เรื่องเด่น พุทธทำนาย ยุคกึ่งพุทธกาล จะเกิดภัยพิบัติและสงครามใหญ่ (ปีพ.ศ. 2560 เป็นต้นไป)

เฮ้อ!! หมดหวังกับดินแดนนี้จริงๆ มันเป็นเรื่องปกติสำหรับดินแดนใดดินแดนหนึ่งใช่ไม่!?
ที่จะมีอะไรครบเครื่อง
มีตั้งแต่ทำลายชีวิตไปจนถึงทำลายพระไตรปิฏก!

 

พุทธทำนาย

จากศิลาจารึกในมหาวิหารเจตมหาเชตวัน ณ สวนมฤคทายวัน ประเทศอินเดีย
โดยคณะฑูตไทยที่ไปอันเชิญพระบรมสารีริกธาตุเมื่อปี พ.ศ.2485

อรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นพระสัพพัญญูรู้แจ้งโลกทั้งในอดีตและใน อนาคต ทรงมีเมตตากรุณาแก่สัตว์โลกเป็นล้นพ้นเมื่อครั้งพระองค์ดำรงพระชนม์อยู่ ได้ตรัสแก่พระอานนท์ว่า


อานันทะ ดูก่อนอานนท์ก่อนกึ่งพุทธกาล ๑๕ ปี (ก่อน พ.ศ. 2560)
จะเกิดการณ์ร้ายแรง จะมีการรบราฆ่าฟันซึ่งกันและกัน
ฝนเหล็กจะตกจากอากาศ ไฟจะลงมาจากอากาศ
จะเผาผลาญประชาชนให้พินาศ จะมีการล้มตายซึ่งกันและกันเป็นอันมาก

ดูก่อนอานนท์ เมื่อศาสนาของของตถาคต ล่วงเลยไปก่อนกึ่งพุทธกาล ๑๕ ปี (ก่อน พ.ศ. 2560)
สัตว์โลกทั้งหลาย ที่เกิดในยุคนั้น จะพบแต่ความลำบาก ทุกชาติทุกศาสนา
ตามธรรมชาติอันหมุนเวียนของโลก ที่หมุนไปใกล้ความแตกสลาย
แผ่นดินแผ่นน้ำจะลุกเป็นไฟ มนุษย์และสัตว์จะได้ รับภัยพิบัติสารพัดทั่วทุกทิศ
คนในสมัยนั้นจะมีนิสัยโหด ดุจกำเนิดจากสัตว์ป่าอำมหิต
จะรบราฆ่าฟันกันเอง ถึงเลือดนองแผ่นดินแผ่นน้ำ

ส่วนเวไนยสัตว์ ผู้ขวนขวายในกุศลตามวจนะของตถาคต ก็จะระงับร้อนไม่รุนแรง
บ้านเมืองใดมีความเคารพยำเกรงใน พระรัตนตรัยและคุณบิดามารดา
เหตุร้ายภัยพิบัติจะเบาบาง แต่ก็จะหนีกฎธรรมชาติไม่พ้น
แต่ว่า ดูก่อนอานนท์ก่อนกึ่งพุทธกาล ๑๕ ปี จะถือว่าเป็นการณ์ร้ายแรงหาได้ไม่
ทั้งนี้ก็เพราะว่าหลังกึ่งพุทธกาลไปแล้วนั้น

อานันทะ ดูก่อนอานนท์ หลังกึ่งพุทธกาล (ช่วงหลัง พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป)
จะมีความร้ายแรงมากกว่าก่อนกึ่งพุทธกาลมาก
ยักษ์นอกพุทธศาสนาจะรบราฆ่าฟันซึ่งกันและกัน ต่างฝ่ายจะล้มตายกันฝ่ายละมาก ๆ
สมณะ ซี พราหมณ์ จะล้มตาย จะตายไปฝ่ายละครึ่งจึงเลิกรากัน
สำหรับประเทศที่นับถือพุทธศาสนาจะมีภัยเหมือนกัน แต่ไม่ร้ายแรงนัก

เริ่มแต่พุทธศาสนาล่วงเลย 2,500 ปี เป็นต้นไป (ช่วงหลัง พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป)
ไฟจะรุกรามมาทางทิศตะวันออก ไหม้วัดวาอาราม สมชีพรามณ์จะอดอยากยากเข็ญ
ลูกไฟจะตกจากฟ้าเป็นเพลิงผลาญ เหล็กกล้าจะทะยานจากน้ำ มหาสมุทธจะชอกซ้ำ

สงครามจากทั่วทิศศึกจะติดเมือง ข้าวจะขาดแคลนทั่วแคล้นจะอดอยาก
ผีโขมดป่าจะเข้าเมือง พระเสื้อเมือง ทรงเมือง จะหนีเข้าไพร
ผู้เป็นใหญ่มีอำนาจ จะเรียกแมลงผีเสื้อเหล็กนับแสนตัว มาปล่อยไข่เป็นไฟผลาญ
ยักษ์หินที่ถูกสาบเป็นเวลานาน จะตื่นขึ้นมาอาละวาทโลก

