ติดตามสถานะการณ์

#ประท้วงสหรัฐ ไปไกลสุดกู่ ผู้ชุมนุมเรียกร้อง “ชำระประวัติศาสตร์” ถอนรากถอนโคนสัญลักษณ์ของการเหยียดเชื้อชาติ และบุคคลผิวขาวที่ถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของการกดขี่ทาส แม้ว่าบางบุคคลจะได้รับยกย่องให้เป็นรัฐบุรุษก็ตาม

ผู้ประท้วงส่วนหนึ่งเสนอให้ทำลายรูปปั้น 4 ประธานาธิบดีที่ภูเขารัสมอร์ ที่แกะสลักรูปของอดีตประธานาธิบดีวอชิงตัน, เจฟเฟอร์สัน, รูสเวลท์ และลินคอน ผู้นำที่ได้รับยกย่องว่ามีคุณูปการต่อสหรัฐ จนได้รับเกียรติ์ให้จารึกอนุสาวรีย์บนภูผาสูง 18 เมตรเมื่อปี 1927 ใช้แรงงานในการสร้างถึง 400 คน และใช้เวลาสร้างนาน 14 ปี
.
CNN รายงานว่า กลุ่มผู้ประท้วงรวมตัวที่จัตุรัสลาฟาแยท ใกล้กับทำเนียบขาว ยังพยายามจะล้มอนุสาวรีย์ของอดีตประธานาธิบดีแอนดรูว์ แจ็คสัน รวมทั้งปิดถนนใกล้บริเวณทำเนียบขาว จัดตั้งเป็น “เขตปกครองตนเองทำเนียบดำ” Black House Autonomous Zone
.
ในโลกออนไลน์ของสหรัฐ ยังมีกระแสเรียกร้องให้เปลี่ยนชื่อมหาวิทยาลัยเยล มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และมหาวิทยาลัยจอร์ชทาวน์ โดยอ้างว่าผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยเหล่านี้เคยค้าทาส รวมทั้งเสนอให้ผู้ที่รับทุนการศึกษาหรือจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเหล่านี้ออกมาแสดงความรับผิดชอบ

ผู้ประท้วงบางรายไปไกลยิ่งกว่า ระบุว่า ชื่อประเทศ #สหรัฐ อเมริกา จนถึงชื่อทวีป #อเมริกา ก็มีนัยยะของการเหยียดเชื้อชาติ เพราะมีที่มาจากอเมริโก เวสปุชชี นักล่าอาณานิคมและผู้ค้าทาสชาวอิตาลี
.
กระแสต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติ ทำให้มีการเปลี่ยนชื่อสถานที่หลายแห่งแล้ว ผู้ว่าการรัฐโรดไอแลนด์และนิคมพรอวิเดนซ์ ได้ลงนามคำสั่งเปลี่ยนชื่อรัฐ โดยตัดคำว่า “นิคมพรอวิเดนซ์” ทิ้ง คำสั่งนี้ยังให้องค์กรและสถานที่ทุกแห่งที่เป็นของรัฐ เปลี่ยนป้ายชื่อและเว็บไซต์ให้เหลือแค่ “รัฐโรดไอแลนด์” โดยระบุว่า “นิคมพรอวิเดนซ์” สะท้อนความเกี่ยวข้องกับทาส

สื่อสหรัฐระบุว่า หากต้องเปลี่ยนชื่อสถานที่เพื่อ “ชำระประวัติศาสตร์” แล้ว บุคคลที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญที่สุดคือ จอร์ช วอชิงตัน บิดาแห่งชาติสหรัฐ ซึ่งเคยเป็นนายทาสมาก่อน นามของเขาถูกใช้อย่างแพร่หลายทั้ง รัฐวอชิงตัน และกรุงวอชิงตัน ดีซี เมืองหลวงของสหรัฐ.

 

#บทวิเคราะห์ เมื่อไหร่นักการเมืองสหรัฐฯ จะกลับมามีเหตุผลอีกครั้ง?
เมื่อเร็ว ๆ นี้ หนังสือพิมพ์เดอะวอชิงตันโพสต์ของสหรัฐฯ เผยแพร่บทความหลายชิ้นประณามรัฐบาลสหรัฐฯ ว่า กำลังโยนความผิดให้กับผู้อื่นรุนแรงยิ่งขึ้น โดยมีสาเหตุมาจาก “การหาเสียงเลือกตั้งทั่วไป” เมื่อคะแนนสนับสนุนลดลงอย่างต่อเนื่อง นักการเมืองในทำเนียบขาวจึงเดือดร้อนมาก แต่ก็ไม่มีวิธีปรับปรุงตัว ดังนั้น การโยนความผิดให้ผู้อื่น ๆ จึงกลายเป็นวิธีที่ใช้บ่อยสำหรับพวกเขา
ผู้คนเห็นได้อย่างชัดเจนว่า นักการเมืองสหรัฐฯ ไม่สนใจเสียงคัดค้านจากผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข แต่กลับเร่งฟื้นการทำงานและการผลิต ผลที่ตามคือ ช่วงหลายวันมานี้ รัฐฟลอริดา เท็กซัส และแอริโซนา พบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว จนนายเกร็ก แอบบอตต์ ผู้ว่าการรัฐเท็กซัส ต้องประกาศระงับมาตรการเปิดรัฐอีกครั้ง วันที่ 25 มิถุนายน นายโรเบิร์ต เรดฟิลด์ ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ คาดว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 อาจเพิ่มขึ้นอีก 10 เท่าจากตัวเลขที่พบอยู่ในปัจจุบัน กล่าวคือ จะสูงถึง 25 ล้านคน
เบื้องหน้าการระบาดอย่างรุนแรงและจำนวนผู้ว่างงานกว่า 40 ล้านคน นักการเมืองสหรัฐฯ กลับยังคงเล่นไพ่เศรษฐกิจได้ต่อไป ธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศต่างคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปีหน้าจะหดตัว 6.1% - 8%
ด้านหนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์กไทมส์ เผยแพร่บทบรรณาธิการ ระบุว่า “ปัจจุบันเป็นเวลาที่รัฐบาลสหรัฐฯ ต้องเอาจริงเอาจังกับการจัดการวิกฤตครั้งนี้”

 

#ฮ่องกง ผู้เชี่ยวชาญอียิปต์ระบุ กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติสำหรับฮ่องกงเป็นหลักประกันของสังคม
เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายฮุสเซน อิสมาอิล นักวิจัยการเมืองอาวุโส จากสำนักงานบริการข้อมูลข่าวสารแห่งรัฐของอียิปต์ ผู้เชี่ยวชาญด้านจีนศึกษาที่มีชื่อเสียง ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า การบัญญัติกฎหมายว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติสำหรับเขตบริหารพิเศษฮ่องกงมีบทบาทเป็นหลักประกันการรักษาความมั่นคงของสังคมฮ่องกง ชอบด้วยกฎหมาย สมเหตุสมผล และมีความจำเป็น
นายฮุสเซน วิจัยประเด็นเกี่ยวกับจีนอย่างลึกซึ้ง ขณะกล่าวถึงเรื่องการบัญญัติกฎหมายว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติที่เกี่ยวข้องกับฮ่องกง เขากล่าวว่า กฎหมายพื้นฐานของเขตบริหารพิเศษฮ่องกงกำหนดอย่างชัดเจนว่า เขตบริหารพิเศษฮ่องกงเป็นส่วนหนึ่งที่มิอาจแบ่งแยกได้ของสาธารณรัฐประชาชนจีน
นายฮุสเซน เห็นว่า การบัญญัติกฎหมายดังกล่าวสามารถรักษาเสถียรภาพทางสังคมของฮ่องกง โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะคุ้มครองสิทธิพื้นฐานของชาวฮ่องกง

