เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๖

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 5 พฤศจิกายน 2023.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,391
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,530
    ค่าพลัง:
    +26,368
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๖

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,391
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,530
    ค่าพลัง:
    +26,368
    วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพฉันเช้าเสร็จแล้ว ก็ต้องมาทำบวงสรวงเพื่อขออนุญาตทอดกฐินสามัคคี ให้กับพระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ดร. เจ้าอาวาสวัดอุทยาน สถานที่ทำบวงสรวงก็คือวิหารหลวงปู่เพิ่ม นะสีเล อดีตเจ้าอาวาสวัดอุทยาน ซึ่งได้รับการเคารพจากชาวบ้านมากที่สุด เพราะว่าท่านเป็นต้นตำรับเรือทองเศรษฐี

    เนื่องเพราะว่าหลวงปู่เพิ่มท่านขลัง และศักดิ์สิทธิ์ ชนิดที่ใครบนบานศาลกล่าวอะไรก็ได้ดั่งใจ ดังนั้น..เมื่อท่านพายเรือออกบิณฑบาต จึงมีญาติโยมที่นอกจากใส่บาตรแล้ว ยังทำการแก้บนด้วยการปิดทอง จนเรือของท่านเหลืองอร่ามไปแทบทั้งลำ ท่านจึงเรียกว่าเรือทองเศรษฐี

    มาภายหลัง ท่านเจ้าคุณทินน์ (พระโสภณพัฒนคุณ) เจ้าคณะอำเภอหนองม่วง ได้รับการสงเคราะห์จากแม่ตะเคียน ซึ่งนำเอามาอยู่ในวัดพุน้อย อำเภอหนองม่วง จังหวัดลพบุรี แม่ตะเคียนให้ทำวัตถุมงคลเป็นรูปเรือแล้วท่านจะสงเคราะห์ให้ค้าขายดี ท่านเจ้าคุณทินน์จึงตั้งชื่อว่าเศรษฐีเรือทอง แต่ขอให้ญาติโยมทุกท่านได้ทราบว่าต้นตำรับจริง ๆ ก็คือหลวงปู่เพิ่ม นะสีเล อดีตเจ้าอาวาสวัดอุทยาน เจ้าของเรือทองเศรษฐี

    พระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ดร. ได้ทำการบูรณะวิหารถวายท่าน แล้วยังอัญเชิญสมเด็จองค์ปฐมทรงเครื่องจักรพรรดิ หน้าตัก ๘๐ นิ้ว ที่หล่อเสร็จแล้วไปตั้งไว้ในวิหารด้วย ถ้าทุกคนเข้าไปกราบ ก็จะเห็นเหมือนกับหลวงปู่เพิ่มกำลังพายเรืออยู่หน้าสมเด็จองค์ปฐมทรงเครื่องจักรพรรดิ

    เมื่อเสร็จจากการบวงสรวงแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ขอตัวให้น้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) พาวิ่งตรงไปยังวัดโพธิ์ผักไห่ หมู่ที่ ๔ ตำบลผักไห่ อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งปีนี้ กระผม/อาตมภาพมาทอดกฐินปลดหนี้ให้กับท่านพระครูปลัดพิจารย์ วิจารโณ เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ผักไห่ ที่ท่านมีดำริจะสร้างรั้ววัด เนื่องเพราะว่าวัดโพธิ์ผักไห่ตั้งมาหลายร้อยปีแล้ว แต่จนป่านนี้ก็ยังไม่มีรั้ว ซึ่งอาจจะโดนชาวบ้านบุกรุกที่ดินได้ง่าย
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,391
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,530
    ค่าพลัง:
    +26,368
    เมื่อถึงคิวกระผม/อาตมภาพจึงนำกฐินปลดหนี้มาทอดให้ท่านที่นี่ ซึ่งหลวงพ่อพระครูปลัดพิจารย์ก็ดีอกดีใจเป็นอย่างยิ่ง มอบถวายพระยืนปางรำพึงหล่อด้วยเหล็กไหลสุริยันราชาให้กับกระผม/อาตมภาพ ๑ องค์ ความสูงประมาณศอกเศษ ๆ บอกว่า "ไม่มีอะไรจะทดแทนความเมตตาของพระเดชพระคุณได้ จึงถวายไปเป็นของคู่วัด" แล้วขณะเดียวกันก็จะสร้างวัตถุมงคลด้วยยาจินดามณีเต็มสูตร เมื่อทำเสร็จตามฤกษ์ยามและพิธีกรรมทุกอย่างแล้ว จะนำไปถวายให้หลวงพ่อปลุกเสกซ้ำ เพื่อที่จะได้นำออกให้ญาติโยมชาววัดท่าขนุนได้บูชากันต่อไป

