เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

ทั้งกลอนกับความฝัน อัศจรรย์แห่งนิมิตเหนือกาลเวลา ครูผู้คอยดูแลศิษย์ทั้งยามเป็นและยามจากลาแล้ว

ถือเป็นของขวัญวันครูจากท่านนำทาง สาธุ บารมีปู่หมุนช่วยศิษย์ทุกคนในวันพรุ่งนี้ด้วยเถิด

เห็นท่าต้องถ่ายภาพเบี้ยแก้จักรพรรดิในกระเป๋าถือ 1 ใน 500 ตัวที่พกติดกระเป๋าเกือบ10ปีให้ชมกันสักที

แต่วันนี้ ดูรูปหล่อพ่อจง85 กับ"ปู่เหรียญหล่อ"อายุเฉียดร้อยปี เพลินๆเป็นความรู้กันก่อน รูปหล่อพ่อจงจัดให้ตามที่ขอน้องณัฐฯถ่ายภาพพ่อจงปี 99ให้ชม

 

ท่านชัยวัฒน์ฟิตข้ามฟ้ามาเลย-ถ้าลงจริงจะทัน สิงห์ปืนไวทางนี้ไหมเนี่ย?...ผมไม่อยากพูดให้เสียกำลังใจเล้ยว่า...ต่อร้อยละบาท ไม่ทันแน่นอน

 

สรุป-ยอดบุญต้นน้ำอันสำเร็จแล้ว
ด้วยรายชื่อทุกท่านทันใจ บุญตอบ
กลับทันควัน ไม่ขอนานวัน...พรุ่งนี้
เลยละกันขอรับ

 

อาจารย์ต้องมีของซับน้ำตานะครับ สิงห์ปืนไวเร็วมาก

 

หนูมุคงตะลอนทัวร์ ตะลอนบุญเล็ก-บุญน้อยไปตามปกติ จนกว่าจะเป็นด็อกเตอร์ คงทำเหนื่อยอีกหลายสิบบุญ แต่บุญก็เหมือนหยดน้ำใส่ตุ่ม หากตุ่มไม่รั่ว (เพราะทำชั่วตาม)...ไม่ช้าตุ่มก็เต็ม ได้ตักอาบ กิน ดื่ม ชื่นใจ

เห็นเจ้าเหมียวน่ารัก
ของชอบเขียนทักสักนิด...

เจ้าเหมียวน้อย.....คอยรับแขก
บ้างนอนแหวก.....แหกแข้งขา
แมววัดล้วน.........อ้วนกายา
ซำบายตา...........น่ารักจัง!

 

โอ้...ซับน้ำตาให้จับสลาก
ก็เหนื่อยอีกน้องไพเรทเอ๋ย

 

Training and drills กำลังซ้อมหนักอยู่ครับ
เสือและสิงห์ปืนไวแยอะจริงๆๆครับ..

 

สวัสดีเพื่อนสมาชิกทุกท่าน วันนี้ คุณอาwanwi ฝากภาพ วัตถุมงคล มาให้ชมกัน ชมภาพกันก่อน เดียวคุณอา มา ให้ความรู้เพิ่มเติม ครับผม


รูปหล่อโบราณลพ.จง วัดคอกหมูปี 2485

 

เหรียญหล่อโบราณ "ปืนเที่ยงยิงไม่ดัง" ปี2463 อีก2ปีครบร้อย!
​

 

เหรียญคันธราฐ ปี2472 ลป.บุญ วัดกลาง เสกพร้อม"จาด-จง-คง-อี๋"
​

 

รูปหล่อรุ่นแรก-ลพ.จง วัดหน้าต่างนอก
ออกวัดคอกหมู ปี 85-สงครามอินโดจีน
====================

นี่คือสุดยอดรูปหล่อ เล็กดี-รสโต ปลุกเสกโดย ปรมาจารย์ หนึ่งใน"จตุรเทพแห่งสงฆ์สยาม"ยุคสงครามอินโดจีนระบาดลามไปทั่วภูมิภาค ผลพวงจากสงครามโลกหนที่ 2 ในปี 2485...

