ไม่รู้จักกัน

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย อนัตตา, 4 มกราคม 2019.

  1. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    "...วิชาไสยเวทวิทยาคม เป็นเพียงโลกียวิชาเท่านั้น ไม่ใช่วิชาประเสริฐ ธรรมดาพระเณรที่บำเพ็ญด้านกรรมฐานจนบรรลุธรรมแก่กล้า ได้ฌาณสมาบัติ ได้วิโมกข์ ได้อภิญญาจิต ข้อใดข้อหนึ่งแล้ว คิดจะสงเคราะห์ชาวบ้านเมื่อไร ไม่จำเป็นต้องมีเวทมนต์คาถาเลย เพียงแค่อธิษฐานจิต.ขอบารมีพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ ให้ช่วยขจัดปัดเป่าปัญหานั้นๆๆ ก็จะสำเร็จประโยชน์ในพริบตา..."

    โอวาทธรรมคำสอน..
    องค์หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ
    วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    " ธรรมชาติของเต่าจะฝืนเอาที่ไม่มีน้ำคือโคกและดงดอนมาเล่าให้ปลาฟังสักเท่าใดก็ดี.

    ปลาก็ไม่เข้าใจและไม่เชื่อสนิทใจได้อยู่นั้นเอง. เพราะปลาเคยแหวกว่ายแต่อยู่ในน้ำจนเคยชินติดนิสัย.

    เป็นพหุลกรรม กรรมเคยชิน มีกรรมและผลของกรรมเชื่อมโยงกันอยู๋. ทุกขณะวินาที ทุกขณะใจ... "

    หลวงปู่หล้า เขมปัตโต
    เทิดไว้เหนือเศียรเกล้า ด้วยเกล้า สาธุ.
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    “อาตมามีเมียมีลูกแล้ว จึงได้ลาครอบครัวออกบวช เพราะได้ลิ้มรสความรักแล้วเห็นว่าความรักเป็นความทุกข์อันแสบเผ็ดร้ายกาจเป็นพิษร้ายแก่ชีวิตจิตใจ ทำให้ทุรนทุรายดิ้นรนไม่รู้จักจบสิ้น ความสุขที่เกิดจากความรักความเสน่หา เป็นความสุขเหมือนได้กินส้มตำแสบเผ็ดเอร็ดอร่อย แต่ผสมยาพิษเข้าไปด้วยทำให้เกิดอาการอึดอัด ท้องไส้ปั่นป่วนทุกข์ทรมานในภายหลังคนเราใคร ๆ ก็ปรารถนาความสมหวังในชีวิตรัก แต่เมื่อรักกันอยู่ด้วยกันแล้ว ความรักไม่เคยให้ความสมปรารถนาแก่ใครถึงครึ่งหนึ่งแห่งความปรารถนาเลย เพราะความรักนั้นเป็นธาตุที่ไม่เที่ยงไม่ยั่งยืนมีสุขน้อยแต่มีทุกข์มาก !”

    ...หลวงปู่จันทา ถาวโร...
    _/|\_ _/|\_ _/|\_
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    เอามาฝากสำหรับผู้ที่มีใจรักในการฝึกตนเพื่อให้พ้นกิเลสค่ะ:D

    ขี้เกียจเปิดกระทู้ใหม่นะ มันจะเยอะ เลอะเทอะพื้นที่หน่วยความจำของเวป เอามาวางในนี้แหละ

    ใครได้มาพบเจอและอ่าน ก็ถือว่ามีบุญสัมกันธ์กันนะ:D

    ;););););)
     
  5. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    หลักสมถวิปัสสนา
    "ของหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล"

    หลักสมถวิปัสสนาของหลวงปู่เสาร์ พิจารณากายแยกออกเป็นธาตุ ๔ ดิน น้ำ ลม ไฟ

    หลักการสอนท่านก็สอนในหลักของสมถวิปัสสนา ดังที่เราเคยได้ยินได้ฟังกันมาแล้วนั้น แต่ท่านจะเน้นหนักในการสอนให้เจริญพุทธคุณเป็นส่วนใหญ่

