พระเครื่อง/เครื่องรางทั่วไป

เหรียญพระพุทธชินสีห์ใบมะขาม 2499

กะไหล่ทองเดิม รับประกันแท้สากล

บูชา 9,000 บาท

วัดบวรนิเวศวิหาร พระพุทธชินสีห์ วัดบวรนิเวศวิหาร สร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๙ เนื่องด้วยสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมหลวงวชิรญาณวงศ์
พระชนมายุครบ ๗ รอบบริบูรณ์ และเป็นวารที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน ขณะนั้นยังทรงผนวชเป็นพระภิกษุอยู่
ได้เสด็จแทนพระองค์พระราชอุปัชยาจารย์ เมื่อวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๔๙๙ เวลา ๐๗.๓๕ น. เสด็จฯ ศาลาหน้าพระอุโบสถ
ด้านทิศตะวันตก ไวยาวัจกร ทูลเกล้าฯ ถวายแผ่นทองคำ ๘๔ แผ่น ทรงวางแผ่นทองคำลงในเบ้าเวลา ๐๗.๔๑ น.
ทรงถือสายสิญจน์ซึ่งโยงจากเบ้าเททองหล่อพระพุทธชินสีห์แทนพระองค์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้าฯ
ในวาระนี้ได้สร้างวัตถุมงคลด้วยกันหลายชนิด คือ พระบูชา พระกริ่ง เหรียญ บาตรน้ำมนต์ และ ผ้ายันต์
ดังนั้นวัตถุมงคลเหล่านี้จึงมีค่าสูงสุด เป็นมหามงคลยิ่ง สำหรับพระบูชามีการสร้างน้อยมาก วรรณออกแดง

เหรียญพระชินสีห์ วัดบวรนิเวศวิหาร ปี 2499 จัดสร้างพร้อมพระกริ่ง 7 รอบ วัดบวรฯ ซึ่ง ในหลวงทรงเป็นองค์ประธาน
ในการจัดสร้างพระพิธีใหญ่ครั้งนี้ ในวงการนักนิยมสะสมพระเครื่อง ถือว่าพระบูชาพระพุทธชินสีห์และเหรียญพระพุทธชินสีห์ใบมะขาม ค่อนข้างหายาก

 

พระกริ่งรุ่นแรกหลวงปู่ธรรมรังษี วัดพระพุทธบาทพนมดิน อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์

เป็นศิลปะเดียวกับกระกริ่งจอมสุรินทร์ ของหลวงปู่ดุลย์ สร้างและปลุกเสก 11 เมษายน 2537 รุ่นแรกและรุ่น 2 จะมีความใกล้เคียงกันต่างกันที่จำนวนการสร้างและรอยอุดกริ่ง โดยรุ่น 2 จะสร้างและปลุกเสกเมื่อ 10 มิ.ย. 2537 สร้างเพียง 3,999 องค์ หายาก

บูชา 800 บาท

 

ล็อกเก็ตพระดาบส สุมโน อาศรมเวฬุวัน ปี๒๕๓๓

บูชา 400 บาท

 

รูปถ่าย หลวงพ่อกวย สารพัดดี

รูปถ่ายสารพัดดี สิงห์เดี่ยวหลวงพ่อกวย ปี2563

ออกวัดตึก พิธีใหญ่ วัดโฆสิตาราม วัตถุประสงค์ในการจัดสร้างเพื่อสร้างถาวรวัตถุ ออกพร้อมล็อกเก็ตดวงใจชุตินธโร.2 ตอกโค้ดรันเลขชัดเจน ( จำนวนการสร้าง 10,000 บาน) เลข 180


บูชา 400 บาท

 

ตะกรุดโทนเนื้อเงิน หลวงพ่อสุด วัดกาหลง

ยาว 3.5 นิ้ว ด้านในเป็นเนื้อเงินแท้ หายากครับ อยู่กับมือใหญ่ ไม่ต่ำกว่าหมื่น เพราะส่วนมากจะเจอเป็นเนื้อทองแดง/ฝาบาตร เปิดกันแพงเลยครับ

บูชา 9,500 บาท

 

