นิทานสนุก..พระเครื่องและเครื่องราง (ที่สุดแห่งปี...รุ่นอภิญญาใหญ่)

แม้มีแล้วก็ตักเพิ่มไม่ผิดกติกา 55 หลวงปู่โต ผงหลวงพ่อแก้ว... ท่านบอกแยกผงไว้เผื่อมีคนมาขอ...

 

ผงนี้ล่ะครับ ท่านรับกับหลวงพ่อกวยเอง ตอนไปเรียนวิชาด้วย ไปนอนวัดบ่อย

ท่านบอกรวมทุกผงแล้ว มีมนต์พระกาฬล้าน % ท่านบอก "หลวงพ่อกวยท่านรอบคอบ ดุดันท่านระวังตลอดจึงลงมนต์พระกาฬไว้ ท่านไม่ชอบคนพาล..."

ผงนี้จึงนับเป็นหัวเชื้อแบบล้ำเลิศไร้เทียมทาน ไม่ต้องไปหาพระแพง ๆ ที่เสี่ยงปลอมที่บรรดาผู้อ้างชื่อท่านหากินมาขาย... (ขายเป็นสิบๆ ปียังไม่หมดกันเลยแปลกดี)

 

ผงนี้ วันแรกผมมองข้ามไม่สนใจเพราะไม่มีชื่อเขียนที่กระปุก โดนเล่นต้องมาเอารอบสองนั่นล่ะครับ

ท่านเอานิ้วแตะตรวจบอก "อิฐเก่า พระกรุเก่าหลายที่ "
ผมถามมีแร่ธาตุด้วย ท่านบอกของเก่าโบราณก็จะเป็นแบบนี้ล่ะ

ผงนี้ล้ำเลิศเช่นกันครับ อิฐเก่า ของพันปีอยู่ในผงนี้ล่ะ... ถ้าไม่ใช่จากหลวงปู่ ไปหยิบมั่วๆ มาบดอาจเจออาถรรพ์เอาได้..

 

ตอนที่ 3 นิมิตจากสมาธิ

ผมยังตัดสินใจไม่ได้จะสร้างรูปพระอภิญญาใหญ่ท่านใด ในคืนนึงหลังจิตสงบเต็มที่ แต่งขันธ์ 5 บูชาพระและมวลสารต่าง ๆ จึงภาวนากำหนดจิตนั่งสมาธิ ภาวนาไป ....อิติปิ....พุทธะนิมิตตังฯ ๆ ๆ ๆ

จนจิตสงบดี เกิดนิมิตปรากฏ เป็นภาพผู้คนส่วนใหญ่ทุกข์ยากลำบาก คนมั่งมีจิตใจเลวร้ายคอยเอาเปรียบผู้คน คนดีก็ต้องคอยระวังคนไม่ดีเอาเปรียบ มีแต่ความร้อนทั้งอากาศ และจิตใจ หาที่สบายกายใจยาก ดินฟ้าอากาศแปรปรวน ทำมาหากินลำบาก

จึงสอบถามในจิตไปว่า ให้ข้าพเจ้าสร้างพระอะไรเป็นที่พึ่งแก่ผู้คนที่ศรัทธา

ภาพนิมิตหายไปเป็นภาพพระอุปคุตที่วัดแห่งหนึ่งที่ผมเคยไปกราบบูชา จากนั้นก็ปรากฎเป็นภาพหลวงปู่ทวด !!!!!!!!

 

ตอนที่ 4 กำเนิดพระอุปคุต อภิญญาใหญ่ดับทุกข์ภัย

ปางนี้ชื่อปางจกบาตรหยุดตะวัน ตามตำนานที่ว่าพระอุปคุตหลังออกจากสมาบัติจะฉันเพล ปรากฏว่าเวลาจะเลยเที่ยงแล้ว ท่านจึงแหงนมองดวงอาทิตย์สะกดให้ดวงอาทิตย์หยุดเคลื่อนตัว แล้วฉันเพลจนเสร็จ ก็คลายมนต์ เป็นเคล็ดว่าหยุดอุปสรรคในการทำมาหากิน