ท่ามกลางการล้มตายด้วยพิษภัยสงคราม ประเทศสยามได้สร้างขวัญกำลังใจแด่ทวยหาญด้วยเหล่าปรมานารย์มากมาย ที่ช่วยกันสร้างวัตถุมงคลทั้งเครื่องราง-ของขลัง-พระเครื่อง แจกจ่ายให้ทหารกล้าผู้ปกป้องมาตุภูมิ ได้มีโอกาสรอดกลับบ้านเมื่อเสร็จศึก คืนสู่อ้อมกอดผู้เป็นที่รักอันเฝ้ารอข้างหลัง

ไม่มีพระอาจารย์ยุคนั้น องค์ใดเหนือกว่า"หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก"แห่งเมืองกรุงเก่า อยุธยา!

ท่านได้รับการนิมนต์สร้าง-ปลุกเสก วัตถุมงคลมากที่สุด เป็นหนึ่งบรมครูผู้อยู่บนเครื่องบินโปรยทรายเสกครอบคลุมพระนครเพื่อให้รอดจากการกระหน่ำฝ่ายสัมพันธมิตร เพราะประเทศสยามดันถูกพี่ยุ่นปี่-ญี่ปุ่นเอาเป็นทางผ่าน(ที่จริงยึดครองกลายๆ) จึงถูกสัมพันธมิตรหาว่าเป็น"ฝ่ายอักษะ"ยืนตรงข้าม อเมริกา-อังกฤษ-ฝรั่งเศสฯ

ทั้งหลวง-ราษฏร์ร่วมกันสร้างผ้าประเจียด-ผ้ายันต์-ตะกรุด-พระเครื่อง รูปหล่อ สารพัดเท่าที่จะนึกคิดแจกกันตามแต่จะหาวัสดุที่ขาดแคลนพบในยุคสงคราม ทุกอย่างต้องปันส่วน ข้าวสาร-น้ำมัน-น้ำตาล-เกลือ ฯลฯ ล้วนขาดแคลน

การจัดสร้างพระรูปหล่อหลวงพ่อจง วัดคอกหมูในปี 85 จึงใช้วัสดุเท่าที่จะหาได้ ส่วนใหญ่เป็นทองเหลืองและโลหะอาถรรพ์เนื้อชนวนจากการหลอมพระพุทธรูป-พระบูชา ใครเขียนว่าใส่โน่นนี่มากมาย อย่าไปเชื่อ นครบางกอกช่วงนั้นแม้แต่ฟืนไฟยังต้องพรางตามวันเวลา จะทำอย่างฟุ่มเฟือยได้อย่างไร

รูปหล่อรุ่นนี้จึงไม่งามนัก แต่"คลาสสิค"สำหรับนักเล่นผู้ชื่นชอบ ความเก่า ขลัง ทั้งอลังการด้วยการปลุกเสกอันไม่มีพุทธพาณิชย์เจือสมแม้ปลายนิ้วก้อย ปลุกเสก-สร้าง ให้ใช้เพื่อชีวิตจริงแท้และแน่นอน

เรียกว่าพกพาแล้วต้องรอดตายในยุคควันสงครามท่วมประเทศ!

นี่คือ"ความจริง"ที่ไม่ต้องให้เซียนหรือเสี้ยนไร้วิชาภูมิรู้ท่านใดมานั่งบรรยายว่ามีพระรุ่นนู้น รุ่นนี้ดีกว่า ถ้าหามาครอบครองได้ ก็พึงมีติดบ้านไว้สักองค์เถิด

ท่านสร้างไว้ 3 พิมพ์ คือ พิมพ์มารวิชัย-สมาธิและพิมพ์พระพุทธหลังยันต์ ทุกพิมพ์มีขนาดข้อปลายนิ้วก้อยหนึ่งข้อ

