เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

เล็กดี รสโต เดินทางถึงเมืองพระ
ได้ส่องหนำให้ใจในวันหยุดยาว
3 วัน ขอบคุณน้องแมวไทยที่แจ้ง

 

กรุ "วังมะสะ"-พิษณุโลก
พิมพ์จันทร์ลอยหลังเบี้ย
==============

**พรหมพิรามเมืองพระ วังมะสะพระเครื่องลือเลื่องทุ่งสาน ชลประทานเขื่อนนเรศวร หลากล้วนมังคละดนตรี"!**

คำขวัญประจำแดนดินถิ่น อำเภอพรหมพิราม เมืองสองแคว ไม่ต้องอรรถาธิบายให้มากความ ก็เห็นความสำคัญของ 'พระกรุวังมะสะ" ว่าเป็นยอดพระเครื่องประจำถิ่นที่ค้นคว้าประวัติศาสตร์รับทราบชัดแจ้งว่า เป็นสถานที่รวมไพร่พลขององค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช

ปี 2500 พระกรุนี้แตกมากมายจากฝีมือนักขุด4-5คน พระเครื่องถูกทิ้งขว้างเอาไปแต่ทรัพย์สมบัติ และพระเครื่องพิมพ์ต่างๆของกรุอันมี พระนางพญา,พระลีลา,พระยืน,งบน้ำอ้อย,พระ2 หน้า ฯ และหลากหลายพิมพ์ เนื้อชิน,เนื้อดินเผา สีแดง,ดำ,เทา,เผาผ่านก็มีสวยงาม ก็เป็นสมบัติของชาวบ้านที่แสวงหาตามกันมา และถูกรองรับตามเหตุผลว่า เป็นพระที่สร้างไว้โดย พระนเรศวรมหาราช เพื่อฉลองชัยชนะศึกเมืองคัง

ปี 2534 หลายบริเวณใกล้เคียงก็มี "กรุวังมะสะ" แตกออกมาอีก ซึ่งก่อนหน้านั้นก็มีแตกประปรายติดต่อกัน จึงไม่อาจนับรวมจริงๆว่า พระกรุวังมะสะแตกกี่ครั้ง แต่ถ้าเป็นทางการ ก็ต้องนับในปี 2500 กับ ปี 2534

ปัจจุบัน พระกรุวังมะสะ ถูกยอมรับแพร่หลายเป็นยอดนิยมในพิมพ์ "นางพญา" ที่มีทรวดทรงเนื้อหางดงาม อายุการสร้างถึงยุคสุโขทัยก็มี แต่ในยุคอยุธยาตอนกลางนั้นเป็นของแน่ เป็นพระกรุที่สมควรบูชา เนื่องจากสร้างโดยองค์"มหาราช"ผู้กอบกู้แผ่นดินของชาวไทย

เป็นพระแห่งชัยชนะ และศิริมงคล บูชาแล้วไม่มีคำว่า "แพ้"!!!

นี่คือพระจันทร์ลอย หรือบารมีสิบทัศน์ เนื้อสีดำหลังเบี้ย ดินเผาแกร่งไร้ราคี ขนาดเล็กเหมือนพระนางพญากรุนี้ที่องค์เล็กพอกัน หนึ่งในประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของชาติ เปี่ยมความศักดิ์สิทธิ์มหิทธิเดชที่กำกับการสร้างประจุพิธีกรรมระดับชาติโดย "สมเด็จพระพนรัต วัดป่าแก้ว" ผู้เป็นพระอาจารย์ของพระองค์ท่าน

นำให้สมาชิกชมและร่วมบุญกับองค์พระจันทร์ลอย เนื้อดินเผาสีดำที่งามสมบูรณ์ที่สุดองค์หนึ่งเท่าที่จะพบพานในกรุ พระอายุเกินกว่า 500 ปี ราคาเพื่อสะสมบูชาเพียง...