และแล้วก็ถึงวันเวลาหล่อพระ ได้ส่งชนวนสำคัญไปดังนี้

1. หนุมานที่ผมเคยสร้างเองและปลุกเสกเพิ่มเติมอีกหลายวาระ

2. เม็ดชนวนสำคัญ ๆ เม็ดชนวนหล่อหนุมานที่มชนวนมากมาย ปลุกเสกพร้อมหนุมาน

3. เม็ดเงินแท้ที่ได้ปลุกเสกโดยบรมครูธรรมภาคอีสาน

4. แหวนอสนีบาตพิฆาตหลายวง ที่ได้ปลุกเสกเพิ่มเติมมาอีก 10 กว่าวาระรวม ๆ น่าจะประมาณ 14 วาระ

 

ตอนที่ 5 กำเนิดหลวงปู่ทวด รุ่นอภิญญาใหญ่

เมื่อได้พระอุปคุตมาแล้ว ผมก็รอดูวันดี เพื่ออุดมวลสาร และเตรียมสร้างหลวงปู่ทวดไปในคราวเดียวกัน โดยจำแนกมวลสารดังนี้

1. พระอุปคุตใช้มวลสารรวม 20 รายการที่ได้มาจากหลวงปู่ท่าน + มวลสารสร้างรุ่นสรรพสิ่งล้วนเป็นหนึ่งเดียว (เสกพร้อมพระ)

2. หลวงปู่ทวดใช้มวลสารเหมือนพระอุปคุต แต่เพิ่มดินกากยายักษ์ ,แร่เหล็กน้ำพี้, แร่เกาะล้าน,แร่เหล็กเปียก,ดินศักดิ์สิทธิ์ทางภาคใต้ ตามสูตรหลวงปู่ทวดที่เน้นว่านยา

ก่อนกดพิมพ์ก็แต่งขันธ์ 5 บอกกล่าวครูบาอาจารย์และหลวงปู่ทวดเป็นหลักให้สำเร็จ

 

ตอนที่ 6 ปฐมฤกษ์ปลุกเสก

หลังแต่งขันธ์ 5 บอกกล่าวครูบาอาจารย์ดลใจ และขอบารมีพระอุปคุต หลวงปู่ทวดชี้ทางเพื่อให้รุ่นนี้สมเป็นที่สุดแห่งปี ให้เกิดความแตกต่างจากทุกรุ่น ก่อนที่จะพักภาวนาช่วงเข้าพรรษา 3 เดือน

เกิดภาพนิมิตเป็นยันต์โสฬสขึ้นมา และเป็นภาพหลวงปู่เอี่ยมวัดสะพานสูง

ผมเลยนึกถึงที่สายข่าวรายงานมาก่อนหน้านี้ว่ามีหลวงปู่ท่านหนึ่งสืบสายวัดสะพานสูง พลังจิตหลวงปู่ท่านนี้เขายกย่องว่า เหมือนหลวงพ่อกวยเลย !!!!! เป็นศิษย์หลวงพ่อทองสุข วัดสะพานสูง

จริงๆ หลายปีก่อนผมเคยไปหาหลวงปู่ท่านนี้ที่วัดมานะครับแต่ไม่พบ ท่านติดกิจนิมนต์ จากหลังนั้นว่าจะไป ๆ ก็ไม่ได้ไปอีกเลย

เมื่อคิดเช่นนี้ วันฤกษ์ดี ตื่นตี 5 ก็เดินทางไปเลยครับ ไปถึงวัดประมาณเกือบ 9 โมง ก็ได้พบหลวงปู่ท่าน เลยถวายของทำบุญ แล้วขอความเมตตาท่านปลุกเสก

ท่านหยิบพระอุปคุต หลวงปู่ทวดพิจารณาก็เลยเริ่มกล่าวคำเชิญครูบาอาจารย์ ซึ่งที่ผมจับใจความได้ก็มีหลวงปู่โต หลวงปู่ทวด หลวงปู่ศุขฯ

