ร่วมทำบุญบูชา สำเร็จสิทธิพระที่นั่งมหาบัลลังก์(ปรารถนาเป็นหนึ่งกุณฑธานเถระ) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,096
    ค่าพลัง:
    +16,623
    วันนี้นั่งห่อของเตียมส่งเรื่อยๆ

    ดังนั้นเรื่องพูดคุยก็ขอเลื่อไว้เป็นพรุ่งนี้แทนนะครับ เห็นหลายคนบอกว่ากระทู้เงียบ เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ไม่เงียบแน่นอน;)
     
  2. Chutha

    Chutha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2014
    โพสต์:
    981
    ค่าพลัง:
    +16,824
    โอนแล้วค่ะ ขอแจ้งทางpm ค่ะ
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,096
    ค่าพลัง:
    +16,623
    แจ้งการส่ง EMS
    พี่ชัยวัฒน์ ER 3721 1174 1 TH

    พี่ธีรพจน์ ER 3721 1175 5 TH

    พี่นฐมน ER 3721 1176 9 TH

    พี่ภาคภูมิ ER 3721 1177 2 TH

    พี่คณพศ ER 3721 1178 6 TH

    พี่สมภพ ER 3721 1179 0 TH

    พี่ศิระ ER 3721 1180 9 TH

    พี่ปริญญรัตร์ ER 3721 1181 2 TH

    พี่ศิริพักตร์ ER 3721 1182 6 TH

    พี่จุฑาภรณ์ ER 3721 1183 0 TH

    พี่ชไมพร ER 3721 1184 3 TH

    พี่เอกชัย ER 3721 1185 7 TH

    พี่สุภาพร ER 3721 1186 5 TH

    พี่สายเมธี ER 3721 1187 4 TH

    พี่กัมปนาท ER 3721 1188 8 TH

    พี่ธรรมนูญ ER 3721 1189 1 TH

    พี่วิชัย ER 3721 1190 5 TH

    พี่หน่อง ER 3721 1191 4 TH

    พี่ธเนศพล ER 3721 1192 8 TH

    พี่อัมรินทร์ ER 3721 1193 1 TH

    พี่ปภัสสร ER 3721 1194 5 TH

    พี่วีระพัฒน์ ER 3721 1195 9 TH

    พี่พชร ER 3721 1196 2 TH

    พี่สมพร ER 3721 1197 6 TH

    พี่ปภพ ER 3721 1198 0 TH

    พี่ประเสิรฐ ER 3721 1199 3 TH

    พี่ธีรนนท์ ER 3721 1200 0 TH

    พี่อัครพงศ์ ER 3721 1201 3 TH

    พี่กษิเดช ER 3721 1202 7 TH

    พี่จันทร์รัสม์ ER 3721 1203 5 TH

    พี่จิรญา ER 3721 1204 4 TH

    พี่ศราวุฒิ ER 3721 1205 8 TH

    พี่รังสรรค์ ER 3721 1206 1 TH

    * เงินทอนค่าจัดส่งที่เหลือหยอดใส่กล่องบริจาคช่วยอุทกภัยภาคใต้
     
  4. พิชญากร

    พิชญากร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    909
    ค่าพลัง:
    +5,260
    รวดเร็วทันใจดีจริงๆ รออ่านเรื่องราวดีๆค่ะ
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,096
    ค่าพลัง:
    +16,623
    พูดคุยรอบเย็น

    ก็มาพูดคุยกันนะครับ

    มันเป็นเรื่องที่เริ่มจากมีคนถามมาเรื่อยๆเป็นปีๆแบบคุยเล่นๆ เราก็ไม่ได้คิดเป็นจริงเป็นจังอะไร บางคนก็ถามว่าให้เรียนถามพ่ออาจารย์ให้หน่อยมีเครื่องมงคลอะไรที่ยิ่งใช้ยิ่งแรงยิ่งมีฤทธิ์มากมั๊ย เราก็ตอบว่าไม่มีนะ พี่บางท่านก็ฝากมาถามว่ามีอะไรที่มันกินทุกข์กินเคราะห์เราได้มั๊ยเวลาดาวบาปเคราะห์ทับดวงต่างๆพูดง่ายๆคือกินความซวย เราก็ว่าคงไม่มีนะ บางคนก็ถามว่ามีของแบบเเรงๆที่มันดูดวิชาอาคมจากที่อื่นๆมาเพิ่มให้ตัวเองพูดง่ายๆคือถ่ายเทพลังให้ของเราแรงขึ้นเรื่อยๆมีมั๊ย เราก็ว่าคงไม่มี บางคนก็ว่าอยากได้ของอาถรรพ์คุณวิชาแรงๆแบบที่ครอบคลุมทั้งสิบแปดศาสตร์ไปเลย เราก็ว่าคงไม่มี พี่บางท่านก็ว่าอยากได้แบบที่ยิ่งชีวิตเรายิ่งซวยยิ่งมีเคราะห์ของยิ่งดียิ่งแรงยิ่งดูดซับสิ่งต่างๆกินเคราห์กรรมทั้งหลายไปเป็นพลังงานให้ตัวเอง แบบนี้เรายิ่งตอบว่าไม่มีแล้วก็อีกหลายๆเรื่องราว....

    อันนี้คือผมยอมรับว่าตอบส่งๆไปนะ เพราะมันจะมีได้ยังไงในความคิดเรา จนได้ยกเรื่องนี้มาพูดคุยกับพ่ออาจารย์ท่าน เราก็เลยลองไล่มาเลยตามความปรารถนาที่เค้าถามๆกันมา ปรากฏว่าท่านตอบว่ามี แล้วท่านก็บรรยายให้ฟัง ซึ่งที่ท่านพูด ยอมรับเลยว่ามันเกินกว่าไอ้ที่เค้าถามไปมาก เรียกว่าเรื่องเดียวกันแต่มันเหมือนคนละเรื่องแบบกลายๆเลยจริงๆ ชนิดที่เราคนฝังยังค้างเลย

    ทีนี้ก็มาตอบไลน์ไล่ไปแต่ละคนที่เค้าเคยถามๆไว้ว่ามีนะ พอบอกว่ามีหลายๆท่านจึงสนใจกันมากแล้วก็มาถามเราว่าเป็นอะไร นานนับปีที่ผมยังไม่ได้ให้คำตอบใครเลย ถึงแม้ไอ้เจ้าเครื่องมงคลสิ่งนี้ จะเรียกว่าเครื่องรางตัวนี้ก็ได้ท่านจะสร้างเสร็จและเสกเก็บมานานแล้ว แต่ท่านว่าก็ยังให้บูชาไม่ได้

    แปลกมั๊ยล่ะ เหตุผลสั้นๆ เพราะท่านบอกว่ายังเลี้ยงเค้าไม่อิ่ม จนผ่านมานานนับปีย้ำว่านานเป็นปีกว่าท่านจะบอกว่าอิ่มแล้ว ครบแล้วตรงตามตำราทุกประการ ดังนั้นหลายๆคนที่เคยถามไว้ติดตามกันให้ดีก็แล้วกันอย่าให้พลาด สิ่งนี้ที่พ่ออาจารย์ท่านเลี้ยง ต้องบอกเลยว่าไม่ใช่การจุดธูปให้มากินอาหารหรืออะไรที่ทำได้ง่ายๆ การเลี้ยงของท่านมันเป็นอะไรที่เกินความคิดอ่านของมนุษย์ไปมากโข เพราะสิ่งที่เค้ากินนั้นมันไม่ใช่ของธรรมดาซ้ำในการกินแต่ละครั้งก็เสริมฤทธิ์ตลอดจนวรรณะของเค้าให้ทวีมากขึ้นและมากยิ่งขึ้นเข้าไปอีก

    กล่าวได้ว่าเป็นชีวิตกายสิทธิ์ที่อยู่ในจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหารในสายของเค้าไปเลย นั่นแหละพ่ออาจารย์ท่านจึงบอกว่าสำเร็จ เสร็จทุกประการ แล้วจะมีรายละเอียดยังไง ดีอย่างไรอันนี้ต้องติดตามกันดีๆ


    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327_d25vj52.jpg
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,096
    ค่าพลัง:
    +16,623
    อรุณสวัสดิ์ครับ วันนี้้ติดตามดีๆนะห้ามพลาด:)
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,096
    ค่าพลัง:
    +16,623
    ร่วมทำบุญบูชา พระเพชรกายสิทธิ์จำแลง(มหาปัดบาปเคราะห์)

    แต่เดิมนั้นพ่ออาจารย์ท่านเคยบอกกล่าวไว้ ว่าเทพยดาจำพวกเพชรพญาธรนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตกึ่งมารที่มีจิตมารรุนแรง ท่านจึงไม่ได้ทำสายนี้จริงจังซักเท่าไหร่ แต่ก็ใช่ว่าท่านจะไม่ได้สร้างไว้เลยเพราะวิชาเพชรพญาธรแท้ๆแบบไม่ใช่ของเล่นนั้น ท่านว่าให้คุณมากและเป็นสรรพวิทยาการที่ตกทอดมาแต่โบราณ ดังนั้นท่านว่าถ้าจะทำก็ต้องทำให้ดีที่สุด และพระเพชรของท่านนั้นต้องชุบให้ไม่มีจิตมารจึงจะใช้ได้