ปิดครับ จองแล้ว



แหวนนะล้อมหลวงพ่อทอง วัดดอนสะท้อน จ.ชุมพร รุ่นแรก 2486

บูชา 7,000 บาท

++++++++ หลวงพ่อทอง วัดดอนสะท้อน ถือว่าเป็นเกจิอาจารย์ของจังหวัดชุมพรที่มีชื่อเสียงสูงมาก ในจังหวัดชุมพร ไม่ว่าจะเป็นหลวงพ่อจอน วัดดอนรวบ หลวงพ่อเปียก วัดนาสร้าง หลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย และอีกชื่อหนึ่งที่ใครต่างจดจำ ใครมาจังหวัดชุมพรต่างร่ำร้องเรียกหาวัตถุมงคลของท่านคือ หลวงพ่อทอง วัดดอนสะท้อน พระผู้มากอภิญญา มีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์สูงส่ง ความขลังทางอาคมของท่าน ท่านขลังขนาดท่านสั่งให้กรรไกรตัดหมาก ขึ้นไปตัดหมากมาถวายให้ท่าน ท่านจะสั่งจะกระซิบกรรไกรแล้ววางลง กรรไกรจะค่อย ๆ ปีนขึ้นไปบนต้นไม้คีบเอาลูกหมากลงมาถวายท่าน เป็นที่ประจักษ์ ลูกศิษย์ลูกหาคนเฒ่าคนแก่หลาย ๆคนแถบวัดต่างเห็นกันมากมาย ต่างยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง ในการมาครองวัดดอนสะท้อนก็มีอภินิหารมาก เดิมขรัวตาองค์เก่าของวัดดอนสะท้อนก็ถือว่าเป็นผู้มีอาคมแต่หลวงพ่อทอง ท่านเป็นพระที่ธุดงค์มา ชาวบ้านแถบนั้นก็ให้การเคารพนับถือ ก็อยากให้ท่านอยู่ แต่การที่ท่านอยู่ เสือสองตัวย่อมอยู่ถ้ำเดียวกันได้ยาก จึงมีการทดสอบวิชากัน โดยท้ากันว่า ใครแพ้ทางอาคมต้องออกไปจากวัดนี้ หลวงพ่อทอง ท่านมิได้คิดว่าจะครองวัดนี้หรอก แต่หากถูกลบเหลี่ยมท่านจึงได้รับคำท้านั้น เท่าที่จำได้คือ ท่านให้เอาเชือกมัดตัวแล้วโยนลงไปในน้ำ ใครจะแก้เชือกได้ก่อนคนนั้นชนะ สะเดาะกลอนประตูท่านก็ทำได้ก่อน ท่านชนะ ท่านก็ได้ครองวัดนี้ ท่านเคยแสดงอภินิหาร นั่งสมาธิบริเวณเก่งหินที่เป็นทางน้ำผ่าน แล้วสั่งให้อัสนีบาตฟาดลงมาที่แก่งหินนั้นพังทลายเพื่อให้ทางน้ำไหลผ่านได้ ซึ่งพลังจิตของท่านสูงส่งมาก พระอภิญญาสมัยก่อนหลาย ๆองค์ก็ต่างมาเรียนวิชาจากท่านไป เป็นลูกศิษย์สายเขาอ้อที่มีวิชาอาคมมาก วัตถุมงคลของท่านสร้างไม่มาก แต่ว่าแต่ละอย่างที่ท่านสร้างไว้เป็นที่เสาะหาของผู้คนทั้งหลาย แหวนนี้เป็นแหวนที่ท่านเสกทันแน่นอน เป็นของดีที่น่าสะสม

 

รูปหล่อหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ วัดบ้านกล้วย ลพบุรี
รูปหล่อแท้ทันท่าน ที่น่าบูชา รับประกัน

