วัวธนูรุ่นแรก หลวงปู่เท อายุ 102 ปี วัดยี่งอ จ.นราธิวาส ประสบการณ์แรง น.94

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย A_ty, 16 มกราคม 2014.

  1. A_ty

    A_ty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,731
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,368
    กระทั่งวันที่ ๑๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๖๕ ครอบครัวหลานของหลวงพ่อเทศที่ชื่อ นายพุฒ ก้อนจันเทศ และ นางแก้ว นามสกุลเดิมฟุ้งสุข ซึ่งอยู่ที่หมู่๗ บ้านสระทะเล ตำบลย่านมัทรี อำเภอพยุหะคีรี ได้คลอดบุตรคนหนึ่งออกมาชื่อว่าเด็กชายพัฒน์ ขณะนั้นหลวงพ่อหมึก เจ้าอาวาสวัดสระทะเลผู้เป็นลุงได้ทราบข่าวจึงรู้ได้ทันทีว่าหลานชายคนนี้) คือลูกหลานคนที่หลวงพ่อเทศสั่งเอาไว้เพราะเกิดในปีจอตามที่หลวงพ่อเทศบอก จึงรีบส่งข่าวไปยังหลวงพ่ออิน และหลวงพ่อเดิม ทันที พอหลวงพ่อทั้งสามรูปทราบข่าวแล้วจึงได้แต่รอคอยเวลาอันเหมาะสมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งเสียของหลวงพ่อเทศ โดยตกลงกันว่า หลวงพ่อหมึก วัดสระทะเลผู้เป็นหลวงลุงของเด็กชายพัฒน์และหลวงพ่ออินซึ่งสนิทสนมกับครอบครัวของเด็กชายพัฒน์ (ครอบครัวเด็กชายพัฒน์เป็นคนส่งปิ่นโตถวายภัตตราหารให้หลวงพ่ออินระหว่างที่หลวงพ่ออินมาเรียนกรรมฐานและวิชาอาคมกับหลวงพ่อเทศ)จะเป็นผู้สอนกรรมฐานและวิชาอาคมพื้นฐานให้ ส่วนหลวงพ่อเดิมจะถ่ายทอดพุทธาคมชั้นสูงรวมถึงวิชามีดหมออันโด่งดังให้กับเด็กชายพัฒน์ด้วยตนเอง
     
  2. A_ty

    A_ty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,731
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,368
    ต่อมาเมื่อเด็กชายพัฒน์เติบโตขึ้นจนอายุได้ ๕ ขวบ ทางบ้านสระทะเลได้เกิดภัยแล้งขึ้น ทำให้ครอบครัวของเด็กชายพัตน์ต้องอพยพไปทำนาที่บ้านหนองเนิน อำเภอท่าตะโก ซึ่งชาวบ้านแทบทั้งหมดเป็นไทยทรงดำ ครอบครัวของเด็กชายพัฒน์ทำนาอยู่ที่นั่นได้เพียง ๓ ปี อยู่ๆไม่รู้ว่านายพุฒ ก้อนจันเทศพ่อของเด็กชายพัฒน์คิดอย่างไรจึงย้ายมาทำนาที่บ้านหนองหลวง หรือจะเป็นเพราะชะตาฟ้าลิขิตให้เป็นดังคำกล่าวของหลวงพ่อเทศ เนื่องจากในเวลานั้นทั้งหลวงพ่อเดิมและหลวงพ่ออินได้นำช้างทั้งเจ้าคูณ และ เจ้าบัวบาน มาร่วมกันสร้างเสนาสนะให้วัดหนองหลวงอยู่พอดี เมื่อหลวงพ่อเดิมรู้ว่าเด็กชายพัฒน์มาอยู่ที่นี่แล้วจึงขอให้หลวงพ่ออิน(ศิษย์ผู้น้อง)ซึ่งสนิทกับครอบครัวของเด็กชายพัฒน์ไปขอเด็กชายพัฒน์มาเป็นลูกศิษย์อยู่ที่วัดหนองหลวง เหตุนี้เองที่ทำให้เด็กชายพัฒน์เริ่มใกล้ชิดกับหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ โดยหลวงพ่อเดิมมักจะเรียกท่านไปบีบนวดและสอนคาถาสั้นให้ท่องจำเสมอๆจนคุ้นเคยกัน กระทั่งศาลาที่วัดหนองหลวงเสร็จหลวงพ่อเดิมจึงกลับไปยังวัดหนองโพ ปล่อยให้หลวงพ่ออินอยู่สร้างวัดหนองหลวงอีกหลายปีจนเสร็จ ระหว่างนี้เด็กชายพัฒน์ได้ร่ำเรียนเขียนอ่านภาษาไทยและภาษาขอมกับหลวงอาน้อยและเรียนกรรมฐานเบื้องต้นกับหลวงพ่ออิน
     