    พ่ออาจารย์ท่านจึงได้ตั้งใจสร้างเพชรพญาธรหรือที่ท่านเรียกว่าพระเพชรขึ้น ซึ่งท่านตั้งใจไว้แล้วว่าจะสร้างในรูปแบบของเครื่องราง ซึ่งพระเพชรนั้นจะมีคุณมากท่านว่ามากชนิดที่ว่าไม่มีปรากฏในเครื่องรางอื่นใดมาก่อน เพราะท่านจะทำและเสกรูปแบบวิชาเฉพาะของครูเทพท่านเสริมส่งลงไปด้วย


    ท่านว่าเพชรพญาธรนั้นมีสี่จำพวก ซึ่งแต่ละจำพวกก็จะมีวรรณะและฤทธิ์แตกต่างกันไป ตั้งแต่ระดับต่ำที่มีร่างกายสีทองแดง สูงขึ้นมาหน่อยก็เป็นสีเงิน และสีทอง ตลอดจนกายศักดิ์สิทธิ์หรือเนื้อสีผิวกายสิทธิ์ ซึ่งยิ่งมีระดับสูงกว่าก็ยิ่งมีฤทธิ์มากกว่าและสามารถเสพย์หรือกินชั้นที่ต่ำกว่าตนเองหนึ่งขั้นได้ ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจแต่เริ่มว่าท่านจะสร้างพระเพชรกายศักดิ์สิทธิ์พรือพระเพชรกายสิทธิ์ขึ้นโดยใช้ธาตุกายสิทธิ์ของท่าน ให้เป็นพระเพชรขั้นสูงสุด


    เมื่อดำริเช่นนั้นท่านจึงขออนุญาติครูเทพครูพรหมทั้งหลาย เพื่อที่จะสร้างเครื่องรางสุดวิเศษชิ้นนี้ให้ดีที่สุด เพราะท่านรู้ว่าเครื่องรางชิ้นนี้สามารถช่วยคนได้มหาศาล ซ้ำวิธีการใช้ก็ไม่จำเป็นต้องพกในที่สูงหรือห้อยคอตลอดแต่อย่างใด ซึ่งครูพรหมและครูเทพทั้งหลายก็ได้นิมิตให้ท่านเห็นรูปแบบที่ควรจะทำและยังได้แนะเคล็ดในการเสกตลอดจนบอกถึงการลงตะกรุดคุณวิชามหาปัดบาปเคราะห์ให้ด้วยเพื่อใช้สงเคราะห์คนอันจะเป็นประโยชน์ใหญ่


    ตะกรุดมหาปัดบาปเคราะห์นั้นเป็นวิชาชั้นสูงซึ่งพ่ออาจารย์บอกว่าเป็นส่วนของวิชาเทพนิมิตร นั่นคือเทวดาสงเคราะห์ให้รู้ให้เรียนเพื่อที่จะช่วยเหลือสัตว์ที่ตกอยู่ในกองทุกข์ วิชาเหล่านี้ไม่เจริญกรรมฐานไม่ได้กสิณย่อมเรียนไม่ได้ ท่านว่าปกติตั้งแต่เกิดจนตายนั้นสรรพชีวิตทั้งหลายย่อมตกอยู่ในกฏแห่งกรรมที่ตนเองได้สร้างขึ้น และในวาระของชีวิตสัตว์ทั้งหลายเหล่านั้น เทวดาซึ่งเป็นฝ่ายบาปเคราะห์ก็ยังมีวาระให้เวียนมาเสวยอายุอีก เรียกได้ว่าจะหนีเคราะห์กรรมนั้นเป็นเรื่องที่ยากหรือเป็นไปไม่ได้เลย พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้จึงเป็นสิ่งที่พิเศษอยู่ในตัวเองที่ท่านสร้างขึ้นตามมติของครูบาอาจารย์ ท่านว่าตะกรุดแต่ละดอกทำยากถึงยากมากที่สุด อะไรที่เกี่วกับเคราะห์กรรมนั้นอย่าหมายว่าจะทำออกมาได้ง่ายๆ ท่านว่าต้องใช้ฤกษ์ผานาทีลงจารด้วยกสิณตลอดจนเรียกสูตรว่ามนต์กำกับ ท่านว่ายากหรือไม่กว่าจะทำให้สำเร็จได้ดอกหนึ่งนั้นท่านว่าทำเสียไปไม่รู้กี่ดอก ที่เสีย ที่ไม่เต็มก็ไม่เอามาใช้ ต้องเพียรจารชักยันต์ไปทั้งหน้าหลังเต็มสูตรตามที่ครูท่านเมตตาบอก


    ท่านว่าตะกรุดมหาปัดบาปเคราะห์นี้ พื้นฐานคือมีอำนาจหลีกเลี่ยงเคราะห์กรรมทั้งหลาย ไม่ใช่ฝืนกฏแห่งกรรมไม่ให้เกิด แต่จะปัดเคราะห์กรรมทั้งหมดออกไปให้พ้นตัว ท่านว่าให้มันเกิดปกติ แต่ทำอย่างไรก็ไม่ถูกตัวหรือต้องตัวเรา ซึ่งวิชานี้ท่านว่ามีอำนาจครอบคลุมในระบบดวงดาวโดยเฉพาะดาวบาปเคราะห์ทั้งหลายด้วย เมื่อพระเคราะห์เสวยอายุ ท่านว่าก็ปล่อยเค้าเสวยไป แต่เค้าจะทำอะไรเราไม่ได้เพราะครูท่านปัดออกหมดด้วยอาถรรพ์แห่งคุณวิชา ใครที่กลัวว่าอนาคตหรือปัจจุบันนั้นดวงจะตกหรือดวงจะแตกท่านว่าเลิกคิดได้เลย ซ้ำในตะกรุดนั้นท่านยังได้ลงวิชาที่ท่านถนัดเสริมไว้อีกคำรบหนึ่งด้วย นั่นคือวิชามหาสะเดาะ ท่านว่ากันไว้ถึงสองชั้น นอกจากปัดออกแล้ว หากยังมีเคราะห์กรรมเหลือหลุดรอดเข้ามาได้เมื่อมาเจอกับมหาสะเดาะทุกอย่างก็จะสงบลง ท่านว่าไม่ต้องไปหาที่สะเดาะเคราะห์ที่ไหนอย่างใดให้เสียเวลาอีก เพราะพอเคราะ์กรรมความซวยความตกต่ำทั้งหลายมาถึงเจอคุณวิชาต่างๆเหล่านี้ ครูท่านทั้งปัดทั้งสะเดาะให้เราในตัวอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้วนั่นเอง ท่านว่าตะกรุดนี้มีวิธีใช้ง่ายๆนั่นคือให้พกติดตัวไว้ตลอดอย่าห่างตัวเพียงเท่านั้น


    ตะกรุดมหาปัดบาปเคราะห์นั้นท่านว่าเป็นวิชาที่แปลก เพราะหากมันอยู่กับตัวเราติดตัวเราตลอด ในระหว่างที่มันอยู่กับเรานั้นมันจะดูดซับเคราะห์กรรมและสิ่งไม่ดีต่างๆที่สะสมไว้ในร่างกายของเราออกมา วิชานี้จึงประสานเข้ากับคุณวิเศษของเพชรพญาธรขั้นกายสิทธิ์ได้อย่างลงตัว ท่านว่าวิชานี้ดูดซับและขับออกมาลงในตัวเพชรพญาธร ส่วนตัวเพชรพญาธรนั้นก็มีอำนาจกินพิษกินความซวยทั้งหลายที่อยู่ในร่างกายเราเป็นอาหารเพิ่มฤทธิ์ให้กับตัวเอง


    พ่ออาจารย์ท่านจึงเน้นย้ำว่าเครื่องรางเช่นนี้ย่อมไม่ปรากฏมีขึ้นโดยง่ายแน่ๆ โดยท่านทำตามโองการฟ้าที่ท้าวสักกะเทวาท่านแนะนำให้สร้างในรูปแบบเพชรพญาธรถือพิณหน้าเทพนั่งอยู่บนฐานที่เป็นเพชรพญาธรจำแลงอีกคำรบหนึ่ง ท่านว่าหน้าเทพนั้นมีฤทธิ์ดึงดูดและสะกดคนทั้งหลาย ดึงดูดสิ่งที่เราปรารถนาทำให้เจ้าของมีสง่าราศีสูงส่งกว่าชนทั้งมวล ส่วนร่างจำแลงนั้นมีหน้าที่ดูดกลืนอาถรรพ์และทำงานต่างๆตามเเต่ผู้เป็นเจ้าของจะปรารถนา