    กระผม/อาตมภาพพักรอจนกระทั่งญาติโยมทางด้านวัดโพธิ์ผักไห่นี้มากันมากแล้ว จึงได้ออกไปจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย หลังจากที่ญาติโยมสมาทานศีลเสร็จ กระผม/อาตมภาพก็นำกล่าวถวายกฐินปลดหนี้ ซึ่งมีบริวารกฐินเป็นเงินสด ๓,๒๕๐,๐๐๐ บาทถ้วน เสร็จสรรพเรียบร้อยแล้ว ทางคณะสงฆ์ก็อปโลกน์ให้พระครูปลัดพิจารย์ วิจารโณ เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ผักไห่ เป็นผู้ครองกฐินในปีนี้

    กระผม/อาตมภาพจับไมโครโฟนบอกกล่าวแก่ญาติโยมทั้งหลาย ขออภัยที่ต้องทอดกฐินกันแต่เช้า เนื่องเพราะว่ากระผม/อาตมภาพต้องเดินทางลงไปยังหาดใหญ่ เพราะว่าพระมหาเถระสายครูบาอาจารย์เดียวกัน ก็คือพระเดชพระคุณพระภาวนาสุตาจารย์ วิ. (หลวงปู่มหาอำนวย ฐานวโร ป.ธ.๔) อดีตเจ้าอาวาสวัดชัยชนะสงคราม อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอหาดใหญ่ ท่านมรณภาพลงด้วยอายุ ๙๙ ปี พรรษา ๗๙

    เนื่องจากว่าทางวัดชัยชนะสงครามนั้น เป็นสำนักสอนมโนมยิทธิตามตำราหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงมาแต่ดั้งเดิม หลวงปู่มหาอำนวยท่านก็เป็นครูบาอาจารย์สายหลวงพ่อวัดท่าซุงที่อายุกาลพรรษาสูงที่สุด กระผม/อาตมภาพสนิทสนมคุ้นเคยกับท่านเป็นอย่างดี สมัยก่อนที่เชื้อไวรัสโควิด ๑๙ จะแพร่ระบาด ก็ได้นิมนต์ท่านไปเป็นเนื้อนาบุญในงานทำบุญวันแม่ทุกปี เพิ่งจะมาเว้นช่วงตั้งแต่ปี ๒๕๖๓ มา ปีนี้ก็ติดเป็นกรรมการตรวจประเมินเพื่อยกหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบ จนไม่มีเวลาแม้แต่จะจัดงานวันแม่อย่างเป็นทางการ จึงไม่ได้นิมนต์หลวงปู่ท่านมาเป็นเนื้อนาบุญ ท่านเองก็อยู่จนกระทั่งออกพรรษาแล้วถึงได้มรณภาพ
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,391
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,530
    ค่าพลัง:
    +26,368
    ดังนั้น..การที่จะต้องลงไป เพื่อร่วมงานศพของครูบาอาจารย์สายหลวงพ่อเดียวกัน จึงเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ แล้วขณะเดียวกันก็มีเครื่องบินลงสู่หาดใหญ่ แบบที่กระผม/อาตมภาพสะดวก ก็คือขึ้นจากสนามบินดอนเมืองนั้น แค่เที่ยวบ่ายเที่ยวเดียวเท่านั้น และเป็นเที่ยว ๑๓.๑๕ น. จึงไม่สามารถที่จะทอดกฐินตามกำหนดเดิมคือ ๑๓.๐๐ น. ได้ ต้องเปลี่ยนมาเป็นทอดถวายในช่วงเช้า

    เสร็จสรรพเรียบร้อย พระครูปลัดพิจารย์ วิจารโณ ก็นำเอาพระภิกษุวัดโพธิ์ผักไห่มากราบขอบพระคุณที่อนุเคราะห์สงเคราะห์ในครั้งนี้ พร้อมกับสั่งลูกศิษย์นำอาหารกล่องขึ้นรถไปให้ด้วย กระผม/อาตมภาพจะได้ฉันเพลในระหว่างทาง

    แต่ปรากฏว่าเมื่อไปถึงสนามบินดอนเมืองและทำการเช็คอินเสร็จเรียบร้อยแล้ว นั่งภาวนาสะสมเสบียงบุญอยู่ประมาณ ๒ ชั่วโมง ก็ต้องย้ายจากประตู ๓๖ ไปประตู ๗๒ ซึ่งอยู่คนละทิศคนละทางกัน และเครื่องบินเที่ยวเดียวที่มีอยู่ ก็เลื่อนจากการออกตอน ๑๓.๑๕ น. เป็น ๑๔.๑๐ น. ทำให้กระผม/อาตมภาพสามารถที่จะสะสมเสบียงบุญเพิ่มขึ้นได้อีก ๑ ชั่วโมง..!