ดินฟ้าอากาศจะแปรปรวน ตลิ่งจะพัง แผ่นดินจะถล่มเป็นทะเล
โลกมนุษย์จะดิ่งสู่ความหายนะ นักปราชญ์จะถูกทำร้ายให้สิ้นสูญ

ในระยะนั้นศาสนาของตถาคตจะเสื่อมลงมาก เพราะพุทธบริษัท ไม่ต้องอยู่ในศีลธรรม
เชื่อคำคนโกง กล่าวคำเท็จ ไม่เคารพรักธรรมนิยม คนประจบ สอพลอได้รับความเชื่อถือในสังคม
ผู้ที่มีศีลธรรม ประพฤติดี ประพฤติชอบ กลับไม่มีใครเคารพยำเกรง

พระธรรมจะเริ่มเปล่งรัศมีฉายแสงส่องโลกอีกวาระหนึ่งก็ต่อเมื่อ
มีธรรมิกราชโพธิญาณบังเกิดขึ้น อยู่ในความอุปถัมภ์ของพระเถระผู้ทรงธรรมฤทธิ์
ทั้งสองพระองค์สถิตย์ ณ เบื้องต้นตะวันออกของมัชฌิมประเทศ
จะเสด็จมาเสริมสร้างศาสนาของตถาคต ให้รุ่งเรืองสืบไปถึง 5,000 พระวัสสา

ดูก่อนอานนท์ เวลานั้นพลโลกเหลือน้อยมาก
คำทำนายของตถาคตนี้ ย่อมยังเวไนยสัตว์ให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท
ผู้ใดรู้แล้วไม่เชื่อ นับว่าเป็นกรรมของสัตว์ ที่ต้องสิ้นสุดไปตามกรรมชั่วของตน

ผู้ใดปรารถนารอดพ้นจากภัยพิบัติ ให้รักษาศิล 5 ประการ
เจริญเมตตาภารนา ประกอบสัมมาอาชีพ มีใจสันโดดรู้จักพอ
ไม่โป้ปดคตโกง ไม่หลงมัวเมาอำนาจและลาภยศ
ตั้งใจปฏิบัติตน ตามคำสอนของตถาคตให้มั่นคง
จึงจะพ้นอันตรายในกึ่งพุทธกาล
















จากทิศทางของ ศิลาจารึกปรากฎที่ระบุไว้ในสวนป่าฯ คือทางทิศตะวันออกของมัชฌิมประเทศ จะสามารถสังเกตุได้ว่า ประเทศนั้น ก็ประเทศไทยเพียงประเทศเดียวเพียงเท่านั้น ที่อยู่ทางทิศตะวันออกสุด มีศรัทธาและเรื่องราวใกล้ชิดมากที่สุด มีความเชื่อต่อพุทธทำนายมากที่สุด

ไม่สามารถเป็นประเทศอื่นได้เลย นับตั้งแต่พระพุทธศาสนาสูญสิ้นไปจากอินเดีย พระพุทธศาสนาในประเทศไทยก็งอกงาม ตามเรื่องราวการส่งสมณะทูตกลับไปเผยแผ่พระพุทธศาสนา


เมื่อมีหลักฐานที่ชี้ชัดแม่นยำขนาดนี้ ทั้งสองรูป ท่านอยู่แห่งหนใดกันหนอ "เบื้องต้น"ในที่นี้ หมายถึงจังหวัดที่มีอาณาเขตติดต่อชายแดนทั่วประเทศ หรือไม่?

 

เท่าที่เคยเห็นพอเกิดเหตุการณ์และปรากฎการณ์ต่างๆ มักจะมีนักวิทยศาสตร์สายมโนผู้ที่อธิบายสิ่งที่รู้หรือไม่รู้ หรือรู้แล้วก็ไม่กล้าเปิดเผยและไม่กล้าอธิบาย ถ้าอธิบายก็อธิบายแบบจับแพะชนแกะมีอีกมากมาย

เราก็อยากจะจับแพะชนแกะในเรื่องนี้กับเขาบ้าง ขอมั่วกับเขาสักเรื่องที่สงสัยมานาน ในเรื่องที่ต้องไขความ ลองเป็นสายมโนกับเขาบ้าง

