เรื่องเด่น เปิดกรุพระดี.....สำหรับมีไว้บูชาอย่างแท้จริง

ยืนยันการรับจอง พระสมเด็จหลังรูปเหมือนหลวงพ่อกวย พิมพ์ใหญ่ เนื้อน้ำตาลไว้แล้วครับ ขอบคุณครับ

 

ข้อคิด...คุณกัมพล ตันสัจจา เจ้าของสวนนงนุชพัทยา

1) ทุกอย่างบนโลกใบนี้เป็นเพียงสิ่งชั่วคราว ถ้ามันดี ให้มีความสุขกับมัน เพราะมันจะอยู่กับเราไม่นาน ถ้ามันไม่ดี อย่ากังวล เพราะมันจะอยู่กับเราไม่นานอีกเหมือนกัน

2) ทางเดียวบนโลกใบนี้ ที่จะทำให้ความสุขนั้นมีมากขึ้น นั่นก็คือให้แบ่งปันความสุขนั้น (แบ่งให้คนอื่น ยิ่งให้มาก ยิ่งสุขมาก)

3) คนที่ "น่าอิจฉาที่สุด" คือ คนที่ไม่อิจฉาใครเลย ดูเหมือนมันเป็น "ความสุข" ง่ายๆ แต่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยทำกัน

4) "ทุกวินาทีที่หายใจอยู่ คือโอกาสของชีวิต" อย่ากลัวการเริ่มต้นใหม่และอย่าแคร์สายตาใคร ตราบใดที่เรายังหายใจด้วยจมูกของเราเอง

5) ไม่ยุ่งกับชีวิตคนอื่น...ไม่ขัดความสุขคนอื่น...ไม่คิดแทนคนอื่น...ไม่อิจฉาคนอื่น...ไม่ดูถูกคนอื่น คำสอน 5 ข้อ ที่ทำให้ชีวิตมีความสุข

6) จงอย่าอิจฉาคนอื่น แต่จงใช้ชีวิตให้คนอื่นอิจฉา

7) ไม่ว่าจะมีสิ่งไหนหายไปจากชีวิตเรา...แต่ "เวลา" ก็ยังคง "เดินต่อ" และเวลาก็สอนให้เราได้รู้ว่า ระหว่างที่เรามีเวลาอยู่นั้น เราควรจะดูแลและรักษาอย่างไร...เพื่อว่าวันหนึ่ง "เราจะไม่เสียใจ" กับสิ่งที่ได้ทำดีที่สุดแล้ว

8) ความสุข..แม้จะอยู่กับเราไม่นาน แต่ความทรงจำที่ดีจะอยู่กับเราตลอดไป

9) บางครั้ง...เราไม่ต้องคิดว่า สิ่งที่เราทำ เราจะได้อะไร แต่เมื่อทำแล้ว มันสุขใจ มันก็คือ "กำไร" ของชีวิต

10) จุดที่ตกต่ำที่สุด เป็นได้ทั้งจุดจบและจุดเริ่มต้นใหม่ อยู่ที่เราจะให้มันเป็นอะไร

 

โชว์...มรดกจากหลวงพ่อกวย

ประวัติ พระแม่ธรณีบีบมวยผม
ชื่อพระแม่ธรณี มีปรากฏในพุทธประวัติความว่า ...เมื่อครั้งพระพุทธองค์ทรงบำเพ็ญเพียรเพื่อตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ทรงผจญกับเหล่าพวกพญามารทั้งหลาย พญามารได้ออกอุบายต่างๆ นานา เพื่อให้พระพุทธองค์ทรงเกิดกิเลสตัณหา แต่พระพุทธองค์ทรงไม่ยินดียินร้าย และในครั้งนั้นเองพระแม่ธรณีทรงแสดงปาฏิหาริย์ปราบเหล่าพญามารโดยทรงบีบมวย ผมให้น้ำไหลออกมาท่วม พวกพญามารทั้งหลายให้พ่ายแพ้ไป