 

#ซินเจียง ผู้เชี่ยวชาญอิตาลีระบุ นโยบายซินเจียงของจีนชาญฉลาด ส่วนการกระทำของสหรัฐฯ ไม่มีความรับผิดชอบ
เมื่อเร็ว ๆ นี้ สหรัฐฯ ลงมติผ่าน “กฎหมายนโยบายสิทธิมนุษยชนชาวอุยกุร์ ปี 2020” สำหรับเรื่องดังกล่าว นางอเลสซานดรา แคปเพลเลตติ นักวิจัยอาวุโสจากศูนย์จีนศึกษาในอิตาลี กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ซินเจียงเผชิญกับภัยคุกคามจากกลุ่มหัวรุนแรงและกลุ่มก่อการร้ายแบ่งแยกประเทศ สหรัฐฯ รับรู้เรื่องนี้อย่างชัดเจน แต่ก็ยังใช้ประเด็นเกี่ยวกับซินเจียงเป็นเครื่องมือทางการเมือง ซึ่งเป็นการกระทำที่มองข้ามสิทธิพื้นฐานของประชาชนซินเจียง
นางอเลสซานดรา เคยทำงานที่ซินเจียง เธอสังเกตว่า ชาวบ้านท้องถิ่นส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอย่างสันติและพอกินพอใช้ พร้อมไปกับแสวงหาโอกาสการพัฒนาที่ดียิ่งขึ้น ขณะที่รัฐบาลจีนปราบปรามกลุ่มก่อการร้าย อีกทั้งยังเพิ่มการลงทุนในกิจการต่าง ๆ ของท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมการพัฒนาของเศรษฐกิจและสังคม

 

#สถานการณ์โควิด19 #การตัดสินใจที่สำคัญ ป้องกันการระบาดจากต่างประเทศ ควบคุมในประเทศไม่ระบาดอีกระลอก

 

สนธิสัญญาแวร์ซายจบสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง และเริ่มต้นสงครามโลกครั้งที่สองได้อย่างไร
NGThai 6 มิ.ย. 2019


วูดโรว์ วิลสัน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกากำลังยิ้มในขณะที่เดินนำขบวนของบรรดาผู้นำยุโรปที่เข้าร่วมเซ็น สนธิสัญญาแวร์ซาย แม้ว่าอดีตประธานาธิบดีวิลสัน จะเป็นผู้เจรจาสนธิสัญญานี้ด้วยตัวเอง แต่ในท้ายที่สุด สภาคองเกรสไม่ให้สัตยาบันในสนธิสัญญานี้ ภาพถ่ายโดย BETTMANN, GETTY

ประเทศต่างๆ ในยุโรปพากันลงโทษเยอรมนีจากสิ่งที่ได้ทำไปในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง อันเป็นการลงโทษที่ย้อนกลับมาหลอกหลอนชาวโลกในภายหลัง
28 มิถุนายน 1919 นอกชานเมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส บรรดาผู้นำชาติยุโรปรวมตัวกันในพระราชวังแวร์ซายเพื่อเซ็น สนธิสัญญาแวร์ซาย ซึ่งรู้จักกันในฐานะหนึ่งในสนธิสัญญาที่มีเนื้อหาอันจงเกลียดจงชังมากที่สุดในประวัติศาสตร์ การเซ็นสนธิสัญญาครั้งนี้คือคือหมุดหมายแห่งการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่หนึ่งอย่างเป็นทางการ แต่ในขณะเดียวกัน ก็ได้เป็นรากฐานที่ทำให้เกิดสงครามโลกในครั้งต่อมา และถึงแม้ว่าจะมีการประชุมสันติภาพในหนึ่งปีก่อนหน้านี้ แต่ไม่มีประเทศใดที่ต้องลงชื่อในสนธิสัญญาฉบับนี้พึงพอใจกับมันเลย

มีคนกว่า 65 ล้านคนที่ต้องเข้าร่วมต่อสู้ในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ทหารมากกว่า 8.5 ล้านนาย และพลเรือนกว่า 6.6 ล้านคนต้องเสียชีวิตไป สงครามได้ทำลายพื้นที่ฟาร์ม เมือง และสนามรบรอบๆ ยุโรป และเยอรมนีถูกกล่าวโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น แม้นักประวัติศาสตร์ร่วมสมัยยังคงถกเถียงกันอยู่ว่าใครคือผู้ที่ต้องรับผิดชอบในสงครามครั้งที่หนึ่ง สนธิสัญญาฉบับนี้ก็ได้ลงโทษเยอรมนีไปก่อนเสียแล้ว

สนธิสัญญาแวร์ซาย

บรรดาผู้นำยุโรปร่วมกันเซ็นสนธิสัญญาเพื่อสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่หนึ่งในห้องกระจกแห่งพระราชวังแวร์ซาย ภาพถ่ายโดย BETTMANN, GETTY
จากหลักการแห่งอุดมคติสู่สนธิสัญญาแห่งการลงทัณฑ์

ในช่วงระหว่างสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ประธานาธิบดี วูดโรว์ วิลสัน แห่งสหรัฐอเมริกาได้เสนอ หลักการ 14 ข้อ ซึ่งเป็นแผนแม่แบบสันติภาพของโลก อันมีใจความรวมไปถึงการตั้งองค์กรความร่วมมือจากหลายประเทศ (ซึ่งต่อมาคือองค์กรสันนิบาตชาติ) เพื่อรับประกันความมีเสถียรภาพแห่งทวีปยุโรปและป้องกันไม่ให้บรรดาประเทศต่างๆ เข้าสู่วังวนแห่งการทำสัญญาสองฝ่ายแบบลับๆ แผนการอันเป็นอุดมคตินี้กลับถูกบิดเบือนในระหว่างการเจรจา ซึ่งพุ่งเป้าให้ฝ่ายสัมพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่หนึ่งเป็นผู้รับผิดชอบค่าปฏิกรรมสงคราม