บูชา 3,000 บาท

รุ่นนี้ออกที่วัดบ้านกล้วย ลพบุรี ปี 2490 รูปหล่อนี้ออกที่วัดบ้านกล้วย อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี เป็นรูปหล่อที่มีเอกลักษณ์ของตัวเองคือ องค์หลวงพ่อจะดูหลังค่อม ฐานเป็นสี่เหลี่ยม( จริงๆหกเหลี่ยมไม่ใช่สี่เหลี่ยม ) มีชื่อหลวงพ่อเดิมเป็นตัวหนังสือนูนเนื้อทองเหลืองดูเก่ามาก เมื่อก่อนไม่มีคนรู้สามารถเช่าหาได้ในราคาถูก แต่ตอนนี้รู้มากแล้วทำให้ราคาสูงขึ้น( แถมมีเก๊ออกมาเยอะด้วย ) ปีที่สร้างน่าจะประมาณพ.ศ. 2490 - 2491 รูปหล่อหลวงพ่อเดิมวัดบ้านกล้วยและรูปหล่อขนาดบูชา 4 นิ้ว เจ้าของเป็นคหบดีอยู่ในตลาดตาคลี ได้เล่าให้ผู้เขียนฟังว่า เมื่อประมาณพ.ศ. 2490 - 2491 หลวงพ่อเดิมได้นั่งช้างมาจากบ้านหมี่ และได้มาแวะพักที่บ้านของตน ซึ่งขณะนั้นยังเป็นวัยรุ่นอยู่ ได้เข้าไปช่วยพยุงหลวงพ่อเดิมลงจากหลังช้างและพาเข้าบ้าน หลวงพ่อเดิมได้พูดขึ้นว่า ' ไปที่บ้านหมี่ หล่อระฆังและปลุกวัตถุมงคลมา เลยแวะมาฉันเพลที่นี่เป็นครั้งสุดท้าย ' ซึ่งตรงกับคำพูดของพระครูนิภาสธรรมรัต( หลวงปู่คัมภีร์ ) เจ้าอาวาสวัดหนองตะโก ตำบลจันเสน เคยเล่าว่าหลวงพ่อเดิมนั่งช้างผ่านที่วัดหนองตะโก 2 ครั้ง ท่านยังได้ออกไปกราบและนิมนต์ท่านให้แวะพักที่วัดหนองตะโกแต่หลวงพ่อเดิมได้ บอกว่าจะรีบไปบ้านหมี่เพื่อหาหลวงพ่อที่วัดห้วยกรวดและจะไปปลุกเสกวัตถุมงคล แต่ไม่ได้บอกว่าที่วัดไหน หลวงปุ่คัมภีร์ได้มรณะภาพไปเมื่อปี 2548 แล้ว อายุ 85 ปี และผู้เขียนเองเคยได้รูปหล่อบูชารุ่น 4 นิ้วตัวหนังสือจม โดยได้ขอเช่ามาจากชาวไร่ที่ตำบลหนองพิกุล เวลามาตลาดตาคลีจะนำพระใส่ตะกร้ามาฝากที่บ้านผู้เขียนเป็นประจำนานถึง 4 ปีเพราะกลัวหาย ผู้เขียนจึงได้ขอเช่าไว้ ซึ่งได้เล่าว่าได้เช่าบูชามาจากวัดบ้านกล้วย เพราะหลวงพ่อเดิมมาสร้างระฆังและปลุกเสกให้วัดไว้ ตามความเห็นผู้เขียนคิดว่า หลวงพ่อเดิมไปบ้านหมี่ไม่น้อยกว่า 2 ครั้งคือ พ.ศ. 2482 และ พ.ศ. 2490 - 2491 แต่ก็ได้ทราบจากผู้สูงอายุรุ่นเก่าเล่าว่าหลวงพ่อเดิมกับหลวงพ่อที วัดห้วยกรวดมีความสนิทสนมกันมากและทราบว่าหลวงพ่อเดิมไปหาหลวงพ่อที ที่บ้านหมี่บ่อยๆ เรื่องหลวงพ่อเดิมไปวัดบ้านกล้วย อำเภอบ้านหมี่นี้ ผู้เขียนยังได้สอบถามจากคุณไพบุลย์ รุ่งเรืองวิโรจน์( เสี่ยเพ้ง ) อยู่บ้านเลขที่ 174 หมู่ที่ 1 ตำบลจันเสน อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ ปัจจุบันอายุ 75 ปี ได้เล่าให้ฟังว่า เมื่ออายุประมาณได้ 17 - 18 ปี หลวงพ่อเดิมได้นั่งช้างมาที่จันเสนและแวะพักค้างคืนที่บ้านนายหอม คหบดีของตลาดจันเสน มีประชาชนชาวจันเสนไปกราบหลวงพ่อเดิมกันมาก รวมทั้งตัวคุณไพบุลย์ด้วย ทุกคนที่ไปกราบยังได้นำผ้าขาวไปขอให้หลวงพ่อเดิมเหยียบรอยเท้าไว้บนผ้าขาว ให้ด้วย ซึ่งผ้ารอยเท้านี้คุณไพบูลย์ก็ยังเก็บรักษาอยู่ แต่สภาพไม่สมบูรณ์ และหลวงพ่อเดิมยังได้บอกให้ทุกคนได้ยินด้วยว่า ไปปลุกเสกวัตถุมงคลให้แก่วัดบ้านกล้วย อำเภอบ้านหมี่มา ซึ่งในเรื่องนี้ พระครูนิวิฐธรรมขันธ์( เจริญ ) เจ้าอาวาสวัดจันเสน รูปปัจจุบันและเซียนแกละ ตาคลี เซียนพระเครื่องชาวจันเสนก็ได้เคยเล่าให้ฟัง มีข้อความเช่นเดียวกัน

 

เหรียญหลวงพ่อกวย หลังหนุมาน ปี2563

พร้อมกล่องเดิม เริ่ม ไม่ค่อยเจอละครับ ใครเจอก็เก็บกันหมด

บูชา 600 บาท

 

