ลดราคาหลายเกจิ ครูบากฤษดา จองภายใน 3 วัน

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย นพ_กำแพงแสน, 1 เมษายน 2012.

  1. นพ_กำแพงแสน

    นพ_กำแพงแสน เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    14,989
    ค่าพลัง:
    +10,040
    รับทราบขอบพระคุณครับ
     
  2. ใจ พเนจร

    ใจ พเนจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    450
    ค่าพลัง:
    +1,174
    นั้นไง...มีรายการไม่เคยกระซิบกันบ้างเลย..55++
     
  3. นพ_กำแพงแสน

    นพ_กำแพงแสน เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    14,989
    ค่าพลัง:
    +10,040
    พระปัจเจกพุทธเจ้า ครูบากฤษดา สุเมโธ เปิดให้บูชาองค์ละ 800 บาท ฟรีค่าจัดส่ง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มิถุนายน 2017
  4. KRITVEE

    KRITVEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,305
    ค่าพลัง:
    +15,610
    ได้รับพระแล้วครับ ขอบคุณครับ
     
  5. นพ_กำแพงแสน

    นพ_กำแพงแสน เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    14,989
    ค่าพลัง:
    +10,040
    ขอบพระคุณครับที่แจ้งให้ทราบ
     
  6. นพ_กำแพงแสน

    นพ_กำแพงแสน เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    14,989
    ค่าพลัง:
    +10,040
    กุมารทองวัดนิมารนรดี เปิดให้บูชา 900 บสาท ฟรีค่าจัดส่ง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. นพ_กำแพงแสน

    นพ_กำแพงแสน เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    14,989
    ค่าพลัง:
    +10,040
    สมเด็จพระจักรพรรดิ์ธนบดี(หรือองค์ท้าวเวสสุวรรณ) วัดป่าเกร๊ะคี พระธนบดีศรีธรรมราช (เจ้าแห่งโชคลาภ)

    จัดสร้างขึ้นเป็นครั้งแรก โดยจำลองแบบมาจากรูปหล่อท้าวกุเวรเจ้าแห่งขุมทรัพย์ที่สร้างขึ้นในสมัยศรีวิชัย โดยมีชื่อเรียกหลายชื่อ เช่น พระธนบดี พระกุเวร พระรัตนครรภ์ เจ้าพ่อ
    ขุมทรัพย์ เทพเจ้าแห่งโชคลาภ โบราณถือว่าเป็นพระโพธิสัตว์องค์หนึ่ง ที่มีหน้าที่ประทานความมั่งคั่ง ความมีโชคดีให้กับผู้บูชา ฯลฯ

    ท้าวกุเวร เป็นเทพผู้รักษาทิศเหนือ ตามลัทธิศาสนาฮินดูและศาสนาพุทธ ประวัติของท้าวกุเวรกล่าวไว้ว่า

    พระองค์ได้บำเพ็ญทุกรกิริยา เป็นเวลาหลายพันปี จนพระพรหมทรงเห็นใจโปรดให้เป็นเทพแห่งความมั่งคั่ง จากมหากาพย์

    รามายณะกล่าวว่า เทพกุมาร ได้รับยานที่ขับเคลื่อนไปในอากาศได้ตามประสงค์ของเจ้าของคือ บุษบก บางตำรากล่าวว่าท้าวกุเวรมีม้าสีขาวเป็นพาหนะ มีมเหสีนาม จารวี หรือ ฤทธี มีโอรส 2 องค์ ชื่อ มณีครีพ หรือ วรรณกวี กับ นุลกุพล หรือ มยุราช

    มีธิดา 1 องค์ชื่อ มีนากษี ในรามเกียรติ์กล่าวว่า ท้าวกุเวรทรงเป็นบิดาคันธมาทน์ นายทหารของพระราม และมีสวนชื่อเจตรถอยู่บนยอดเขามันทร ท้าวกุเวรยังมีชื่อเรียกตามเรื่องราวและคุณสมบัติอีกหลายชื่อ เช่น กุตนุ (มีรูปร่างน่าเกลียด) รัตนครรภ(มีเพชรเต็มพุง) ราชราช (เจ้าแห่งราชา) นรราช ธนบดี (เป็นใหญ่ในทรัพย์) ยักษราช (เจ้าแห่งยักษ์) รากชเสนทร์ (เป็นใหญ่

