สวด ภาวนา ในชีวิตประจำวัน ฉบับมนุษย์เงินเดือน

สนทนาหลังกรรมฐาน เรื่อง วัดผลกรรมฐาน
โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

สมถะและวิปัสสนาญาณ
พระที่ปฏิบัติใหม่ ๆ เขาไม่เข้าใจนะ ก็ไปคิดว่าวันนี้เราทรงสมาธิไว้แนบแน่นดีหรือไม่ดี ก็ให้ตั้งตัวนี้ แต่ว่าตอนที่อารมณ์มันหนักแน่น มันทรงตัวนี่มันเป็น ฌานโลกีย์

พอด้าน วิปัสสนาญาณ เข้ามา มันเบา แทนที่มันจะหนักแต่นี่มันกลับเบามาก เบาเข้ามา เบามาจนกระทั่งไม่รู้สึก คิดว่าไม่มีอะไรเสียแล้ว ถ้าเราติดฌานโลกีย์ มันก็ไม่มีอะไรเลย

วิปัสสนาญาณมันเป็นตัวตัดกิเลส
ไอ้สมถะมันกดคอกิเลส

ใช่ไหม กดเบา ๆ กิเลสมันลุกขึ้นมากัดเราก็กดให้หนักไว้ เผลอเมื่อไหร่มันกัดเมื่อนั้น อย่างด้าน วิปัสสนาญาณ พูดถึงเรื่องการฆ่ากิเลส กิเลสถ้ามันตัดไปได้มันตัดขาดเลย ทีนี้ไอ้กำลังของจิตที่เข้าไปทำลายกิเลส ท่านว่าต้องใช้กำลังกด มันตัดหมด มันมีแต่ความเบา ยิ่งมากเท่าไหร่ ก็มีความเบามากเท่านั้น ถ้าหมดเลยนี่มันไม่รู้สึก มันก็ต้องไม่รู้สึกทุกอย่าง เวลาที่อยู่ปกติก็มีความรู้สึกสัมผัส มันก็ไม่มีความรู้สึกนะ

อย่าง พระอนาคามี นี่ เราไปด่าท่านท่านก็ไม่รู้สึกอะไร ท่านรู้ว่าเขาด่าแต่ท่านไม่โกรธ ไม่เป็นหรอก ลืม…ท่านลืมโกรธ แหม… เสียท่านะ ไอ้หนูนี่นึกว่าเสียท่าหรือเปล่า เห็นเขาด่ามาเราก็อย่าไปด่านะ นึกว่ามันเสียท่า ลุกขึ้นไปด่ามันใหม่เนอะ ใช่ไหม

บุคลลตัวอย่าง
มีผู้หญิงอยู่คนหนึ่งที่ ประจวบฯ ก็เคยมีคนมาเล่าให้ฟังว่า เคยเจริญพระกรรมฐานด้วย ๒-๓ คราว ทีหลังก็ไปที่บ้านแก
แกบอก “เอ…เวลานี้ทำไมใจมันเฉื่อย ๆ”
ถาม “ทำไมล่ะ?”
แกบอก “เขามายืนข้างหัวบันไดด่ากันเฉยเลย”
ถาม “เมื่อก่อนเป็นอย่างไร?”
แกบอก “โอ๊ย!… เมื่อก่อนไม่ต้องห่วงล่ะ ให้มา ๑ ฉันให้ ๓ เลย” (หัวเราะ)
แกไม่ยอม เรียกว่าไม่กลัวเสียเปรียบ เขาให้มา ๑ แกมีเมตตาแกแถมให้ไปเลย แต่มาตอนนั้นแกกลับเป็นคนขี้เกียจด่า แกก็เปิดใจตัวเองว่าทำไมเราเป็นอย่างนั้นไปได้
พอถามว่า “ยังจะโกรธไหม?”
แกบอก “บางทีมันว่ามา ๓ วันถึงนึกขึ้นได้ (หัวเราะ) นึกได้ว่ามันว่าเรานี่หว่า แล้วกัน ๓ วันนี้แก้ตัวไม่ทันแล้วล่ะซิ จะไปว่าเขาบ้าง เห็นหน้าเขาเขาก็ยิ้มซะแล้ว ก็เลยไม่ได้ว่าเขาเลย เสร็จ ! ขาดทุน”