จากนั้นท่านก็ปลุกเสกตามสูตรท่าน ซึ่งจากผมฟัง ก็สมเป็นสายวัดสะพานสูง เน้นคงกระพันแคล้วคลาด และคาถาพระเจ้าสิบหกพระองค์ คาถามงกุฏพระเจ้าเป็นต้น กระแสพลังที่ออกมา ดุดัน เข้มแข็ง

ท่านเสกให้ยาวนานมาก จากนั้นก็ประสิทธิประสาทให้ พร้อมให้พร

หลังเสร็จแล้วผมขอท่านเป่าหัวให้ ก็สุดยอดเช่นกัน สมกับที่สายข่าวรายงานว่าพลังจิตท่านพอ ๆ กับหลวงพ่อกวยเลยยังไงยังงั้น (เขาว่ามานะผมไม่ทราบว่าใช่หรือเปล่า)

 

ตอนที่ 7 ศิษย์หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่

องค์นี้ พรรคพวกแจ้งข่าวมาว่าท่านเก่งด้านปราบแก้คุณไสยอย่างฉมัง เป็นหนึ่งในตองอูในด้านนี้ สมเป็นศิษย์หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ และมีเมตตาสูงครับ ท่านเลี้ยงหมาแมวในกุฏิเพียบ แบบอยู่ร่วมกันได้

เมื่อผมไปถึงก็ทำบุญกับท่านแล้วขอความเมตตาท่านปลุกเสก ท่านก็ปลุกเสกให้อย่างดียิ่งในด้านป้องกัน ปราบคุณไสย ภูตผีปีศาจ นับว่าเป็นที่พึ่งของทุกคนได้จริงๆ

 

ตอนที่ 8 เจ้าคุณหลวงปู่ใหญ่แห่งเมืองสุ1000

หลวงปู่ท่านนี้ สายข่าวรายงานว่าเป็นพระอริยเจ้าระดับสูงสุดอย่างแน่นอน อายุท่าน 95 ปี ตามประวัติท่านเป็นเนื้อนาบุญแห่งพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริงที่หาได้ยากยิ่ง ด้านปฏิบัติท่านเคยไปเรียนกับหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ,หลวงพ่อโอภาสี และอีกหลาย ๆ ที่ ด้านเผยแพร่ศาสนา ท่านก็พัฒนาวัดจากวัดที่เกือบร้างมาจนรุ่งเรือง ส่งเสริมการศึกษาแก่พระภิกษุ สามเณร สร้างคุณความดีในพระศาสนาอย่างมากมาย จนทุกท่านยกย่องท่านให้เป็น หลวงปู่ใหญ่ และมีสมณศักดิ์เป็นท่านเจ้าคุณ ปัจจุบันท่านอายุ 95 ปี

ผมได้รับความเมตตาจากท่านเมตตาอธิษฐานจิตให้แบบเต็มกำลัง

คำว่าเต็มกำลังคืออะไร ท่านยกกล่องตามภาพ พร้อมกล่าวคำว่า “ชั่วชีวิตนี้ขอสร้างบารมีในพระพุทธศาสนา !!!!!!!!” จากนั้นท่านก็นิ่งเข้าฌานสมาบัติ แบบเต็มกำลังฤทธิ์ เมื่อเสร็จแล้วท่านก็ประสิทธิ์ให้ แม่ชีที่ดูแลเข้ามาบอกด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า “หลวงปู่ท่านอธิษฐานจิตแบบนี้แรงเลยนะ ” ผมปลาบปลื้มใจมาก มีผู้ปฏิบัติมาการันตีเช่นนี้ เรียกว่าพุทธคุณธรรมคุณสังฆคุณหายห่วง

เมื่อกระแสพระรัตนตรัยเต็มเปี่ยม จากนั้น สถานีต่อไป ก็สายคาถาอาคมล่ะครับ 555

 

ตอนที่ 9 ยอดพระอริยอภิญญา 96 ปี สายหลวงปู่ศุข หลวงปู่บุญ สายหลวงพ่อจาดฯ

เมื่ออยากเติมเต็มด้านคาถาอาคม ก็ได้พบดังปรารถนา หลวงปู่อายุ 96 ปีที่ร่ำเรียนมาด้านนี้แบบเอกอุ สืบสายจากยอดพระเกจิอาจารย์ระดับสุดยอดของประเทศ

