเวลาจะมีปริมาณมากซักเพียงใดก็ยังต้องรู้ผุดเกิดเวียนว่ายตามบุญทำกรรมแต่งของตน หากจะมองว่าเป็นเทพแล้วต้องตาย ก็มีสิ่งเดียวเท่านั้นที่จะไม่ตาย นั่นคือเหนือกว่าเทพ เหนือกว่าพรหมหรือที่เราเรียกว่าวิสุทธิเทพ แดนของเหล่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอริยบุคคลที่หลายๆคนชอบเรียกว่านิพพาน

    ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าเทพเจ้าทั้งหลาย หลายๆพระองค์ก็ยังต้องผุดเกิดเวียนว่ายถึงแม้จะเป็นพระอริยบุคคลแล้วก็ตามที่ หากจะถามว่าแล้วมันดีอย่างไรเป็นถึงพระอริยบุคคลแล้วทำไมยังต้องตายแล้วเกิด ก็เพราะจุดนี้เค้ายังทำลายโซ่กรรมไม่ได้ แต่ความเป็นอริยบุคคลนี้ก็ใช่ว่าจะไร้ประโยชน์ไป ยกตัวอย่างพระอินทร์และท้าวเวสสุวรรณอันเป็นตำแหน่งเวียน แต่ทว่าพระอินทร์และท้าวเวสสุวรรณองค์ปัจจุบันนั้นมีบารมีสูงมากประกอบกับความเป็นอริยบุคคลที่จะไม่มีวันตกต่ำลงมาอีกจึงทำให้นั่งอยู่ในตำแหน่งนี้ได้นานกว่าที่ควรจะเป็นหลายเท่า ถึงแม้จะต้องเกิดใหม่แต่ความเป็นอริยบุคคลนี้ทำให้ชาติกำเนิดที่จะเกิดใหม่นั้นจำกัดลงในหน่วยย่อยที่สุดที่เรียกว่าการเดินทางสายบารมี คือเหลืออีก 7 ชาติบ้าง 2-3 ชาติบ้าง ก็จะเข้าสู่แดนนิพพาน และชาติที่เหลือเหล่านั้นก็ไม่ใช่ว่าจะตกต่ำลงกว่าเดิม มีแต่ต้องสูงส่งยิ่งขึ้น ต้องไปอยู่ในพรหมโลก อยู่ในปัญจสุทธาวาสมหาพรหมเช่นนั้น อย่างเช่นที่พระอินทร์ท่านปรารถนาตรงนี้ท่านก็ต้องการเข้าไปอยู่ในปัญจสุทธาวาสมหาพรหมเช่นกัน เพราะว่าแดนปัญจสุทธาวาสมหาพรหมนั้นอยู่ใกล้นิพพานที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่ามีความละเอียดสวยงาม ความเป็นทิพย์ต่างๆเทียบเคียงได้กับแดนนิพพานแทบจะไม่ต่างกันเลย เพราะเป็นดินแดนของเหล่าพระอนาคามีนั่นเอง

    การสิ้นบุญของเหล่าเทพเจ้ามีอยู่สี่ชนิดคือ
    - อายุขัย
    - บุญญขัย
    - อาหารขัย
    - โกธาพลขัย
    ที่ดูจะปกติและประเสริฐที่สุดก็คือการเคลื่อนจุติด้วยอายุขัยนั่นเอง เพราะจะเกิดในเทพเจ้าที่ได้กระทำบุญสร้างบารมีไว้มากและอยู่เสวยบุญนั้นตราบชั่วอายุแห่งตน และก็จะเคลื่อนจุติไปในเทวโลกชั้นสูงยิ่งๆขึ้นไป พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าจะพูดในความรู้สึกของเทวดานั้นไม่มีองค์ไหนเลยที่อยากจะตกจากทิพย์สมบัติ เพราะสิ้นบุญบ้าง เพราะมักมากบริโภคกามคุณบ้าง เพราะความโกรธริษยาบ้างเช่นสามประการหลัง

