ภาพเทวดา

ภาพเทวดา ที่ปรากฏขึ้นจากการอธิษฐานบารมีของพระมหาโพธิสัตว์

ภาพแรกชุดแรกเป็นภาพ......จากการอธิษฐานสร้างพระมหาเจดีย์ประดิษฐานพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ ครูบาอาจารย์ท่านอธิษฐาน ผมเป็นคนถ่ายภาพ เมื่อคืนถัดจากวันมาฆบูชา 1 วัน เวลาประมาณหนึ่งทุ่ม

เป็นภาพถ่ายจากกล้องดิจิตอลขนาดเล็ก ขนาดภาพประมาณ 1 MB แต่ผมลดขนาดลงมา พร้อมทั้งภาพขยายของสิ่งที่ปรากฏ

 

ภาพชุดที่สอง เป็นภาพแม่กาเผือก ที่ถ่ายได้จากกล้องดิจิตอล ขนาดเล็ก ในวันหล่อมงกุฏพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ 22 กรกฏาคม 2550 พร้อมทั้งภาพขยาย ซึ่งบางท่านอาจจะเคยได้ดู มาแล้ว

สำหรับภาพแม่กาเผือกนี้มีหลายคนถ่ายภาพได้ในวันนั้น ผมคัดภาพที่ชัดที่สุดมาให้ดูกันครับ

 

แหม ข้อมูลน้อยไปนิด เลยไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่
โมทนาสาธุบุญด้วยครับ สาธุ สาธุ

 

สาธุ สาธุ อนุโมทามิ ขอคารวะเทวดาทุกท่าน ในคุณงามความดี หิริโอตัปปะที่มีในกาย วาจา ใจของทุกท่านเสมอในยามที่ท่านเป็นมนุษย์
<!-- / message -->

 

หวัดดีครับ ลุงชาลี

ภาพแรกเป็นภาพเทวดา ถ่ายภาพได้ที่สถานที่ก่อสร้างพระมหาเจดีย์ประดิษฐานพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ ณ บ้านสังคมพัฒนา ต. สีกาย อ.เมือง จ. หนองคาย
พระอาจารย์ท่านอธิษฐานให้การสร้างพระมหาเจดีย์ฯสำเร็จด้วยดี(ท่านคงจะสื่อกับเทวดา) ขณะที่กำลังจะกดชัตเตอร์ถ่ายภาพผมอธิษฐานว่าถ้าหากการสร้างพระมหาเจดีย์ฯนี้สำเร็จขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ปรากฏในภาพ ปรากฏว่าจิตไปสัมผัสบางสิ่งบางอย่างเข้า ก็เลยกดชัตเตอร์ ก็ได้รูปปรากฏขึ้นในภาพที่ 1 ครับ

ภาพที่ 2 เป็นภาพแม่กาเผือก(พุทธมารดา ในตำนานพระพุทธเจ้าห้าพระองค์) ถ่ายภาพนี้ได้ที่วิหารพระโกนาคมโน วัดหน้าพระเมรุ จ. พระนครศรีอยุธยา ขณะทำพิธีพุทธเภิเษกในงานหล่อมงกุฏพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ ซึ่งในงานนี้ครูบาอาจารย์ท่านอธิษฐานให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มาร่วมงานปรากฏให้ผู้มีส่วนร่วมสร้างพระฯได้รู้เห็นการมีส่วนร่วมของเทวดาหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์

 

การอธิษฐาน บางครั้งก็ถ่ายภาพได้ออกมาเป็นรังสีหรือแสง ที่เป็นสัญญลักษณ์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์

