เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

วันนี้.. ถวายสังฆทาน ทำบุญอุทิศส่วนกุศลครบรอบ 7 วันให้พ่อ
ณ วัดลาดบัวขาว
วันนี้ สงบ ร่มเย็น เงียบมากๆ แทบไม่มีคนเลย

 

สาธุในกุศลที่เกิดขึ้น. การแสดงความกตัญญูต่อบุพการี ท่านย่อมได้รับกุศลอย่างมั่นใจ และเป็นมงคลแก่บุตรที่ทำให้
น้อมสาธุอีกครั้ง

 

วันที่ ๓๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ ตรงกับวันศุกร์ แรม ๖ ค่ำ เดือน ๘ ๘ ปีฉลู
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
โมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

เกาะลังกาจิว ตั้งอยู่ในท้องทะเลฝั่งอ่าวไทย ในพื้นที่ตำบลหาดทรายรี เป็นเกาะเล็กที่ได้รับสัมปทานรังนกจากอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร แต่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชมได้ บริเวณรอบ ๆ ของเกาะมีแนวปะการังหนาแน่นและสวยงามมาก น้ำทะเลสวยใสบรรยากาศเงียบสงบ นอกจากนี้ยังมีลายพระหัตถ์จารึกพระปรมาภิไธยย่อ จ.ป.ร. ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สลักอยู่บนผาหินหน้าปากถ้ำรังนก คราวเสด็จประพาสทอดพระเนตรการเก็บรังนกอีแอ่น ปรากฏปี ร.ศ. ๑๐๘ อีกด้วย

 

วันที่ ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ ตรงกับวันเสาร์ แรม ๗ ค่ำ เดือน ๘ ๘ ปีฉลู
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
โมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

เปิดกระทู้หลังห่างหายไปหลายวัน ประเดิมกับภาพมหามงคล "สมเด็จองค์ปฐม" วัดท่าขนุนที่ดูมุมไหนก็หนุนเนื่องความสุข สบายตา สบายใจ

'องค์ปฐม'.......บรมพุทธ
ลักษณ์วิสุทธิ์...วิมุติศรี
สีเงินยวง........โชติช่วงฉวี
หนุนสิรี..........โชคดีมีชัย!

 

อนุโมทนากับบุญยามเช้าตรงวัน ใต้เงาร่มใหญ่ ปานประหนึ่งได้พึ่งร่มเงาพระศาสนาและองค์พระศาสดา นำมาแต่ความเยือกเย็นใจ-กาย

 

ย้อนไปร่วมอนุโมทนาบุญเช้าวันจันทร์...2หนุ่มสาวก้าวจากแมงกะไซด์ใส่บาตรอย่างนอบน้อม แม้ยังไม่ถอดหมวกกันน็อค ก็ถือว่าบุญที่ทำเป็นการเสริมหมวกกันน็อคให้อีกชั้น เป็นชั้นที่ปลอดภัยแท้ทรู

 

เมื่อยามเช้าวันอังคาร
ก็ผู้สาวขี่มอเตอร์ไซด์
แวะใส่บาตรกับหลวงพี่
ภาพที่ดูดีิ ดูไงก็ไม่เบื่อ
อนุโมทนายามไหนก็ได้

 

บุญวันพุธก็สุดติ่ง คับคั่งทั้งพุทธศาสนิก
กับ"ซัมซุง" เพื่อนสี่ขาเจ้าประจำ อมยิ้ม
ให้ความน่ารักแล้วก็ร่วมยกมือวันทา
อนุโมทนาแบ่งปันความสุขด้วยกัน

 

ไล่เรียงถึงวันพฤหัสฯ หลวงตายืนรอรับการทำบุญอย่างสงบ ซึ่งคงเป็นเจ้าของรถที่ไม่เห็นตัวเพราะรถบัง แต่ป้ายรถนั้นเด่นชัดไม่ขัดลูกกะตา จะเป็นการบอกใบ้หรือบอกดี ก็ตีความเอาเอง ที่แน่ๆขอให้โชคดีมีชัยในวันจันทร์ที่จะถึง อนุโมทนาครับ

 

สุขแห่งการร่วมอนุโมทนาบุญ เดินทางมาถึงวันศุกร์ที่ไม่สุขนักเพราะสายฝนกระหน่ำหนัก นักบุญโปรดสัตว์ในวิถีอย่างยากลำบาก

นี่แหละหนทางแห่งการปฏิบัติธรรมอีกหนึ่งวิธีที่พระพุทธองค์ทรงบัญญัติไว้

อยากสบายก็อย่ามาเป็นพระให้เปลืองข้าวสุกชาวบ้าน...ภิกขุ แปลว่า"ผู้ขอ"ิขอแต่พอยังชีพ ไม่มีเหลือ ไม่สะสม เห็น'ผู้ขอ'ในแนวทางนี้เมื่อใดกราบไหว้ทั้งกาย-ใจไปเถิด พระแท้ไม่ผิดหวัง!