ขณะเดียวกันก็มีชื่อ แม่พระธรณี ปรากฏในวรรณคดีไทยหลายเรื่อง อาทิหนังสือเทศน์มหาชาติปฐมสมโพธิกถา ลิลิตตะเลงพ่าย เป็นต้น โดยมีชื่อเรียกแตกต่างกันไป เช่นนางพระธรณี พระแม่วสุนธราพสุธา ซึ่งมีความหมายเหมือนกัน คือผู้ทรงไว้ซึ่งทรัพย์สมบัติ อันหมายถึงแผ่นดินนั่นเอง สำหรับชาวไทยทั่วไปจะเรียกกันติดปากว่า แม่พระธรณี หรือ พระแม่ธรณี

การสร้างรูปเคารพของ พระแม่ธรณีบีบมวยผม สำหรับประเทศไทยเท่าที่สามารถสอบทานได้ พบตำราเก่าแก่สมัยอยุธยา บันทึกเรื่องราวการจัดสร้างนางเทพเทวาที่เป็นรูปแบบแม่ธรณีขึ้นบูชาเพื่อการ อำนวยผลทางความมั่นคงและป้องกันสิ่งเลวร้าย ตำรานี้บอกเล่าต่อกันมาว่ายังเก็บรักษาอยู่ที่ วัดคฤหบดี กรุงเทพฯ

ทางภาคอีสานก็มีวิชาเฉพาะที่เกี่ยวกับ แม่พระธรณีหลายอย่าง เช่นตะกรุดหัวใจพสุธา ในสายสมเด็จลุน แห่งนครจำปาสัก แม้ในพิธีเบิกโขลนออกจับช้างก็ยังมีมนต์ที่กล่าวอ้างถึงแม่พระธรณี ทางภาคเหนือ ก็มีพิธีกรรมเกี่ยวกับแม่พระธรณีอยู่หลากหลาย และที่นับถือเป็นประเพณี เช่น พิธีบนนางธรณี

แม่พระธรณีในศิลปะไทยที่มีปรากฏอยู่ จะทำเป็นรูปหญิงสาว รูปร่างอวบใหญ่ล่ำสันอย่างได้สัดส่วน มีความงามประดุจเทพธิดา นั่งในท่าคุกเข่า แต่ยกเข่าขวาขึ้นสูงกว่าเข่าซ้าย บางแห่งสร้างให้อยู่ในท่ายืน แต่ที่เหมือนกันก็คือ มวยผมปล่อยยาว มือขวายกข้ามศีรษะไปจับไว้ที่โคนมวยผม ส่วนมือซ้ายจับมวยผม แสดงท่ากำลังบิดให้สายน้ำไหลออกมาจากมวยผม ส่วนเครื่องทรงไม่มีแบบแผนที่แน่นอนตายตัว ตามแต่จินตนาการของผู้สร้าง

 