ของทำเทียมเลียนแบบมีมากพอควร ตามวิสัยจัญไรของผีชั่วที่ฆ่าเท่าไหร่ก็ไม่ตาย แต่ชมของแท้องค์นี้ไว้ก็พอเป็นภูมิคุ้มกันหรือวัคซีนป้องกันบาดทะยักได้

พิมพ์สมาธิ งามเก่าเก็บ ประกวดติดรางวัลหลายครั้ง ถ่ายรูปได้ดีเท่าที่เห็นนั่นแหละ

 

คุณ chaivat chinkidjakar ครับ ผมก็ซ้อมนะ แต้มดีเลยละ แต่พอออกสนาม แพ้ราบเลย..........
สู้ๆๆๆ ขอบคุณคุณน้า Wanwi ที่ส่งรูปหล่อหลวงพ่อจงวัดคอกหมูมาให้ชมครับ

เกิดกิเลสนิดๆ ครับ
เคยได้ยินเขาเล่าว่า เห็นเขาหยิบมาอวดกันสมัยเมื่อประมาณปี 252X มีหลายๆท่านเลย กำลังค้นหาเป้าหมายละครับ .....

ส่วนเหรียญนี้ เหรียญคันธราฐ ปี2472 สวยสดครับ สาธุครับ คุณน้าที่นำมาให้ยลโฉมครับ

 

ขออนุญาต เก็บภาพไว้ศึกษาครับ พระดี ปีลึกแบบนี้ หาแท้ๆ ชมยากมาก ขอบคุณครับ

 

ถ้ายังไงงวดนึ้จับฉลากทัน ขอร่วมสนุกทุกองค์เลยเห็นเหรียญ รูปหล่อโบราณอดใจไม่ได้ จึงขอลงทะเบียน (ถ้ามี) แต่ไก่โห่ นะครับ

 

ปู่เหรียญหล่อ-ปืนเที่ยงยิงไม่ดัง!
ลป.เผือก วัดทองนพคุณ ปี 2463
====================

เหรียญพระพุทธที่ขึ้นชื่อว่าเก่าที่สุด เป็นเหรียญแรกของประเทศคือ..."พระพุทธชินสีห์ ปี2440" ถูกขนานนามไม่เป็นทางการในหมู่นักสะสมว่า..."ปู่เหรียญ"!

---ต่อมาคือเหรียญพระพุทธชินราช พิษณุโลกหลังกสิกรรม ปี 2457 หลวงพ่อโสธร ปี2460...หลวงพ่อวัดบ้านแหลม ไล่เรี่ยกันมา ฯลฯ

เหรียญหล่อ พระพุทธชินราช ที่สร้างโดยหลวงปู่เผือก วัดทองนพคุณ จึงจัดในทำเนียบเทียบเคียงยุคต้นได้ เป็นเหรียญที่หล่อหลอมงดงาม สร้างในวาระ หลวงปู่เผือก อายุครบ7รอบหรือ84 ปี

หลวงปู่เผือกท่านเป็นยอดอาจารย์เมืองหลวง ร่วมยุคกับสุดยอดบูรพาจารย์ชั้นอ๋องของประเทศยุคนั้น เมื่อท่านสร้างพระครบรอบวาระมงคล จึงมีสุดยอดระดับเบอร์หนึ่งของทุกจังหวัดทุกทิศมาร่วมด้วยช่วยหลวงปู่มโหฬาร

ประธานปลุกเสกในพิธี คือ...หลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า!

เชิญชมรายนามอันชวนตะลึงของสุดยอดคณาจารย์ที่อ่านนามแล้วต้องสูดปาก...

---หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง
---หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ
---หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว
---หลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก
---หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ
---หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว
---หลวงพ่อทับ วัดอนงคาราม
==========ฯลฯ==========

กับอีกหลายสิบรายนาม ซึ่งต้องร้องอุทานว่านี่คือ...กองทัพมหาเทพแห่งสยามชัดๆ!!!

