เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๕

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 25 ธันวาคม 2022.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,519
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,535
    ค่าพลัง:
    +26,372
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๕


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,519
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,535
    ค่าพลัง:
    +26,372
    วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๒๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ กระผม/อาตมภาพเดินทางไปยังวัดไชยชุมพลชนะสงคราม (พระอารามหลวง) ตำบลบ้านใต้ อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ตั้งแต่เช้า เพราะว่ามีงานทำบุญวันบูรพาจารย์ของวัด ซึ่งชาวบ้านเรียกง่าย ๆ กันว่าวัดใต้

    แล้วยังมีงานฉลองตราตั้งเจ้าคณะอำเภอเมืองกาญจนบุรีของพระเมธีปริยัติวิบูล (ศิริ สิริธโร ป.ธ.๙), ดร. และฉลองตราตั้งรองเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ของพระโสภณกาญจนาภรณ์ (ทอมสันต์ จนฺทสุวณฺโณ ป.ธ.๔) หรือที่พระภิกษุสามเณรเรียกกันติดปากว่าหลวงพ่อเจ้าคุณทอมสันต์

    เมื่อร่วมงานในพิธีซึ่งมีพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนกลางเป็นประธานเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ขออนุญาตเดินทางกลับ เพื่อที่จะมาร่วมงานปลุกเสกพญายักษ์วัดแจ้ง ที่วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร หรือที่ภาษาชาวบ้านเรียกกันแต่เดิมว่าวัดแจ้ง

    โดยงานนี้ต้องขออนุญาตเสียมารยาทเข้าพิธีก่อนเวลา เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่ากระผม/อาตมภาพต้องบรรยายธรรมออกรายการ เสียงธรรมจากมหาจุฬาอาศรม ซึ่งเป็นอาทิตย์ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ โดยได้รับการติดต่อจองตัวมาจากท่านอาจารย์พระมหาไพโรจน์ กนฺโก รองผู้อำนวยการส่วนธรรมนิเทศ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

    เมื่อไปถึงก็ได้กราบถวายความเคารพครูบาอาจารย์ท่านต่าง ๆ ที่ไปถึงแล้ว ก็จากนั้นก็นั่งสนทนากับหลวงพ่อเกาะ (พระครูวิสิฐชัยคุณ) วัดท่าสมอ ซึ่งรู้จักมักคุ้นกันดี สักครู่หนึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็มานิมนต์ให้เข้าสู่มณฑลพิธีเลย
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,519
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,535
    ค่าพลัง:
    +26,372
    เมื่อกราบพระแล้ว กระผม/อาตมภาพก็เข้าสู่อาสนะ ซึ่งมักจะได้ตั้งคู่อยู่กับพ่อครูศิริพงศ์ ครุพันธ์กิจ ฆราวาสจอมขมังเวทย์ โดยจะต้องตั้งอยู่ทางด้านหน้าพญายักษ์วัดแจ้งอยู่เสมอ เมื่อบรรดาโฆษกหรือพิธีกรได้กล่าวถึงครูบาอาจารย์ท่านต่าง ๆ โดยเฉพาะว่าสืบสายพุทธาคมมาจากสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) วัดระฆังโฆสิตาราม เมื่อระลึกถึงท่าน หลวงปู่สมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดระฆังก็มาถึงทันทีทันใด กระผม/อาตมภาพจึงเบาแรงไปเป็นกอง เหตุเพราะว่าหลวงปู่ครูบาอาจารย์ต้นสายกรรมฐานท่านมาถึงแล้ว

    เนื่องเพราะว่าหลวงปู่สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) วัดระฆังโฆสิตารามนั้น ท่านเป็นครูบาอาจารย์ของหลวงปู่เนียม วัดน้อย หลวงปู่เนียม วัดน้อย ท่านเป็นครูบาอาจารย์ของ หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค หลวงปู่ปาน วัดบางนมโคเป็นครูบาอาจารย์ของหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ของกระผม/อาตมภาพอีกทีหนึ่ง

    เมื่อท่านอาจารย์ปู่ทวดมา กระผม/อาตมภาพจึงขอแรงให้ท่านช่วยเมตตาเสกวัตถุมงคลให้ ปรากฏว่านอกจากได้รับกำหนดให้ภาวนา อิติปิ โสฯ ๓ ห้อง ๗ จบแล้ว ยังต้องแถมด้วยพระคาถาชินบัญชรอีก ๑ จบ

    ระหว่างที่ดูหลวงปู่สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) วัดระฆัง ท่านดำเนินพิธีอยู่ กระผมก็ถามหาเจ้าถิ่น ก็คือยักษ์วัดแจ้ง โดยถามคู่หูคู่ฮาซึ่งตามไปเข้าพิธีด้วย ก็คือวัชระกับวายุ สองแมลงภู่คำซึ่งเป็นองครักษ์ส่วนตัวว่า "นางยักษิณีอยู่ที่ไหน ?"