    แน่นอนว่าเหล่าเทพเจ้านั้นก็เกิดขึ้นได้ด้วยอานิสงค์แห่งการกระทำความดี สร้างบารมี เช่นนั้นก็หมายความว่า เขายังดำรงค์อยู่ในกระแสของกรรม กิเลสและวิบาก ถึงหน่วยเวลาจะมากขึ้นแต่ก็หยุดการไหลของสัจธรรมไม่ได้ เหมือนครั้งเมื่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเตือนสติท่านผกาพรหมนั่นเอง ให้รู้ว่าแม้กายของมหาพรหมจะเรืองรองมีอายุยืนนานเพียงใด ก็ยังต้องตายและเข้าสู่ความเสื่อม

    ดังนั้นจึงมีวิธีเดียวที่จะหยุดความตายและการเกิดอันเป็นวงจรที่ไม่สิ้นสุดนั้นได้ ที่เราเรียกให้เข้าใจว่าปรินิพพานหรือการเข้าถึงภาวะโลกุตรนั่นเอง ซึ่งก่อนจะกระทำภาวะนิพพานได้ก็ต้องผ่านขั้นตอนและกระบวนการต่างๆก่อน หากใครสร้างบารมีมาดี เช่นสมัยสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังดำรงค์พระชนม์ชีพอยู่ เหล่าภิกษุ อุบาสก อุบาสิกาทั้งหลายก็จะบรรลุธรรมวิเศษนั้นเข้าถึงความเป็นอรหันต์ได้และถึงที่สุดแห่งภพเสียบัดนั้น แต่หากใครก้าวสู่ความเป็นอริยบุคคลแล้วแต่ยังไม่ได้พัฒนาไปถึงความเป็นอรหันต์หรือเข้านิพพาน ยังมีกิจมีหน้าที่อันจะต้องใช้พระอริยบุคคลชั้นผู้ใหญ่ไปกระทำ ก็จะไปปฏิบัติกิจเหล่านั้นและจำกัดภพชาติที่จะอุบัติเอาไว้ตามระดับความเป็นอริยบุคคลแต่ละขั้น ซึ่งจะมีแตกต่างกันออกไปดังนี้
    - สัตตักขัตตุงปรมะโสดาบัน
    - โกลังโกละโสดาบัน
    - เอกพีชีโสดาบัน
    - สกทาคามี
    - อุทธังโสโตอกนิฏฐคามี
    - สะสังขารปรินิพพายี
    - อสังขารปรินิพพายี
    - อุปหัจจะปรินิพพายี
    - อันตราปรินิพพายี
    - ปัญญาวิมุติ
    - อุภโตภาควิมุติ

    พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าตั้งแต่ระดับอุทธังโสโตอกนิฏฐคามีนั้น คือเหล่าพระอนาคามีผู้ที่เข้าถึงความเป็นมหาพรหมแห่งปัญจสุทธาวาสแล้ว ดังนั้นภพและวงจรชีวิตของแต่ละฐานะก็จะแตกต่างกันออกไป ส่วนปัญญาวิมุติกับอุภโตภาควิมุตินั้นก็คือเหล่าพระอรหันต์นั่นเอง ไม่ว่าจะหลุดพ้นด้วยปัญญาหรือจะบรรลุเจโตวิมุติญาณแล้วมาได้ปัญญาวิมุติภายหลัง แม้เป็นพระอรหันต์เองหากมีกายหยาบเช่นมนุษย์ก็ยังต้องนิพพานทิ้งสังขารเดิมคือเข้าสู่ความตายเสียก่อน แต่หากเป็นเหล่าพระอนาคามีในปัญจสุทธาวาสมหาพรหมเขาจะเลื่อนเข้าไปสู่นิพพานเลย สภาวะตรงนี้นับเป็นยอดปรารถนาที่พ้นขอบเขตของการเกิดแก่เจ็บตาย ที่เราเรียกว่าอมตะหรือเป็นนิรันดร์ก็ได้ เป็นสภาวะที่อยู่เหนือเทพเจ้าและเหล่าพรหมที่เรากราบไหว้บูชาในฐานะวิสุทธิเทพนั่นเอง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มิถุนายน 2016
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    พรุ่งนี้จะมาเล่นเกมเส์แจกหลวงปู่ทวดกันนะครับ
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    คืนนี้ก่อนนอนก็อย่าลมเรื่องสวดมนต์เจริญภาวนาและแผ่เมตตากันนะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้มาเล่นเกมส์ลุ้นและร่วมสนุกทำกิจกรรมกัน
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้เราจะมาร่วมทำกิจกรรมดีๆกัน ซึ่งครั้งนี้จะร่วมเล่นเกมส์เพื่อแจกหลวงปู่ทวด จะพิเศษอย่างไร สำคัญอย่างไร ก็อย่าคลาดสายตากันนะครับ