บูชา 3,800 บาท

เหรียญรูปเหมือน หลวงปู่ดุลย์ อตุโล วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์

ที่ระลึกอายุครบ 8 รอบ ศิษย์สร้างถวาย เมื่อ ปี 2536 เนื้อทองแดงรมน้ำตาล สภาพสวยเดิม ๆ

 

แหวนยันต์ นะตัวเมีย หลวงพ่อกวยปี2521

ออกพร้อมเหรียญหลังหนุมาน ตัวจริง รับประกันสากล สภาพใช้ สวยๆ หลายๆหมื่นครับ

บูชา 16,500 บาท

 

ตะกรุดสาริกาเนื้อทองคำ/เงิน หลวงพ่อครูบาวัง วัดบ้านเด่น

บูชา 6,900 บาท

สุดยอดตระกรุดเจรจา ค้าขายเมตตามหานิยม เข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ ธุรกิจรุ่งเรือง ในคัมภีย์ยพระเวทย์โบราณ ยันต์สาริกา โดยเกจิอาจารย์ มักนิยมสร้างเป็นเครื่องรางของขลัง ทำการสร้างเเละปลุกเสก ด้วยญานบารมี แล้วนำให้ลูกศิษย์ได้บูชา ไม่ว่าจะเป็นตะกรุด ผ้ายันต์ เป็นต้น !! ดอกนี้ของหลวงพ่อครูบา วัง มีสร้างด้วยกันหลายเนื้อ ทองคำ ทองเเดง ทองเหลือ เงิน เป็นต้น !! ส่วนเนื้อทองคำ จะหายากครับสร้างสำหรับลูกศิษย์คนพิเศษเท่านั้น

คาถาบูชาตะกรุด ตั้งนะโม 3 จบ แล้วว่า อิติอะระหังสุคะโต เกสโรนามะเต ประสิทธิเม อิหิอะโห นะโมพุทธายะ คาถาสาริกาลิ้นทอง มีพุทธคุณทางด้านเมตตา มหาเสน่ห์ ลงได้ทั้งวัตถุมงคลและเครื่องราง พูดจากเป็นมหาเสน่ห์ เจรจาค้าขายดีเยี่ยม

 

หนุมานเนื้อโลหะ ตอกโค๊ต ศก วัดศาลากุน ปี2551
อุดผงเก่า หลวงพ่อสุ่น ในสนามพระไม่เจอแล้วครับ

บูชา 1,200 บาท

วันเสาร์ที่ 15 มีนาคม 51 ปลุกเสกโดย หลวงพ่อตัด วัดชายนา หลวงพ่อแถม วัดช้างแทงกระจาด หลวงพ่ออวยพร วัดดอนยายหอม หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน หลวงพ่อเสาร์ วัดดอนหญ้านาง หลวงพ่อเอื้อน วัดวังแดงใต้ หลวงพ่อชำนาญ วัดบางกุฎีทอง หลวงพ่ออ่าง วัดใหญ่สว่างอารมณ์ หลวงพ่อเน้า วัดเสาร์ธงทอง พระอธิการบุญส่ง วัดศาลากุน และ หลวงปู่ขุ้ย วัดซับตะเคียน อธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว เป็นกรณีพิเศษ ครับ มิติสัดส่วนสูงประมาณ 3 ซ.ม. ฐานกว้างประมาณ 1.3 ซ.ม.

 

