ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,497
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อัพเดท แผนการเปิดสนามบินทั่วโลก
    World Airports opening dates
    1. Lebanon July 15, 2020
    2. Bahrain June 10, 2020
    3. Qatar June 10, 2020
    4. Jordan July 15, 2020
    5. Iraq (Air Corridor) August 1, 2020
    6. Iran August 1
    7. Egypt August 1
    8. Saudi Arabia August 1, 2020
    9. Tunisia August 1
    10. sweat Baghdad first of August month
    11. Japan June 15, 2020
    12. Northern Macedonia June 15, 2020
    13. Lithuania June 15, 2020
    14. Hungary June 15, 2020
    15. Poland June 15, 2020
    16. Romania June 15, 2020
    17. Serbia June 15, 2020
    18. Netherlands June 20, 2020
    19. Kazakhstan June 20, 2020
    20. Albania June 22, 2020
    21. Bosnia and Herzegovina June 22, 2020
    22. Denmark June 22, 2020
    23. Estonia June 22, 2020
    24. Finland June 22, 2020
    25. South Korea June 22, 2020
    26. Ireland June 22, 2020
    27. Kyrgyzstan June 22, 2020
    28. Latvia June 22, 2020
    29. Norway June 22, 2020
    30. Slovakia June 22, 2020
    31. Australia July 1, 2020
    32. Belgium July 1, 2020
    33. Belarus July 1, 2020
    34. China (Beijing only) July 1, 2020
    35. Sweden July 1, 2020
    36. Canada July 1, 2020
    37. Colombia July 1, 2020
    38. Kosovo July 1, 2020
    39. Malaysia July 1, 2020
    40. Moldova July 1, 2020
    41. Uzbekistan July 1, 2020
    42. Republic of Taiwan July 1, 2020
    43. Turkmenistan July 1, 2020
    44. Ukraine July 1, 2020
    45. Indonesia July 10, 2020
    46. India July 10, 2020
    47. Pakistan June 1, 2020
    48. Algeria July 15, 2020
    49. Morocco July 15, 2020
    50. Philippines July 15, 2020
    51. South Africa July 15, 2020
    52. Georgia (only for Georgia City) July 15, 2020
    53. UK July 15, 2020
    55. Kuwait July 15, 2020
    56. Libya July 15, 2020
    57. Cyprus (Turkish side) June 1, 2020
    58. Russia July 15, 2020
    59. Bulgaria June 10, 2020
    60. Brazil August 1
    61. Armenia August 1, 2020
    62. France August 1
    63. Greece June 10, 2020
    64. Germany June 15, 2020
    65. Spain August 1
    66. Italy August 1
    67. Austria June 15, 2020
    68. Azerbaijan June 15, 2020
    69. Czech Republic June 15, 2020
    70. USA September 1, 20
    71. Switzerland June 15, 2020
    72-UAE first flight to Beirut airport on 1 / 7
    Data source quoted ICAO

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,497
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เวียดนาม : 8 มิถุนายน หัวหน้าพรรครัฐและผู้แทนสมัชชาแห่งชาติเข้าร่วมการประชุมสมัยที่สองของการประชุมครั้งที่ 9 สมัชชาแห่งชาติครั้งที่ 14 ได้เข้าร่วมในพิธีเปิดกองทหารม้าเคลื่อนที่ของหน่วยบัญชาการตำรวจเคลื่อนที่เป็นหน่วยรบติดอาวุธที่จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2563

    # มีดรามาในเวียดนาม ตรงทำไมใช้ม้าตัวเล็ก

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,497
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อังกฤษ : เมืองบริสตอล ทำลายรูปปั้นพ่อค้าทาส
    ม็อบสีผิวได้ทำลายรูปปั้น Edward Colston เป็นพ่อค้าชาวอังกฤษ #พ่อค้าทาส เกิดที่เมืองบริสตอลยุค 1721 ม็อบได้นำรูปปั้นไปโยนลงแม่น้ำ

    Cr : CBS

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,497
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ม็อบซีแอตเทิล วอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ปะทะกับเจ้าหน้าที่ ใช้กำลัง และแก๊ส สเปรย์พริกไทยเข้าสลาย

    # คลิปเพิ่มในช่องความเห็น

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,497
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นอร์เวย์ : เจ้าหน้าที่กองทัพอากาศ ใช้เฮลิคอปเตอร์
    โรยตัวไปช่วยน้องหมาที่ติดในบ้านเหตุชายฝั่งดินสไลด์เมื่อวันก่อนบ้าน 8 หลังเสียหายรวมทั้งน้องหมาติดในบ้าน
    cr :RS+

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,497
    ค่าพลัง:
    +97,150
    June 9, 2020 แรงซื้ออารมณ์กระทิงขวิดต่อวันแรกของสัปดาห์ใหม่ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดทะยานกว่า 460 จุด ราคาน้ำมันดิบร่วงกว่า 3% ส่งราคาไนเม็กซ์ปิดหลุด 40 ดอลลาร์ ราคาทองคำตลาดโลกพลิกทะยานกว่า 22 ดอลลาร์

    เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน (ตามเวลาในสหรัฐ) ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 27,572 จุด +461 จุด หรือ +1.70% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,232 จุด +38 จุด หรือ +1.20% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 9,924 จุด +110 จุด หรือ +1.13%

    ส่งผลให้ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ชดเชยผลตอบแทนที่ติดลบในปีนี้เป็นผลสำเร็จ โดยปรับขึ้น 0.05% ตั้งแต่ต้นปีถึงคืนที่ผ่านมา นอกจากนี้ ดัชนีหุ้นดังกล่าวยังปิดเหนือจุดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่เกิดขึ้นในเดือนมีนาคมปีนี้ขึ้นมาถึง 47% ส่วนดัชนีหุ้นนาสแดคปิดทะยานขึ้น 10.6% ตั้งแต่ต้นปีนี้ถึงคืนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ยังคงไม่สามารถชดเชยผลตอบแทนที่ยังคงติดลบนับตั้งแต่ต้นปีนี้ได้ โดยยังคงลดลง -3.3%

    สาเหตุจากนักลงทุนให้น้ำหนักกับการกลับมาเปิดภาคเศรษฐกิจ และมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจทั่วโลกที่มีต่อเนื่อง ตามด้วยตัวเลขการจ้างงานคนอเมริกันนอกภาคการเกษตรที่กลับมาเพิ่มอย่างเหนือความคาดหมายที่ 2.5 ล้านคนในเดือนพฤษภาคมซึ่งประกาศไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านไป

    ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 39.19 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.36 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -3.44% ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 41.00 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.30 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ -3.1% สาเหตุจากซาอุดีอาระเบียประกาศว่าผลการขยายเวลาของกลุ่มโอเปกพลัส ในการลดการผลิตน้ำมันดิบวันละ 9.7 ล้านบาร์เรล จะไม่รวมกับการลดกำลังผลิตเพิ่มเติมโดยสมัครใจของประเทศกลุ่มอ่าว 3 ประเทศ

    ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,705.10 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +22.10
    ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ สาเหตุจากตลาดทองคำโลกคาดหวังกับมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจสหรัฐที่อาจจะมีออกมาอีกในการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐในช่วงกลางสัปดาห์นี้

    #ลงทุน #สตาร์ทอัพ #การเงิน #หุ้น #ทองคำ #น้ำมัน #ตลาดหุ้น #เล่นทอง #ราคาทอง #ดิจิทัล #markets #business #stock #gold #oil #investment #misterban #เศรษฐกิจ #เล่นหุ้น #btimes

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,497
    ค่าพลัง:
    +97,150
    June 9, 2020 บราซิลหยุดโควิด-19 ยาก ติดกว่า 710,000 คน ดันยอดติดโควิด-19 ทั่วโลกทะลุกว่า 7.1 ล้านคน ยอดเสียชีวิตทั่วโลกทะลุกว่า 408,000 คน อินโดนีเซียติดทะลุกว่า 32,000 คน The Covid-19 infected globally toll surpassed 7.1 million

    เวลา 6.50 น. รายงานสถานการณ์จำนวนผู้ติดโรคปอดอักเสบไวรัสโคโรนา 2019 ทั่วโลก เพิ่มเป็น 7,188,769 ราย ซึ่ง 10 อันดับแรกของโลก คือ สหรัฐอเมริกา 2,025,981 ราย บราซิล 710,887 ราย รัสเซีย 476,658 ราย สเปน 288,797 ราย สหราชอาณาจักร 287,399 ราย อินเดีย 265,928 ราย อิตาลี 235,278 ราย เปรู 199,696 ราย เยอรมนี 186,205 ราย และอิหร่าน 173,832 ราย

    สำหรับจำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลกเพิ่มเป็น 408,231 ราย ซึ่ง 10 อันดับแรก คือ สหรัฐอเมริกา 113,051 ราย สหราชอาณาจักร 40,597 ราย บราซิล 37,312 ราย อิตาลี 33,964 ราย ฝรั่งเศส 29,209 ราย สเปน 27,136 ราย เม็กซิโก 13,699 ราย เบลเยียม 9,606 ราย เยอรมนี 8,783 ราย และอิหร่าน 8,351 ราย

    ในส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อในอาเซียน และเสียชีวิต(ตัวเลขในวงเล็บ) พบว่า สิงคโปร์ 38,296 ราย(25) อินโดนีเซีย 32,033 ราย(1,883) ฟิลิปปินส์ 22,474 ราย(1,011) มาเลเซีย 8,329 ราย(117) ไทย 3,119 ราย(58) เวียดนาม 332 ราย เมียนมา 244 ราย(6) บรูไน 141 ราย(2) กัมพูชา 126 ราย และลาว 19 ราย

    #ไวรัสโคโรนา #ไวรัสอู่ฮั่น #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019 #โรคปอดอักเสบ #ไวรัสโควิด19 #covid19 #Misterban #coronavirus #pneumonia #btimes #money360

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,497
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นิวซีแลนด์เลิก Social Distancing
    เปิดทุกอย่างตามปกติ
    หลังฆ่า “โควิด” สำเร็จ
    .
    .
    จาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ได้ประกาศยกเลิกมาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด – 19 ทั้งหมดในประเทศ นับตั้งแต่เที่ยงคืน วันที่ 9 มิ.ย. หลังไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศนานต่อเนื่อง 17 วัน และไม่มีผู้ป่วยที่ยังรักษาในโรงพยาบาลลงเหลืออยู่เลยแม้แต่คนเดียว
    .
    หลังจาก มีผู้ติดเชื้อทั้งหมด 1,504 คน และมีผู้เสียชีวิต 22 คน และ“ล็อคดาวน์” ยาวนานต่อเนื่อง 7 สัปดาห์ นิวซีแลนด์ พร้อมกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง งานแต่งงาน งานศพ ร้านอาหาร ขนส่งสาธารณะ ชายหาด สถานที่สาธารณะทุกแห่ง รวมถึงการแข่งกีฬา ก็สามารถ “รวมตัว” กันบนอัฒจันทร์ได้ตามปกติ ไม่ต้องเว้นระยะห่างทางสังคม หรือ Social Distancing เหมือนประเทศอื่น
    .
    คงเหลือเพียงอย่างเดียวที่ยังต้องคุมเข้มก็คือการปิดชายแดน ยังไม่ให้เที่ยวบินต่างชาติเข้าออกตามปกติ และการสแกน “คิวอาร์โค้ด” เพื่อยืนยันตัวตนในการเข้าใช้บริการสถานที่สาธารณะต่างๆ เพื่อลงทะเบียนในแอพพลิเคชัน ให้สามารถติดตามตัวได้ หากมีผู้ติดเชื้อ ซึ่งยังต้องทำต่อไปเรื่อยๆ
    .
    “สิ่งที่ต้องยอมรับก็คือไวรัสจะอยู่กับโลกนี้ไปอีกสักระยะ เราสามารถจำกัดการติดต่อ การระบาดได้ก็จริง แต่การกำจัดไวรัสให้หายไป ยังไม่สามารถทำได้” จาซินดาระบุ
    .
    รัฐบาลนิวซีแลนด์ เรียกการผ่อนคลายมาตรการทั้งหมดว่าเป็น “เลเวล 1” เพื่อคืนกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้กลับมาเป็น “ปกติ” มากที่สุด หลังจากได้รับผลกระทบอย่างหนักตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา
    .
    จาซินดานั้นได้รับความชื่นชมเป็นวงกว้าง จากการ “ปิดประเทศ” อย่างรวดเร็ว โดยประกาศล็อคดาวน์ประเทศตั้งแต่ยังมีผู้ติดเชื้อเพียง 102 คน โดยมาตรการนั้นเข้มข้นมาก ห้ามตั้งแต่การพบปะเพื่อนฝูง ระบบขนส่งมวลชนหยุดทุกชนิด และห้ามขับรถไปไหนมาไหน เว้นแต่ไปซื้อยา อาหาร และสิ่งของจำเป็นเท่านั้น
    .
    เมื่อเดวิด คลาร์ก รมว.สาธารณสุขนิวซีแลนด์ ขับรถพาครอบครัวไปเที่ยวทะเล ห่างจากบ้านไป 20 นาที เขาถูกจาซินดาปรับ “ลดตำแหน่ง” ทันที พร้อมกับต้องแถลงข่าวยอมรับ “ความโง่เขลา” ของตัวเอง ที่ฝ่าฝืนคำสั่งรัฐบาล
    .
    แม้จะมีเสียงคัดค้านจากกลุ่มการเมืองขั้วตรงข้ามว่า จาซินดา ไม่ได้มีอำนาจสั่ง “ปิดกิจการ” ทุกอย่าง แต่นายกฯ หญิงก็ขอโทษประชาชน ที่ต้องใช้มาตรการรุนแรงแบบนี้ และให้คำสัญญาว่า ถ้าประเทศนี้ปิดเร็ว จัดการเร็ว ก็สามารถเปิดทุกอย่างได้เร็ว
    .
    แน่นอน คำสัญญาเรื่องเปิดประเทศ “เร็วกว่า” ประเทศอื่นนั้นทำได้จริง เมื่อสถานการณ์ทุกอย่างดีขึ้น ไม่มีผู้ป่วยรายใหม่ยาวนาน จาซินดา ก็ปลดล็อค ให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจ และให้ชีวิตเดินหน้าต่อได้ทันที
    .
    ทั้งหมดนี้ ทำให้จาซินดา นายกฯหญิงวัย 39 ปี ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้นำที่จัดการกับโควิด – 19 ได้ดีที่สุดคนหนึ่งของโลก จากตัวเลขผู้ป่วยที่ต่ำ ทั้งที่นิวซีแลนด์ ถือเป็นประเทศที่มีชาวต่างชาติเดินทางเข้า – ออก จำนวนมาก และมีแนวโน้มสูงที่จะมีการระบาดอย่างหนัก
    .
    แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีผลกระทบ มีการประเมินว่าช่วงที่ “ล็อคดาวน์” ทุกอย่างเข้มข้นนั้น ตัวเลขทางเศรษฐกิจของนิวซีแลนด์นั้น ติดลบถึง 37% แต่หากผ่อนคลายมาตรการทั้งหมด ตัวเลขจะเหลือติดลบเพียง 3.8%
    .
    ปัญหาสำคัญก็คือประเทศเล็กๆ ที่มีประชากรเพียง 5 ล้านคนนั้น นั้น มีรายได้สำคัญมาจากการ “ส่งออก” และ “การท่องเที่ยว” คล้ายกับประเทศไทย ซึ่งจะทำให้เข้าสู่เฟสฟื้นฟูเศรษฐกิจ มีความยากลำบากมาก แม้กิจกรรมทางเศรษฐกิจ จะเป็นปกติแทบทั้งหมดแล้ว
    .
    โดยเฉพาะการท่องเที่ยวในนิวซีแลนด์ โดยเฉพาะใน “เกาะใต้” เมืองอย่างควีนส์ทาวน์ ซึ่งเป็นเมืองที่ “ร่ำรวย” จากการท่องเที่ยวมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ กลายเป็นเมืองที่ยากจนที่สุดอย่างรวดเร็ว เมื่อไม่สามารถให้บริการนักท่องเที่ยวได้เลย ตัวเลขตกงานนั้น นายกเทศมนตรีควีนส์ทาวน์ คาดว่าจะบวกสูงถึง 18% ในปีหน้า จากที่อยู่ที่ราว 1%
    .
    นั่นทำให้นิวซีแลนด์ เตรียมเปิด “การเดินทาง” ในระยะทดลอง ระหว่างประเทศเครือจักรภพใกล้เคียงกันอย่างออสเตรเลีย ตั้งแต่วันที่ 1 – 2 ก.ค. เป็นต้นไป โดยใช้สนามบินที่ปลอดภัยที่สุดในออสเตรเลีย อย่างสนามบินแคนเบอร์รา เมืองหลวงของออสเตรเลีย และสนามบินเวลลิงตัน เมืองหลวงของนิวซีแลนด์ ในเกาะเหนือ โดยมีบรรดานักการเมือง นักธุรกิจ และนักข่าวเป็น “หนูทดลอง”
    .
    โดยแคนเบอร์รา ถือเป็นเขตที่ไม่มีผู้ติดเชื้อโควิด – 19 รายใหม่มานานกว่า 1 เดือน ในขณะที่เมืองใหญ่เมืองอื่นทั่วออสเตรเลีย ยังคงมีผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่บ้าง
    .
    หากไม่มีเหตุการณ์อะไรผิดปกติหลังจากนี้ ก็จะเปิดให้บริการกับประชาชนทั่วไป และจะขยายต่อไปยังสนามบินที่เมืองที่มีประชากร มีนักท่องเที่ยวหนาแน่นขึ้น เช่นจากซิดนีย์ ออสเตรเลีย ไปยังโอ๊คแลนด์ นิวซีแลนด์ ตามโครงการที่เรียกว่า ‘trans-Tasman travel bubble”
    .
    วงการท่องเที่ยวทั่วโลก อยู่ระหว่างการจับตา การท่องเที่ยวแบบ Travel Bubble คือจับคู่ประเทศที่ไม่มีผู้ติดเชื้อเข้าด้วยกัน เพื่อเปิดการสัญจรล่วงหน้า โดยไม่จำเป็นต้องมีการกักตัว 14 วัน หากเดินทางท่องเที่ยวข้ามกันไปมา โดยคาดหวังว่า เส้นทางนี้จะประสบความสำเร็จ เพื่อประเทศอื่นๆ จะได้เปิดตามต่อไป.