" ถ้าจะมืดไป 7 วัน ในวันฟ้าดับ มันก็คงจะจากเกิดแบล็คโฮลในโลกหรือนอกโลกที่ดูดกลืนแสง แบบรุนแรงมากๆ แต่ว่าเพียงชั่วคราว! ดับในที่นี้ ดับทั้งโลกไหม ถ้าดับทั้งโลก ไม่ว่าจะเกิดตามธรรมชาติหรือผู้มีฤทธิ์บันดาลก็ดี แสดงว่า ในแนววงแหวนอัลเลน มีระบบสูญญากาศกำเนิดเกิดขึ้นแน่ๆ อาจจะเป็นไปเพื่อป้องกันโลก หรือเพื่อทำลายโลก หรือเป็นผลกระทบจาก หลังจากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด พายุ น้ำท่วมขนาดใหญ่ ฯลฯ และก็คงมีแต่เราอีกที่เรียกแบล็คโฮลว่า "อสุรินราหู" ไม่ใช่เป็นแค่เงาลอยไปลอยมาบดบังกันแล้วเรียกสุริยะคราสหรือจันทคราส แล้วเรียกว่า"ราหู" มันจะต้องกลืนจะต้องกินจริงๆ ไม่ใช่แค่มาอมเล่นเหมือนลูกกวาดแล้วบ้วนทิ้งแล้วก็จากไป


เรื่อง ราหูอมพระจันทร์ มีจริงหรือไม่

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 340

จันทิมสูตร

[๒๔๑] พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับ . . . กรุงสาวัตถี สมัยนั้น

จันทิมเทวบุตร(พระจันทร์)ถูกอสุรินทราหูเข้าจับแล้ว ครั้งนั้นจันทิมเทวบุตรระลึกถึงพระผู้มีพระภาคเจ้า ได้กล่าวคาถานี้ในเวลานั้นว่า

ข้าแต่พระพุทธเจ้า ผู้แกล้วกล้า ขอ

ความนอบน้อมจงมีแต่พระองค์ พระองค์

เป็นผู้หลุดพ้นแล้วในธรรมทั้งปวง ข้า

พระองค์ถึงฐานะอันคับขัน ขอพระองค์

จงเป็นที่พึงแห่งข้าพระองค์นั้น.

[๒๔๒] ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงปรารภจันทิมเทวบุตร

ได้ตรัสกะอสุรินทราหูด้วยพระคาถาว่า

จันทิมเทวบุตร ถึงตถาคตผู้เป็น

พระอรหันต์ ว่าเป็นที่พึ่ง ดูก่อนราหู

ท่านจงปล่อยจันทิมเทวบุตร พระพุทธเจ้า

ทั้งหลายเป็นผู้อนุเคราะห์โลก.

[๒๔๓] ลำดับนั้น อสุรินทราหู ปล่อยจันทิมเทวบุตรแล้ว เร่งรีบ

เข้าไปหาท้าวเวปจิตติจอมอสูร แล้วก็เป็นผู้เศร้าสลด เกิดขนพอง ได้ยืนอยู่

ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง.

[๒๔๔] ท้าวเวปจิตติจอมอสูตร ได้กล่าวกะอสุรินทราหูด้วยคาถาว่า

ดูก่อนราหู ทำไมหนอ ท่านจึง

เร่งรีบปล่อยพระจันทร์เสีย ทำไมหนอ

ท่านจึงมีรูปสลด มายืนกลัวอยู่.

[๒๔๕] อสุรินทราหูกล่าวว่า

ข้าพเจ้าถูกขับ ด้วยคาถาของ

พระพุทธเจ้า หากข้าพเจ้าไม่พึงปล่อย

จันทิมเทวบุตร ศีรษะของข้าพเจ้าพึงแตก

เจ็ดเสี่ยงมีชีวิตอยู่ ก็ไม่พึงได้ความสุข.



อรรถกถาจันทิมสูตร พึงทราบวินิจฉัยในจันทิมสูตรที่ ๙ ต่อไป :-

บทว่า จนฺทิมา คือเทพบุตรผู้สถิตอยู่ ณ จันทรวิมาน.

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 344

ข้อความบางตอนจาก อรรถกถาสุริยสูตร

ถามว่าก็ราหูนั้นกลืนสุริยะนั้นได้หรือ. ตอบว่า กลืนได้สิ เพราะว่า ราหูมี

อัตภาพใหญ่ ว่าโดยส่วนสูง สูงถึง ๔,๘๐๐ โยชน์ ช่วงแขน ยาว ๑,๒๐๐

โยชน์ ว่าโดยส่วนหนา ๖๐๐ โยชน์ ศีรษะ ๙๐๐ โยชน์ หน้าผาก ๓๐๐ โยชน์

ระหว่างคิ้ว ๕๐ โยชน์ คิ้ว ๒๐๐ โยชน์ ปาก ๒๐๐ โยชน์ จมูก ๓๐๐ โยชน์

ขอบปากลึก ๓๐๐ โยชน์ ฝ่ามือฝ่าเท้าหนา ๒๐๐ โยชน์ ข้อนิ้ว ๑๕ โยชน์.