ผมเดินทางถึงวัด ปรากฏว่าช่วงฉันเพลพอดี ได้พบศิษย์หลวงปู่ท่านก็เลยพูดคุยสักพัก ทราบว่าหลวงปู่ท่านสมัยก่อนเดินเท้าไปเรียนสรรพวิชาสายหลวงปู่ศุข เพราะจากสุ1,000ไปชัยนาทก็ใกล้ๆ กัน การเดินทางสมัยก่อนหลวงปู่เล่าให้ศิษย์ว่าเดินเท้า มีแต่ป่าเขาแต่ท่านก็ชอบเลยอดทนร่ำเรียนมาจนเรียกว่าครบเครื่อง

เมื่อหลวงปู่ฉันเพลเสร็จ กลับกุฏิ ก็เลยขอความเมตตาท่าน ผมมองตาท่านตกใจเลยครับ นับว่าใสเหมือนแก้ว และมีประกายดำเหมือนนิล มีวงรอบสีฟ้าชัดเจนจนต้องร้อง “โห !!!!”

ท่านก็หยิบพระมาพิจารณาแล้วลงให้ตามต้องการ กระแสจิต คาถาอาคมที่ท่านลงให้รุนแรงมากจนน่าตกใจ ได้แต่คิดในใจ รู้งี้มาหาตั้งนานแล้วถ้ารู้ว่าท่านเก่งขนาดนี้

ท่านลงให้จนสำเร็จ แล้วเลยขอท่านพรมน้ำมนต์ให้เช่นเดิม นับว่าตรงตามความต้องการเลยครับ คืออยากเติมด้านคาถาอาคมให้มากๆ และยิ่งท่านเป็นพระอริยเจ้ายิ่งตรงแนวทางเลย

 

ตอนที่ 10 สุดยอดปรมาจารย์แห่งภาคตะวันออก...

เดินทางด้วยความปิติ สู่ภาคตะวันออกตลอดกาลเดินทางเช้ามานี้ อากาศร้อนมาก ทะลุ 40 องศา จนเข้า กทม.ก็เริ่มมีฝน และตกหนักมากจนหูอื้อจากเสียงฝน เดินทางแทบจะมองไม่เห็น จนเริ่มเข้าชลบุรี ระยองผมก็ร้อนใจว่าถ้าเกิดฝนตกหนักจนปลุกเสกลำบากยุ่งเลย เมื่อใกล้ถึงวัดปรากฎว่าฝนยังไม่ตกในแถวนี้แต่ก็มืดครึ้มมากแล้ว 4 โมงเย็นยังกะ 6 โมง โชคดีไปถึงกุฏิ หลวงพ่อท่านอยู่พอดี เลยถวายของทำบุญแล้วขอความเมตตาท่าน

ก็เช่นเดิม ท่านหยิบพระมาสัมผัสกระแสก่อน ผมจึงขอท่านเชิญบารมีพระอุปคุต หลวงปู่ทวด โดยเฉพาะบารมีด้านปราบมารของพระอุปคุต ท่านก็พยักหน้ารับ

จากนั้นก็ เริ่มปลุกเสก ระหว่างท่านปลุกเสกก็มีเสียงไก่ขันเช่นเดิม จากที่ปลุกเสกที่เคยมาจะเป็นช่วงเช้ามีไก่ขัน ก็อาจว่าเรื่องปกติ แต่ตอนนี้ คือ ตอนเย็นแล้วและมืดแบบฝนจะตกด้วย เมื่อไก่ขันตอนปลุกเสกก็ตรงตามตำราว่าสัตว์สัมผัสกระแสจิตท่านได้

หลังท่านปลุกเสกเสร็จ ก็หยิบพระมาสัมผัสกระแสเช่นเดิมพร้อมกล่าวว่า “ได้แล้ว มีญาณบารมีแล้ว” จึงกราบลาท่านเดินทางกลับสู่โรงแรมที่พัก

