เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

ฝากเรืองเล่าดีๆมาคั่นรายการก่อนเข้าป่าตอนบ่ายนะครับ

¤ หลวงปู่ฟัก กับ วิญญาณซีอุย ¤
(ประสบการณ์จริงที่เกิดขึ้นในอดีต)
******
ในปีพ.ศ. ๒๕๑๖ ขณะที่โยมบิดาของ พระอาจารย์ฟักป่วย ต้องพักรักษาตัวที่ โรงพยาบาลศิริราช ญาติมิตรพี่น้องก็เหมารถจากจันทบุรีไปเยี่ยม แล้วชวนกันไปดูพิพิธภัณฑ์ของโรงพยาบาลซึ่งในพิพิธภัณฑ์นั้นมีร่างของนายซีอุย แซ่อึ้ง นักโทษฆ่าและกินเครื่องในเด็กถูกวางแสดงอยู่ด้วย
*****
เมื่อพากันเดินผ่านร่างซีอุย ซึ่งขาซ้ายมีกระดูกโผล่ออกมา เข้าใจว่าเป็นผลมาจากโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจยิง "#นายเบ้ง" หนึ่งในคณะพูดขึ้นว่า
-
"#ซีอุยนี่ #แซ่เดียวกับเตี่ยเลย"
-
ว่าแล้วชาวคณะก็พูดต่าง ๆ นานาเช่น "#ยายระเวง" บอก "#สมน้ำหน้า" และคิดในใจว่า ทำตัวไม่ดี อยากไปกินเด็ก สมควรแล้วที่ซีอุยมามีจุดจบแบบนี้ แต่ "#ยายสาว" กลับปรามญาติพี่น้องไว้ไม่ให้พูดอย่างนั้น อีกทั้งพูดในทำนองแสดงความเห็นใจซีอุยด้วย นอกจากนี้ยังซื้อน้ำเก๊กฮวยมาถวายพระอาจารย์ฟักเพื่ออุทิศส่วนบุญให้นายซีอุยด้วยความสงสาร
*****
พอกลับถึงจันทบุรี ต่างฝ่ายต่างก็แยกย้ายกันกลับบ้าน พระอาจารย์ฟักก็กลับวัด แต่สักพักก็มีผู้กระหืดกระหอบมาตามพระอาจารย์ฟักโดยเรียนท่านว่า
-
"#ยายระเวงถูกผีเข้า"
-
เมื่อพระอาจารย์ฟักไปดูยายระเวงที่บ้าน "#หมอสวัสดิ์" ซึ่งเป็นแพทย์อยู่โรงพยาบาลพระปกเกล้านั้น พบว่ายายระเวงซึ่งเป็นคนไทยแท้และเป็นญาติกับท่านเอง ไม่เคยพูดภาษาจีนได้แม้แต่คำเดียว กลับพูดภาษาจีนปร๋อ และเดินขาลากไปมาในบ้านเอ่ยปากขอกินน้ำชา ข้าวต้ม และปลาเค็ม โดยพูดภาษาจีนแต้จิ๋วว่า
-
"#จะกินข้าวต้มกับปลาเค็ม"
-
(ภายหลังขณะที่ท่านอาจารย์เล่าให้ฟัง เมื่อถึงตรงนี้ ท่านจะออกเสียงเน้นๆ เป็นภาษาจีนด้วยว่า"#ไอ่เจี๊ยะม้วย #พั้วเกี่ยมฮื้อ" ) ซึ่งเขาก็จัดเตรียมสิ่งที่ต้องการไว้ให้แล้วตั้งแต่ก่อนที่พระอาจารย์ฟักจะไปถึง แต่ยายระเวงไม่สามารถรับประทานได้
*****
เมื่อท่านมาถึงแล้วเอ่ยปากอนุญาตบอกให้กินได้ ปรากฏว่ายายระเวงสามารถกินข้าวต้มร้อนจัด ๆ หมดได้ทั้งหม้อโดยตักใส่ชามใช้ตะเกียบพุ้ยข้าวต้มเข้าปากอย่างหิวโหย เหมือนขาดอาหารมานาน
-
"#หิวมาก #ไม่เคยได้กินเลย"
-
เสียงผู้ชายพูดภาษาจีนผ่านปากยายระเวงออกมา พออิ่มแล้วพระอาจารย์ฟักจึงถามว่าเป็นใคร มาจากไหน ให้เล่ารายละเอียดให้ฟังหน่อยสิ
-
"#ชื่อซีอุย #ตามชาวบ้านมาจากศิริราช"
-
ชาวบ้านที่พากันล้อมอยู่ตาเหลือก โดยเฉพาะชาวคณะที่พากันไปศิริราชมาหมาด ๆ
-
"#มีคนพูดว่าแซ่เดียวกับเตี่ย #เลยเข้าใจว่าเป็นญาติกัน #จึงตามมาขออยู่ด้วย"
-