ราหูนั้นเห็นจันทระและสุริยะ ส่องสว่างอยู่ มีความริษยาเป็นปกติอยู่แล้ว ก็ลงสู่

วิถีโคจรของจันทรและสุริยะนั้น ยืนอ้าปากอยู่. จันทรวิมานหรือสุริยวิมานก็เป็น

ประหนึ่งถูกใส่เข้าไปในมหานรก ๓๐๐ โยชน์ เทวดาทั้งหลายที่สถิตอยู่ในวิมาน

ถูกมรณภัยคุกคาม ก็ร้องเป็นอันเดียวกัน ราหูนั้น บางคราวก็เอามือบังวิมาน

บางคราวก็ใส่ไว้ใต้คาง บางคราวก็เอาลิ้นเลีย บางคราวก็วางในกระพุ้งแก้ม

เหมือนกินทำแก้มตุ่ย แต่ราหูนั้นไม่อาจชลอความเร็วได้ คิดว่าเราจักฆ่าเสีย ก็

ยืนอมทำแก้มตุ่ย หรือคิดว่าขมองของเทพบุตรนั้นจักแตกออกไป ราหูก็คร่าวิมาน

นั้นน้อมเข้ามา. เพราะฉะนั้น เทพบุตรนั้น จึงไปพร้อมด้วยกันกับวิมาน.

ยกเว้นเพียงไว้ว่า " พระคาถาอันเป็นภาษิตของพระองค์ยังคงมีอานุภาพอยู่เสมอ จึงทำให้ไม่สามารถกลืนกินได้ ขณะมีจันทคราสและสุริยะคราส จนถึงปัจจุบันนี้ "

ซึ่งมันดูจะผิด " ที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัส ว่า อสุรินราหูมีกายใหญ่มาก " ส่วนที่จะมีฤทธิ์มากขนาดไหน จะใหญ่โตตามกายหรือเปล่าซึ่งฤทธิ์ เรื่องนี้ไม่ทราบ

ก็ต้องลองติดตามดู จะชัวร์หรือมั่วนิ่ม แน่นอนลำแสงแบบนี้ เกิดจากการดูดกลืน 100% คงไม่มีใครยิงแสงเลเซอร์สีขาวเล่นหรอก สำหรับมนุษย์น่ะนะ

 

ใครกล้ายืนยัน?
ใครกล้าที่จะอวดอุตริมนุษยธรรมที่ไม่มีอยู่ในตนจริง

แม้เราก็ไม่กล้าเสี่ยงดอก!

" บุโรพุทโธ " ปริศนาพระพุทธรูปและโบราณวัตถุโบราณสถานเหล่านี้รอวันพิสูจน์และเผยความจริง


"ไม่มีใครที่สามารถยืนยันและเคยพบเห็นการมีอยู่ของต้นไม้แปลกประหลาดที่สามารถยืนต้นมีชีวิตอยู่ได้ในธารลาวาแม๊กม่าอันร้อนระอุได้ นอกจากเรา"

" ต้นไม้ของศาสนาพุทธ ที่ปรากฎขึ้นตอนล้างโลก อาจมีรากหยั่งลงไปถึงน้ำรองใต้โลกหรือผืนแผ่นดินแรกของภัทรกัปป์ ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า กกุสันโธ )ที่เกิดจากอานุภาพ "


ยกเว้นในคัมภีร์...ที่มี ต้นไม้ที่เกิดขึ้นเพื่อเป็นอาหารในธารลาวาของชาวนรก


สำหรับอินโดนีเซีย ไม่สิสุดลูกหูลูกตาของเรา ไม่เหลืออะไรเลย

ยกเว้น

" ต้นไม้ต้นนั้น เติบโตในธารลาวาอันร้อนระอุได้และสูงใหญ่กว่าบรรพตใดๆในโลก สูงเทียมฟ้าชั้นแรก "

Panan panana คือ ชื่อของต้นไม้นี้



(จากเรื่องราวในมหาวิปัสนาญาน คือการทำสมาธิจนสามารถเคลื่อนที่ไปในอนาคตอันมีสภาวะ"จิต"จัดสรร จึงนำเรื่องราวมาบอกเล่า ไม่ใช่นิมิตที่เกิดจากความฝัน)

 

" อีกไม่นาน สิ่งต่างๆที่ควรแก่ข้าและเหล่าสหธรรมกัลยาณมิตร ก็จะปรากฎขึ้นตามกาล ตามกรรมจัดสรร อีกไม่นาน "

รอการผลิดอกออกผล ของลูกไม้ยอดอานิสงส์
เป็นวัตถุดิบชั้นดีในการร้อยเรียงควรคู่

ไม่นึกไม่ฝันเหมือนกันว่าจะได้ครอบครองต้นไม้เครื่องระลึกบูชาที่หายากเฉกเช่นนี้

เสียดายตอนนี้ผลเก่าร่วงมานานผุเปื่อยไปหมด ยังไม่ทันได้เก็บเกี่ยวและเตรียมการทำให้สำเร็จเป็นมวลสาร ก็มีผู้สั่งจองกันเข้ามาเพื่อเป็นเจ้าของกันเสียแล้ว หลายๆท่านจะเอาทำพิธีปลุกเสกทำพิธีก็มี