ก็โชคดีที่ถึงโรงแรมฝนไม่ตกเช้ามาอากาศดีแบบไม่เหลือเค้า จึงเริ่มเดินทางสู่สถานีต่อไป

 

ตอนที่ 11 สุดยอดพระอภิญญาแห่งภาคตะวันออก

หลวงปู่ท่านนี้สืบสายวิชาจากหลวงพ่อลัด วัดหนองกะบอก, หลวงปู่ทิม หลวงปู่แก้ววัดละหารไร่ หลวงปู่ก๋วน ท่านหยิบพระอุปคุตพิจารณาพร้อมกล่าวว่า “พระอุปคุตต้องแบบนี้ล่ะ ท่านเงยหน้า”

ผมจึงกล่าวกับท่านว่า “ที่ว่า แหงนหน้าหยุดดวงตะวันเพื่อจะฉันเพลใช่ไหมครับ ?” ท่านก็รับว่าใช่ ก็นับว่าโชคดีที่สร้างได้ตามสูตร หยุดดวงตะวันเพื่อฉันเพล เป็นเคล็ดว่าหยุดอุปสรรคในการทำมาหากิน

ท่านปลุกเสกให้ดีมาก เสร็จแล้วก็ตบกล่อง พร้อมกล่าวว่า “เชิญบารมีให้แล้ว!!!!!”

จากนั้นท่านพิจารณาพระพร้อมขอพระหลวงปู่ทวด กับพระอุปคุตไปอย่างละ 5 องค์นะครับ ตกใจเลย555 ก็คิดว่าพระคงดีมาก ท่านที่ 3 แล้วล่ะที่ขอพระเรา แถมท่านหยิบไปเยอะสุดด้วย555

 

ตอนที่ 12 ปิดท้ายเสกปัจฉิม เอาเคล็ด ปิดท้ายด้วยชัย....

หลวงตาชัย...ท่านสุดท้ายเป็นพระอริยเจ้าหลานหลวงพ่อคูณ ท่านได้ร่ำเรียนวิชาสายหลวงปู่ทิมมาด้วย เมื่อท่านได้พิจารณาพระท่านกล่าวว่า “เดี๋ยวหลวงตาจะเบิกพระเนตรให้” ท่านได้อธิษฐานจิตให้อย่างดียิ่ง แล้วก็พรมน้ำมนต์ให้ นับว่าเป็นการปิดท้ายโดยพระอริยเจ้าอย่างสมบารมีพระอภิญญาใหญ่

 

รีวิวกระแสพลัง.....

ผมพิจารณาแบบนุ่มๆ ก่อนค่อยไปแบบดุ ดังนี้ โดยตอนนอนโรงแรมซึ่งปลุกเสกไป 5 วาระพิจารณาไปรอบนึง จากนั้นก็ต่ออีก 2 วาระ ครบ 7 แล้วพิจารณาเปรียบเทียบกัน

หลวงปู่ทวด กระแสพลังออราเหมือนเดิม(เหมือนที่พิจารณาครั้งแรก) คือ พลังรัศมีเน้นสีขาวชัดกว่าสีทอง คือที่เด่นชัดมี 2 สี ขาวกับทอง เข้าใจว่าสีขาวคือกระแสพระโพธิสัตว์ที่เมตตาบารมีเป็นหลัก พลังกระแสออกนุ่มนวล แต่มีกำลังแห่งฤทธิ์มาเป็นระยะ ๆ ๆ เป็นพลังแนวทางเดียวกับที่ผมเคยพิจารณาหลวงปู่ทวดรุ่นแรกของสมาชิกท่านหนึ่ง อำนาจญาณบารมีหลวงปู่ทวดครบครัน คือดีทุกด้านครับ ตามแต่ปรารถนาที่จะขอพร อำนาจฤทธิ์ คาถาอาคมที่ลงไปกับอำนาจมวลสารก็เป็นเพียง option เสริม