เสียงผู้ชายผ่านปากยายระเวง พร้อมเล่าถึงวิธีการตามมาขออยู่ด้วยว่า ขึ้นรถมาด้วย พอมาถึงเมืองจันท์ คณะแวะส่งนายเบ้งเป็นคนแรก ปรากฏว่านายเบ้งขณะกำลังจะลงรถได้หกล้ม ซีอุยบอกว่า เป็นเขาเองที่กระโดดตามจะเข้าร่างนายเบ้ง แต่ผ่านเข้าประตูบ้านไม่ได้เพราะมีคนแก่เฝ้าอยู่
*****
เลยตามไปบ้านคนชื่อ "#สาว" เพราะเห็นว่าเป็นคนใจดี ปรากฏว่าไปถึงบ้านยายสาวแล้วเจอกำแพงบ้านเขาสูงใหญ่มาก เข้าไปไม่ได้ ไปที่วัดถึงเชิงเขา มีคนมาไล่ตี ห้ามไม่ให้ขึ้น เลยตามมาบ้านยายระเวงเพราะเห็นเข้าออกสะดวกดี ไม่มีสิ่งกีดขวาง
*****
ซีอุยเล่าว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาได้รับความทุกข์ทรมานมาก ได้รับความเมตตาจากพระอาจารย์ฟักคราวนี้แล้วอยากขออยู่ด้วยเลยจะได้ไหม แต่ท่านบอกให้กลับไปอยู่ที่ศิริราชตามเดิม เพราะเกรงญาติโยมที่มาวัดจะกลัว ซีอุยก็อิดเอื้อนว่า หนีออกมาแล้ว ถ้ากลับไปจะถูกทำโทษ อยู่ที่เก่าไม่มีความสุข ขออยู่ด้วยเถอะ
*****
พระอาจารย์ฟักเลยสอนให้ท่อง "#พุทโธ #ธัมโม #สังโฆ" ก็แปลก แค่คำง่ายๆ ประโยคเดียวนั้น กว่าซีอุยจะจำได้ก็ึท่องแล้วท่องอีกเป็นเวลานานมาก เป็นเพราะว่าในสมัยมีชีวิตอยู่เขาไม่เคยสนใจเรื่องของพระศาสนาเลย
*****
เมื่อเขาออกจากร่างยายระเวงไปแล้ว ขณะที่ทุกคนกำลังนั่พูดคุยกันต่อนั้น สักพักยายระเวงก็เกิดอาการกำเริบขึ้นมาอีก ซีอุยเข้าร่างยายระเวงอีกหน คราวนี้บอกขึ้นว่า รถมันเต็ม กลับไม่ได้จริง ๆ ขออยู่กับท่านเถอะ เพราะท่านอาจารย์ใจดี พระอาจารย์ก็ว่าให้ไปรอรถอีกคัน คันนี้ไม่เต็มแน่ๆ ซีอุยก็ฟัง พอออกจากร่างยายระเวงคราวนี้ ซีอุยก็ไม่ได้กลับมาอีก
*****
เมื่อเล่าเรื่องนี้ พระอาจารย์ฟักบอก ที่ซีอุยว่าเข้าบ้านยายสาวไม่ได้ เพราะมีกำแพงสูงใหญ่นั้น ที่จริงแล้วรั้วบ้านบ้านยายสาวเป็นแค่รั้วลวดหนามกั้นเท่านั้น แต่เพราะยายสาวเป็นคนที่สวดมนต์ไหว้พระจึงทำให้พวกสัมภเวสีไม่สามารถเข้าบ้านได้
*****
เหตุที่ท่านเล่าเรื่องนี้ ก็เพราะต้องการให้ลูกศิษย์เห็นประโยชน์ของการสวดมนต์ และต้องการให้ลูกศิษย์หมั่นสร้างบุญสร้างกุศลเพื่อภพภูมิต่อไปจะได้ไม่ลำบาก คนที่ทำไม่ดีไว้ เมื่อตายไปไม่มีใครคิดถึง ไม่มีใครอุทิศส่วนกุศลผลบุญไปห้ ก็จะเหมือนซีอุยที่ต้องพบกับความทุกข์ หิวโหยอยู่ตลอด
*****
เนื้อความทั้งหมดนี้ได้มาจากการรวบรวมตามคำบอกเล่าของคนที่เกี่ยวข้องในครั้งนั้น ซึ่งปัจจุบันก็ยังมีชีวิตอยู่หลายคน ไม่ว่าคุณยายระเวงผู้ถูกซีอุยสิงร่างซึ่งเป็นญาติและเพื่อนรุ่นพี่ของพระอาจารย์ เป็นผู้ที่ท่านเรียกว่า "#เจ้เวง" ป้าหวา ทิดสว่าง รวมทั้งพระอาจารย์ฟักเล่าไว้เพื่อให้ได้เนื้์อเรื่องที่สมบูรณ์ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้ิน
*****
จากหนังสือ สันติธมฺโมบูชา [หลวงปู่ฟัก สนฺติธมฺโม]
วัดพิชัยพัฒนาราม (เขาน้อยสามผาน) จันทบุรี
ตีพิมพ์เพื่อเป็นอนุสรณ์ในงานประชุมเพลิง
๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๓
*****