    ท่านใดบูชาแล้วจะมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองทุกประการ
    ที่มา

    http://uauction4.uamulet.com/AuctionDetail.aspx?bid=314&qid=238937
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. นพ_กำแพงแสน

    นพ_กำแพงแสน เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    14,989
    ค่าพลัง:
    +10,040
    สมเด็จพระจักรพรรดิ์ธนบดี(หรือองค์ท้าวเวสสุวรรณ) วัดป่าเกร๊ะคี พระธนบดีศรีธรรมราช (เจ้าแห่งโชคลาภ)เปิดให้บูชา 500 บาท ฟรีค่าจัดส่ง

    จัดสร้างขึ้นเป็นครั้งแรก โดยจำลองแบบมาจากรูปหล่อท้าวกุเวรเจ้าแห่งขุมทรัพย์ที่สร้างขึ้นในสมัยศรีวิชัย โดยมีชื่อเรียกหลายชื่อ เช่น พระธนบดี พระกุเวร พระรัตนครรภ์ เจ้าพ่อ
    ขุมทรัพย์ เทพเจ้าแห่งโชคลาภ โบราณถือว่าเป็นพระโพธิสัตว์องค์หนึ่ง ที่มีหน้าที่ประทานความมั่งคั่ง ความมีโชคดีให้กับผู้บูชา ฯลฯ

    ท้าวกุเวร เป็นเทพผู้รักษาทิศเหนือ ตามลัทธิศาสนาฮินดูและศาสนาพุทธ ประวัติของท้าวกุเวรกล่าวไว้ว่า

    พระองค์ได้บำเพ็ญทุกรกิริยา เป็นเวลาหลายพันปี จนพระพรหมทรงเห็นใจโปรดให้เป็นเทพแห่งความมั่งคั่ง จากมหากาพย์

    รามายณะกล่าวว่า เทพกุมาร ได้รับยานที่ขับเคลื่อนไปในอากาศได้ตามประสงค์ของเจ้าของคือ บุษบก บางตำรากล่าวว่าท้าวกุเวรมีม้าสีขาวเป็นพาหนะ มีมเหสีนาม จารวี หรือ ฤทธี มีโอรส 2 องค์ ชื่อ มณีครีพ หรือ วรรณกวี กับ นุลกุพล หรือ มยุราช

    มีธิดา 1 องค์ชื่อ มีนากษี ในรามเกียรติ์กล่าวว่า ท้าวกุเวรทรงเป็นบิดาคันธมาทน์ นายทหารของพระราม และมีสวนชื่อเจตรถอยู่บนยอดเขามันทร ท้าวกุเวรยังมีชื่อเรียกตามเรื่องราวและคุณสมบัติอีกหลายชื่อ เช่น กุตนุ (มีรูปร่างน่าเกลียด) รัตนครรภ(มีเพชรเต็มพุง) ราชราช (เจ้าแห่งราชา) นรราช ธนบดี (เป็นใหญ่ในทรัพย์) ยักษราช (เจ้าแห่งยักษ์) รากชเสนทร์ (เป็นใหญ่

    ท่านใดบูชาแล้วจะมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองทุกประการ
    ที่มา

    http://uauction4.uamulet.com/AuctionDetail.aspx?bid=314&qid=238937
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2017
  9. นพ_กำแพงแสน

    นพ_กำแพงแสน เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    14,989
    ค่าพลัง:
    +10,040
    ปิดแล้ว
    พระสมเด็จค่ายอดิสร เปิดให้บูชา 500 บาท ฟรีค่าจัดส่ง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มิถุนายน 2017
  10. นพ_กำแพงแสน

    นพ_กำแพงแสน เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    14,989
    ค่าพลัง:
    +10,040
    หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ พิมพ์เตารีด เนื้อว่านหลังเม็ดกระดุมเงิน อ.ทิม รุ่นกฐินปี 2542 พ่อท่านนองวัดทรายขาวปลุกเสกพิธีดีมาก ว่ากันว่าหลวงปู่ทวดรุ่นนี้มีผงว่านปี2497ผสมอยู่ด้วย เปิดให้บูชา 900 บาท ฟรีค่าจัดส่ง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. supachaipnu

    supachaipnu ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,370
    ค่าพลัง:
    +7,301
    close ... พระสมเด็จค่ายอดิสร เปิดให้บูชา 500 บาท ฟรีค่าจัดส่ง
     