ในตัวสนธิสัญญาตัดสินให้เยอรมนีมีความผิดในฐานะเป็นผู้ก่อสงคราม และต้องเสียดินแดนราวร้อยละ 13 และประชากร 1ใน 10 ส่วนดินแดนไรน์ลันท์ (the Rhineland – ดินแดนทั้งสองฝั่งของแม่น้ำไรน์ ในภูมิภาคเยอรมนีตะวันตก) ถูกยึดครองและปลดกำลังทหาร บรรดาดินแดนอาณานิคมของจักรวรรดิเยอรมนีต้องไปอยู่ภายใต้การดูแลขององค์การสันนิบาตชาติ กองทหารประจำการลดลงเหลือเพียงหนึ่งแสนนาย และไม่ให้มีการรับทหารเพิ่ม อาวุธยุทโธปกรณ์ส่วนใหญ่ถูกยึด เช่นเดียวกับกองเรือขนาดใหญ่ นอกจากนี้ ได้มีการไต่สวนจักรพรรดิวิลเฮล์มที่ 2 แห่งเยอรมนี ในฐานะอาชญากรสงคราม และสนธิสัญญาได้สั่งให้เยอรมนีจ่ายเงินค่าปฏิกรรมสงครามเป็นจำนวน 26.9 พันล้านโกลด์มาร์กเยอรมัน (ราว 3.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ)

บรรดาผู้นำยุโรปได้เซ็นสนธิสัญญาในห้องกระจกแห่งพระราชวังแวร์ซาย ซึ่งเป็นสถานที่ที่จักรวรรดิเยอรมันได้ก่อตั้งขึ้น และพระราชบิดาของจักรพรรดิวิลเฮล์มที่ 2 ก็ได้ขึ้นเป็นจักรพรรดิที่นี่ เมื่อปี 1871 สิ่งนี้จึงถือเป็นการตบหน้าเยอรมนีอย่างแรง ชาวเยอรมันเองก็ถูกมองว่าเป็นประชากรของประเทศแพ้สงคราม ซึ่งถือเป็นความอัปยศอดสูอย่างยิ่ง (อย่างไรก็ตาม สหรัฐอเมริกาไม่ได้ลงนามในสนธิสัญญานี้ เนื่องจากเกิดความแตกแยกระหว่างพรรคเดโมเครตและรีพับรีกัน)


ผลกระทบจากสนธิสัญญา

แม้ว่าจะมีความต้องการสันติภาพเพื่อป้องกันมิให้เกิดสงครามขึ้นอีกก็ตาม แต่สนธิสัญญาฉบับนี้ก็ไม่ได้บรรลุเป้าหมายตามที่ตั้งใจไว้ในตอนแรก เพราะถือกันว่าสนธิสัญญาฉบับนี้เป็น “การกดหัวให้มีสันติภาพ” บรรดานักการเมืองเยอรมันฝ่ายขวาจึงได้ใช้เรื่องนี้ปลุกกระแสชาตินิยมให้ตื่นขึ้นในประเทศ นอกจากนี้ การจ่ายเงินค่าปฏิกรรมสงครามก็ทำให้ผลผลิตทางอุตสาหกรรมของเยอรมันลดลง และทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อขั้นรุนแรงในช่วงทศวรรษที่ 1920 ซึ่งส่งผลให้เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ทั้งในยุโรปและสหรัฐอเมริกาในช่วงเวลาเดียวกัน

บรรดาผู้นำชาวยุโรปที่เซ็นยอมรับความเสียเปรียบสนธิสัญญาต่างไม่พอใจที่มีการขีดเส้นแผนที่ดินแดนของตนขึ้นใหม่ และการยินยอมพร้อมใจให้ให้เกิดผลจากสนธิสัญญาในครั้งนั้นมีส่วนทำให้เกิดสันติภาพที่ไม่มั่นคง และก่อให้เกิดความผิดหวังของคนเยอรมัน เนื่องจากพวกเขารู้สึกว่าได้รับการปฏิบัติที่ไม่เท่าเทียม

หลังสงครามโลกครั้งที่สองจบไป เยอรมนีเพิ่งจ่ายเงินค่าปฏิกรรมสงครามงวดสุดท้ายตามเงื่อนไขของสนธิสัญญาแวร์ซายเมื่อปี 2010 และในทุกวันนี้ ก็ยังมีการศึกษาสนธิสัญญาฉบับนี้เพื่อให้รู้ว่า มันได้มีส่วนก่อให้เกิดสงคราม และบรรดาผลกระทบที่เหนือความคาดหมายจากสนธิสัญญาได้ลบล้างความตั้งใจในการรักษาสันติภาพได้อย่างไร

เรื่องโดย ERIN BLAKEMORE

 

1 กรกฎาคม นี้ อุทยานแห่งชาติเปิดให้บริการในรูปแบบใหม่

เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมถึงมาตรการการจำกัดการเดินทาง ส่งผลให้ช่วงสองถึงสามเดือนที่ผ่านมา อุทยานแห่งชาติต้องประกาศปิดให้บริการตามนโยบายการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค
.
ในขณะเดียวกัน ภาพสัตว์ป่าชนิดต่างๆ ก็ปรากฏขึ้นอย่างที่สื่อหลายสำนักนำเสนอผ่านภาพข่าว จึงเกิดกระแสการแลกเปลี่ยนในสังคมเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่อุทยานห่งชาติ เพื่อให้ธรรมชาติคงอยู่ในสภาพที่ดีต่อไป

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้รับผิดชอบโดยตรงในพื้นที่อุทยานฯ จึงเสนอแนวทางการเปิดอุทยานฯ รับนักท่องเที่ยวหลังจากการแพร่ระบาดเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น
.
โดยแบ่งอุทยานฯ ทั้งหมดเป็น 3 หมวด คือ อุทยานแห่งชาติที่เปิดทุกพื้นที่ อุทยานแห่งชาติที่เปิดพื้นที่บางส่วน และอุทยานแห่งชาติที่ปิดทุกพื้นที่ โดยมอบหมายให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พิจารณาตามความเหมาะสม และความสามารถต่อการรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวในพื้นที่ หรือ CC (Carrying Capacity) เพื่อควบคุมปริมาณนักท่องเที่ยวไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสภาพทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
.
นอกจากนี้ ทางกรมอุทยานฯ ยังปรับเปลี่ยนรูปแบบการเดินทางเข้าพื้นที่อุทยานฯ โดยนักท่องเที่ยวจำเป็นต้องจองการเข้าพื้นที่ผ่านช่องทางแอปพลิเคชัน Que Q รวมถึงต้องลงทะเบียนเข้าออกผ่านแอปพลิเคชัน ไทยชนะ ทุกครั้ง
.
รายละเอียดเพิ่มเติม เรื่องการจองเข้าพื้นที่อุทยานฯ และรายชื่ออุทยานฯ คลิกที่นี่ https://ngthai.com/travel/29885/np-reopen/

 