    #COVID19 #โควิด19 #นิวซีแลนด์

    อ้างอิงจาก

    https://www.politico.eu/article/kiwis-vs-coronavirus-new-zealand-covid19-restrictions-rules/

    https://www.dailymail.co.uk/news/ar...19-Jacinda-Ardern-says-ZERO-active-cases.html

    https://www.aljazeera.com/indepth/f...-bubble-beat-coronavirus-200511174534088.html

    https://edition.cnn.com/travel/arti...m-new-zealand-coronavirus-intl-hnk/index.html

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,497
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โซเชียลแฉ สาวอ้างเป็นพยาบาลหลอกตำรวจแต่งงาน เหยื่อเพียบ เรียกค่าหย่าหลักแสน
    โซเชียลแฉอีก สาวเชียร์เบียร์อ้างเป็นพยาบาลหลอกแต่งงานตำรวจ มีคนตกเป็นเหยื่อหลายราย หากถูกจับได้จะเรียกค่าใบหย่าหลักแสน ด้านเพจหมอแนะหากต้องการตรวจสอบต้องส่งเรื่องไปที่สภาการพยาบาล
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,497
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ศรชล.ภาค 2 เข้าจัดระเบียบจับหอยแครง อ่าวบ้านดอน หวังลดความขัดแย้ง
    โฆษก ทร. เผย "ทัพเรือ" ส่ง "ศรชล.ภาค 2" เข้าแก้ปัญหาความไม่เป็นธรรมของชาวประมง กรณีการจับหอยแครงที่อ่าวบ้านดอน โดยเข้าพบผู้เกี่ยวข้อง และวางแนวทางแก้ปัญหาการใช้ประโยชน์พื้นที่สาธารณะ
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,497
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กรณีการบินไทยสู่การทำให้ไทยเป็น 'รัฐโลกวิสัย'
    โดย เจษฎา บัวบาล

    เราพูดถึง “รัฐโลกวิสัย” หรือ 'secular state' มากว่าทศวรรษแล้ว สิ่งหนึ่งที่ยังไม่ค่อยเห็นคือ การให้ภาพที่เป็นรูปธรรมว่ามีวิธีการอย่างไรเพื่อจะก้าวถึงจุดนั้น ไม่ได้หมายความว่า การพูดเรื่องนี้ที่ผ่านไม่มีประโยชน์ ในทางตรงกันข้าม มันให้ประโยชน์อย่างมากในการปูความรู้ให้หลายคนอยากเห็นความเท่าเทียมและเสรีภาพทางศาสนา ผมก็เป็นคนหนึ่งที่กลายมาเป็นคนโปรรัฐโลกวิสัยเพราะความรู้เหล่านั้น ในบทความนี้แค่อยากชวนให้คิดในมุมที่เป็น 'ปฏิบัติการ' เพื่อปูทางไปสู่การเกิดรัฐแบบนั้น

    ในที่นี้จะมี 3 หัวข้อ (1) ความเข้าใจเรื่องรัฐโลกวิสัย คนที่ทราบเรื่องนี้อยู่แล้ว ข้ามไปอ่านข้อถัดไปได้เลย (2) การทำรัฐโลกวิสัยผ่านระบอบประชาธิปไตย (3) ศาสนาทางเลือกที่อยู่นอกการสนับสนุนของรัฐต้องช่วยกันปูทาง (ข้อ 2 และ 3 นี้อยากชวนให้อ่านและวิจารณ์ และอยากให้ช่วยเสนอข้อ 4-5-6 ไปเรื่อยๆ) ข้อเสนอของบทความนี้คือ การทำให้ไม่มีความรู้สึกว่าเป็นเจ้าของในการบินไทย อาจเป็นตัวอย่างหนึ่งที่ช่วยสะท้อนทำให้คนรู้สึกว่าไม่เป็นเจ้าของศาสนาแบบรัฐ ซึ่งสุดท้ายจะนำไปสู่การยอมปล่อยให้สิ่งนั้นจัดการตัวเองโดยไม่ต้องอุ้มชู

    (1) รัฐโลกวิสัย คือการคืนศาสนาให้ชุมชน ไม่การทำลายศาสนา

    อันนี้เป็นความเข้าใจพื้นฐานที่ต้องช่วยให้คนข้ามพ้นมายาคติเรื่อง “รัฐโลกวิสัยคือคอมมิวนิสต์” ในกรณีของไทย เช่น วัด จากเดิมที่เป็นของรัฐ ดูแลโดยสำนักงานพระพุทธศาสนา (หรือกรมศิลป์ฯ กรณีที่เป็นโบราณสถานฯ) รัฐแต่งตั้งคนให้เป็นเจ้าอาวาส ฯลฯ นโยบายจากส่วนกลางลงไปถึงทุกวัดผ่านระบบพระสังฆาธิการ เจ้าคณะตำบล/อำเภอ ฯลฯ มีหลักสูตรการศึกษาศาสนาที่ผูกขาดการตีความผ่านตำราเรียน ซึ่งทำให้วัดเป็นหูเป็นตาให้รัฐ ในการให้ความรู้แบบรัฐ และสอดส่องคนที่คิดต่างโดยการช่วยปรับทัศนคติผ่านการสอนความเชื่อแบบเถรวาท

    ในรัฐโลกวิสัย วัดจะไม่ถูกรัฐขอ (เป็นเชิงสั่ง) ให้ต้องสอนนักธรรม/บาลี อีกต่อไป นั่นคือ ไม่ใช่การห้ามเรียนศาสนา วัดไหนจะสอนเช่นนั้นต่อเพราะเชื่อว่าถูกทางที่สุดก็ทำได้ แต่ใครอยากสอนสัทธรรมปุณฑริกสูตร อภิธรรมวิภาษาแบบมหายาน เน้นให้สวดมนต์บทเจ้าแม่กวนอิม หรือจะสอนเดินจงกรมเป็นหลักก็เป็นอิสระของเขา สิ่งเหล่านี้อยู่ภายใต้การรับรู้ของชุมชน เพราะคนในชุมชนนั้นจะเห็นด้วย/ไม่เห็นด้วย โดยการยังใส่บาตร ทำบุญจ่ายค่าไฟให้ท่าน ถ้าท่านอยากให้วัดอยู่ได้ ก็ต้องตอบสนองชุมชนให้ได้ วิธีแบบนี้ จะเกิดความหลากหลายทางศาสนาขึ้นมาก