  12. นพ_กำแพงแสน

    นพ_กำแพงแสน เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    14,989
    ค่าพลัง:
    +10,040
    รับทราบขอบพระคุณ
     
  13. supachaipnu

    supachaipnu ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,370
    ค่าพลัง:
    +7,301
  14. นพ_กำแพงแสน

    นพ_กำแพงแสน เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    14,989
    ค่าพลัง:
    +10,040
  15. นพ_กำแพงแสน

    นพ_กำแพงแสน เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    14,989
    ค่าพลัง:
    +10,040
    ปิดรายการ k ประวิทย
    1.รูปหล่อหลวงปู่แผ้ว รุ่นแรก ออกวัดกำแพงแสน มีประสบการณ์ แคล้วคลาด ปลอดภัย จ่อยิงไม่เข้า พร้อมเกศา
    2.สมเด็จ หลวงปู่แผ้ว วัดกำแพงแสน
    เปิดให้บูชา 900 บาท ฟรีค่าจัดส่ง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2017
  16. นพ_กำแพงแสน

    นพ_กำแพงแสน เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    14,989
    ค่าพลัง:
    +10,040
    ปิดรายการ kประวิทย์
    1.พระธรรมจักร เนื้อผง หลวงปู่เจิม จัดสร้างในวาระ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2546 สร้างน้อย ติดเกศา
    2.พระปิดตาจัมโบ้รุ่นแรก ติดเกศา
    3.เหรียญพระพุทธชินราช พร้อมเกศา
    4.ภาพหลวงปู่มหาเจิม 5 ภาพ ติดเกศา
    5.ภาพ หลวงปู่ศรี มหาวีโร 2 ภาพ
    เปิดให้บูชา 1300 บาท ฟรีค่าจัดส่ง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2017
  17. นพ_กำแพงแสน

    นพ_กำแพงแสน เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    14,989
    ค่าพลัง:
    +10,040
    ขอบพระคุณครับ พรุ่งนี้จัดส่งแล้วจะแจ้งให้ทราบครับ
     
  18. นพ_กำแพงแสน

    นพ_กำแพงแสน เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    14,989
    ค่าพลัง:
    +10,040
    ปิดรายการ

    1. ชุดวัดท่าขนุน
    2.ชุดวัดท่าขนุน
    3.ลูกแก้วมะเฟือง พิธีฉัพรรณรังษี ลพ.หนุน
    4.พระสมเด็จลพ.บุญธรรม วัดพระปฐมเจดีย์ผสมผงเกราะเพชร ลป.ปาน มีจาร
    5.พระผงสังฆทาน เหรียญชัยหลังช้าง เหรียญพลังจิต
    6.เหรียญลพ.จวน วัดหนองสุ่ม เหรียญลป.บุญศรี
    เปิดให้บูชา 2000 บาท ฟรีค่าจัดส่ง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มิถุนายน 2017
  19. นพ_กำแพงแสน

    นพ_กำแพงแสน เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    14,989
    ค่าพลัง:
    +10,040
    โชว์
    เหรียญพระปัจเจกพุทธเจ้า รุ่น 1 วัดป่ายาง ( วัดสันพระเจ้าแดง ) บล็อค นิยม สวยแชมป์ม่วง รุ้งทั้งเหรียญ เลี่ยมพลาสติกกันน้ำ เหรียญจริงสวยกว่าภาพ
    ผ่านการปลุกเสกดังนี้ ...

    1. หลวงปู่พิศดู ธัมมจารี วัดเทพธารทอง
    2. หลวงปู่ปลอด วัดโพธินิมิตร
    3. หลวงพ่อบุญยัง วัดห้อยน้ำอุ่น
    4. ครูบากฤษดา สุเมโธ วัดสันพระเจ้าแดง
    และก็ได้เข้าพิธีต่างๆของทางวัดสันพระเจ้าแดงมาโดยตลอด ( เสกเยอะ )