ปิดครับ



พระสมเด็จพิมพ์ระฆังทอง พ่อท่านห้วง วัดสระโพธิ์ พ่อท่านเขียว ปลุกเสก

ในสมัยนั้น ปี 18 , 19 ทำบุญ 30/50 บาท ถือว่าแพงมาก

ไม่ดีจริง คงไม่ตั้งราคา แพงแน่

" เหรียญและพระสมเด็จ 18 พ่อท่านห้วง วัดสระโพธิ์ เชียรใหญ่ นครศรีธรรมราช

มวลสารวัดระฆังโฆษิตตาราม "เป็นพระที่ได้นำมวลสารจากวัดระฆังโฆสิตารามหรือมวลสารของหลวงพ่อโต ที่ทางวัดได้เก็บรวบรวมไว้ให้หลวงปู่นาคเป็นผู้รักษาต่อมา เป็นวัตถุมงคลที่เซียนมองข้าม แต่หากทราบประวัติที่ชัดเจนรับรองว่าทุกคนต้องตะลึงและให้ความสนใจแน่นอน โดยเฉพาะเกจิผู้ที่ปลุกเสกวัตถุมงคลชุดนี้นับว่าเป็นเกจิขั้นพระอรหันต์ก็ว่าได้ คนสืบหาที่มาเมื่อทราบประวัติพูดได้คำเดียวว่าสุดยอด บ่งบอกให้เป็นที่รู้กันว่าต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ซึ่งเราจะมาลงลึกในเรื่องของรายละเอียดว่าจะสุดยอด และเข้มขลังขนาดไหน พระสมเด็จของ วัดสระโพธิ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช ออกในวาระโอกาสสร้างอุโบสถของวัดสระโพธิ์และสร้างในปีเดียชุดเดียวกันกับวัดราชสิทธาราม(วัดพลับ) ตาหลวงจวงนำมาจากกรุงเทพฯ
จากหลักฐานใบฝอยปีที่ปลุกเสกที่วัดดาวคะนอง พ.ศ. 2518 และมีข้อมูลเพิ่มเติมซึ่งบิดาของผู้ใหญ่เปิ้ลทีมงานได้ไปสืบประวัติมาปี 2561 ทราบว่าท่านเคยบวชวัดที่กรุงเทพฯ(จำไม่ได้ว่าวัดอะไร) แต่บิดาของผู้ใหญ่เปิ้ลบอกว่าพระชุดนี้สุดยอดครับ และคาดว่ากดพิมพ์ที่วัดราชสิทธาราม เลยแบ่งเป็นสองส่วน จำนวนประมาณการ 5,000 องค์ และมีชื่อวัดสระโพธิ์ตามชื่อหน้ากล่องพระ และมีชื่อหน้ากล่องวัดราชสิทธาราม(วัดพลับ)อีกชุดหนึ่งที่เคยเจอมาครับ พระสมเด็จวัดสระโพธิ์ ซึ่งสร้าง ปี พ.ศ. 2518 “อดีต” เจ้าอาวาสพ่อท่านห้วงท่านมีลูกศิษย์อยู่ที่กรุงเทพฯ และลูกศิษย์คนนั้นก็มาอยู่ในงานฝังลูกนิมิต และได้เห็นอำนาจพุทธคุณของพระสมเด็จรุ่นนี้ และได้เช่าพระไปเป็นจำนวนมาก องค์ละ 10-20-50 บาท (ในสมัยนั้นถือว่าแพงมาก) แล้วนำกลับมากรุงเทพฯ จากนั้นได้นำมาแจกให้คนกรุงเทพฯได้บูชากัน ซึ่งพระสมเด็จชุดนี้ มวลสารเป็นของพระสมเด็จหลวงพ่อโต วัดระฆังฯ ทั้งหมด ซึ่งหลวงปู่นาค วัดระฆัง กรุงเทพมหานครฯ ได้เก็บมวลสารของสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)ไว้มากพอควร
จึงกล่าวได้ว่า พระสมเด็จชุดนี้ มวลสารเป็นของพระสมเด็จวัดระฆัง กับผงพระสมเด็จวัดระฆัง เท่ากับว่ามวลสารขององค์พระ เป็นของสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ทั้งสิ้น หรือที่อุปมาอุปไมยกันว่าพระชุดนี้ เป็นหน่อเนื้อเชื้อกษัตริย์ นั่นเอง