บนเขาใหญ่ตั้งกล้องจับความเร็ว!!
หนึ่งในมาตรการเข้มท่องเที่ยวอุทยานฯ แบบ New Normal
.
เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่กำลังทดสอบและติดตั้งกล้องควบคุมความเร็วบนถนนในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการที่นักท่องเที่ยวทุกท่านต้องปฎิบัติตามอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของสัตว์ป่าและของนักท่องเที่ยวทุกคนที่ขับรถบนเขตอุทยานฯ
.
ว่าที่พันตรี นรินทร์ ปิ่นสกุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้ประสานความร่วมมือกับ พ.ต.ท.วิษณุ คำโนนม่วง สว.ส.ทล.1 กก.6 บก.ทล. ตำรวจทางหลวงโคราช ร่วมบูรณาการ ให้คำแนะนำตรวจจับความเร็วรถที่วิ่งบนถนนในเขตอุทยาน โดยกำหนดความเร็ว ไม่เกิน 60 กม./ชม. ซึ่งเป็นข้อบังคับและการกำหนดความเร็วในการตรวจจับเป็นไปตามกฎหมายของอุทยานที่ให้อำนาจไว้
.
อ่านต่อ>>https://mgronline.com/greeninnovation/detail/9630000066100
#mgronline #อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ #ตั้งกล้องจับความเร็ว #มาตรการเข้มท่องเที่ยว #NewNormal

 

#ข่าวโควิด (27 มิ.ย.) พบพนักงาน #เมดคาเฟ่ ที่อาคิบะ ติดเชื้อโควิด 3 ราย

(ᐥᐜᐥ)♡ᐝ เป็นพนักงานของร้าน @Home ร้านที่แอดเลือกพาเพื่อนไปประจำ
ร้านนี้เหมาะสำหรับมือใหม่หัดไปเมดคาเฟ่ค่ะ

รายละเอียด
- พนักงาน A มาทำงาน 19 มิถุนา ระหว่างกลับบ้านมีไข้ ตั้งแต่นั้นมาหยุดงานมาตลอด
- พนักงาน B เริ่มมีไข้วันที่ 23 มิถุนา ตั้งแต่นั้นมาหยุดงานมาตลอด
- พนักงาน C เริ่มมีไข้วันที่ 24 มิถุนา ตั้งแต่นั้นมาหยุดงานมาตลอด

การดำเนินการของทางร้าน
- ปรึกษากับสาธารณสุข ให้พนักงานที่มีความใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อหยุดงานตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนาเพื่อรอดูอาการ

- ระหว่างการทำงานใส่หน้ากากอนามัยตลอด เมื่อตรวจสอบแล้วไม่มีลูกค้าที่เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิด

- เนื่องจากในวันนั้นพนักงาน A นั่งพักอยู่ใกล้ห้องพักพนักงาน ทางร้านจึงให้พนักงานที่ทำงานวันเดียวกันหยุดเพื่อรอดูอาการทุกคน โดยไม่คำนึงถึงว่าเป็นผู้ใกล้ชิดหรือไม่

- อนึ่ง เช้าวันที่ 25 มิ.ย. ทางร้านทำการฉีดพ่นฆ่าเชื้อเรียบร้อยแล้ว และเปิดทำการอีกครั้งโดยกำหนดจำนวนคนใช้ที่พักพนักงานเพื่อไม่ให้มีผู้สัมผัสใกล้ชิด

- ติดพลาสติกป้องกันการกระจาย / ใส่หน้ากากอนามัย / วัดไข้ก่อนเข้าร้าน

อ่านประกาศจากทางร้านฉบับเต็ม

新型コロナウイルス感染に関するご報告
https://www.cafe-athome.com/info/107242

詳細はPDF
http://infinia1133.sakura.ne.jp/pdf/infinia20200626001.pdf

#กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น #เกาะติดไวรัสโคโรนา
#เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ #COVID19 #โควิด19

 

มือมีดไล่แทงคนเจ็บ 6 ราย
ในโรงแรม ‘กลาสโกว์’ ก่อนถูกตำรวจยิงดับ
.
เกิดเหตุคนร้ายใช้มีดไล่แทงคนเจ็บ 6 รายรวมถึงตำรวจนายหนึ่งที่โรงแรมชื่อดังในเมืองกลาสโกว์ (Glasgow) ของสกอตแลนด์เมื่อวานนี้ (26 มิ.ย.) ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะถูกตำรวจยิงเสียชีวิต
.
ผู้เห็นเหตุการณ์บอกกับสำนักข่าวสกายนิวส์ว่า เธอเห็นหน่วยกู้ชีพกำลังช่วยปฐมพยาบาลคนเจ็บหลายรายที่มีเลือดท่วมตัวภายในโรงแรม พาร์ค อินน์ บาย เรดิสสัน (Park Inn by Radisson) และตำรวจติดอาวุธเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุภายในไม่กี่นาที
.
อ่านต่อ>>https://mgronline.com/around/detail/9630000066189
#mgronline #มือมีด #ไล่แทงคน #โรงแรมกลาสโกว์ #สกอตแลนด์

 

นอกจากจะต้องเฝ้าระวังการระบาดในระลอก 2 แล้ว สหรัฐอเมริกา อาจจะต้องช็อกต่อเนื่องหลังจาก ศูนย์ควบคุม และป้องกันโรคติดต่อสหรัฐอเมริกาฯ หรือ CDC ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลโดยระบุว่า
.
ดูเหมือนจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่แท้จริงในประเทศอาจสูงถึง20 ล้านราย ซึ่งสูงกว่าตัวเลขจากทางการถึง 10 เท่า หลังจากทางการสหรัฐฯ แถลงยืนยันพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐฯ อยู่ที่ 2.4 ล้านราย และเสียชีวิต 122,370 ศพ
.
นายแพทย์โรเบิร์ต เรดฟิลด์ ผู้อำนวยการ CDC กล่าวกับนักข่าวว่า จากการประมาณการที่ดีที่สุดของเราในขณะนี้ คือ หากมีการรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทุกเคส จะมีผู้ติดเชื้อที่แท้จริงสูงกว่าตัวเลขทางการถึง 10 เท่า
.
ซึ่งสาเหตุที่ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ได้รับการยืนยันน้อยกว่าความเป็นจริงมากถึงขนาดนี้นั้น เนื่องจากการตรวจผู้ติดเชื้อโควิด-19 จะมีการตรวจเฉพาะผู้ที่มีอาการป่วยคล้ายกับโรคโควิด-19 ในขณะที่คนซึ่งไม่แสดงอาการป่วย ไม่ได้รับการตรวจหาเชื้อแต่อย่างใด
.
ประชาชนประมาณ 5%-8% ของประชากรในประเทศสหรัฐฯ ได้แพร่กระจายเชื้อไวรัสโควิด-19 พร้อมกับเรียกร้องให้ชาวอเมริกันยังคงเว้นระยะห่างทางสังคม สวมหน้ากากอนามัย และล้างมือเพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด-19
.
ด้านบีบีซี ได้รายงานถึงความวิตกกังวลเชื้อโควิด-19 กำลังหวนกลับมาระบาดหนักในสหรัฐฯ เนื่องจากพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในหลายรัฐพุ่งสูงขึ้นจนน่าตกใจ โดยรัฐเทกซัส ซึ่งเป็นรัฐแถวหน้าในประเทศที่ยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์คุมโควิด-19 ซึ่งทำให้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
.
โดยวันพฤหัสฯที่ 25 มิ.ย. พบผู้ติดโควิด-19 ถึง 5,996 ราย ขณะที่มีผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 เพิ่มอีก 47 ศพ ซึ่งถือเป็นวันที่มีผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิตมากที่สุดในรัฐเทกซัส ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา
.
ขณะที่สถานการณ์ในรัฐต้างๆในสหรัฐอเมริกา ยังต้องติดตามดูอย่างใกล้ชิด หลังจากยอดผู้ติดเชื้อแต่ละรัฐพุ่งสูงขึ้นมาก โดยในสัปดาห์นี้ทางการสหรัฐฯ ได้ยืนยันว่ามีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากกว่า 36,000 ราย ซึ่งยอดเกือบใกล้ถึงสถิติพบผู้ติดเชื้อสูงสุดในรอบสัปดาห์เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2563 ที่พบผู้ติดเชื้อ 36,426 ราย