    เหรียญสร้างเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 53 ออกให้ทำบุญเดือนกุมภาปี 54 งานฉลองพระอุโบสถ เจ้าภาพใหญ่ที่ถวายปัจจัยในการสร้างเหรียญชุดนี้ คือ คุณอาเล็ก ซึ่งเป็นคณะศิษย์สำนักมังกรฟ้าที่ฮ่องกง

    " ซึ่งพระปัจเจกพุทธเจ้าในเหรียญ ถอดแบบมาจากพระพุทธรูปเก่าแก่ประจำวัด มีอายุหลายร้อยปีหรืออาจถึงพันปี ช่วงเทศกาลจะมีชาวบ้านมากราบไหว้ขอพรเป็นประจำทุกปี " ( รายละเอียดจากคุณอัสดงครับ ) และ ด้านหลัง บรรจุยันต์เกราะเพชร คือ ได้ทั้งโชคลาภ และป้องกันอันตรายทุกอย่าง ครูบากฤษดา ท่านบอกว่าเหรียญนี้ " หนักในทางโชคลาภ เมตตามหานิยม "

    จำนวนการจัดสร้าง

    1. เหรียญตะกั่วลองพิมพ์ 50 เหรียญ
    2. เหรียญเงิน 108 เหรียญ
    3. เหรียญนวะ 500 เหรียญ
    4. เหรียญทองแดง ประมาณ 3,300 เหรียญ ( สั่งปั้ม 3,000 เหรียญ และโรงงานแถมให้อีก 300 กว่าเหรียญ / ลป.พิศดู & ครูบากฤษดาเสกทุกเหรียญ )

    ครูบากฤษดา .. ท่านกล่าวว่า จารตัว "อุ" ในภาษาล้านนาให้ ซึ่งสื่อความหมายถึง "อุดมโภคทรัพย์"

    ที่มาข่อมูล
    http://palungjit.org/threads/เพิ่มย...ทธเจ้า-รุ่น-1-ครูบากฤษดา-หลวงปู่พิศดู.490705/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. นพ_กำแพงแสน

    นพ_กำแพงแสน เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    14,989
    ค่าพลัง:
    +10,040
    1.ล็อกเก็ตรุ่นแรก หลวงปู่บู่ กิตติญาโณ จัดสร้างฉาก เขียวและฟ้า อย่างละ 300 ด้านหลังอุดผงมวลสารว่านเพชรหน้าทั่ง ข้าวสารหิน หญ้าคาพรมน้ำมนต์ ตะกรุด องค์นี้ฉากฟ้าพิเศษ มีเกศา เยอะมาก หายาก
    2.ตะกรุดหลวงปู่บู่ กิตติญาโณ รุ่น2 ตอกโค๊ต

