รับตั้งศาลพระภูมิ-เจ้าที่ศาลเทพต่างๆ ทำพิธีขึ้นเสาเอกบ้านและอาคาร,วัตถุมงคล และรับดูฮวงจุ้ยทั่วประเทศ

1-06-2565

มาร่วมช่วยงาน พิธีเททองหล่อพระประธานปางสมาธิ จำนวนสององคฺ์ เพื่อนำไปถวายสำนักปฎิบัติธรรมสองที่ ของพี่ธง อุเทนถวาย ๔๑
ทำพิธีเทวาโดยพราหมณ์หลวง ท่านพราหมณ์เอ๊กซ์ อุเทนถวาย ๕๙
และพิธีพุทธา โดยพระอาจารย์มหาเมืองอินทร์ อาภากโร

 

วันนี้มาทำพิธีขอขมา ต่อองค์พระพรหมและองค์พระภูมิ อันเนื่องมาจากมีการย้ายตำแหน่งศาลและแยกชิ้นส่วนศาลเดิมจนเสียสภาพ ถือว่าลบหลู่ท่าน
ผมมาเห็นก็บอกเขาให้ประกอบศาลกลับใหม่ก่อน แล้วทำพิธีขอขมา แจ้งเชิญท่านขึ้นข้างบนให้เรียบร้อย เป็นเรื่องใหญ่ส่งผลต่อสุขภาพ และการงาน,การเงินเจ้าของเป็นอย่างมาก
เลยต้องเตรียมทั้งบายศรีและพานขอขมาให้ครบถ้วน ก็ม่ข่วยทำพิธีให้ถูกต้องเรียบร้อยครับ

 

ผมมักแนะนำทั้งเพื่อน, ลูกศิษย์ รุ่นพี่และรุ่นน้องในสายงานก่อสร้าง หรือทำเกี่ยวกับงานด้านอสังหาริมทรัพย์ หรือแม้แต่งานด้านเกษตรกรรมต่างๆว่า ควรมีการไหว้บูชาองค์พระแม่ธรณีบีบมวยผมด้วยจึงจะดี
ในสายงานด้านก่อสร้าง ส่วนมากจะไหว้บูชาองค์พระวิษณุกรรมกันอยู่แล้ว ถือเป็นองค์ครู หรือองค์พ่อที่ให้การเคารพมาก แต่ในงานก่อสร้าง เรามีการ ขุด การเจาะ กระทบพื้นดิน ถือว่ากระทบท่านโดยตรง อีกทั้งงานก่อสร้างก็สร้างขึ้นบนพื้นดิน บนพื้นที่ขององค์พระแม่ธรณี ผมจึงแนะนำให้ไหว้คู่กัน และถ้าท่านเชิญผมไปทำพิธีเปิดหน้าดิน หรือขึ้นเสาเอก ผมก็จะนำบทให้ทุกคนกล่าวบูชาต่างหาก ต่อองค์พระวิษณุกรรม และองค์พระแม่ธรณีบีบมวยผม เป็นการขอขมาและขอบารมีทั้งสองพระองค์ให้งานสำเร็จด้วยดี

แต่ก็มีหลายคนถามเหมือนกันว่า องค์พระแม่ธรณีนั้น มีอยู่หรือไม่ อย่างไร และมีมาเนิ่นนานแล้วหรืออย่างไร ซึ่งพอถูกคำถามนี้ทีไร ผมมักนึกถึงท่านอาจารย์ สุชาติ รัตนสุข อาจารย์ของผมเองทุกครั้งเลย เพราะเป้นการถามที่ผมเคยถามท่าน แต่ตอนนั้นผมถามท่านว่า เราจะร้จักเทพองค์ใด อย่างไรที่เรามาสัมผัสได้ ท่านจะตอบว่า ความรู้ของมนุษย์เรากับเทพเทวานั้นน้อยมากๆ และเทพเทวาก็มีมากมายเหลือเกิน และมาจากหลากหลายกาลเวลาอีกด้วย แต่เรารู้จักชื่อของเทพเพียงไม่กี่องค์เท่านั้นเอง ดังนั้นอย่าสงสัย และหาคำตอบเลย เพราะมันไม่มี

แต่ในองค์พระแม่ธรณีบีบมวยผมนั้น หากยึดเอาจากพระพุทธประวัติ ต้องถือว่าพระแม่ธรณีถือเป็นเทพที่มีมาก่อนนานแล้ว และมีความผูกพันกับพระพุทธศาสนาด้วย และมีการกล่าวถึงอย่างชัดเจนในพระพุทธประวัติ
ประวัติของพระแม่ธรณี ปรากฏในพุทธประวัติ คือตอนที่พระพุทธเจ้าชนะมาร โดยอาศัยพระแม่ธรณีมาเป็นประจักษ์พยาน ดังนี้