โดยสรุป เมตตา ภาวนา ความสงบร่มเย็น แคล้วคลาด มหาลาภครบถ้วน และมีอำนาจแห่งอิทธิฤทธิ์ ด้านมหาปราบจะเป็นด้านให้ศัตรูกลับมาเป็นมิตร เป็นอำนาจแห่งความร่มเย็นปลอดภัย สมกับเป็นอันดับ 1 แห่งพระนิรันตราย ความแรงกล้านี้มีมากจนไม่อาจจะประมาณได้ คงเพราะมีมวลสารผงเปิดโลกหลวงปู่ดู่มาด้วย จึงครอบจักรวาล


พระอุปคุต ก็ไม่แปลกใจที่พิจารณาชมบารมีหลังสุด เพราะออรารัศมีสีทองเด่นชัดที่สุด สีขาวรองลงมา เป็นอำนาจแห่งอิทธิฤทธิ์ อำนาจตบะบารมี ยิ่งภาวนาพระคาถาบูชาท่านยิ่งรุนแรงจนเกินจะบรรยายได้ หากขอบารมีท่านบูชาจะได้ความรวดเร็วทันใจ อำนาจปราบมาร อำนาจแห่งมหาลาภจะรวดเร็ว ส่วนอำนาจด้านอื่น ๆ ไม่ต้องพูดถึงครบถ้วน เพราะมวลสารที่มีนั้นครอบคลุมทั้งทางโลกและทางธรรมโดยแท้ ญาณบารมีครบถ้วน ความรุนแรงมากล้นจนผมสัมผัสไปสะดุ้งไปเลยครับ เรียกว่าต้องหยุดการขอชมบารมี คือแรงจนเกินสมาธิจิตของผมจะพิจารณานาน ๆ ....

สรุป สมเป็นที่สุดแห่งปีครับ สมเป็นรุ่นอภิญญาใหญ่ตามหลวงปู่ที่ให้มวลสารเจาะจงมาโดยเฉพาะ รุนแรง รวดเร็วที่สุดเท่าที่สร้างมา หวังว่าผู้ได้บูชาไปจะนำไปขอบารมี หลวงตาท่านสุดท้ายท่านย้ำด้วยนะครับ “เอาไปห้อยคอนะ หรือไว้หัวนอน หรือไว้หน้ารถ”



หมายเหตุ : ได้นำขอหลวงปู่อริยเจ้าสัมผัสกระแส ท่านกล่าวว่า “มวลสารเราเก่าแก่เป็นพันๆปี สุดยอดอยู่แล้ว มีญาณบารมีพระอุปคุต กับหลวงปู่ทวดครบ”

ท่านเล่าให้ฟังว่าการปลุกเสกครั้งหนึ่ง ท่านพ่อลี วัดอโศการาม จัดอาสนะเชิญพระอุปคุตมาร่วมปลุกเสก คนก็สงสัยจัดอาสนะเปล่าๆ ให้ท่านใด จนมีพระแก่ ๆ มานั่งอาสนะปลุกเสก หลังเสร็จพิธี พระรูปนั้นก็เดินลงไปในทะเลเลย ทะเลก็แหวกเป็นทางให้ท่านลง...

ผมคุยกับท่านก็ว่า ก็อดีตท่านพ่อลีคือพระเจ้าอโศกมหาราช พระอุปคุตกับท่านก็ช่วยป้องกันรักษาพระศาสนาในยุคนั้น ยุคนี้ก็มาพบกันต่อ...

สุดท้ายผมถามท่าน “เป็น 1 ในปฐพีเลยไหมครับ” หลวงปู่พยักหน้า....

 

เป็นอย่างไรบ้างครับ.... อ่านมา ที่สุดแห่งปียังน้อยไปนะครับ !!!!!