จากการตรวจสอบราคาขั้นต่ำอยู่ที่ 70-100฿ ต่อเมล็ดและ300฿ บาทต่อ 1 ต้นพันธุ์ นับว่าสูงกันทีเดียว ไม่อยากจะคิดเลยถ้าสำเร็จออกมาเป็นสร้อยประคำ 108 จะมีราคาสูงมากเท่าใด คงต้องประมูลแย่งกันบูชาเลยทีเดียว เพราะมีไม่เพียงพอต่อความต้องการอย่างแน่นอน

รอลุ้นเอา หวังว่าคงจะไม่ผิดสายพันธุ์ และผลออกมาจำนวนน้อยล่ะ

ต่อไปเป็น ข้อมูลจากท่านสหธรรมิกในเว็บพลังจิต

"ประคำจากลูกมะคำไก่"
.....ตำราโบราณล้านนาบอกไว้ว่า หากได้สร้างประคำจากลูกมะคำไก่ ให้ลงพระนามพระพุทธเจ้าทั้ง 28 พระองค์ และพระอสีติมหาสาวก เข้าใส่เป็นไส้ลูกประคำ....จักมีคุณวิเศษยิ่งกว่าประคำใดๆ แม้ว่าได้ชักประคำนี้ ภาวนา หนึ่งรอบ มีอานิสงส์แสนกัปป์
.....หากได้ทำประคำจากลูกมะคำไก่แล้ว ห้ามเอาวางต่ำบนพื้นเด็ดขาด เพราะเป็นพระนามแห่งพระพุทธอละมหาอสีติมหาสาวกผู้ทรงคุณวิเศษ จักเป็นบาปแก่ตน
.....หากปราถนาสิ่งหนึ่งสิ่งใด ให้ ภาวนา "นะโมพุทธายะ"แล้วชักประคำให้ได้ 1 รอบ เพื่อถวายสักการะพระพุทธเจ้าในกัปป์นี้ แล้วจึงอธิษฐานเอาเถิดสำเร็จทุกประการ จักเกิดอำนาจตบะเดชะแก่ตนผู้ชักกประคำนี้ คำว่าตกต่ำไม่มีเลยแล
.....ประคำนี้ถือว่าเป็นประคำเริ่มภัทรกัปป์นี้ เพราะ เม็ดมะคำไก่นี้ เป็นตัวแทนของพระพุทธกกุสันโท เพราะเมื่อผลแห้งจะมีลักษณะยอดเม็ดเหมือนกับอกไก่และมีจะงอยคล้ายปากไก่ ทางโบราณจึงเชื่อว่านี่คือตัวแทนของพระพุทธเจ้าผู้เป็นปฐมพุทธเจ้าแห่งภัทรกัปป์นี้
.....ประคำนี้ทรงคุณวิเศษอย่างหาที่สุดมิได้แก่ผู้มีไว้บุชา จักใช้อย่างไรก็แล้วแต่ปัญญาญาณของแต่ละคนนะครับ ใช้ได้พันช่องแล(ใช้ได้ทุกประการ)สามารถอาราธนาทำน้ำพุทธมนต์ รักษาไข้ แก้ได้ทั้งคุณผีคุณคนท่านทำมาไม่ว่าภาษาไหนก็ตาม
....ตำรานี้เป็นตำราโบราณที่สืบมาจากพ่อหนานแดง เมืองลี้ ซึ่งเป็นเพื่อนกับครูบาชัยยะวงศามก่อน และท่านผู้สร้างบอกกับผมว่า ครูบาสังฆะล้านนาโบราณเพียงแค่เห็นและรู้ว่าเป็นประคำจากลูกมะคำไก่ท่านจะยกประคำใส่หัวทันที แลำตำรานี้มีผู้สืบตำราน่าจะเหลือแค่เพียงคนเดียวละครับ (ขอสงวนนามท่านครับเพราะท่านเป็นเบื้องหลังผู้ทำของต่างๆส่งครูบาทางล้านนาหลายองค์ครับ)....และกว่าจะทำได้ไม่ง่ายเลยครับเพราะต้องหาลูกมะคำไก่ที่ได้ลักษณะขนาดใกล้เคียงกัน นำมาต้มเพื่อปอกผิว นำมาตัดหัวท้าย รอตากให้แห้งสนิท(แห้งแล้วจะเเข็งมาก) แล้วจึงลงยันต์ พระนามพระพุทธเจ้าทั้ง 28 พระองค์แลพระนามพระอสีติมหาสาวก 80 พระองค์และพระนามที่ลงก็ต้องมีการเรียงลำดับห้ามสลับตำแหน่งกันเลยทีเดียวครับ ไม่ง่ายเลยนะครับ.....และก่อนที่จะทำต้องตั้งบายศรี อ่านโองการพระเจ้า 5 พระองค์ เห็นไหมครับไม่ใช่ของง่ายๆเลยในการจัดสร้าง และผู้เล่นพระเวทย์สมัยก่อนมักจะต้องการประคำชนิดนี้กันมากเพราะเชื่อว่าเมื่อมีประคำนี้ติดตัวแล้วไม่ต้องกลัวอาถรรพ์วิชาต่างๆ และไม่ต้องกลัวว่าวิชาที่ตนมีจะเสื่อม

