พระเครื่อง/เครื่องรางทั่วไป

ปิดครับ



ภาพถ่ายขาว-ดำ หลวงพ่อกวย ปี2558

เป็นรูปนั่งกระดาน 3แผ่น ติดโปสการ์ดหลังสิงห์ปั๊ม ปั๊มตราวัดโฆสิตาราม ที่ระลึกในงานทอดกฐินสามัคคี ปี2558 รันหมายเลข 0862/0870 หายากพอสมควร

บูชา แผ่นละ 1,500 บาท บูชา 2 แผ่น 2,600 บาท

 

พระผงกระดูกผี พิมพ์ขุนแผน อ.หนู วัดโพธิ์ท่าเตียน กทม.

บูชา 1,200 บาท มือใหญ่ๆ 2,500 ขึ้นครับ

พระผงกระดูกผี วัดโพธิ์ กทม.อ.หนูพระลูกวัด วัดโพธิ์ท่าเตียนสร้างขึ้นประมาณ 2485 ช่วงสงครามและมีคนตายจำนวนมากท่านจึงนำผงกระดูกคนตายมาผสมกับปูนและว่านต่างๆและกดพิมพ์แบบง่ายๆโดยใช้พระพิมพ์ต่างๆที่มีในขณะนั้นเป็นแม่แบบมีหลายแม่พิมพ์และจะไม่ชัดและสวยงามเนื่องจากเป็นการคัดลอกพิมพ์มา.แต่พุทธคุณตามที่เล่าสืบขานกันมาสุดยอดมากครับทั้งคงกระพัน,แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งหลายทั้งปวงทั้งมนต์ดำ

ขออนุญาตใช้ภาพเจ้าของมาอ้างอิงครับ

 

ปิดครับ



ลูกอมมหาลาภ หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค เนื้อผงพุทธคุณ ปี 2517 เลี่ยมพร้อมบูชา

บูชา 1,400 บาท

ลูกอมมหาลาภ เนื้อผงพุทธคุณ ปี 2517 หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ลูกอมรุ่นนี้ได้สร้างพร้อมกับพระผงอายุยืนเนื้อพิเศษ พระปิดตานะมิ พระรอด พระกลีบบัว ซึ่งเป็นเนื้อเดียวกันทั้งหมด
**** แต่ลูกอมมหาลาภของหลวงปู่กลับหายากกว่าพิมพ์อื่น ๆ ไม่ค่อยมีออกมาในท้องตลาดพระเครื่องเท่าไหร่ครับ *** ซึ่งราคาจะแพงที่สุดใน กลุ่มของพระชุดวัดโพธิ์
**** สำหรับหลวงปู่สีแล้วไม่ต้องอธิบายมากครับ สุดยอดพระอรหันต์องค์นึงเลยทีเดียว พระเครื่องของหลวงปู่สีทุกรุ่นราคาไปไกลแล้วครับ อานุภาพของลูกอมลูกนี้ครบทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นแคล้วคลาด คงกระพัน เมตตา เป็นมหาลาภสมกับชื่อรุ่นครับ
**** ที่สำคัญลูกอมรุ่นนี้ได้ผสมน้ำหมากและชานหมากของหลวงปู่สีอยู่ด้วย

 

ตะกรุดทองคำหลวงพ่อเรือง วัดบ้านดง

หลวงพ่อเรือง วัดบ้านดง เป็นปรมาจารย์ตะกรุดคู่ชีวิต แห่งพิษณุโลก วิชาลงตะกรุดท่าน เป็นที่แพร่หลายในสมัยปัจจุบันมาก ท่านเป็นศิษย์ร่วมสำนักเดียวกับหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน ตะกรุดโทนของท่านตัวจริงขึ้นหลักแสนหมดครับ ไม่มีหลักพันหลักหมื่น

หลวงพ่อเรือง วัดบ้านดง อีกหนึ่งคณาจารย์อาคมขลัง ผู้สร้างตำนานตะกรุดขลัง(คู่ชีวิต)ไม่เป็นรองผู้ใดในปฐพีนี้ ยันต์คู่ชีวิต คือ มีอยู่แล้วชีวิตอยู่คง เป็นยันต์ที่ได้ใช้กันมานาน ตั้งแต่สมัยอยุธยายังรุ่งโรจน์ เป็นยันต์ ๆ หนึ่งในตำราพิชัยสงครามได้ระบุไว้เป็นยันต์ชั้นสูงหาค่าประมาณมิได้ จากตำราสมุดข่อยของ หลวงพ่อเรือง วัดบ้านดง อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก เขียนไว้ว่า “ยันต์นี้ลงกะตุด (ตะกรุด) ไม่ต้องเสกยิงเอาเถิด”เพียงเท่านี้ จะเห็นว่ายันต์นี้มีอานุภาพสูงยิ่งเพียงใด

ปกติจะเจอแต่ตะกรุดโทนของท่าน ดอกนี้เป็นเนื้อทองคำแท้ สมัยเก่าม้วนหนาๆ หนักบาทกว่า ยาว 1.5 นิ้วทองคำเก่า99% เป็นสมบัติสืบต่อกันมา แทบจะไม่มีลงในเวบใหญ่ๆ ครับ รับประกัน

บูชา 65,500 บาท

 

ปิดครับ



เหรียญจักรเพชร รุ่นแรก

แกะจากเลี่ยมทองออกมา รับประกัน

 

ล็อกเก็ตหินรุ่นแรก เซียนแปะโรงสี ปี 2519 พิมพ์ไข่จัมโบ้

สุดยอดวัตถุมงคลของอาแปะ คือ ล็อคเก็ตลงหิน ซึงมีรูปทรงแบบรูปไข่และแบบกลม และจะมีลักษณะพิเศษคือเป็นสองชิ้นประกบกัน ด้านหน้าเป็นรูปอาแปะ มีทั้งหน้าหนุ่ม หน้าแก่ ทั้งขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดจัมโบ้ มีทั้งรูปสีและรูปซีเปีย ส่วนด้านหลังเป็นยันต์ฟ้าประทานพร

#ทีเด็ดคือ ตรงกลางของล็อคเก็ตจะมีผ้ายันต์ที่อาแปะจารมือ มีหมากของอาแปะ และผงธูปบรรจุอยู่ จำนวนการสร้างน้อยมาก แถมตัวจริงจะหายากครับ