    เมื่อเจริญพุทธคุณจนคล่องตัวจนชำนิชำนาญแล้ว ก็สอนให้พิจารณากายคตาสติ เมื่อสอนให้พิจารณากายคตาสติ พิจารณาอสุภกรรมฐาน จนคล่องตัวจนชำนิชำนาญแล้ว ก็สอนให้พิจารณาธาตุกรรมฐาน ให้พิจารณากายแยกออกเป็นธาตุ ๔ ดิน น้ำ ลม ไฟ แล้วก็พยายามพิจารณาว่า ในร่างกายของเรานี้ไม่มีอะไร มีแต่ธาตุ ๔ ดิน น้ำ ลม ไฟ ประชุมกันอยู่เท่านั้น หาสัตว์บุคคลตัวตนเราเขาไม่มี
     
  6. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    ในเมื่อฝึกฝนอบรมให้พิจารณาจนคล่องตัว จิตก็จะมองเห็นสิ่งที่ไม่มีตัวตน คือเห็นว่าร่างกายนี้ ไม่ใช่ตัว เป็นอนัตตาทั้งนั้น

    จะมีตัวมีตนในเมื่อแยกออกไปแล้ว มันก็มีแต่ธาตุ ๔ ดิน น้ำ ลม ไฟ สัตว์บุคคลตัวตน เราเขาไม่มี แต่อาศัยความประชุมพร้อมของธาตุ ๔ ดิน น้ำ ลมไฟ มีปฏิสนธิจิตปฏิสนธิวิญญาณมายึดครองอยู่ในร่างอันนี้ เราจึงสมมุติบัญญัติว่าสัตว์บุคคลตัวตนของเรา อันนี้เป็นแนวการสอนของพระอาจารย์เสาร์, พระอาจารย์มั่น และพระอาจารย์สิงห์
     
  7. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    การพิจารณาเพียงแค่ว่าพิจารณากายคตาสติก็ดี พิจารณาธาตุกรรมฐานก็ดี ตามหลักวิชาการท่านว่าเป็นอารมณ์ของสมถกรรมฐาน แต่ท่านก็ย้ำให้พิจารณาอยู่ในกายคตาสติกรรมฐานกับธาตุกรรมฐานนี้เป็นส่วนใหญ่

    ที่ท่านย้ำๆ ให้พิจารณาอย่างนี้ ก็เพราะว่าทำให้ภูมิจิต ภูมิใจของนักปฏิบัติก้าวขึ้นสู่ภูมิแห่งวิปัสสนาได้เร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพิจารณากายคตาสติ แยก ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก เป็นต้น ออกเป็นส่วนๆ เราจะมองเห็นว่า ในกายของเรานี้ก็ไม่ใช่ตัว ไม่ใช่ตน มันเป็นแต่เพียง ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูกเท่านั้น ถ้าว่ากายนี้เป็นตัวเป็นตน ทำไมจึงจะเรียกว่าผม ทำไมจึงจะเรียกว่าขน ทำไมจึงจะเรียกว่าเล็บ ว่าฟัน ว่าเนื้อ ว่าเอ็น ว่ากระดูก ในเมื่อแยกออกไปเรียกอย่างนั้นแล้ว มันก็ไม่มีสัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา
     
  8. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    นอกจากนั้น ก็จะมองเห็นอสุภกรรมฐาน เห็นว่าร่างกายนี้เต็มไปด้วยของปฏิกูล น่าเกลียด โสโครก น่าเบื่อหน่าย ไม่น่ายึดมั่นถือว่าเป็นอัตตาตัวตน แล้วพิจารณาบ่อยๆ พิจารณาเนืองๆ จนกระทั่งจิตเกิดความสงบ สงบแล้วจิตจะปฏิบัติตัวไปสู่การพิจารณาโดยอัตโนมัติ ผู้ภาวนาก็เริ่มจะรู้แจ้งเห็นจริงในความเป็นจริงของร่างกายอันนี้
     
  9. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพิจารณาธาตุ ๔ ดิน น้ำ ลม ไฟ พิจารณากายแยกออกเป็นส่วนๆ ส่วนนี้เป็นดิน ส่วนนี้เป็นน้ำ ส่วนนี้เป็นลม ส่วนนี้เป็นไฟ เราก็จะมองเห็นว่าร่างกายนี้สักแต่ว่าเป็นดิน เป็นน้ำ เป็นลม เป็นไฟ สัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขาไม่มี ก็ทำให้จิตของเรามองเห็นอนัตตาได้เร็วขึ้น เพราะฉะนั้นการเจริญกายคตาสติก็ดี การเจริญธาตุกรรมฐานก็ดี จึงเป็นแนวทางให้จิตดำเนินก้าวขึ้นสู่ภูมิแห่งวิปัสสนาได้
     