เป็นมงคลวัตถุอีกชิ้นหนึ่งที่ให้ความรู้สึกปลื้มใจในการครอบครอง ของท่านทุกอย่าง..แม้เจ้าของเดิมจะหวงแหนสักเพียงใด แต่เมื่อถึงเวลาที่สมควรแล้ว เจ้าของคนใหม่ก็จะได้ไปครอบครองและรอเวลาส่งผ่านจากรุ่นสู่รุ่น พระแม่ธรณีชิ้นนี้หล่อจากตะกั่วผสมปรอทและโลหะอื่นที่เรียกว่าเนื้อชินตะกั่ว บางส่วนขึ้นสนิมแดงเรื่อๆบ้างแล้ว มีความสูง2นิ้วพอดี ไม่ค่อยพบเจอนัก มีคนรู้จักน้อยมาก จากการบันทึกของผู้ได้รับจากหลวงพ่อกวยได้บันทึกไว้ว่า เป็นของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ชัยนาท มอบให้ศิษย์ของท่านคือหลวงปู่อิ่ม วัดหัวเขา สุพรรณบุรี ก่อนที่ ลป.อิ่มจะมอบให้ศิษย์อีกทอดหนึ่งซึ่งก็คือหลวงพ่อกวย ขุตินธโร วัดโฆสิตารามนั่นเอง
1.ด้านใต้ฐาน อุดผงพุทธคุณของ ลป.ศุขและท่านจารพุทธม้วนโลกไว้
2.ฐานด้านหน้า จารกำกับโดยหลวงปู่อิ่ม วัดหัวเขาด้วย "อะล้อม" และ " เม กะ มะ อุ" ลายจารของ ลป.อิ่มจะแตกต่างกับของ ลพ.กวยชัดเจน
3. ฐานด้านหลัง จารกำกับโดย ลพ.กวย ด้วย "นะซ่อนหัว" และ "อิ ติ"
4.ฐานด้านซ้าย จารกำกับโดย ลพ.กวย ด้วย " โพ อะ วะ นิ ตะ ละ "
5.ฐานด้านขวา จารกำกับโดย ลพ.กวย ด้วยภาษาไทยว่า " ของท่าน ลป.ศุข ตกทอด ลพ.อิ่มท่านให้"

 

พระแม่ธรณีชิ้นนี้เนื้อโลหะเก่าจนเกิดสนิมแดงเรื่อๆตามผิวบ้างแล้ว ทองคำเปลวติดแน่นสนิทกับเนื้อโลหะจนแกะไม่ออก รอยจารลึกและเกิดสนิมในร่องรอยจารเห็นได้ชัดเจน ได้ส่งรอยจารและลายมือของหลวงพ่อกวยไปให้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางช่วยตรวจสอบแล้ว ก็ได้คำตอบว่าเขียนขึ้นจากคนเดียวกัน มีการขึ้นหัวและลงส่วนปลายอักษรในลักษณะเดียวกัน น้ำหนักเส้นเหมือนกัน สัดส่วนของอักษรขนาดเดียวกัน

 

พระปรกโพธิ์เก้าใบของ ลพ.กวย มีแม่พิมพ์ด้านหน้าแบบเดียวจริงไหม?

ด้วยความเคารพในสิทธิการพิจารณาและการครอบครององค์พระทั้งสององค์ตามตัวอย่าง ขอนำเฉพาะภาพข้อมูลจากหนังสือที่ลงเป็นสาธารณะมาเทียบเคียง ยกเรื่ององค์ไหนแท้ องค์ไหนปลอมไว้ก่อน ลองมาพูดในเชิงหลักการตามหลักฐานแบบวิทยาศาสตร์ที่เห็นได้ด้วยตนเอง คิดได้เองและตัดสินได้เอง โดยไม่เอาความเชื่อหรือใช้เหตุผลเพียงเพราะเขาบอกมา เพราะนั่นคือวิถีคนเขลา

ตั้งโจทย์เป็นสมมุติฐานไว้ว่า..ถ้าแม่พิมพ์ด้านหน้ามีชิ้นเดียวตามที่เชื่อกันมา แล้วพระปรกโพธิ์เก้าใบแบบไม่ชัด ที่มีขายกันองค์ละหลายแสนจนถึงล้านบาทมาจากไหน ลองดูและพิจารณาด้วยสติปัญญา ใช้ความละเอียดรอบคอบสักนิด แล้วจะมีคำตอบในตัวเอง

 

ขอจององค์นี้ครับ ขอบคุณครับ

 

ยืนยันการรับจอง พระแม่ธรณีบีบมวยผม เนื้อชินตะกั่ว สูง2นิ้ว ปิดทองคำแท้ ก้นอุดผง ลพ.กวย จารกำกับไว้แล้วครับ ขอบคุณครับ

 

โชว์..ราหูหลวงพ่อกวยอีกรูปแบบหนึ่ง แกะจากกะลา

 

โชว์..พระแม่ธรณีแกะจากหินชนวน

 