  3. A_ty

    A_ty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,731
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,368
    เมื่อหลวงพ่ออินสร้างวัดหนองหลวงเสร็จแล้วท่านก็ได้กลับไปอยู่วัดหางน้ำสาคร ส่วนครอบครัวของเด็กชายพัฒน์ก็ได้กลับมาอยู่ที่บ้านสระทะเลตามเดิม เด็กชายพัฒน์ในวัย ๑๒ ปีจึงได้ย้ายกลับมาเรียนหนังสือที่โรงเรียนวัดสระทะเลจนจบชั้นประถม ๔ ก่อนที่พ่อและแม่จะให้ออกมาช่วยที่บ้านทำนา แต่ถึงกระนั้น ด้วยความที่ฟ้าได้ลิขิตมาให้เด็กชายพัฒน์ต้องเติบโตขึ้นมาเป็นครูบาอาจารย์ผู้สืบทอดกรรมฐานและพุทธาคม จึงทำให้เด็กชายพัฒน์มีความชื่นชอบในทางพระ ฝักใฝ่ในกรรมฐานและพุทธาคมอยู่เสมอ พอมีเวลาว่างจากการช่วยพ่อแม่ทำนาทีไร เป็นอันไปขลุกอยู่กับหลวงลุงหมึกเพื่อเรียนกรรมฐานและวิชาอาคมทุกครั้ง ทั้งๆที่ในวัยนั้นเด็กหนุ่มทุกคนมักจะสนใจแต่สาวๆ แต่เด็กหนุ่มอย่างนายพัฒน์กลับคิดแต่อยากบวชเป็นพระ ในขณะที่หลวงลุงหมึกได้สึกจากพระมาเป็นอาจารย์ฆราวาส
     
  4. A_ty

    A_ty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,731
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,368
    พออายุครบเกณท์นายพัฒน์ก็ได้ถูกคัดเลือกให้เข้าเป็นทหาร แต่ในขณะที่จะปลดจากทหารกลับเกิดสงครามมหาเอเชียบูรพา (สงครามโลกครั้งที่ ๒) ขึ้นเสียก่อน จึงทำให้ต้องเป็นทหารต่อจนอายุ ๒๔ ปี ระหว่างที่เป็นทหารอยู่นั้นพลทหารพัฒน์ได้ใช้วิชาอาคมที่เคยเรียนมาคุ้มกันตัวอยู่ตลอดเวลา การท่องบ่นมนต์ภาวนาอาคมต่างๆทำให้จิตใจอยากบวชเป็นพระอยู่เสมอ ประกอบด้วยฟ้าลิขิตหรือวาจาสิทธิ์ของหลวงพ่อเทศก็ตามแต่ เมื่อปลดประจำการออกมาในต้นปี พ.ศ.๒๔๘๙ นายพัฒน์ได้ขออนุญาตพ่อแม่ว่าอยากไปบวชเป็นพระ พ่อแม่ก็เห็นด้วย จึงได้ทำการอุปสมบท ณ อุโบสถวัดสระทะเล ตำบลย่านมัทรี(ในสมัยนั้น) อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ โดยมีพระธรรมไตรโลกาจารย์ (ยอด อกฺกวงฺเถระ) วัดเขาแก้ว (ลูกศิษย์หลวงพ่อเทศ) เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อกัน วัดเขาแก้ว เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการชั๊ว วัดสระทะเล เป็นพระอนุสาวนาจารย์
     
  5. chukit1967

    chukit1967 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2015
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +218
    มีดหมอ ขุนแผน สิงห์ หลวงปู่พัฒน์หมดยังครับ
     
  6. A_ty

    A_ty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,731
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,368
    มีดหมอมีรุ่นสองคะ เป็นมีดปากกาขนาด 4.7 นิ้ว บูชา 1700 บาท
    สิงห์เลี่ยม 350 บาท สิงห์เปลือย 200 บาท
    ขุนแผนมีเหลือบ้างคะ แบบฝังตะกรุดสามกษัตริย์ 300 บาm ตะกรุด 1 ดอก 200 บาท องค์ธรรมดา 100 บาทคะ