    เปิดให้บูชาคู่ 2700 บาท ฟรีค่าจัดส่ง


    ประวัติหลวงปู่บู่ กิตฺติญาโณ

    วัดสุมังคลาราม บ้านพังขว้างกลาง ต.พังขว้าง อ.เมือง จ.สกลนคร

    ตามข้อมูลที่คนเฒ่าคนแก่ ได้เล่าให้ฟังในเรื่องประวัติของหลวงปู่บู่ได้บอกว่า เป็นคนชาติลาวมาแต่กำเนิดได้มาอาศัยในแผ่นดินไทยเมื่อไหร่นั้นไม่ปรากฏ ชัดเจน การอ่านเขียนหนังสือนั้นไม่ค่อยเก่ง เพราะท่านมุ่งปฏิบัติดูจิตอย่างเดียว มีแต่คนเฒ่าคนแก่มีอายุ 70-80 ปี ได้เล่าให้ฟังว่าเคยเห็นท่านเมื่อตอนหนุ่มๆ เป็นอยู่อย่างไรทุกวันนี้ก็เป็นอย่างนี้ ไม่เห็นท่านแก่เลย ยังคงมีสุขภาพแข็งแรง ทุกวันนี้หน้าตาท่านสดใส มีประกายรัศมีเปล่งปลั่ง เมื่อมองดูใบหน้าก็บงบอกของผู้มีคุณธรรมสูงในจิต ที่รักษากายไม่ให้แก่ การออกบวชของหลวงปู่นั้นทราบจากพระครูสุวรรณสิริชัย เจ้าคณะพังขว้างเล่าว่า ท่านออกบวช 2 ครั้งแล้ว ครั้งแรกไม่ทราบ ครั้งที่ 2 บวชเมื่อปี พ.ศ. 2524 ถ้าจะไปถามเอาข้อมูลประวัติจากท่านไม่ได้อะไรดอก มีคนไปถามอายุหลวงปู่ ว่าหลวงปู่อายุกี่ปีแล้ว บวช มากี่พรรษาแล้วท่านก็จะตอบเท่าไหร่ตามแต่ท่านจะตอบหรือไม่สนใจตอบไปเลยก็มี ก็เลยไม่ทราบข้อมูลแน่ชัดเพราะหลวงปู่ท่านไม่ยึดติดกับอายุที่เป็นเพียง สมมุติตัวเลขท่านอยู่กับปัจจุบันดีกว่าดูๆไปท่านเหมือนหลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน แห่งเมืองศรีสะเกษที่ไม่ทราบอายุเท่าไหร่กันแน่ ทุกวันนี้ท่านยังออกรับบิณฑบาตโยมทุกวันตามปกติ สุขภาพร่างกายแข็งแรงเดินจงกรมได้สะดวก และหลวงปู่ไม่คอยอาบน้ำ(สรง)เลย แต่แปลกที่ผิวพรรณของท่านยังเปล่งปลั่งอยู่เลย แสดงให้เห็นธรรมในจิตที่มีแต่ปิติสุข รักษากายไม่ให้แก่ ไม่เหมือนชาวบ้านทั่วไปชาวบ้านเหล่าว่าเวลาท่านจะอาบน้ำ(สรง) ก็ต่อเมื่อฝนตกลงมาเท่านั้น เมื่อ ใดฝนตกท่านจะเดินอาบน้ำจากธรรมชาติคนเดียวของท่านอย่างไม่สนใจใคร อีกอย่างหนึ่งโดยปกติหลวงปู่ท่านไม่ค่อยพูด อยู่เฉยๆ ที่กุฏิไม่ยุ่งวุ่นวายกับใครๆ มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วฉะนั้นประวัติหรืออายุของหลวงปู่บู่ จึงไม่ทราบชัดได้ชาวบ้านบางคนก็ว่า 80 ปีบ้าง 90 ปีบ้าง 100 ปีบ้าง ก็เลยไม่รู้จะเชื่อใครดี แม้ไปถามหลวงปู่ท่านก็ไม่บอก



    อภิญญา ปาฏิหาริย์ของหลวงปู่บู่

    เรื่องราวปาฏิหาริย์ของหลวงปู่บู่นั้นมีมากมาย แต่จะนำมาเล่าสู่ฟังบางเรื่อง ซึ่งเป็นการเล่าจากชาวบ้านที่ได้สัมผัสกับหลวงปู่บู่ล้วนไม่ธรรมดา น่าอัศจรรย์ใจ เช่น มี โยมคนหนึ่งเล่าว่า ได้ไปนิมนต์หลวงปู่บู่ไปฉันเพลที่บ้านมีงานบุญพอหลวงปู่รีบนิมนต์ก็บอกให้ โยมเดินทางไปก่อนเดี๋ยวจะตามไปทีหลังโยมก็รีบเดินกลับบ้านมาเตรียมข้าวปลา อาหารพอโยมคนนั้นมาถึงบ้านก็ต้องตกตลึงสุดขีด เมื่อสายตามองไปเห็นหลวงปู่บู่นั่งอยู่บนอาสนะสงฆ์เรียบร้อยแล้ว นับเป็นสิ่งอัศจรรย์ใจแกโยมเจ้าภาพอย่างมากทั้งที่ตัวเองก็รีบเดินไม่ได้แวะ ที่ไหนเลย แถมตอนนั้นหลวงปูยังไม่ได้ห่มจีวรเลยเกิดคำถามในใจตัวโยมว่า “แล้วหลวงปู่มาถึงก่อนเราได้อย่างไรหรือว่าหลวงปู่หายตัวได้กันแน่” เพราะถึงรีบเดินอย่างไรก็ไม่น่าถึงก่อนนับเป็นเรื่องน่าแปลกประหลาด