 

วันนี้ได้จัดซื้อข้าวสารให้บ้านสวนรักก่อนจำนวน 20 ถัง เพราะรู้ข่าวว่าข้าวสารหมด

รอบนี้ข้าวสารตราแตงโม(ข้าวขาว)หมด จะมีเข้ามาประมาณวันเสาร์
จึงต้องซื้อข้าวตราแตงโมแดง(ข้าวนึ่ง) ให้แทนไปก่อนจำนวน 20 กระสอบ
ราคากระสอบละ 170 บาท ส่วนข้าวตราแตงโมที่เป็นข้าวขาว ที่จะเข้ามาในรอบใหม่นี้
ได้ปรับราคาขึ้นอีกกระสอบละ 5 บาท เป็น 180 บาท

ได้ฝากเงินค่าอาหารแมวที่คุณ sepultura บริจาคให้มาจำนวน 800 บาทไปด้วยกันในรอบนี้ด้วยครับ

 

ธรรมมะก่อนนอนคืนนี้ครับ

 

สวัสดีคุณอาวันวิและแฟนคลับทุกท่าน

 

ยินดีที่ได้ตื่นอีกวัน สวัสดีครับ กลางสัปดาห์แล้ว ส่งกำลังใจทุกท่าน ปลอดภัย ไร้อุปสรรค ทุกท่านครับ

 

สุดยอดบุญวันวิสาขบูชาที่กระทู้นี้กับสมาชิกมีส่วนร่วมตามสะพานบุญหนูมุ เป็นภาพแห่งงานบุญสำคัญเห็นแล้วชื่นใจ ร่วมอนุโมทนากันได้ตามอัธยาศัย ทำบุญทุกวัน โมทนาทั้งเดือนให้บุญท่วมตุ่มล้นไหไปเลย

 

จำได้แม่นเมื่อครั้งยังเด็ก ถ้าลูกเล็กบ้านไหนโยเยเกเรห้ามปรามไม่ฟัง พ่อ-แม่ที่ไม่อยากตีลูก จะขู่ด้วยประโยค"เดี๋ยว ซีอุยมากินตับนะ"...เท่านั้นแหละส่วนใหญ่ได้ผลหยุดร้องหยุดเกทันที เพราะเรื่อง"ซีอุย"โด่งดังข้ามปี เป็นนิทานผสมเรื่องจริงชวนสยองขวัญเล่าให้เด็กฟังยาวนานกว่าจะจางหายไป แต่ความทรงจำยังไม่จาง

เคยไปดูที่ศิริราชเหมือนกัน กับอ่านประวัติละเอียด นั่นเป็นเรื่องทางโลก ส่วนในมุมของโลกวิญญาณบันทึกไว้โดยอริยสงฆ์และพยานที่ยังมีชีวิตมากมาย สมควรเชื่อถือได้ว่าเป็นเรื่องจริง เป็นอุธาหรณ์สอน"ผู้ใหญ่"อันยอดเยี่ยม

โดยเฉพาะบาป บุญ คุณ โทษ นรกสวรรค์นั้นจริงแท้ เห็นกันชาตินี้ไม่ต้องไปรอชาติหน้า!