=======2,500=======

จันทร์ลอย กรุวังมะสะเนื้อดำ ถ้าใครมีองค์งามกว่านี้มาประชัน ยินดียกองค์นี้ให้ไปบูชาฟรีๆ องค์พระศิลปอยุธยา แต่เปลวเกศที่ต่อเนื่องชนกัน ดูเหมือนเป็นวงรัศมีกำลังหมุนโชติช่วง สอดรับกับวงรอบกายภาพองค์พระ10 องค์ และปุ่มวงกลมรอบนอกที่ขอบองค์พระอีกชั้น เป็นจินตนาการเชิงช่างอันล้ำลึกเหลือแสน

หลังเบี้ยอีแปะโบราณมีลายนิ้วมือตามตำรา ความเก่าของเนื้อดินไม่ต้องถาม เอาไปศึกษาเป็นครู องค์เดียวอยู่!

ขนาดเล็กกว่า
เหรียญ10บาท
ไม่มากนัก ใช้เป็น
โภคทรัพย์ก็ยังได้
ขอบข้างที่สมบูรณ์ ไม่แตกหักบิ่น อนุรักษ์มาอย่างนักสะสมตัวจริง

 

ชม...'พระเพชรหลีก' รุ่นแรก
"เจ้าคุณศรี วัดอ่างศิลา"ปี96
==============

ทำบุญ สลับกับการส่งพระดีที่หายาก บวกองค์ความรู้ดูเพลิน เป็นช่วงๆสำหรับสมาชิกกระทู้ เพื่อความสุขในการอ่าน การศึกษา หรือสะสมก็พร้อมสรรพครบทุกรสชาติอย่างยากจะหาจากที่ใด!

สุดสัปดาห์พาเพลินนี้ ต้อนรับการเปิดประเทศเป็นทางการ ถนนหนทางพลุกพล่าน ชาวบ้านร้านถิ่นหากินคล่องกับวันหยุดยาว การท่องเที่ยวดีขึ้น เงินทองสะพัด ให้ทุกท่านชาวไทยมีความสุข

แวะเที่ยวทะเลเมืองชลฯ ทั้งบางแสนแดนหรรษา พัทยาพราวพร่าง อ่างศิลาพาเพลิน...พบกับ "พระเพชรหลีก" หนึ่งเดียวของเมืองชลบุรี เป็นที่หนึ่งแห่งภาคตะวันออก โดยการสร้างของท่านเจ้าคุณศรี วัดอ่างศิลา สุดยอดแห่งตักศิลาอันดับต้นๆของภาคตะวันออกที่ต้องยอมรับว่า ไร้เทียมทานมายาวนาน

วัตถุมงคลของเจ้าคุณศรีนั้น แม้ท่านอดีตกำนันคนดังที่สุดของประเทศก็อยู่บนคอตลอดชีวิตไม่เคยห่างหายทั้งเป็นศิษย์เอกประสบความสำเร็จมากมาย แม้จะประสบเคราะห์กรรมบั้นปลาย แต่ก็ใช่ว่าจะลำบากเพราะทั้งตระกูลล้วนอยู่ดีมีสุขเจริญรุ่งเรือง สมกับเป็นศิษย์ท่านเจ้าคุณ

พระเพชรหลีกในประเทศนี้ ถูกยอมรับว่าเป็น "หนึ่ง" เพียง 2สำนักเท่านั้น!

ต้นตำรับก็คือ พระเพชรหลีก ท่านเจ้าคุณทักษิณคณิศร (หลวงพ่อสาย) วัดใต้ ผู้สร้างฝากไว้ลือลั่นแผ่นดิน และท่านถัดมาซึ่งรับวิชาถ่ายทอดมาจากต้นตำรับขนานแท้ก็คือ ท่านเจ้าคุณศรี วัดอ่างศิลานี่ัอง

พระเพชรหลีก 2 เจ้าคุณจึงเป็นที่เสาะแสวงหามาแต่เก่าก่อน จะใช้ท่านเจ้าคุณรูปใดก็ล้วนเสมอเหมือนกัน แต่ของท่านเจ้าคุณวัดใต้ จะหายากกว่า ในเชิงพุทธพาณิชย์ก็มีราคาสูงกว่าเล็กน้อย