    แล้วจะเอาภาพลงให้ชมนะคะ
     
  7. A_ty

    A_ty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,731
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,368
    บวชแล้วพระพัฒน์ก็ได้เริ่มเรียนนักธรรมตรีและโทไปได้สักระยะ โดยระหว่างนั้นหลวงพ่อเดิมกำลังไปสร้างเสนาสนะและโบสถ์อยู่ที่วัดอินทาราม (วัดของหลวงพ่อแก้ว พระอุปัชฌาย์ของท่านซึ่งอยู่ติดกับวัดเขาแก้วโดยมีเพียงถนนคั่น) เมื่อท่านรู้ว่านายพัฒน์บวชเป็นพระจนถึงเวลาอันเหมาะสมแล้ว ท่านจึงให้คนมาตามพระพัฒน์ไปเรียนพุทธาคมกับท่าน เมื่อพระพัตน์ไปพบกับหลวงพ่อเดิมที่วัดอินทาราม หลวงพ่อเดิมก็เริ่มถ่ายทอดกรรมฐานและพุทธาคมให้ทันทีเป็นเวลาสองสามวันติดๆกัน โดยให้พระพัฒน์ไปจำวัดอยู่ที่วัดเขาแก้วกับหลวงพ่อกัน (เพราะขณะนั้นวัดอินทรามกำลังซ่อมสร้างอยู่ จึงไม่สะดวกในการพัก) ในช่วงเวลานี้เองที่พระพัฒน์ต้องเดินทางไปๆมาๆ ระหว่างวัดสระทะเลกับวัดเขาแก้ว โดยไปเช้าเย็นกลับบ้าง ไปพักค้างแรมครั้งละหลายๆวันบ้าง เป็นเวลาเกือบสองพรรษาจึงเรียนวิชากับหลวงพ่อเดิมจนจบ หลังจากหลวงพ่อเดิมสร้างเสนาสนะให้วัดอินทารามเสร็จแล้ว ท่านก็กลับไปยังวัดหนองโพธิ์ได้ไม่นานก็ถึงแก่มรณภาพในวันที่ ๓๐ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๙๔
     
  8. A_ty

    A_ty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,731
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,368
    <a href="http://www.mx7.com/view2/z8Y6MDMCF3ziIOhO" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/e97/Q5YeFJ.jpg" /></a>
     
  9. A_ty

    A_ty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,731
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,368
    เมื่อพระพัฒน์ได้ร่ำเรียนกรรมฐานและพุทธาคมของหลวงพ่อเทศผ่านทางหลวงพ่อเดิม พร้อมทำการฝึกฝนจนกลายเป็นพระอาจารย์พัฒน์แล้ว แต่ในใจของท่านกลับมีเรื่องหนึ่งที่ยังคงค้างคาใจ ก็คือเรื่องที่ตำราตีเหล็กและการสร้างมีดของสำนักวัดเขาแก้วได้กล่าวไว้ถึงเรื่องการชุบมีดให้เป็นสีปีกแมลงทับคืออมดำอมเขียวอมฟ้าอมม่วงด้วยน้ำทิพย์ศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเพิ่มมีดให้มีอิทธิคุณสูงสุดตามตำราเหล็ก บ่อน้ำทิพย์แห่งนี้อยู่ในเมืองลับแลในจังหวัดอุตรดิตถ์ แต่หลวงพ่อเดิมยังไม่มีโอกาสได้เดินทางไปเสาะแสวงหามาชุบมีด การทำมีดที่ผ่านมาจึงยังไม่เต็มตามตำรา ตอนนี้มาถึงยุคของตัวท่านเองแล้ว ท่านยังหนุ่มยังแข็งแรง และไม่มีภาระการปกครองวัดเช่นหลวงพ่อเดิม จึงน่าจะใช้โอกาสนี้เดินทางไปเสาะแสวงหาบ่อน้ำทิพย์ดังกล่าว โดยท่านพยายามสอบถามข้อมูลจากคนเก่าๆจนได้ข้อมูลว่า....
    เมืองลับแลตั้งขึ้นในสมัยอยุธยา และยังสำรวจไม่พบหลักฐานของตัวเมือง เช่นกำแพงเมือง และคูเมืองก็ตาม แต่เมืองลับแลก็มีตำนานเล่าสืบกันมานานว่าเป็นเมืองมหัศจรรย์ มีที่ตั้งที่ลึกลับซับซ้อน คนแปลกหน้ายากที่จะเข้าไปได้ เมื่อมองจากภายนอกจะเห็นแต่ป่าไม้ ไม่ค่อยพบเห็นบ้านเรือน มีบรรยากาศเยือกเย็น เมื่อเวลาเย็นดวงอาทิตย์ยังไม่ตกดินก็มืดแล้ว เพราะมีดอยม่อนฤๅษีสูงใหญ่เป็นฉากกั้นแสงอาทิตย์ ป่าบริเวณนี้จึงได้ชื่อว่าลับแลง ต่อมาได้เพี้ยนเป็นลับแล
     