    ท่านว่าพระเพชรของท่านนั้นยิ่งคนใช้มีเคราะห์กรรมเท่าไหร่ยิ่งมีฤทธิ์แรงมากขึ้นเท่านั้น ยิ่งเอาติดตัวไว้ได้นานเท่าไหร่ ยิ่งมีสิ่งดีๆเกิดขึ้นกับตัวเองมากขึ้นเท่านั้น เพราะว่าเค้ากินพิษ กินเคราะห์กรรม กินคุณไสยฝ่ายต่ำ กินตะกอนเวรกรรมและสิ่งที่ตกค้างอยู่ในร่างกายของเราเป็นอาหาร รวมไปถึงอารมณ์ขุ่นมัวทั้งหลาย นี่เห็นหรือไม่ ท่านว่าเค้ากินหมดอะไรที่ว่าไม่ดีไม่งามในตัวเรา เค้ากินไปก็ยิ่งเพิ่มฤทธิ์ให้กับเค้า มันจึงเข้าทำนองว่าได้ประโยชน์ร่วมกัน เค้าก็อยากจะช่วยเรากินมากๆเพื่อเพิ่มฤทธิ์ให้ตัวเองเรียกว่าเสพย์เพื่อฤทธานุภาพ ส่วนตัวเรานั้นเมื่อพระเพชรเสพย์สิ่งปฏิกูลทั้งหลายในตัวเราออกไปแล้วเราก็จะดูอ่อนกว่าวัยกลายเป็นคนที่มีเสน่ห์ดึงดูดขึ้นมาทันตาเห็น พอสิ่งอาถรรพ์ทั้งหลายหมดไปเรื่องดีๆมันก็จะตามเข้ามาไม่รู้จักหมด ท่านว่าไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีอะไรเลี้ยงเค้าเอาแค่ว่าตราบใดยังอยู่ในกฏแห่งกรรมยังโดนดาวบาปเคราะห์จรทับตามวาระอยู่พูดง่ายๆตราบที่ยังหายใจเป็นมนุษย์อยู่ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีอะไรให้เค้ากิน


    พระเพชรของท่านนั้นท่านว่ามันแปลกและดีเช่นนี้ ท่านว่าพระเพชรนั้นเก่งเหมือนกับเทวดาองค์หนึ่งเลยแต่เค้าสามารถทำอะไรทั้งหลายที่เค้าประสงค์ได้มากกว่าเทวดา และตัวเค้านั้นยังมีความรู้ครอบคลุมในทุกศาสตร์วิชาทั้งสิบแปดศาสตร์ พ่ออาจารย์ท่านนั้นสร้างพระเพชรขึ้นมาโดยกำกับมหามนต์ลงไปหลายบท ทั้งมนต์มหาระงับดับทุกข์ มนต์พระกาฬ มนต์จักราวุธพระเจ้าห้าพระองค์ ... ท่านว่ามนต์ทั้งร้อยแปดชนิดท่านใส่ไปทั้งสิ้นเพื่อให้พระเพชรนั้นมีฤทธิ์ทุกด้านตามที่ท่านชุบขึ้นมา


    โดยท่านใช้แร่กายสิทธิ์หล่อพระเพชรขึ้น ท่านว่านี่เป็นพระเพชรเนื้อกายสิทธิ์หรือกายศักดิ์สิทธิ์อันเป็นวรรณะที่อยู่สูงสุดของเพชรพญาธร ใช่แต่เพียงเท่านั้นท่านยังใช้มนต์กำกับให้พระเพชรเสพย์เหล่าเพชรพญาธรวรรณะทองซึ่งมีฤทธิ์รองลงมาจนครบร้อยแปดครั้ง ซึ่งทั้งร้อยแปดครั้งนั้นท่านว่าเหล่าเพชรพญาธรวรรณะทองคำทั้งหลายล้วนแต่ยอมพลีเลือดเนื้อร่างกายของตนให้กับพระเพชรทั้งสิ้นเพื่อฤทธิ์เดชและอำนาจอันเป็นที่สุด ท่านว่าพระเพชรรุ่นนี้จะเรียกว่าเป็นเจ้าในหมู่เพชรพญาธรก็ไม่ผิดเพราะได้เสพย์เพชรพญาธรวรรณณะทองถึงร้อยแปดหน จะหาเพชรพญาธรที่มีฤทธิ์เช่นนี้อีกเป็นไม่มี และเรื่องเมตตามหาเสน่ห์นั้นท่านว่าอย่าไปคิดมาก ขนาดเลือดเนื้อเค้ายังพลียอมเป็นอาหารให้ได้ จะนับอย่างใดกับคนใช้ ปรารถนาอะไรก็อธิษฐานเอาเถิด


    พ่ออาจารย์ท่านว่าพระเพชรนั้นนอกจากกินสิ่งไม่ดีและอาถรรพ์ทั้งหลายแล้ว เค้ายังกินอาคมมาเพิ่มฤทธิ์ให้กับตัวเองด้วย ท่านว่าไม่ต้องห่วงไปว่าจะไปทำร้ายไปดูดกลืนพลังงานพระเครื่องของใครท่านว่าข้อนี้ไม่ต้องห่วง ท่านกำกับมาดีแล้ว อาคมทั้งหลายนั้นไม่ได้มีเฉพาะในพระเครื่อง แต่ในสถานที่อาถรรพ์ต่างๆที่วันๆนึงเราเดินผ่านหรือโคจรผ่านไม่รู้กี่สิบกี่ร้อยตลอดจนอาคมทั้งหลายอันผู้มีวิชาปล่อยมาในอากาศท่านว่านี่มีเยอะมาก เต็มไปหมดทุกรูทุกเลี้ยวเพียงแค่เรามองกันไม่เห็น สิ่งเหล่านี้เค้าล้วนเสพย์ล้วนกินได้ตลอดเวลาเพิ่มฤทธานุภาพให้กับเค้า หน้าที่ของเรามีเพียงพกเค้าอย่างเดียวเท่านั้น พกให้โดนเนื้อโดนร่างกายเป็นดีที่สุด ท่านว่าที่พูดนี่ยังน้อยเพราะนอกจากนั้นแล้วเค้ายังกินพลังของภูติผีปีศาจตลอดจนคุณไสยมนต์ดำด้วย


    วิธีใช้
    พ่ออาจารย์ว่าให้ยกพระเพชรขึ้นจบหัว ตั้งจิตให้ว่าง ให้จิตเบา สบายๆ อย่าร้อน อย่าขุ่นมัว จับอารมณ์ให้สบายๆนึกถึงสายน้ำนึกถึงธรรมชาติต้นไม้สีเขียวทั้งหลายให้อารมณ์เราจ่ออยู่กับสิ่งเหล่านี้ แล้วอารมณ์เราจะเย็นจะสบายไม่ร้อนหรือขุ่นมัวตามที่กล่าวแต่ต้น ทำเช่นนี้สักพักหนึ่งไม่ต้องอธิษฐานอะไรทั้งสิ้นเพียงเท่านี้ท่านว่าก็ใช้ได้แล้ว มันง่ายเพียงเท่านั้น ท่านว่าเพราะพระเพชรนั้นเค้ากินอารมณ์เราเป็นอาหาร ถ้าทำได้เช่นนี้ก็เป็นเสน่ห์เป็นโชคลาภอย่างที่สุดแล้ว วันนั้นจะมีแต่สิ่งดีๆเกิดขึ้นกับเราไม่รู้หมดรู้จบรู้สิ้น เมื่อทำจิตให้เบาสบายแล้วก็ให้นำพระเพชรมาพกไว้จะส่วนไหนของร่างกายก็ได้ แต่ให้ติดเนื้อต้องตัว อย่าเอาไว้ห่างตัวเราเด็ดขาด ท่านว่าให้รักษาให้ดีดุจของคู่ชีวิตนั่นทีเดียว


    พระเพชรกายสิทธิ์นั้นพ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้ได้ทั้งหมดเก้าองค์ ท่านว่าให้คนรับตั้งใจใช้ให้ดี ไม่ต้องไปทนุถนอมอะไรเค้ามาก ใช้ให้เต็มที่ให้โดนเนื้อโดนตัวไปไหนไปกันเค้าชอบเช่นนั้น ถ้าจะมีความปรารถนาสิ่งใดเป็นพิเศษก็ให้ตั้งอารมณ์ให้ดีและบอกกล่าวความปรารถนานั้นไปให้เพราะเพชรเค้ากินอารมณ์ของเราแล้วเค้าก็จะสนองงานให้กับเราเอง ท่านว่าเครื่องรางเช่นนี้ทำยากเพราะมันแก้ดวง แก้จุดอับจุดบอดในชีวิตได้ทั้งหมด อาถรรพ์ร้ายโรคภัยทั้งหลาย สรรพสิ่งอุบาทว์อันชักนำมหันต์ทุกข์หาความสุขไม่ได้ทั้งหลายมันกันและแก้ทางกันหมด และกว่าจะทำได้ท่านว่าเล่นซะจนเหนื่อยเหมือนกัน ดังนั้นท่านจึงตั้งใจไว้แต่เริ่มว่าจะทำเพียงครั้งเดียว ทำให้ครั้งเดียวแล้วจบกันท่านว่าจะไม่ทำอีก ให้คนที่เค้ามีความประสงค์ที่จะบูชาครูเพชรพญาธรจริงๆเท่านั้นไปบูชา ใครได้ไว้ก็ถือเสียว่าเขาทำบุญมามากและมีวาสนาต้องกันจริงๆ