#ล็อคเก็ตรุ่นนี้ส่วนใหญ่อยู่กับลูกหลานหรือลูกศิษย์ใกล้ชิดเท่านั้น จึงทำให้ล็อกเก็ตรุ่นแรกนี้ แทบไม่มีหมุนเวียนในสนามพระ เมื่อก่อนเป็นหมื่นครับ

บูชา 3,500 บาท

 

ปิดครับ



เหรียญรุ่นแรกครูบากฤษณะ ปี2546

ครูบากฤษณะ อินทวันโนสำนักสงฆ์วัดป่าเวฬุวัน วังน้ำเขียวนครราชสีมา พระเกจิอาจารย์เมืองโคราช ผู้สร้างสรรค์วัตถุมงคล "เทพจำแลงภมร" ที่มีพิมพ์ทรงแปลกไปจากวัตถุมงคลของพระเกจิอาจารย์ทั่วไป กล่าวคือเป็นรูปองค์พระศิวะ (อิศวร) กับพระอุมาเทวี ผู้มีความรักเป็นอมตะ หันหน้าเข้าหากัน แต่ดูอีกมุมหนึ่งจะเป็นภาพผีเสื้อ ที่มีความงดงามล้ำเลิศในเชิงศิลปะ โดยมีอักขระจารึกเป็นตัวอักษร "เทวะนาคี" ของโบราณาจารย์ที่มีความเก่าแก่มานานนับพันปีเหรียญรุ่นแรกเทพเมตตาบารมีดีที่น่าจับตามองครับ..สร้างปี 2546 โอกาสฉลองครบรอบ 50 ปีครูบากฤษณะ 1 สิงหาคม 2546 จัดสร้าง ดังนี้
1.ชุดทองคำประมาณ 30 ชุด(ตามโบรชัวร์ 199 ชุด)เป็นกล่องไม้ประกอบด้วย ๑.เหรียญทองคำลงยาหลังเทพจำแลงเหรียญทองคำนี้จะเป็น ๒.เหรียญเงินหลังลงยา ๓.เหรียญทองแดงชุบทองไมครอนหลังลงยา
2 เป็นเนื้อเงิน 3 กษัตริย์หลังลงยาฝังพลอยสร้างประมาณ 108 องค์
3.เหรียญเงินหลังลงยาสร้างประมาณ 3,000 องค์(โบชัวร์ 5,000)องค์โค๊ตคนละตัวกับทองแดงหลังลงยาชุบทองไมครอนและทองแดงผิวไฟไม่ลงยา(กล่องสีน้ำเงิน)
4.เหรียญทองแดงหลังลงยาชุบทองไมครอนสร้างประมาณ 5,000 องค์เป็น(กล่องสีแดง)

เหรียญเทพเมตตาบารมีนี้ท่านได้ตั้งใจอธิษฐานปลุกเสกเดี่ยวในด้านเมตตามหานิยม โชคลาภ นานที่สุดเท่าที่ท่านได้เคยปลุกเสกเพื่อให้เกิดอนุภาพความศักดิ์สิทธิ์ ความศรัทธาที่ลูกศิษย์มีต่อครูบาฯท่านทั้งชาวไทย สิงค์โปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง อินโดนีเซีย ต่างเฝ้ารอการเปิดตัวเหรียญรุ่นแรกนี้ ทำให้ยอดจองพุ่งสูงอย่างไม่น่าเชื่อและหมดลงในเวลารวดเร็ว เหล่านี้เกิดจากความศรัทธาอย่างแรงกล้าและมีผู้นำไปใช้แล้วต่างได้รับโชคลาภ.

อนึ่งได้มีการจัดสร้างเหรียญรุ่นแรกนี้ถึง 2 ครั้งกล่าวคือเนื่องจากเหรียญที่สร้างครั้งแรกจำนวนไม่พอแก่ความต้องการของลูกศิษย์..จึงได้มีการอีกครั้งเมื่อราวๆเดือนกุมภาพันธ์ แรม 3 ค่ำ ทางวัดได้มีการจัดงานไหว้ครูในปีถัดมาปี 2547 มีการจัดทำเฉพาะเหรียญทองแดงผิวไฟไม่ลงยา.โดยใช้แม่พิมพ์ตัวเดิมสร้างประมาณ 10,000 องค์และทำจากโรงงาน(ปัจจุบันได้ทำลายแม่พิมพ์ไปหมดแล้ว) ทำบุญหนึ่งพานไหว้ครู 200 บาทได้ 1 เหรียญ และในครั้งนี้มีลูกศิษย์ท่านได้นำเหรียญทองแดงธรรมดานี้ไปทำชุบไมครอนทองบ้างเงินบ้างเนื่องจากมีความต้องการเหมือนในครั้งแรกแบบชุบไมครอนเพราะเหรียญสวยกว่าทองแดงธรรมดาประกอบกับที่สร้างในชุดแรกก็ไม่มีเหลือหมดเกลี้ยงและได้มีการลงยาด้านหลังให้สวยงามแต่จะไม่เหมือนรุ่นแรกสังเกตุดีๆสีที่ลงยาจะไม่เหมือนรุ่นแรกมีความสดกว่าและถ้ามีชุบเงินไมครอนก็จะเป็นรุ่นหลังนี้..รุ่นแรกที่สร้างครั้งแรกจะมีแต่ชุบทองไมครอนเท่านั้น
เหรียญรุ่นแรกนี้เป็นที่นิยมในหมู่ลูกศิษย์โดยเฉพาะชาวต่างประเทศเพราะสวยงามเล่นหาง่ายมีโค๊ตให้สังเกตุจำนวนการสร้างแน่นอนมีไม่น้อยไม่มากเกินไป..มีลูกศิษย์บางคนนำไปให้ครูบาฯลงจารลายมือบนพิ้นเหรียญยิ่งทำให้มีความขลังมีคุณค่าและหายากยิ่งขึ้นเพราะท่านต้องใช้เวลาและสมาธิในการลงอักขระไม่ใช่ทำง่ายๆครับ(ข้อมูลจากลูกศิษย์ใกล้ชิด) ครูบาฯท่านปลุกเสก 1 พรรษาเต็มๆและนั้งกรรมฐานอีก 7 วัน

บูชา 1,600 บาท

 

เหรียญปรกจเร ปี 2514 เจ้าคุณนรรัตน วัดเทพศิรินทร์
พิมพ์ดาวกระจาย นิยมสุด สุดยอดเหรียญประสบการณ์