สองภาพข้างล่างเป็นภาพที่ผมอธิษฐานถ่ายภาพ ต่อหน้าพระศพหลวงปู่ทองทิพย์ฯ โดย ในภาพแรกผมอธิษฐานว่า "หากผมสามารถสร้างพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ ได้สำเร็จตามคำปรารภของหลวงปู่ ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์แสดงอานุภาพให้ประจักษ์" เมื่ออธิษฐานเสร็จ จิตสัมผัสกระแสศีลธรรมบางอย่าง แล้วกดชัตเตอร์ถ่ายภาพ ก็ได้ภาพแรกออกมาครับ (ที่จริงถ่ายภาพโดยใช้ 2 กล้องพร้อมกันกับเพื่อน แต่กล้องของเพื่อนติดภาพธรรมดา)
ภาพแรกนี้ผมเข้าใจว่าเป็นรังสีของพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ เนื่องจากมี 5 สี ตามสีจีวรของพระพุทธเจ้าทั้งห้าพระองค์

ส่วนภาพที่ 2 ผมอธิษฐานว่า "หากถึงกาลเวลาที่จะต้องสร้างพระพุทธเจ้าห้าพระองค์แล้ว ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์แสดงอานุภาพให้รับรู้ด้วย" เมื่อจิตสัมผัสกระแสศีลธรรมบางอย่าง ก็กดชัตเตอร์ถ่ายภาพ ก็ได้ภาพที่ 2 ออกมาครับ

ภาพที่สองนี้ ผมเข้าใจว่าเป็นรังสีของศรพระราม เพราะรังสีพุ่งออกมารอบๆพระรามแผลงศร

สำหรับภาพแรกกับภาพที่สอง ระยะเวลาถ่ายภาพห่างกันประมาณ 30 วินาที ครับ

 

สำหรับภาพข้างล่างนี้ ที่เห็นเป็นแสงสีขาวนั้นเป็นภาพของพญานาค ที่ท่านรักษาอาณาเขตที่ประดิษฐานพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ เป็นภาพที่ญาติธรรมท่านนึงที่เขามีสื่อกับพวกพญานาค ถ่ายภาพนี้ได้ในตอนเย็นของวันมาฆบูชาที่ผ่านมา ขณะที่มีลำแสงสีขาวขนาดใหญ่ยาวหลายสิบเมตร ลอยทวนลม เลื้อยแบบงูมาในอากาศ สูงจากพื้นประมาณ 2 เมตร มาวนรอบพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ แล้วก็กลับไปทางที่พักสงฆ์ป่าสีดาฯ ขณะที่พระสงฆ์และญาติธรรมจำนวนร้อยกว่าคน กำลังเตรียมสวดมนต์ ภาพนี้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ร้อยกว่าคนมองเห็นด้วยตาเนื้อครับ

 

น่าสนใจในสิ่งที่สาธยายมาทั้งหมดครับ ขออนุโมทนาสาธุครับ

 

ภาพถ่ายจากประเทศเนปาล /อินเดีย ภาพแรกที่วัดไทยลุมพินี(เนปาล) และภาพต่อมาที่ที่ถวายพระเพลิงพระพุทธองค์ ค่ะ

 

อิทัง สัพพะเทวานัง โหตุ สุขิตา โหตุ สัพเพเทวา

 

ภาพนี้ถ่ายได้ในงานสมโภชน์พระพุทธเจ้าห้าพระองค์ ในคืนวันที่ 2 ธ.ค. 2551

ท่านลองพิจารณาดูว่าในภาพถ่ายนั้น เป็นเท้าของใคร

 