ต่อไปก็เป็นข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญในการทำลูกประคำ


"ในคติความเชื่อเรื่องลูกประคำของคนล้านนานั้นตามที่ได้รู้จากครูบาอาจารย์ท่านกล่าวไว้ว่า" ในธรรมเทศนาพื้นเมืองเรื่อง
ช้างป่าเลไลย์ตอนท้ายท่านได้กล่าวถึงอานิสงฆ์ธรรมทานและอานิสงส์เครื่องอามิสบูชารวมถึงกล่าวถึงลูกประคำหรือหมากนับซึ่งเป็นเครื่องมือในการภาวนา ซึ่งมีหลายแบบแต่ที่มีประวัติและความเป็นมากล่าวถึงประคำที่มีอานิสงส์ในการใช้ภาวนานั้น จะเป็นประคำลูกไม้ เช่นไม้มะองนก(หมากสะแก่) มีอานิสงส์อปริมาณาหาประมาณมิได้

รองลงมาคือหมากนับลูกลานมีอานิสงส์แสนโกฏิกัป
หมากนับหน่วยพุทธสร(เม็ดพุทธรักษา)มีอานิสงส์หมื่นโกฏิกัป
หมากนับสรี๋พันต้น(ทำจากใบโพธิ์)พันต้นมีอานิสงส์แสนกัป
รองลงมาคือหวายหิน เดือยหินจนลงไปถึงงาช้างมีอานิสงส์7กัปป์ซึ่งไม่นิยมนำแก่นไม้หรือไม้อาถรรพ์มาทำเพราะมีน้ำหนักมักก่อให่เกิดเวทนาในการใช้ภาวนาและคล้องติดตัว อีกทั้งลูกไม้เหล่านี้ล้วนหายากและทำได้ยากยิ่งต้องใช้ความเพียรสูงมากจึงทำได้

แต่กระนั้นต้องรู้จักใช้คือหมั่นตกหมั่นนับภาวนาและใช้กำหนดคาบเวลาสวดมนต์หรือบริกรรมต่างๆจึงเกิดอานิสงส์หากเก็บไว้เฉยๆก็ไม่มีประโยชน์อันใดมิต่างจากลูกไม้กลมๆธรรมดา วัสดุเหล่านี้หายากมากและใช้ความเพียรในการทำสูงมากฉะนั้นผู้ใดที่มีไว้ควรรักษาไว้ให้ดีและใช้ให้เกิดคุณค่าและนอกจากจะใช้ภาวนาแล้วหมากประคำเหล่านี้ยังเป็นเครื่องรางของขลังที่ใช้ได้สารพัดอีกด้วยโดยเฉพาะป้องกันภูติผีปีศาจดีชะงักนักแล




ถ้าเป็นเมล็ดโพธิจิตจากอินเดียก็เป็นที่นิยมและมีราคาสูงในต่างประเทศเหมือนกัน

" ว่ากันว่า ประคำไก่ มีคุณค่าและราคาสูงมากชนิดที่ว่า จะต้องเอาทองคำน้ำหนักเท่ากันมาเพื่อแลกเปลี่ยนไปบูชากันถึงเพียงนั้นกันเลยทีเดียว ถ้าหากจะกล่าวถึงคุณค่าอานิสงส์อย่างนี้แล้ว เงินทองไม่มีความหมายเทียบเท่าได้เลย "

 