-------------------------------
แหล่งข่าว

https://www.japantimes.co.jp/news/2020/06/26/world/cdc-estimates-20-million-coronavirus/

https://globalnews.ca/news/7110433/us-coronavirus-20-million-cases/

https://www.thairath.co.th/news/foreign/1876963
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDeS2riffyohV9FW2QEWjHQ

 

ไม่ยอมกักกันตัว
.
เวสเทิร์นเคป ในแอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางโรคโควิด-19 ของประเทศ มีผู้ป่วยสูงถึง 56,780 ราย โดยมีผู้เสียชีวิต 1,652 ราย ขณะที่สถิติผู้ป่วยของทั่วประเทศอยู่ที่ 118,375 รายและเสียชีวิต 2,292 ราย ข้อมูลทางการระบุว่าขณะนี้จังหวัดมีสถานกักกันและแยกกัก 4,766 แห่ง โดยมีสถานที่ยังรอผู้เข้าใช้บริการอยู่มากกว่า 3,700 แห่ง ซึ่งถือว่ามีสถานที่กักกันมากพอต่อการรับผู้ใดก็ตามที่ต้องการกักกันหรือแยกตัว ชี้ให้เห็นถึงปัญหาสำคัญนั่นคือการที่ผู้ติดเชื้อหลายคนปฏิเสธเข้ารับการกักกันตน
.
เหตุผลที่ผู้ติดเชื้อหลายคนปฏิเสธที่จะเข้าสถานกักกันหรือแยกกักตนเองมีมากมาย ตั้งแต่การที่พวกเขาไม่สามารถดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ หรือมีเพศสัมพันธ์ ไปจนถึงความกังวลเกี่ยวกับที่พักอาศัยของตน และความอับอายที่จะถูกตราหน้าว่าเป็นพวกติดไวรัส
.
อัลลัน วินด์ ผู้ว่าการจังหวัดเวสเทิร์นเคปกล่าวว่า เพื่อช่วยโน้มน้าวผู้คนให้เข้าใช้สถานกักกันและแยกตัว จังหวัดจึงได้ปรับปรุงกลยุทธ์การสื่อสาร การมีส่วนร่วมกับผู้นำท้องถิ่น การส่งข้อความสาธารณะโดยคนระดับท้องถิ่น และกลยุทธ์ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยก่อนหน้านี้ ทางจังหวัดคาดการณ์ว่าสถิติการติดเชื้อจะพุ่งสูงในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมิถุนายน ซึ่งอาจใช้เวลา 2-4 สัปดาห์
.
รัฐบาลจึงได้สร้างตู้ห้องเย็นจำนวนมากเตรียมไว้สำหรับกรณีเกิดจำนวนผู้เสียชีวิตมหาศาลจากไวรัสดังกล่าว โดยตู้ห้องเย็นดังกล่าวจะสามารถเก็บศพได้ 770 ศพ และตั้งอยู่ใกล้โรงพยาบาลไทเกอร์เบิร์ก ซึ่งถูกกำหนดให้เป็นโรงพยาบาลสำหรับรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ในเมืองเคปทาวน์โดยเฉพาะ พร้อมจัดเตรียมสถานที่ฝังศพหลายแห่งสำหรับประชาชนเกือบ 9,000 รายที่คาดว่าจะเสียชีวิตด้วยโรคนี้

#โควิด19 #แอฟริกาใต้ #ข่าวโมโน29 #MONO29NEWS #MONO29

 

อินโดนีเซีย เปิดบุโรพุทโธ ต้อนรับนักท่องเที่ยวแล้ว
.
สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า บุโรพุทโธ (Borobudur) พุทธศาสนสถานอันเลื่องชื่อที่ใหญ่ที่สุดในโลก กลับมาเปิดรับนักท่องเที่ยวอีกครั้งเมื่อวานนี้ (25 มิ.ย.) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว ที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
.
ซีนง เอ็น ราคมาดี (Sinoeng N Rachmadi) หัวหน้าสำนักงานเยาวชน กีฬา และการท่องเที่ยวของชวากลาง ระบุว่า โบราณสถานที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกภายในพื้นที่เขตมาเกลัง จังหวัดชวากลางแห่งนี้ กลับมาเปิดรับนักท่องเที่ยวภายใต้ระเบียบด้านสาธารณสุขที่เข้มงวด โดยจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยววันละไม่เกิน 1,500 คน หรือร้อยละ 10-15 ของจำนวนที่รับได้ต่อวันตามปกติ
.
การจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวนี้ เพื่อเลี่ยงการรวมกลุ่มหนาแน่น ซึ่งเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรคที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ภายในสถานที่ท่องเที่ยว
.
ด้านเซนัล อารีฟิน (Zaenal Arifin) หัวหน้าเขตมาเกลัง ระบุว่า วัดบุโรพุทโธ ได้บังคับใช้ระเบียบสาธารณสุขอันเข้มงวดหลายประการ เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ภายในพื้นที่
.
รายงานข่าว ระบุว่า ก่อนการกลับมาเปิดรับนักท่องเที่ยว บรรดาเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและพีที ตามัน วิซาตา กันดี บุโรพุทโธ บริษัทบริหารจัดการของบุโรพุทโธ ได้จำลองการบังคับใช้ระเบียบสาธารณสุขทั้งที่ตัววัดและพื้นที่โดยรอบ ทั้งหมด 3 ครั้ง
.
อย่างไรก็ตาม แม้ตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่จะยังไม่ลดลง แต่อินโดนีเซียได้ทยอยเปิดเศรษฐกิจ เพื่อให้สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ กลับมาเปิดรับนักท่องเที่ยวภายใต้ระเบียบสาธารณสุขได้ อีกทั้งกำลังเตรียมความพร้อมสำหรับความปกติในรูปแบบใหม่
.
#ข่าวโมโน29 #MONO29NEWS #MONO29 #โควิด19

 