งูขาว

มีอยู่ครั้งนึงเมื่อปีที่แล้ว งูขาวได้ไปปฏิบัติธรรมที่วัดแห่งนึงที่ลพบุรี เกิดมาก็เพิ่งเคยเห็นเทวดานี่แหละ.........เป็นดวงๆ แต่ละดวงนี้ลอยล้อมรอบพระภิกษุรูปนึงจริงแล้วท่านมรณภาพ ไปแล้วละ แต่จิตนั่นคือสิ่งไม่สูญ จึงรู้ว่านี้คือหลวงพ่อ คง จตมโล วัดเขาสมโภช ก็ได้กราบบูชาหลวงพ่อ แต่ที่ว่าเทวดานี่สิ ดวงท่านแต่ละดวง สว่างไสว ดังกับหลอดไฟนีออนติด บ้านนี้ละ แต่จะไม่เท่ากัน พอดวงนั่นเขามาใกล้ๆ เราจะเห็นเข้าชัดเลย เหมือนกับคนๆเรานี้ละ แต่นั่งพับเพียบลอยลงมานะ เสื้อผ้าอาภร เหมือนที่เขาวาดในวัดนี้ละ องค์นี้คุยเสร็จก็ค่อยๆถอยไปรอบหลวงพ่อดังเดิม ดวงอื่นก็ลอยเข้ามาคุย ต่อ สนุกดี งูขาวได้พบนี้ก็บนหอฉันพระตอน ดึกแล้วละ 5555 ไม่มีอะไรหรอก เพื่อนกันมาเยี่มมมาเยื่อน มากับหลวงพ่อคง....................ไม่มีอะไรที่เป็นเรื่องแปลกใหม่หรอกเป็นของมีอยู่แล้วทั่งนั้นเป้นสัญญาเก่ากันมาจึงมาป่ะกันจ้า......จบ

 

สำหรับภาพดวงศีลธรรมของเทวดาที่เป็นดวงนั้น หลายๆคนก็ถ่ายภาพได้บ่อย รวมทั้งผมด้วย หากเป็นเทวดาที่มีอานุภาพมากๆ ภายในวงกลมจะเป็นรูปต่างๆเช่น รูปจักร หรือรูปองค์เทวดา ก็มีครับ

ข้างล่างนี้เป็นภาพดวงเทวดา ที่ถ่ายได้ในงานพุทธเพิเษกพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ พร้อมทั้งวัตถุมงคลเหรียญพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ เป็นภาพเดิมและก็ภาพขยาย ครับ

 

ส่วนภาพดวงเทวดา ที่มองเห็นอย่างมืดฟ้ามัวดิน ข้างล่างนี้ ถ่ายได้จากงานสร้างพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ ในวาระต่างๆ ครับ ซึ่งยังมีอีกมากและจะทะยอยนำมาลงให้พิจารณากันครับ

หากเราสัมผัสไม่ถึงก็จะเข้าใจว่าเป็นฝุ่น เป็นละอองน้ำในอากาศ(ซึ่งก็มีด้วยเช่นกัน ถ่ายภาพออกมาได้คล้ายๆกันกับดวงเทวดา)

ช่วงหลังๆเวลาผมถ่ายภาพ ผมก็จะอธิษฐานให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์แสดงออกมาเป็นรูป เนื่องจากหากเขาแสดงออกมาเป็นดวงๆ ก็จะเป็นที่ถกเถียงกัน

 

อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ

_________________________________________________

ทาน ศีล สมาธิ

 

<TABLE width=900 border=0><TBODY><TR><TD>ภาพแปลกๆ (น่าอัศจรรย์) บริเวณต้นพระศรีมหาโพธิ์-สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ภาพโดย : หลวงปู่แอ๊ว สุธมฺมปาโล

​

</TD></TR><TR><TD>ภาพทั้งหลายที่ท่านชมอยู่นี้ เป็นสิ่งที่เกิดจากแรงอธิษฐานจิตแล้วถ่าย มิใช่แต่งเติมหรือใช้เทคนิคในการถ่ายทำใดใดทั้งสิ้น และขอให้ท่านใช้วิจารณญาณในการชมอย่างจิตที่เป็นกุศล>>> (เป็นภาพถ่ายในระหว่างพระท่านจำพรรษา พ.ศ. ๒๕๔๙)

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

<TABLE width=900 border=0><TBODY><TR><TD scope=col colSpan=5></TD></TR><TR><TD width="25%">