มาฟังเรื่องสุดยอดอีกเรื่องหนึ่งครับ ในเรื่องของพิธีพุทธาภิเษกพระสมเด็จชุดนี้ ถือว่ามีความเป็น “สุดยอด” อีกเรื่องคือ เป็นพระรุ่นแรกและรุ่นเดียว ที่พ่อท่านเขียว วัดหรงบล จังหวัดนครศรีธรรมราช ยอมออกจากวัดเพื่อมา “ปลุกเสก” พระสมเด็จชุดนี้ (เป็นครั้งแรก) ปกติท่านจะไม่ออกไปปลุกเสกนอกวัดหรงบล ซึ่งพ่อท่านเขียวรูปนี้เอง เคยมาเสกพระให้หลวงปู่เพิ่ม วัดบางกลางแก้ว จังหวัดนครปฐม ซึ่งหลวงปู่เพิ่มท่าน “ยกย่อง” ให้พ่อท่านเขียว วัดหรงบล เป็น “สุดยอด” พระเกจิฯ แห่งสายใต้ ปัจจุบันทางวัดยังเก็บสรีระท่านไว้
พ่อท่านเขียวแห่งวัดหรงบลท่านเป็นพระเกจิฯ ที่มีความสามารถใน “ปลุกเสก” วัตถุมงคลที่ไม่ธรรมดา เพราะพ่อท่านเขียวท่านเป็นอริยสงฆ์ที่ถือวัตรปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเป็นพระสุปฏิปันโนที่กราบไหว้ได้สนิทใจ แต่ที่น่าแปลกคือครั้งนี้ท่านยอมออกจากวัดเพื่อมา “ปลุกเสก” วัตถุมงคลชุดนี้ และมีเกจิที่ร่วมพิธีพุทธาภิเษกอีก ได้แก่ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี, หลวงปู่จันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ , หลวงปู่ขาว วัดปากแพรก ล้วนเป็น “สุดยอด” พระเกจิฯ ของจังหวัดนครศรีธรรมราชหรือสายใต้ทั้งนั้น
เรื่องที่เล่าขานกันในเวลานั้น คือ เมื่อพิธีพุทธภิเษกพระชุดนี้ผ่านไปแล้ว ได้มีการ “ทดสอบ” อำนาจพุทธคุณของพระสมเด็จ โดยการทดลองยิงด้วยปืนยัดพรต (ปืนแก๊ป) ปรากฏว่ายิงไม่ออก ทำให้พระสมเด็จชุดนี้เป็นที่เลื่องลือ สมัยนั้นพระองค์ละ 10-20-50 บาท ก็จริงอยู่ แต่หากนำมาเปรียบเทียบกับทองคำ ซึ่งราคา ณ.เวลานั้น บาทละ 40 บาทเท่านั้น ซึ่งจะเห็นว่าราคาพระค่อนข้างสูงทีเดียว
เกจิอีกท่านหนึ่งคือ อาจารย์แขกผู้ซึ่งมีประสบการณ์ ในการสร้างพระมาเป็นเวลานาน เมื่อตรวจสอบชนวนมวลสารที่ปรากฏบนองค์พระ ยิ่งทำให้มีความมั่นใจเต็มร้อย ว่าเนื้อมวลสารพระชุดนี้เป็นของพระสมเด็จวัดระฆังฯ อย่างแน่นอน
การสร้างพระของคนสมัยก่อน ไม่ใช่เรื่องของแฟชั่น ไม่มีเรื่องเงินทองมาเกี่ยวข้อง ซึ่งจะผิดกับในสมัยนี้ การสร้างพระสมัยก่อน ไม่มีเซียนพระเข้าไปเกี่ยวข้อง ทั้งหลายทั้งปวง มาจากครูบาอาจารย์จริงๆ
ดังนั้นพระในปี 20 ลงไป ส่วนใหญ่วัดสร้างเอง ครูบาอาจารย์สร้างเอง ไม่นิยมเอาคนนอกไปสร้าง เกจิฯ สมัยก่อนมักจะพูดว่า " ชาติเสือ ไม่ขอเนื้อใครกิน " (คำกล่าวของพ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ จังหวัดปัตตานี) ทำแล้วต้องทำให้ดี ทำแล้วต้องมั่นใจนำไปคุ้มครอง ทำแล้วต้องป้องกันภัยได้ ทำแล้วต้องดีมีพุทธคุณจริง
สมัยนั้นพระสมเด็จชุดนี้ ถือว่ามีราคาแพงมา และก่อนเช่าก็สามารถทดสอบ “พุทธคุณ” ได้ด้วย แต่การสร้างพระยุคนี้บอกเลย ไม่กล้าลอง เพราะสมัยก่อนแค่พระเกจิฯ นั่งมอง ปืนก็ยิงไม่ออกแล้ว เจตนาของคนสมัยก่อน บูชาพระก็เพื่อเป็นการทำบุญ พระสมเด็จของพ่อท่านห้วง วัดสระโพธิ์ มีดังนี้
1. พิมพ์ฐานตรง
2. พิมพ์สุคโต
3. พิมพ์ทรงเสือคู่ (สวย)
4. พิมพ์ปรกโพธิ์ (หายาก)
5. พิมพ์ระฆังทอง ฐานตรง (นิยม)
6. พิมพ์ระฆังทอง สุคโต (นิยม)