    ปรากฏว่าได้ยินเสียงเขียวปั้ดมาจากข้างหลัง บอกว่า "เรียกยักขเทวียังพอรับได้ หนอยแน่ะ..มาเรียกยักษิณี..! อยากจะเจอกระบองมากใช่ไหม ?" กระผม/อาตมภาพก็เลยได้แต่ขอโทษขออภัย เพราะความเคยชินว่าเป็นยักษ์ผู้หญิง แทนที่จะเรียกว่ายักษีหรือยักขเทวี เผลอไปเรียกเป็นนางยักษิณี ซึ่งต้องบอกว่าต่ำชั้นกว่าอย่างชนิดสุดกู่ปลายตะโกน..!

    เนื่องเพราะว่าพญายักษ์วัดแจ้ง เธอเป็นอินทกะของท่านท้าวเวสสุวรรณ ต้องบอกว่าอยู่ในระดับว่าที่ท้าวมหาราช ก็คือถ้าหากว่าท้าวมหาราชพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว ก็จะมีการคัดเลือกกันในหมู่อินทกะทั้ง ๑,๐๐๐ องค์ ว่าผู้ใดเหมาะสมที่จะเป็นท้าวมหาราชองค์ต่อไปในระยะเวลานั้น ๆ ดังนั้น..อินทกะทั้ง ๑,๐๐๐ องค์ จึงเรียกได้ว่า "ว่าที่ท้าวมหาราช" นั่นเอง
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,519
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,535
    ค่าพลัง:
    +26,372
    หลังจากนั้นลงไปก็ยังมีชั้นมหาอำมาตย์ อย่างชั้นวชิระ กว่าที่จะลงไปถึงปลายแถวอย่างบรรดายักษิณีหรือรากษสต่าง ๆ นั้น ก็ต้องบอกว่าเหมือนอย่างกับเอารองผู้บัญชาการทหารบก ไปเปรียบกับพลทหารยืนยาม ไม่โดนแม่เจ้าประคุณฟาดหัวด้วยกระบอง ก็นับว่าเกรงใจมากแล้ว..!

    เมื่อหลวงปู่สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) วัดระฆัง ท่านบอกว่าเต็มพิธีแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ทำน้ำมนต์พรมรอบบริเวณพิธี แล้วก็โปรยดอกไม้ข้าวตอกต่าง ๆ เป็นการถวายพุทธบูชา พร้อมกับได้เห็นท่านเจ้าคุณดำเนิน - พระปริยัติวโรปการ (ดำเนิน จิตฺตโสภโณ ป.ธ.๖) เจ้าอาวาสวัดนาคกลางวรวิหาร เพื่อนพระอุปัชฌาย์ร่วมรุ่น ที่มานั่งตั้งท่าจะเจริญภาวนาอยู่ด้วย จึงได้ทักทายกัน เสร็จเรียบร้อยแล้วทางเจ้าหน้าที่มานิมนต์ให้นั่งรับปัจจัยไทยธรรม บรรดาช่างภาพต่าง ๆ ก็ถ่ายภาพเพื่อเตรียมทำประชาสัมพันธ์

    หลังจากนั้น กระผม/อาตมภาพก็มากราบเท้าขอขมาหลวงปู่สมเกียรติ - พระเดชพระคุณพระพรหมวัชรเมธี (สมเกียรติ โกวิโท ป.ธ.๙) เจ้าคณะภาค ๙ เจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร ขออภัยที่วันนี้ไม่ได้กระทำหน้าที่อย่างเต็มกำลัง เหตุเพราะว่าติดบรรยายในรายการเสียงธรรมจากมหาจุฬาอาศรม จึงต้องขออนุญาตเข้าพิธีก่อน

    พระเดชพระคุณหลวงปู่ก็ยังเมตตาสอบถามว่า "แล้วจะทันเวลาไหม ?" กระผม/อาตมภาพกราบเรียนว่ามีโทรศัพท์มือถืออยู่ ถ้ากลับที่พักไม่ทัน ก็จะบรรยายผ่านทางโทรศัพท์มือถือไปก่อน แต่ปรากฏว่าหลังจากที่กราบลาพระเดชพระคุณหลวงปู่สมเกียรติท่านออกมาแล้ว ทางด้านนอกรถยนต์ไม่ติด แต่ว่าทางขาเข้านี่รถติดจนน่าเวทนา เพราะว่ายาวเหยียดหลายกิโลเมตรเลยทีเดียว..! กระผม/อาตมภาพจึงเดินทางกลับเข้าสู่ที่พักค่อนข้างที่จะสะดวกสบาย ดังนั้น..จึงยังมีเวลาในการเตรียมการที่จะบรรยายในคืนนี้อยู่อีกหลายนาที
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,519
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,535
    ค่าพลัง:
    +26,372
    ระยะนี้ต้องบอกว่ากระผม/อาตมภาพมีการบรรยายธรรมนั้นมีค่อนข้างจะชุก เพราะว่าพรุ่งนี้ก็ต้องไปบรรยายถวายความรู้ให้แก่นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย คณะสังคมศาสตร์ ซึ่งเข้าปฏิบัติธรรมประจำปี ๒๕๖๕ อยู่ที่วัดมหาจุฬาลงกรณราชูทิศ