อย่าเพิ่งเชื่อใคร...หากเขาไม่รู้จริง
อย่าเสียของดี...หากเราไม่รู้จริง
เหรียญรุ่น 3 ของหลวงพ่อกวย หลังยันต์ ที่หลายคนชอบบอกว่า..มีสร้างเฉพาะเนื้อทองแดงและไม่มีเนื้ออัลปาก้า ฝังข้อมูลให้เด็กรุ่นหลังท่องเป็นอาขยานไปแล้ว แต่..หากมีคนเคยได้มาจากปู่ย่าตายายสอบถามว่ามีไหม? ทั้งๆที่ยังไม่เห็นเหรียญที่เขาจะสอบถามแม้แต่น้อย ก็โชว์ภูมิตอบไปแบบจำขี้ปากเขามาทันทีว่า “ ของนอกคอก นอกตำรา ไม่เคยมีทำ ” แต่ลองพิจารณาเหรียญนี้ที่ลงในหนังสือเล่มมาตรฐานที่ตีพิมพ์ไว้เมื่อ15 ปีก่อน ซึ่งเหรียญนี้มีตำหนิถูกต้องทุกอย่าง รอยตัดข้างมาจากตัวตัดชิ้นเดียวกันกับเหรียญหลังยันต์มาตรฐาน และยังมีบันทึกอยู่ในหนังสือยุคแรก เล่มปกสีแดงที่ศิษย์หลวงพ่อกวยจัดทำขึ้นกว่า 20 ปีก่อน ความจริง..ต้องว่ากันด้วยหลักฐานและเหตุผล คนยุคใหม่จะถกเถียงกันด้วยหลักการ พิจารณาด้วยพยานวัตถุ พยานแวดล้อม และพิสูจน์ด้วยหลักฐานวิทยาศาสตร์ ดีกว่าจะใช้พวกมากลากถูหรือตะแบงแดกดันโดยไม่มีหลักการที่พิสูจน์ได้เลย

ยังมีหลายเรื่องในวงการพระเครื่องเมืองไทยที่ขัดความรู้สึกของคนรุ่นเก่าๆหรือลูกหลานของพระเกจิชื่อดังในอดีต มีบางคนได้รับพระเครื่องมากับมือจากพระเกจิผู้สร้าง บางคนได้รับจากพ่อแม่ที่เคยเป็นศิษย์รับใช้ใกล้ชิดหลวงพ่อ หลวงปู่หรือหลวงตาในวัดที่อยู่ข้างบ้านเหล่านั้น แต่เมื่อวันเวลาผ่านมานานปีและพระเครื่องเหล่านั้นเริ่มมีราคาค่านิยม ของดีๆที่เคยห้อยคอมาแต่เด็กหรือได้มาจากบรรพบุรุษกลับถูกตีว่าไม่ใช่ของจริง ไม่ใช่บล๊อคนิยมหรือเป็นของปลอม คนที่กำหนดมาตรฐานใหม่ก็กลายเป็นคนต่างถิ่น เป็นเด็กเพิ่งเกิดไม่นานที่ไม่เคยเข้าวัดหรือเคยได้กราบหลวงพ่อเหล่านั้นเลยสักครั้ง แต่เป็นคนที่มีอาชีพซื้อขายแลกเปลี่ยนพระเครื่อง เรื่องนี้เป็นวาระซ่อนเร้นที่พบเจอได้เสมอ

เข้าตำราคำพังเพยที่ว่า “ตาบอดสอดตาเห็น” คือ...อ้างว่าตัวเองรู้สิ่งนั้นดี แต่ความจริงแล้วไม่รู้อะไรเลย หรือรู้เพียงผิวเผินเท่านั้น คนที่ชอบอวดรู้นั้นจะต้องการให้สังคมยอมรับตัวเอง อยากเด่นและมีตัวตน จึงพยายามที่จะอวดรู้ไปเสียทุกเรื่องเพื่อที่จะให้คนอื่นสนใจ

 