ในครั้งนั้นพระพุทธเจ้า ทรงประทับนั่งบนบัลลังก์หญ้าคาใต้ต้นโพธิ์ แล้วทรงตั้งสัตยาธิษฐานว่า "ถ้ายังมิได้ตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณเพียงใด จักไม่เสด็จลุกขึ้นจากบัลลังก์เพียงนั้น ถึงแม้ว่าเนื้อและเลือดจักเหือดแห้งไปก็ตามที"
พญามารกลัวว่าพระพุทธเจ้านี้จะพ้นเงื้อมมือของตน จึงได้ยกพลทั้งกองทัพมาผจญกับพระพุทธเจ้า ฝ่ายพญามารก็เนรมิตแขนต้นเองพันมือถืออาวุธครบมือ พร้อมกับขี่พญาช้างชื่อว่า "ครีเมขละ" พร้อมกับบริวารเข้ามาตรงพระพักตร์ใบหน้าของพระพุทธเจ้า แล้วออกปากขับไล่พระพุทธเจ้าให้ออกไป พญามารบอกว่าที่นั่งที่นี่เป็นที่ของพญามาร
ฝ่ายพระพุทธองค์ก็อ้าง บัลลังก์ที่นั่งนี้เป็นของพระองค์ ซึ่งโสตถิยะพราหมณ์เป็นผู้ถวายหญ้าคา (กุศะ) มา ๘ กำมือ แล้วพระพุทธองค์ก็ปูลาดเป็นอาสนะ นั่งอยู่ตรงนี้
พระพุทธองค์จึงเอานิ้วดัชนี นิ้วชี้ลงไปยังพื้นปฐพี แล้วตรัสว่า "ขอพระแม่ธรณี จงเป็นสักขีพยาน เราได้บำเพ็ญบุญกุศล คุณงามความดีต่างๆ บารมี ๓๐ ทัศ ด้วยบารมีแห่งกุศลอันมหาศาลนี้ ขอพระแม่ธรณีจงเป็นประจักษ์พยาน
(บารมี ๓๐ ทัศ ได้แก่ ๑) ทาน การให้ ๒) ศีล การรักษาศีลให้เป็นปกติ ๓) เนกขัมมะ การออกจากกาม ๔)ปัญญา ความรู้ ๕) วิริยะ ความเพียร ๖) ขันติ ความอดทนอดกลั้น ๗) สัจจะ ความตั้งใจจริง เอาจริง จริงใจ เต็มใจ ๘) อธิษฐาน ความตั้งใจมั่น ไม่เปลี่ยนแปลง ๙) เมตตา ความรักด้วยความปรานี ๑๐) อุเบกขา ไม่ยึดมั่นถือมั่น เป็นไปตามวาระแห่งธรรม บารมีมี ๓ ขั้น อย่างปกติ อย่างกลาง และอย่างยิ่งยวด ๑๐ x ๓ = ๓๐)
ต่อจากนั้นพระแม่ธรณีก็บีบมวยผมปล่อยกระแสน้ำให้ใหลท่วมกองทัพพญามารจนพ่ายแพ้หนีไปในที่สุด
พระแม่ธรณีที่ออกมามวยผม น้ำท่วมพญามารนั้น เป็นสัญลักษณ์ คือ เป็นน้ำหล่อเลี้ยงเปลี่ยนแปลงชาวโลกไปทางดี จากที่ไม่ดีไปทางมงคล

พระพุทธเจ้าเปล่งวาจาว่า "พระแม่ธรณีเป็นประจักษ์พยานว่า ตถาคตได้ทำสิ่งที่เป็นคุณงามความดี และกุศลต่างๆ ด้วยบารมีแห่งกุศลอันมหาศาลนี้ จงแสดงเป็นประจักษ์พยาน" แล้วพระแม่ธรณีก็บีบผมออกมา น้ำพระทัยของพระพุทธเจ้าก็ท่วมพญามาร จนพญามารต้องยอมแพ้ ยอมแพ้ความดีของพระพุทธเจ้า
นี่แหละเป็นที่มาของคำว่า ธรรมย่อมชนะอธรรม ความดีย่อมชนะความไม่ดี

นี่แหละเป็นปริศนาธรรม พญามารยิ่งใหญ่แค่ไหน แต่สุดท้ายก็แพ้ความดีของพระพุทธเจ้า

"น้ำ" ก็เปรียบเสมือน ความดีของพระพุทธเจ้า มาเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ไม่ดีกลับกลายเป็นดี

และด้วยเหตุหลายอย่าง ผมกำลังคิดที่จะจัดสร้างองค์พระแม่ธรณีบีบมวยผมมาให้บูชากัน และนำรายได้มอบให้กับวัดเหมือนเช่นทุกครั้งที่ทำมา และมอบหมายให้ ช่างปาน ผู้ปั้นองค์พระวิษณุกรรม รุ่นเมตตา บารมี ให้ผมนั้น เป็นผู้มาปั้นอีงครั้งก็รอให้ช่างนั้นว่าง มารับงานก่อน ก็จะมาแจ้งให้ทราบอีกครั้งครับ
(ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก www.dhammathai.org/articles/dbview.php?No=1458)

 

วันนี้มาทำพิธีขอขมา ต่อองค์พระพรหมและองค์พระภูมิ อันเนื่องมาจากมีการย้ายตำแหน่งศาลและแยกชิ้นส่วนศาลเดิมจนเสียสภาพ ถือว่าลบหลู่ท่าน
ผมมาเห็นก็บอกเขาให้ประกอบศาลกลับใหม่ก่อน แล้วทำพิธีขอขมา แจ้งเชิญท่านขึ้นข้างบนให้เรียบร้อย เป็นเรื่องใหญ่ส่งผลต่อสุขภาพ และการงาน,การเงินเจ้าของเป็นอย่างมาก
เลยต้องเตรียมทั้งบายศรีและพานขอขมาให้ครบถ้วน ก็ม่ข่วยทำพิธีให้ถูกต้องเรียบร้อยครับ

 

เทพหรือเทวดาประจำวันเกิด

เป้นเรื่องที่ผมถูกถามบ่อยเหมือนกัน และจริงๆในทางโหราศาสตร์ ก็มีการนำเรื่องของเทพหรือเทวดาประจำวันเกิดไปใช้ประกอบการคำนวนอยู่บ่อย และในทางโหราศาสตร์ไทยจะพูดถึงบ่อยในเรื่องของการเข้าเสวยอายุ และแทรกอายุในแต่ละช่วงชีวิตของแต่ละคน