ถาม.
พระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันต์ธาตุนำมาห้อยคอเพื่อระลึกถึงพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ ได้หรือไม่
ตอบ
แอดมินขออ้างถึงพระราชพรหมยานวัดท่าซุง ท่านได้สร้างพระคำข้าวรุ่นพิเศษมีพระบรมธาตุติด 5 องค์ ให้ผู้มีศรัทธาได้นำไปสักการบูชาห้อยติดตัว
การอัญเชิญพระบรมธาตุมาติดตัวนั้นเป็นพุทธานุสติ ทำให้จิตเราน้อมรำลึกถึงคุณพระรัตนตรัย อันมี
คุณพระพุทธเจ้าทุกพระองค์
คุณพระธรรมคำสั่งสอน
คุณพระสงฆ์
การอัญเชิญติดตัวผู้อัญเชิญต้องมีทาน ศีล ๕ ภาวนา
แต่ทั้งนี้ขอให้ขึ้นอยู่กับความรู้สึกของแต่ละบุคคล
ท่านใดรู้สึกไม่สบายใจในการติดตัวท่านก็อัญเชิญบูชาอยู่ที่บ้าน
ท่านใดรู้สึกมีความสุข มีสติ มีภาวนาระมัดระวังในข้อของศีล มีพุทธานุสติระลึกตลอดเวลา หรือเป็นระยะ ๆ ก็สามารถอัญเชิญท่านมาติดตัวได้
️ให้ระลึกเสมอว่า ️
พระองค์ท่านเป็นบิดาแห่งพระพุทธศาสนาเราเป็นลูกของพระบิดา ปฏิบัติเพื่อละวางตามคำสั่งสอน
แต่ก่อนใส่ให้น้อมรำลึกถึงพระคุณของพระองค์ท่าน และก่อนเข้านอนก็สวดมนต์ ขอขมาพระรัตนตรัยให้เป็นปกติ
บทความของพระอาจารย์เล็กวัดท่าขนุนด้านล่างคงเป็นคำตอบที่มาสนับสนุนอีกข้อมูลหนึ่งค่ะ

บทความจากพระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน
การที่พระท่านเมตตาบอกว่า พระบรมสารีริกธาตุนั้นถือว่าเป็นวัตถุมงคลที่มีพุทธานุภาพสูงสุด
เพราะว่าเป็นส่วนหนึ่งของพระวรกายองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่มีวัตถุมงคลชนิดใดจะมีอานุภาพยิ่งไปกว่านี้อีกแล้ว
เมื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของแท้ลงในวัตถุมงคลชนิดใดก็ตามย่อมมีอานุภาพครอบฟ้า คลุมดินชนิดที่องค์เดียวเที่ยวทั่วจักรวาลได้เลย

จากเพจเก็บตกบ้านบุญเติม

พระครูวิลาศกาญจนาธรรม, ดร.

ขอบคุณเจ้าของรูปภาพทุกท่าน








โชคดีจริงๆ ถ้ายังมีให้เช่าบูชา

 

ว่าด้วย "แผ่นดินผืนฟ้า" พสุธาอากาศ แปรปรวน

เมื่อได้อาศัยยืนอยู่บนพระธรณีที่มีความหนาถึง๙๐-๑๕๐ กิโลเมตรที่กำเนิดปรากฎขึ้นมาเพื่อรองรับเบื้องพระบาทขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ธรรมราชาโดยเฉพาะ อันมีอานุภาพส่งตลอดไปจนถึงพระสงฆ์และพุทธบริษัท ๔ ผู้ปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบ

คราใดที่ไม่ปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบ แผ่นดินและผืนฟ้าย่อมถึงกาลวิบัติและโกลาหล สรรพสัตว์ทุกภพภูมิจึงต้องได้รับทุกขเวทนาลำบากไปถ้วนทั่วกัน


เมื่อแผ่นดินผืนฟ้าใดไม่แสวงหาธรรมรักษาธรรม มีหรือจะรอดพ้นความพินาศไปได้ไม่มีเลย


รัสเซีย : ภูเขาไฟ Klyuchevskoy ในคาบสมุทรคัมชัตคา ของรัสเซียเริ่มปะทุในวันนี้ klyuchevskoy เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในคาบสมุทร
#แผ่นดินไหวหลายครั้งทำให้ภูเขาไฟทั่วโลกเริ่มทำงานกลับมาปะทุ แนบตามแผนที่

 

เมื่อช่วงรุ่งสาง ได้นิมิตไปที่ธิเบต ยังไม่ได้เข้าไปภายในวิหาร แต่ได้เดินผ่านในบริเวณผ่านประตูโขงเข้าไปแล้ว ได้พบกับเด็กผู้ชายสองคนมีท่าทางหิวโหยจึงแบ่งไอศครีมกินกันทั้ง 3 คน ^_^ กำลังคุยกันดีๆ มีคนมาขัดจังหวะเลยต้องตื่นจากภวังค์นั้น

เผื่อมีอะไรเกี่ยวข้องกับ ภูมิภาคนั้น ที่สำคัญที่นั่นนับถือพระศรีอาริย์มาก เดี๋ยวจะพลาดไม่ได้ลงไว้เหมือนอุกกาบาตตกที่จีนนั่นอีก

 

"นิมิต"

สายยักษ์สีม่วงผู้ครองบาดาล ปรากฎหลายตนเป็นผังทำเนียบยักษ์สีม่วง สายยักษ์ตรวจสอบด้วยนะครับ

มหาสมุทร มีปัญหาอะไรหรือเปล่า? หรือมีการจัดกระบวนทัพทำอะไร?