ด้วยเหตุนี้ในขณะที่กำลังทำพิธีปลุกเสกอันตรงกับเวลาเที่ยงวัน ทางราชการยุคนั้นต้องมีพิธียิงปืนเที่ยงเพื่อบอกเวลา แต่ยิงเท่าไหร่ปืนก็ไม่ดังทั้งที่อยู่ห่างไกลกันมากกับพิธี พอทราบภายหลังว่า กำลังมีพิธีปลุกเสกพระเหรียญหล่อนี้ โดยกองทัพมหาเทพ จึงได้รับการขนามฉายา

=====เหรียญปืนเที่ยงยิงไม่ดัง====

เหรียญนี้ ปกติจะออกเนื้อทองเหลืองผสมสีโลหะอื่นเป็นสัมฤทธิ์ระเรื่อ แต่ถูกผมแช่ในหม้อน้ำมนต์นับสิบปี วันปีใหม่-สงกรานต์ เทแป้งเสกลงไปให้พระพรมน้ำมนต์บ้าง เจิมบ้าง ผิวเหรียญจึงกลับดำโดยคราบน้ำ และมีแป้งเสกติดเต็มตามซอกหน้า-หลัง

แต่เป็นเหรียญไม่เคยผ่านการแขวนใช้ สภาพสวยสมบูรณ์เต็มร้อย ตอนนี้นำท่านขึ้นจากหม้อน้ำมนต์นานแล้ว เอากริ่งวัดบวรฯกับเหรียญทำน้ำมนต์อื่นแช่แทน สลับสับเปลี่ยนกันไป

นำปู่เหรียญหล่อ อีก2 ปีอายุครบร้อยให้ชมเพลินตาในวันครู เพราะนี่คือบรมครูรวมอยู่ในพิธี

หากไปเจอที่มียันต์ผิดแผกจากนี้อีก 2 แบบ ก็อย่าตกใจ เป็นของ หลวงพ่อชุ่ม วัดบางนาใน กับอีกวัดเอาพิมพ์หน้าไปถอด แต่เปลี่ยนยันต์หลังเท่านั้น อายุน้อยกว่าเหรียญนี้หลายปี ผมมีครบจะทะยอยให้ดูเป็นความรู้

 

เหรียญหล่อคันธราฐ 2472-นครปฐม
"จาด-จง-คง-อี๋" สุดยอดสยามมาครบ!
====================

ปฐมเหตุแห่งการสร้างเหรียญนี้ เพราะปี 2472 เกิดภาวะฝนแล้งยาวนาน สมัยนั้นไม่มีคำว่า"ภัยแล้ง"...ทางการก็จนปัญญาช่วยเหลือทั่วถึง ผู้เป็นประชาชนต้องหาวิธีแก้ไขกันเองตามมีิตามเกิด เช่นแห่นางแมว บนขอฝนฯ

หลวงพ่อโชติ(พระธรรมวโรดม)เจ้าอาวาสพระปฐมเจดีย์ จึงจัดสร้างพระพุทธรูปคันธราฐ ซึ่งเป็นตัวแทนแห่งพระพุทธองค์ปางขอฝน จำนวน150 องค์เพื่อแจกจ่ายไปยังหมู่บ้าน ตำบล อำเภอที่แห้งแล้งหนัก พร้อมกับสร้างเหรียญหล่อพิมพ์ต่างๆแจกประชาชนไว้บูชา

---สมเด็จพระสังฆราช(แพ)วัดสุทัศน์ จอมเทพผู้เชี่ยวชาญการหล่อโลหะพระทุกชนิดหมายเลข 1 ของประเทศ ท่านเป็นประธานในพิธี

---รายชื่อปรมาจารย์แห่งยุคที่แห่แหนกันมาชนิดมืดฟ้ามัวดินเพื่อนำวิชาสุดยอดแต่ละท่านเสกเหรียญหล่อ"พระคันธราฐ"ก็เนืองนอง ซึ่งรายชื่อที่ท่านบก.ได้จัดให้ชมนั้นก็เป็นเพียงส่วนหนึ่ง แต่เพียงส่วนนั้นก็เพียงพอต่อความตื่นตา-ตื่นใจของผู้ครอบครองวัตถุมงคลชุดนี้ หรือผู้ที่รู้รายละเอียด

---หากเป็นยุคนี้ืรับรองว่าต้องฝอย เอามาเขียนโฆษณาหากินกันสัก 3-5-10 ปี ชนิดเรียกว่า"ฝอยท่วมหลังช้าง" โม้เท่าไหร่ก็ไม่รู้จักจบสิ้น หากินได้เป็นชาติ!