โดยเชื่อกันว่าเมื่อแต่ละคนเกิดมาจะมี "เทวดานพเคราะห์" ประจำวันเกิด และในแต่ละช่วงชีวิตเทวดานพเคราะห์จะหมุนเวียนเข้าเสวยอายุ ซึ่งการกำหนดปีการเสวยอายุนั้นขึ้นอยู่กับกำลังของเทวดาแต่ละองค์ ที่น่าสนใจการที่จะส่งผลร้ายหรือดีต่อมนุษย์นั้น ยังขึ้นอยู่กับประเภทของเทวดานพเคราะห์อีกด้วยว่า เป็นฝ่ายบาปเคราะห์หรือศุภเคราะห์ รวมไปถึงความเข้ากันได้หรือไม่กับเทวดาประจำวันเกิดอีกด้วย


เลข ๑ พระอาทิตย์ "สุริยเทพ" เป็นเทพนพเคราะห์ที่มีอำนาจเหนือกว่าเทพนพเคราะห์ทั้งปวง พระอิศวรทรงใช้ราชสีห์ 6 ตัว ป่นเป็นผง ห่อด้วยผ้าสีแดง พรมด้วยน้ำอมฤต ลักษณะเป็นบุรุษมีผิวกาย สีแดง ทรงราชสีห์เป็นพาหนะ ประจำอยู่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หรือเรียกว่า เป็นเทพนพเคราะห์ประเภทบาปเคราะห์ มักมีอารมณ์รุนแรง ตัดสินใจไว เฉียบขาด รักอิสระ แต่ซื่อสัตย์ เป็นมิตรกับพระพฤหัสบดี และเป็นศัตรูกับพระอังคาร สัญลักษณ์เลข ๑ มีกำลังพระเคราะห์เป็น ๖

ทายบุคลิคภาพ หมายถึงคนที่ดูดี สง่าผ่าเผย ภูมิฐาน น่าเคารพนับถือ ดูดีมีอำนาจ หยิ่ง ทะนง เชื่อมั่นในตนเองสูง ชอบความเป็นผู้นำ ใจกล้า ใจนักเลง และรักใครเชื่อใครแล้ว จะยึดมั่น
ธาตุ : ธาตุไฟ ใจร้อน สติปัญญาดี ว่องไว บางครั้งอาจใจร้อนรีบด่วนไป
ดาวคู่มิตร : เลข ๒ (ดาวจันทร์) และเลข ๕ (ดาวพฤหัส)
ดาวคู่ศัตรู : เลข ๓ (ดาวศุกร์) และเลข ๖ (ดาวศุกร์)
สี : สีแดง,ส้ม สีทอง
อัญมณี : ทับทิม, พลอยสีแดง.สีส้ม สีทอง
สัตว์ : ครุฑ, ราชสีห์, นกอินทรีย์
ทิศ : อีสาย (ตะวันออกเฉียงเหนือ)

คาถาบูชาพระสุริยะเทพบุตร (ท่านที่เกิดวันอาทิตย์ นำภาพและบทสวดนี้ ไปสวดบูชาได้ครับ เพิ่มพลังให้ตนเอง)
เทวะราชา ระวิเทโว รัตตะวัณโณ ปะทะมะราคะวัตถิโก สีหะวาหะนัง กัตะวาจักกะวาลานุยันโต อิสานะทิสายะ ฐิตะโกวะ ตัง นะมามิหัง ฯ
หรือ
อะ วิช สุ นุต สา นุส ติ
สวด 6 จบ

สิ่งที่ได้จากการบูชา : ช่วยให้ได้รับพรในความเจริญก้าวหน้า ได้รับความเคารพจากผู้อื่น
พระประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันอาทิตย์คือ : ปางถวายเนตร
เดี๋ยวจะทยอยเขียนให้ครบทั้ง ๙ วันครับ รวมถึง พระราหูและพระเกตุด้วยครับ
อ.ณัฐวรรธน์ ปภาเทพ ๑๓ มิ.ย. ๒๕๖๕
(ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจากในเน็ต)

 

"พระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาตถาคต" หรือที่มักเรียกกันง่ายๆว่า "พระหมอ" นั้น เป็นพระพุทธเจ้าที่พบเฉพาะในนิกายมหายาน ไม่พบในฝ่ายเถรวาท


พระนามของท่านหมายถึงพระตถาคตเจ้าผู้เป็นบรมครูแห่งยารักษาโรค ผู้มีรัศมีสีน้ำเงินดังไพลิน พระนามอื่นๆของท่านคือ พระไภษัชยคุรุตถาคต พระมหาแพทย์ราชาพุทธเจ้า พระมหาไภษัชยราชพุทธเจ้า เป็นที่นิยมนับถือในหมู่ชาวจีนและชาวทิเบต
ในความเชื่อของชาวจีน รูปของพระองค์อยู่ในท่านั่งสมาธิ มีรัตนเจดีย์วางบนพระหัตถ์ บ้างถือกระปุกยา ส่วนในความเชื่อของชาวทิเบต พระองค์มีกายสีน้ำเงินเข้ม นั่งขัดสมาธิ พระหัตถ์ขวาถือยาสมุนไพร (ทางจีนนิยมเป็นเห็ดหลินจือ) พระหัตถ์ซ้ายถือบาตรวางบนพระเพลา ถือกันว่าเป็นพระพุทธเจ้าที่สามารถรักษาโรคทางกายและโรคทางกรรมของสัตว์โลก
ทรงเป็น “พระพุทธเจ้าแพทย์” เนื่องจากเมื่อพระองค์เสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์ ทรงตั้งปณิธานว่า เมื่อพระองค์ทรงบรรลุพระโพธิญาณแล้ว เหล่าสัตว์ที่ทนทุกข์ทรมานด้วยโรคภัยใดใด หากได้ยินพระนามของพระองค์ จะพ้นจากโรคภัยทั้งหลาย มีร่างกายสมบูรณ์ ประกอบด้วยสติปัญญา มีทรัพย์มหาศาล และจะบรรลุโพธิญาณในที่สุด เชื่อกันว่าผู้เจ็บป่วยด้วยโรคทางกายและทางใจ สามารถพ้นจากโรคภัยได้ ด้วยการถวายเครื่องบูชาแก่พระปฏิมาไภษัชยคุรุ การสวดพระธารณีหรือมนต์ประจำพระองค์ การออกพระนามและการตั้งจิตรำลึกแน่วแน่ในพระนามของพระองค์
คนค่อนข้างรู้จักกันน้อยครับ จึงนำมาแนะนำให้รู้จักกันครับ
อ.ณัฐวรรธน์ ปภาเทพ ๑๕ มิ.ย. ๒๕๖๕
(ขอบคุณพระประวัติจากในเว็บไซค์ ภาพประกอบจาก ช่างนุ้ย)