ส่วนของท่านเจ้าคุณศรี นั้นก็อย่านึกว่าจะหาง่าย เนื่องจากในชีวิตอันยาวนานอายุกาล 97 ปีของท่าน ได้สร้างไว้เพียง 2 หน คือปี 2496 รุ่นแรก หลังจารยันต์หลายแบบเป็นการจารมือ และอีกรุ่นคือปี 2500 ซึ่งครั้งหลังนี้ท่านอายุมาก ใช้บรรจุยันต์"กระบองไขว้" อันลือชาลงไว้แทน

ประวัติยิ่งใหญ่ของท่านเจ้าคุณศรี สามารถหาอ่านได้ทั่วไป เพราะประวัติท่านกระจ่างชัดบันทึกรวบรวมไว้ดี ไม่คลุมเครือเหมือนเกจิชื่อดังในอดีตมากท่าน ที่อาศัยแต่คำบอกเล่า นานวันเข้าก็แต่งระบายสี ตีไข่ใส่ไปจนแทบกลายเป็นเทพ เพื่อพวกเสี้ยนหลอกขายของ ทั้งที่ของจริงไม่มีอะไรเลย !!!

ประวัติท่านเจ้าคุณศรี หากผู้ใดศึกษาอย่างละเอียด จะเห็นว่า การยกให้ท่านเป็น อริยเจ้า อริยสงฆ์ทองคำนั้น ไม่เป็นการเกินจริงแม้ปลายก้อย ซึ่งขอละเว้นไว้ให้ทุกท่านไปขวนขวายหาอ่านเอาเอง

มาชม พระเพชรหลีก รุ่นแรก ปี 2496 ของท่าน ซึ่งอุปเท่ห์ของคำว่า "เพชรหลีก" นั้นก็บ่งบอกความหมายในตัว ว่าสามารถหลีกพ้นภยันตรายทั้งผอง ไม่ว่าทางลับ ทางแจ้ง จะมืดหรือสว่าง หลีกหลบได้หมด โดยการสร้างตัองรวบรวม ข้าวเปลือกหลีก ที่รอดจากการสี เมื่อหุงหาก็รอดจากการถูกเขี่ยทิ้งในหม้อ ตักขึ้นจานก็รอดจากการทาน ยังคงเป็นเมล็ดข้าวเปลือกที่สมบูรณ์ เรียกว่า "หลีกหลบ"พ้นการถูกทำลาย ถูกทิ้ง ถูกกินได้ทุกจังหวะ

ต่อจากนั้นก็สร้างผงพุทธคุณ รวบรวมมวลสารมงคลข้าวตอกดอกไม้ตามตำราระบุไว้ เสกวัสดุเหล่านี้ก่อนครบถ้วนมวลวิชา จึงเริ่มประกอบเข้าทำพระ ทำไป-เสกไป แต่ละครั้งทำได้ไม่มากนัก เพราะต้องทุ่มเทกำลังภายในภายนอกเต็มที่ มีบางส่วนที่คลุกรัก และยัง"จุ่มรัก"อีกด้วย ส่วนที่เป็นผงอย่างเดียวก็มี

ชมองค์เนื้อคลุกรัก-จุ่มรักหนาเตอะ ให้"ภาพเล่าเรื่อง" ไม่เปลืองสายตามาก...


เพชรหลีก งามพร้อม งามสมบูรณ์ พิมพ์มาตรฐาน เนื้อคลุกรัก กดพิมพ์พระเสร็จด้วยความงามพิเศษ ถูกนำจุ่มรักอีกครั้งเพื่อรักษาสภาพพระให้คงทนยาวนานยิ่งขึ้น กาลเวลาผ่านเกือบ 70 ปี รักหมดยางแห้งสนิท แต่ความวาว ความสว่างเงางามในเนื้อยังเหลืออยู่ ดูกี่ร้อยทีก็ไม่เบื่อ