    วัดก็ยังดำรงอยู่ต่อไป แต่มอบให้เป็นของชุมชนที่ต้องจัดการกันเอง อยากเลือกเจ้าอาวาสก็ทำกันได้ วัดไหนอยากให้บวชภิกษุณีก็ตกลงกัน จะปกครอบแบบธรรมวินัยก็สะดวกขึ้น เช่น พระที่มีพรรษา 10 จะเป็นอุปัชฌาย์บวชให้คนในชุมชนนั้นก็ได้ ไม่ต้องรอใบอนุญาตแต่งตั้งจากส่วนกลาง เจ้าอาวาสจะไม่ได้เงินเดือนจากรัฐอีกแล้ว แต่จะอยู่ด้วยเงินบริจาคของชุมชน ซึ่งเงินเดือนแต่ก่อนนั้นก็ไม่ได้มาก ราว 3,000 บาท แต่เพราะในอดีต การได้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ มียศเช่น พระครู เจ้าคุณฯ จะทำให้มีหน้าตาในสังคม สิ่งนี้จะไม่มี (หรือถ้าจะมี ก็มีเพราะในหลวงพระราชทานชื่อพิเศษให้ได้เป็นต้น แต่จะไม่ได้เงินเดือนที่เป็นงบประมาณจากภาษีประชาชนอีกต่อไป)

    สถานะของพระ กลายมาเป็นพลเมืองแบบคนไทยทั่วไป ที่แค่อยากไปปฏิบัติธรรม บวช ห่มจีวร แต่จะไม่ได้หรือเสียสิทธิอะไรอีก เลือกตั้งได้แบบคนทั่วไป ค่ารถโดยสารสาธารณะก็จ่ายในอัตราคนทั่วไป ความศรัทธาของคนในชุมชนก็ยังเป็นเสรีภาพ อยากส่งเงินให้พระรูปไหนเรียนวิศวะ ฯลฯ ก็ทำได้ และหากพระวัดไหนทำผิดกฎหมายบ้านเมือง เช่น ขายยาบ้า ก็จะถูกจับดำเนินคดีในฐานะพลเมืองทั่วไป แต่หากท่านเมาเหล้าแล้วนอนอยู่ในห้องส่วนตัว ตำรวจไม่มีสิทธิไปจับกุม เพราะไม่ใช่โทษทางอาญา แต่ให้เป็นเรื่องของกติกาที่วัดและชุมชนนั้นตกลงกันเอง สมมติเขาวางระเบียบที่อิงกับธรรมวินัย กินเหล้าให้อาบัติปาจิตตีย์ ก็ให้ท่านไปปลงอาบัติ หรือสำนักไหนจะเคร่งกำหนดโทษถึงขั้นจับสึก ก็เป็นกติกาที่ตกลงทำกันได้

    จะเห็นว่า รัฐโลกวิสัย ช่วยกำจัดปัญหาเรื่องข้อครหาที่ว่า “ฆราวาสไม่ควรปกครองพระ” “พระถูกตำรวจกลั่นแกล้ง” “สื่อถูกอิสลามซื้อไปเพื่อใส่ร้ายพระ” หรือชาวบ้านไม่มีส่วนร่วมกับชุมชนไปได้เลย

    (2) การทำรัฐโลกวิสัยผ่านระบอบประชาธิปไตย

    รัฐโลกวิสัย ไม่ได้เกิดง่ายแบบที่หลายคนบอกว่า “ยุบมหาเถรฯ” หรือ “ยุบสำนักงานพุทธฯ” เพราะคำถามคือ ใครยุบ? วิธีแบบประชาธิปไตยคือ ต้องยืนยันให้ได้ว่า กระบวนการนี้เกิดโดยเสียงข้างมากของประชาชน ซึ่งวัดได้ผ่านการเลือกตั้ง สส. ที่มาพร้อมกับนโยบายหาเสียง

    นั่นคือ ต้องมีพรรคการเมืองที่เสนอนโยบาย “แยกศาสนาออกจากรัฐ” เลย สิ่งนี้ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เคยพูดถึงสมัยที่เพิ่งก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ เพื่อใช้เป็นการแก้ปัญหา 3 จังหวัด คือ รัฐต้องเป็นกลาง ไม่สนับสนุนศาสนาจนแต่ละศาสนิกรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งการพูดสั้นๆ นี้ ทำให้กลุ่มชาวพุทธที่ไม่เข้าใจรัฐโลกวิสัยเกิดความไม่พอใจ และโจมตีพรรคอนาคตใหม่ในตอนนั้นว่า “จะทำลายศาสนาพุทธ”

    นโยบายนี้อาจมีพลังมากขึ้น ถ้าพรรคการเมืองใช้เวลาอธิบายข้อดีของรัฐโลกวิสัยให้มากกว่านี้ เช่น พูดถึงความเข้าใจเบื้องต้นแบบที่อธิบายไปในข้อ 1 และตามมาด้วยการให้นโยบายต่อว่า เมื่อยกเลิกสำนักงานพุทธฯ แล้ว เงินงบประมาณต่อปี ซึ่งมีราว 5,000 ล้านบาทนั้น จะเอาไปสร้างประโยชน์อะไร เช่น

    ปรับปรุงคุณภาพการเรียนการสอนในโรงเรียนประถม/มัธยมในต่างอำเภอ ให้เทียบเท่ากับโรงเรียนในตัวจังหวัด โดยให้เงินช่วยเหลือซื้อรถบัสโรงเรียนรับส่งในราคาถูก มีครูที่เก่ง (เช่นภาษาอังกฤษ วิทยาศาสตร์) ไปสอน ฯลฯ ในหนึ่งปีจะพัฒนาโรงเรียนแบบนี้ได้ 200 โรงเรียน และใน 5 ปี จะมีโรงเรียนที่มีคุณภาพเพิ่มเป็น 1,000 โรงเรียน (หมายเหตุ: ตัวเลขเหล่านี้เป็นการสมมติ ไม่ได้อิงบนงานวิจัยใด แค่ใช้เป็นตัวอย่างเท่านั้น)

    และอาจเสริมเพื่อให้ความมั่นใจว่า แม้จะยกเลิกสำนักงานพุทธฯ ซึ่งเท่ากับยกเลิกเงินสนับสนุนพระไปสอนศาสนาพุทธตามโรงเรียนด้วย ว่าสิ่งนี้ยังเป็นไปได้ ถ้าพระ อิหม่าม หรือบาทหลวงอยากไปอาสาสอนหรือไปช่วยด้านต่างๆ (โดยไม่มีการบังคับเด็กในการเข้าร่วม) ก็ทำได้โดยตกลงกับโรงเรียนเอง แต่ในหลักสูตร จะไม่มีวิชาพุทธศาสนาหรืออิสลาม แต่เป็นศาสนาเปรียบเทียบ จริยศาสตร์หรือปรัชญา เพื่อให้เด็กฝึกตั้งคำถามกับสิ่งต่างๆ (อันนี้ไม่ต้องกลัวเรื่องไม่มีครูสอน อาจทำเป็นโครงการให้อาจารย์ในมหาลัยทำคลิปลง YouTube เพื่อเด็กจะติดตามในเวลาว่างได้ นอกจากแค่ฟังครูในสายสังคม)

    นโยบายแยกศาสนาออกจากรัฐนี้ ควรถูกพูดถึงโดยนักการเมืองเองด้วย และเอาไปเป็นส่วนหนึ่งในการหาเสียง ถ้าพูดให้คนเห็นประโยชน์ของการจัดสรรงบฯ ไปทำสิ่งที่เกิดประโยชน์กับเขาได้ โดยที่ไม่ได้ทำลายความเชื่อเดิมเขา แต่กลับช่วยให้เขามีอิสระในการเข้าถึงศาสนาได้มากขึ้น และลูกหลานก็ได้ประโยชน์เช่นการศึกษาที่ไม่ต้องไปเรียนไกล ยังไงก็ช่วยให้พรรคได้รับการเลือกได้ และมาถกกันในสภาอีกทีหนึ่ง