 

ความจริงก็มีงานด้านฮวงจุ้ย เดินทางไปดูให้เรื่อยๆครับ แต่เพื่อความเป็นส่วนตัว ก็เลยไม่ได้เอารูปอะไรมาเผยแพร่ให้ทราบ เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว นอกจากที่เขาอนุญาต ถึงมาโพสได้ เดี๋ยวจะนึกว่ารับแต่งานทำพิธี งานดูฮวงจุ้ยบ้าน อาคาร ร้านค้า ที่ดินต่างๆ ก็ยังคงรับดูตามปกติครับ

เมื่อวานก็ไปดูร้านขายเครื่องปรับอากาศแถวนวมินทร์มา ก็มีอยู่สองเรื่องที่อยากมาแนะนำคือ

๑. เรื่องการไหว้เจ้าที่หน้าบ้าน ซึ่งมักเห็นทำกันเยอะ มีที่ปักธูป และบางวันก็มีข้าว มีน้ำ มาวางไว้ ซึงก็จะบอกอีกครั้งว่า การทำแบบนี้เหมือนเป้นการเชิญสัมภเวสีมาที่ร้านเรา หรือมาป้วนเปี้ยนบริเวณหน้าร้านเรา เพราะมารอของเซ่นไหว้จากเรา และมาเยอะ หยินก็จะเยอะ เป็นสาเหตุหลักที่อาจทำให้คนไม่เข้าร้านครับ ดังนั้นแทนที่จะดี กลายเป็นไม่ดีไป การจะไหว้ให้ถูกต้องคือต้องตั้งหลักก่อนว่า เราจะไหว้อะไร ถ้าจะไหว้เจ้าที่ หรือเทวดา ก็ต้องมีศาลให้ท่านอยู่ เพื่อที่ท่านจะได้คุ้มครองดูแลเราได้ หรือจะใช้การตั้งโต๊ะกลางแจ้งหน้าบ้านก็ได้ แต่การวางของลงบนพื้นหน้าบ้าน เป็นการให้แก่พวกสัมภเวสีเท่านั้นครับ และเราเป็นคน เราควรไหว้พระ ไหว้เทพ จะดีกว่า ไม่แนะนำให้ไหว้ผี แต่เราสามารถอุทิศผลบุญให้พวกเขาได้ เช่นทำบุญตักบาตร หรือไปถวายสังฆทานก้ตั้งจิตอุทิศผลบุญให้พวกเขา แบบนี้ได้ และถูกต้องครับ ดังนั้นไม่ควรทำนะครับ


๒. การไหว้เจ้าที่ในบ้าน หรือการไหว้ "ตี่จู๊เอี๊ยะ" ซึ่งเปรียบเหมือนเราไหว้องค์พระภูมินั่นเอง ดังนั้นตัวศาลจะต้องวางกับพื้นครับ เหมือนให้สัมผัสดิน เพราะพลังของพระภูมิเกี่ยวข้องกับพื้นดิน ถ้าจะทำแท่นยกสูงเพื่อวางตัวศาล ก็ทำได้ครับ แต่ต้องเจาะพื้นเดิมก่อน แล้วเททรายลงให้สัมผัสดินเดิม ถึงค่อยกั้นขอบเทพื้นยกระดับได้ จะได้เป็นการวางบนพื้นดินที่เชื่อมต่อกันกับดินเดิม ส่วนตำแหน่งการวางตัวศาล มักจะวางให้ตรงกับประตูหน้า ที่เข้าบ้าน เพื่อให้ท่านดูแลทุกคนที่ผ่านเข้ามาในบ้าน ด้านหลังควรมีผนังเป็นหลักพิงให้ตัวศาล และควรเป็นสีแดง เช่นเดียวกับเวลาวางของไหว้ ควรใช้ผ้าแดงปูก่อน แล้วค่อยวางของไหว้ ซ฿่งเมื่อจัดวางและไหว้ได้ถูกต้องผลดีก็จะกลับมาที่ตัวเราและคนในบ้านครับ

อ.ณัฐวรรธน์ ปภาดทพ ๒๐ มิ.ย. ๒๕๖๕
(ขอบคุณภาพประกอบจากในเว็บไซค์)

 

วันคล้ายวันเกิดท่าน อ.เทพย์ สาริกบุตร

วันนี้เมื่อ ๙๙ ปีที่แล้ว (๒๘ มิถุนายน ๒๔๖๒) บุคคลที่ถือได้ว่ามีคุณูปการอันใหญ่หลวงต่อวงการโหราศาสตร์และวงการอักขระเลขยันต์ในบ้านเราได้มาเกิด และด้วยลักษณะของเด็กที่มีบุญ ดังนั้นญาติผู้ใหญ่ของท่านจึงขนานนามท่านว่า “เทพย์”