บูชา 2,700 บาท

ในบรรดาเหรียญพระพุทธคุณต่างๆ ที่ พระคุณเจ้า ธมฺมวิตกฺโก ได้แผ่เมตตาบรรจุพุทธานุภาพให้นั้นจัดว่าเหรียญ นาคปรกจเร ซื่งสร้างโดย พล.ต.ท.ชนะ วงศ์ชอุ่ม อดีตจเรกรมตำรวจ ได้รับความนิยมอย่างสูงสุดพิมพ์หนื่ง จากราคาเดิมที่ท่านผู้สร้างตั้งราคา ให้ช่วยทำบุญไว้เพียงเหรียญละ 20 บาท มาถึงปัจจุบันนี้ ก็มีราคาพุ่งขึ้นไปหลายพันบาทแล้ว

เหรียญปรกจเรซึ่ง พลตำรวจโท ชนะ วงศ์ชอุ่ม เป็นผู้สร้างนี้ เป็นเหรียญรุปไข่ ด้านหน้าเป็นพระนาคปรก มีเศียรอยู่ 7 เศียร ด้านล่างของเหรียญจารึกข้อความเป็นภาษาไทยว่า “ปลุกเสกโดยท่าน ธมฺมวิตกฺโก (ท่านเจ้าคุณนรรัตนราชมานิต) มีเส้นนูนเล็กๆ วิ่งขนานตามขอบเหรียญ 2 เส้น เส้นนอกใหญ่ เส้นในเล็ก ด้านหลังเป็นรูปยันต์น้ำเต้า จารึกอักขระภาษาขอมว่า อะ อุ มะ ซึ่งหมายถึงพระรัตนตรัยแก้วสามประการ ล่างสุดเป็นอักษรขอมจารึกพระนามย่ออุปัชฌาย์ ว่า พ.ฆ.อ. (สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ญาณวรมหาเถระ) ใต้ยันต์น้ำเต้ามี อุ อีกหนึ่งตัว ด้านขอบบนของเหรียญมีภาษาไทยจารึกว่า “ในงานทอดผ้าป่าวัดอุ่มพุทธาราม” ส่วนด้านล่างจารึกอักษรภาษาไทยว่า “ของจเรตำรวจ พ.ศ2514”

ในวงการพระเครื่อง ได้แยกเหรียญปรกจเรไว้ว่ามีอยู่ 5 พิมพ์ โดยถือว่า พิมพ์ด้านหน้าเหมือนกัน คือมีอยู่พิมพ์เดียว แต่พิมพ์ด้านหลังมีอยู่ 5 พิมพ์ ที่เป็นดังนี้เพราะในการจะปั๊มพระให้ได้ถึง 84,000 เหรียญนั้น แม่พิมพ์(บล็อก) ด้านหลังซึ่งใช้เป็นตัวตอก เมื่อตอกนานๆ เข้าก็เกิดแตกร้าว จึงต้องสร้างขึ้นถึง 5 พิมพ์จึงจะพิมพ์ได้ถึง 84,000 เหรียญ และแม่พิมพ์ที่ใข้พิมพ์ทั้งหมดนั้น ท่านจเรตำรวจได้ทำลายทิ้งหมดแล้ว เพื่อเป็นเครื่องแสดงว่าเหรียญพิมพ์ปรกจเรนั้น มีอยู่เพียง 84,000 เท่านั้น

วัตถุมงคลที่จัดสร้างในวันดังกล่าวครั้งนั้นมีหลายรุ่น หลายวัดที่มาเข้าพิธีจำนวนมากมาย ว่ากันว่ากองกันเป็นภูเขาเลากาเลยทีเดียวและเป็นเหตุให้วัตถุมงคลที่ปลุกเสกในวันดังกล่าวแพร่หลายมากที่สุด มีประสบการณ์มากที่สุด

ดังจะยกตัวอย่างเหรียญรุ่นนาคปรกจเรตำรวจที่มีหลักฐานเอกสารของทางราชการ มาเป็นพอสังเขป...

1. ถูกยิงแต่ไม่เข้า 8 ราย
2. ถูกยิงแต่ไม่ถูก 14 ราย
3. ทดลองยิงด้วยปืนขนดต่างๆมีทั้งกระสุนด้าน(ใช้กระสุนนัดเดิม ยิงไปทางอื่นกระสุนออก) กับกระสุนพลาดเป้าหมายรวม 23 ราย ดังนี้
- ปืน .22 = 3 ราย
- ปืน .38 = 3 ราย
- ปืนลูกซอง = 1 ราย
- ปืนคาร์บิน = 1 ราย
- ปืน M16 = 1 ราย
- ปืน 05 NATO = 1 ราย
- ไม่ระบุชนิดปืน = 13 ราย
4. เหยียบกับระเบิด แต่ไม่ระเบิด 1 ราย
5. รถยนต์ชนกัน แต่ไม่ได้รับอันตราย 2 ราย
6. รถยนต์พลิกคว่ำแต่ไม่ได้รับอันตราย 2 ราย
7. รถจักรยานยนต์พลิกคว่ำ แต่ไม่ได้รับอันตราย 2 ราย
8. ตกจากที่สูงแต่ไม่ได้รับอันตราย 1 ราย
9. ถูกลอบตีศรีษะแต่ไม่แตก 1 ราย
10. สุนัขกัดไม่เข้า 49 ราย
11. เครื่องเรือไม่ติด แก้ไขไม่สำเร็จ ครั้นนึกได้ว่าเอาเหรียญนาคปรกไว้ใต้ที่นั่ง จึงเอาออกและอาราธนา เครื่องเรือติดทันที 1 ราย
12. แคล้วคลาดจากเหตุการบางประการ 2 ราย

ข้อมูลที่ควรทราบก็คือ เมื่อท่านเจ้าคุณนรฯได้อธิษฐานจิตวัตถุมงคลต่างๆในพิธีเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่ท่านอดีตจเรตำรวจจะรับเหรียญกลับ ได้กราบเรียนท่านเจ้าคุณนรฯว่า
"กระผม พล.ต.ต. ชนะ วงศ์ชะอุ่ม จเรตำรวจ ได้สร้างเหรียญนาคปรกนี้ขึ้น เพื่อให้ตำรวจทอดผ้าป่าวัดอุ่มพุทธารามและไว้ป้องกันตัว ขอพระคุณเจ้าได้แผ่เมตตาให้เป็นพิเศษอีกครั้งหนึ่งด้วย"
ท่านเจ้าคุณนรฯจึงได้อธิษฐานจิตอีกครู่หนึ่งและประพรมน้ำมนต์ลงไปในห่อพระอีกครั้ง....