​

</TD><TD width="25%">

​

</TD><TD width="25%">

​

</TD><TD width="25%">

​

</TD><TD width="25%">

​

</TD></TR><TR><TD width="25%">ภาพตัวอักษรไทย

​

</TD><TD width="25%">ภาพตัวอักษรไทย

​

</TD><TD width="25%">ภาพดวงโอปปาติกะเป็นธรรมจักร

​

</TD><TD width="25%">ภาพดวงโอปปาติกะเป็นธรรมจักร

​

</TD><TD width="25%">ภาพดวงโอปปาติกะเป็นธรรมจักร

​

</TD></TR><TR><TD width="25%">

​

</TD><TD width="25%">

​

</TD><TD width="25%">

​

</TD><TD width="25%">

​

</TD><TD width="25%">

​

</TD></TR><TR><TD>ภาพดวงโอปปาติกะเป็นธรรมจักร

​

</TD><TD>ภาพดวงไฟบนยอดพระเจดีย์

​

</TD><TD>ภาพดวงไฟบนยอดพระเจดีย์

​

</TD><TD>ภาพแสงไฟ

​

</TD><TD>ภาพแสงไฟ

</TD></TR><TR><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width=900 border=0><TBODY><TR bgColor=#0080c0><TH scope=col colSpan=5>ภายในบริเวณวิหารมหาปรินิพพาน-กุสินารา</TH></TR><TR><TD width="25%">

​

</TD><TD width="25%">

</TD><TD width="25%">

</TD><TD width="25%">

</TD><TD width="25%">

​

</TD></TR><TR><TD width="25%">ภาพดวงโอปปาติกะเป็นธรรมจักร

</TD><TD width="25%">

</TD><TD width="25%">

</TD><TD width="25%">

</TD><TD width="25%">

</TD></TR><TR><TD width="25%">

</TD><TD width="25%">

</TD><TD width="25%">

</TD><TD width="25%">

</TD><TD width="25%">

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width=900 border=0><TBODY><TR bgColor=#400080><TH scope=col colSpan=5>

บริเวณมูลคันธกุฎีวัดเชตวันมหาวิหาร-สาวัตถี
​

</TH></TR><TR><TD width="25%">

​

</TD><TD width="25%">

</TD><TD width="25%">

</TD><TD width="25%">

</TD><TD width="25%">

​

</TD></TR><TR><TD width="25%">ภาพแสงไฟ

​

</TD><TD width="25%">ภาพแสงไฟ

</TD><TD width="25%">

</TD><TD width="25%">

</TD><TD width="25%">

</TD></TR><TR><TD width="25%">

</TD><TD width="25%">

</TD></TR></TBODY></TABLE>

ที่มาจาก : http://www.watthaibuddhagaya.com/Plaeks/PhotosPlaek_01.html

 

<TABLE width=900 border=0><TBODY><TR><TD width="25%">

​

</TD><TD width="25%">

​

</TD><TD width="25%">

​

</TD><TD width="25%">

​

</TD><TD width="25%">

</TD></TR><TR><TD width="25%">

</TD><TD width="25%">

</TD><TD width="25%">

</TD><TD width="25%">

</TD><TD width="25%">

</TD></TR><TR><TD width="25%">

​

</TD><TD width="25%">

​

</TD><TD width="25%">

​

</TD><TD width="25%">

</TD><TD width="25%">

</TD></TR><TR><TD>

</TD><TD>

</TD><TD>

</TD><TD>

</TD><TD>

​

</TD></TR><TR><TD>

​

</TD><TD>

​

</TD><TD>

​

</TD><TD>

​

</TD><TD>

</TD></TR><TR><TD>

</TD><TD>

</TD><TD>

</TD><TD>

</TD><TD>

​

</TD></TR><TR><TD>

​

</TD><TD>

​

</TD><TD>

​

</TD><TD>

​

</TD><TD>

</TD></TR><TR><TD>

</TD><TD>

</TD><TD>

</TD><TD>

</TD><TD>

</TD></TR><TR><TD>

​

</TD><TD>

​

</TD><TD>

​

</TD><TD>

</TD><TD>

</TD></TR><TR><TD>

</TD><TD>

</TD><TD>

</TD><TD>

</TD><TD>

</TD></TR><TR><TD></TD><TD></TD><TD>

​

</TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>​

ภาพถ่ายโดย...พระครูธรรมธร ดร.แอ๊ว สุธมฺมปาโล
ที่มาจาก : http://www.watthaibuddhagaya.com/Plaeks/Images/Aew/Ven_Aew_01.html​