ท่านที่ศึกษาโหราศาสตร์หรือพระเวทย์ส่วนใหญ่ในบ้านเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เริ่มศึกษาด้วยตนเองจากตำรา ท่านเหล่านั้นส่วนใหญ่ต้องผ่านตำราที่ท่าน อ.เทพย์ รวบรวมและเรียบเรียงเอาไว้ โดยตำราของท่าน อ.เทพย์ ถือได้ว่าเป็นตำราฉบับมาตราฐานที่สามารถใช้อ้างอิงจากตำราฉบับอื่นๆ ได้

อาจกล่าวได้ว่าหลายๆคน รวมถึงตัวผมเองก็เติบโตมากับหนังสือ ตำหรับตำราของท่าน ทั้งด้านโหราศาสตร์ และด้านไสยศาสตร์ อักขระเลขยันต์ต่างๆ ขอกราบระลึกถึงคุณของครูบาอาจารย์อีกท่านหนึ่งครับ

 

วันนี้ใครสะดวกก็มาร่วมพิธีกันครับ


โดยวันพุธที่ 6 กค.นี้ จะมีพิธีไหว้พระราหูที่วัดกล้วย พระเจ้าทันใจ นนทบุรี ถ.กรุงเทพนนท์ 3 โดยเริ่มตั้งแต่ หกโมงเย็นเป็นต้นไป
-หกโมงเย็น ถึงทุ่มครึ่ง ร่วมสวดมนต์ ไหว้พระในอุโบสถเดิมของวัด เพื่อให้เกิดความเป็นศิริมงคล และขอขมากรรม เพื่อหนุนดวง
-หนึ่งทุ่มครึ่ง มาร่วมพิธีไหว้องค์พระราหู และร่วมถวายของดำทั้งแปดอย่าง เพื่อขอขมาและขอพร ให้คลายเคราะห์ คลายทุกข์ คลายโศรก แก้ปัญหาอุปสรรคต่างๆ
โดยทางวัดจะจัดเตรียมของไหว้ พร้อมธูปดำและเทียนดำ ให้บูชาให้ถูกต้อง รวมถึงการนำสวดที่ถูกต้องจาก อ.ณัฐวรรธน์ด้วย มาตัวเปล่า แต่งกายให้สุภาพครับ


ทั้งนี้ พระราหู หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เทพราหู เป็นเทวดานพเคราะห์องค์หนึ่งในคติไทย ซึ่งมีความเชื่อกันว่า สามารถบันดาลประโยชน์และโทษให้เกิดขึ้นกับบุคคล หรือสิ่งต่าง ๆ ได้ ดังนั้น เพื่อให้สิ่งเลวร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นบรรเทาเบาบางลง และแปรเปลี่ยนเป็นสิ่งที่ดี ให้เกิดความสำเร็จในหน้าที่การงาน มีโชคมีลาภ เจริญก้าวหน้าร่ำรวยยิ่งขึ้น จึงได้มีการบูชาพระราหูเกิดขึ้น โดยบางครั้งอาจเรียกสั้น ๆ ว่า การไหว้ราหู นั่นเอง
และพระโพธิสัตว์ บางครั้งมีรูปกายสวยงาม บางครั้งก็มีรูปกายน่ากลัว และสามารถบังเกิดในภพภูมิใดก็ได้ อย่างพระราหูเป็นพระโพธิสัตว์ที่รูปกายน่ากลัว และเป็นพระโพธิสัตว์ที่เกิดขึ้นในแดนอสูร ทำหน้าที่ดูแลพระพุทธศาสนา ให้พรคนดี ย่ำยีคนชั่ว บำเพ็ญบารมีสร้างภพชาติเพื่อสืบพระพุทธวงศ์มิให้สิ้นสูญ โปรดสรรพสัตว์ให้พ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด อันเป็นมหาบารมีมหาปณิธานอันยิ่งใหญ่ ดังนั้นจึงสมควรที่จะได้รับการกราบไหว้บูชาเช่นเทพเจ้าองค์อื่น ๆ


ขอเรียนเชิญทุกท่านที่สะดวกมาร่วมไหว้ องค์อสุรินทร์ราหู หรือราหูคลายจันทร์ เพื่อคลายเคราะห์ คลายทุกข์ คลายโศรก แก้ปัญหา อุปสรรคต่างๆในชีวิตกันครับ
ขอบคุณครับ
อ.ณัฐวรรธน์ ปภาเทพ

 

08-07-2565


สำเร็จเรียบร้อยครับ เมื่อคืนวันพุธนี้กับพิธีไหว้ขอพรกับองค์อสุรินทราหูที่วัดกล้วย และพิธีจุดเทียนสืบชะตา
คนอาจมาไม่เยอะ เพราะทิ้งช่วงไปนาน แต่ใครที่ชีวิต ติดๆขัดๆ แนะนำให้หาโอกาสแวะมาครับ


พบกันใหม่ในวันพุธที่ ๓ สิงหาคมครับ

 

ผมเชื่อว่าหลายๆคนคงเคยเห็น และผมเองก็น่าจะเคยพูดถึงมาแล้ว แต่ก็ยังมีให้เห็นเรื่อยๆ คือ

การตั้งศาลพระภูมิบนชั้นสองหรือบนดาดฟ้าได้หรือไม่ คำตอบคือไม่ได้ เพราะองค์พระชัยมงคล หรือเจ้ากรุงพาลี ต้องรับพลังจากธาตุดินหรือพื้นดิน ดังนั้นจึงต้องตั้งที่ชั้นล่าง บนพื้นดินนั่นเอง
หากไม่มีพื้นที่แล้วที่ชั้นล่าง จำเป็นต้องตั้งบนชั้นบนหรือบนดาดฟ้า ทำได้ครับ แต่ให้ตั้งเป็นศาลเทพเทวาอื่นๆ เช่นศาลพระพิฆเนศก็ได้ และให้คิดว่า เมื่อตั้งแล้ว เราสะดวกที่จะมาไหว้หรือไม่ ไม่ใช่ตั้งเพื่อให้ท่านคุ้มครองดูแล แต่นานๆถึงจะขึ้นไปไหว้สักที