    แต่สิ่งที่ไม่ดีก็คือว่าขาดการพักผ่อน ทำให้อาการมาลาเรียเรื้อรังทำท่าจะกำเริบ เนื่องเพราะว่าเครื่องปรับอากาศในสนามบินนั้นเปิดเอาไว้เย็นมาก ถ้าไม่ใช่ ๑๘ องศาเซลเซียส ก็น่าจะอยู่ที่ ๒๑ องศาเซลเซียส ซึ่งท่านทั้งหลายอาจจะคิดว่ากำลังเย็นฉ่ำเลยทีเดียว แต่ไม่ใช่กระผม/อาตมภาพอย่างแน่นอน เนื่องเพราะว่าถ้าเป็นสถานที่ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ จำเป็นต้องใช้เครื่องปรับอากาศ กระผม/อาตมภาพจะเปิดไว้ที่ ๒๗ หรือ ๒๘ องศาเซลเซียส แล้วยังต้องใส่อังสะกันหนาวอีกด้วย..!

    ท่านทั้งหลายอาจจะคิดว่า "อะไรร่างกายจะแย่ปานนั้น..!?" ขอบอกว่าถ้าบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดนมาลาเรียกินมาตลอด ๔๐ ปี ย่อมไม่มีไฟธาตุเหลือพอที่จะทำสิ่งหนึ่งประการใดได้แล้ว นอกจากต้องทนกับอากาศหนาวเป็นพิเศษ แต่ก็ยังโชคดีว่า เมื่อเวลาไปอยู่ในสถานที่ซึ่งหนาวมาก ๆ บรรดาเจ้าที่เจ้าทางท่านเมตตาสงสาร จึงช่วยอนุเคราะห์สงเคราะห์ให้ ทำให้รอดตัวมาได้เกือบทุกงาน

    เมื่อเครื่องบินลงที่สนามบินหาดใหญ่ คุณประภาส กมลศรี มารับไปวัดชัยชนะสงคราม กราบสังขารของหลวงปู่เจ้าคุณอำนวย ญาติโยมทางด้านนี้ก็ดีอกดีใจที่ได้พบหน้า แม้กระทั่งกำลังแต่งตัวอยู่ ก็ถ่ายรูปเป็นการใหญ่ จนต้องดุไปว่า "พระกำลังแต่งตัว ถ่ายรูปตอนนี้ถือว่าเสียมารยาท" เป็นต้น
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,391
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,530
    ค่าพลัง:
    +26,368
    เมื่อนัดแนะกันแล้วว่าพรุ่งนี้จะมาเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมถวายแก่หลวงปู่เจ้าคุณอำนวยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็เดินทางไปยังที่พัก ก็คือร้านสมนึกการบัญชี ถนนดวงจันทร์ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ซึ่งตั้งแต่ลงมาปักษ์ใต้ก็พักอยู่ที่นี่เป็นประจำ จนกระทั่งผู้ที่นิมนต์ ก็คือคุณสมนึก พ่อเพ็ชร เสียชีวิตไปนับสิบปีแล้ว ส่วนที่เหลือลูกหลานก็ยังคงนิมนต์ต่อมาเรื่อย

    ญาติโยมได้แห่กันมารออยู่ที่นี่เป็นจำนวนมาก กระผม/อาตมภาพต้องฝืนสังขารรรับสังฆทานจนเสร็จเรียบร้อย แล้วถึงได้ขอตัวขึ้นยังที่พัก บอกว่า "ไม่ลงมาอีกแล้วจนกว่าจะพรุ่งนี้เช้า ใครจะมาก็ให้มาตอนถวายภัตตาหารเช้าไปเลย" จากนั้นกระผม/อาตมภาพก็ขึ้นมาบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนอยู่ในขณะนี้ คาดว่าหลังจากบันทึกเสียงแล้ว ต้องฉันยาเพื่อสกัดอาการมาลาเรียกำเริบทันที

    เหตุที่คืนนี้ไม่สามารถจะไปฟังสวดพระอภิธรรมของหลวงปู่เจ้าคุณอำนวย ก็เพราะว่าในช่วงเวลาประมาณทุ่มครึ่ง จะเป็นเวลาที่มาลาเรียเรื้อรังกำเริบทุกคืน ทำให้ระยะหลังนี้ งานกลางคืน ถ้าไม่ใช่จำเป็นจริง ๆ กระผม/อาตมภาพจะไม่ออกไปเลย ไม่ว่าจะเป็นงานสวดมนต์เย็น งานศพ หรือแม้กระทั่งงานสำคัญต่าง ๆ อย่างเช่นว่างานแสดงทางวัฒนธรรมเป็นต้น

    ถ้าหากว่าจะไป ก็ต้องฉันยาเข้าไปอย่างเต็มที่เพื่อสะกดอาการเอาไว้ก่อน เสร็จงานก็ต้องรีบกลับมาพักผ่อนอย่างเร่งด่วน ญาติโยมหลายท่านก็น้อยใจว่า "นิมนต์สวดมนต์เย็นแล้ว หลวงพ่อวัดท่าขนุนไม่เคยไปเลย" ก็ต้องขออภัยแก่ญาติโยมเอาไว้ ณ ที่นี้ด้วย เนื่องเพราะว่าถ้าไป ก็อาจจะต้องไปนั่งสั่นให้ขายหน้าชาวบ้านเขานั่นเอง..!

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันอาทิตย์ที่ ๕ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๖
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...