 

กำไลและแหวนมงคลศรีวัดราชบพิธ ปี2484 (องค์ดาราในหนังสือ) สั่งทำพิเศษ (พิงค์โกลด์&เพรช) “แหวนและกำไล ของขวัญมงคลศรี วัดราชบพิธ สร้างปี 2484 กรุงเทพมหานคร” ท่านเจ้าคุณศรีฯ หรือ พ.อ.พระยาศรีสุรสงคราม เป็นผู้จัดสร้างเพื่อสมนาคุณแก่ผู้ร่วมทุนในการสร้างพระเมื่อการปลุกเสก ณ วัดราชบพิธ ครั้งที่ 4 และเพื่อแจกเป็นของขวัญแก่ทหารในแนวรบของสงครามอินโดจีน สร้างจากเนื้อโลหะผสมกะไหล่เงิน มีสุดยอดพระคณาจารย์ของเมืองไทยเข้าร่วมพิธีปลุกเสกมากมาย อาทิ สมเด็จพระสังฆราช (แพ), สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ), หลวงปู่นาค วัดอรุณฯ, หลวงพ่อเปลี่ยน, หลวงพ่อพุ่ม, หลวงพ่อพริ้ง, หลวงพ่อจาด, หลวงปู่กลิ่น, หลวงพ่อเดิม, หลวงพ่อปล้อง, หลวงพ่อเหลือ, หลวงปู่เผือก, หลวงพ่ออี๋, หลวงพ่อคง บางกระพ้อม, หลวงพ่อคง ซำป่าง่าม, หลวงพ่อขัน, หลวงพ่อพิธ, หลวงพ่อแฉ่ง, หลวงพ่อทองศุข ฯลฯ “แหวนมงคลศรีของขวัญ วัดราชบพิธสร้างใน พ.ศ. 2484 สร้างพร้อมกับกำไลมงคลศรี กำหนดพิธิเททอง ได้ทำกันในวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2484 บริเวณโรงงานของพระประมวญราชกิจ เชิงสะพานตึกดิน พระนคร เวลา 16:04 น. เมื่อได้ฤกษ์ยามกำหนดที่ดีแล้ว พระอาจารย์คง วัดบางกระพ้อม สมุทรสงคราม ได้เมตตาลงอักขระเลขยันต์ในแม่พิมพ์เหล็กที่จะปั้มเป็นแหวน โดยท่านได้ปลุกเสกแม่พิมพ์นั้นโดยตลอด ในขณะที่ช่างเริ่มหลอมทองจนทองละลายเข้ากันดีแล้ว จึงปล่อยให้ช่างเททองเป็นริ้ว เพื่อนำไปรีดเป็นเส้นลวดและปั้มเป็นแหวนและกำไลต่อไป วัตถุมงคลศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นโลหะที่ใช้ในการสร้างครั้งนี้ คือ แผ่นทองแดงที่ส่งไปถวายพระอาจารย์ทั้งในพระนครและต่างจังหวัดเพื่อลงอักขระเลขยันต์และปลุกเสก, เม็ดกริ่งที่เหลือจากการบรรจุพระรูปขนาดเล็กในการสร้างครั้งที่ 4, เศษทองที่เหลือจากการสร้างครั้งที่ 1-4, เศษทองที่เหลือจากการหล่อพระกริ่งและพระชัยวัฒน์ของวัดสุทัศน์ และทองแดง ทองเหลืองอื่นเพิ่มเติมเพื่อให้พอกับจำนวนสร้าง โดยมีรายพระนามและรายนามของพระอาจารย์ ดังต่อไปนี้
1. สมเด็จพระสังฆราช (แพ)
วัดสุทัศน์ พระนคร
2. สมเด็จพระวชิรญาณวงศ์ (ชื่น)
วัดบวรนิเวศ พระนคร
3. สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ)
วัดเทพศิรินทร์ พระนคร
4. สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เข้ม)
วัดพระเชตุพน พระนคร
5. สมเด็จพระวันรัต (เฮง)
วัดมหาธาตุ พระนคร
6. สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (อ้วน)
วัดบรมนิวาส พระนคร
7. พระศาสนโศภน (แจ่ม)
วัดมกุฏกษัตริยาราม พระนคร
8. พระธรรมเจดีย์ (อยู่)
วัดสระเกศ พระนคร
9. พระธรรมปาโมกข์ (ภา)
วัดราชบพิธ พระนคร
10. พระสังกิจคุณมุนี (ขำ)
วัดตรีทศเทพ พระนคร
11. พระวิสุทธิรังสี (เปลี่ยน)
วัดชัยชุมพลชนะสงคราม (วัดใต้)
12. พระครูรัตนรังสี (พุ่ม)
วัดบางโคล่นอก พระนคร
13. พระครูสุทธิสารคุณ (จาด)
วัดบางกะเบา ปราจีนบุรี
14. พระครูนันทธีราจารย์ (เหลือ)
วัดสาวชะโงก ฉะเชิงเทรา
15. พระครูนิวาสธรรมขันธ์ (เดิม)
วัดหนองโพธิ์ นครสวรรค์
16. พระครูสังฆพินิจ (เฟื่อง)
วัดสัมพันธวงศ์ พระนคร
17. พระครูสมุห์ชม
วัดราชบพิธ พระนคร
18. พระครูวรเวทย์มุนี (อี๋)
วัดสัตหีบ ชลบุรี
19. หลวงพ่อพา วัดระฆัง ธนบุรี
20. หลวงพ่อเสือ
วัดสามกอ ฉะเชิงเทรา
21. หลวงพ่อทอง
วัดเขากบทวาศรี นครสวรรค์
22. หลวงพ่อคง
วัดซำป่าง่าม ฉะเชิงเทรา
23. หลวงพ่อคง
วัดบางกะพ้อม สมุทรสงคราม
24. หลวงพ่อจันทร์
วัดนางหนู ลพบุรี
25. พระอาจารย์บุญชู
วัดโปรดเกษ สมุทรปราการ
26. พระอาจารย์จันทร์
วัดคลองระนงค์ นครสวรรค์
27. พระอาจารย์พิธ
วัดฆะมัง พิจิตร
28. พระอาจารย์เจิม
วัดไตรมิตร พระนคร
และอีกหลายองค์รวมทั้งหมดในตำราเก่าทีค้นคว้ามามีทั้งหมด57 รูป ผมได้ลงข้อมูลบางส่วนประกอบจากตำราเก่าที่บันทึกไว้ ซึ่งเกจิอาจารย์ที่มาปลุกเสกนั้น เข้มขลังเหมือนกับพิธีราชบพิธในช่วงระยะเวลานั้น พลังแห่งแหวนจะมากขนาดไหนลองคิดดูกันเองครับ ยิ่งแหวนครั้งนี้ปลุกเสกเพื่อสมนาคุณแก่ผู้มีส่วนร่วมในการสร้างพระและเครื่องรางวัตถุมงคลของวัดราชบพิธในช่วงปีพศ2481-2484 ดังนั้นแหวน มงคลศรี แจกกรรมการสร้างในปี2485นั้น พระเกจิอาจารย์ท่านเมตตาปลุกเสกกันอย่างเต็มกำลังครับเป็นแหวนที่มีมงคลมาก แจกกรรมการซึ่งหายาก แลเป็น การรวมพลเกจิสุดยอดและอนาคตแพงขึ้นมากแน่นอนครับ
“ดวงดี มีแต่โชค ขอขอบคุณทุกท่าน ที่สละเวลาอ่านจนจบครับ”