    ก่อนที่จะเริ่มทำกิจกรรม ก็ขออาราธนาบารมีพระราชมุนีสามีรามคุณูปมาจารย์หรือองค์หลวงปู่ทวดคุ้มครองลูกหลานทุกท่าน เอาว่าให้ดีให้สมปรารถนากันในทุกๆเรื่อง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • untitled.png
      untitled.png
      ขนาดไฟล์:
      1.4 MB
      เปิดดู:
      91
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    ร่วมเล่นเกมส์ แจกรูปหล่อหลวงปู่ทวดพิมพ์หลังเตารีด

    ก็เป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งกันมานาน เชื่อว่าหลายท่านก็คงรู้จักและพบเจอหรือมีประสบการณ์เกี่ยวกับหลวงปู่ทวดกันมาไม่มากก็น้อย แม้รูปภาพท่านก็พบเห็นได้โดยทั่วไปไม่ต่างจากสมเด็จโต ประสบการณ์เกี่ยวกับพระเครื่องท่านเป็นที่ประจักษ์ชัดในด้านนิรันตราย ห้อยติดคอไว้ไม่ตายโหง ซ้ำยังมีคุณครอบจักรวาลที่เรียกว่าขอได้ ไหว้รับ ตลอดจนใช้แช่น้ำมนต์บรรเทาอาการเจ็บป่วย รักษาโรคภัยถอดถอนคุณไสยมามากกว่ามาก เรียกได้ว่ามีประสบการณ์ในทุกทางหากจะกล่าวไว้ให้ครบคงไม่รู้จะบรรยายอย่างไรได้หมด

    ทั้งนี้ก็เป็นเหตุเนื่องด้วยพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จเจ้าพะโค๊ะท่าน หลวงปู่ทวดนั้นท่านเป็นพระมหาโพธิสัตว์เป็นใหญ่ในโลกทิพย์ ยังมีกิจมีภาระที่ต้องช่วยเหลือบรรเทาทุกเข็ญของสัตว์ที่ร้องเรียกขอความกรุณาท่านอยู่ ก็ถือเป็นโอกาสดีที่พ่ออาจารย์ท่านได้นำชนวนตะกั่วทับถม มาเทหล่อเป็นหลวงปู่ทวดพิมพ์เตารีดในรูปแบบของท่านซึ่งองค์พระจะไม่ใหญ่โตมากเช่นปกติ ท่านว่าจะได้ใช้กันได้ไม่หนักคอไม่ว่าจะหญิงรึชายแม้เด็กก็ห้อยได้ไม่ใหญ่โตเกินไป ซึ่งพระพิมพ์หลวงปู่ทวดหลังเตารีดนี้ ท่านก็ได้อธิษฐานจิตเสกบวงสรวงบอกกล่าวเชิญดวงพระวิญญาณหลวงปู่ทวด หลวงปู่ทิม หลวงปู่ดู่ ตลอดจนอรรคบุรุษมหาโพธิสัตว์ทั้งสิบองค์แห่งดุสิตสวรรค์อันมีพระชาติแน่นอนแล้ว มารับรู้และเชิญท่านมาทำมาอธิษฐานจิตด้วยวิธีของท่าน