หากตั้งไปแล้วทำอย่างไร ต้องถอนออกครับ ทั้งนี้เพราะเมื่อตำแหน่งนี้มันไม่ใช่ไม่ถูกต้อง องค์พระภูมิหรือพระชัยมงคลท่านก็จะไม่มาประทับ แต่เราไหว้ และมีของถวาย แบบนี้ผีหรือวิญญาณสัมภเวสีต่างๆจะมาอยู่แทน และเราก็กลายเป็นว่า ไหว้ผีแทน ซึ่งไม่ดี และจะมีผลต่อสุขภาพของเจ้าบ้าน และคนในบ้าน จึงต้องถอนออกครับ
วิธีถอน คงต้องใช้ผู้มีวิชาหรือพราหมณ์มาทำพิธีขอขมาและแจ้งถอนศาลออก เพราะกลายเป็นที่อยู่ของพวกสัมภเวสีไปแล้ว อยู่ดีๆไปริ้อ ทุบทิ้งออกมา ย่อมไม่ดีพวกนี้จะกลายมาเป็นเจ้ากรรมนายเวรติดตัวเราอีก และไม่ควรใช้ชุดที่มาทำพิธีให้แต่แรก เพราะถ้าเขารู้และมีวิชาทางนี้จริง ย่อมต้องรู้ว่า การตั้งศาลที่ชั้นบนนั้นไม่ได้ และไม่ถูกต้อง ก็เลือกให้ดีครับ

ภาพประกอบจากงานจริง ที่ผมต้องไปทำพิธีถอนศาลให้ครับ ซึ่งงานถอนศาลแบบนี้ จริงๆผมก็ไมค่อยอยากไปทำ นี่เป็นคนรู้จักและเห็นว่าเจ้าบ้านสุขภาพแย่มาก เลยจะไปถอนศาลให้ครับ
อ.ณัฐวรรธน์ ปภาเทพ ๑๙ กค. ๒๕๖๕

 

ต่อเนื่องจากที่ได้พูดถึงการตั้งศาบพระภูมิบนชั้นสองหรือดาดฟ้าของบ้านนั้น ไม่ถูกต้อง และส่งผลเสีย
มาเมื่อวานก็ได้ไปทำพิธีถอนศาลพระภูมิให้กับบ้านที่มีปัญหาหลังหนึ่ง


เพราะมีการนำศาลพระภูมิ ไปตั้งไว้ที่ชั้นสองของตัวบ้าน จึงทำให้เชิญพระภูมิมาสถิตย์ที่ศาลไม่ได้ กลายเป็นที่อยู่ของสัมภเวสีแทน
ดังนั้น แทนที่ทุกคนในบ้านจะได่้ไหว้เทพเทวา กลายเป็นไหว้ผีไปแทน ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของเจ้าบ้านและคนในบ้าน

ต้องระวังครับ และคนที่รับตั้งศาลพระภูมิไปไว้บนขั้นสองหรือดาดฟ้าบ้าน ก็แสดงว่าเป็นพวกครูพักลักจำ ไม่ได้รู้จริง สนใจแต่เงิน ไม่สนใจว่าทำไม่ถูกต้องและส่งผลเสียอย่างไรบ้าง

 

ขอเชิญทุกท่านมาร่วมพิธีไหว้องค์ราหู ที่วัดกล้วย พระเจ้าทันใจ นนทบุรี
ในวันพุธที่ 3 สค.นี้ครับ (มีพิธีไหว้ทุกวันพุธต้นเดือน)


พิธีเริ่ม
-หกโมงเย็น ไหว้พระสวดมนต์ เพื่อความเป็นศิริมงคล
- หนึ่งทุ่มครึ่ง เริ่มพิธีไหว้องค์อสุรินทราหู
ทางวัดจัดเตรียมของไหว้ ซึ่งเป็นของดำทั้งแปดอย่าง พร้อมธูปดำและเทียนดำ แต่งกายสุภาพมาร่วมงานครับ


พระราหูในพุทธศาสนา คัมภีร์อนาคตวงศ์ระบุไว้ว่า พระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพยากรณ์เรื่องพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 10 พระองค์ในอนาคตให้แก่พระสารีบุตรเถระ ความโดยย่อคือ องค์พระศรีอาริยเมตไตรยจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าเป็นปฐมที่ 1 และ อสุรินทราหู จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า พระนารทะ
และดาวราหูไม่ได้เป็นดวงดาวที่น่ากลัวเสมอไป บางครั้งจะให้ผลในเรื่องโชคลาภด้วย สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการไหว้ราหูนั้นคือ เป็นการเตือนสติตัวเองให้ระมัดระวังความคิดและการตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใด ๆ ก็ตาม ควรใช้สติปัญญาเพื่อให้เกิดทางสว่างในใจ และดาวราหูก็จะส่งผลให้ชีวิตของเรามีความรุ่งโรจน์และความสำเร็จ คลี่คลายปัญหาอุปสรรคต่างๆ
มีการกล่าวไว้ว่า หากบูชาพระราหูเป็นประจำ จะเกิดความร่ำรวย และมีความสำเร็จในกิจการงาน นอกจากนี้จะมีความปลอดภัยในการเดินทางไกล การเสี่ยงโชค หรือการลงทุนจะร่ำรวยและมีโอกาสก้าวหน้า หากท่าน คิดดี ทำดี พูดดี ก็จะโชคดีมีชัย เทอญ สาธุ

 