 

พระสิวลี วัดชิโนรส เนื้อเมฆพัด ปี2512 พิธีใหญ่หลวงพ่อพรหม หลวงปู่โต๊ะ หลวงพ่อกวย หลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทองปลุกเสก

มวลสารที่นำมาสร้างได้แก่ พระเนื้อเมฆพัดที่แตก/ชำรุดเช่นพระปิดตา หลวงปู่นาค วัดจรเข้ หลวงพ่อปล้อง วัดหลุมดินพระกลีบบัว เนื้อเมฆพัดหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ลูกอมเมฆสิทธิ์ หลวงพ่อทับ วัดอนงค์มาหล่อหลอมใหม่ มีทั้งแบบหลังยันต์ และ หลังเรียบ

พุทธคุณเด่น ด้านมหาโชคมหาลาภ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัยด้านป้องกันพวกพลังด้านมืด พวกคุณไสยมนต์ดำ ผี วิญญาณ อาฆาต พราย ปิศาจ

องค์นี้สวยเก่าถึงยุค เลี่ยมมาเดิม แท้ดูง่าย ของดีที่น่าบูชา

บูชา 1,200 บาท

 

พระผง อชร หลวงพ่อเกษม เขมโก

สำนักสุสานไตรลักษณ์จ.ลำปาง วาระทอดผ้าป่า วัดอินทร์ประชาราษฎร์
ปราจีนบุรี ปี 2517 ผสมมวลสารปฐวีธาตุเจ้าคุณนรฯ

เป็นอีกรุ่นที่น่าบูชามากๆ เพราะราคาไม่แพง องค์นี้แกะจากกรอบทองออกมาครับ

บูชา 700 บาท

 

ปิดครับ



พระเหล็กไหล พิมพ์พระพุทธลอยองค์ ล.พ.หวล วัดพุทไธศวรรย์เนื้อสีทอง (ท้องปลาไหล) นิยมและหายาก

*** องค์นี้องค์พระทั้งองค์เป็นเนื้อสีทองสุก

บูชา 1,600 บาท

ล.พ.หวล ท่านเรียนวิชาตัดเหล็กไหล มาจากศิษย์สาย ล.พ.เดิม วัดหนองโพ จ.นครสวรรค์ ครับ โดยท่านจะนำหุ่นขี้ผึ้ง รูปพระและรูปแบบอื่นๆไปทำพิธีเรียกเหล็กไหลตามถ้ำครับ โดยท่านขออนุญาตกับเทพยดาผู้รักษาเหล็กไหลนั้นๆว่าจะนำมาเพื่อประโยชน์ในพระพุทธศาสนา โดยมอบให้กับผ้ที่ทำบุญบูรณะวัดกับท่าน โดยเหล็กไหลหรือที่ท่านให้เรียกว่า พญาเหล็ก นั้นจะมี 3 วรรณะ(สี) คือ
1.สีเงินยวง เด่นด้านเมตตา มหานิยม
2.สีปีกแมลงทับ(เจ้าน้ำเงิน) เด่นด้านมหาอำนาจ บารมี คงกะพัน มหาอุด
3.สีทอง (ท้องปลาไหล) เด่นด้านเงินทอง โชคลาภ โดยสีทองนี้จะมีน้อยสุดในการเรียกแต่ละครั้งครับ ใครที่ได้ไปต่างหวงแหน

พระพญาเหล็กนี้ มีคุณ 108 ประการตามแต่อธิษฐาน ครับ กิจการงานเจริญก้าวหน้า เดินทางไปที่ใด มีเทพยดา ปกปักรักษาครับ และเมื่อเราจะมีโชคลาภหรือจะได้เลื้อนยศ เลื่อนตำแหน่ง ให้สังเกตุที่สีขององค์พระ จะสุกปลั่งขึ้นเองครับ และพระพญาเหล็กนี้ใช่ว่ามีเงินแล้วจะได้ครอบครองนะครับ ล.พ.หวลท่านบอกว่าต้องมีบุญวาสนาแต่ชาติปางก่อนจึงได้ครอบครอง

 

ปิดครับ



เหรียญสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ) 2502

จริงๆแล้วพระเครื่องต่างๆของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์(เจริญ) วัดเทพศิรินทร์ ที่ออกใน พ.ศ.2502 จัดสร้างโดยลูกศิษย์ของท่านที่วัดช่องลมนาเกลือ ชลบุรี โดยพระอาจารย์บัวเกตุ เจ้าอาวาสในสมัยนั้น ท่านเจ้าคุณนรฯได้อนุญาติให้ลูกศิษย์มาให้ท่านอธิฐานจิตให้อีกทีครับ เหรียญรุ่นนี้สร้างและออกพร้อมรูปหล่อรุ่นแรกครับของหายาก นานๆมาโปรดครับ
ปล.หากท่านนับถือสมเด็จพระโฆษาจารย์และเจ้าคุณนร รวมไปถึงหลวงพ่อบัวเกตุแล้วละก็รุ่นนี้เปรียบเสมือนแขวนหนึ่งได้ถึงสาม

 