ด้านหลังที่ยิ่งดูง่ายเมื่อยางรัก เปลือกรักงอกขึ้นมาคลุมผิว จากการที่วางไว้นานโดยด้านหลังติดอยู่กับฟองน้ำในกล่อง เปลือกเป็นลูกคลื่นที่ขึ้นมาคลุมรอยจาร นะ โม พุท ธา ยะ พระเจ้า 5 พระองค์ ยิ่งส่งเสริมการพิจารณาเห็นชัดเจนง่ายๆว่า เป็นรอยจารเก่าดั้งเดิม เพราะโดนฝ้ารักคลุม มิใช่รอยจารใหม่

ชมกันให้เต็มตาไม่ต้องย่อส่วนเพื่อขยายดู ขนาดองค์เพชรหลีก พระในตำนาน ที่อีกหน่อยจะเป็นหนึ่งพระในฝันเหมือนกับ ปิดตาห้าเสือเมืองชลที่ต้องพลิกแผ่นดินหาก็ยังไม่เจอถ้าเงินไม่ถึง ใจไม่ถึง-ฮ่า

สำหรับท่านเจ้าคุณศรี พระปิดตายันต์กระบองไขว้รุ่นแรกของท่านก็เป็นที่เสาะแสวงหา รุ่นแรกๆแพงจับใจไม่แพ้ใคร แถมน่าใช้ยิ่งกว่าพระในนิทานเยอะ สิ...บอกไห่

หรือพระเพชรหลีกนี้ หากหาของท่านเจ้าคุณศรีไม่ได้ สำนักอ่างศิลา ยังมี "หลวงพ่อพูลทรัพย์" ผู้รับวิทยายุทธต่อเนื่องสืบทอดไม่เสียชื่อตักศิลาแห่งอ่างศิลาที่ยืนยงคงกระพันมาแต่ยุคกรุงศรีฯ ท่านได้สร้างไว้เช่นกัน ผมยังไม่เคยเห็นองค์จริง เห็นแต่ในรูป ด้านหลังเป็นยันต์กระบองไขว้
ชมด้านข้างที่ค่อนข้างหนา แต่จะเห็นผงวิเศษห้าประการแซมในเนื้อประปราย

ขออัญเชิญบารมี ท่านเจ้าคุณศรี วัดอ่างศิลา อริยสงฆ์ผู้ทรงคุณถึงพร้อมทุกด้าน ทั้งวัตรปฏิบัติยอดเยี่ยมบรรลุถึงธรรมอันเป็นที่สุด การพัฒนาสร้างคน-สร้างเสนาสนะถาวรวัตถุเพื่อการพระศาสนาเป็นหนึ่งไม่มีสองแห่งเมืองชล สรรพวิชาแก่กล้าเป็นที่พึ่งของเหล่าศิษย์ได้จริง ไม่มีข้อกังขาแม้แต่น้อยนิด...บารมียิ่งใหญ่ทั้งปวงนั้น โปรดแผ่ปกปักรักษาสมาชิกทุกท่าน พบพานความสุข ปราศโรคภัยกรายกล้ำ ชื่นฉ่ำใจกายเป็น "ศรี" แก่ตนทุกทิวาราตรีเทอญ!

 

นิมนต์ขอรับ

 

สอบถามพี่วันครับ เหรียญนี้มีคนจองรึยังครับ ลองไล่หาแล้วแต่ไม่แน่ใจครับ ถ้ายังไม่มีผมขออัญเชิญขอรับ

 

พรุ่งนี้วันหยุด เข้าเว็บยามดึกคึกคักสุดสัปดาห์ ลอง วีคเอนด์ อีกสักรอบ ตอบรับการเคาะพระพิมพ์จันทร์ลอย บารมีสิบทัศน์กรุวังมะสะ โดยน้องเต้ย พระในพื้นที่ประวัติศาสตร์ที่ไม่คลุมเครือ เมื่อตอนแตกกรุอีกหนในปี 34 ผมกับเพื่อนๆก็ไปเฮกะเขาเหมือนกันเพราะมีญาติผู้ใหญ่ระดับคนโตตัวจริงอยู่เมืองนี้ ได้พระในไหมาหนึ่งไห แบ่งกันไปทั่วหน้าคนละสิบยี่สิบองค์ ลงขันซื้อหลายตังค์อยู่เหมือนกัน ได้มาก็แจกๆไปจนเกือบหมดเหลือเก็บไว้เพียง4-5 องค์เป็นพิมพ์ที่ไม่สวยไม่เล่นหากันเท่าใดนัก งามสุดที่เหลือก็ "จันทร์ลอย" องค์นี้แหละ