แจ้งข่าวนะครับ



เนื่องจากในวันที่ 26-30 สค.นี้ ผมเดินทางลงไปทำพิธีที่ จ.กระบี่นะครับ
ใครที่อยู่ในกระบี่ สนใจจะเชิญให้ไปดูฮวงจุ้ย บ้าน อาคาร สำนักงาน หรือทำพิธีบวงสวงตั้งศาล, ถอนศาล พิธีมงคล เปิดร้าน เปิดบริษัทต่างๆ แจ้งมาได้ครับ จะได้ราคาพิเศษครับ ซึ่งจะถูกกว่า เชิญให้ลงไปเพียงงานเดียวครับ


ก็แจ้งล่วงหน้าได้นะครับ จะได้วางคิวไว้ หรือหากต้องเตรียมบายศรีเครื่องบวงสรวงทำพิธี ก็จะได้เตรียมไว้ ถ้าเดินทางลงไปแล้ว จะไม่สะดวกรับงานเพิ่มนะครับ
แจ้งได้ที่นี่ หรือไอดีไลน์ 0863773176 ครับ
ขอบคุณนะครับ

 

แจ้งข่าวนะครับ



เนื่องจากในวันที่ 26-30 สค.นี้ ผมเดินทางลงไปทำพิธีที่ จ.กระบี่นะครับ
ใครที่อยู่ในกระบี่ สนใจจะเชิญให้ไปดูฮวงจุ้ย บ้าน อาคาร สำนักงาน หรือทำพิธีบวงสวงตั้งศาล, ถอนศาล พิธีมงคล เปิดร้าน เปิดบริษัทต่างๆ แจ้งมาได้ครับ จะได้ราคาพิเศษครับ ซึ่งจะถูกกว่า เชิญให้ลงไปเพียงงานเดียวครับ


ก็แจ้งล่วงหน้าได้นะครับ จะได้วางคิวไว้ หรือหากต้องเตรียมบายศรีเครื่องบวงสรวงทำพิธี ก็จะได้เตรียมไว้ ถ้าเดินทางลงไปแล้ว จะไม่สะดวกรับงานเพิ่มนะครับ
แจ้งได้ที่นี่ หรือไอดีไลน์ 0863773176 ครับ
ขอบคุณนะครับ

 

14-08-2565

วันนี้ วันดี ฤกษ์ดี
มาทำพิธีบวงสรวงอัญเชิญ องค์พระพิฆเนศวร เข้าประทับและเชิญเข้าบ้าน
เพื่อคุ้มครองดูแล อำนวยพร ให้ท่านเจ้าบ้าน พร้อมด้วยบุตรและบริวาร ให้คิดทำสิ่งใด ให้เกิดความสำเร็จยิ่งๆขึ้นไป

 

บันทึกไว้ อีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ เมื่อวันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๖๕

คณะทำงานและกลุ่มศิษย์เก่ากุลสิริเทคโนโลยีทุกๆท่าน ได้คิดี ทำดี ประพฤติดี สมเป็นลูกหลานขององค์พ่อ ได้รวบรวมทั้งแรงกาย แรงใจ ความอดทน และปัจจัยต่างๆ เพื่อนำองค์พระวิษณุกรรม อัญเชิญมาประทับไว้ที่ วัดบุคโล นนทบุรี จนสำเร็จ


ทั้งนี้ก็เพื่อให้ศิษย์เก่ากุลสิริเทคโนโลยีทุกๆคน รวมถึงทุกๆท่าน ที่เคารพบันถือในองค์พระวิษณุกรรม ได้มาเคารพ กราบไหว้ บูชาและขอพรจากองค์พระวิษณุกรรมได้ที่ วัดบุคโลแห่งนี้ สืบนานเท่านาน ตลอดไป
เมื่อได้เวลาฤกษ์ดี ภูมิเปาโลฤกษ์ ๑๐.๑๙ น. ได้รับความเมตตาจากท่านเจ้าอาวาสวัดบุคโล มาเป็นประธานจุดธูปเทียนชุดเครื่องห้า และเจิมที่องค์พระวิษณุกรรม


หลังจากนั้นพราหมณ์พิธีจึงเริ่มกล่าวโองการ ทำตัวศักดิ์สิทธิ์ และเริ่มทำพิธีบวงสรวง พร้อมปี่พาทย์ตีเพลงครู ได้กล่าวนำให้ทุกๆคนที่มาร่วมในพิธีอันศักดิ์สิทธิ์และน่าประทับใจนี้ ได้กล่าววันทา กล่าวอัญเชิญ กล่าวขอขมา และกล่าวขอพรเบิกพระเนตร ตั้งแต่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า, องค์พระอรหันตร์ทั้งแปดทิศ, ทวยเทพเทวาทุกๆชั้นฟ้า ทุกๆพระองค์

แล้วจึงให้ตัวแทน ยกพานขอขมาต่อหน้าพระพักตร์องค์พระวิษณุกรรม หากที่ผ่านไม่ว่าครูบาอาจารย์หรือศิษย์เก่าทุกๆคน กระทำการใดๆ ผิดพลาด ขาดตกบกพร่อง ไม่ถูกต้องประการใดก็ตาม ขอเป็นตัวแทนยกพานขอขมานี้ต่อองค์พระวิษณุกรรม
แล้วจึงเริ่ม กล่าวโองการบทอัญเชิญพระวิษณุกรรมครูช่าง ปี่พาทย์ถวายเพลง "เวสสุกรรม,ปฐมดุสิต.พราหมณ์เข้า" พราหมณ์ทำการขออนุญาตเบิกเนตรองค์พระวิษณุกรรม เพื่อประทับยังวัดบุคโลแห่งนี้ สืบต่อไป