พระกริ่งทักษิณ มิ่งมงคลปี2511วัดเขากง จ.นราธิวาส เนื้อเงิน

บูชา 3,000 บาท

(สภาพสวยมาก) มียาขัดเดิม พระกริ่งเนื้อทองเหลืองปางประทานพร 1.9 X 3.2 c.m. สร้างเป็นสามชิ้นนำมาต่อกัน ในซอกฐานจะเห็นรอยเชื่อมบัดกรี
วัดเขากง-พระพุทธทักษิณมิ่งมงคล จากตัวเมืองใช้ทางหลวงสายอำเภอเมืองนราธิวาส อำเภอระแงะ (ทางหลวงสาย 4055)ประมาณ 6 กิโลเมตร ถึงกิโลเมตรที่ 105 จะมองเห็นวัดเขากงและพระพุทธรูป ทักษิณมิ่งมงคลสีทอง ประทับนั่งปางประทานพรอยู่บนยอดเขา วัดเขากงตั้งอยู่ในตำบลเขากง อำเภอเมือง มีเนื้อที่กว้าง 142 ไร่

พระพุทธทักษิณมิ่งมงคล เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2509 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2512 สิ้นค่าก่อสร้าง ทั้งสิ้นกว่า 5 ล้านบาท องค์พระเป็นพระพุทธรูปปางปฐมเทศนา หน้าตักกว้าง 17 เมตร สูงจากบัวใต้พระเพลา ถึงพระเกศบัวตูม 23 เมตร และ ได้มีการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมด้วยดินจากสังเวชนียสถาน มา ประดิษฐานที่พระอุระเบื้องซ้าย การก่อสร้างเป็นแบบคอนกรีตเสริมเหล็กประดับด้วยกระเบื้องโมเสดสีทอง

องค์พระพุทธรูป มีลักษณะตามอิทธิพลของสกุลศิลปะอินเดียใต้โจฬะรุ่นหลัง จะพบพุทธรูปสกุลนี้ มากที่จังหวัดนครศรีธรรมราช จนเรียกกันว่า "แบบนครศรีธรรมราช" หรือเรียกอย่างสามัญว่า พระพุทธรูป แบบ "ขนมต้ม" เนื่องจากพระวรกายล่ำสันทุกส่วนสังฆาฏิจัดกลีบแผ่กว้างเต็มพระอังสาเบื้องซ้ายและชายจีวร ใต้พระเพลาทำเป็นริ้วให้ความรู้สึกของการตกแต่งสวยงามกว่าแบบอื่นอย่างเห็นได้ชัด

นอกจากองค์พระพุทธทักษิณมิ่งมงคลแล้ว ยังมีพระอุโบสถและเจดีย์สิริมหามายา ซึ่งเป็นรูปทรง ระฆัง ภายในโปร่ง บนยอดสุดบรรจุพระบรมสารีริกธาตุอันศักดิ์สิทธิ์
พระกริ่งพุทธทักษิณมิ่งมงคล วัดเขากง จ.นราธิวาส รุ่นแรก พ.ศ.2511 เนื้อเงิน ฐานเชื่อมบัดกรี บรรจุเม็ดกริ่ง เนื้อหาจากชนวนวัตถุมงคลเก่าตลอดทั้งตะกรุด ของพระเกจิ อาจารย์จำนวนมาก มาหลอมในพิธีเททอง เพื่อเป็นชนวนโลหะศักดิ์สิทธิ์ ในขณะหลอม แผ่นยันต์ ของพระเกจิอาจารย์ 3 ท่าน ด้วยกัน หลอมไม่ละลาย คือแผ่นยันต์ของ พ่อท่านเส้ง วัดแหลมทราย , พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ , พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา ทำให้ต้องตักแผ่นยันต์ นั้นขึ้นมาใหม่ และทำพิธีใหม่ แล้วจึงหลอมละลายได้ จากนั้นจึง เอาโลหะ ที่หลอมนั้นไปทำการสร้างวัตถุมงคล

.........รายนามพระเกจิอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสก
1.พ่อท่านเส้ง วัดแหลมทราย จ.สงขลา
2.พ่อท่านแสง วัดคลองน้ำเจ็ด จ.ตรัง
3.พ่อท่านเมือง วัดท่าแหน ลำปาง
4.หลวงปู่นาค วัดระฆัง กทม.
5.พ่อท่านหมุน วัดเขาแดงตะวันออก จ.พัทลุง
6.พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ จ.ปัตตานี
7.หลวงพ่อดำ วัดตุยง จ.ปัตตานี
8.พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา จ.พัทลุง
9.พ่อท่านเขียว วัดหลงบล
10.ฆราวาสสายเขาอ้อ ท่านขุนพันธุ์ฯ อาจารย์ชุม ไชยคีรี ฯลฯ