    (3) ศาสนาทางเลือกที่อยู่นอกการสนับสนุนของรัฐต้องช่วยกันปูทาง

    ในขณะที่เรายังเป็นรัฐศาสนา คือ มีบางองค์กรได้รับเงินจากรัฐ และบางองค์กรต้องหาเงินเผยแผ่กันเอง แต่ถ้าอยากช่วยให้องค์กรศาสนาต่างๆ มีอิสระ และใช้งบประมาณอย่างเป็นธรรมเพื่อขับเคลื่อนสังคมด้านอื่นๆ ศาสนาทางเลือกเหล่านี้ ก็พอจะช่วยขับเคลื่อนได้ นั่นคือ เปิดโอกาสให้คนเข้าถึงศาสนาแบบใหม่ของตนให้มากที่สุด จนคนทั่วไปรู้สึกว่า ศาสนาของรัฐไม่ได้ดีกว่าจนถึงขั้นที่ต้องเอาเงินหลายพันล้านไปช่วยอุ้ม

    เป็นความรู้สึกเดียวกับที่คนรู้สึกต่อการบินไทย และแสดงความเห็นคัดค้านกับการที่รัฐจะเอาเงินภาษีไปอุ้ม เพราะนอกจากอัตลักษณ์ที่เป็นสายการบินแห่งชาติแล้ว คนทั่วไปแทบไม่ได้ประโยชน์อะไรหรือผูกพันใดๆ กับการบินไทย ในทางตรงกันข้าม เขากลับรักสายการบินราคาถูก รถไฟหรือรถเมล์ ที่ใช้ในชีวิตประจำวันมากกว่า และแน่นอนว่า ถ้ารัฐอยากเอาเงินไปทำให้รถเมล์/รถไฟดีขึ้น คนก็จะไม่ขัด

    ในเมื่อสังคมไทยไม่ผ่านการถูกบีบคั้นจากศาสนจักรแบบยุโรป จนถึงขั้นที่คนรู้สึกว่า ต้องไม่ให้ศาสนามามีอำนาจถึงขั้นกำหนดเสรีภาพเขาหรือใช้เงินภาษีของเขาไปเพื่อกิจการศาสนามากกว่าเรื่องปากท้องของคนทั่วไป ผมคิดว่า ศาสนาทางเลือกกลุ่มเล็กๆ พวกนี้แหละ ที่จะช่วยให้คนไทยรู้สึกแบบนั้นขึ้นได้บ้าง ด้วยการทำให้เขาเข้าถึงได้ง่าย น่าสนใจ ร่วมกิจกรรมด้วยแล้วรู้สึกดี จนเห็นประโยชน์ของอิสระในการศึกษา/ตีความศาสนาที่หลากหลายในมิติใหม่ ซึ่งจะช่วยให้เขาคลายความยึดมั่นที่ว่า ศาสนาของรัฐจำเป็นที่สุด ที่จะต้องเอางบไปรักษาไว้

    แต่ที่เราพบคือ ศาสนาเล็กๆ เหล่านั้น ก็ตอบสนองคนชั้นกลางเป็นหลัก ทำให้คอร์สบรรยายหรือปฏิบัติธรรมราคาแพง เช่น ถ่ายสลิปโอนเงิน 1,000 บาท เพื่อใช้ในการลงทะเบียน การบรรยายของวิทยากรเก่งๆ ก็ไม่มีการบันทึกลง YouTube คนที่พอมีจะกินเท่านั้นจึงเข้าถึงศาสนาเหล่านี้ได้ แน่นอนว่านั่นเป็นเสรีภาพ ที่ศาสนาแบบเอกชนจะกำหนดขึ้น ใครจะกำหนดจ่ายค่าประตู 10 ล้านเพื่อเข้าไปไหว้พระก็ได้ เพราะในแง่ตลาดเสรีที่ศาสนาแข่งกันอย่างเท่าเทียม ถ้าคนไม่ศรัทธา เขาก็ไม่จ่ายเพื่อเข้าไปร่วมเอง และไม่ถูกบังคับให้ต้องจ่ายด้วย

    แต่ประเด็นที่ผมหมายถึงคือ ในช่วงที่เรายังไม่ได้เป็นรัฐโลกวิสัย และองค์กรศาสนาเล็กๆ เหล่านั้นบ่อยครั้งก็พูดส่งเสริมเรื่องรัฐโลกวิสัย การต้องช่วยเอื้อให้คนเข้าถึงศาสนาในรูปแบบใหม่ๆ ให้มากที่สุด เป็นเรื่องที่องค์กรเหล่านี้ช่วยได้ แต่ราคาที่สูง จะทำให้คนเปรียบเทียบกับวัด (ซึ่งยังอยู่ในการอุปถัมภ์ของรัฐ) ว่าวัดถูกกว่า เข้าถึงง่ายกว่า ในแง่การตลาดคือ แทบเป็นไปไม่ได้ ที่จะทำให้คนทิ้งการหยอดตู้ 5 บาท ไปซื้อของราคา 1,000 เพื่อร่วมกิจกรรมทางศาสนา แน่นอนว่า เมื่อศรัทธาแล้ว เขาจะบริจาค 10 ล้านก็ตามแต่สมัครใจ แต่การเข้าร่วมกิจกรรมเบื้องต้น แล้วตั้งอัตราไว้สูง โดยที่เขายังไม่อินน์ กลับเป็นการเบียดขับให้เขาไม่มีโอกาสเข้าสู่พื้นที่ใหม่ๆ

    เมื่อเขาเปิด YouTube เพื่อหาธรรมะช่วยผ่อนคลายความเครียดจากการงาน ก็พบแต่ มหาสมปอง ว.วชิรเมธี ไพศาล วิสาโล ฯลฯ ในขณะที่คำสอนของศาสนาใหม่ๆ เช่น วัชรยาน กลับหายาก (เพราะต้องจ่ายเงินซื้อ) เลยกลายเป็นว่า ศาสนาของรัฐนั่นแหละ สำหรับเขาแล้วมันเข้าถึงง่าย มันตอบโจทย์ชีวิต จะดีแค่ไหนไม่ทราบ แต่อย่างน้อย ก็ไม่มีวัชรยานเป็นต้น มาบอกว่ามันดีกว่า สุดท้ายศาสนาแบบรัฐนี่แหละที่ทำเพื่อเขา และถ้าจะมายกเลิกการสนับสนุนศาสนาแบบรัฐนี้ไป เขาอาจไม่แน่ใจว่า การแข่งขันกันของศาสนาในอนาคตจะเป็นอย่างไร

    ผมไม่ได้กล่าวโทษศาสนาใหม่ๆ ที่เป็นองค์กรอิสระเหล่านั้นนะครับ เพราะทราบดีว่า การต้องขับเคลื่อนกันเอง บ้างต้องสละอาชีพอื่นมา จำเป็นที่ต้องหารายได้เพื่อให้เลี้ยงตนได้ แค่เสนอว่า การที่องค์กรเหล่านั้นช่วยหาวิธีทำให้ศาสนาแบบตัวเองเข้าถึงง่ายขึ้น จะเอื้อต่อการเกิดรัฐโลกวิสัยในแง่ที่คนจะคลายความสำคัญซึ่งในอดีตเขามีให้แต่ศาสนาของรัฐ สิ่งนี้จะช่วยการขับเคลื่อนในข้อ 2 มากขึ้นด้วย