  10. A_ty

    A_ty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,731
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,368
    <a href="http://www.mx7.com/view2/z90cR4bhrFvVHod9" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/e4f/Reeb4n.jpg" /></a>
     
  11. A_ty

    A_ty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,731
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,368
    มีตำนานทางพุทธศาสนาเล่าว่า เมื่อครั้งพระพุทธเจ้าได้เสด็จมาโปรดสัตว์ที่หมู่บ้านซึ่งต่อมาชื่อว่าเมืองทุ่งยั้งนั้น พระพุทธองค์ได้ประทับที่พระแท่นศิลาอาสน์ แล้วเสด็จมาเดินจงกรมที่วัดพระยืนพุทธบาทยุคล ได้ทอดพระเนตรไปทางทิศเหนือ เห็นหนองน้ำกว้างใหญ่อยู่แห่งหนึ่ง ซึ่งต่อมาได้เรียกชื่อว่า หนองพระแล และพระพุทธองค์ได้ทอดพระเนตรไปยังที่ตั้งเมืองลับแล ปรากฏว่ามีต้นไม้บังอยู่มากมายเหมือนกับเป็นที่ลี้ลับ ดินแดนดังกล่าวจึงมีชื่อเรียกว่าลับแล
    เมืองลับแลนี้ มีตำนานพื้นบ้านเล่าว่าเป็นเมืองแม่ม่าย ตั้งอยู่ในที่ลี้ลับ พลเมืองมีแต่ผู้หญิงยึดมั่นในคุณความดี มีวาจาสัตย์ ต่อมามีชายชาวทุ่งยั้งผู้หนึ่ง หลงทางเข้าไปที่เมืองลับแล ได้พบสาวเมืองลับแลเกิดรักกันและได้อยู่กินกันฉันสามีภรรยา ฝ่ายหญิงให้ฝ่ายชายสัญญาว่าจะไม่พูดเท็จ ทั้งสองมีบุตรด้วยกันคนหนึ่ง วันหนึ่งภรรยาออกไปเก็บผักหักฟืน ลูกหิวนมร้องไห้ไม่หยุด ผู้เป็นพ่อจึงปลอบลูกว่าแม่กลับมาแล้วเพื่อให้ลูกหยุดร้องไห้ เมื่อภรรยากลับมาทราบว่าสามีกล่าวเท็จจึงต้องไห้สามีออกจากเมืองลับแลไป พอสามีออกจากเมืองลับแลไปแล้วก็ไม่สามารถหาทางเข้าเมืองนี้ได้อีกเลย
     
  12. ฺBoid

    ฺBoid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    64
    ค่าพลัง:
    +229
    วันนี้ได้รับแล้วครับ ขอบคุณมากครับ
    ไม่ทราบว่าพระที่แถมมา เป็นของหลวงปู่หรือหลวงพ่อไหนครับผม
     
  13. A_ty

    A_ty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,731
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,368
    นอกจากเมืองลับแลแล้วในจังหวัดอุตรดิตถ์ยังมีเมืองแปลกๆอยู่อีกมาก อย่างเช่น เมืองตาชูชก ที่สถานที่ต่างๆมีชื่อเกี่ยวข้องกับเรื่องชูชกอยู่มากมาย หรือ เมืองทองแสนขัน ที่มีบ่อเหล็กน้ำพี้ศักดิ์สิทธิ์ชื่อบ่อพระขรรค์และบ่อพระแสง เหล็กกล้าเนื้อดีที่นำไปใช้ทำพระแสงของ้าวของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ดาบล้างอาถรรพ์ของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ดาบฟ้าฟื้นของขุนแผน ดาบนันทกาวุธของพระยาพิชัยดาบหัก หรือแม้กระทั่งการตีเหล็กที่ทำมีดหมอ ถ้าใช้เหล็กน้ำพี้เป็นหลักได้ก็จะดี แต่เหล็กน้ำพี้ล้วนๆนั้นหายาก จึงนิยมใช้เหล็กน้ำพี้เป็นส่วนผสม
     