 

ย้อนไปชื่นใจกับการทักทายแสนดีน้องน้อตเมื่อ5-6วันที่ผ่านมา สัปดาห์นี้เข้ามาเก็บโพสท์สมาชิกช้าที่สุดตั้งแต่เปิดกระทู้นี้เป็นต้นมา เพราะงานบุญ-งานเศร้า-งานหลักหนักหน่วงมะรุมมะตุ้มแน่นหลาย วันนี้ต้องใช้เวลามากหน่อยเพื่อชดเชยการอยู่หน้าจอ

ขอบคุณน้องน้อต ขอให้รักษาสุขภาพดีเป็นหลักของครอบครัวให้มั่นต่อไป

 

สวัสดีครับคุณอา วันวิ และสมาชิกนักขุดกรุฯทุกท่าน
ช่วงนี้อยู่บ้านเป็นหลัก ว่างๆก็หยิบหนังสือของหลวงปู่ท่านขึ้นมาอ่าน

ยิ่งอ่านยิ่งพิจารณถ้อยความคำสอนที่หลวงปู่ท่านประทานไว้ยิ่งเคารพนับถือท่านสูงขึ้นสูงยิ่งๆขึ้น
ขอบารมีหลวงปู่ท่านจงปกป้องคุ้มครอบคุณอา วันวิ และสมาชิกนักขุดกรุฯให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากไวรัสร้ายตัวนี้ด้วยเทอญ

 

การบอกกล่าวข่าวสารเรื่องข้าวสารปจด.จาก 'บ้านสวนรัก' สบายใจได้ว่า ยามทุกข์ยากโรคภัยรุมเร้าหนักทั่วถึงทุกภาคส่วนประเทศ แต่ก็ยังพอมีน้ำใจเหลือเจือจานไปถึงเพื่อนสี่ขาหลายร้อยชีวิตที่ต้องการอาหารเพื่อยังชีพเช่นเดียวกับสัตว์สองขาอย่างเรา-ท่าน

ยังสามารถแบ่งปันได้ ก็ถือว่าชีวิตของพวกเรา พอทน พอถูไถ ไม่ถึงกับต้องเข้าคิวรอรับข้าวกล่องบริจาคริมถนน มีเหลือก็สละส่วนเกินไปบ้าง ลำบากเมื่อใด ก็ไปรับน้ำใจจากผู้อื่น

นี่คือ วิสัย"คนไทย" เมื่อลำบากก็ร่วมมือมัดใจสู้ แต่สบายเมื่อไหร่ชอบกัดกันเอง-ฮ่า

โมทนาอีกทีครับ

 

น้อยโต้ดทักทายเมื่อวันพุธ ได้กลับมาขุดกระทู้ย้อนหลังวันเสาร์ถือว่าช้ามากต้องขออภัยอย่างแรง

ขอบคุณทักจากใจที่มีคุณค่าครับ

 

คลิปเตือนใจหรือจะให้เป็น
"อสุภกรรมฐาน"ก็ย่อมได้...

เชิงตะกอน......สอนความจริง
'สรรพสิ่ง'........นิ่งนอนแผ่
ความแน่นอน...คือนอนแน่
โลกเที่ยงแท้...แก่เจ็บตาย!

 

บทประพันธ์เทิดพระเกียรติโดย
'ศิลปินแห่งชาติ' รจนาเยี่ยมแล้ว
ขอจงทรงพระเจริญ พระเจ้าข้า!

 

บางกอก ในสายตาของชาวต่างชาติเมื่อยุคกลางรัตนโกสินทร์ ได้รับฉายาว่า 'เวนิสตะวันออก' เพราะคูคลองน้ำใสสวยงาม เดินทางสัญจรทางเรืออย่างราบรื่นมีความสุข สมความเป็น 'สุวรรณภูมิ-แผ่นดินทอง' ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว หลุดพ้นจากลางเมืองไปนิดเดียวก็ยังปรากฏทุ่งนาอร่ามเรืองรองจับตา

ฉายา "เวนิสตะวันออก" หรือ 'เวนิสแห่งบูรพาทิศ'... ใช่จะตั้งกันเองแบบโมเมได้มาง่ายๆ แต่เป็นการเขียนถึงโดยนักเขียนนามกระเดื่องระดับโลกหลายท่าน

ต่อมาความเจริญวัตถุรุกเร้าเหมือนมหานครทั่วโลก ความสกปรก รุกล้ำไร้ระเบียบมาเยือน คูคลองเริ่มเน่าเป็นน้ำครำ การรุกล้ำลำคลองเกิดขึ้นทุกสายคลองหลักๆที่เคยเป็นเส้นเลือดกลายเป็นน้ำเน่าเหม็นเกินบรรยาย ความมักง่ายของผู้คนคือเชื้อโรคที่ีิกระจายติดต่อกันเป็นนิสัย ยากจะเปลี่ยนแปลง