    ที่มาภาพจาก: Wikimedia (CC Public Domain)

    https://www.tcijthai.com/news/2020/6/article/10482

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,497
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หรือจะถึงเวลา “ปิดฉาก”
    บทบาท “ชมรมแพทย์ชนบท”
    กำลังเปลี่ยนไป...
    .
    .
    โดยปกติ กระทรวงสาธารณสุข จะมีก๊วนการเมืองใหญ่อยู่ 2 ฝั่ง คือฝั่งนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นายแพทย์สสจ.)-แพทย์โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป และฝั่ง “ชมรมแพทย์ชนบท”
    .
    แน่นอน หากฝั่งไหนยึดตำแหน่ง “ปลัดกระทรวง” ได้ กลไกข้าราชการก็แทบอยู่ในมือหมด ต้องอย่าลืมว่าโครงสร้างของกระทรวงสาธารณสุขนั้นใหญ่โตมาก มีข้าราชการจำนวนมากเป็นลำดับต้นๆ ของประเทศ ซ้ำระบบบริหารราชการยังซับซ้อน มีงบประมาณหลายส่วนไขว้ไปมา ทั้งงบกระทรวง งบจากกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ งบ รพ.สต. ซึ่งจัดตามรายหัวประชากร และโครงสร้างเงินเดือน – ค่าตอบแทนก็ต่างจากหน่วยงานราชการอื่นๆ
    .
    ขณะเดียวกัน เรื่องสาธารณสุข ยังเป็นเรื่อง “เทคนิค” เฉพาะ ที่หมอในกระทรวงเท่านั้น ถึงจะรู้ดี ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็ช่วงระบาดของโรคโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่ผ่านมา ซึ่งเล่นเอารัฐมนตรีที่ไม่ใช่หมอ “ไปไม่เป็น” ไปหลายรอบ
    .
    เพราะฉะนั้น รัฐมนตรีจาก “ฝ่ายการเมือง” ส่วนใหญ่ จึงมักจะฟังปลัด และมอบดาบอาญาสิทธิ์ ในการบริหารงานข้าราชการในมือเป็นส่วนใหญ่ หากจะแตะต้องฝ่ายข้าราชการประจำบ้าง ก็เป็นเพียงแค่ให้ “ดูแล” บางคนให้ขึ้นอธิบดี หรือขึ้นซี 10 หรือเอา “กัญชา” แทรกลงไปในนโยบาย แต่จะไม่ “ล้วง” ไปมากกว่านั้น
    .
    สำหรับฝั่งชมรมแพทย์ชนบทนั้น ในรอบหลายปีที่ผ่านมา ก็มีบางช่วงเวลาที่ “ขึ้นหม้อ” ไม่ว่าจะเป็นช่วง นพ.มงคล ณ สงขลา เป็นรัฐมนตรี หรือช่วงเวลาสั้นๆ ไม่กี่ปีที่แล้ว ที่ นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน เป็นรัฐมนตรี และในยุคนี้ ยุคที่รัฐมนตรีชื่อ อนุทิน ชาญวีรกูล
    .
    ต้องยอมรับว่าการต่อสู้กับคดี “ทุจริตยา” ซึ่งสามารถลาก รักเกียรติ สุขธนะ รมว.สาธารณสุขในรัฐบาลชวน หลีกภัย เข้าคุกได้ นับเป็น “มาสเตอร์พีซ” ซึ่งทำให้แพทย์สายนี้เองมีอำนาจต่อรองสูง
    .
    ถามว่าเข้าหาการเมืองได้ดีขนาดไหน การเกิดขึ้นของหน่วยงาน “ตระกูลส.” สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ก็ล้วนเกิดจาก “แรงผลัก” ของหมอสายนี้ ซึ่งเคยเป็นแกนนำ “ชมรมแพทย์ชนบท” แทบทั้งสิ้น
    .
    โดยปกติ ในรอบ 20 ปีที่แล้ว ฝั่งแพทย์ชนบท จะพยายามอยู่ “นอกวง” การเมือง การบริหารจัดการในกระทรวงสาธารณสุข เพราะถือว่าได้ไป “สร้างดาว” ของตัวเองแล้ว ทั้งที่ สสส. ทั้งที่ สปสช. หรือผลักดันนโยบาย (ที่จับต้องได้ยาก) ที่สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.)
    .
    แต่หากฝั่งกระทรวงเข้ามายุ่มย่ามกับเรื่อง “สวัสดิการ” แพทย์ในชนบท เช่นการพยายามเปลี่ยนหลักการงบ P4P หรือค่าตอบแทนปฏิบัติงานที่รั้งหมอไว้ในโรงพยาบาลชุมชน หรือไปแตะ “งบบัตรทอง” เมื่อไหร่ ฝั่งนี้ก็จะเคลื่อนไหวทันที ซึ่งหลายครั้ง ก็เคลื่อนไหวอย่างมีเหตุผล ตรงใจประชาชน
    .
    อย่างไรก็ตาม ชมรมนี้ ก็มีวิกฤตใหญ่ก็คือ ในไลน์บริหารของกระทรวงนั้น ฝั่งชมรมแพทย์ชนบทมีผู้สืบทอดน้อยมาก ไม่มีทายาทจากฝั่งนี้ที่ความสามารถ “เทียบชั้น” กับบรรดารุ่นพี่ที่บุกเบิก สสส. สปสช. ได้ คงเหลือแต่เพียง “ฮาร์ดคอร์” ที่แม้จะพูดจาฉะฉาน แต่ก็ได้เพียงแค่นั้น
    .
    ที่ผ่านมา 2 กลุ่มนี้ ปะทะกันอย่างสุดขั้ว ในยุคปลัด นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ จน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ต้องไปดึง นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร จากศิริราชมา “สลายขั้ว – สลายนิกาย” ประมาณว่าอาจารย์ปิยะสกล “รักทุกคน”
    .
    ตอนนั้นทุกคนก็คิดว่าเรื่องความขัดแย้งเฉพาะหน้า น่าจะจบไปแล้ว.. การแก้ไข พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ การแก้ไข พ.ร.บ.สสส. ทุกอย่างถูก “ฟรีซ” หมด เพื่อไม่ให้หมอออกมา “ลากไส้” กัน
    .
    แต่ก็เป็น นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงที่หมอปิยะสกลตั้งขึ้นมา ซึ่งมาจาก “โนบอดี” ที่ทุกคนคิดว่าไม่น่ามีพิษมีภัยอะไร และเชื่อว่าจะเข้ากันได้กับทุกฝ่าย กลับกลายเป็นปฐมเหตุของการตบตีกันครั้งล่าสุด
    .
    เอาเป็นว่า เรื่องการเรียกรับ “เงินทอน” จากบริษัทยา ที่กลายเป็นประเด็นสำคัญในความขัดแย้งรอบใหม่นั้น ในกระทรวงนี้ ถือว่าเป็นเรื่อง “ขี้หมา” เพราะถ้าไปถามผู้แทนยา จะรู้ดีว่าไม่ว่าจะ “ผู้บริหาร” โรงพยาบาลเล็ก โรงพยาบาลใหญ่ ก็มีผลประโยชน์เรื่องนี้ทั้งนั้น
    .
    ถ้าดีหน่อย ก็ “ลงบัญชี” มีฝ่ายการเงินจัดการ นำไปตั้งเป็นกองทุนสวัสดิการเจ้าหน้าที่ จ้างบุคลากร หรือปรับปรุงอาคาร สถานที่ ที่จอดรถ เพิ่ม เพราะโรงพยาบาลใหญ่ ที่มีคนไข้จำนวนมาก และเป็นศูนย์รับส่งต่อ “เงินหลวง” อย่างเดียว ไม่มีทางพอ กลายเป็นว่าคนที่บริหารเงิน “เทาๆ” จากบริษัทยาได้ดี กลายเป็นผู้บริหารที่เก่งเสียอย่างนั้น..
    .
    แต่ถ้าในทางตรงกันข้าม บางคนขอรับเป็นซอง บางคนขอให้โอนให้บัญชีนอมินี แล้วก็เจียดเล็กๆ น้อยๆ มาเป็นเงินสวัสดิการ ใส่ซองงานแต่ง งานบวช งานศพเจ้าหน้าที่ก็มี
    .
    อย่างที่เคยเล่า แมลงวันย่อมไม่ตอมแมลงวันด้วยกัน ไม่มีทางที่บรรดา “อาจารย์หมอ” ซึ่งเงินเดือนเป็นแสนอยู่แล้ว บางคนรับจ๊อบในโรงพยาบาลเอกชนในจังหวัดนั้นๆ จะกระทำการ “ฉ้อราษฎร์บังหลวง” ได้ เรื่องแบบนี้จึงซุกใต้พรมมานาน การนำเรื่องนี้ มาเป็น “ข้ออ้าง” ในการร้องเรียน จึงมี “กลิ่น” บางอย่างผิดปกติ..
    .
    2 ปีที่ผ่านมา ยุค นพ.สุขุม เป็นปลัดนั้น มีความพยายามดึงเรื่องนี้ ออกมาเล่นงานผู้อำนวยการโรงพยาบาลใหญ่ 2 ครั้ง ครั้งแรกคือ การเตะโด่ง พญ.ฤทัย วรรธนวินิจ จากผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรปราการ ไปเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ด้วยเหตุผลว่ามีการตั้ง “กองทุนสวัสดิการ” จากการจัดตลาดนัดในโรงพยาบาล โดยไม่ได้รับอนุญาตจนต้องแต่งตั้ง นพ.นำพล แดนพิพัฒน์ หนึ่งในคนใกล้ชิดชมรมแพทย์ชนบท จากผู้อำนวยการโรงพยาบาลอภัยภูเบศร มาอยู่ที่สมุทรปราการแทน กลางช่วงการระบาดของโรคโควิด – 19 พอดิบพอดี
    .
    เรื่องนี้ กลายเป็นข่าวดัง เพราะหมอนำพล ที่ย้ายมากลายเป็นคนที่รัฐมนตรีอนุทิน ให้สัมภาษณ์ว่าจะ “หวด” เพราะติดโควิด – 19 จากงานเลี้ยงสังสรรค์ แต่กลายเป็นเรื่อง “โอละพ่อ” เพราะกลายเป็นว่าผลแล็บของหมอนำพลผิด จนต้องมีการขอโทษขอโพยจากหมอที่ตรวจตามมา
    .
    และอีกครั้งหนึ่ง ก็คือการจัดการ นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น ด้วยข้อหาการคอร์รัปชัน “เงินสวัสดิการ” เหมือนกัน แต่รอบนี้ เมื่อมีการประท้วงใหญ่โต คัดค้านคำสั่ง เลยมีข้อหา “พ่วง” ด้วย คือการขัดขวางการสอบสวนของคณะกรรมการ
    .
    เรื่องนี้จะไม่น่าเกลียดอะไร หากเพียงย้าย นพ.ชาญชัย ออกจากพื้นที่ชั่วคราว เพื่อให้มีการสอบสวน ไม่ใช่ย้ายประธานชมรมแพทย์ชนบท ให้กลับไปเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น จากเดิมที่เคยย้ายมาแล้ว แล้วโดนหมอคัดค้านจนกลายเป็น “แป้ก” มาก่อนหน้านี้
    .
    น่าสังเกตว่าคนที่ไปเป็นผู้อำนวยการใหญ่ 2 โรงพยาบาล ใน 2 จังหวัด แทนผู้อำนวยการที่ถูกกล่าวหาว่า “คอร์รัปชัน” นั้น ล้วนเป็นคนใกล้ชิดฝ่ายชมรมแพทย์ชนบทแทบทั้งสิ้น...
    .
    แว่วว่าผู้ใหญ่ที่สร้าง “ชมรมแพทย์ชนบท” หลายคนในอดีต ล้วน “ส่ายหัว” กับท่าทีของแกนนำชมรมแพทย์ที่ใช้อำนาจทางการเมือง “ดัน” ตัวเอง ให้ไปอยู่ในที่ที่อยากอยู่จนสมใจนึก
    .
    ประกอบกับใช้องคาพยพของแพทย์ชนบท ไม่ว่าจะเป็นในจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นในกระทรวงจัดการทั้งหมด ตั้งแต่การตั้งคนเพื่อสอบสวน “ฝั่งตรงข้าม” ไปจนกระทั่งจัดคนไปพินอบพิเทาประธานชมรม ที่เดินทางไปรับตำแหน่งใหม่
    .
    เพราะฉะนั้น อย่าได้แปลกใจ หากการ “เคลื่อนไหว” หลังจากนี้จะแผ่วบาง ไม่มีน้ำหนัก ไร้คนเชื่อถือ และประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน หลายอย่างที่ต่อสู้มา ไปจนถึงอุดมการณ์ที่ปลูกฝังกันมา “สูงส่ง” ที่สุดแล้ว อาจจบลงในยุคนี้ จากประธานชมรม (ตลอดกาล) คนนี้ ก็เป็นได้..