ช่วงนี้ฟลัชกระทู้ลงถี่หน่อยนะ กลัวพลาด! ไม่บันทึกไว้อีก

 

สำหรับเราเอาทั้งวิทยาศาสตร์ และคำทำนายตามความเชื่อความน่าจะเป็นหรือการคาดการณ์จากสถาณะการที่เกิดขึ้นบ้างแล้วนะ เราคิดว่าโลกและพลังงานธรรมชาติด้านจิตวิญญาณกำลังรอสัญญาณจากยักษ์ใหญ่ทั้งหลาย ประเทศมหาอำนาจ ประเทศยักษ์ใหญ่ทั้งหลาย ที่กำลังจะเปิดศึกแย่งชิงความยิ่งใหญ่ ถ้าทำสงครามกันเมื่อไหร่นั่นหมายถึงการทำลายล้างทั้งคนทั้งธรรมชาติทั้งบ้านเมืองสิ่งก่อสร้าง ผลกระทบจากอาวุธสารเคมี สรุปส่งผลด้านการทำลายแทบทั้งสิ้น เมื่อไหร่ยักษ์ใหญ่ทั้งหลายส่งสัญญาณว่าทำสงครามแล้วแน่ๆ ทีนี้ของจริงยิ่งกว่าที่เจอๆกันอยู่ตอนนี้ก็คงจะได้เวลาล้มยักษ์สักที จะได้รู้ว่า ไม่มีอะไรเป็นของใครคนใดคนหนึ่ง โลกอยู่ข้างเดียวกับเราทุกคนที่ไม่ใช่ยักษ์ใหญ่ **ด่าได้แต่อย่าแรงนะ จนกว่าจะเกิดขึ้นถึงจะรู้ว่าที่คิดในวันนี้มีความไกล้เคียงมากน้อยแค่ไหน หรือว่าจะคิดไปไกลจนกลายเป็นจินตนาการคล้ายแฮร์รี่พอตเตอร์ไปเลยก็เป็นได้ 5555 ขำไว้ก่อนเลย

 

^_^ เสี่ยงเซียมซีทีเดียวได้มา 4 อัน แอบใบ้

 

ล่าสุดอินโด ยังไม่นับรวมประเทศอื่น
หวังว่าคงจะไม่ไปจนถึงขั้น ขอยืมตัวแพทย์ประจำประเทศกันหรอกหนา

 

ถ้าเขยิบจากสเปน ตุรกี มาจนถึงอิหร่านแบบนี้ แผ่นดินไหวครั้งใหญ่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน สะเทือนชมพูทวีปเลยทีเดียว เดาส่งเดชต่อไป

กรุงบาดาล อยู่ตรงไหน จัดทัพทึ่ไหน มาทางไหน ยักษ์สีม่วง พวกเดียวกับอาฬวกะยักษ์หรือเปล่า

พายุหมุนทอนาโดเฮอริเคน ไซโคลน ฯลฯแล้วแต่จะเรียก นี่เรียกเป็นตะบองยักษ์ตะบองลม ใช่ไหม? ฟาดทีราบเป็นหน้ากลอง น่าจะใช่ เพราะเล่นฟาดท่านวิธุระบัณฑิตด้วยกระแสลมพายุ ด้วยนี่นา ใกล้เคียง วิสัชนาได้ แสดงว่า ดินน้ำลมไฟ มาเพียบ!



แม้แต่โลกหมุนเร็วขึ้นกาลเวลาที่ผันผวนก็เอากับเขาด้วย ในรอบกึ่งพุทธกาลนี้ ถ้าหมุนเร็วกว่านี้ขึ้นไปอีกเรื่อยๆ ดินน้ำลมไฟปั่นป่วนปรวนแปร เมกะสึนามิเทมาเหมือนน้ำในกะละมังแน่! เอาล่ะสิทีนี้


ไม่ต้องสุ่มเดาเยอะ! ดูตามหลักฐานความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในรอบกึ่งพุทธกาลดีกว่า! จะได้ไม่ต้องบอกว่าเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เป็นเรื่องปกติ

 

ถ้าต้องการเห็น ใช้ตาในดูสิ..

ถ้ามีวาสนา หรือ มีบุญสัมพันธ์กัน คงได้เจอ..

 

●●●

 

อยากให้เห็นด้วยจริงๆ จะเข้าใจเอง

 

เห็นใจตน จนเห็นแจ้งแก่ใจ มีคุณมากกว่าได้เห็นผู้อื่น สิ่งอื่น..

ถ้าสมมุติ ตามหาเจอแล้วจะทำยังไง?

ถ้าสมมุติ ตามหาตัวเจอแล้วจะรับได้มั๊ยหากบุคลิกและหน้าตาไม่เป็นอย่างที่หวัง?

โลกของความเป็นจริงมันต่างจากความคิดและจินตนาการมากมายนัก..

ปฏิบัติจิตตภาวนาไปนั่นแหละ ถ้าทุกอย่างจะเกิดช่วงอายุของพวกเราจริง ถึงเวลาก็คงได้พบเจอเอง..