ใครคิดว่าตนเป็นอัญญาสิทธิ์ อัญญาธรรมบ้าง

เป็นก็ได้/ไม่เป็นก็ได้/ทำตามบทบาทที่ได้รับ/พอจบงานรับอริยทรัพย์ทีเดียวเลยก็ได้

 

เหมือน Light Worker นั่นใช่มั้ยครับ
ถ้าโดยส่วนตัวผมก็พอมีเครือข่ายอยู่บ้าง
ที่ผ่านมาก็ทำๆช่วยๆไปพอสมควรแล้ว
สุดท้ายมาคิดได้ว่า สร้างคน(ฝึก) แล้วสร้างด้วยระบบเครือข่ายน่าจะเวิร์ค
ประมาณ 1 คน ได้งานวันละ 8 ชั่วโมง
100 คน ก็ได้งานวันละ 800 ชั่วโมง
ที่สอนที่ฝึกไปก็เอาไปต่อยอดพัฒนาไปเรื่อยๆ
มีตั้งแต่ สร้าง สาธาณูปโภค สร้างงานสร้างอาชีพ
ให้ความรู้ในด้านต่างๆที่จำเป็นในชีวิต ในการเรียนรู้ การงาน เรื่องที่ควรรู้อย่าง ธรรมะ สัมมาฑิกฐิ เรื่องกรรม การทำงานของระบบธรรมชาติ(กฏแห่งกรรม)
พัฒนาทางความสามารถทั้งเทคโนโลยี ทั่วไป อาวุธ การป้องกัน อุปกรณ์ทันสมัย เครื่องมือต่างๆ เพื่อทุ่นแรง
และการค้นคว้าวิจัยเพิ่มเติม ในหลายๆเรื่อง ทั้ง โลก สังคม จักรวาลอวกาศ โลกหน้า ปริทัศน์ทั้งหลาย มิติต่างๆ(ตั้งกระทู้อธิบายไว้ในนี้แล้วครับ #ค้นดูในกระทู้ที่ผมตั้งไว้อ่านเล่นๆได้) รวมถึงค้นหาสมาชิกเพิ่มจากต่างมิติ แล้วตั้งกลุ่มเครือข่าย เป็นองค์กร
ตอนนี้คร่าวๆก็มีแตกแขนงไปเยอะแล้ว
จากตอนนั้นถึงตอนนี้ก็ราวสิบปี ได้แล้ว

สำหรับผู้ที่ไม่เลือก(เชื่อ)ศาสนาก็จะได้แคลนสายวิทยศาสตร์ ซึ่งธรรมชาติจะปรับสมดุลพลังงานบวก-ลบที่เจ้าตัวสะสมไว้(f<=f> #กฏฟิสิกส์พื้นฐานเรื่องแรง ถอดความภาษาศาสนา ได้ว่า "กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นคืนสนอง) เช่น ได้ตกอยู่ในสภาวะได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ โรคระบาด ปรากฏการณ์ต่างๆ ได้ทุกรูปแบบทุกจินตนาการ ผีดิบซอมบี้ เอเลี่ยนบุก มีสิทธิได้เจอหมด(ตามแต่ความเชื่อของใครของมัน *ตามกฏแรงดึงดูด) สุดแล้วแต่กรรม ถ้าสามัญๆธรรมดาๆ ก็อาจแจคพอร์ตแค่ประสบภัยพิบัติหรือโรคระบาดด้วยตัวเอง แต่ผู้ไม่เชื่อศาสนาและไม่เคารพธรรมชาติ ก็มักปลอบใจตัวเองประมาณว่ามันเพราะ "ความบังเอิญ"

 

มีบุคลากรครบทุกแขนง/ต่างก็ทำหน้าที่กันอยู่/ทั้งรู้ตัวเองและไม่รู้ตัวเองก็มี/ถึงเวลาอันสมควรทุกอย่างจะปรากฏให้เห็น/มีกลุ่มที่สามารถติดต่อกับเหล่ากายทิพย์ได้จริงก็มี/กลุ่มที่มโนวิปลาสก็มี/ทุกอย่างเป็นไปเพื่องาน/เป็นไปเพื่อการหลอกล่อ

 

ผมพร้อม แต่ดูเหมือนว่า โลกยังไม่พร้อม ที่จะไว้วางใจใครซักคน