    คาถาบูชา
    โอมพระเพชรพญาธร เธอเสด็จจรขึ้นบนอากาศ กูจะตวาดเรียกให้มึงมา โอมปลุกมหาปลุกกูจะปลุกมึงให้ลุก ลุกแล้วอย่านั่ง เจ้าครูกูสั่งให้มึงไปเรียกไปหา กูจะเรียกมึงมา กูจะใช้มึงไปหา.......(พูดสิ่งที่เราปรารถนา)...มาให้กับกู มาเรโสเอหิพุทธานุภาเวนะ มาเรโสเอหิธัมมานุภาเวนะ มาเรโสเอหิสังฆานุภาเวนะเอหิ


    * พระเพชรพญาธรทั้งเก้าองค์นั้นเปิดให้จองเฉพาะทาง PM เท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านให้แจ้งชื่อนามสกุลคนรับไว้ด้วย ท่านจะทำการเจิมผงอิทธิเจและทำการเจิมน้ำมันเสน่ห์ปลุกจิตของครูเก่าให้และจะอธิษฐานให้พระเพชรท่านประสิทธิ์ในทุกกิจที่เจ้าของปรารถนาอีกคำรบหนึ่ง รายได้ทั้งหมดร่วมบุญวิหารทานสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พระเพชรกายสิทธิ์จำแลง(มหาปัดบาปเคราะห์) บูชา 4,000 บาท


    gr_ir_Pk_Ti.jpg
    SAM_5230.jpg SAM_5231.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มกราคม 2017
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,096
    ค่าพลัง:
    +16,623
    เดี๋ยวตอนเย็นมาพูดคุยกันต่อ รายการพระเพชรนี้มีของลับแถมให้ด้วย ใครเคยพลาดพ่องั่งไปท่านว่าอันนี้แรงกว่าเยอะ อย่าพลาดอีกนะ
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,096
    ค่าพลัง:
    +16,623
    ติดตามกันนะรอบเย็น;)
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,096
    ค่าพลัง:
    +16,623
    มีหลายคนถามเรื่องพระเพชรเลี่ยมยังไงให้โดนเนื้อโดนตัว อันนี้เราก็บอกร้านเลี่ยมไปเลย ว่าขอเลี่ยมแบบเปิดหน้าหรือเปิดหลัง เอาเฉพาะเปิดหลังก็ได้ หรือจะให้เค้าเจาะพลาสติกด้านหลังเป็นรูปใบโพธิ์แบบที่ตลับทองสมัยโบราณเค้าชอบทำกันเพื่อให้เนื้อพระสัมผัสร่างกายก็ได้ รายการนี้ขอแค่ผิวท่านสัมผัสเรา ถ้าเลี่ยมได้ตามนี้จะแรงกว่าเลี่ยมแบบปิดมาก
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,096
    ค่าพลัง:
    +16,623
    ตะกรุดมนต์รักกู

    เป็นตะกรุดตำรับขอมโบราณซึ่งพ่ออาจารย์ท่านได้ลงเหล็กจารจรดเเผ่นตะกั่วซึ่งใช้รองรับอาคมไว้เต็มสูตร ตะกรุดมนต์รักกูนี้ท่านว่าให้พกไว้ติดตัวเพื่อหวังผลทางเสน่ห์เมตตามหานิยมได้เลย ไม่ต้องเคลือบแคลงใจแต่อย่างใดเพราะไสยเวทย์เขมรโบราณนั้นของเขาแรงอยู่แล้ว

    แต่ที่น่าประทับใจมากกว่านั้น ท่านว่าตะกรุดมนต์รักกูนอกจากใช้พกติดตัวเป็นเสน่ห์แก่ผู้ที่หมายปองแล้วยังใช้แบบเฉพาะเจาะจงได้อีกด้วย นั่นคือการอาราธนาตะกรุดแช่น้ำหรือแกว่งน้ำ ใช้กับเครื่องดื่มทั้งหลายที่เป็นน้ำก็ได้ เป็นวิธีใช้ตะกรุดมนต์รักกูอย่างแท้จริง ท่านว่ามติครูบาอาจารย์ท่านให้แกว่งน้ำหรือแช่น้ำให้คนที่เรารักกิน ช่วยให้ครอบครัวกลมเกลียวปรองดองไม่แตกแยก หากจะใช้เจาะจงเพื่อการณ์อื่นใดท่านว่าได้แล้วต้องรับเลี้ยง จะได้ไม่ผิดกับครูบาอาจารย์ ท่านว่าโดยทั่วไปนั้นแค่พกไว้กับตัวก็เป็นเสน่ห์เมตตาที่สุดแล้ว

    พ่ออาจารย์ท่านลงไว้ได้ไม่มากในวาระหนึ่งๆ ดังนั้นท่านจึงให้มาแจกพร้อมกับคนที่ได้ร่วมทำบุญบูชาพระเพชรไปเลย อันนี้ต้องบอกว่าใครได้ไปก็เก็บไว้ให้ดีๆ ขอให้มีคนรักคนเมตตาเยอะๆ เพราะไม่บ่อยครั้งนักที่พ่ออาจารย์ท่านจะทำวิชาในสายเขมรโบราณออกมา เรียกว่าของหายากก็คงจะไม่ผิด มีให้เฉพาะผู้ที่บูชาพระเพชรไปเท่านั้นหมดแล้วก็จบกันไม่มีให้บูชาเฉพาะนะครับ


    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327_d25vj52.jpg
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,096
    ค่าพลัง:
    +16,623
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้เดี๋ยวมาพูดคุยกันต่อ ใครจะถามอะไรก็ทิ้ง PM ไว้นะ;)
     
  13. อรหโตพุทโธ

    อรหโตพุทโธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2015
    โพสต์:
    498
    ค่าพลัง:
    +1,017
    แจ้งโอนบูชาพระเพชรกายสิทธิ์จำแลง(มหาปัดบาปเคราะห์)
    ที่อยู่ทาง PM ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,096
    ค่าพลัง:
    +16,623
    แจ้งข่าว


    จากที่เราเคยเล่นเกมส์ตรวจชะตากันไป เดี๋ยวให้ติดตามกันดีๆนะเพราะจะมีเปิดให้เล่นเกมส์กันใหม่ แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ตรวจดวง แต่จะเป็นการให้ฝากดวงซึ่งท่านจะอธิษฐานขออำนาจพระพุทธคุณสงเคราะห์ให้เป็นรายบุคคลไปสำหรับคนที่ดวงตกหรือดวงไม่ดี สำหรับคนที่ดีอยู่แล้วก็หนุนส่งให้ดีขึ้นไปอีก เกมส์นี้น่าจะกินเวลานานและใช้ความละเอียดเยอะหน่อย คอยติดตามกันดีๆแล้วกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มกราคม 2017
  15. นัมรว

    นัมรว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +78
    ได้รับตะกรุดจักรพรรดิ์น้อยแล้ว สาธุบารมีพ่ออาจารย์พล
    และขอบคุณน้องกร มา ณ ที่นี้ด้วยครับ
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,096
    ค่าพลัง:
    +16,623
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    เดี๋ยววันนี้ดำเนินการส่งของที่โอนไว้แล้วให้แล้วมาพูดคุยกันต่อ ใครจะฝากคำถามอะไรก็ PM ไว้ได้เลยนะ;)
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,096
    ค่าพลัง:
    +16,623
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่ศิระ EP 9121 8351 8 TH

    พี่สมศักดิ์ EP 9121 8352 1 TH

    พี่ธเนศพล EP 9121 8353 5 TH

    พี่กษิดิ์เดช EP 9121 8354 9 TH
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,096
    ค่าพลัง:
    +16,623
    ตะกรุดที่แจกไปคู่กับพระเพชรหนนี้เห็นท่านบอกว่าภายในมีสีผึ้งสำคัญท่านเจิมเอาไว้ด้วยใครได้ไปดีใจได้เลยของดีจริงๆถึงไม่ได้บอกหมดแต่แรกก็ตาม ส่วนพระเพชรที่ได้เลี่ยมส่งคนที่ฝากเลี่ยมมา จะให้คนเลี่ยมเค้าเปิดหลังเล็กน้อยเป็นรูปใบโพธิ์ ผมว่าสวยดีนะใช้ได้นานพระไม่สึกด้วยลองทำดูกันได้