    พระครูสุวรรณสิริชัย เจ้าคณะตำบลพังขว้างเล่าว่า ครั้ง หนึ่งท่านเคยชวนหลวงปู่บู่ไปกราบนมัสการพระธาตุพนมไปโดยนั่งรถไปแต่หลวงปู่ บอกให้นั่งรถไปก่อนถ้ารีบเดี๋ยวท่านจะเดินไปเองพอพระครูสุวรรณสิริชัยนั่งรถ ไปถึงพระธาตุนครพนนมต้องตลึง เมื่อเห็นหลวงปู่บู่รออยู่ที่ พระธาตุนครพนมก่อนแล้ว เกิดคำถามว่าหลวงปู่มาถึงก่อนได้อย่างไรทั้งที่เดินเท้าเปล่าแต่กลับมาถึง ก่อนนั่งรถ และอีกครั้งหนึ่งพระครูสุวรรณสิริชัยเล่าว่า ท่านหยอกล้อเล่นกับหลวงปู่บู่โดยการสาดน้ำใส่หลวงปู่บู่แต่พอหลวงปู่บู่เอา มือปัดน้ำเท่านั้น น้ำที่สาดใส่ไม่เปียกตัวหลวงปู่บู่สักหยดเดียวเลย นับได้ว่าเป็นปาฏิหาริย์ซึ่งไม่ธรรมดา สร้าง ความอัศจรรย์ใจให้กับพระครูสุวรรณสิริชัยเจ้าคณะตำบลพังขว้างอย่างไม่น่า เชื่อท่านบอกว่าถ้าไม่เจอกับตัวเองจะไม่เจอใคร่ง่ายๆ แต่นี้เจอกับตัวเอง จึงว่าหลวงปู่บู่ไม่ธรรมดา เรื่องต่อมา ชาว บ้านเล่าว่ามีขโมยขึ้นกุฏิหลวงปู่บู่ เพื่อลักขโมยข้าวของในกุฏิ พอขโมยขึ้นมาบนกุฏิก็ค้นหาย่ามที่ใส่ปัจจัยที่หลวงปู่เก็บไว้ในย่ามเพื่อจะ ขโมยเอาเงินไป เมื่อขโมยล้วงมือลงไปในย่ามต้องตกใจสะดุ้งกลัวสุดขีดเมื่อในย่ามนั้นกลับ กลายเป็นงูทำธารตัวใหญ่นอนขดอยู่ในย่ามใบนั้น ทำให้ขโมยต้องทิ้งย่ามใบนั้นวิ่งหนีไปอย่างไม่ได้อะไรเลย แสดงให้เห็นว่าหลวงปู่ท่านไม่ธรรมดาเสกงูเฝ้าย่ามได้

    เรื่อง ต่อมาเกี่ยวกับไม้เท้าของหลวงปู่บู่ เวลาท่านจะออกไปนอกวัดหรือไปบิณฑบาตหลวงปู่จะเอาไม้เท้าซ่อนเอาไว้พุ่มไม้ ข้างทางเคยมีคนแอบจะไปขโมยเอาไม้เท้าหลวงปู่ที่ซ่อนเอาไว้แต่หาจนทั่วพุ่ม ไม้หาอย่างไรก็หาไม่เจอแต่พอหลวงปู่กลับมาแล้วเข้าไปหยิบเอาไม้เท้าออกมาจาก พุ่มไม้นั้นอย่างสะดวกสบาย สร้างความประหลาดใจให้กับคนที่คอยขโมยไม้เท้าหลวงปู่บู่ยิ่งนัก และ อีกหลายๆเรื่องเกี่ยวกับปาฏิหาริย์ เช่น โยมที่จังหวัดอุดรธานี เห็นท่านไปบิณฑบาตที่อุดรธานี และได้ใส่บาตรหลวงปู่ ทั้งที่ตัวหลวงปู่เองก็อยู่ที่วัดไม่ได้ไปไหนเลย บางคนเห็น หลวงปู่ไปบิณฑบาตที่ประเทศลาวหรือว่าบางคนไปขอถ่ายภาพหลวงปู่ ถ่ายอย่างไรก็ไม่ติดหรือถ่ายติดเมื่อกลับไปล้างภาพไม่มีภาพอะไรว่างเปล่า บางครั้งกล้องไม่ทำงานเอาดื้อๆ ถ้าหลวงปู่ไม่อนุญาตนับได้ว่าเป็นปาฏิหาริย์ของหลวงปู่บู่ เป็นพระอีกรูปหนึ่งที่ไม่ธรรมดาหาได้ยากในยุคกึ่งพุทธกาลนี้ ชาวบ้านเล่าว่าวันหนึ่งๆ หลวงปู่ไม่ได้ไปไหนเลยตั้งแต่มาอยู่ที่วัดคลาราม ท่านไม่ไปไหนและหลวงปู่ท่านไม่ชอบแสดงตัวโอ้อวดว่าท่านดีอย่างนั้นอย่างนี้ กับใครต่อใคร นอกจากจะได้สัมผัสกับหลวงปู่เอง และเรื่องเล่าทุกเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องเล่าจากปากชาวบ้านที่ได้สัมผัสจากตัว เองทั้งนั้น ไม่ใช่เรื่องจากปากท่านเลย