    วันนี้ก็จะมาร่วมเล่นเกมส์กันเพื่อรับแจก ซึ่งพระมีจำนวนจำกัดเดี๋ยวจะพิจารณาจากจำนวนผู้เล่นอีกทีว่าจะแจกเลยหรือทำการจับฉลาก สำหรับผู้ที่ต้องการจะนำเหรียญหล่อหลวงปู่ทวดพิมพ์หลังเตารีดนี้ไปบูชาก็ให้ร่วมเกมส์กันไว้ได้เลย

    โดยมีกติกาอยู่สามแบบ คือ
    - หากตนเองเคยมีประสบการณ์ หรือมีความศรัทธาอย่างไร ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม เกี่ยวกับองค์หลวงปู่ทวดไม่ว่าจะของวัดใดก็ตาม ให้พิมพ์เล่าประสบการณ์ที่เกิดขึ้นหรือได้รับฟังมานั้นไว้ในกระทู้นี้ เพื่อเป็นอาจาริยบูชา เป็นการเจริญศรัทธา ช่วยกันเผยแพร่เกียรติคุณตลอดจนความเมตตาของท่าน เราทั้งหลายที่ผ่านมาอ่านตรงนี้จะได้ร่วมกันอนุโมทนา
    - หากไม่เคยมีประสบการณ์ ก็ให้สร้างบุญสัมพันธ์กับท่าน ด้วยการสวดมนต์และอุทิศถวายครูบาอาจารย์มีหลวงปู่ทวดเป็นที่สุด หากเคยทำเช่นนี้ก็ลงรายละเอียดไว้ได้เลย ว่าตนเคยสวดมนต์บทใดอุทิศให้กับท่าน หรือเชิญท่านมาร่วมรับฟังการสวดมนต์การทำกรรมฐาน เคยระลึกถึงท่านหรือไม่ภาวนาถึงท่านเช่นไร อันนี้ก็เล่ามาได้เลย เราจะได้มาอนุโมทนาร่วมกัน
    - หากไม่เคยมีประสบการณ์ ไม่เคยภาวนาอะไร ก็ให้บอกเล่าประวัติหรือความศรัทธาของตนที่มีต่อท่าน เช่นนี้ก็ได้

    * ก็เป็นเกมส์ง่ายๆ ที่เราจะได้มาอนุโมทนาสิ่งดีๆของเพื่อนมนุษย์ร่วมกัน การอนุโมทนานั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นกุศลหนักนัก ขึ้นอยู่กับกับความตั้งใจจริงและความบริสุทธิ์ใจตลอดจนกำลังใจของแต่ละคน

    ก็จะเปิดให้เล่นเกมส์อย่างเป็นทางการตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป หมดเวลาในวันศุกร์ก็คือวันพรุ่งนี้ตอน 18 นาฬิกาหรือหกโมงเย็น เราจะได้มาทำการประกาศผลให้ทราบและลงรายละเอียดการจัดสร้างองค์พระอีกครั้งหนึ่ง

    นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติ ภควา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • untitled.png
      untitled.png
      ขนาดไฟล์:
      1.4 MB
      เปิดดู:
      65
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มิถุนายน 2016
  17. อรหโตพุทโธ

    อรหโตพุทโธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2015
    โพสต์:
    498
    ค่าพลัง:
    +1,017
    โดยส่วนตัว ก็จะ
    ระลึกนึกถึงหลวงปู่ทวดอยู่เสมอๆ และจะอารธนาบารมีหลวงปู่ทวด และหลวงปู่ดู่ ให้ท่านอัญเชิญบารมีรวมแห่งองค์พุทธะ ธัมมะ สังฆะ และเหล่ามหาบุรุษพระโพธิสัตว์ ทุกๆพระองค์ตั้งแต่ อดีต ปัจจุบัน อนาคต รวมลง และ สวดบทพระมหาจักรพรรดิ์ ตามสายของหลวงตาม้าท่าน โดยเวลาสวดจะกำหนดระลึกนึกถึงหลวงปู่ทวดอยู่บนบ่าซ้าย หลวงปู่ดู่บนบ่าขวา พระทรงเครื่องมหาจักรพรรดิ์บนจอมขวัญ แล้วกำหนดจิตเห็นหลวงปู่แผ่กระแสบุญออกไป สวดจักรพรรดิ์ออกไป เพื่อให้ผู้ที่มีสัมมาทิฐฐิ และสามารถรับกระแสบุญได้ ได้ร่วมกันอนุโมทนาเพื่อปรับภพภูมิแห่งตนได้ครับ....
     
  18. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112
    ส่วนตัวแล้วยังไม่เคยมีประสบการณ์ใดๆเป็นที่ประจักษ์กับตนเอง
    แต่มีช่วงนึงที่ผมสวดบทมหาจักรพรรดิ์ ตามสายของพระเดชพระคุณหลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า ก่อนสวดมนต์ทุกครั้ง จะต้องสวดบูชาท่านหลวงปู่ทวด และสวดบทมหาจักรพรรดิ์ เวลาสวดก็จะระลึกถึงท่านหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ และพระพุทธทรงเครื่องพระจักรพรรดิราชเจ้า รวมถึงเวลาสวดบทมหาจักรพรรดิ์เสร็จ จะเชิญพระเข้าตัวโดยระลึกเห็นภาพประมาณดังรูปที่แนบไว้ และแผ่บุญกุศลไปทั่ว3แดนโลกธาตุครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image.jpeg
      image.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      20.8 KB
      เปิดดู:
      85
  19. Grey

    Grey Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2015
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +42
    ข้าพเจ้าสวดมนต์เป็นปกติวิสัยอยู่แล้ว และจะต่อด้วยบทสวดมนต์ พุทธัง อาราธนานังกะโรมิ ธัมมัง อาราธนานังกะโรมิ สังฆัง อาราธนานังกะโรมิ นะโมโพธิสัตโต อะคันติมายะอิติภะคะวา และต่อด้วย นะโมโพธิสัตโต พรหมปัญโญ ต่อด้วย นะโมพุทธายะ พระพุทธไตรรัตนญาณ มณีนพรัตน์ ของหลวงปู่ดู่ โดยส่วนตัวจะไปวัดไหนก็จะเช่าบูชา หลวงปู่ทวดมาบูชาเสมอ รัักและนับถือท่านเสมอเหมือนหลวงปู่โตค่ะ มีความรู้สึกสบายใจและรู้สึกว่าไปไหนก็ปลอดภัยจามภัยอันตรายต่างๆ ค่ะ นะโมโพธิสัตโต อะคันติมายะอิติภะคะวา สาธุ สาธุ สาธุ ขอความเจริญจงมีแต่ข้าพเจ้าและท่านทั้งหลายที่รักและศรัทธาท่าน
     
  20. ปฏิภาณ บดส

    ปฏิภาณ บดส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +132
    ประสบการณ์หลวงปู่ทวดไว้ในรถแม่ขับรถไปเชียงใหม่ทางอ.วังเหนือ ขณะที่ไปเพลินๆมีรถเชพโลเลสสวนขึ้นมากลางเนินถนนแบบมองไม่เห็นผมหักหลบข้างทางอย่างเร็วหลบไปทางซ้ายเก็บหล่นไหล่ทางแต่เหมือนมีมือดึงหักเข้าทางขวาเข้าถนนเหมือนเดิมใจผมนึกว่าตายแล้วรีบดึงสติกลับมาเพราะในรถมีรูปหล่อหลวงปู่ทวดอยู่ไม่งั้นคงตายทั้งแม่และลูกชายผมแน่วันนั้นจะไปทำบุญที่วัดพระพุทธบาท4รอยที่เชียงใหม่
     

แชร์หน้านี้

Loading...