    #กระทรวงสาธารณสุข #ชมรมแพทย์ชนบท

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,497
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วงแหวนสุริยุปราคา ในวันที่ 21 มิถุนายน 2563 จะผ่านสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ซูดานใต้ เอธิโอเปีย เอริเทรีย เยเมน ซาอุดีอาระเบีย โอมาน ปากีสถาน อินเดีย จีน และไต้หวัน

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,497
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แบ่งปันจาก China Story

    นายกหลี่ เค่อเฉียงยกนิ้ว เศรษฐกิจแผงลอยในจีนบูมชั่วข้ามคืน สร้างงานให้กับคนนับแสน
    .
    ช่วงเช้าของวันที่ 1 มิถุนายน หลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีของจีน ได้กล่าวขณะที่ออกตรวจเยี่ยมเมืองเอียนไถ มณฑลซานตง ว่า เศรษฐกิจแผงลอยและเศรษฐกิจร้านค้าขนาดย่อมนั้นเป็นแหล่งการจ้างงานที่สำคัญ เปรียบเหมือนดอกไม้ไฟบนโลก เป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญของจีนไม่ต่างกับห้างร้านที่หรูหรามีระดับ
    .
    เป็นเวลาเกือบสองเดือนที่เศรษฐกิจแผงลอยนี้ได้ทยอยเปิดทั่วประเทศ โดยเริ่มจากเมืองใหญ่อย่างนครเฉิงตู เจิ้งโจว หนานจิง ตลอดจนชิงเต่า ฯลฯ มีบางเมืองในภาคตะวันตกของจีนได้เปิดพื้นที่สำหรับตั้งร้านแผงลอยจำนวนกว่า 36,000 ร้านโดยปฏิบัติตามข้อกำหนดของทางการในท้องถิ่น ผลปรากฏว่าเกิดการจ้างงานและสร้างอาชีพให้คนนับแสนคนในช่วงข้ามคืนเท่านั้น
    .
    หูเป่ย มณฑลที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดอย่างหนัก อยู่ระหว่างการฟื้นตัวด้านการจับจ่ายใช้สอยของพลเมือง เมืองอี๋ชัง มณฑลหูเป่ย ก็ได้ทดลองการเปิดเสรีการค้าหาบเร่แผงลอยด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ผู้ประกอบการหลายรายทั้งอาลีบาบา JD Tencent เหม่ยถวน Suning ฯลฯ ได้ออกมาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจแผงลอยและเศรษฐกิจร้านค้าขนาดย่อมเมื่อไม่นานมานี้ด้วย เพื่อเสริมกำลังในการยกระดับ “เศรษฐกิจแผงลอย” อีกทางหนึ่ง
    .
    ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ อาลีบาบา 1688 ได้ประกาศแผนสนับสนุน “เศรษฐกิจแผงลอย” โดยเตรียมเงินสำหรับซื้อเชื่อ (credit purchase) ปลอดดอกเบี้ย มากกว่า 70,000 ล้านหยวน (ราว 310,600 ล้านบาท) ด้วยการเพิ่มขีดความสามารถทั้งสี่ด้าน ได้แก่ แพลตฟอร์ม “หย่วนโถวห่าวฮั่ว” ข้อมูลอัจฉริยะ การสนับสนุนทางการเงิน ตลอดจนการดูแลลูกค้า เพื่อสนับสนุนเจ้าของร้านแผงลอยจำนวนกว่า 30 ล้านราย ในการดำเนินธุรกิจและจัดซื้อสินค้าของพวกเขาเข้ามาจำหน่ายในแพลตฟอร์ม
    .
    #ร้านค้าแผงรอย #เศรษฐกิจจีน #หลี่เค่อเฉียง #ChinaStory #เรื่องจีนจีน

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,497
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แบ่งปันจาก China Story