จบรุ่นนี้ ผู้มอบมวลสารให้ย้ำ กติกาการนำมวลสารไป

1. สร้างพระอภิญญาใหญ่ก่อน เอาฤกษ์บูชาครูใหญ่ รุ่นถัดไปแล้วแต่ผมแล้วจะทำ

2. จบรุ่นนี้ พักภาวนา ไปนมัสการสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เช่นพระธาตุพนม (กะว่าไปปลายเดือนนี้) ขอพร บูชาเจ้าของมวลสาร

3. ช่วงเข้าพรรษา งดออกวัตถุมงคล ภาวนา สวดธรรมจักรให้ได้มากที่สุด

4. ผมอาจสร้างพระก่อนเข้าพรรษาแต่ไม่มีให้บูชา ช่วงท่องเที่ยวก็อาจขอครูบาอาจารย์อธิษฐานจิต จะออกให้บูชาอีกทีหลังออกพรรษาแล้วครับ

สรุป .... จบรุ่นนี้พบกันออกพรรษานะครับ... หวังว่าที่สุดแห่งปีนี้ คงถูกใจหลายๆ ท่าน ช่วงเข้าพรรษาภาวนามาก ๆนะครับ

ต่อไปจะได้ทราบว่า ทำไมผมถึงได้มวลสารขนาดนี้ ทำไมถึงต้องสร้าง พระทุกองค์มีเจ้าของครับ...

หลวงปู่ท่านย้ำเมื่อวาน "ต่อไปคนจะลำบากมากขึ้น ลูกหลานเราจะแย่ !!!! พระท่านจะมาช่วยชี้แนะเรา !!!"

จบบันทึกตำนาน อภิญญาใหญ่ ที่สุดแห่งปี...

 

ในตำนานพระธาตุพนมกล่าวไว้ว่า องค์พระธาตุพนมสร้างครั้งแรกในราว พ.ศ. ๘ ในสมัยอาณาจักรศรีโคตรบูร
กำลังเจริญรุ่งเรืองอยู่ โดยท้าวพญาทั้ง ๕ อันมีพญาศรีโคตบูร เป็นต้น และพระอรหันต์ ๕๐๐ องค์
อันมีพระมหากัสสปะเถระเป็นประมุข ลักษณะ การก่อสร้างในสมัยแรกนั้น ใช้ดินดิบก่อขึ้นเป็นรูปเตาสี่เหลี่ยม
แล้วเผาให้สุกทีหลัง กว้างด้านละสองวาของพระมหากัสสปะ สูงสองวา ข้างในเป็นโพรง มีประตูเปิดทั้งสี่ด้าน

เมื่อสร้างเสร็จแล้วก็ได้อัญเชิญพระอุรังคธาตุของพระพุทธเจ้าที่พระมหากัสสปะเถระนำมาจากประเทศอินเดีย
ประดิษฐานไว้ข้างใน แล้วปิดประตูทั้งสี่ด้าน แต่ยังปิดไม่สนิททีเดียว ยังเปิดให้คนเข้าไปสักการะบูชาได้อยู่บางโอกาส
ในตำนานพระธาตุพนมบอกว่า "ยังมิได้ฐานปนาให้สมบูรณ์" นี้ก็หมายความว่า ยังมิได้ปิดประตูพระธาตุ
ให้มิดชิดนั่นเอง พึ่งมาสถาปนาให้สมบูรณ์ในราว พ.ศ. ๕๐๐

ท้าวพญาทั้ง ๕ ผู้มาเป็นประมุขประธานในการก่อสร้างพระธาตุพนมในครั้งนั้น เป็นเจ้าผู้ครองนครในแคว้นต่าง ๆ คือ
๑. พญาจุลณีพรหมทัค ครองแคว้นจุลมณี ก่อด้านตะวันออก
๒. พญาอินทปัตถนคร ครองเมืองอินทปัตถนคร ก่อด้านตะวันตก
๓. พญาคำแดง ครองเมืองหนองหานน้อย ก่อด้านตะวันตก
๔. พญานันทเสน ครองเมืองศรีโคตบูร ก่อด้านเหนือ
๕. พญาสุวรรณภิงคาร ครองเมืองหนองหานหลวง ก่อขึ้นรวมยอดเข้าเป็นรูปฝาละมี

อ้างอิง
http://www.watpamahachai.net/Document12_2.htm

 

ผมถามหลวงปู่ "มวลสารทั้งหมดได้ปลุกเสกเพิ่มไหมครับ ?"

ท่านพยักหน้า แล้วกล่าวว่า ตอนปี 2540 จัดพิธีปลุกเสกรูปหล่อพระนเรศวร พระเจ้าตาก รัชกาลที่ 5 ซึ่งทหารช่วยกันสร้าง ได้นำมวลสารทั้งหมดเข้าปลุกเสกด้วย หลวงพ่อโชติที่ อุบลจัดการให้ นิมนต์พระอริยเจ้า 9 รูป สายหลวงปู่ชามาปลุกเสก
พระที่มาปลุกเสกสุดยอดทุกองค์ ท่านบอกมาเลยนะ "พิธีนี้พระมหากษัตริย์สมัยก่อนมากันเยอะมาก มีพระนเรศวร พระเจ้าตาก มีช้าง ทหารเก่าแก่มากันเต็มเลย"

จึงสรุปกับท่านมิต้องห่วงครับเรื่องความขลัง มีอำนาจพระมหาษัตริย์ ไปไหนเจ้าที่เจ้าทางเกรงใจ ทำมาหากินในแผ่นดินนี้สบาย



ผมเลี่ยมพระอุปคุตเรียบร้อยเพราะชอบทางฤทธิ์ รุ่นถัดไปพบกันสิ้นเดือนตุลาคมนะครับ

ผมใฝ่ฝันมานานแล้วอยากสร้างพระเครื่องรางให้เป็นสุดยอดของแผ่นดิน นับว่า "สมปรารถนาแล้วครับ"

 

วันนี้โทรคุยกับพรรคพวกที่ผมเลี่ยมรุ่นเงินทองสมปรารถนาส่งไปให้ เขาก็ห้อยอยู่นะครับวันนี้

แต่เดิม ส่งพระเศรษฐีนวโกฎิไปให้ ผลยังไม่ชัดเจนมาก คือ เขาบอกยังไม่ถึงขนาด "ว้าว!!!!"

ผมเลยเจ็บใจมาก บอกจะส่งรุ่นต่อไปไปให้ ก็ท้าเลยถ้ายังเงียบให้ถีบเลย ก็สำเร็จด้วยดี ผมบอกว่า "มันต้องมีที่ถูกโฉลกซักองค์ล่ะ" ไม่ใช่พระเศรษฐีนวโกฎิดีไม่พอแต่ไม่ถูกโฉลกกับคนนั้นนะครับ...

พรรคพวกบอก ขนาดวันนี้ห้อยไปทำงานทางใต้ยังมีคนทักว่าไปทำไรมา ดูมีออร่า และเป็นเมตตามหานิยม การพูดเจรจาสำเร็จด้วยดี และยังจะมีข่าวดีเกี่ยวกับการทำงานด้วยเร็ว ๆ นี้

หลักการอย่างหนึ่งที่ผู้รู้สอนผมมามีดังนี้นะครับ

1. พลังอำนาจพระถ้าถึงระดับยกดวงชะตา จะส่งผลต่อดวงชะตาเราให้เปลี่ยนไปตามอำนาจของพระ (จริง ๆ เริ่มต้นตั้งแต่เราได้บูชามาแล้วล่ะครับ คือต้องมีเหตุปัจจัย ถึงมีผล ผมไม่ได้สร้างเป็นร้อยเป็นพันองค์ด้วย)

2. ทีนี้เมื่อเครื่องยนต์ start แล้วเราก็ควรห้อยให้ตลอด แบบถูกโฉลกแล้วก็ห้อยไปเลยอย่าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา นอกจากว่า เราห้อยเพิ่ม หรือแนวทางเดียวกัน พูดง่ายๆ การปลุกเสกมวลสารเดียวกันหรือเพิ่มเติมมาก็จะไม่ขาดช่วง ถ้ามีเปลี่ยนเอาแนวอื่นมา ชีวิตจะสะดุดเลยนะครับ...

3. แต่ละรุ่นผมสร้างจะใช้มวลสารเดิมที่ปลุกเสกต่อ ๆ กันไปจึงไม่ต้องห่วงเรื่องสะดุด แต่แค่เราจะถูกโฉลกองค์ไหนนั่นล่ะครับ แต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน

นับว่าพรรคพวกผมเจอพระประจำตัวแล้วล่ะครับ...