    ในส่วนของตะกรุดต่างๆ เวลาส่งไปบางทีไปรษณีย์เค้ามือหนัก มันก็มีแบนมีบุบบ้างเห็นจากที่แจ้งเข้ามา ตรงนี้เราไม่ต้องไปคลี่เพื่อม้วนใหม่เลยมันจะเสียของ ให้เอาแกนไม้พวกตะเกียบหรืออะไรก็ได้ลองสอดดูที่มันมีขนาดพอดีกับรูตะกรุดแล้วก็เอามือหมุนๆคลึงๆไป แค่นี้มันก็กลมได้รูปเหมือนเดิม แนะนำให้ทำตามนี้นะครับไม่ต้องไปคลี่ใหม่ม้วนใหม่
     
  19. seekerpunch

    seekerpunch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,028
    ค่าพลัง:
    +3,114
    ได้รับตะกรุดแล้ว ขอบคุณครับ
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,096
    ค่าพลัง:
    +16,623
    อรุณสวัสดิ์ครับ เห็นบทความน่าสนใจนะครับเลยก้อปมาให้อ่านกันบางเรื่องก็ตรงกับที่เคยอธิบายเอาไว้ เชื่อได้เลยว่าของที่พ่ออาจารย์ท่านทำกับมือนั้นดีที่สุด ใช้ได้อย่างสบายใจ

    ทำไมคนแขวนวัตถุมงคล

    คน เราแขวนหรือใช้วัตุมงคล เครื่องรางของขลัง ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน 4 ประการ

    1. เป็นเครื่องประดับ
    คนประเภทนี้จะไม่สนใจนับถือทาง ศาสนา ไม่เชื่อทางด้านความขลัง
    หรือความศักดิ์สิทธิ์ แต่แขวนเพื่อความสวยงาม การแสดงฐานะ เช่น
    แขวนพระทองคำเลี่ยมกรอบเพชร พวกนี้มักจะไม่สนใจว่าของที่แขวนดีหรือไม่
    แท้จริงหรือไม่ ขอให้คนอื่นคิดว่าเป็นของดี ของแพงก็แล้วกัน

    2. แสดงความเป็นพวก
    เพื่อ ให้ผู้อื่นเห็นว่าตัวเองนี่เป็นชาวพุทธนะ เป็นชาวคริสต์นะ แต่จริงๆ
    แล้ว ก็ไม่ได้นับถืออะไรเท่าไรนัก แต่อาจจะเอื้อผลประโยชน์ในการอยู่ร่วมกันทางด้านการงาน เป็นต้น

    3. แสดงความนับถือ
    พวกนี้จะแขวนเพราะความนับถือในสิ่งที่แขวนไม่ว่าจะเป็น พระพุทธ
    หรือพระอรหันต์ หรือพระสงฆ์ พวกนี้จะแขวนเพราะความนับถือจริงๆ ในศาสนา คำสั่งสอน หรือพระองค์นั้น พวกนี้จะแขวนเป็นศิริมงคล
    ไม่ค่อย เชื่อทางด้านความขลัง ความศักดิ์สิทธิ์มากนักคือมีก็ดีไม่มีก็ไม่สนใจ

    4. ต้องการบางอย่าง
    วัตุมงคล /เครื่องราง /ของขลัง ที่ดีจะต้องมีความขลัง /ความศักดิ์สิทธิ์ทางด้านใดด้านหนึ่ง หรือหลายด้าน
    บุคคลประเภทสุด ท้ายนี้จะแขวนจะใช้วัตุมลคลในการป้องกันตัว นำมาซึ่งโชคลาภ มีเสน่ห์ต่อผู้อื่น อยู่ยงคงกะพัน เป็นต้น พวกนี้ไม่เพียงแต่มีความนับถือในวัตถุมงคลนั้น แต่ยังหวังที่จะได้สิ่งตอนแทน จากวัตถุมงคลนั้นด้วย น่าเสียดายที่คนกว่า 99 เปอร์เซนต์ที่หวังพึ่งความศักดิ์สิทธิ์นี้จะต้องผิดหวัง เพราะเข้าใจคลาดเคลื่อนว่าแขวนพระแล้วต้องโชคดี ต้องปลอดภัย ต้องกันผี แต่ จริงๆ แล้วมีคนน้อยยิ่งกว่าน้อยที่จะรู้ว่าวัตถุมงคลนั้นดีหรือไม่ ถ้าดีจะดีทางใดบ้าง แม้กระทั่งอาจารย์ที่ปลุกเสกก็ไม่แน่ว่าจะรู้ เพราะคาถาอาคมพลังจริงที่เสกลงไปแล้วก็ไม่แน่ว่าจะสำเร็จแค่ไหน แรงแค่ไหนหรือจะเสื่อมแค่ไหน

    ถ้าจะให้ประเมินก็น่าจะมีเพียงคนหนึ่งในหมื่นเท่านั้นที่พอจะหยั่งรู้ได้บ้างว่า วัตถุมงคลใดมีความศักดิ์สิทธิ์ ส่วนผู้ที่จะแยกแยะว่ามีความขลัง ความศักดิ์สิทธิ์ทางด้านใดบาง อาจจะมีเพียงแค่หนึ่งในแสนคนเท่านั้น ความไม่รู้นี้เวลาเกิดสิ่งที่ไม่ดีขึ้นมาจะทำให้เกิดความเสื่อมศรัทธาต่อวัต ุมงคลนั้น จนกระทั่งอาจจะเสื่อมศรัทธาต่อศาสนาไปด้วย

    ความศักดิ์สิทธิ์ของวัตถุมงคล

    วัตถุมงคลจะมีความศักดิ์สิทธิ์ในตัวได้ 4 ทาง

    1. มีอยู่ในตัวเอง
    วัตถุ ที่พบเห็นในธรรมชาติบางอย่างมีความขลังในตัวเองอยู่บ้างไม่มากก็น้อย อาทิเช่น หยกช่วยให้จิตใจสงบ
    งาช่วยกันผีกันคุณไสยแก้พิษ กะลา ตาเดียวกันผี กันคุณไสย โอปอลกัน คุณไสย/คงกะพัน ว่านหลายชนิดที่มีความ ดีเด่นทางมหานิยมหรือคงกะพัน เป็นต้น

    2. โดยการอัญเชิญมหาเทพ /เทพ
    เหรียญ/รูป หล่อ/รูป ของมหาเทพ เช่น พระศิวะ พระนารายณ์ พระพรหม พระพิฆเณศวร์ พระแม่อุมา พระแม่ลักษมี พระแม่กาลี เป็นต้น ของเทพเช่น เจ้าแม่กวนอิม พระราหู พระมหากษัตริย์ในอดีตเป็นต้น สามารถทำให้เกิด ความศักดิ์สิทธิ์ได้โดยคนบางคน โดยการอัญเชิญมหาเทพหรือเทพองค์นั้นๆ ลงมาประทับ/ผ่านญาณ ทำให้มีความศักดิ์สิทธิ์ทางด้านคุ้มครองหรือและอื่นๆ ความแรงของความศักดิ์สิทธิ์นี้ขึ้นอยู่กับความสามารถ และพรสวรรค์อันมีมาแต่กำเนิดของผู้อัญเชิญมากกว่าพิธีการอย่างที่คนส่วนมาก เข้าใจ ในบางกรณีอาจจะ เชิญลงสิ่งอื่น เช่น น้ำ ผลไม้ ดอกไม้ เพื่อให้ผู้นับถือนำไปบูชา ดื่ม ทาน เป็นศิริมงคล หรือรักษาโรคก็ได้ ข้อควรระวังว่าวัตถุมงคลนั้นทำจากสิ่งของที่ไม่บริสุทธิ์หรือผิดรูปแบบก็จะ อัญเชิญให้สำเร็จได้ยาก

    3. โดยการปลุกเสกตรง
    วิธีนี้ผู้มีวิชา จะปลุกเสกความขลังลงไปด้วยการจับวัตถุมงคลไว้ในมือกล่าวคาถาอาคม (ออกเสียง) แล้วเป่าไปที่วัตถุมงคลที่จะปลุกเสก วัตุมงคลนี้มักจะทำจำนวนไม่มากนัก อาจจะเพียงอุ้งมือเดียวหรือ ไม่เกิน 1ลัง/กล่อง
    วิธีนี้ปลุกง่ายและ ค่อนข้างจะสำเร็จแน่นอน โดยเฉพาะถ้าผู้ปลุกเสกมีพรสวรรค์มาแต่กำเนิด (คนเราแทบทุกคนจะสามารทำได้ไม่มากก็น้อย)