    จีนเผยแพร่สมุดปกขาว “รับมือโควิด-19” บันทึกกระบวนการต่อสู้โรคระบาด
    .
    เมื่อวานนี้ (7 มิ.ย.) สำนักงานสารนิเทศ แห่งคณะรัฐมนตรีจีน เผยแพร่สมุดปกขาว “การรับมือไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ของจีน” โดยสมุดปกขาวเล่มนี้ เป็นเอกสารสำคัญที่บันทึกความยากลำบากในการต่อสู้กับโรคระบาดของจีนอย่างแท้จริง ความยาวประมาณ 37,000 ตัวอักษร
    .
    เนื้อหาแบ่งออกเป็น 4 บท ได้แก่
    1. กระบวนการอันยากลำบากของจีนในการต่อสู้โรคระบาด
    2. ความร่วมมือในการต่อสู้ทั้งด้านการควบคุมป้องกันและรักษาพยาบาล
    3. การรวมพลังต่อสู้โรคระบาดที่แข็งแกร่ง
    และ 4. การสร้างประชาคมสุขภาพที่มีอนาคตร่วมกันของมวลมนุษย์
    .
    โรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 นั้น ถือเป็นการระบาดใหญ่ทั่วโลกที่มีอิทธิพลมากที่สุดในรอบร้อยปีของมนุษย์ สมุดปกขาวเล่มนี้ ระบุว่า จีนเริ่มป้องกันและควบคุมโรคระบาดอย่างเด็ดขาด เมื่อเผชิญกับการระบาดของภัยพิบัติธรรมชาติที่ไม่รู้จักอย่างฉับพลันและรุนแรง
    .
    นอกจากนี้ ยังชี้ว่า นายสี จิ้นผิง เลขาธิการใหญ่ พรรคคอมมิวนิสต์จีน ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่องานป้องกันและควบคุมโรคระบาด เสริมสร้างความเป็นผู้นำแบบรวมศูนย์และเป็นเอกภาพอย่างรอบด้าน เน้นความปลอดภัยและสุขภาพผู้คนเป็นอันดับแรก หยิบยกข้อกำหนดทั่วไปที่ว่า “มีความมั่นใจอย่างต่อเนื่อง ทำงานร่วมกัน มีการป้องกันและรักษาโรคตามหลักวิทยาศาสตร์ และมีนโยบายที่แม่นยำ” มาใช้เอาชนะการต่อสู้ของประชาชนในการป้องกันและควบคุมโรคระบาดอย่างเด็ดขาด
    .
    สมุดปกขาวฉบับดังกล่าว อธิบายว่า จีนใช้มาตรการป้องกันและควบคุมครอบคลุมที่สุด เข้มงวดที่สุด และละเอียดที่สุด ดำเนินมาตรการกักกันโรคขนาดใหญ่อย่างไม่เคยมีมาก่อน ดำเนินการรักษาพยาบาลขนาดใหญ่โดยระดมทรัพยากรทั่วประเทศอย่างไม่เคยมีมาก่อน ไม่พลาดผู้ติดเชื้อแม้แต่คนเดียว และไม่ยอมแพ้
    .
    หลังใช้ความพยายามอย่างหนัก จีนทุ่มทุนและเสียสละอย่างยิ่งใหญ่ ยับยั้งการระบาดอย่างมีประสิทธิภาพ ใช้เวลากว่าหนึ่งเดือนลดการแพร่กระจายของโรคระบาด และใช้เวลาประมาณสองเดือนควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวันในประเทศให้เหลือตัวเลขหลักเดียว ซึ่งในเวลาประมาณ 3 เดือน จีนประสบความสำเร็จในการป้องกันเมืองอู่ฮั่น และป้องกันมณฑลหูเป่ยไว้ได้ พร้อมทั้งยังประสบความสำเร็จเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญในการป้องกันและควบคุมโรคระบาด
    .
    สมุดปกขาวเปรียบเสมือนบันทึกและคู่มือในการควบคุมป้องกันโรคระบาดของจีน ทั้งยังเป็นการเน้นย้ำถึงแนวความคิดประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมวลมนุษย์ ประเทศใหญ่ที่มีความรับผิดชอบ ต่อสู้เคียงข้างประเทศอื่นๆ และเอาชนะความยากลำบากด้วยกัน ความสามัคคีและความร่วมมือเป็นอาวุธอันทรงพลังที่สุดสำหรับประชาคมระหว่างประเทศเพื่อเอาชนะการระบาด
    .
    ที่มา China Face
    .
    #สมุดปกขาว #Covid19 #โควิด19 #ไวรัสโคโรนา #ChinaStory #เรื่องจีนจีน

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,497
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แบ่งปันจาก MisterBan

    Jun 9 , 2020 ตำรวจผิวขาวเข่าสังหารขึ้นศาลนัดแรกผ่านวีดีโอ ศาลสั่งเพิ่มเงินประกันตัวแตะ 40 ล้านบาท
    .
    นายดิเรค โชว์วิน อายุ 44 ปี อดีตตำรวจผิวขาวเข้าจับกุม และใช้เข่ากดคอนายจอร์จ ฟรอยด์ ชาวอเมริกันผิวสีเชื้อสายแอฟริกันถึงกับเสียชีวิตในที่เกิดเหตุเมื่อ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา ได้ขึ้นศาลนัดแรกโดยผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ในข้อหาฆาตกรด้วยความผิดรุนแรงระดับที่ 2 และข้อหาฆาตกรรมด้วยความผิดรุนแรงระดับที่ 3
    .
    ผู้ช่วยอัยการแห่งรัฐมินนิโซตา เปิดคำให้การว่า หากนายดิเรค โชว์วิน ได้รับการปล่อยตัวเป็นอิระชั่วคราว อาจเป็นไปได้ว่า ผู้ต้องหาจะหลบหนีเนื่องจากบทลงโทษที่มีความรุนแรง และสถานการณ์ความไม่พอใจอย่างรุนแรงของประชาชนที่มีต่อผู้ต้องหา
    .
    สำหรับการประกันตัวนายดิเรค โชว์วิน นั้น ศาลมีคำสั่งให้เพิ่มเงินประกันตัวในกรณีที่ไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น จากเดิม 1 เป็น 1.25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 32 เป็น 40 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 8 ล้านบาท ในกรณีที่ประกันตัวแบบมีเงื่อนไข ให้เพิ่มเงินประกันตัวจาก 750,000 ดอลลาร์สหรัฐ เป็น 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือจากเดิม 24 ล้านบาทเป็น 32 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 8 ล้านบาท
    .
    ทั้งนี้ ทั้งฝ่ายโจทย์และจำเลย ไม่ขัดข้องในการเพิ่มเงินประกันตัวของผู้ต้องหาตามที่ศาลมีคำสั่งให้เพิ่มวงเงินประกันตัวทั้ง 2 กรณี
    .
    #ตำรวจผิวขาว #เข่าสังหาร #Misterban

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,497
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แบ่งปันจาก News1

    ไทยพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้น 2 ราย กลับจากซาอุดิอาระเบียและเนเธอร์แลนด์ รวมแล้วเจอผู้ป่วยสถานกักกันของรัฐ 184 ราย ผู้ป่วยสะสม 3,121 ราย ไม่เจอติดเชื้อในประเทศนาน 15 วัน แต่การ์ดห้ามตก เหตุส่วนใหญ่คนติดเชื้อไม่มีอาการ ต้องรอนาน 28 วันถึงเสี่ยงแพร่ระบาดใหม่ต่ำ แนะบริษัทต่างๆ เหลื่อมเวลาพักเที่ยง ลดแออัดร้านอาหาร

    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9630000059590
    ………………………………
    ● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
    Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
    Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,497
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แบ่งปันจาก News1

    เกาหลีเหนือประกาศตัดโทรศัพท์สายด่วนที่ใช้สื่อสารกับเกาหลีใต้วันนี้ (9 มิ.ย.) ระบุเป็นเพียง “มาตรการขั้นแรก” ก่อนจะระงับการติดต่อทั้งหมดกับโซล เนื่องจากไม่พอใจที่ปล่อยให้นักเคลื่อนไหวร่อนใบปลิวโจมตีระบอบคิม

    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9630000059514
    ………………………………
    ● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
    Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
    Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,497
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แบ่งปันจาก News1

    ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ทำสถิติเป็นวันที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาด ในขณะที่สถานการณ์โรคระบาดใหญ่ทั่วโลกเลวร้ายลงและยังไม่ถึงจุดพีกสุดในอเมริกากลาง จากคำเตือนขององค์การอนามัยโลก (WHO) ในวันจันทร์ (8 มิ.ย.) พร้อมเรียกร้องประเทศต่างๆ เดินหน้าความพยายามควบคุมไวรัส

    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9630000059496
    ………………………………
    ● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
    Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
    Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,497
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แบ่งปันจาก News1

    ตำรวจชุดหนุมานกองปราบบุกจับ “ลุงบุญช่วย” น้องชายพระกิตติวุฑโฒ พร้อมลูกชาย หลังพบหลักฐานชี้ชัดฮุบที่ดินธรณีสงฆ์ 3,800 ไร่ ชนวนเหตุยิงกันกลางศาลจันทบุรีดับ 2 ศพ

    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9630000059501
    ………………………………
    ● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
    Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
    Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

     

แชร์หน้านี้

Loading...