แหวนมงคลศรี ผิวเลอะนิดหน่อย แต่สมบูรณ์ไม่ผ่านการสวม สวยๆ หมื่นขึ้นครับ

บูชา 5,500 บาท

 

เปิดดูไฟล์ 6403213 เปิดดูไฟล์ 6403214 เปิดดูไฟล์ 6403215

แหวนพิรอดหลวงพ่อม่วง จันทสโร วัดบ้านทวน ต.พนมทวน อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี

สภาพชำรุดตามภาพ รับประกันแท้สากลทุกสนาม สวยสมบูรณ์แพงเลยครับ ตัวจริงหาไม่ง่าย

บูชา 5,000 บาท ราคาเดียว

แหวนพิรอดสร้างจากผ้าขาวห่อศพ หรือผ้าบังสุกุล ตัดเป็นริ้ว และนำมาลงอักขระกำกับ นำมาถักให้เป็นแหวนพิรอดแล้วจึงชุบรัก ใครอยากได้ไปขอให้ท่านเมตตาทำให้ ท่านก็จะพิจารณาทำให้เป็นรายๆไป แล้วปลุกเสกตามตำรา เมื่อปลุกเสกครบตามตำราแล้วท่านจำนำแหวนพิรอดใส่ลงในเตาอั้งโล่ โดยให้ศิษย์ติดไฟจนแดง แล้วนำแหวนพิรอดใส่ลงในเตา ทิ้งไว้สักพักดูว่าแหวนพิรอดวงไหนไม่ไหม้ไฟจึงถือว่าสำเร็จตามตำรา ท่านก็จะมอบให้แก่ผู้ที่มาขอไป ซึ่งบางคนกว่าจะได้ต้องรอนานหลายเดือน จนกว่าท่านจะมีเวลาทำให้ แสดงถึงพลังจิตและอาคมของหลวงพ่อม่วงที่เข้มขลังแก่กล้าล้ำลึก ที่สามารถต้านทานไฟที่โหมกระหนำได้ คนที่ได้เมื่อนำไปใช้ก็ประสบการณ์มากมาย คาถาบูชาการปลุกแหวนพิรอดมีดังนี้ โอมพระพิรอด ขอดพระพินัย เป็นหัวใจพระคาถาเมื่อสวมใส่แหวนหรือพกพา และ โอมพระพินัย คลายพระพิรอด เป็นหัวใจพระคาถาเมื่อถอดแหวนออกหรือเก็บแหวน

เหตุนี้แหวนพิรอดของหลวงพ่อม่วงจึงเป็นที่เสาะแสวงหากันมาก ด้วยความเชื่อของผู้ฅนเชื่อมั่นว่าเป็นของวิเศษเปี่ยมด้วยพุทธคุณ และคุณวิเศษอยู่ยงคงกระพันสามารถกันเขี้ยวงาและอสรพิษได้ชะงัดนัก หายาก

 

เหรียญปราบฮ้อ ร.5 หลวงพ่อเกษม เขมโก ปี 2535 เนื้อเงิน

- ตอกนัมเบอร์ ๕๖๐ /ตอกโค๊ด ด้านหลัง

เลี่ยมพร้อมบูชา รับประกัน

บูชา 1,800 บาท

 

ปิดครับ




สมเด็จดิน ๙ ประเทศ ปี2516

บูชา 500 บาท

พระสมเด็จดิน 9 ประเทศ ออกแบบพิมพ์โดย นายช่างยิ้ม ยอดเมือง ซึ่งได้บรรจงแกะอย่างปราณีต องค์พระมีความอ่อนช้อย และ เข้มแข็งอยู่ในที โดยได้จัดสร้างในปี พ.ศ. 2516 พุทธาภิเษก และ ลงพลังจิตโดย พระเกจิอาจารย์ชื่อดังจากทั่วประเทศ โดยใช้พระคาถาชินบัญชรเป็นพระคาถาหลัก สร้างกฤษดาอภินิหารปรากฏมากมายให้ทั้ง ชาวไทย และ ต่างประเทศ สมเด็จพระสังฆราช วัดราชบพิธฯ ทรงเป็นประธาน คณะสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ในพิธีมหาพุทธาภิเษกพระสมเด็จดิน 9 ประเทศ พระครูวามเทพมุนี อธิบดีพรามณ์ ประกอบพิธีทำน้ำเทพมนต์ พระเกจิอาจารย์ที่โด่งดังหลายรูป ได้เข้าร่วมการลงพลังจิต ในพิธีพุทธาภิเษกในครั้งนั้นอาทิเช่น..

หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี

หลวงปู่เทียม วัดกษัตราธิราช

หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง

หลวงปู่สวน วัดป่าไก่

หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพระองค์

หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาณมิตร

หลวงพ่อบุญ วัดวังมะนาว

หลวงพ่อบูญมี วัดอ่างแก้ว

หลวงปู่สาม วัดป่าไตรวิเวก

หลวงปู่พล วัดหนองคณฑี

หลวงปู่อ่อน วัดเพียรมาตร

หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน

พระอาจารย์วิโรจน์รัตนโนบล วัดทุ่งศรีเมือง

และ เกจิอาจารย์อีกจำนวนมาก ที่มีชื่อเสียงในยุคนั้น ประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษก 9 วัน 9 คืน นอกจากนี้ตัวมวลสารของพระสมเด็จ 9 ประเทศ ยังประกอบไปด้วย ดินจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แดนพุทธภูมิจาก 9 ประเทศ ไทย,ลาว,พม่า,มาเลเซีย,กัมพูชา,เวียดนามใต้,
อินโดนีเซีย,อินเดีย,เนปาล,ผงว่าน 108 ชนิด ดอกไม้นามมงคล 108 ชนิด และ ผงพระสมเด็จอิทธิเจ ของท่านเจ้าประคุณสมเด็จโต ซึ่งเป็นพระที่ชำรุด นำมาบดผสมเป็นส่วนหนึ่งของพระสมเด็จดิน 9 ประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นพระสมเด็จแห่งยุคก็ว่าได้ครับ ประสพการณ์มากมายที่ปรากฏแก่ผู้นำไปบูชา เมื่อประมาณต้นปี พ.ศ.2531 ข่าวนี้ทราบไปถึงพระวิปัสสนาจารย์รูปหนึ่ง ที่ท่านเคยเข้าร่วมในพิธีมหาพุทธาภิเษกครั้งที่ 3 และ ท่านได้บูชาพระสมเด็จดิน 9 ประเทศ ไว้เป็นจำนวนนับพันองค์ ท่านได้กรุณาแบ่งพระสมเด็จดิน 9 ประเทศ ในส่วนของท่าน มอบให้กับ ชมรมสวดคาถาชินบัญชรไว้จำนวนหนึ่ง เพื่อเปิดโอกาสให้ศาสนิกชนที่พลาดโอกาสในคราวก่อนนั้น ได้มีไว้บูชา ไว้คุ้มครอง และ รายได้ทั้งหมดเพื่อนำไปบำรุงพระพุทธศาสนาครับ++

 

หนุมาน ล้มลุก หลวงพ่อเกลี้ยง ที่ระลึก 97 ปี วัดเนินสุทธาวาส จ.ชลบุรี

บูชา 900 บาท เลข ๑๘๑๖

หนุมานนั้นว่ากันว่่ามีบารมีมากมีลูกน้องมาก บูชาไว้เสริมอำนาจ สร้างบารมี บริวารทั้งหลายนับถือยำเกรง หนุมานได้ชื่อว่ามีภรรยามาก มีคุณวิเศษ ทางเมตตา มหาเสน่ห์ รักใคร่ ใครเห็นเป็นต้องดาต้องใจ หนุมานเป็นลูกพระพาย มีชีวิตอมตะ ถ้าเสียชีวิต เพียงลมพัดก็ฟื้นจึงมีคุณวิเศษทางแคล้วคลาด คงกระพัน ปลอดภัยจากภัยทั้งปวง หนุมานอยู่กับใครมีแต่คนเมตตาอุปถัมภ์ แม้แต่ศัตรูยังรักดุจลูกได้ เข้าหาผู้ใหญ่จะมีเมตตา มีคนอุปถัมภ์ หนุมานเป็นสัญลักษณ์แห่งโชคลาภ ด้วยกำเนิดมามีของล้ำค่่ามาด้วย สวมกุณฑล มีเขี้ยวแก้ว แม้กระทั่งขนทุกเส้นยังเป็นเพชร ตลอดทั้งชีวิตได้รับแต่สิ่งของล้ำค่ามากมาย จึงมีคุณวิเศษทางโชคลาภ เงินทองจะมีมากมายให้ใช้ติดตัวตลอด..

หนุมาน ล้มลุก หลวงพ่อเกลี้ยง วัดเนินสุทธาวาส
เนื้อชนวน ช่อฟ้าดินไทย ก้นอุดผงวิเศษ

ขนาดกว้างประมาณ 1.8 ซม. สูง 3.2 ซม. น้ำหนักประมาณ 20 กรัม

เนื้อชนวน ช่อฟ้า นี้ เป็นชนวน ช่อฟ้าดินไทยของเก่า ที่วัดเนินสุทธาวาส ที่ทางวัดได้เก็บไว้ ตอนที่ทำการบูรณะซ่อมแซมอุโบสถของวัด ชนวนช่อฟ้านี้ จึงถือได้ว่าเป็นโลหะศักดิ์สิทธิ์ ที่เรียกได้ว่า ผ่านพิธีพุทธาภิเษก มานับไม่ถ้วนตั้งแต่อดีตกาล เพราะการปลุกเสกพระเครื่องก็ต้องทำกันในอุโบสถ และโยงสายสิญไปรอบอุโบสถ พระประธาน และ โยงมายังวัตถุมงคลอีกครั้ง จึงถือได้ว่าเป็นของวิเศษแล้ว พอนำมาสร้างเป็นหนุมาน ผ่านการปลุกเสก ยิ่งมีอานุภาพเข้มขลังมากขึ้นไปอีกค่ะ น่าใช้จริงๆ ค่ะ
หนุมานรุ่นนี้ เป็นพิมพ์ล้มลุก องค์ใหญ่ ล่ำดูแข็งแรงจริงๆ ค่ะ เหมือนเป็นอุปเทห์ หากผู้นำไปบูชา ได้รับภัยอันตรายใดๆ ก็จะ สามารถลุกขึ้นมายืน เดิน ได้ปกติ ปลอดภัย ไม่ได้รับอันตรายใดๆ เลย หรือทำธุรกิจการค้าได้แล้ว ล้มหรือเจ้ง ก็จะสามารถฟื้นฟู ธุรกิจของตนได้กลับมาประสบความสำเร็จได้อีกค่ะ .. ผงวิเศษต่างๆ ก็ทำการอุดกันที่วัดด้วยค่ะ .