  10. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    และอีกอันหนึ่ง อานาปานสติ ท่านก็ยึดเป็นหลักการสอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรรมฐานอานาปานสติ การกำหนดพิจารณากำหนดลมหายใจนั้น จะไปแทรกอยู่ทุกกรรมฐาน จะบริกรรมภาวนาก็ดี จะพิจารณาก็ดี ในเมื่อจิตสงบลงไป ปล่อยวางอารมณ์ที่พิจารณาแล้ว ส่วนใหญ่จิตจะไปรู้อยู่ที่ลมหายใจเข้าออก ในเมื่อจิตตามรู้ลมหายใจเข้าออก กำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกอยู่เป็นปกติ จิตเอาลมหายใจเป็นสิ่งรู้สติเอาลมหายใจเป็นสิ่งระลึก ลมหายใจเข้าออกเป็นไปตามปกติของร่างกาย เมื่อสติไปจับอยู่ที่ลมหายใจ ลมหายใจก็เป็นฐานที่ตั้งของสติ ลมหายใจเป็นสิ่งที่เกี่ยวเนื่องด้วยกาย สติไปกำหนดรู้อยู่ที่ลมหายใจเข้าออก จดจ่ออยู่ที่ตรงนั้น วิตกถึงลมหายใจ มีสติรู้พร้อมอยู่ในขณะนั้น จิตก็มีวิตกวิจารอยู่กับลมหายใจ เมื่อจิตสงบลงไป ลมหายใจก็ค่อยละเอียดๆ ลงไปเรื่อยๆ
     
  11. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    จนกระทั่งในที่สุดลมหายใจหายขาดไป เมื่อลมหายใจหายขาดไปจากความรู้สึก ร่างกายที่ปรากฏว่ามีอยู่ก็พลอยหายไปด้วย ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ถ้าหากว่าลมหายใจยังไม่หายขาดไป กายก็ยังปรากฏอยู่ เมื่อจิตตามลมหายใจเข้าไปข้างใน จิตจะไปสงบนิ่งอยู่ในท่ามกลางของกาย แล้วก็แผ่รัศมีออกมารู้ทั่วทั้งกาย จิตสามารถที่จะมองเห็นอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกายได้หมดทั้งตัว เพราะลมย่อมวิ่งเข้าไปที่ส่วนต่างๆ ของร่างกาย ลมวิ่งไปถึงไหนจิตก็รู้ไปถึงนั่น ตั้งแต่หัวจรดเท้า ตั้งแต่เท้าจรดหัว ตั้งแต่แขนซ้ายแขนขวา ขาขวาขาซ้าย เมื่อจิตตามลมหายใจเข้าไปแล้ว จิตจะรู้ทั่วกายหมด
     
  12. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    ในขณะใดกายยังปรากฏอยู่ จิตสงบอยู่ สงบนิ่ง รู้กว้างอยู่ในกาย วิตก วิจาร คือจิตรู้อยู่ภายในกาย สติก็รู้พร้อมอยู่ในกาย ในอันดับนั้นปีติและความสุขย่อมบังเกิดขึ้น

    เมื่อปีติและความสุขบังเกิดขึ้น จิตก็เป็นหนึ่ง นิวรณ์ ๕ กามฉันทะ พยาบาท ถีนมิทธะ อุทธัจจกุกกุจจะ วิจิกิจฉา ก็หายไป จิตกลายเป็นสมถะ มีพลังพอที่จะปราบนิวรณ์ ๕ ให้สงบระงับไป ผู้ภาวนาก็จะมองเห็นผลประโยชน์ในการเจริญสมถกรรมฐาน
     
  13. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    ที่มาของบทความบันทึกตามคำบอกเล่าของพระราชสังวรญาณ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย) ( พุทธศักราช ๒๓๐๓ - ๒๔๘๔ )
    *******************************************
    ขออนุโมทนาขอขอบคุณและ ขออนุญาตนำ
    มาเผยแผ่เป็นธรรมทานแก่ผู้ที่มีความศรัทธา

    _/|\_ _/|\_ _/|\_
     
  14. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    ท่านพ่อลี สอนว่า ....