มอบให้น้องเต้ยไปชื่นชมและบูชาเป็นบารมีแผ่กระจายสิบทัศน์สิบทิศสืบเนื่องต่อไป ต้องขอจัดส่งท่านวันอังคารเพราะหยุดยาว โมทนาครับ

 

เหรียญกรมหลวงชุมพรฯที่ยังไม่เคยเห็นเหรียญที่ 2 แบบ 3 กษัตริย์นี้ ยังไม่มีคนจองครับน้องเต้ย รับไปบูชาได้เลย เหรียญนี้ถ้าเป็นทองแดงราคาหลักร้อยไม่แพง ถ้าเป็นเนื้อนวะกับเนื้อเงินก็ขยับมาหลักพันนิดๆ เท่าที่เห็นเล่นกันตามเว็บประมูล

แต่เนื้อ 3 กษัตริย์เคาะหาตาปลิ้นตาเหลือก หายังไงก็ไม่เจอองค์ที่ 2...มีเพื่อนหลายคนที่ชอบเก็บเหรียญกรมหลวงฯ ถามมาเยอะคนแล้วไม่เคยเห็นเช่นกัน สรุปว่า ทำแจกเฉพาะกรรมการนายทหารผู้ใหญ่ไม่กี่เหรียญ ผมได้เหรียญนี้มาจากนายตะหานน้ำชั้นผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเมื่อปี 41 ก็ลงล็อคตามข้อมูลที่ว่า

โมทนาน้องเต้ย มอบท่านเดินทางเป็นศิริมงคลครบด้าน วันอังคารหน้าครับ

 

วันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๕ ตรงกับวันเสาร์ แรม ๑๔ ค่ำ เดือน ๕ ปีขาล
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
โมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ อนาคะเตกาเล

 

สวัสดีครับวันเสาร์ หลายท่านหยุดพักผ่อน ขอให้มีความสุขในวันหยุดนะครับ ปลอดภัยไร้โรคา

 

หลวงพี่อยู่ในวงล้อมของคนทุกเพศวัย เป็นการบุญยามเช้าวันพระที่คับคั่ง ดูดีมีมนต์ขลังเปี่ยมพลังบุญ ร่วมอนุโมทนาบ่ายก็ยังไม่สาย

 

เสาร์สนุก เป็นวันหยุดยาวที่สุขสันต์แม้อากาศร้อนอ้าว แต่คงมีมากท่านที่ได้ท่องเที่ยวในช่วงนี้ ขอให้เดินทางปลอดภัย แบบที่พระจีนชอบอำนวยพรในเหรียญว่า...ไปดี มาดี มีแต่ความราบรื่น ปลอดโรค ปลอดภัย ดังที่น้องเรย์ว่ามาตอนท้ายนั่นแล

 

หลวงปู่สอนให้'รู้จักพอ"
ต่อด้วยกวีพอดับร้อน...

พึ่งพ.พาน...ผ่านพอเพียง
ดั่งเผดียง...เปรี้ยงดับทุกข์
ปลุกหัวใจ..ไป่พบสุข
ตื่นรู้รุก......กระตุกชน
--พึงเพียงพอ...ก่อเกิดการ
--ขับเหล่ามาร..พล่านผละพ้น
--มนต์มายา.....ตัณหาล้น
--ทุกตัวตน......ลนลานพ่าย"

 

สมเด็จเนื้อดินหลังยันต์
หลวงพ่อทาบ-ปู่ทิมเสก
==============

เป็นธรรมดาของ "หลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง" ระยอง ที่สร้างวัตถุมงคลเมื่อใด ก็จะมีสหธรรมิกชื่อดังภาคตะวันออกร่วมกระทำพุทธาภิเษกด้วยเสมอ เกื้อกูลช่วยกันไป ช่วยกันมา