---------------------------------------------------------------------------------------

หลวงพ่อเกลี้ยง ท่านเป็นอีกหนึ่งพระเกจิคณาจารย์ที่สามารถสร้างหนุมานได้อย่างเข้มขลังทีเดียว ดังมีคำกล่าวที่ว่า มาวัดเนินสุทธาวาส ไม่ได้หนุมานไปบูชานั้น ถึอว่ามาไม่ถึง เพราะใครๆ ที่มาที่วัดนี้ ก็มาเช่าหนุมานหลวงพ่อเกลี้ยงกลับไปบูชาทั้งนั้นค่ะ

หลวงพ่อเกลี้ยงท่านสำเร็จวิชาในการสร้างหนุมานอย่างจริง ไม่ต้องสงสัย ด้วยประสบการณ์มากมายทั้งเด็กวัยรุ่นในตัวเมืองชล นักเลงหัวไม้พี้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งพ่อค้าแม่ค้า บูชาหนุมานก็สามารถช่วยขายของได้ พกไปติดต่อการค้ามีเมตตามหานิยม ใครเห็นก็นิยมชมชอบ มีเรื่องเล่าสมัยก่อนตำรวจในพื้นที่ต้องมาขอให้หลวงพ่อเกลี้ยงหยุดสร้างหนุมาน เพราะไม่สามารถจับโจรที่พกหนุมานของหลวงพ่อเกลี้ยงได้ ในบริเวณพื้นที่ชลบุรีและจังหวัดใกล้เคียงทุกคนต่างยอมรับหนุมานทุกรุ่นที่ผ่านการปลุกเสกโดยหลวงพ่อเกลี้ยงนั้น ดีจริง ขลังจริง ช่วยเหลือผู้ครอบครองได้จริงทุกเรื่อง วิชาปลุกเสกหนุมานนั้นเป็นวิชาเด่นของหลวงพ่อเกลี้ยงท่านเลยค่ะ

ส่วนชนวนมวลสารโลหะ ก็สุดยอด และยังมีผงพุทธคุณ ผงวิเศษต่างๆ มากมาย ยังมีว่านกว่า 108 ชนิด ผงพรายกุมารหลวงปู่ทิม ครบถ้วนตามตำราการจัดสร้างสุดยอดแห่งหนุมานเลยค่ะ ที่สำคัญมวลสารทั้งหมดอุดกันที่วัดทำกันที่วัดค่ะ เพราะฉะนั้นมวลสารแท้ๆ ไม่หายไปไหนแน่นอนค่ะ (จริงๆ มีเยอะกว่านี้ค่ะ แต่น้องดาบรรยายไม่ไหว ขอแค่นี้ก็แล้วกันค่ะ)

>>วัตถุมงคลของท่านแต่ละรุ่นที่จะออกมาก ท่านตั้งใจทำเป็นอย่างดีค่ะ ... เสกแล้วเสกอีกหลายวาระ .. จนท่านมั่นใจว่าดีจึงออกให้ศิตย์ได้บูชาค่ะ ทุกรุ่นที่จัดสร้างก็มีลูกศิตย์ลูกหาเช่าบูชาหมดจากวัดไปอย่างรวดเร็ว

 

พระผงหลวงปู่ทวดเปิดโลก หลังพระพรหม

หลวงตาม้าสร้างยุคต้นๆ ไม่ค่อยเจอครับ

บูชา 450 บาท

 

เหรียญท้าวเวสสุวรรณ รุ่นเมตตาบารมี เนื้อทองทิพย์โค๊ตเลข ๙ ล้อม สร้าง 619 เหรียญ

บูชา 700 บาท

หลวงปู่บุญมา โชติธมฺโม สำนักสงฆ์เขาแก้วทอง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี


ประวัติและปฏิปทา
หลวงปู่บุญมา โชติธัมโม
สำนักสงฆ์เขาแก้วทอง
อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
หลวงปู่บุญมา โชติธัมโม สำนักสงฆ์เขาแก้วทอง
หลวงปู่บุญมา โชติธัมโม สำนักสงฆ์เขาแก้วทอง
◎ ชาติภูมิ
หลวงปู่บุญมา โชติธัมโม เกิดเมื่อวันอังคารที่ ๗ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๔๘๒ ปีเถาะ ในสกุล “จิตศรี” บิดาชื่อ นายพ่วง และมารดาชื่อ นางทองคำ จิตศรี ไผ่เจริญ หลวงปู่บุญมา โชติธัมโม ท่านเป็นบุตรคนที่สองของครอบครัว ในจำนวนพี่น้องทั้งหมด ๔ คน ดังนี้
๑. นางเลียบ จิตศรี
๒. นายบุญมา จิตศรี (หลวงปู่บุญมา โชติธมฺโม)
๓. นายสุวิทย์ จิตศรี
๔. นางสมหมาย จิตศรี
ปฐมวัย
ครอบครัวมีอาชีพทำนา ฐานะทางบ้านก็พอมีพอกินปานกลาง แต่มาระยะหลังมีลูก ๔ คน ทำให้อาหารการกินฝืดเคือง เด็กชายบุญมาเจริญวัยตามกาลเวลา จวนจบกระทั่งถึงวัยที่จะต้องได้รับการศึกษาเล่าเรียน ผู้เป็นพ่อส่งเด็กชายบุญมาให้ไปอยู่กับ หลวงพ่อเขียน หรือ พระครูประสารวุฒิคุณ เจ้าอาวาสวัดบ้านกุง ตำบลบ่อทอง อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งเด็กชายบุญมา มีศักดิ์เป็นหลานของหลวงพ่อเขียน สมัยนั้นหลวงพ่อเขียนเป็นพระเกจิอาจารย์เก่งทางด้านอยู่ยงคงกระพัน เด็กชายบุญมาได้อยู่รับใช้หลวงพ่อเขียน และศึกษาเล่าเรียนที่โรงเรียนวัดบ้านกุง
จนกระทั่งจบการศึกษาประชาบาลชั้นประถมปีที่ ๓ นายพ่วงผู้เป็นพ่อก็ไปรับตัวกลับให้มาอยู่กับ “หลวงปู่เอี่ยม” พระเกจิอาจารย์ที่มีคนให้ความเคารพนับถือกันมาก ชาวบ้านเรียกกันว่า “หลวงพ่อใหญ่” หลวงปู่เอี่ยมนั้น มีวิชาอยู่ยงคงกระพันชาตรี หลวงปู่เอี่ยม รับเด็กชายบุญมาไว้เป็นลูกศิษย์แล้วก็ส่งให้เรียนต่อชั้นประถมปีที่ ๔ จนจบ พอโตเป็นหนุ่มหลวงปู่เอี่ยมก็สอนวิชาอาคม ให้ร่ำเรียนอักขระวิชาต่างๆ ฝึกให้ทำจิตให้เป็นสมาธิ สอนการนั่งวิปัสสนากรรมฐานขั้นต้นให้
◎ อุปสมบท
นายบุญมาใช้ชีวิตทางโลกอยู่จนกระทั่งอายุ ๒๕ ปี เข้าวัยเบญจเพศจึงหันหน้าเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ เป็นศิษย์พระตถาคตเจริญรอยตามพระพุทธองค์ โกนหัวปวารณาตัวอุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดทุ่งแฝก หมู่ ๒ ตำบลกบินทร์บุรี อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี โดยมี พระครูศรีวิเลิศ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์สวัสดิ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการกรอง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “โชติธมฺโม” แปลว่า “ผู้มีความสว่างในธรรม, ผู้โชติช่วงในพระธรรม”หลวงปู่บุญมา โชติธัมโม สำนักสงฆ์เขาแก้วทอง
หลวงปู่บุญมา โชติธัมโม สำนักสงฆ์เขาแก้วทอง
เมื่อบวชแล้ว ภิกษุหนุ่มนามบุญมาก็ศึกษาพระธรรมวินัย จนสามารถสอบนักธรรมเอกได้ในเวลาต่อมา ในระหว่างนั้นเองทางวัดบ้านแก่ง ว่างสมภารลง หลวงพ่อใหญ่ก็ได้สั่งให้ พระอธิการบุญมา มาเป็นสมภารวัดบ้านแก่ง สืบแทนหลวงพ่อทองดีที่มรณภาพ พระอธิการบุญมา พอมาอยู่วัดบ้านแก่ง ก็ทำนุบำรุงพัฒนาวัดตามแต่อัตภาพ สมัยนั้นวัดบ้านแก่งและหมู่บ้านค่อนข้างทุรกันดาร ความเจริญยังเข้าไปไม่ถึง ความเป็นอยู่ของชาวบ้านไม่ค่อยดี วัดก็เลยไม่รุ่งเรืองตามสภาพ ขณะอยู่วัดพระอธิการบุญมาก็ฝึกวิปัสสนากรรมฐาน โดยเฉพาะพระกรรมฐานนั้น พระอธิการบุญมาให้ความสนใจเป็นพิเศษ ได้รับถ่ายทอดวิชาจากหลวงปู่เอี่ยมนำมาปฏิบัติด้วยตนเองอย่างเคร่งครัดหลวงปู่บุญมา โชติธัมโม สำนักสงฆ์เขาแก้วทอง
หลวงปู่บุญมา โชติธัมโม สำนักสงฆ์เขาแก้วทอง
พระครูสุนทรโชติธรรม (หลวงปู่บุญมา โชติธมฺโม) ได้ปฏิบติกัมมัฏฐาน โดยกำหนดเอาแสงสว่างจากเปลวเทียนเป็นหลัก เพ่งกสิณจากเปลวแสงเทียนที่เรียกกันว่า “เตโชกสิณ” คือ การทำสมาธิจิตเพ่งแสงสว่างแห่งเปลวไฟ กำหนดเอาธาตุทั้ง ๔ อย่างใดอย่างหนึ่งเป็นมั่นคง แล้วพุ่งกระแสจิตสู่สิ่งที่กำหนดนั้น จนดวงจิตสงบนิ่งบังเกิดความสว่างขึ้นกลางมโนจิต อันเป็นการบรรลุมรรคผลในระดับหนึ่ง นั่นคือการสามารถกำหนดจิตให้เป็นสมาธิอันแน่วนิ่งและมั่นคงได้ จึงจะถือว่าผ่านการทดสอบของการบำเพ็ญพระกรรมฐานและการทำกสิณ ตลอดเวลาท่านได้พัฒนาวัดบ้านแก่งมาตลอด จนสามารถสร้างกุฏิ สร้างศาลาการเปรียญ และสร้างโบสถ์ใหม่ได้สำเร็จ ยกช่อฟ้าอุโบสถและ ผูกพัทธสีมา ปิดทองฝังลูกนิมิต มีลูกศิษย์เลื่อมใสศรัทธาทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศนอกจากนี้ หลวงปู่บุญมา โชติธัมโม ท่านยังให้การอุปถัมภ์วัดโนนฝาวพุทธาราม ในการสร้างพระอุโบสถจนแล้วเสร็จและได้ทำการยกช่อฟ้าพระอุโบสถและผูกพัทธสีมาปิดทองฝังลูกนิมิตในปี พ.ศ. ๒๕๖๑ รวมถึงท่านยังให้การอุปถัมภ์ในการก่อสร้างศาสนสถานในวัดอื่นๆ อีกมากมาย
ด้วยบารมีของ หลวงปู่บุญมา โชติธัมโม ทำให้ท่านมีคณะศิษยานุศิษย์มากมาย มีตั้งแต่ระดับรัฐมนตรี ผู้นำเหล่าทัพ อธิบดี ข้าราชการ ดารา นักร้อง นักกีฬา รวมถึงประชาชนทุกสาขาอาชีพ

หลวงปู่บุญมา โชติธัมโม สำนักสงฆ์เขาแก้วทอง
หลวงปู่บุญมา โชติธัมโม สำนักสงฆ์เขาแก้วทอง
ปัจจุบัน พระครูสุนทรโชติธรรม (หลวงปู่บุญมา โชติธมฺโม) สิริอายุได้ ๘๒ ปี (พ.ศ.๒๕๖๔) ท่านได้มาพักจำพรรษา ณ สำนักสงฆ์เขาแก้วทอง ตำบลเขาไม้แก้ว อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งกำลังดำเนินการปรับพื้นที่ สร้างซุ้มประตูวัด กุฎิสงฆ์ ห้องน้ำ ห้องสุขา ศาลาหอฉัน และงานที่สำคัญของหลวงปู่ คือ สร้างศาลาการเปรียญ เพื่อที่สาธุชนและศิษยานุศิษย์ จะได้ใช้ประโยชน์ ในการประกอบงานบุญต่างๆ เป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนาสืบไป

 

พระยอดธง เนื้อชินเงินเก่า

สวยสมบูรณ์มากครับ ไม่ทราบกรุ รับประกัน

บูชา 9,500 บาท

 

ปิดครับ





บูชา 3,700 บาท

 

ปิดครับ



บูชา 4,200 บาท

 

ปิดครับ



เหรียญรุ่นแรก พระอาจารย์ดิเรก พิมพ์ใหญ่/เล็ก

บูชา 6,000 บาท

 

พระฤาษีบรมครู (เลี้ยงลิง) หลวงปู่หมุน วัดบ้านจานปลุกเสก พิมพ์ใหญ่ เนื้อผง พ.ศ.2543

พิธีใหญ่ ปลุกเสก9วัน9คืน ตลอดไตรมาส ปี43-44 พร้อมกล่องเดิม เนื้อฝังพลอย

รุ่นนี้มีของเสริม/เก๊ เยอะมาก ส่วนใหญ่จะออกเนื้อขาวๆ

องค์นี้รับประกันสากล เมื่อก่อน 2-3,000 บาท

บูชา 1,600 บาท