    "พระอริยะ ท่านไม่ยึดถือในอาการกิริยา ในการทำการพูด การคิดทั้งหมด

    กายสังขาร ดับ ใจว่างเปล่า เหมือนอากาศธาตุ แต่คนธรรมดาเรามายึดถือในการพูดจา ยืน เดิน นั่ง นอนทุกอย่าง มันจะไม่หนักอย่างไร พระอริยะท่านวางหมด ท่านก็สบาย จะเดินนานท่านก็ไม่เหนื่อย จะนั่งนานท่านก็ไม่เมื่อย จะทำอะไรทุกประการท่านก็ไม่หนัก

    คนหนักก็คือคนที่แบกไว้ต่างหาก"
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    #พระบรมศาสดาเจ้า_ทรงตั้งชัยภูมิไว้ในธรรมข้อไหน.. ?

    เมื่อพิจารณาปัญหานี้ได้ความขึ้นว่า พระองค์ทรงตั้งมหาสติปัฏฐานเป็นชัยภูมิ อุปมาทางโลก การรบทัพชิงชัย มุ่งหมายชัยชนะจำต้องหาชัยภูมิ ถ้าได้ชัยภูมิที่ดีแล้วย่อมสามารถป้องกันอาวุธของข้าศึกได้ดี

    ณ. ที่นั้นสามารถรวบรวมกำลังใหญ่เข้าฆ่าฟันข้าศึกให้ปราชัยพ่ายแพ้ไปได้ ที่เช่นนั้นท่านจึงเรียกว่า ชัยภูมิ คือที่ประกอบไปด้วยค่ายคูประตูและหอรบอันมั่นคงฉันใด อุปไมยในทางธรรมก็ฉันนั้น

    ที่เอามหาสติปัฏฐานเป็นชัยภูมิ ก็โดยผู้ที่เข้าสู่สงครามรบข้าศึกคือกิเลส ต้องพิจารณากายานุปัสสนาสติปัฏฐานเป็นต้นก่อน เพราะคนเราที่จะเกิดกามราคะเป็นต้นขึ้นก็เกิดขึ้นที่กายและใจ

    เพราะตาแลไปเห็นกายทำให้จิตใจกำเริบ เหตุนั้นจึงได้ความว่ากายเป็นเครื่องก่อเหตุ จึงต้องพิจารณาที่กายนี้ก่อน จะได้เป็นเครื่องดับนิวรณ์ทำใจให้สงบได้

    ณ ที่นี้พึงทำให้มาก เจริญให้มาก คือพิจารณาไม่ต้องถอยเลยทีเดียว ในเมื่ออุคคหนิมิตปรากฏ จะปรากฏกายส่วนไหนก็ตาม ให้พึงถือเอากายส่วนที่ได้เห็นนั้นพิจารณาให้เป็นหลักไว้ ไม่ต้องย้ายไปพิจารณาที่อื่น จะคิดว่าที่นี่เราเห็นแล้ว ที่อื่นยังไม่เห็น ก็ต้องไปพิจารณาที่อื่น เช่นนี้หาควรไม่

    ถึงแม้จะพิจารณาจนแยกกายออกมาเป็นส่วนๆ ทุกๆ อาการอันเป็นธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ ได้อย่างละเอียดที่เรียกว่าปฏิภาคก็ตาม ก็ต้องพิจารณากายที่เราเห็นทีแรกด้วยอุคคหนิมิตนั้นจนชำนาญ ที่จะชำนาญได้ก็ต้องพิจารณาซ้ำแล้วซ้ำอีก ณ ที่เดียวนั้นเอง เหมือนสวดมนต์ฉะนั้น

    อันการสวดมนต์เมื่อเราท่องสูตรนี้ได้แล้ว ทิ้งเสียไม่ท่องไม่สวดไว้อีก ก็จะลืมเสียไม่สำเร็จประโยชน์อะไรเลย เพราะไม่ทำให้ชำนาญด้วยความประมาทฉันใด การพิจารณากายก็ฉันนั้นเหมือนกัน เมื่อได้อุคคหนิมิตในที่ใดแล้วไม่พิจารณาในที่นั้นให้มากปล่อยทิ้งเสียด้วยความประมาท ก็ไม่สำเร็จประโยชน์อะไรอย่างเดียวกัน

    การพิจารณากายนี้มีที่อ้างมาก ดังในการบวชทุกวันนี้เบื้องต้นต้องบอกกรรมฐาน ๕ ก็คือกายนี้เองก่อนอื่นหมดเพราะเป็นของสำคัญ ท่านกล่าวไว้ในคัมภีร์พระธรรมบทขุททกนิกายว่า