  14. A_ty

    A_ty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,731
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,368
    ในเมื่ออุตรดิตถ์มีเรื่องน่าสนใจมากมายขนาดนี้ พระอาจารย์พัฒน์ท่านจึงตัดสินใจออกเดินทางไปเมืองลับแลทันที โดยไปขอพักกับหลวงพ่อชุบ เจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุทุ่งยั้งในใจกลางอำเภอลับแล ซึ่งพอหลวงพ่อชุบท่านทราบเจตนารมณ์ของพระอาจารย์พัฒน์แล้วก็ชอบใจและทำการสนับสนุนอย่างเต็มที่ แต่ขอให้พระอาจารย์พัฒน์เรียนวิชาทางเมตตามหานิยมจากท่านและขอให้ช่วยเป็นคู่เทศน์ปุจฉา วิสัชนา กับท่านด้วยเป็นระยะเวลา ๓ ปี พระอาจารย์พัฒน์จึงต้องตอบตกลงเพราะต้องการอยู่ค้นหาบ่อน้ำทิพย์ที่เมืองลับแล เมื่อได้อยู่วัดพระบรมธาตุทุ่งยั้งแล้ว พระอาจารย์พัฒน์ก็เริ่มได้ค้นหาประวัติต่างๆของเมืองนี้ทันที จนได้ความว่า
     
  15. A_ty

    A_ty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,731
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,368
    <a href="http://www.mx7.com/view2/z96OobxHXsgAF4MB" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/a07/80Ohs0.jpg" /></a>

    มีดหมอไม้งิ้วดำ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มิถุนายน 2016
  16. A_ty

    A_ty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,731
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,368
    ในเขตอำเภอลับแลปัจจุบันมีเมืองเก่าอยู่ ๒ เมือง คือเมืองลับแล และ เมืองทุ่งยั้ง ซึ่งเป็นเมืองหน้าด่านชั้นนอกของกรุงสุโขทัย โดยขึ้นอยู่กับเมืองเชลียง เมืองทุ่งยั้งเป็นชุมชนขนาดใหญ่ มีความสำคัญมาแต่สมัยสุโขทัย และสมัยอยุธยา จนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ มีตำนานเล่าสืบกันมาว่า เป็นเมืองท้าวสามลในเรื่องสังข์ทอง มีหลักฐานตามองค์ประกอบของเรื่องเป็นชื่อสถานที่ต่าง ๆ อยู่เป็นอันมาก เช่นเมืองท้าวสามล สระเจ็ดนาง สถานที่พระสังข์ไปหาเนื้อหาปลา เวียงเจ้าเงาะ ที่ทำนา กระท่อมปลายนา สนามตีคลี หลุมคลี นอกจากนี้ในวิหารหลวงของวัดพระบรมธาตุ ทุ่งยั้งยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง เขียนเรื่อง สังข์ทองเอาไว้ สันนิษฐานว่า เป็นฝีมือช่างครั้งกรุงศรีอยุธยาปรากฏให้เห็นอยู่บางส่วน รวมทั้งมีรูปเจ้าเงาะและนางรจนา แกะสลักด้วยศิลาแลง ขุดพบที่เวียงเจ้าเงาะ นอกจากนั้นยังพบรูปปั้นเจ้าเงาะที่ทำด้วยเครื่องปั้นดินเผาเคลือบน้ำยา มีเนื้อดินแบบเตาทุเรียงศรีสัชนาลัย ขนาดสูงประมาณ ๘ นิ้ว วัดพระบรมธาตุทุ่งยั้งเดิมชื่อวัดมหาธาตุ พระธาตุเจดีย์แต่เดิมมียอดสูงและสวยงามมาก แต่ได้หักพังลงเมื่อเกิดแผ่นดินไหวในปี พ.ศ. ๒๔๕๑ ต่อมาหลวงพ่อแก้วร่วมกับชาวบ้านได้ปฏิสังขรณ์ขึ้นมาใหม่ ทางด้านเหนือของวัดมีสระรูปสี่เหลี่ยมอยู่สองสระ เล่าสืบกันมาว่าในสระทั้งสองนั้นมีถ้ำอยู่สระละถ้ำโดยที่สระทางด้านตะวันตกมีถ้ำกว้างขวางและลึกมาก มีความยาวจนไปทะลุถึงเมืองระแหง ถ้ำดังกล่าวนี้เจ้าผู้ครองนครในสมัยนั้น สร้างขึ้นมาเพื่อผลทางยุทธศาสตร์ ปัจจุบันทั้งสระและถ้ำดังกล่าวตื้นเขินจนดูไม่ออกว่าเป็นสระและเป็นถ้ำ พระวิหารสร้างขึ้นในสมัยอยุธยา และที่เวียงเจ้าเงาะซึ่งห่างไปจากวัดพระบรมธาตุไม่ไกลนักนี้เองที่พระอาจารย์พัฒน์พบว่า เป็นเมืองโบราณซ้อนเมืองโบราณมีหลุมบ่อที่มีลักษณะเป็นถ้ำ และอุโมงค์อยู่มาก มีโบราณวัตถุตกหล่นแตกหักอยู่ในหลุมและอุโมงค์อยู่หลายแห่ง พระอาจารย์พัฒน์ใช้เวลาค้นหาอยู่นานจึงพบว่าบ่อน้ำทิพย์อยู่ใต้กำแพงศิลาแลงของเวียงเจ้าเงาะ น้ำในบ่อน้ำทิพย์นั้นใสสะอาด ใช้ดื่มกินได้ ตักขึ้นมาเท่าใดก็ไม่แห้ง ทั้งๆที่เป็นบ่อน้ำตื้นๆ บางคนก็นำน้ำในบ่อไปใช้เป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์รักษาโรคภัยไข้เจ็บ
     