รัฐบาลหลายยุคสมัย พยายามปรับเปลี่ยน "เวนิสตะวันออก" ฟื้นคืนชีพทั้งยุคเผด็จการ-ประชาธิปไตย แต่ไม่เคยทำสำเร็จ เพราะเหตุผลร้อยแปด-พันเก้า หลักใหญ่คือ "คนเห็นแก่ตัว"ที่อ้างว่าอยู่กันมาชั่วลูกชั่วหลาน ผสมผสาน "นักการเมืองน้ำเน่า" ที่ต้องการคะแนนเสียง ออกเลขที่บ้านให้สลัมริมคลอง ให้มีไฟฟ้า มีน้ำประปากลายเป็นกรรมสิทธิ์ถูกกฏหมายเหนือคูคลองสาธารณะ ฯลฯ

นี่คือหนึ่งในปัญหา "ร้อยแปดพันเก้า" อย่างที่กล่าว ส่งให้เวนิสตะวันออก กลายเป็นน้ำเน่าแห่งบูรพาทิศ ยาวนานเกินคาดคิด นานกว่าคนวัยเกิน 60ฝนด้วยซ้ำ

จนมาถึงรัฐบาล+ในหลวงพระองค์ปัจจุบัน ซึ่งทรงมีความสนพระทัย ในความเป็นอยู่ของพสกนิกร ควบคู่กับพัฒนาบ้านเมืองให้เป็นระเบียบ งดงาม ทรงทุ่มเทพระราชทรัพย์ สร้างจิตอาสา ส่วนรัฐบาลก็ประสานงานพร้อมคน+งบประมาณอีกมหาศาล จัดการไปทีละคลองโดยประชาชนริมคลองก็ไม่เดือดร้อน คนที่พร้อมย้าย ได้ค่าขนย้ายได้ที่อยู่อาศัยแห่งใหม่สมควรแก่ชีวิตและอัตภาพ คนที่ไม่อยากย้าย ก็ได้รับบ้านริมคลองที่ไม่รุกล้ำ เป็นระเบียบเรียบร้อย ดูงามตา รื่นรมย์ใจ

คลองน้ำเน่าโสโครก สิ่งอัปยศอันดับแปดของโลก ค่อยๆฟื้นคืนชีพทีละคลอง ริมคลองเป็นที่เดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจไม่อันตราย ไม่เป็นเขตเปลี่ยว หรือโซนปล้นจี้ดักชิง ฆ่าข่มขืน อย่างเก่าก่อน น้ำใส-ไฟสว่าง

เวนิสตะวันออกข้ามเวลาฟื้นชีพอย่างเชื่องช้า แต่มั่นคง สง่างาม!

ผลงานแห่งน้ำพระราชหฤทัยและพระราชทรัพย์องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่10 กับรัฐบาล "ลุงตู่" ที่ถูกไอ้พวกน้ำเน่าตัวจริงรกโลก รกประเทศขี้ตู่รุมด่าอยู่ทุกวัน และอีกหลายสิบ-ร้อยผลงานที่ไม่เคยมีรัฐบาลชุดไหนทำได้ ก็ปรากฏผลงานประจักษ์เป็นรูปธรรมชัดเจนในรัฐบาลนี้

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ฝ่ายตีปิ้บของรัฐ ต้องปลดมันออกให้หมด ตั้งคนมีฝีมือเข้าไปแสดงแทนไอ้พวกไร้น้ำยากะโหลกกะลา หรือจะปันงบมาให้เว็ป "พลังจิต" ช่วยตีปิ้บสู้กับไอ้พวกถ่อยสถุลบ้างก็ยังไหว

เว็ปนี้มีคนอ่าน คนติดตามมากกว่าสื่อสถุลไร้สาระ สื่อออนไลน์ขยะที่เรียกตัวเองว่า"สื่อ"อย่างหน้าด้าน แต่มีคนตามอ่านหยิบมือเดียวเท่านั้น เมื่อวัดกับ"พลังจิต"...โทษทีิ คุณภาพและคนตามอ่าน ตามดู มันห่างไกลกันหลายพันลี้ เทียบกันไม่ติดฝุ่นส้นเท้า!!!

สำหรับข้อเขียนดีๆที่ไม่ค่อยมีใครเขียนถึงเล็กน้อยนี้ิ ถือว่ามอบให้ฝ่ายรัฐไปฟรีๆก็แล้วกัน เที่ยวนี้ไม่คิดค่าตีปิ้บนะลุง-ฮ่า!