    อาจารย์ผู้ไม่ฉลาด ไม่บอกซึ่งการพิจารณา อาจทำลายอุปนิสัยแห่งพระอรหัตของกุลบุตรได้ เพราะฉะนั้นในทุกวันนี้จึงต้องบอกกรรมฐาน ๕ ก่อน

    อีกแห่งหนึ่งท่านกล่าว่า พระพุทธเจ้าทั้งหลาย พระขีณาสวะเจ้าทั้งหลาย ชื่อว่าจะไม่กำหนดกาย ในส่วนแห่งโกฐาส (ส่วนของร่างกาย) ใดโกฐาสหนึ่งมิได้เลย จึงตรัสแก่ภิกษุ ๕๐๐ รูป ผู้กล่าวถึงแผ่นดินว่า

    บ้านโน้นมีดินดำดินแดงเป็นต้นนั้นว่า นั่นชื่อว่า พหิทฺธา แผ่นดินภายนอก ให้พวกท่านทั้งหลายมาพิจารณา อัชฌัตติกา แผ่นดินภายใน กล่าวคืออัตภาพร่างกายนี้ ให้พิจารณาไตร่ตรองให้แยบคายกระทำให้แจ้งแทงให้ตลอด เมื่อจบการวิสัชนาปัญหานี้ ภิกษุทั้ง ๕๐๐ รูปก็บรรลุพระอรหัตผล

    เหตุนั้นการพิจารณากายนี้จึงต้องเป็นของสำคัญ ผู้ที่จะพ้นทุกข์ทั้งหมดล้วนแต่ต้องพิจารณากายนี้ทั้งสิ้น จะรวบรวมกำลังใหญ่ได้ต้องรวบรวมด้วยการพิจารณากาย แม้พระพุทธเจ้าจะได้ตรัสรู้ทีแรกก็ทรงพิจารณาลม ลมจะไม่ใช่กายอย่างไร.. !!

    เพราะฉะนั้น มหาสติปัฏฐานมีกายานุปัสสนาเป็นต้น จึงชื่อว่า “ชัยภูมิ”

    เมื่อเราได้ชัยภูมิดีแล้ว กล่าวคือ ปฏิบัติตามหลักมหาสติปัฏฐานจนชำนาญแล้ว ก็จงพิจารณาความเป็นจริงตามสภาพแห่งธาตุทั้งหลายด้วยอุบายวิปัสสนาซึ่งจะกล่าวข้างหน้า

    #พระอาจารย์มั่น_ภูริทัตโต
    **************************
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    สถานที่วุ่นวายก็ไม่ควรอยู่ซิ
    สัปปายะ4 วิเวก4 ล้วนมีใจเป็นใหญ่ มีใจเป็นประธาน หากยังอิงอามิสอยู่ ก็ช่วยไม่ได้นะ

    ไม่มีใครควบคุมใครได้ทั้งนั้น เพราะทุกคนก็ยังอยู่ในอนัตตลักษณะ ยังยอมรับไตรลักษณะไม่ได้ ก็เวียนว่ายในสงสารต่อไป
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    จงมีใจที่ว่างจากสิ่งรบกวน
    อะไรที่มันจะเข้ามารบกวน ก็ปิดประตูไม่ต้อนรับซะ

    ง่ายๆ ไม่มีการสู้รบ ไม่มีแพ้ ไม่มีชนะ
    จะไปหาความไม่เที่ยงมากวนใจทำไม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    เพราะทุกขเวทนามีเกิดแล้วก็ดับ ตอนที่มันเกิดก็ร้องว่าไม่เอาแล้ว ไม่อยากเกิดอีกแล้ว พอมันดับก็ลืม ลืมรสของทุกขเวทนา เพราะทุกขเวทนาดับ สุขเวทนาก็เกิด...มันเป็นอย่างนี้ คำว่า"เข็ด" จึงมาช้า
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    ....จาก fc นิรุตติ์ ศิริจรรยา

    จงอย่าโกรธคนไม่ดี
    ที่จริงเขาก็อยากดีเหมือนกัน
    แต่เขาไม่เข้าใจว่า..
    อะไรเป็นความดี…อะไรคือไม่ดี...