    4. ปลุกเสกโดยใช้พลังจิต
    ใน ขั้นนี้ผู้ปลุกเสกต้องฝึกสมาธิ ฝึกการถ่ายทอดคาถาอาคมหรือความคิดผ่านพลังจิต ผ่านวัตถุ เช่นกล่องแบบหลวงพ่อคูณ ผ่านสายสิญจ์ไปยังวัตถุมงคลต่างๆ (วิธีนี้ค่อนข้างยากและวุ่นวายมากกว่า มีจุดอ่อน) ผู้ปลุกเสกยิ่งมีพลังจิตแกร่งกล้ายิ่งปลุกเสกได้แรงกว่า และปลุกเสกได้ จำนวนมากกว่า (ไม่น่าจะเกิน 84,000 องค์เล็ก หรือ 1/2ลูกบาศก็เมตร) ถ้าจำนวนของที่ปลุกเสกมากเกินพลังผู้ปลุกเสกความขลังก็จะด้อยลง จนกระทั่งบางทีจะไม่มีประโยชน์อะไรที่จะพึ่งพา ถ้าผู้ปลุกเสกมากคน มากองค์ มากคาถา บางทีก็จะขัดกันเองเสื่อมบ้าง (ลองเอาน้ำใสมา 1 แก้ว เอา สีหยดไป 1 หยด จะเห็นว่าน้ำก็ยังใสเหมือนเดิม แต่ลองใช้น้ำแค่ช้อนเดียวแล้วเอาสีหยดไป เปลี่ยนสีอย่างเห็นได้ชัดเจน)

    ข้อเตือน ไม่มีวัตถุมงคลใดที่จะมีความขลังเหมือนกันเต็มร้อย จะมีความแตก ต่างอันเกิดจากส่วนของวัตถุมงคล ไม่คงที่บ้าง หรือต่างกันเพราะระยะห่าง วัตถุมงคลจากผู้ปลุกเสกในแต่ละครั้งจะต่างกันบ้าง พิมพ์ที่ต่างกันบ้าง (บางทีเอานางกวักปลุกเสกพร้อมพระเครื่องแล้วจะให้ออกเป็น โชคลาภ /ค้าขายก็ยาก) วัตถุมงคลที่สร้างมาก พิมพ์มากแบบ ทำให้ปลุกเสกไม่ตรงกับที่ควรจะเป็นเช่น ปลุกเสกทีเดียวมีทั้งของทางโชคลาภ ของทางคงกะพัน ของกันผี มีทั้งรูปเหมือนเกจิอาจารย์ มีทั้งพระพุทธ มีทั้งพระอรหันต์ จะให้ผู้ปลุกเสกพุ่งพลังต่างกันออกไปปลุกเสกยัง แต่ละประเภทไม่ได้แน่

    ความขลังและความศักดิ์สิทธิ์

    สำหรับผู้ที่ชอบวัตถุมงคลที่ดี และมีเจตนาจะใช้/บูชาวัตถุมงคลเพื่อประโยชน์แต่ตัวเอง แก่ครอบครัวและมีความเชื่อ ทางด้านนี้จึงควรจะอ่านบทความนี้ ควรศึกษาให้เข้าใจอย่างกว้างๆ เฟ้นหาเสาะหาด้วยความระมัดระวังให้ตรงกับ ความต้องการ เพื่อความสงบสุขของชีวิตและครอบครัว วัตถุมงคลแต่ละองค์จะมีความขลังแตกต่างกัน
    ระดับความขลังก็แตกต่างกัน ตามวัสดุ ที่ใช้สร้าง, รูปร่างของวัตถุมงคล,คาถาที่ใช้ปลุกเสก,พรสวรรค์ของผู้ปลุกเสก และการฝึกฝนของผู้ปลุกเสก

    เราพอจะแบ่งความขลัง ความศักดิ์สิทธิ์ออกไปเป็น 10 ประการ

    1) คุ้มครอง
    คือช่วยให้เราปลอดภัยจากภยันอันตรายต่างๆ
    ช่วยให้เรารอดออกมาได้เวลา คับขันถือเป็นสุดยอดความขลัง
    วัตถุมงคล ที่จะมีความศักดิ์สิทธิ์ทางด้านนี้จะพบใน

    ก) เหรียญ/ของบูชาที่เป็นรูปองค์เทพ อาทิเช่น พระศิวะ พระนารายณ์
    หลวงปู่ พิฆเณศวร์ เจ้าแม่กวนอิม พระมหากษัตริย์
    และต้องอัญเชิญท่านลงมาผ่านญาณ ในวัตถุนั้น
    ให้สำเร็จจึงจะมีความศักดิ์สิทธิ์ด้านคุ้มครอง

    ข) ของของหลวงพ่อที่มรณะภาพไปแล้วปลุกเสก และต้องเก่งทางญาณมากๆ ด้วย เช่น สมเด็จพุฒาจารย์โต หลวงพ่อเงิน ฯลฯ เมื่อท่านมรณะภาพแล้วจึงกลับมา เชื่อมญาณกับของเก่าท่าน

    ค) พระเครื่อง /พระบูชาโบราณบางองค์ (พระเครื่องคือพระที่มีขนาดติดตัวได้ /แขวนกับสร้อยได้) ควรระวังคือ ด้านคุ้มครองไม่คุ้มกันทางด้านภูติผีปีศาจหรือคุณไสย แบบนี้จะมีการอัญเชิญเทพลงมา อาทิเช่น หลวงพ่อวัดบ้านแหลม พระบูชาสมัยสุโขทัย เป็นต้น

    2) แคล้วคลาด
    หมายถึง วัตถุมงคลที่เราพกพานั้นจะให้เราแคล้วคลาด
    /คลาดเคลื่อนจากอันตรายที่ เกิดขึ้น เช่น รถผู้อื่นเฉี่ยวเราหรือรถเราเฉี่ยวผู้อื่นแต่ไม่โดน มีคนยิงเราแต่ลูกปืนไม่โดน อันตรายที่เกิดขึ้นจะเกิดก่อนหน้าหรือ หลังเราไม่นาน มีบางคนซื้อตั๋วเครื่องบินแต่ขึ้นเครื่องบินไม่ทัน แล้วเครื่องบินนั้นตก เป็นต้น

    3) คงกะพัน
    คนส่วนมากจะชอบและอยากได้ เพราะเป็นสิ่งที่เห็นผลง่าย
    พิสูจน์ง่าย ฉะนั้น หลวงพ่อ หรือวัตถุมงคลที่มีชื่อมักจะเป็นด้านคงกะพันเสียมาก คงกะพันหมายถึงอาวุธต่างๆ ไม่สามารทำอันตรายให้เลือดตก ยางออกได้ แต่ที่จะคงกะพัน 100 เปอร์เซนต์ นั้นหายากมาก
    ของดีสุดยอดก็มักจะยัง เกิดรอยขีดข่วนเลือดออกบ้าง โดยเฉพาะตามมือ แขน ขา มีหลายวัดที่ชอบลองมีด เช่น วัดบ้านเก่า อ.พานทอง /วัด้ำแฝด อ.ท่าม่วง เป็นต้น

    4) มหาอุด
    เป็นสิ่งที่พวกเล่น เครื่องรางของขลังอยากได้กันที่สุด คือ "ของ" ที่ปืนยิงไม่ออก หรือสามารคุ้มครอง ทวารทั้งเก้าได้ แม้กระทั่งพวกฝรั่งก็เสาะหากัน ของที่ว่าดีทางมหาอุดนี้กลับพิสูจน์ได้ยากกว่าที่คิดโดยไม่ทราบเหตุผล บางทีลองปืนครั้งนี้ยิงไม่ออก พออีกทีลองกลับ ยิงออก
    (โดยเฉพาะเวลาคิด ขาย) ที่ร่ำลือกันมาก คือ เหล็กไหลแท้ งั่งตาแดงเกศคด เหรียญพระครูอินทนน /วัดบ้านก้อง เหรียญนั่งพานเงินหลวงเตี่ย/วัดประชุมคงคา ของหลวงพ่อฤทธิ์/วัดชลประทานราชดำริ
    ถึงแม้ว่าทางเราจะได้ยินจากผู้ที่ น่าเชื่อถือมาก แต่ก็ไม่ได้ลองเอง
    เพราะไม่อยากจะลบหลู่ "ของ" มหาอุดจะรวมไปถึงการไม่ให้ผู้อื่นด่าว่าเรา

    5) กันภูตผีปีศาจ
    คนเรามักจะเข้าใจกันผิดๆ ว่าพระจะป้องกันผีได้จริงๆ
    แล้วของที่ป้องกันผีมีน้อยกว่าที่คิดกันมาก มีเพียงไม่กี่องค์เท่านั้นที่เคยผ่านมือทางเรา ของที่ดีจะกันผีเข้าตัว /ไล่ผีออกจากตัว แต่ที่จะกันไม่ให้รบกวน 100 เปอร์เซ็นต์ เลยยากมาก ของกันผีไม่ได้หมายความว่ากันคุณไสย