    ญาติโยมทั้งหลายที่ต้องการฟังเสียงบรรยายธรรมจากกระผม/อาตมภาพ แล้วบอกว่าไม่มีเวลาที่จะเดินทางไปฟังที่วัดท่าขนุน หรือว่ากระผม/อาตมภาพละเว้นจากการรับสังฆทานประจำทุกเดือนแล้ว ไม่มีเวลาที่จะบรรยายธรรมให้ท่านทั้งหลายฟัง ก็จะได้รับฟังกันอย่างจุใจในครั้งนี้เอง เพราะว่าเมื่อวานนี้ก็เพิ่งจะบรรยายให้กับนิสิตคณะครุศาสตร์ไป พรุ่งนี้ก็เป็นของคณะสังคมศาสตร์ ประกอบกับวันนี้ ยังเป็นรายการเสียงธรรมจากมหาจุฬาอาศรม ซึ่งเป็นช่วงส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่เข้ามาอีก

    ท่านรองผู้อำนวยการฯ พระมหาไพโรจน์ กนโก ก็ยังกำหนดหัวข้อมาเป็น "อานิสงส์ในการปฏิบัติพระกรรมฐาน" ซึ่งเรื่องนี้ความจริงท่านทั้งหลายก็พอที่จะรู้กันแล้ว ว่าการปฏิบัติกรรมฐานนั้นจะมีอานิสงส์อย่างไรบ้าง

    แต่ว่าเวลาบรรยายธรรมนั้น กระผม/อาตมภาพถวายเป็นภาระหน้าที่แก่ครูบาอาจารย์ ไปจนกระทั่งถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า แล้วแต่จะโปรดให้ตรงกับกำลังใจของผู้ใด และจะได้บรรยายในเรื่องใด

    เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า หลายครั้งที่ตั้งใจเตรียมเนื้อหาการบรรยายไปอย่างดี ปรากฏว่าเมื่อถึงเวลาแล้ว ก็โดนลากไปในเรื่องที่ท่านตั้งใจจะสงเคราะห์เป็นการเฉพาะแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง ทำให้ไม่สามารถที่จะบรรยายตามหัวข้อที่ตนเองตั้งใจเอาไว้ได้


    หรือว่าบางทีเนื้อหาหัวข้อที่ตั้งใจเอาไว้ ไม่เหมาะแก่กำลังใจของบุคคลใดบุคคลหนึ่งที่ควรแก่การสงเคราะห์เป็นพิเศษ กระผม/อาตมภาพก็ต้อง "ออกทะเล" ไปตามแรงที่ท่านดึงไปว่าควรที่จะพูดเรื่องใดบ้าง ควรที่จะบรรยายในเรื่องใดบ้าง
     
  6. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,519
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,535
    ค่าพลัง:
    +26,372
    สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ถ้าพูดไปแล้ว สำหรับบางท่านก็อาจจะคิดว่า "เพ้อเจ้อ" แต่ว่ากระผม/อาตมภาพนั้น ได้รับรู้ในเรื่องทั้งหลายเหล่านี้มาอย่างเต็มที่ ตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๕๒๖ มาจนถึงบัดนี้ ก็ต้องบอกว่าเป็นระยะเวลา ๔๐ ปีเต็มแล้ว ถ้าหากว่ายังขาดความมั่นใจอยู่ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปมั่นใจอะไรอีก..!

    แล้วเรื่องที่บรรดาครูบาอาจารย์ก็ดี แม้กระทั่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ตาม อนุเคราะห์สงเคราะห์ให้บรรยายมานั้น ก็จะพอเหมาะ พอดี พอควร แต่ว่าก็มีลูกศิษย์บางรูปบางคน ที่อวดดีอวดรู้อยู่ในลักษณะที่ไปตอกย้ำว่า เรื่องนี้ต้องเป็นอย่างนั้น เรื่องนั้นต้องเป็นอย่างนี้

    ขอให้ทราบว่าสิ่งที่ครูบาอาจารย์ก็ดี องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสงเคราะห์มาก็ดี จะพอเหมาะ พอดี พอควรกับสถานการณ์นั้น ๆ อย่าได้อวดรู้เอาความสามารถ "แค่หางอึ่ง" ของพวกเรา ไปวัดความสามารถของครูบาอาจารย์ โดยการไปฟันธงว่า พูดถึงเรื่องนั้น ต้องเป็นอย่างนั้น พูดถึงเรื่องนี้ต้องเป็นอย่างนี้ เพราะว่าจะทำให้ธงหักเสียเปล่า ๆ..!

    กระผม/อาตมภาพเองโดนหนักมาตั้งแต่สมัย "พระองค์ที่ ๑๐" ที่ท่านใช้คำว่า "แว่นแตก" ยังคงเข็ดมาจนถึงทุกวันนี้ มิบังอาจที่จะไปอวดรู้ต่อครูบาอาจารย์อีกเลย

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันอาทิตย์ที่ ๒๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...