 

มีปัจจัยที่สมาชิกฝากไว้ร่วมทานบารมี"บ้านสวนรัก"มากมาย วันนี้จะรีบไล่เรียงรายชื่อให้ทราบ กับส่งปัจจัยเข้าบ้านสวนฯให้เรียบร้อย ว่าจะไม่ยุ่ง แต่วันหยุดที่ยังควบ3วันก็ทำงานคั่งค้างกับลูกค้ามากมายเกินกว่าจะเคลียร์จบง่ายๆ ผ่านเดือนแห่งการหยุดมโหฬารเมย.-พค.นี้ไป ก็คงหายใจโล่งขึ้น

ทานบารมีสี่ขาก็คงครบวงจรวันนี้ จะร่วมโมทนาล่วงหน้าก็ได้ เพียงแต่รายนามกับยอดปัจจัยต้องใช้เวลาทำสักนิด อย่าให้ผิดพลาดและตกหล่น

 

ข่าว"บ้านสวนรัก"วงจรแห่งบุญ-ทานงานเสียสละคงหมุนต่อไป กงล้อแห่งการเสียสละทั้งทางตรงทางอ้อมไม่เคยหยุดหมุน โลกนี้จึงดำรงอยู่ได้ด้วยอมตวาจา...เมตตาธรรม ค้ำจุนโลก

 

เวลาดี-ตีห้ากว่าสม่ำเสมอ
ทักน้องปรายฯก่อนทำงาน

 

เปลี่ยนกุหลาบเป็นจำปาจำปี ดอกไม้ไทย
ที่มีเสน่ห์ลึกล้ำ ยังพลังมีแรงสู้งานทั้งวัน

 

หลวงตาไม่ให้ทิ้ง"พุทโธ"
ทั้ง"ธัมโม-สังโฆ"ครบองค์3...

"พุทโธ"น้อม.....พร้อม"ธัมโม"
งาม"สังโฆ"......อักโขฐาน
งานแห่งจิต......ติดตามการ
ลดระราน........ไฟผลาญทรวง!

 

อีกหนึ่งพลังถะถั่งกำลังใจ
ด้วยโลกสีเขียวน้องมากิ...

โลกใบเขียว.....เทียวท่อมหา
ย้อมจรรยา.......รักป่าเขา
เขลาทำลาย......บรรลัยเรา
ลูกหลานเล่า......อยู่เหย้าใย!

 

ได้รับยอดเงินโอนจากคุณน้ำฝนจำนวน 15,000 บาทแล้วครับ
แต่ข้าวสารคงต้องรอวันเสาร์นะครับ แต่ถ้ายังไม่มาจริง ๆ ก็คงต้องเอาเป็นข้าวนึ่งแทนไปก่อนครับ เพราะ 20 ถังที่ให้ไปนั้นคงจะหมดพอดี

ขอขอบพระคุณพี่วัน และเพื่อนสมาชิกทุก ๆ ท่านแทนบ้านสวนรักและกลุ่มอาสาด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ

 

กราบสวัสดีคุณน้า Wanwi และสวัสดีเพื่อนๆที่รัก (ที่คิดถึง) ทุกท่าน
มาดึกหน่อยครับ แทบไม่ได้แวะเวียนมาทักทาย เลย บอกตรงๆว่าคิดถึงมากครับ

เข้ามาเลยได้อ่าน 2 ตอน เลยต้องย้อนหาก่อนนี้อีกพักใหญ่ เพื่อตามให้ทัน

เรื่อง ตาฝาด ทำให้หลงยิงกัน ไม่ใช่มีแต่ในป่าครับ คนที่ไปด้วยกัน หาปลาด้วยกัน ในการดำน้ำหาปลานี่มีนักต่อนักครับ โอกาศหน้าจะมาเล่าให้ฟังครับ


ขอบคุณคุณมากิ สงสัยมานานว่านี่คือที่ใด อีกเช่นกัน มากระจ่างแล้วรับ

 

บทกวีงดงามมากครับคุณอา
ขออนุญาติเรียนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหน่อยครับ
คุณอา พอจะมีข้อมูลการสร้างของพระเครื่องชุดนี้มั้ยครับ
ว่าสร้างมาสมัยใด หรือใครเป็นผู้สร้าง

ผมหาประวัติ มานานแล้ว
ในกูเกิ้ลก็บอกเพียงแค่ว่าแตกกรุออกมา
แต่ยังค้นข้อมูลไม่เจอ ว่ามีจารึกไว้เหมือนพวกกรุกำแพงหรือที่อื่นๆ ที่บอกเล่าประวัติ ความเป็นมา การสร้างไว้
หรือปล่าว ขอบคุณคุณอามากๆเลยครับ ^^

 

ธรรมมะก่อนนอนคืนนี้ครับ