 

อนุโมทนา ด้วยครับ

รูปแบบของรูป แสงสี หรือรูปลักษณ์ต่างๆที่เหล่าภพภูมิ เขาแสดงออกมาในวาระต่างๆนั้นมีหลากหลายรูปแบบ ครับ ผู้ที่ต้องการศึกษาทำความเข้าใจในเรื่องเหล่านี้ ก็ต้องฝึกจิตให้ไปสัมผัสกับญาณศีลธรรมที่ปรากฏ เพื่อทำความเข้าใจกับเรื่องเหล่านี้ ครับ

 

กุศลผลบุญใด ๆ ก็ตามที่ข้าพเจ้าได้ทำมาแล้ว ตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบันนี้ ข้าพเจ้าขออุทิศให้<O</O​

​

 

ภาพเทวดา ที่สวนป่าโมขธรรม บ้านบุ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์

เทวดาที่นี่จะชอบฟังเสียงสวดมนต์ค่ะ ยิ่งสวดกลางเเจ้ง และเวลากลางคืนประมาณ หกทุ่มถึงตีสอง จะเยอะมากเนื่องจากเวลากลางคืนมนุษย์นอนหลับไม่มีกลิ่นที่เทวดาเหม็น ภาพที่ถ่ายที่สวนป่าเวลาพระอาจารย์สวดมนต์จะติดทุกครั้ง ไม่ว่าจะใช้กล้องตัวไหน ใครเอามา ภาพที่เห็นเปียกฝนเพิ่งถ่ายเมื่อ วันที่ 6 กย. 2551 นี้ ก่อนสวดพระอาจารย์บอกว่า "อ้าวโยม วันนี้ฝันจะตกนะ" ไม่ทันไรฝนก็ตกลงมาตลอดพิธี(ช่วงเข้าพรรษาพระอาจารย์จะสวดกลางคืนกลางแจ้ง) น่าแปลกที่วันนี้เทวดาลงเยอะผิกปกติ นับหมื่นองค์เลย ปกติก็แค่หลักร้อยองค์ น่าตื่นเต้นมากค่ะ