    6) กันคุณไสย /กันของ /กันผี
    ของประเภทนี้กลับมีมากกว่า ของที่กันคุณไสยจะกันผีด้วย ถ้าจะใช้ต้องเป็นสิ่งที่ ปลุกเสกดีมากเกือบสุดยอดหรือสุดยอดจะได้ป้องกันไม่ให้ถูกแบบที่เรียกว่า "ลมเพลมพัด" (คือคุณไสยที่ผู้ฝึกวิชานี้ร้อนตัวร้อนวิชาต้องปล่อยของส่งเดชออกมาก่อนที่ จะเข้าตัวเอง) และจะสามารถคุ้มตัวจากผู้ที่มีเจตนาปล่อยเข้าตัวเราโดย ตรงได้บ้างไม่มากก็น้อยขึ้นอยู่กับ ว่าคนทำมาเก่งแค่ไหน ความเห็นทางเราว่าถ้าจะคุ้มตัวให้ได้จริงๆ ต้องมีของคุ้มตัวสัก 5 อย่างต่างกัน จึงจะพอปลอดภัยสัก 99 เปอร์เซ็นต์ เช่น งาเสก กะลาตาเดียวเสก โอปอล พระเครื่องของหลายเกจิอาจารย์ทางนี้ ประคำ ตะกรุดดีๆ มีดหมอดีๆ เป็นต้น ทั้งยังต้องมีของคุ้มบ้านอีก เช่น ท้าวเวสสุวรรณ สิงห์คาบดาบ
    วัว ธนู กุมารทองที่มีดิน 7 ป่าช้า ผ้ายันต์ ตะกรุด เป็นต้น การทำคุณไสยมี หลายแบบ เช่น ปล่อยวัตถุ / ตะปู /หนังควายไปเข้าตัวคนอื่น ฝังเข็ม /ตะปูที่หุ่นให้คนอื่นป่วย /ตาย ทำให้คนหลงรักกัน ทำให้ครอบครัวแตกแยก ทำเอาสมบัติทรัพย ์สินเงินทอง เป็นต้น

    7) เมตตา
    เป็นของที่ทำให้ผู้อื่นชอบเรา มีเมตตาต่อเรา กลับจากศัตรูเป็นมิตร
    ของประเภทนี้เห็นผลยาก วัตถุมงคลส่วนใหญ่จะมีความขลังทางด้านนี้เพราะปลุกเสกง่าย

    มหานิยม

    เป็นส่วนขยายจากเมตตา คือให้ผู้อื่นรักใคร่ชอบพอเรา ลุ่มหลงเรา
    ของประเภทนี้กลับมีพบเห็นชัดเจนกว่า ทางเมตตา อาทิเช่น ขุนแผนกรุบ้านกร่าง ขุนแผนรุ่นหลัง/วัดบ้านกร่าง นางพญาก้านมะลิกรุวัดกลาง/นครไทย ผ้ายันต์หลวงพ่อฤทธิ์ เป็นต้น

    9) โชคลาภ
    ถึงแม้ว่าของที่ดี ทางเมตตาอาจจะเอื้อออกมาทางให้โชคลาภ แต่แนวทางปลุกเสกกลับต่างกัน ของที่ดีทางนี้ถูกโฉลกกับผู้ใช้มักจะช่วยได้อย่างเห็นผลทันตา ถ้าไม่ถูกโฉลกก็ไม่ค่อยจะเกิดผลเสียอะไร
    ความแรงของพลังจะมีผลต่อผู้ใช้ ไม่มากนักขึ้นอยู่กับการถูกโฉลกเสียมากกว่า โชคลาภจะแตกต่างกับค้าขาย ซึ่งปลุกเสกยากมากจะเกี่ยวพันการเรียกเงินเรียกทอง

    10) คุณสมบัติพิเศษ
    วัตถุมงคล จำนวนน้อยที่มีคุณสมบัติพิเศษพิสดาร อาทิเช่น ปัดเสนียดจากตัวจากบ้าน ขจัดพิษ แก้ยาสั่ง มีอำนาจ/ปกครองคน กันไฟ สงบจิตใจไม่ให้ใจร้อน/คิดมาก /ฟุ้งซ่าน ตกน้ำไม่จม กำบังกาย พูดจาดี
    ไปไหนมาไหนดี

    วัสดุที่ใช้ทำวัตถุมงคล

    บางแห่งบางวัดค่อนข้างจะพิถีพิถันในการเลือกวัสดุที่มาใช้ทำวัตถุมงคล บางแห่งก็ไม่ บางแห่งก็บอกว่าทำแต่ไม่ทำการทำวัตุมงคลควรจะ

    1)เลือกหรือ ผสมวัสดุที่มีความขลังในตัว อาทิเช่น หยก งา กะลาตาเดียว ไม้หรือว่านบางชนิด ผงพระที่เคยปลุกเสกมาแล้ว คตเหล็กไหล สะเก็ดดาว แผ่นโลหะที่จารและปลุกเสกแล้ว เป็นต้น มาเป็นส่วนผสมเพื่อให้เมื่อทำ เป็นพระ/วัตถุมงคลแล้วจะได้ปลุกเสกให้ดีง่ายขึ้น

    2) สรรหาน้ำมนต์ที่ดี มาเป็นส่วนผสมของพระเนื้อผงเนื้อดิน เพื่อทำให้ของที่ทำบริสุทธิ์ขึ้น ขจัดสิ่งที่ไม่ดีที่อาจจะนำมาผสม ใช้น้ำมนต์ล้างโลหะก่อนนำมาทำวัตถุ มงคลเพื่อทำให้บริสุทธิ์ที่โรงงานทำพระบางแห่งจะเอาโลหะกองไว้ในที่ไม่ควร หรือซื้อมาจากแหล่งที่ไม่ควร

    3) โลหะต่างๆ โลหะแต่ละชนิดจะปลุกเสกออกมาต่างกัน เช่น หลวงพ่อองค์หนึ่งปลุกเนื้อ เงินออกเมตตามาก ปลุกเนื้อทองแดงออกคงกะพันมาก แต่หลวงพ่อองค์ที่ 2 กลับทองแดงออกเมตตามาก
    เงินออกคงกะพันมาก โดยสรุปคาถาอาคมของแต่ละหลวงพ่อจะชอบโลหะต่างกัน สมัยก่อนจึงมักใช้โลหะผสมเพื่อที่จะสามารถดึงดูดคาถาอาคมต่างๆ ของหลวงพ่อให้ได้หมด หรือให้มากทางที่สุด

    4) ส่วนผสมที่ปลุกเสกแล้วไม่ควรต่ำกว่า หนึ่งส่วนในร้อยส่วนของวัตถุมงคลที่ทำ ถ้าทำพระร้อยองค์ น่าจะมีส่วนประกอบที่ปลุกเสกแล้วไม่ต่ำกว่า 1 องค์จึงจะช่วยให้ปลุกเสกได้ง่ายขึ้นดีขึ้น


    วัตถุมงคลกับชีวิต

    วัตถุมงคลส่วนใหญ่จะช่วยเกื้อหนุนชีวิตของผู้มีผู้นำพาไม่มากก็น้อย ทั้งนี้ ไม่ว่าจะนับถือ /เชื่อถือ/บูชา/อาราธนา หรือไม่ก็ตาม แต่ไม่ใช่ว่าจะพลิกฟ้าพลิกดินจากยาจกให้เป็นเศรษฐีได้ ทั้งนี้จะมีปัจจัยหลายอย่างที่จะต้องสนับสนุน เช่น ดวงชะตา โฉลก บุญเก่า/บุญใหม่ กรรมเก่า/ กรรมใหม่ วาสนา บารมี สิ่งแวดล้อม เป็นต้น ไม่มีอะไรที่จะดี 100 เปอร์เซ็นต์ เด็ดขาด

    1) ช่วยชีวิต
    - คุ้มครองให้ปลอดภัยจากภยันอันตราย คนพาล คุณไสย ภูตผีปีศาจ
    - ให้แคล้วคลาดจากอันตราย/อุบัติเหตุ เช่นแทนที่จะถูกรถชนอย่างหนัก ก็เป็นแค่เฉี่ยวเบาๆ หรือถ้าดีมากก็เฉียดไป ถ้าแคล้วคลาดอย่างห่างกันมากเราก็อาจจะไม่รู้เลย
    - ปกป้องให้เราจากเจ็บตัวมากเป็นน้อย จากน้อยเป็นไม่เจ็บเลย

    2)เกื้อหนุน ให้ชีวิตเราดีขึ้น ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข
    มีความสงบในครอบครัว ช่วยให้ฐานะการเงินดีขึ้น จากแย่มากเป็นแย่น้อย จากแย่น้อยเป็นกลางๆ จากดีน้อยเป็นดีมาก วัตถุมงคลส่วนใหญ่ จะไม่ทำให้เกิดผลร้ายต่อเรา