ยุคโบราณไม่มีพุทธพาณิชย์ สร้างเสร็จ ฝนก็เทกระหน่ำฉ่ำชื่นมาด้วยอำนาจพระพุทธคุณ... "ภัยแล้ง"ซึ่งไม่มีคำนี้ในยุคนั้น ถอยห่างออกไปรวดเร็วทันใจ

---พระชุดนี้จึงไม่มีคำโอ่อวด นอกจากประโยคเดียวสั้นๆว่า...

"พระพุทธคุณครอบจักรวาล"!!!

 

โอยยยย เหรียญก็ได้ รูปหล่อก็ดี ของดีแบบนี้ อันไหนก็ได้ค้าบบบบ น้ำหมากย้อยหมดแร้ววววว....

 

“พรหมวิหาร ๔” นี่เป็นของดี และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ถ้าพวกเราทรงพรหมวิหาร ๔ เป็นปกติ
จิตมันมีความสุข มันมีความสุขจริงๆ
มันไม่มีความกระวนกระวายอะไร
มันจะยังไงก็ช่าง ถ้าเราไปถูกเขาด่าเข้า เขานินทาเข้า
เราก็ถือว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา อันนี้เป็น “อุเบกขารมณ์”

ถ้าเรามีความเกื้อกูลเขา เรามีความรักในเขา
เราสงสาร เราสงเคราะห์เขา
เรายินดีในเมื่อเขาได้ดีไม่อิจฉาริษยา
อาการอย่างนี้ มันก็หาคนเกลียดยาก
นอกจากไอ้คนเกินบาทไม่ถึงบาทก็อาจจะเกลียดได้
ถ้าคนครบบาทพอดีไม่มีใครเขาเกลียด

ถ้าคนที่มีจิตเมตตา รักเขา เขาก็รักตอบ
เราสงสารเขา เขาก็สงสารตอบ เราให้เขา เขาก็ให้ตอบ
เราขาดเขาขาดสิ่งใดที่เราไม่มีเขาให้
สิ่งใดที่เขาไม่มีเราให้ มันก็เป็นการเกื้อกูลซึ่งกันและกัน

เวลาที่เขาได้ดีแทนที่เราจะอิจฉาริษยา
เรากลับพลอยยินดีกับความดีที่เขามีอยู่
คนนั้นเขาก็เลยไม่เกลียดเราจริง
คนที่รักเขาแล้วไม่มีคนเกลียด
คนประเภทนี้ไปไหนก็มีแต่ความสุข
เพราะพบแต่ใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส
ใบหน้าที่สดชื่น เราจะไปพักที่ไหนก็ได้
ไม่มีใครเขารังเกียจ หิวที่ไหน
ขอเขากินที่นั่นเขาก็ให้เขาก็รัก

นี่การเจริญ “พรหมวิหาร ๔” นี่
มีสุขตั้งแต่ชาตินี้ไป ไปถึงชาติหน้า
สุขมากกว่านี้คือเป็นสุข แล้วถ้าเวลานี้ใคร
เป็นพรหมเห็นจะไปนิพพาน เพราะอะไร
เพราะ “พรหมวิหาร ๔” เป็นตัวคุมศีล
คุมสมาธิให้บริสุทธิ์ คุมวิปัสสนาญาณให้บริสุทธิ์
ถ้าไปพบ พระศรีอาริย์ เข้าเจอะพระท่านเทศน์เข้า
กระทบ “พรหมวิหาร ๔” คำเดียวเป็นอรหันต์เลย สวัสดี*

- หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ
ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร