ถามเรื่องตัณหา

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย โรบิน123, 3 พฤษภาคม 2020.

  1. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,923
    ค่าพลัง:
    +2,262
    คนละเรื่อง อะเจ้

    พระสมณโคดมตรัสว่า

    อะไรที่ มนุษย บัญญัติว่า สุข

    พระศาสดา ก้ทรง บัญญัติสุข
    ตามนั้นทุกประการ

    แต่ ธรรม ของพระองค์

    บัญญัติ สุข ในความหมายที่
    ต่างกันอย่างสิ้นเชิง ไว้ให้ราบ

    เจ้ ทราบเป่า ทรง บัญญัติ สุข
    ในความหมายเฉพาะ พุทธศาสนา
    อย่างไร

    อนุญาติให้ใข้แอป tiktok tiktok ..
     
  2. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,916
    ค่าพลัง:
    +4,612
    ตัน แล้ว อย่า ไป หา..

    หยุดหาแล้วเจอทันที..

    ถ้ายังหา ก็ ไม่จบสักที

    :D:D
     
  3. Nelumbo

    Nelumbo บัว เป็นดอกไม้น้ำชนิดหนึ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2020
    โพสต์:
    258
    ค่าพลัง:
    +128
    ดูแล้วรู้มันน่าจะดีกว่าไหม?
    มันเกิดของมัน รับรู้ แล้วก็จบไป
    คือรู้ว่ามันเกิดของมัน จากร่างกายที่รับจากสิ่งเร้า
    แล้วก็ดู แล้วก็ไม่ทำอะไร มันก็จบเอง
    ถ้ายังทำไม่ได้ ก็ลองคิดดูว่า ถ้าเราทำแบบนี้ อย่างนี้ คิดอย่างนี้ ผลมันจะอย่างนี้ แบบนี้หรืออย่างไหน ความเป็นไปได้อย่างไร
    คิดบ่อยๆก็จะเบื่อ
    แล้วก็จะรู้สึกว่า
    รับรู้ แล้วจบไป จะดีกว่า
     
  4. สุรีย์บุตร

    สุรีย์บุตร https://youtu.be/8qf8khXqUjU

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,562
    ค่าพลัง:
    +2,128
    การใช้ชีวิตให้มีสติทุกลมหายใจเพื่อให้ตัณหาไม่เกิดต้องทำอย่างไรค่ะ
    คงต้องตรัสรู้เป็นพระอรหันต์ก่อนละมั้งคับ

    คนธรรมดาอย่างเรายังไงๆตัณหามันก็เกิด
    ตัณหาเกิดเพราะ อารมณ์
    อารมณ์เกิดเพราะ ตา เห็นรูป หูได้ยินเสียง แล้วปรุงแต่ง
    ปรุงแต่งแล้วเกิด เป็น ยินดีพอใจก็อยากได้ ยินร้ายไม่ชอบใจก็ ไม่อยากได้ ตัณหาเกิดแล้ว .,...
    การใช้ชีวิตให้มีสติทุกลมหายใจเพื่อให้ตัณหาไม่เกิดต้องทำอย่างไรค่ะ
    ฝึกรู้จักรูป นาม ตามความเป็นจริง
     
  5. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,923
    ค่าพลัง:
    +2,262
    ม่ายฉ่ายๆ

    กราบวนการ ลำดับ ลำดา อะ ถูก นะ

    แต่ ตัวเป้าหมายในการเห็น มันดับ ม่ายถูก

    ถ้าไปเอา เป้าหมายเห็นมันดับซื่อๆ เอาตรง
    ส่วน "ปลายน้ำ" มันจะ ชีช้ำกาหล่ำปลี
    เนรฯเฮีย ทันที

    ดังนั้น เป้าหมายที่จะเห็นมันดับ ต้อง หมั่น
    สดับให้ดีๆ พระศาสดาให้กำหนดรู้ ทวน
    ไปเห็น ตัวเหตุ ตัวต้นน้ำ ตัวสันปันน้ำ ไปเรื่อยๆ
    จนกว่าจะเจอ "มหาเหตุ"

    ยกตัวอย่าง "การกินข้าว" หากไปกำหนดรู้
    เอาตรงส่วนผล กินข้าวแล้วก็อิ่ม รู้ซื่อๆ ว่าอิ่ม
    ข้าวแระ พอดี กาหล่ำปลีเรียกพี่ กินหนูหมดเลยนะ

    แต่ถ้า เราหมั่นสดับ เอ้ย!! ศาสดาสอนว่าให้
    ทวนกระแสไปหาเหตุ เหตของ "การกินข้าว"
    คือ อัลไร สวนป๊าปไปปั๊ป เจอ 8:00 12:00 17:00
    สวนป๊าปเหนือกว่า "เวลาหิว" ไปเจออะไร
    ก็ไปเจอ กรรมการเป็นเผ่าพันธุ์นการกิน
    ข้าวเป็นเวลา ( เป็นกุศล -- กินจุบจิบ กินจุ๊บ
    จิ๊บ กินจุ๊บจิ๊บ ขั้น เบนนซ์ ตัวดำ ไม่เอา ตก
    ข้าง อกุศลหน่อยๆ ถ้าอ้วนอีก จบเลย)

    สวนกระแสไปอีก ก็จะพบว่า ธาตุขันธ์ หรือ
    รูปขันธ์มันเสื่อมสลาย ร่างกายมันชรา หาก
    ไม่กิน ก็ไม่ได้เติม สารใหม่ สสารใหม่(พลังงาน)

    สวนกระแส มาเจอ รูปขันธ์ หรือ กาย กาย
    ที่เขากล่าวกันนักว่า ดูกาย ดูกาย นี่เรา
    ไม่ได้รู้ซื่อๆ เอาปลายน้ำ แต่ พิจารณา
    ทวนกระแสไปจนพบ ปรมัตถ์ธรรม ชื่อว่า
    รูปขันธ์ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ กว่านี้ สวน
    ไปไม่ได้อีก .....

    พอมาเห็น ดิน น้ำ ลม ไฟ แปรปรวนเป็น
    ธรรมดา ห้ามมันไม่ได้ เห็นแบบนี้ถึง
    จะเกิด ความเบื่อหน่าย เพราะ กระทบ
    สัจจธรรม

    ถ้าไม่เบื่อหน่าย ก็มีอยู่แค่ วิถีเดียว คือ
    ยังมี อุปทาน ตัณหา ในรูป เข้าใจว่า
    มันเป็นเรา ของเรา ทั้งๆที่ มันแปรปรวน
    ให้ดูตลอดเวลา

    อะไรงี้ อะฮับ

    สวนป๊าป ไปหา ปรมัตถ์ ซื่อๆ เป็นกลาง
    ลงไตรลักษณ์เนืองๆ หาก มันไม่ปล่อย
    ก็แปลว่า เกิด อุปทาน ตัณหา ตรงไหน
    สักแห่ง ก็ รื้อค้น หาไป แบบ พรสักส่องแสง ( เฉพาะ อินโทรลลลลลล )
     
  6. Nelumbo

    Nelumbo บัว เป็นดอกไม้น้ำชนิดหนึ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2020
    โพสต์:
    258
    ค่าพลัง:
    +128
    อ่า...เราอธิบายไม่ถูกสมบูรณ์อะ
    มันถูกนั่นแหละ
    แต่ของเราเราใช้งี้

    รู้ แยก โยนทิ้ง
    มันอยู่ของมัน มันเกิดของมัน
    แล้วก็อื่อ ประมาณนี้

    - -....แต่จะพิมพ์ว่ารู้ แยก โยนทิ้ง มันก็จะยังไงอยู่
    ก็เลย
    รู้ เออ แล้วจบมันไป มันสละสลวยกว่า

    คือโดนกระทืบจนชินก็เลย
    เออ>>รู้>>จบ
    ง่ายกับการดำรงค์ชีวิตกว่า ไม่งั้นจะชีช้ำอ่ะ
    งืมมมม

    ปล. ก็ชีช้ำจริงๆนั่นแหละค่ะ ช้ำสุดๆเลย
    ช้ำนานเลยกว่าจะ อือ รู้ เออ จบ
    (' ' )......
    ดิทเพิ่ม:
    การอยากได้แล้วไม่ได้ เป็นทุกข์>>ก็อยากได้ แล้วก็รู้ แล้วก็โยนอยากได้ทิ้ง

    ได้ของที่ไม่อยากได้มากๆ ก็ทุกข์>> ก็ อือ ไม่อยากได้ ได้มาแล้ว รู้แล้ว โยนความไม่อยากได้ทิ้ง

    อาหารเวลาจะกิน แทนที่จะอร่อยหรือไม่ก็>> อ๋อ หวาน อ๋อ ผสมนี่ อ๋อ อ้าวอะไรในนี้เนี่ย? >>ได้สกิลทำอาหารมาเพิ่ม>>แต่อันนี้ไม่ได้ทำแล้วค่ะ กินอะไรอร่อยก็ไม่ไม่อร่อยไม่อร่อย กินอะไรไม่อร่อยก็ไม่ไม่อร่อย รู้แค่เปรี้ยวหวานมันเค็ม
    ไม่เอาๆๆ กลับมาเป็นรู้อาหารอร่อยเหมือนเดิม

    หน้าตาดี>>อื้อ คนนี้หน้าตาดี--จบ ก็หน้าตาดี---ไม่มีต่อจากนั้น ไม่มีการรู้สึกหวั่นไหวอะไรทั้งสิ้น

    คนมาจีบ>>แผ่เมตตาไป แล้วตั้งจิตบอกว่า ไม่ต้องมาจีบ ไม่เอาค่ะ เอาบุญไปค่ะ ให้ เลิกจีบนะคะ>>ส่วนใหญ่จะหยุดจีบแล้วกลายมาเป็นเพื่อนนะ


    แต่เรื่องอื่นๆก็พิจารณาไปตามปกติ

    ประมาณนี้ล่ะมั้งคะ???
    อธิบายคงไม่ได้ครบแต่น่าจะประมาณนี้แหละค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤษภาคม 2020
  7. pongpun116

    pongpun116 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +1
    ไม่ทราบว่าผู้ถามต้องการละเอียดแค่ไหน ผมอ้างอิงจาก ชุดอริยสัจจากพระโอษฐ์๕เล่ม นะครับ https://etipitaka.com/search/ ลองค้นหาตามลิงนี้ เลือกหมวด ชุดจากพระโอษฐ์ ผมจะแนะนำให้คร่าวๆนะครับ 1.ตัณหา๖ ในปฏิจจสมุปบาป คือ ตัณหาในรูป, เสียง ,กลิ่น ,รส, โผฏฐัพพะ, ธรรมารมณ์ 2.กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา
    3.ตัณหาวิจริต ๓๖ และ ๑๐๘ ตัณหาทั้งหมดล้วนสัมพันธ์กันมีที่มาอันเดียวกัน คือ ผัสสะ
     
  8. 8-0-4-0

    8-0-4-0 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2019
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +49
    ตัณหา ไม่มีเบื้องต้น ไม่มีเบื้องปลาย
    ตัณหา จึงไม่มีวันอิ่ม
    สัตว์ทั้งหลาย เสพตัณหา ไม่มีสิ้นสุด
    จึงเกิด-ตาย ในสังสารวัฏ อันจะหาเบื้องต้น และเบิ้องปลายไม่เจอ

    # มีเพียง รู้ ลงปัจจุบันขณะ ด้วยปัญญา
    เห็น ปฏิจจสมุปบาท ในปัจจุบันขณะ
    แล้ว ตัด ห่วงโซ่ ทรงกลม ของปฏิจจสมุทบาทได้
    ก็จะหลุดจาก ตัณหา ด้วยปัจจุบัน ขณะ
    ## แต่ไม่ใช่เรื่องง่าย ผู้ที่ทำได้คือ พระอรหันต์
    อันตัณหา ไม่สามารถเชิ่อมต่อเป็นสังสารวัฏ ได้อีก.
     
  9. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,410
    ค่าพลัง:
    +12,662
    ตัณหานี่คือต้นเหตุหนึ่ง
    ของการเกิด
    หมดตัณหา เลิกเกิด
    ไม่หมดตัณหา ไม่เลิกเกิด
     
  10. hbrsjdat

    hbrsjdat สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2020
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +46
    ตัณหาเป็นเรื่องเกี่ยวกับพุทธศาสนา ส่วนห่วงโซ่อาหารเป็นเรื่องเกี่ยวกับชีววิทยา คือถ้าอยากกินแต่ของอร่อยๆนั่นคือตัณหา ของไม่อร่อยแต่มีประโยชน์ก็ไม่อยากกินนั่นก็ตัณหาเหมือนกัน

    การจะทำให้เกิดสติเกี่ยวกับอาหารต้องปฏิบัติธรรมกรรมฐานเกี่ยวกับอาหาเรปฏิกูลสัญญา พิจารณาอาหารให้เป็นของน่าเกลียดสกปรกครับ เป็นหนึ่งในกรรมฐาน 40
     
  11. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,410
    ค่าพลัง:
    +12,662
    ถ้าเข้าใจถูกว่า "เรา" ไม่มี และอยู่กับความไม่มี"เรา"
    ตัณหาจะเกิดที่ไหนก็ชั่งมัน
    มันก็เกิดพร้อมกับจิตนั่นแหล่ะ
    ก็ปล่อยมัน
    เพราะเป็นเรื่องของจิต
    จิตเองก็ไม่ใช่"ของเรา"อีกเช่นกัน
     
  12. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,916
    ค่าพลัง:
    +4,612
    จิตไม่ใช่ของเรา แล้วปล่อยวางจิตยังไงถึงจะพ้นกรรม..

    ถ้ายังยึดจิตอยู่ ถ้ายังไม่ปล่อยวางจิต มันจะพ้นกรรมได้อย่างไร..

    รอดรูเข็ม ผลั๊ว!!

    โอ้วว!! พระเจ้าจ๊อด มันยอดมาก..

    ไก่เจาะเปลือกไข่แล้วอออกมาเป็นอิสระ..
     
  13. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,916
    ค่าพลัง:
    +4,612
    เห็นตามทิษฏี กับ เห็นตามปฏิบัติ

    ไกลกัน ลิบลับ วิบ วับ..

    รสแห่งธรรมก็ต่างกัน..

    สงบ เย็น สุข ไม่มีภัย..
     
  14. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +3,090
    ตัณหาคือชีวิต มีชีวิตก็มีตัณหา จะมากจะน้อยก็แล้วแต่ว่าจะไปยึดไว้แน่นขนาดไหน ถ้าไม่มีตัณหา ก็คือไม่มีอวิชชา จิตก็ไม่มีเชื้อ ร่างกายดำรงค์ต่อโดยไม่มีจิตไม่ได้ ก็ต้องเน่าตายไป ดังนั้นแล้ว ไม่ว่าใครที่ยังมีชีวิตอยู่ล้วนยังมีตัณหาทั้งสิ้น เพียงแต่ตัณหานั้นได้ชักนำไปถึงการก่อให้เกิดอุปาทานสาเหตุแห่งทุกข์หรือไม่ เรามีชีวิตแสวงหาความสงบสุขทางใจด้วยการรู้เท่าทันอุปาทาน เช่น แม่เราตายเราเสียใจ แต่แม่คนอื่นตายเราเฉย ๆ เพราะอุปาทานการสูญเสียนั้นว่าเป็นของเรา แม่ของเรา เลยทุกข์
     
  15. งูๆปลาๆ

    งูๆปลาๆ นตฺถิ ปญฺญาสมา อาภา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    563
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +412
    การรุ้ตัวว่าขันธ์มีตันหาคลอบงำเป็นการเห็นว่าความเร่าร้อนนั้นเกิดขึ้นอย่างไรและดับลงไปอย่างไรครับ การไม่รุ้ว่าตันหานั้นครอบงำขันธ์ก้เสมือนว่าเห็นว่าขันธ์นั้นเองทีี่เป็นตัวสมุทัยซึ่งมันไม่ใช่ครับ การยึดเอาขันธ์เป็นตนโดยไม่เข้าใจอาการของขันธ์และไม่เห็นตันหาที่เกิดแก่ขันธ์ ก้เท่ากับไม่ได้รับรุ้ถึงปันหาที่เกิดขึ้นครับ การรู้เห็นปันหาที่เกิดขึ้นเป็นปกติทำดาก้เลยเข้าใจว่าความทำดาเหล่่่่านั้้้มีความร้อนรน หรือทำดาอย่างไรครับ
    การไม่เห็นการเกิดขึ้นตั้งอยุ่และดับไปของความทำดาเหล่านี้จึงเหมือนการวางเฉยที่ไม่ๆด้เข้าใจว่าเกิดโรคขึ้นเช่นไรครับ เละไม่ได้แก้ปันหาแต่ปล่อยปันหานั้นไว้เฉยๆครับ การแก้ปันหานั้นคือมรรค ก้ไม่ใช่เพียงแต่รุ้เท่านั้นแต่รุ้และแจ่มแจ้งทั้งรุ้หนทางของการเกิดปันหาและการดับเหตุของปันหานั้นๆด้วยครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...