แจ้งเตือนโควิด-19
.
วันนี้ (26 มิถุนายน 2563) สำนักข่าวซินหัวรายงาน ถาบันโรเบิร์ต ค็อก (Robert Koch) หน่วยงานควบคุมโรคของเยอรมนี ประกาศผ่านทวิตเตอร์ว่าแอปพลิเคชันเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ของเยอรมนี จะพร้อมเปิดให้ดาวน์โหลดบนแอปสโตร์ในหลายประเทศอย่างค่อยเป็นค่อยไป
.
สถาบันระบุว่าแอปฯ นี้เปิดตัวเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. และเปิดให้ดาวน์โหลดโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแล้วใน 10 ประเทศทั่วยุโรป อาทิ เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส ออสเตรีย โปแลนด์ เดนมาร์ก และบัลแกเรีย
.
รัฐบาลเยอรมัน เผยว่าแอปฯ ดังกล่าวจะช่วยแจ้งเตือนเมื่อประชาชนอยู่ใกล้ผู้มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพื่อตรวจจับและทำลายห่วงโซ่ของการติดเชื้อ
.
อย่างไรก็ตาม เยนส์ ชพาห์น (Jens Spahn) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประกาศเตือนว่าแอปฯ ดังกล่าว “ไม่ใช่วิธีการที่จะสามารถแก้ไขได้ทุกปัญหา มีราคาที่ต้องจ่าย และเป็นเครื่องมือเสริมที่สำคัญในการยับยั้งการแพร่ระบาด”
.
ทั้งนี้ แอปฯ มียอดดาวน์โหลดสูงถึง 13 ล้านครั้งในเยอรมนี เมื่อนับถึงวันพฤหัสบดี (25 มิ.ย.) ซึ่งเทียบได้กับประชากรประมาณร้อยละ 15 ของประเทศ หรือร้อยละ 25 ของผู้ใช้งานสมาร์ตโฟน
.
คณะวิจัยจากมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด (Oxford University) ชี้ให้เห็นว่าแอปพลิเคชันติดตามการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแนวคิดควบคุมการแพร่ระบาด อันรวมถึงสุขอนามัยและกฎระเบียบเว้นระยะห่าง ได้แสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์เชิงบวก แม้จะมีประชากรใช้แอปฯ เพียงร้อยละ 15 เท่านั้น
.
ด้านสมาคมประกันสุขภาพตามกฎหมายแห่งชาติเยอรมนี (KBV) ประกาศเมื่อวันพุธ (24 มิ.ย.) ว่าแบบฟอร์มลงทะเบียนขอเข้ารับการทดสอบโรคโควิด-19 แบบใหม่ จะพร้อมใช้งานในเร็ววันนี้ โดยจะติดรหัสคิวอาร์ (QR Code) เพื่อช่วยให้พลเมืองสามารถตรวจผลทดสอบทางออนไลน์ และในกรณีที่ติดเชื้อโรคโควิด-19 จะแจ้งความเคลื่อนไหวของผลตรวจในแอปฯ ดังกล่าว
.
#ข่าวโมโน29 #MONO29NEWS #MONO29 #โควิด19 #COVID19

 

ปิดปรับปรุงระบบ
.
เฟซบุ๊กกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ เผยแพร่ประกาศว่า
.
การเปลี่ยนแปลงที่ทำการส่วนบริการรับคำร้องหนังสือเดินทาง โดยที่กรมการกงสุล แจ้งวัฒนะ จำเป็นต้องปิดปรับปรุงระบบและสถานที่รับคำร้องหนังสือเดินทางเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย. – 3 ก.ค. 63
.
ประชาชนที่ประสงค์จะทำหนังสือเดินทางสามารถไปรับบริการได้ที่ส่วนรับคำร้องชั่วคราว ณ อาคารศูนย์บริการลูกค้า กสท. โทรคมนาคม ตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค. 63 เป็นต้นไป ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้

#กรมการกงสุล #พาสปอร์ต #ข่าวโมโน29 #MONO29NEWS #MONO29

 

ติดแท็ก "อันตราย"
.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ว่าเฟซบุ๊กเผยแพร่แถลงการณ์ของนายมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) เรื่องการยกระดับมาตรการจัดการและควบคุมการใช้งานแพลตฟอร์มเพื่อเผยแพร่เนื้อหาที่สร้างความเกลียดชัง และเป็นการปลุกระดมเพื่อให้การเกิดความรุนแรงทางการเมืองและสังคม ซึ่งเป็นพฤติการณ์ละเมิดนโยบายการใช้งานของเฟซบุ๊กอย่างชัดเจน
.
ทั้งนี้ เนื้อหาที่เฟซบุ๊กถือว่า "อันตราย" รวมถึง "การกล่าวอ้างอย่างจำเพาะเจาะจง" ต่อบุคคลกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งซึ่งมีควาแตกต่างทางเชื้อชาติ สีผิว ศาสนา เพศ และสถานะความเป็นพลเมือง ส่งผลเป็นภัยคุกคามต่อความปลอดภัยทางร่างกาย สุขภาพ หรือแม้แต่การมีชีวิตอยู่รอดของบุคคลอีกกลุ่มหนึ่ง
.
ขณะเดียวกัน เฟซบุ๊กขยายขอบเขตนโยบายปกป้องผู้ลี้ภัย ผู้อพยพ และผู้ซึ่งกำลังแสวงหาถิ่นที่อยู่อาศัย ให้รอดพ้นจากการตกเป็นเหยื่อของการคุกคามผ่านสื่อด้วย
.
สำหรับการแจ้งให้ผู้ใช้งานรายอื่นทราบนั้น เฟซบุ๊กจะใช้วิธีขึ้นแถบคำเตือนประกอบการโพสต์และสื่อโฆษณาของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือเพจใดเพจหนึ่งที่มีเนื้อหาชี้นำ ไม่เว้นแม้เป็นบุคคลมีชื่อเสียงในสังคม อาทิ นักการเมือง
.
อย่างไรก็ดี เฟซบุ๊กยังทิ้งทายด้วยการปกป้องประสิทธิภาพ ของบริษัทในการกำจัดข่าวปลอมและข้อมูลบิดเบือน โดยอ้างอิงสถิติของคณะกรรมาธิการยุโรป ว่าเฟซบุ๊กปิดกั้นการเข้าถึงเนื้อหาลักษณะนี้ 86% เมื่อปีที่แล้ว เพิ่มขึ้น 3.4% จากสถิติของปี 2561
.
ความเคลื่อนไหวดังกล่าว เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสต่อต้านที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากชนวนเหตุเรื่องการประท้วงสีผิวครั้งล่าสุด ซึ่งเป็นผลจากการเสียชีวิตของนายจอร์จ ฟลอยด์ โดยทวิตเตอร์ใช้มาตรการป้องกันกับการทวีตหลายครั้งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ แต่เนื้อหาแบบเดียวกันนั้นกลับยังไม่ได้รับการปิดกั้นบนเฟซบุ๊ก ส่งผลให้จนถึงตอนนี้มีบริษัทชั้นนำมากกว่า 90 แห่งระงับการซื้อโฆษณาให้กับยักษ์ใหญ่ของวงการโซเชียลมีเดียโลก

#เฟซบุ๊ก #ข่าวโมโน29 #MONO29NEWS #MONO29

 