หลังจากกล่าวลาเครื่องบวงสรวงแล้ว จึงให้ตัวแทนทำการยกเครื่องสูง เพื่อน้อมส่ง ทุกๆพระองค์ที่ได้เชิญมาในพิธี เพื่อรับการกล่าวบูชา กล่าวขอขมา และขอพรเบิกพระเนตร กล่าวภวายเครืองบวงสรวง และให้พรแก่ทุกๆคน ที่มาร่วมพิธีในวันนี้ ตั้งแต่ต้นจนสำเร็จเรียบร้อย ก็ขอยกเครื่องสูงเพื่อน้อมส่งทุกๆพระองค์เสด็จกลับสู่สวรรค์วิมานเบื้องบน ให้ถูกต้องครบถ้วน เป็นอันเสร็จพิธ๊


ขอให้ผลบุญทั้งหลายที่ทั้งตัวแทน คณะทำงาน และศิษย์เก่ากุลสิริเทคโนโลยีทุกๆท่าน ที่ได้อัญเชิญองค์พระวิษณุกรรม เพื่อมาประทับยังวัดบุคโล ในครั้งนี้ ให้เป็นบุญนิธิ เป็นบุญสำเร็จ ให้เกิดแก่ศิษย์เก่าทุกๆคน ที่ได้ร่วมทั้งแรงกาย และแรงใจทุกๆคน สืบเนื่องตลอดไปด้วยเทอญ

บันทึกโดยพราหมณ์พิธี
อ.ณัฐวรรธน์ ปภาเทพ

 

งานจบแล้ว แต่รูปยังไม่จบ ทีมงานส่งรูปสวยๆมาให้ ขอลงรูปเพิ่มเติมนะครับ


๑๗ สิงหาคม ๒๕๖๕ วันประวัติศาสตร์
ศิษย์เก่ากุลสิริเทคโนโลยี อัญเชิญองค์บรมครูพระวิษณุกรรม มอบให้กับวัดบุคโล ธนบุรี

 

วันแรกกับงานที่กระบี่

แวะมาดูบ้านที่มีปัญหา พบปัญหาสามจุดที่น่าสนใจคือ
1. ตำแหน่งโต๊ะเรียนและทำการบ้านของนักเรียน ตรงกับบันไดบ้านขึ้นชั้นสองพอดี โดยนั่งหันหลังให้กับบันได
ผลคือ อยู่ในตำแหน่งที่ไม่นิ่ง มีการเคลื่อนไหวที่บันไดตลอด ทำให้เด็กสมาธิสั้น สมาธิไม่ดี ไม่นิ่ง แนะนำให้ย้าย
2. ชั้นบนห้องพระ จัดวางรวมกับรูปบรรพบุรุษที่เสียไปแล้ว และวางตำแหน่งอยู่สูงกว่าพระ พูดง่ายๆคือ วางผีไว้สูงกว่าพระ วิญญาณบรรพบุรุษก็อยู่ไม่ได้ บารมีของพระก็ไม่มี บ้านจึงเต็มไปด้วย "หยิน" หรือพลังงานของคนตายมากกว่าคนเป็น พลังจากพระพุทธก็ไม่คุ้มครอง ส่งผลให้คนในบ้านมีปัญหาเรื่องสุขภาพ เรื่องการพักผ่อนที่หลับไม่สนิท ทำให้พักผ่อนไม่เต็มที่ส่งผลเสียเป็นอย่างมาก แนะนำให้จัดวางใหม่
3 เตียงนอนวางไว้ข้างบันไดขึ้นชั้นสอง แม้จะมีผนังกั้นไว้ แต่เวลาเรานอน คนเดินขึ้นลง เราก็เหมือนถูกเหยียบเหนือศีรษะตลอด และในช่วงกลางคืน บันไดเป็นคำแหน่งที่วิญญาณไหลขึ้นลงตลอด คนนอนก็จะโดนรบกวนตลอด ทั้งจากคนเป็นและคนตาย อันนี้ส่งผลต่อคนที่นอนเป็นอย่างมาก กลายเป็นคนพูดช้า ทำอะไรก็ตกต่ำตลอด ให้ย้ายเตียงออก ห้ามนอนเด็ดขาด


อีกเรื่องคือต้นไม้หน้าบ้าน อย่าปล่อยให้เหมือนธูปดอกเดียว และตรงกับตัวอาคาร เหมือนปักธูปเรียกผี ให้เข้าบ้าน เป็นอาคารร้านค้า ก็จะค้าขายไม่ดี โดนปิดหมด เป็นบ้านคน ก็โดนวิญญาณรบกวนตลอด

อ.ณัฐวรรธน์ ปภาเทพ
27 สค. 2565

 

28-08-2565

งานกระบี่ วันที่สอง


งานทำพิธีบวงสรวง ครบรอบวันเกิดเจ้าภาพ และเชิญผู้ที่เคารพนับถือมาร่วมงาน เพื่อความเป็นศิริมงคลในชีวิต
ใช้เทียนมหามงคลเพื่อต่อชะตาเจ้าภาพ ใช้เทียนวิปัสสี เพื่อปัดเป่าปัญหา อุปสรรค สิ่งไม่ดีทั้งหลายให้ออกไป ให้พ้นไปจากชีวิต ให้ยกพานขอขมาต่อพระรัตนตรัย ทวยเทพเทวา ครูบาอาจารย์ บิดามารดา ญาติพี่น้องทั้งหลายที่เคยล่วงเกินไป




และขอพรให้นับแต่นี้ให้เกิดความสงบสุขในชีวิต ให้ปราศจากเภทภัยและโรคภัยทั้งหบายทั้งปวง ให้คิดทำสิ่งใด ก็ขอให้สำเร็จสมหวังทุกประการ

อ.ณัฐวรรธน์ ปภาเทพ
โทร 086-377-3176