  17. A_ty

    A_ty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,731
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,368
    จากพงศาวดารโยนกของพระกิจกรจักร มีความตอนหนึ่งว่า เจ้าธรรมกุมารเจ้าเมืองกัมโภชนคร หรือเมืองทุ่งยั้ง ได้ทราบความศักดิ์สิทธิ์ของน้ำในบ่อน้ำทิพย์ พระองค์ได้ทรงสร้างพระแสงดาบประจำพระองค์ โดยใช้น้ำในบ่อน้ำทิพย์ชุบพระแสงดาบนี้ ก็ปรากฏว่าเหตุอัศจรรย์คือ เมื่อพระแสงดาบถูกน้ำทิพย์ เนื้อดาบได้แปรสภาพเป็นสีปีกแมลงทับ และมีความแข็งแกร่ง คมวาว ต่อมาพระองค์ได้ใช้พระแสงดาบนี้สยบช้างป่าได้ กิติศัพท์ได้เลื่องลือออกไป บรรดาหัวเมืองต่าง ๆ ต่างก็พากันมานำน้ำทิพย์ไปใช้รักษาโรคภัยไข้เจ็บยังบ้านเมืองของตน บ่อน้ำทิพย์จึงเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ประจำเวียงเจ้าเงาะมาตั้งแต่บัดนั้น
    ในระหว่างที่อยู่วัดพระบรมธาตุทุ่งยั้งนั้น พระอาจารย์พัฒน์ได้ค้นพบความลับของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆอย่างมากมาย จนเวลาล่วงเลยไปถึง ๓ ปี จึงไปขอลาหลวงพ่อชุบกลับวัดสระทะเล แต่หลวงพ่อชุบกลับขอให้ท่านอยู่เป็นเจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุทุ่งยั้งแทนท่านอีก ๓ ปี เพราะหลวงพ่อชุบ ท่าจะย้ายไปพัฒนาวัดพระยืนพุทธบาทยุคลก่อน พระอาจารย์พัฒน์จึงต้องอยู่ดูแลวัดพระบรมธาตุทุ่งยั้งต่ออีก ๓ ปี รวมเป็น ๖ปี จึงได้กลับมาอยู่จำพรรษาที่วัดสระทะเลอีก ๙ พรรษา ขณะนั้นโยมพ่อโยมแม่ของท่านได้พาครอบครัวย้ายมาซื้อที่ดิน ทำนา แถวบ้านห้วยด้วน ตำบลธารทหาร อำเภอหนองบัว เมื่อกำนันผลตำบลธารทหารทราบเรื่องจึงขอให้โยมพ่อโยมแม่ของพระอาจารย์พัฒน์ช่วยกันอาราธนาพระอาจารย์พัฒน์ มาเป็นหลวงพ่อพัฒน์ เจ้าอาวาสวัดธารทหาร เพื่อสร้างอุโบสถให้แล้วเสร็จ เพราะทราบกันดีว่า หลวงพ่อพัฒน์ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้สืบทอดกรรมฐานและวิชาอาคมของหลวงพ่อเทศ วัดสระทะเล ซึ่งเมื่อกำนันผลพาลูกบ้านและโยมพ่อ โยมแม่ของหลวงพ่อพัฒน์ไปอาราธนาท่านแล้ว หลวงพ่อพัฒน์ก็ตอบตกลงและได้ย้ายมาพัฒนาวัดธารทหารตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๑๒ เป็นต้นมา จากนั้นท่านก็ไม่ได้ย้ายไปอยู่วัดอื่นอีกเลย ตราบจนกระทั่งกลายเป็นหลวงปู่พัฒน์อยู่ในปัจจุบัน
     