เริ่มทดลองในมนุษย์
.
วันนี้ (27 มิ.ย.) สำนักข่าวซินหัวรายงาน อันเจส (Anges Inc.) สตาร์ตอัปการแพทย์สัญชาติญี่ปุ่น เปิดเผยแผนการทดลองวัคซีนโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในมนุษย์เป็นครั้งแรกของญี่ปุ่น
.
อันเจสระบุว่า คณะกรรมการโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนครโอซากา (Osaka City University Hospital) ได้อนุมัติการทดลองทางคลินิกข้างต้นอย่างเป็นทางการแล้ว และการทดลองจะเกิดขึ้นภายในโรงพยาบาลฯ
.
อันเจสจะเริ่มรับสมัครผู้เข้าร่วมการทดลองในเร็วๆ นี้ โดยเป้าหมายสำคัญ คือ การได้รับอนุญาตจากรัฐบาลญี่ปุ่นให้ผลิตและจัดจำหน่ายวัคซีนโรคโควิด-19 ภายในฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูใบไม้ร่วงของปีหน้า
.
วัคซีนโรคโควิด-19 ของอันเจสจะฉีดดีเอ็นเอรูปวงแหวน ที่ถูกตัดต่อทางพันธุกรรมเข้าสู่ตัวรับที่ผลิต “โปรตีนหนาม” (spike protein) ซึ่งเป็นคุณลักษณะเฉพาะของไวรัสโคโรนา เพื่อกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายผลิตแอนติบอดีต้านไวรัส
.
สำหรับการทดลองทางคลินิกในอนาคตอันใกล้ อันเจสจะแบ่งผู้ใหญ่สุขภาพดีที่ไม่มีประวัติติดโรคโควิด-19 เป็นสองกลุ่ม กลุ่มละ 15 คน แต่ละคนได้รับวัคซีน 2 ครั้ง ทว่ากลุ่มหนึ่งจะถูกฉีดวัคซีนในปริมาณมากกว่าอีกกลุ่ม
.
หากวัคซีนดังกล่าวได้รับการยืนยันว่าปลอดภัย อาทิ ไม่มีผลข้างเคียงร้ายแรง อันเจสวางแผนขยับขยายจำนวนผู้เข้าร่วมการทดลองเป็น 400 คน ภายในฤดูใบไม้ร่วง เพื่อตรวจสอบว่าร่างกายของผู้เข้าร่วมการทดลองได้พัฒนาแอนติบอดีหรือไม่
.
อนึ่ง รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังผลักดันการพัฒนาวัคซีนโรคโควิด-19 ภายในประเทศอย่างแข็งขัน เนื่องจากมีแนวโน้มว่าวัคซีนโรคโควิด-19 ของต่างชาติอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการที่พุ่งสูงและไม่สามารถเข้าสู่ญี่ปุ่นได้
.
#โควิด19 #วัคซีนโควิด19 #ข่าวโมโน29 #MONO29NEWS #MONO29

 

ไม่เคยนำไปปล่อย
.
วันนี้ (27 มิ.ย.) สวนงู สถานเสาวภา ได้โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจง กรณีมีการนำเสนอข่าว ว่า “สถานเสาวภาได้นำงูพิษไปปล่อย ที่ อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา จนทำให้ชาวบ้านในบริเวณดังกล่าวได้รับความเดือนร้อนเป็นอย่างมาก” นั้น “ไม่เป็นความจริงเเต่อย่างใด”
.
ทั้งนี้ สถานเสาวภา ยังได้ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและชัดเจน ระบุว่า
.
1.สถานเสาวภา “ไม่เคย” นำงูมีพิษไปปล่อยนอกสถานที่ เพราะสถานเสาวภามีระเบียบการ เรื่อง ไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ทุกคนนำงูทุกชนิดออกนอกพื้นที่ของสวนงู สถานเสาวภา
.
2. ระเบียบการขอใช้รถของสถานเสาวภาเพื่อออกไปปฏิบัติหน้าที่นอกสถานที่ โดยเฉพาะต่างจังหวัดนั้น ผู้ขอใช้รถจะต้องทำหนังสือบันทึกข้อความเพื่อแจ้งรายละเอียดการขออนุญาตใช้รถของหน่วยงานจากผู้บริหารก่อนทุกครั้ง จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการนำรถของหน่วยงานไปใช้ขนงูเพื่อไปปล่อยในพื้นที่ดังกล่าว ตามที่ได้มีการเเอบอ้างในข่าว

3. สถานเสาวภามีการทำประวัติและจัดทำบัญชีบันทึกจำนวนงูเข้า-ออก โดยมีรหัสให้งูทุกตัวที่เลี้ยงดูเเลและได้รับบริจาคเข้ามาอย่างเป็นประจำ กรณีงูตายก็จะบันทึกออกจากบัญชีและส่งเผาซากอย่างเรียบร้อย นอกจากนี้ ยังมีคณะกรรมการตรวจนับจำนวนงูเป็นประจำทุกเดือน จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ถูกตรวจสอบจากกรรมการ ถ้ามีการนำงูไปปล่อยจริงตามที่เป็นข่าว
.
4. การรับบริจาคงูในปัจจุบัน สถานเสาวภาจะไม่รับบริจาคงูเหลือมเเละงูหลาม ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือและจับงูกลุ่มนี้ออกจากบ้านของประชาชนจะต้องนำส่งที่กรมอุทยานเเห่งชาติ สัตว์ป่า เเละพันธุ์พืช และถ้าขั้นตอนตรงนี้ ทั้งสองหน่วยงานดังกล่าวไม่ประสานงานเรื่องการรับส่งงูกัน ก็อาจจะเกิดกรณีปล่อยงูในพื้นที่อื่นได้ ซึ่งก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสถานเสาวภาเเต่อย่างใด
.
5. สถานเสาวภาไม่มีหน่วยเคลื่อนที่ในการออกไปช่วยเหลือชาวบ้านจับงูหรือปล่อยงู จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีเจ้าหน้าที่ของสถานเสาวภานำงูใส่กระสอบไปปล่อยในพื้นที่ดังกล่าวได้
.
6. งูจงอางเเละงูเห่าไทยไม่สามารถผสมพันธ์ุกันได้ เนื่องจากอวัยวะเพศผู้ของงูทั้งสองชนิดมีรูปร่าง ลักษณะ และความยาวที่เเตกต่างกัน และลักษณะรูปร่าง ลักษณะภายในช่องเปิดทวารร่วมส่วนที่พองออกเป็นกระเปาะของงูเพศเมียเเต่ละชนิดก็เเตกต่างกัน เพื่อให้สอดคล้องกับรูปร่างของอวัยะเพศผู้ของงูชนิดเดียวกัน คล้ายกับเเม่กุญเเจกับลูกกุญเเจ ซึ่งก็เป็นวิธีการทางธรรมชาติในการป้องกันการผสมข้ามสายพันธุ์กัน ตามข่าวกล่าวอ้างว่ามีผู้มีความรู้เขียนเรื่องการสร้างชนิดพันธุ์งูใหม่ในธรรมชาติ จึงเป็นการให้ข้อมูลที่ขาดหลักการความเป็นจริงทางวิชาการ
.
ดังนั้น สถานเสาวภาขอยืนยันว่าไม่มีการนำงูพิษทุกชนิดไปปล่อยในพื้นที่ดังในข่าว รวมถึงพื้นที่อื่นๆ นอกสถานเสาวภา และสุดท้ายนี้ สถานเสาวภาขอแจ้งเตือนไปยังผู้ที่กระทำการแอบอ้างชื่อสถานเสาวภาดังที่ปรากฏในข่าวว่า “การแอบอ้างชื่อและสัญลักษณ์ของหน่วยงานของสภากาชาดไทยนั้นมีความผิดทางกฎหมาย”
.
#งู #ข่าวโมโน29 #MONO29NEWS #MONO29