ภาพนี้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่จะบอกได้ว่า หนังสือและความเชื่อเก่าๆที่ถ่ายทอดกันมาตลอดเวลานานกว่า20ปีว่า..พระปรกโพธิ์เก้าใบพิมพ์นิยมของหลวงพ่อกวย มีแม่พิมพ์ด้านหน้าเพียงแบบเดียว นั้นไม่ถูกต้อง ทั้ง2ภาพนี้ลงในหนังสือเล่มเดียวกัน แต่ลงข้อมูลว่าพระพิมพ์นี้มีด้านหน้าเพียงแม่พิมพ์เดียว ลองพิจารณาด้วยหลักวิชาการและหลักฐานแบบวิทยาศาสตร์ที่เห็นได้ด้วยตนเอง และเมื่อไล่ดูข้อมูลภาพที่ตีพิมพ์เป็นตำราซึ่งยึดถือกันมานานก็จะพบว่า มีหลายพิมพ์ผิดพลาดคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง จึงสมควรได้รับการแก้ไขเสียที

 

หลานหลวงพ่อกวย (อ.สำรวย) บอกเล่าเรื่องราวที่ฝังแม่พิมพ์พระเครื่องหลายชนิดใต้วิหารพระ ภายในวัดบ้านแค แต่ละรูปแบบก็มีหลายแม่พิมพ์

 

ลงให้ชมพระเนื้อดินที่หลวงพ่อกวยทำขึ้นในยุคต้นช่วงก่อนปี2505 มีทั้งพิมพ์เล็กและพิมพ์ใหญ่ ภาพที่ลงไว้นี้เป็นพิมพ์ใหญ่ พระพิมพ์นี้ไม่มีปัญหาเรื่องของที่ทำเสริมยุคหลังๆ ไม่มีปัญหาในการแยกของแท้ออกจากของปลอม แต่ก็หาไม่ง่ายแล้ว เนื้อดินเก่าดูง่าย ทำไว้ดีเด่นทางโภคทรัพย์

 

ขอชมราคาบูชาครับ

 

ดูเป็นเครื่องเตือนใจ กับพระปรกโพธิ์เก้าใบของ ลพ.กวย ที่มีการทำปลอมฝีมือล่าสุด องค์นี้เขาขายส่งในราคา 450.บาท

 

พระสมเด็จหลังรูปเหมือนหลวงพ่อกวย พิมพ์ใหญ่ เนื้อแก่ผง เพิ่งแกะจากตลับหลังจากอยู่ในกรอบมานานหลายปี สภาพยังสวย เป็นพระพิมพ์ที่มีนิยามว่า "หลังรูป เก่งดี"

 

พระสมเด็จมงคลมหาลาภ วัดสารนารถฯปี2499 พิมพ์เล็ก ขนาดเพียง 2 cm x 3 cm. เป็นอีกพิมพ์หนึ่งที่เข้าในพิธีประชุมอรหันต์กึ่งพุทธกาล ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพระสายวิปัสนากรรมฐาน ใช้แทนพระพุทโธน้อยได้อย่างดี ลองพิจารณาเนื้อหาที่เก่าจริงๆ

vij จองบูชาแล้ว

 

พระสิวลีเนื้อดิน มีย่ามของ ลพ.กวย หลังจาร

Sanny จองบูชาแล้ว

 

ถ้าใครชอบพระยุคเก่าแบบแรงๆของหลวงพ่อกวย ลองพิจารณาพระสมเด็จเนื้อดินองค์นี้ดูครับ เป็นพระในยุคต้นช่วงปี2500 กดจากแม่พิมพ์หินมีดโกนหน้าเดียว ขนาด 4 cm. x 5.7 cm.หนา 9 mm. เศษเกล็ดขาวๆในเนื้อพระโดยเฉพาะด้านหลังคือผงกระดูกที่ท่านผสมลงในเนื้อดิน พระดีราคาเบาแต่หายากทีเดียว

j999 จองบูชาแล้ว