    การเป็นผู้อยู่อย่างเหนือโลก

    หลวงปู่บู่เป็นพระที่สมควรได้คำว่า “ โลกอุดร” ถึงน่าจะเหมาะสมกับการเป็นอยู่ของหลวงปู่จริงๆ ซึ่งเหมือนกับปฏิปทาของหลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน เหมือนแกะจากพิมพ์เดียวกัน การเป็นอยู่ของหลวงปู่บู่ อยู่อย่างเรียบง่ายทำตามได้ยาก เป็นพระที่มักน้อยจริงๆ สันโดษก็สันโดษจริงๆ กุฏิที่หลวงปู่อยู่จำวัดก็พังแหล่ไม่พังแหล่ เก่าสุดเก่า ถึงแม้จะมีศรัทธามาสร้างกุฏิถวายหลวงปู่หลังใหม่ก็ตาม หลวงปู่ไม่ได้ยินในลาภ ยังคงจำวัดในกุฏิเก่าๆ หลังเดิม เห็นแล้วทำตามหลวงปู่ได้ยากจริงๆ จีวรห่มก็เก่าๆ การเป็นอยู่หลับนอนก็เปลใต้ต้นมะม่วง บางครั้งก็ขึ้นไปนอนบนต้นมะม่วง การนอนของหลวงปู่จะนอนในท่าสีหะไสยาศตลอด บางวันอากาศร้อนๆหลวงปู่บู่ก็ลุกขึ้นมาก่อไฟผิง ไม่สนใจใคร ฝนตกก็เดินตากฝน หน้าหนาวหลวงปู่ก็เดินตากอากาศหนาว อย่างไม่กลัวความหนาว นับได้ว่าเป็นการอยู่ที่เป็นไปเพื่อการปล่อยวางในโลกกรรมอย่างแท้จริง โดยหลวงปู่ไม่ยินดียินร้ายในคำสรรเสริญ ยกย่อง คำนินทา ใครจะด่าว่าร้ายหลวงปู่ก็ช่าง จะมีลาภหรือไม่มีลาภ หลวงปู่ก็ไม่หวั่นไหว ใครจะมียศมีตำแหน่งหลวงปู่ก็นิ่งเฉย โลกใบนี้มันจะสุขหรือจะทุกข์มันก็เป็นมาอย่างนี้ตั้งแต่ไหนแต่ไร





    ให้โชคให้ลาภแม่น

    มีชาวบ้านเล่าว่าหลวงปู่ให้ปริศนาตัวเลขแม่นและมีครูบาอาจารย์รูปหนึ่ง ท่านบอกว่ามีโอกาส มาแถวนี้อย่าลืมไปกราบหลวงปู่บู่ วัดสุมังคลารามนะ เมื่อมีโอกาสเลยไปกราบหลวงปู่ และได้ถามหลวงปู่บู่เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2552 ที่ผ่านมาว่า “หลวงปู่อายุเท่าไหร่แล้ว” หลวงปู่ตอบว่า “ สิบหนึ่ง” พอได้ฟังก็งงๆ อยู่เหมือนกัน