ปี 2505 หลวงพ่อทาบ สร้างวัตถุมงคลมากมายหลายหลาก พิธีใหญ่มาก ได้ทั้ง หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ออกจากวัดมาช่วยเสก รูปอื่นๆที่โด่งดังยุคนั้นก็มี

--หลวงพ่อหอม วัดซากหมาก
--หลวงพ่อลัด วัดหนองกระบอก
--หลวงพ่อเย็น วัดบ้านแลง

พระชุดนี้นำเข้าเสกพร้อมพระเนื้อผงในปีนั้น เป็นพิธียิ่งใหญ่เอิกเกริกของวัดกระบกขึ้นผึ้ง สำนักสีผึ้งเขียวอันดับ 1 ของภาคตะวันออก หรือของแผ่นดินก็ว่าได้ บูชาพระองค์นี้ได้ครบครัน ทั้งความเก่าหายาก พิมพ์ที่แปลกตาน้อยนักจะพบเห็น บารมีความศักดิ์สิทธิ์ของครูอาจารย์ครบถ้วน

=======800=======

สมเด็จเนื้อดิน"หลวงพ่อทาบ" องค์จริงสีแดงเนื้อหนึกนุ่มนวล เก่าสมอายุสร้าง 60 ปี

หลังจารอุที่พบเห็นทั่วไปในพระเครื่องวัตถุมงคลของท่าน แต่องค์นี้รอยจารเปียกตื้น และลบเลืยนไปมากเห็นเพียงร่องรอยรางๆเท่านั้น แต่รอยกดนิ้วมือของท่านติดชัด

ขนาดองค์พระกับ
ขอบข้างที่สมบูรณ์
ไม่สึกหรอหักซ่อม

 

พ่อท่านแช่ม ๒๔๘๖
เหรียญย้อนยุค ปี15
===============

หน้าเหรียญ ๒๔๘๖ แต่สร้างจริง 2515 ตามประสาพระปักษ์ใต้ที่ไม่ค่อยเปลี่ยนพ.ศ. แต่ส่วนประกอบสำคัญอื่นในตัวเหรียญ ล้วนปลี่ยนไปให้นักสะสมบูชา แยกแยะไม่ยาก!

ปี 2515 นับเป็นวาระยิ่งใหญ่อีกปีที่ วัดฉลอง ภูเก็ต จัดสร้างและทำพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคล "เทพเจ้าแห่งอันดามัน" อันมี รูปหล่อ,เหรียญ,เนื้อว่านฯ อัญเชิญพลังศักดิ์สิทธิ์ หลวงพ่อแช่ม ลงมาสถิตรับทราบทุกกระบวนการ รวมทั้ง คณาจารย์สายใต้ร่วมพิธีคับคั่ง

ที่ได้รับความนิยมมากสุดในเวลาต่อมา ได้แก่ เหรียญรูปไข่เล็ก ที่ถอดรูปแบบมาจากปี ๒๔๘๖ รุ่นแรกหลักล้านจริงไม่อิงนิยายของเกาะไข่มุกอันดามัน แต่เหรียญนี้เปลี่ยนยันต์ด้านหลังไม่ใหัเหมือนรุ่นแรก ทำให้การสะสมไม่สับสน มีมาให้ร่วมบุญเป็นศิริมงคลเพียงเหรียญเดียว ผ่านการใช้เปิดหลังทำให้สนิมเขียวกินเป็นสนิมขุม ต้องล้างทำความสะอาดจึงกลับมาสวยงามดังเดิม ให้บูชาตามสภาพ...

=======800=======

เทพเจ้าอันดามันปี ๒๔๘๖ สร้างย้อนยุค 2515 นับว่าอายุไม่น้อย ครึ่งศตวรรษเข้าไปแล้ว ไม่ช้าก็เป็นหนึ่งในเหรียญหลักของเมืองเกาะไข่มุก ภูเก็ต