 

อินเดียถือเป็นอีกหนึ่งประเทศใหญ่อันดับต้นๆ ของโลก ที่สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ยังคงทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดสื่อต่างประเทศรายงานว่า
.
หน่วยงานด้านสาธารณสุขของอินเดียเผยว่า ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหญ่กว่า 17,000 ราย ส่งผลให้ยอดตัวเลขสะสมทั้งประเทศอยู่ที่เกินกว่า 500,000 คนแล้ว
.
โดยพบว่าติดเชื้อรายใหม่นี้ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่เมืองสำคัญของประเทศ ซึ่งรวมถึงกรุงนิวเดลี เมืองหลวง อันเป็นเมืองสำคัญที่มีประชากรหนาแน่นอีกแห่งของประเทศ ซึ่งมียอดผู้ติดเชื้อสะสมแล้วเกือบ 80,000
.
ซึ่งอินเดียถือเป็นประเทศที่มียอดติดเชื้อโควิด-19 สะสมสูงสุดอันดับ 4 ของโลก รองจากสหรัฐฯ บราซิล และรัสเซีย ด้วยจำนวนยอดติดเชื้อรายวันที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนยอดเสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 15,685 ราย เพิ่มขึ้น 385 คนใน 24 ชั่วโมง รักษาหาย 295,880 ราย
.
ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ในอินเดียยังคงห่างไกลจากจุดพีกของการติดเชื้อ และคาดว่ายอดติดเชื้อสะสมทั้งประเทศอาจพุ่งแตะหลักล้านรายก่อนสิ้นเดือนก.ค.
.
แม้ยอดติดเชื้อสะสมยังคงพุ่งสูงขึ้น แต่รัฐบาลท้องถิ่นบางรัฐของอินเดียได้ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เมืองแล้ว เนื่องด้วยกังวลต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจ

-------------------------------
แหล่งข่าว

https://www.theguardian.com/world/l...cluster-testing-blitz-brazil-eu-travel-ban-us

https://www.aljazeera.com/news/2020...coronavirus-live-updates-200627002953075.html

https://www.thansettakij.com/conten...m_medium=internal_referral&utm_campaign=world

https://www.posttoday.com/world/627058
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDeS2riffyohV9FW2QEWjHQ

 

ตลอดหลายเดือนที่ผ่าน รัฐบาลสหรัฐอเมริกา ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ถูกวิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอด ทั้งประเด็นการจัดการโรคระบาดโควิด-19 ความสัมพันธ์กับประเทศจีน และปัญหาการประท้วงยืดเยื้อในสหรัฐฯ ที่เริ่มมาจากการใช้ความรุนแรงของตำรวจผิวขาว จนทำให้นายจอร์จ ฟลอยด์ (George Floyd) ชาวอเมริกันผิวสีเสียชีวิต
.
แต่เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา วันที่ 5 มิถุนายน 2020 มีรายงานข่าวจากกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ที่น่าช็อกอย่างมาก และทำให้สมาชิกพรรครีพับลิกันของทรัมป์ ไม่พอใจเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นรายงานข่าวที่เผยให้เห็นถึงการกระทำที่ไม่น่าเชื่อ ของคณะรัฐบาลบารัก โอบามา (Barack Obama) ในช่วงปีสุดท้าย ก่อนที่จะเปลี่ยนมาสู่รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ โดยรายงานชุดนี้จะช่วยให้ผู้อ่านได้เห็นภาพรวมว่า จะเกิดอะไรขึ้น หากรัฐบาลพรรครีพับลิกันของทรัมป์ที่กำลังย่ำแย่ในตอนนี้ เปลี่ยนไปเป็นรัฐบาลพรรคเดโมแครตของนายโจ ไบเดน (Joe Biden) ในปีหน้า
-------------------------------
แหล่งข่าว
.
เท็ด ครูซ สว.พรรครีพับลิกัน ไม่พอใจที่รัฐบาลโอบามาแอบสอดแนมทรัมป์

.
แดน บอนจิโน แฉ โอบามา ดักฟังสอดแนม ทรัมป์

https://www.realclearpolitics.com/v..._biggest_spy_scandal_in_american_history.html
.
ครอบครัวทรัมป์และทีมงาน ย้ายไปบ้านพักในเบดมินสเตอร์ รัฐนิวเจอร์ซีhttps://nj1015.com/trump-transition-team-moves-to-bedminster/
.
คณะรัฐมนตรีในรัฐบาลโอบามา เรียกร้องให้ปลดพล.ร.อ. โรเจอส์ ออกจากตำแหน่งผอ. NSA
https://edition.cnn.com/2016/11/19/politics/michael-rogers-national-security-agency/index.html
.
หน่วยข่าวกรองสหราชอาณาจักร ส่งข้อมูลการสนทนาระหว่างรัสเซีย กับบุคคลใกล้ชิดของทรัมป์
https://edition.cnn.com/2017/04/13/politics/trump-russia-british-intelligence/index.html
.
บริษัท Fusion GPS จ่าย 5 ล้านบาท ว่าจ้างบริษัท Orbis Business Intelligence ของอดีตสายลับ MI6 เพื่อรวบรวมเอกสารหลักฐาน ยื่นต่อศาล FISA Court
https://www.independent.co.uk/news/...gps-orbis-business-intelligence-a8032571.html
.
บทความ The Wall Street Journal “How Lobbyists Help Ex-Soviets Woo Washington – 17 เมษายน 2007” โดย เกลนน์ ซิมพ์สัน
http://archive.is/qXm7x
.
ข้อมูลการสนทนาบ่งชี้ พล.ท. ไมเคิล ฟลิน พยายามโน้มน้าวเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำกรุงวอชิงตันดี.ซี. สนับสนุนนโยบายอิสราเอลในเวทีสหประชาชาติ ไม่ใช่ประเด็นแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯปี 2016
https://www.jpost.com/israel-news/f...-opposed-obama-un-resolution-on-israel-631884
.
พล.ท. ไมเคิล ฟลิน เคยเตือนโอบามา กรณีกลุ่มรัฐอิสลามในซีเรีย
https://www.aljazeera.com/programme...transcript-michael-flynn-160104174144334.html
.
อดีตเจ้าหน้าที่ NSA ฟันธง หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ไม่มีหลักฐาน “รัสเซียแทรกแซงเลือกตั้ง 2016”

-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Facebook :
https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDeS2riffyohV9FW2QEWjHQ