    หลวงปู่ อายุปูนนี้แล้วจะมีอายุแค่สิบเอ็ดปีเป็นไปไม่ได้แน่ พอวันที่ 2 พ.ค. 52 หวยออก 2 ตัวล่าง 11 ตรงๆ และเมื่ออีกอาทิตย์หนึ่งถัดมาก็ได้ไปกราบหลวงปู่อีกครั้ง ก็เลยถามหลวงปู่อีกว่าหลวงปู่บวชมากี่พรรษาแล้ว หลวงปู่ตอบว่า “สิบหนึ่ง” เพราะดูตามความจริงหลวงปู่น่าจะเป็นพระมหาเถระแล้ว คงบวชมาไม่ต่ำกว่า 40 พรรษาอย่างแน่นอน พอมาวันที่ 16 พ.ค. 52 หวยออกเลขท้ายสามตัวบนออก 411 ทำให้หายสงสัยในหลวงปู่ทันที ใน ความมีเมตตาของหลวงปู่ ซึ่งการให้โชคให้ลาภนี้ หลวงปู่บู่จึงคล้ายกันกับหลวงปู่สรวง ที่ให้โชคให้ลาภแม่นมากแสดงว่าหลวงปู่บู่ไม่ธรรมดาจริงใครอยากไปสัมผัสกับ ตัวเองก็ขอเชิญเมื่อมีโอกาสแวะไปได้ที่วัดสุมังคลาราม ต. พังขวาง อ.เมือง จ. สกลนคร ของดีอยู่ใกล้ๆ แค่นี้เอง



    หลวงปู่เป็นพระอรหันต์

    เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2552 มี คณะของสำนักชลประทานมี่ 5 จากจังหวัดอุดรธานีได้ไปกราบนมัสการหลวงปู่บู่ พร้อมท่านพระอาจารย์ปกรณ์ กนฺตวีโร แห่งวัดถ้ำภูผาแด่น จ.สกลนคร ขณะที่สนทนากันส่วนมากจะเกี่ยวกับเรื่องธรรมะและการปฏิบัติกับหลวงปู่บู่ สังเกตดูใครถามท่านๆก็จะตอบถ้าไม่ถามท่านๆก็จะนิ่งเฉยเสียโดยไม่มีความ รู้สึกยินดียินร้ายต่อสภาวะแวดล้อมขณะนั้นใดๆทั้งสิ้น มีบุคคลหนึ่งในคณะถามท่านถึงเรื่องความฝันเพราะอาจจะนำคำพูดของท่านมาตี เป็นเลฃหวยก็ได้ ว่าหลวงปู่ฝันดีบ่ ท่านก็บอกบ่ฝันดอก บุคคลนั้นก็ถามต่อว่าหลวงปู่ชอบเลขอะไร หลวงปู่ก็ตอบว่า ” มักเลข 8“ คำ ตอบของหลวงปู่ทำให้คณะของชลประทานนั้นถึงกับอึ้งและงงกันไปพักใหญ่ว่าหลวง ปู่ให้เลขตัวเดียวแล้วจะหาตัวเลขอื่นมาผสมอย่างไรให้ครบสองตัว ขณะที่ทุกคนในคณะกำลังงุนงงกับคำพูดปริศนาของหลวงปู่อยู่นั้น บุคคลที่ถามท่านก็นึกได้และเฉลยให้ทุกคนในที่นั้นฟังและได้ยินกันทั่วทุกคน จนทำให้คำพูดที่เป็นปริศนาของหลวงปู่หมดไป ว่าที่แท้คำว่า“ มักเลข 8” ของหลวงปู่นั้นคงหมายถึง ” มรรคแปด “ ซึ่งเป็นทางเดินแห่งพระอริยะมรรคของพระอรหันต์เท่านั้น เมื่อบุคคลนั้นในคณะเรียนถามหลวงปู่บู่อีกว่า มักเลข 8 หมายถึง มรรคแปด ไช่ไหม หลวง ปู่ท่านก็ได้แต่ยิ้มๆและไม่ตอบหรือพูดว่าอะไรแม้สักคำเดียว (มักภาษาลาวแปลว่าชอบ ภาษาธรรมแปลว่าทางเดินของพระอริยะมรรคอันมีองค์แปดนั่นเอง) คำตอบนี้พวกเราคงไม่ต้องเดากันนะครับว่าหลวงปู่บู่ ท่านหมายถึงอะไรและท่านเป็นพระอริยะบุคคลชั้นไหนแล้ว


    ที่มาข้อมูล

    http://sakda.tarad.com/article-th-67653-หลวงปู่บู่+กิตฺติญาโณ+วัดสุมังคลาราม+จ.สกลนคร.html
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2017

แชร์หน้านี้

Loading...