ตัวปัญญา
นี่โดยมากเขาก็ดูอารมณ์แบบนี้นะ เวลาเราไปนั่งคิดว่าวันนี้สมาธิดี พรุ่งนี้สมาธิไม่ดี เราก็นึกว่ามันเป็น ฌานโลกีย์ ไม่ใช่ตัวตัดอารมณ์ ตัวตัดอารมณ์ไม่ใช่ตัวจิต มันคือ “ตัวปัญญา” ใช่ไหม ถ้าจิตเป็นสมาธิดี ปัญญามันเกิด มันก็รู้เหตุรู้ผล แล้วเขาด่ามาแล้ว ทีแรกเขาก็ยังโกรธเป็นธรรมดา เขายังไม่ถึงขนาดลงมือทำให้ใครโกรธ ไอ้โกรธมันก็จะลดไปทีละหน่อย ๆ จนกระทั่งถึงขั้นเขาด่าวันนี้มะรืนถึงจะโกรธ เสร็จ! ไอ้หนูแก้ไม่ทันซะแล้วนะ หนักเข้าพอ ๒-๓ เดือน นึกขึ้นได้ว่า เอ…มันด่ากูนี่หว่า (หัวเราะ) ชักแย่เลย ส่งข่าวไม่ทันเลย

วัดผลกรรมฐาน
ถ้าอย่างนั้นเขาก็ต้องดูอารมณ์ตามนี้ วิธีสังเกตอารมณ์ เขาให้สังเกตสมาธิหนักแน่นหรือไม่ นั่งได้นานหรือไม่นาน วันนี้ทำสมาธิได้ชั่วโมง พรุ่งนี้ได้ครึ่งชั่วโมง วันมะรืนนี้ได้ ๒ นาทีเป๋ไปแล้ว เขาไม่ดูตัวนี้

เขาดูเวลาอารมณ์สัมผัสไอ้สิ่งที่เราเคยชอบใฝ่ฝันมาก พอเราไปพบเข้ามันก็ยังชอบอยู่ แต่มันเบาลง ไอ้นี่ถือว่ากิเลสถูกตัดไปแล้วบางส่วน อารมณ์ที่เราไม่ชอบใจสัมผัสเข้า มันโกรธผลุนผลัน หนักเข้า ๆ เขาว่ามามันโกรธเหมือนกัน แต่มันเบากว่า นี่ก็แสดงว่ามันถูกตัดไป มันก็ลดเหมือนกัน เขาวัดผลกันตรงนี้

จาก ธัมมวิโมกข์ ปีที่ ๔๑ ฉบับที่ ๔๖๓ เดือน ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๒ หน้า ๗๙-๘๑
คัดลอกโดย Tong Bansra

 

@ โมทนาบุญพระพุทธเจ้า @

ผู้ถาม - กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ลูกมีความสงสัย เกี่ยวกับการโมทนาเจ้าค่ะ ลูกเป็นคนอย่างนี้ เงินไม่ค่อยมี เช้ามื้อ เย็นมื้อ ทำดังต่อไปนี้ ขออนุโมทนาพระพุทธเจ้า ทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระอรหันต์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั้งปวง ทั้งเช้าทั้งเย็น อย่างนี้จะมีอานิสงส์แก่ลูกหรือเปล่าเจ้าคะ?

หลวงพ่อ - คำว่า “โมทนา” แปลว่า “ยินดี” นะ ถ้าเขาทำอย่างนั้น เขายินดีพอใจในพระพุทธเจ้า พอใจในพระธรรม พอใจในพระสงฆ์ การนึกถึงพระพุทธเจ้าเป็น ...พุทธานุสสติ... การนึกถึงพระธรรมเป็น...ธัมมาสุสสติ... นึกถึงพระสงฆ์เป็น..สังฆานุสสติ.. นึกถึงเทวดาหรือพรหมเป็น ..เทวตานุสสติ.. อย่างนี้ลงนรกไม่ได้แหงๆ เขาห้ามลง น่าเสียใจไหม...

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้ามานั่งอยู่ที่นี่ เขาถวายสังฆทานกัน วันนี้ตั้ง ๓๐๐ ไตรกว่า เราโมทนา ๓๐๐ ราย เราเกิดไปชาติหน้าก็เป็นมหาเศรษฐี โมทนานี่มีกำลังสูงถ้าหากหัวหน้าทานเป็นอรหันต์เมื่อไร เราก็เป็นเหมือนกัน กำลังใหญ่มาก

(หลังจากหลวงพ่อนำอุทิศส่วนกุศลแล้ว ได้บอกเพิ่มเติมแก่คนที่โมทนาบุญอย่างเดียว ดังนี้)

“ท่านลุง ๒ ลุง (พระยายมราชและนายบัญชี) มาเป็นปกติคือว่าอย่างนี้ มาทีแรกเห็ฯท่านลุงนุ่งผ้าลอยชาย ตอนเจริญพระกรรมฐานเห็นพระพุทธเจ้าท่าน ก็ไปหาท่านขึ้นไปบ้าง ผ้าลอยชายหายไป ทรงชุดพรหมไป ก็ถามท่านว่า เมื่อกี้ทำไมนุ่งผ้าลอยชาย บอกว่าให้เป็นสัญลักษณ์ คุณไม่ต้องสงสัยว่าเป็นใคร

ตอนอุทิศส่วนกุศล คนที่ถามว่าจนที่สุด โมทนาบุญอย่างเดียวจะได้ไหม .... ท่านบอกว่า ท่านเป็ฯพยานแล้ว ฉันก็ลืมไปแล้วนะ มันหลายเรื่อง ท่านบอกว่า ให้มีโอกาสมาโมทนาทานของเขาเรื่อยๆ วิมานจะได้สวยขึ้น นี่แสดงว่ามีวิมานแล้ว

ผู้ถาม - โอ..นี่แค่โมทนานะ

หลวงพ่อ - ฮ่ะๆๆ อย่าแค่นะ โมทนาไม่ใช่เรื่องเล็กนะ เรื่องใหญ่มาก อย่า...พระนางมัทรี... ไม่เคยทำบุญเลยตั้งแต่เป็นคู่ครองพระพุทธเจ้ามา พระพุทธเจ้าปรารถนาพุทธภูมิไม่เคยทำบุญเองเลย มีหน้าที่โมทนาอย่างเดียว แต่ว่าในเมื่อพระพุทธเจ้าบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นอรหันต์ได้ พระนางมัทรีก็เป็นอรหันต์ได้ นี่โมทนาอย่างเดียว ฉะนั้นจะถือว่าการโมทนาจะมีบุญน้อยไม่ได้

อ้างอิง – หนังสือหลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ ๙ หน้า ๕๘ - ๖๐ โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง

 

#ขอน้อมกราบ หลวงปู่ดู่ พระพรหมปัญโญ เป็นที่สุด
#ขอน้อมกราบ หลวงตาม้า วิริยธโร
•
ขอบารมีรวมของท่าน
บารมีรวมแห่งองค์สมเด็จ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์
ตั้งแต่องค์ปฐมบรมมหาจักรพรรดิเป็นต้นมา
บารมีรวมพระเจกฯ พระโพธิสัตว์
พระธรรม พระอริยสงฆ์
ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันและอนาคต
•
...น้อมมา...ผ่านที่เรา...ซึ่งมีรูปนาม
ความเจริญเมตตา แล้วแผ่บุญ
ให้กับโลกของโอปปาติกะ
มนุษย์ สรรพสัตว์ทั้งหลาย
•
ใครที่มีทุกข์... ขอให้คลายจากทุกข์
ใครที่มีสุข...ขอให้สุขยิ่งๆ ขึ้นไป
เจริญด้วยศีล สมาธิ และปัญญา
มีความคล่องตัวทั้งทางโลก
และทางธรรม...ตลอดไป.
สาธุ สาธุ สาธุ ครับ

 

ใจหรือจิตของคนเรา จะเสวยกุศลหรืออกุศลได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ถ้าจิตเป็นกุศล...อกุศลก็จะแทรกไม่ได้ หรือถ้าจิตเป็นอกุศลอยู่...ความเป็นกุศลก็เข้าไม่ถึงเช่นกัน นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมจึงต้องตื่นแต่เช้า...เพราะสำหรับนักปฏิบัติแล้ว...ตื่นยิ่งเช้ายิ่งดี ผมเองตอนฝึกกรรมฐานผมตื่นตี ๒.๕๕ ใช้เวลาทำธุระส่วนตัว ๕ นาที แล้วตั้งแต่ตี ๓ ถึง ตี ๕ จะภาวนา ใช้หนังสือ ๔ เล่ม คือ คู่มือปฏิบัติพระกรรมฐาน กรรมฐาน ๔๐ ปฏิปทาท่านผู้เฒ่า และมหาสติปัฏฐานสูตร

อาตมาเอาคำสอนในหนังสือเป็นคำภาวนา จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมจำเนื้อหาในหนังสือได้หมดทุกคำว่าอยู่ตรงไหนหน้าไหน เมื่อครบเวลาแล้ว ก็จะพยายามทรงอารมณ์นั้นไว้ให้ได้ตลอดวัน ถ้าทำดังนี้ได้...ดวงจิตจะชินกับอารมณ์ที่เป็นกุศล ต่อให้มีความชั่วเจริญงอกงามอยู่แล้ว...ก็จะเจริญต่อไปไม่ได้ การปฏิบัติก็จะก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว

ในบุญกิริยา ๑๐ ประการนั้น ทาน ศีล ภาวนา จัดว่ามีอานิสงส์สูงสุด โดยเฉพาะอานิสงส์ของการภาวนานั้นจะแรงที่สุด ผีบางตัวบาปหนัก รับบุญอื่นไม่ได้ นอกจากบุญที่เกิดจากการภาวนาเท่านั้น ทั้งนี้เพราะทานกับศีลนั้นเราบังคับเพียงการกระทำและคำพูด...ซึ่งเป็นการบังคับของหยาบ...จึงทำได้ง่าย แต่การภาวนาเป็นการบังคับจิตใจซึ่งเป็นของละเอียด...ทำได้ยาก...แต่เมื่อทำได้...บุญที่ได้ย่อมมีมหาศาล

..........................................
๖๐ ปี พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
ผู้ก่อตั้งสำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี

 

เวลากรรมไม่ดีเข้า
----------------------------------
หลวงตาม้า : ทุกคนมีกรรม
เวลากรรมเข้าเนี่ย มันไม่เอาอะไรนะ
ทุกคนเคยหน้ามืด เนี่ย เด็กๆเนี่ย
หน้ามืดเนี่ยมันไม่เอาอะไรทั้งนั้น
ดีก็ไม่เอา ไม่ดีก็ไม่เอา
มันจะเอาตามใจเค้านั่นแหละ
นั่นคือคนหน้ามืด

เวลาคนกรรมเข้าเนี่ย กรรมไม่ดีเข้าเนี่ย
มันจะรวนไปหมดแหละ มันไม่เอาอะไรเลยนะ
จำเอาไว้ท่านถึงบอก คนโบราณเค้าบอก
มึงไปอยู่วัด ถ้าเป็นญาติเนี่ย มึงไปบวช
เมื่อก่อนเค้าบังคับได้นะลูกหลานน่ะ

แสดงว่ากรรมเข้าแล้ว ความรู้สึกเค้า
รางสังหรณ์น่ะ มันจะรู้เลย
ว่ามันไม่เอาอะไร พูดดีก็แล้ว
ไม่ดีก็แล้ว กูเอาอะไร ... ไปอยู่วัดซะ
#ไปบวชซะ รึไม่ก็ไปอยู่วัดนู่นน่ะ
#ไปสวดมนต์ #ไหว้พระ เวลาสวดมนต์เนี่ย

พอเริ่มสวดเนี่ย #พลังงานของไตรสรณคมน์ก็มา
#กรรมตัวนั้นก็อยู่อย่างเก่า มัน มันไม่เคลื่อนไหวละ
#จากหนักเป็นเบานะ จริงๆแล้ว ใครมีปัญหา
ท่านว่า ไม่สบายใจลองไปนั่งในโบสถ์
ในวิหาร มองภาพของพระแล้วก็สวดมนต์ไปเรื่อย
มันจะคลายฮะ มันจะคลายเลยฮะ

เพราะพลังงานของท่านไม่ได้ไปไหน
มันอยู่ในโลกเนี๊ยะ เพียงแต่เรานึกถึงท่าน
มันก็มาที่เราหมด มันกลบ
ความทุกข์ของเราชั่วขณะด้วย
พอออกมาแล้ว ตาหูจมูกลิ้นกาย
เจอ รับคลื่นเก่ามาพึ่บเลย (หัวเราะ)
คลื่นไม่ติดต่อนะ ถ้าคลื่นติดต่อเนี่ย
#จากหนักเบา #จากเบาหายเลยฮะ
--------------------------------------

เทศน์สอนโดย หลวงตาม้า (พระวรงคต วิริยธโร)
วัดถ้ำเมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่

 

"สัพเพฯ กำลังจักรพรรดิ" กำลังจักรพรรดิที่เราสวดทุกวันๆ มันอยู่ในโลกนี้ มีตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต น้อมไปที่หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ขอท่านรวมกำลังจักรพรรดิ ที่เราสวดกันทุกวันนี่ ไปที่สิ่งที่เกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับเราทั้งหมด ขอท่านรวมกำลังจักรพรรดิที่เราสวดกันทุกวันนี้ ไปที่สิ่งที่เกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับเราทั้งหมด ใครเจ็บป่วยก็น้อมไปที่คนป่วย ใครมีปัญหาเรื่องอะไรก็น้อมไป ใครอธิษบานอะไรไว้ก็น้อมไป แผ่ไปให้กับผู้มีพระคุณกับถ้ำเมืองนะและสาขา ผู้ที่อธิษฐานให้ช่วยเหลือ ผู้ที่เจ็บป่วย ผู้ที่ตายไป สัพเพฯ 3 จบ

ข้อมูลจาก... หนังสือหลวงตาสอนศิษย์ เล่ม 2 (หน้าที่ 6)

Graphics by... ชยปุญฺโญ ภิกขุ (อธินันท์ อ่ำบุญ) Athinan Aumboon

 

หลวงตาม้าท่านต้องการให้เราเป็นผู้มีประโยชน์ ลูกศิษย์หลวงปู่ดู่ไปไหนต้องแผ่เมตตาเป็นประจำ นึกถึงหลวงปู่แล้วแผ่ไปเลย ถ้าไม่มีเวลาท่องสัพเพฯ ให้นึกถึงท่านแล้วบอกท่านว่า "หลวงปู่ แผ่ไปให้วิญญาณแถวโรงพยาบาลนี้ทั้งหมดเลยนะครับ" การตั้งจิตเช่นนี้เป็นการแผ่เมตตา บารมีท่านจะรวมกับบารมีเราแผ่ออกไปให้วิญญาณแถวนั้น แต่ต้องนึกถึงท่านก่อนทุกครั้ง จึงจะมีผลมาก เพราะลำพังตัวเราจะมีดีสักแค่ไหน ต้องอาศัยบารมีของพระเข้าช่วย เรียกว่าไปไหนก็ไปแผ่กับหลวงปู่ ให้หลวงปู่ท่านไปด้วย อย่างนี้จึงจะมีประโยชน์มาก
.
วันนี้ก็อย่าลืมไปแผ่นะ เดินทางผ่านโรงพยาบาล ผ่านตลาดที่มีการฆ่าสัตว์ สถานที่เหล่านี้สมควรไปแผ่สงเคราะห์พวกเขาเป็นอย่างมาก แผ่แล้วให้บอกเขาโมทนาบุญกับหลวงปู่ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน อนาคต
.
ถ้าหากเห็นว่ามีประโยชน์ อยากให้ช่วยกันแชร์ เป็นการกระจายธรรมทาน ให้คนที่ไม่มีโอกาสเห็นได้มาเห็น เพราะธรรมเพียงเล็กน้อย อาจเปลี่ยนชีวิตเขาได้ทั้งชีวิต
.
#ศิษย์มีครูหลวงปู่ดู่หลวงตาม้า

 

ค ร อ บ วิมาน
-----------------------------
ศิษย์ : ในกรณีที่เราอยากจะครอบบุญ
ครอบวิมาน แผ่เมตตาเนี่ยคะ จะให้สำเร็จ
มากที่สุดเนี่ย เราต้องขอบารมีหลวงปู่มาหรอคะ

หลวงตา : เราต้อง นึกฮะ เราต้องนึกถึงท่าน
(หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ) ต้องอธิษฐานนะฮะ
ต่อรูปท่านน่ะ จะเป็นรูปโลหะเป็นรูปภาพก็ได้
ขออาราธนาบารมีท่าน น้อมกำลังท่านมาเป็นประโยชน์

ศิษย์ : จำเป็นมั้ยคะต้องฝากตัวเป็นลูกเป็นหลาน
หลวงปู่ก่อนถึงจะทำให้การครอบวิมานเนี่ยสำเร็จ
มากกว่าเงี๊ยะคะ

หลวงตา : อืม จำเป็นอยู่แล้ว
ต้องมีความเชื่ออยู่แล้ว บารมีท่านมี

ศิษย์ : คือเชื่อในบารมีของท่าน

หลวงตา : ใช่ เชื่อในเรื่องของพระโพธิสัตว์ไง
โพธิสัตว์ก็คือ ผู้ที่ยังข้องอยู่กับสัตว์ นั่นแหละ
ผู้ที่บารมียังไม่ได้รวมเหมือนพระพุทธเจ้า
ยังเวียนว่ายตายเกิดเหมือนเราอยู่ เข้าใจมั้ย
ท่านรอเป็นพุทธะ เวลาท่านตรัสรู้ บารมีท่านก็รวม
นั่นน่ะตอนนู้นแหละ ตอนนี้ท่านยังไม่ได้รวม
เพราะฉะนั้นเอามาเป็นประโยชน์ได้
บัญชียังไม่ได้ปิด ธนาคารท่านยังไม่ได้ปิด
ยังไม่ได้รวม ท่านยังกระจายอยู่
กระจายรายได้ไปหาเราอยู่เพราะฉะนั้น
เราสามารถจะน้อมไปที่ท่าน
นำมาเป็นประโยชน์ได้

ศิษย์ : การครอบวิมานต้องอาศัยบารมี
หลวงปู่เท่านั้นหรอคะ

หลวงตา : โอ้โฮ เรามีรึเปล่า ชาตินี้เราเคยทำอะไร
ความดีสุดๆมีอะไรบ้าง พอที่จะให้ใครเค้าได้มั้ย
มีสินทรัพย์อะไร พอมีมั้ยล่ะ นึกไปนึกมา พอมี
แต่น้อยเหลือเกิน (หัวเราะ)

ศิษย์ : หลวงตาพอจะอธิบายวิธีการครอบวิมาน
แบบเค้าทำกันยังไงเนี่ยคะ

หลวงตา : (หัวเราะ) ตามองเห็น นึกถึงหลวงปู่
ก็ครอบวิมานได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องเข้าใกล้ใครหรอก
ไม่จำเป็นต้องให้หลวงตามาจับอะไรหรอกฮะ
ตาหูจมูกลิ้นกายเรากระทบเราก็นึกได้แล้วก็ทำได้แล้ว

ศิษย์ : แล้วตอนกำหนดต้องกำหนดภาพหลวงปู่
ก่อนอย่างงี้หรอคะ

หลวงตา : กำหนดภาพท่านก่อนฮะ ไม่รู้อ่ะ
#ใครมาเห็นเราอ่ะโชคดีทุกคนแหละ
ทำไมอ่ะ #เราเห็น #เราก็ครอบแล้วไง

ศิษย์ : หลวงตาคะการกำหนดเนี่ยคือ
นึกภาพหรือการพูด

หลวงตา : อะไรก็ได้ กำหนดอ่ะ
นึกนั่นแหละคือกำหนด นึกถึงก็มาอยู่แล้ว
พลังงานมาอยู่แล้ว พอเรานึกไม่มาได้ไงล่ะ

ศิษย์ : แสดงว่าจะเป็นภาพหลวงปู่ครึ่งตัว เต็มหน้า

หลวงตา : อะไรก็ได้ เห็นแต่หน้าท่านก็ได้
เห็นเท้าท่านก็ได้ (หัวเราะ) ไม่จำเป็นต้องหน้าหรอก

ศิษย์ : คือจุดสำคัญคือ นึกนึกให้ นึกถึงหลวงปู่
เพ่งเอ้ยไม่ใช่เพ่งขออภัย นึกถึงคนที่เราจะครอบวิมาน

หลวงตา : ใช่ นึกถึงสถานที่ที่เราจะแผ่
เราจะครอบ เราจะเปลี่ยนอะไรพวกเนี๊ยะ
เราจะแผ่อ่ะ แผ่เมตตา ครอบวิมาน ปรับภูมิ
ทั้งหลายอ่ะ มันต้องนึกถึงท่านก่อน
บางคนเค้าไม่ได้นึกถึงท่านอย่างเดียวหรอก
นึกถึงหลวงพ่อแล้วก็ขอท่านรวมบารมี
พระโพธิสัตว์ทั้งหมดน่ะ มาที่ท่านแล้วก็มา
ที่เราด้วยไง หนักเข้าไปอีก

ศิษย์ : แสดงว่าไม่มีวิธีไหนที่ผิดหรือถูก

หลวงตา : ไม่มี มีแต่น้อยหรือมากเท่านั้นเอง ....

เทศน์สอนโดย หลวงตาม้า (พระวรงคต วิริยธโร)
วัดถ้ำเมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
อนุโมทนาบุญกับผู้มีส่วนร่วมในสื่อธรรมมะทุกท่าน
ออกอากาศวันที่ 27 กันยายน 2558

----------------------------------------

>>>บทสวดมหาจักรพรรดิ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต
สัมมา สัมพุทธัสสะ(๓ ครั้ง)
นะโมพุทธายะ พระพุทธไตรรัตนญาณ
มณีนพรัตน์ สีสะหัสสะ สุธรรมา
พุทโธ ธัมโม สังโฆ ยะธาพุทโมนะ
พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา
อัคคีธานัง วะรังคันธัง สีวลีจะ มหาเถรัง
อะหังวันทามิ ทูระโต
อะหังวันทามิ ธาตุโย
อะหังวันทามิ สัพพะโส
พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ

>>>บทอัญเชิญพระเข้าตัว (แผ่เมตตา)
สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา
พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ จะยังพลัง
อรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส
พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ

 

#ลูกศิษย์ : เขาถามว่า คนที่เป็นโรคซึมเศร้าน่ะครับหลวงตา อยากช่วยให้เขาหายจากโรคนี้ครับ การสวดมนต์หรือมองภาพหลวงปู่ จะช่วยได้ไหมครับ ?

#หลวงตา : ได้อยู่ ถ้าเขามองถ้าเขาสวดนะ
กลัวแต่เขาจะไม่มองไม่สวด มันยากตรงนี้แหละ
ขนาดคนอยู่ในวัดยังไม่ค่อยอยากสวดเลย
ซึมเศร้าอยู่นั่น

คือมันซึมอะ มันชินอะ
ถ้าเราสวด มันก็ห่าง
ห่างจากความเศร้าความซึม
เพราะกระแสไตรสรณคมน์เข้ามาในจิต

------------------------

✨โอวาทธรรม : พระอาจารย์วรงคต วิริยธโร (หลวงตาม้า)
ถอดบทความเป็นตัวหนังสือ : ภัคกิ
ที่มา : เทปหลวงตนตอบปัญหาธรรม วันที่ 5 ธันวาคม 2562

 

อธิษฐานขอกำลังพระทุกพระองค์ สิ่งที่เกี่ยวข้องกับข้าพเจ้าทั้งหลาย ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ให้รู้สัมผัสต่างๆ ตามความเป็นจริง

สูตรหลวงปู่ ให้แผ่เมตตากับส่งวิญญาณ

เวลากินให้สัพเพไป เพราะกระแสหมูหรือสัตว์ที่เรากิน เป็นกระแสแห่งความอาฆาต ส่วนผักก็ต้องสัพเพเพราะบางทีผักก็มีสารพิษ ใช้บทสัพเพช่วยฟอกสารพิษได้

พุทธัง ชีวิตตัง ธัมมัง ชีวิตตัง สังฆัง ชีวิตตัง เราเอาชีวิตเป็นเครื่องบูชา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

เวลาอยู่ที่อื่น เราอาจคิดนึกว่าเรามาสวดบนถ้ำก็ได้ เวลาเจ็บป่วย แยกจิตออกจากธาตุให้ได้ จะเป็นการทุเลาความเจ็บปวดได้

แค่นึกจิตก็ไปแล้ว คิดบาปก็ได้บาป คิดบุญก็ได้บุญ

กระแสที่ดีต้องมีให้ได้ทุกลมหายใจเข้าออก ถ้าจิตไม่ดีอารมณ์ก็จะเศร้า หน้าตาก็จะไม่ผ่องใส ถ้าเราทำอารมณ์ให้สบาย จิตมันก็จะติดความสบายทำอะไรก็ง่าย ที่ก่อนนอนให้สวด เพราะเราจะได้รู้กระแสของจิต ต้องใช้เวลาไปเรื่อยๆ วิธีนี้เป็นวิธีการฝึกสติอย่างหนึ่ง