    3)ดวง ชะตา
    เป็นที่เชื่อกันว่าคนเราเกิดมามีชะตาชีวิตลิขิตไว้แล้วว่าจะเป็น อย่างไรในอนาคต อันอาจจะเกิดจากบุญ กรรมเก่าที่สร้างไว้ในชาติจากเวลาที่เกิดมีดวงดาวต่างๆ อยู่ในตำแหน่งใด คนบางคนชอบดูหมอ หมอดูบางคนก็จะ แนะนำการแก้ดวง บางคนก็ว่าแก้ไม่ได้ ที่จริงแล้วคนเราถ้าเกิดมารู้จักทำบุญทำทานให้เหมาะสม ทำกรรมชั่วให้น้อย ก็จะสามารถเปลี่ยนแปลงดวงชะตาได้ ถ้าบุญเก่าเกื้อหนุนให้เราดีในชาตินี้ แต่ทำกรรมมากวันหนึ่งกรรมนั้นก็จะสนองเรา
    อย่านึกว่าตอนนี้เราดีจะทำ อะไรก็ได้ อย่านึกว่าเอาเศษเงินไปทำบุญแล้วจะได้บุญ อย่านึกว่าจะทำกรรมชั่วอะไรก็ได้ พวกที่ไปลักลอบขโมยขุดพระมีใครตายดีบ้าง พวกที่โกงกินจนรวยมีใครได้ตายสบาย แม้กระทั่งเกจิอาจารย์ที่ดังๆ ท่านก็ไม่ได้อยู่สบายเพราะกรรมเก่าของท่านจึงต้องมาสร้างบุญเอาชาตินี้ คอยรับใช้ลูกศิษย์ ของดีที่เรามีถึงจะช่วยเรา บ้างแต่ก็จงรู้จักทำบุญทำทานเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อผู้อยู่รอบข้าง เวลาทำบุญ อย่าหวังบุญ เวลาทำบุญอย่าทวงบุญคุณ เวลาทำบุญอย่ามีจิตใจขุ่นหมอง

    4)โฉลก หลายต่อหลายคนเชื่อว่าของที่ถูกโฉลกจะช่วยเกื้อหนุนเรา
    เรื่องนี้ยิ่ง เร้นลับที่สุด ผู้เขียนถึงจะเชื่อทางนี้ แต่ไม่เชื่อว่าโฉลกของคนเราจะขึ้นอยู่กับวันเกิดหรือวัสดุที่ทำวัตถุมงคล (เช่น เนื้อดิน ไม้ โลหะ) ไม่เชื่อว่าจะขึ้นอยู่กับ พิมพ์พระว่าต้องเป็น นั่ง นอน ยืน ปิดตา มารวิชัย สมาธิ ไม่เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดผลดีหรือผลร้ายต่อผู้ใช้ คือ

    1. ทำให้จิตใจร้อนรุ่มไม่สงบ
    2. ทำให้จิตใจผู้อยู่ ใกล้เคียงไม่สงบ
    3. ทำให้ทะเลาะเบาะแว้ง
    4. ทำให้ฟุ้งซ่าน

    5. ทำให้หาเรื่องกับผู้อื่น วัตถุมงคลประเภทนี้จะเป็นทางเทพ จะเป็นพระเก่า จะเป็นพระที่ปลุกเสกโดยเกจิอาจารย์ ที่มีญาณสูง และมรณะภาพแล้ว ผู้ใช้จะต้องสังเกตเหตุการณ์เหล่านี้ให้ดี ถ้าเกิดขึ้นให้อาราธนาแขวนใหม่ ขอให้อยู่เย็นเป็นสุข

    ถ้าทำแล้วยังไม่ดีอาจจะลองให้คนในครอบครัวคนอื่นแขวน อาการที่เกิดขึ้นนี้มักจะเกิดจากเรา ไม่มีวาสนากับวัตถุมงคลนี้ บุญบารมีเรายังไม่ถึงซึ่งอาจจะแก้ไขได้โดย อาราธนาเก็บไว้ก่อนเร่งสร้างบุญบารมีสัก 2 - 3 เดือนแล้วค่อยลองเอามาแขวนใหม่ ฉะนั้นผู้เขียนจึงไม่เชื่อว่าพระที่มีประสบการณ์ดี (หรือเฉยๆ ) กับผู้หนึ่งจะต้องไปดีกับอีก ผู้หนึ่งเสมอไป ยกตัวอย่างเช่น

    5.1 ผู้เขียนมีพระองค์หนึ่งซึ่งก็ชอบมากแต่ก็ไม่ค่อยแขวน เอาไปถวายหลวงพ่อที่นับถือรูปหนึ่ง ภายในเวลาไม่ถึงปี ท่านได้เงินมาสร้างวัดจำนวนมากอย่างผิดปกติ

    5.2 ผู้เขียนได้วัตถุมงคลด้านโชคลาภจากหลวงพ่อองค์นี้ก็รู้สึกเฉยๆ เอาไปให้ แม่ค้าส้มตำ ปรากฎว่าเขาถูกหวยทุกงวด ตลอด 2 ปีจนซื้อบ้านซื้อช่องได้

    6) สิ่งแวดล้อม ไม่ว่าเราจะมีของดีอย่างไร มีดวงดีอย่างไร ถ้าไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เลวที่ไม่ดีก็ยากจะเอาตัวรอดได้ เหมือนอย่างตอนนี้เศรษฐกิจของชาติย้ำแย่ก็จะมีผลกระทบต่อทุกคน


    ของดีไม่ดี


    ความจริงเป็นสิ่งที่ยากมากที่จะแยกแยะคำว่า "ดีหรือไม่ดี" "แท้หรือไม่ แท้" "เก๊หรือ ไม่เก๊" ผู้เขียนคิดถึงคำพวกนี้มาเป็นปี ๆ ก็ยังไม่รู้ จะแยกอย่างไรดี

    1)ของดี อันนี้ง่ายสุด ของดีคือของที่มีความศักดิ์สิทธิ์สูงถูกโฉลกกับผู้ใช้ (ถ้าไม่ลองก็ไม่มีทางรู้อย่างแน่นอน) ส่วนของไม่ดี แบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ

    1.1. ของดีแต่ไม่ถูกโฉลกกับผู้ใช้
    1.2. ของที่ไม่มีความขลังความศักดิ์สิทธิ์ หรือไม่ได้ปลุกเสก
    1.3. ของที่ปลุกเสกแล้วแต่มีความขลังน้อยเกินไป

    2)ของแท้ คือของที่เป็นอย่างที่ควรเป็นอย่างที่บอกเล่ากัน ของที่สร้างในเวลาที่ ว่า เช่น 1,000 ปี 500 ปี 100 ปี หรือ วัน/เดือน/ปี ที่ระบุ เช่น เสาร์ 5 ปี 2536 และปลุกเสกตามที่บอกในวันเดือนปีที่บอก ส่วนจะดีหรือไม่ดีก็อีกเรื่องหนึ่ง

    3)ของกึ่งแท้ ของประเภทที่น่าปวดหัวที่สุด คือ ของที่ทำมาพร้อมกันตามวันเดือนปีนั้น แต่ดันตกปลุกเสกเพราะ ความเลินเล่อ หรือขี้เกียจแล้วเอามาปล่อยรวมกับของที่ปลุกเสก ใครได้ไปก็แย่หน่อย ของที่คนแอบทำมาพร้อมกัน เหมือนกัน แล้วเอาไปแอบเข้าปลุกเสกพร้อมกับของแท้อีกด้วย แต่เอามาแอบขาย (จะว่าเก๊ก็ดันเหมือนกันซะนี่) ของที่ทำเหมือนกันแต่ทำทีหลัง เพราะทำไม่ทันหรือเจตนาทำเพิ่มเติมถ้าเอาไปปลุกเสกก็ดี (บางทีดีกว่าที่ปลุกเสกตาม พิธีเสียอีก) ถ้าไม่เอาไปปลุกเสกก็แย่อีก อันสุดท้ายที่ความจริงเป็นของแท้จริงๆ แต่หลวงพ่อท่านไม่อยากลงทุน เปลี่ยนพิมพ์ ท่านก็พิมพ์ออกมาเรื่อย ๆ แต่ความที่ต่างเวลาการทำให้เนื้อ พระต่างกัน คนบางคนหลงประเด็นไปตีเก๊ (บางคนก็เรียกเป็นพระเสริม)

    4)ของ เก๊ คือของที่เจตนาลอกเลียนให้คล้ายและใกล้เคียงกับของแท้ โดยเจตนาให้ ผู้ซื้อคิดว่าเป็นของหลวงพ่อองค์นั้น องค์นี้ หรือเป็นพระเก่า แต่ของที่ต่างกันต่างพิมพ์ต่างเนื้อจะไม่ใช่ของเก๊ เพียงแต่อาจจะต่างหลวงพ่อต่างวัดต่างเวลา

    - ของเก๊ที่ดี ของเก๊บางอย่างกลับเป็นของดีมาก
    ยกตัวอย่างด้วยความเคารพอย่างสูง เหรียญปี 17 รุ่นเสือเผ่น ของหลวงพ่อสุด วัดกาหลง ที่เก๊บางพิมพ์ดีกว่าของแท้อีก เพราะคนสร้างๆ น้อยแล้วนิมนต์หลวงพ่อสุดไปปลุกเสก ด้วย

    - ของเก๊ที่ดีแบบที่สอง
    ก็ คือหลวงพ่อบางองค์บางรูปท่านไม่มีทุนจะสร้างพระเอง ท่านก็ไปซื้อพระเก๊ถูกๆ จำนวนน้อยราคาถูกมาปลุกเสกเองเพื่อแจกคนมาทำบุญวัด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มกราคม 2017

แชร์หน้านี้

Loading...