  18. A_ty

    A_ty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,731
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,368
    เมื่อมาอยู่วัดธารทหารแล้ว หลวงปู่พัฒน์ท่านก็ได้เริ่มสร้างวัตถุมงคลขึ้นเป็นครั้งแรก แต่แทนที่ท่านจะสร้างมีดหมอ ท่านกลับสร้างปลัดขิก เพราะมีดหมอนั้นใช้ทุนทรัพย์ในการสร้างสูง ทำให้ไม่สามารถแจกให้กับญาติโยมได้ทั่วถึง หลวงปู่ท่านจึงหาเศษกิ่งไม้มาเหลาเป็นปลัดขิกและลงอักขระปลุกเสกแจกแบบไม่มีต้นทุนอะไร ใครไปกราบท่านหรือร่วมทำบุญสร้างเสนาสนะกับท่าน ท่านก็จะมอบปลัดขิกให้เป็นที่ระลึก ในสมัยแรกๆคนที่รับปลัดขิกจากท่านไปก็ไม่ค่อยจะให้ความเชื่อถือสักเท่าไร จนกระทั่งหลวงปู่พัฒน์ได้มอบปลัดขิกให้เด็กวัดคนหนึ่งที่สติไม่ค่อยจะครบถ้วนชื่อว่า นายเวียน คาดเอวเอาไว้ ต่อมานายเวียนเดินข้ามถนนหน้าวัดแบบไม่ทันดู จึงถูกรถบรรทุกปุ๋ยชนเข้าอย่างจัง จนร่างกระเด็นขึ้นไปติดกระจกแล้วร่วงหล่นลงมา แต่ปรากฏว่านายเวียนกลับไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ตามเนื้อตามตัวไม่มีแม้แต่รอยแผลถลอก เรื่องนี้เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาชาวบ้านที่อยู่บริเวณร้านค้าหน้าวัดจำนวนมาก หลังจากนั้นเป็นต้นมา ความเชื่อถือของชาวบ้านต่อปลัดขิกของหลวงปู่พัฒน์ก็เปลี่ยนไป เพราะชาวบ้านแทบจะทุกหลังคาเรือนต่างหอบลูกจูงหลานมาขอปลัดขิกจากหลวงปู่กันอย่างไม่ว่างเว้นจนทางวัดนั้นเหลาให้ไม่ทัน
     
  19. A_ty

    A_ty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,731
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,368
    <a href="http://www.mx7.com/view2/z97NIvwLsvRMjHSU" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/b1c/JQYrBw.jpg" /></a>

    มีดหมอไม้งิ้นดำรุ่นสอง มีขนาดปากกาด้วยนะคะ ยาว 4.7 นิ้ว บูชา 1700 บาท
     
  20. A_ty

    A_ty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,731
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,368
    <a href="http://www.mx7.com/view2/z97PUZlkDaQrvc0D" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/a24/RfOVXL.jpg" /></a>

    มีดหมอไม้งิ้นดำรุ่นสอง มีขนาดปากกาด้วยนะคะ ยาว 4.7 นิ้ว บูชา 1700 บาท
     

แชร์หน้านี้

Loading...