การทำกรรมฐานที่จะฝึกไม่ใช้ฝึกร่างกายของเราให้นิ่งได้นาน แต่เราจะฝึกสติของเราต่างหาก จับจุดให้ดี

ให้เรารวมบุญทุกวัน เวลาเรารวมบุญ เทพพรหม เทวดา ภพภูมิก็จะมารวมบุญกับเราด้วย เวลาแผ่บุญให้ภพภูมิ บอกเค้าว่ามาร่วมอนุโมทนาบุญกับเราด้วยนะ ทำแบบนี้ไปไหนก็มีประโยชน์กับวิญญาณ ก่อนจะสัพเพแผ่บุญก็นึกถึงหลวงปู่ก่อน แล้วก็กำพระด้วย

ทรงอารมณ์ให้ดี บุญก็จะเกิดขึ้นทุกลมลมหายใจเข้าออก

บุญกับบาปจะถูกบันทึกที่จิต โดยอาศัยธาตุ พิจารณาให้ดี

พลังงานจะไม่หายไปจากโลก

บางส่วนของคติธรรมคำสอนโดย... พระอาจารย์วรงคต วิริยธโร (หลวงตาม้า) วัดพุทธพรหมปัญโญ (ถ้ำเมืองนะ) ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่

Graphics by... ชยปุญฺโญ ภิกขุ (อธินันท์ อ่ำบุญ) Athinan Aumboon

 

หลวงปู่ดู่ บอกว่า
“ กราบพระนอกคือ กริยาอาการกราบไหว้ กราบพระในคือการทำจิตภาวนาตามที่ท่านสอนเพื่อให้ได้รับกระแสของพระมาไว้ในจิต ท่านบอกว่าจะได้กำไรไม่ขาดทุน ไม่ว่าจะเป็นพระสงฆ์หรือพระพุทธรูปก็ได้ “

 

+++ ถ้าสวดมนต์เป็นจะหนีกรรมได้มาก +++

ถาม : ลูกพยายามใช้เวลาสวดมนต์ให้มากที่สุด ลูกจะหนีกรรมได้หรือไม่ ?
ตอบ : แล้วแม่ไม่คิดจะหนีหรือ ?

ถาม : อ๋อ..คือเขาแทนตัวเองว่าเป็นลูกครับ ?
ตอบ : #ถ้าสวดมนต์เป็นจะหนีกรรมได้มาก เพราะว่าการสวดมนต์นั้น อันดับแรก..เกิดสมาธิ #สังเกตว่าถ้าสมาธิเคลื่อนจะสวดผิด อันดับที่ ๒..ถ้าเราตั้งใจใช้คำสวดเป็นคำภาวนา #ก็สามารถที่จะทรงฌานเวลาสวดได้ ผลที่จะได้รับก็มากขึ้นไปอีก อันดับที่ ๓..ถ้าสามารถยกจิตขึ้นพระนิพพานได้ #ให้ขึ้นไปสวดถวายเป็นพุทธบูชาที่ข้างบนโน้น #ถ้าตายตอนนั้นก็พ้นกรรมไปเลย อันดับสุดท้าย..ถ้าสามารถแปลออกว่าพระพุทธเจ้าท่านสอนอะไร #แล้วปฏิบัติตามนั้นก็จะเกิดประโยชน์แก่ตนยิ่งขึ้นไปอีก

ดังนั้น..ถามว่าสวดมนต์สามารถหนีกรรมได้ไหม ? #ต้องบอกว่าอยู่ที่ตนเองทำได้มากน้อยเท่าไรก็จะหนีกรรมได้มากน้อยเท่านั้น

ถาม : นี่ขนาดแค่สวดมนต์อย่างเดียวนะครับ ?
ตอบ : ที่ว่า “แค่นี้” คือแค่นี้ของเรา #แต่ถ้าทำเป็นก็ได้ผลมาก

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
(หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน)
เก็บตกจากบ้านวิริยบารมีต้นเดือนธันวาคม ๒๕๕๗