เหรียญถูกใช้เปิดหลังไม่นานผิวยังไม่สึกหรอ แต่เหงื่อทำให้เกิดสนิมขุมกินหลายจุด ต้องรีบทำลายก่อนเสียหายมากกว่านี้ กลับมาสวยงามดังเดิม พื้นผิวที่สนิมกินพรุนไปบ้างไม่ถึงกับน่าเกลียด ขอให้แทัอย่างเดียว อย่างอื่นเรื่องเล็กตราบที่เราพึ่งพระเพื่อพุทธคุณล้นเหลือในองค์ท่าน เงินร้อยไม่อาจประมาณคุณค่าเทียบเท่าบารมียิ่งใหญ่แม้แต่ปลายขี้เล็บ
ขนาดเหรียญไข่เล็กยอดฮิตเป็นอันดับ1ของประเทศซึ่งมีวัดเดียวคือ "หลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง" กับขอบข้างที่นักนิยมพระชอบดูเพื่อพิสูจน์เก๊-แท้ แต่ความจริงแล้วเป็นเพียง "ส่วนประกอบ" อย่างหนึ่งเท่านั้น มิใช่จะตัดสินได้ทั้งหมด เหมือนกับพระสมเด็จที่บอกว่าต้องดูพิมพ์ แต่พอถอดพิมพ์เหมือนเด๊ะด้วยวิทยาการสมัยใหม่ ไอ้ยอดเสี้ยน ก็บอกว่า "เนื้อไม่ถึง"...สรุปแล้ว ไอ้คุณมรึง จะเอาไงแน่? แทนที่จะบอกให้แจ้งชัดว่า ทั้ง "เนื้อ+พิมพ์+ความเก่า" มีความสำคัญทัดเทียมกัน ดันไปยึดอย่างเดียวเป็นหลัก เพียงเพื่อจะดัน "พิมพ์พระ " ที่มีอยู่ในมือพวกมันให้เล่นกัน แล้วพระเหลือน้อยเพื่อทำราคา ปัดพิมพ์ไม่ใช่กลายเป็นพระเก๊

ปัจจุบันนี้ นักเล่นรุ่นใหม่ ล้วนหันเห ปรับเปลี่ยนวิธีเล่น ไม่สะสมตาม "ขี้ปากเสี้ยน" ที่จ้องขายพระกินอย่างเดียว พระดีๆทะลักออกมา ไม่ถูกตีเก๊ ขายไม่ได้ก็ไม่เป็นไรเพราะคนทำพระแต่เก่าก่อน เขาไม่ได้ทำให้เอามาขาย ทำมาเพื่อให้บูชาคุ้มครองตัว และเพื่อสืบทอดพระศาสนา ไอ้พวกเซียนขี้เรื้อนชั้นหลังเท่านั้น ที่ตีพระเป็นค่าของเงิน และเลือกกำหนดเล่น จนพระดีที่ตกทอดกันมายาวนานในบางบ้านบางตระกูล กลายเป็นพระเก๊มากมาย

 

วันที่ ๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ ตรงกับวันอาทิตย์ ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๖ ปีขาล
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
โมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ อนาคะเตกาเล

 

รับครับ สวัสดีคุณอา และสมาชิกทุกท่านครับ โอนเงินและแจ้งคุณน้ำฝนแล้วครับ

 

วันที่ 1 ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 วันอาทิตย์ที่เป็นวันแรกของสัปดาห์แทนด้วยเลข 1 เหมือนกัน วันนี้จึงเป็นวัน "ตอง 111" น่าทึ่งในความพ้อง ทำอะไรเกี่ยวกับบุญย่อมเป็นที่หนึ่ง เราได้ร่วมอนุโมทนาก็เป็นส่วนหนึ่งของการบุญ

 

คุณเทพก็เข้าถูกโฉลกแห่งวันหมายเลข1 รับพระสมเด็จเนื้อดินหนึ่งเดียว หลวงพ่อทาบ วัดกระบกฯ ไปบูชา เป็นพระลึกที่ไม่ลับ ประวัติสร้างเสก+เนื้อหาชัดเจน หายากชนิดที่ในเว็บประมูลมีไม่เกิน 2-3 องค์ ท่านอยู่กับผมมาหลายสิบปี เปลี่ยนสถานที่จำวัด...ส่งท่านเดินทางขึ้นอีสานวันอังคาร โมทนาครับ