    จะตำหนิ ติเตียนใคร
    ก็จงดูตนเองเสียก่อน
    อย่าให้เขาย้อนว่าเราได้

    จงจำไว้ว่า..
    เงินทองเป็นของนอกกาย
    พ่อ แม่ สุขใจ เมื่อพี่น้องรักกัน

    ทรัพย์สมบัติ..
    ไม่ใช่สิ่งจำเป็นที่พ่อแม่จะให้แก่ลูก
    ความรู้และความประพฤติดีเท่านั้น
    ที่พ่อแม่ควรมอบให้แก่ลูก…อันเป็นที่รัก

    จงหาความสุขกับปัจจุบัน
    อย่าใฝ่ฝันถึงอนาคต
    อย่าหมกอยู่กับอดีต จะทุกข์

    โชค…เข้าข้างผู้ที่มีความอ่อนน้อมเสมอ
    ถ้าเป็นผู้น้อยที่นอบน้อมผู้ใหญ่ ใคร ๆ ก็รัก
    ถ้าเป็นผู้ใหญ่ที่เข้าใจผู้น้อย
    ผู้น้อยก็มีความภักดี

    ถ้าประพฤติดี
    ก็จะพบกับคนประพฤติดี
    ถ้าประพฤติชั่ว
    ก็จะพบกับคนประพฤติชั่ว
    ขอให้เลือกคบให้ถูกต้องเถิด
    จักเป็นคนที่โชคดี

    อย่ากลัวไปเลยว่า จะได้แต่งงานกับคนไม่ดี
    ถ้าไม่สูบ ไม่ดื่ม ไม่เล่น ไม่เที่ยว
    ก็จะพบคู่ครอง..
    ที่ไม่สูบ ไม่ดื่ม ไม่เล่น ไม่เที่ยวเช่นกัน

    จงสนุกกับการใช้เงิน และพร้อมกันนั้น
    ต้องสนุกกับการเก็บรักษาเงินด้วย
    และยิ่งกว่านั้น..
    ต้องสนุกกับการหาเงินอย่างไม่เป็นทุกข์
    คือ หาด้วยความถูกต้อง

    การกระทำของตนเอง บางครั้งยังไม่ถูกใจตนเอง
    แล้วจะให้คนอื่นทำถูกใจเราเสมอไป ได้อย่างไร
    คิดแค่นี้ก็จะไม่โกรธคนอื่น

    บาปและบุญทั้งปวงที่กำลังทำในขณะนี้
    สักวันหนึ่งจักรวมตัวกันมาสนองแก่ตนเอง
    สิ่งที่ได้รับอยู่ทุกวันนี้
    เป็นผลจากการกระทำของตนเองทั้งสิ้น...

    ............................................................
    บทความดีๆจาก : คำพ่อสอน
    #เเอดมินเเนน#
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    #ปาฏิหาริย์ท่านพ่อลี ... "อรหัง พุทโธ อิติปิโส ภควา นมามิหัง

    ...เมื่อค่ำวานนี้ (วันอังคารที่ ๑๗ พ.ย.๖๓) เวลาประมาณ ๑๙.๐๐ เกิดเพลิงไหม้กุฏิที่พักในเขตอุบาสิกา บริเวณ ซ.๑๑ วัดอโศการาม เพลิงได้ลุกไหม้อย่างรุนแรง แต่เปลวเพลิงไม่ได้ทำอะไรที่เป็นอันตรายกับกุฏิรอบข้างแต่อย่างใด มีผู้บาดเจ็บจากเพลิงไหม้ในครั้งนี้เป็นอุบาสิกา ๑ ท่าน

    รุ่งเช้าวันนี้ พนักงานตำรวจ, สำนักพุทธศาสนาแห่งชาติจังหวัดสมุทรปราการ, เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ และได้ตรวจตราความเสียหายต่างๆ ผลปรากฏว่าเพลิงไฟได้เผาไหม้กุฏิวอดทั้งหลัง ซึ่งก็รวมไปถึงสิ่งของต่างๆ ที่เป็นทั้งโลหะและวัตถุต่างๆ

    แต่สิ่งหนึ่งที่ทางเจ้าหน้าที่ได้พบในกองเศษเถ้าถ่านในครั้งนี้คือ ***ล็อคเกตของท่านพ่อลี ที่มีแต่คราบเขม่าสีดำ และรูปหล่อท่านพ่อลีปางธุดงค์ ที่เพลิงไฟมิได้ทำความเสียหายบนล็อคเกตและรูปหล่อแต่อย่างใด

    *** ขณะนี้ล็อคเกตและรูปหล่อลอยองค์นั้น ได้ฝากไว้ที่ญาติของผู้บาดเจ็บเรียบร้อยแล้ว

    *** อรหัง พุทโธ อิติปิโส ภควา นมามิหัง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...