ฝากประชาสัมพันธ์ค่ะ
ที่สวนป่าแห่งนี้เดิมเป็นป่าช้าเก่าแก่ แต่อดีตเคยเป็นที่ๆพระมหากษัตย์ไทยหลายพระองค์มาพัก รวมถึงสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระอาจารย์ขณะอยู่ที่ประเทศมาเลเซียก็มีเทวดามาบอกว่า "ที่นี่ไม่ใช่ที่ของท่าน ขอให้ท่านกลับไปหาสถานที่ๆเป็นป่าช้าเก่าๆด้วยญาณท่านจะรู้ว่าเป็นที่ๆท่านควรอยู่ ให้ท่านอยู่ที่นั่น 22 ปี " สวนป่าโมขธรรมญาณบารมีหลวงปู่ใหญ่หลวงปู่เทพโลกอุดร จึงเกิดขึ้น เนื่องจากพระอาจารย์หลังกลับมาก็ถูกนิมนต์มาที่บุรีรัมย์ ก็เลยถามว่ามีป่าช้าเก่าๆไหมบริเวณนี้ พอไปดูปรากฎว่ามีและด้วยญาณประกอบกับใช้จิตอธิฐานถามหลวงปู่ใหญ่ ก็ใช่ดังนี้ ก็ตกลงอยู่ เมื่อก่อนทั้งรกครื้มน่ากลัว แถมชาวบ้านบางกลุ่มก็พากันมาขับไล่เนื่องจากเป็นที่สาธารณะ พระอาจารย์ก็อดทนต่อสู้มาพอสมควร ท่านเล่าว่าเมื่อก่อนไม่มีอะไรเลย ปัจจัยก็ติดกระเป๋าเพียง 500 บาท น้ำก็ต้องไปตักในทุ่งนามาอาบมาไว้ชำระล้าง กลางคืนก็จะต้องคอยระวังมนุษย์ที่คิดไม่ดีอีก จนปัจจุบันมีญาติโยมที่มีจิตศรัทธาก็มาเจาะน้ำบาดาลให้ มาถวายเครื่องปั่นไฟ เนื่องจากไม่มีเสาไฟฟ้าทั้งแรงต่ำเเละแรงสูงเข้ามา กุฏิมี 3 หลัง มีศาลา 1 หลัง อีกหลังกำลังสร้างแต่ยังไม่เสร็จ มีโรงครัว โรงฉันฑ์ ห้องน้ำรวม สรุปที่นี่เพิ่งก่อตั้งขึ้นมาได้เพียง 2 ปี โดยพระอาจารย์มหาบุณส่ง(ท่านเป็นหลานครูบากฤษณะและครูบาแบ่ง แห่งบ้านโตนด ในความคิดดิฉันพระจารย์ถึงอายุเพียง 37 ปี แต่ญาณบารมีท่านสูงมาก(พ่อก็ยืนยัน)ประกอบกับท่านเชี่ยวชาญหลายศาสตร์ดิฉันไปครั้งแรกฟังท่านพูดก็ทราบว่าท่านไม่ธรรมดาเหมือนหนังสือเริ่มใหญ่ที่น่าศึกษาที่สุด) ดิฉันมักไปทำบุญที่นี่บ่อยๆ เนื่องจากไปแล้วสบายใจ สงบลืมเรื่องทางโลกถนัด ทีแรกก็ไปกับเพื่อนต่อมาก็พาครอบครัวไป ถึงแม้จะแค่ 2-3 เดือนเท่านั้นที่ไป เริ่มจากไปถือศิลภาวนา 4 วัน 3 คืน พระอาจารย์พาสวดมนต์ นั่งสมาธิ ทำโรงทานเลี้ยงเด็ก รู้สึกไม่เหมือนว่าเป็นป่าช้าเหมือนบ้านที่น่าอยู่ เดินๆไปบางที่ก็มีกลิ่นหอมฟุ้งทั้งที่ไม่มีดอกไม้ ถ้าคนที่จิตบริสุทธิ์ก็จะไม่มีอะไรค่ะ เหมือนเค้าจะต้อนรับเสียด้วยซ้ำ
ดิฉันจึงอยากฝากไปถึงผู้มีจิตศรัทธาอยากทำบุญบริจาคที่ดินเพื่อจะได้ขอเป็นวัดได้ ดิฉันสอบถามมีชาวบ้านต้องการขายที่ดินโฉนดจำนวน 11 ไร่ๆ 30,000 บาท และหากใครมีจิตศรัทธาเพิ่มเรื่องไฟฟ้า เคยลองคำนวณค่าใช้จ่ายในการดึงสายไฟตั้งเสามาถึงวัดเป็นเงินทั้งสิ้น 250,000 บาท เป็นบุญที่หาทำได้ยากค่ะ เพราะได้บุญเวลากลางคืนด้วยทำอะไรก็สว่างไสวไปหมด คนมาทำบุญหรือมาถือศิลที่นี่มักมีแต่สิ่งดีๆหลังจากกลับไปแทบทุกคน บางคนถูกหวยรัฐบาล บางคนงานเข้า ก็ถือว่าโอเคค่ะ เหมือนว่าทำแล้วได้บุญจริงๆเทวดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์อวยพร
จะไปทำด้วยตนเองที่วัดก็ได้ค่ะ หรือจะสอบถามอะไรเพิ่มเติมมาที่ดิฉันก็ยินดีค่ะ ดิฉันเป็นเพียงชาวพุทธที่เลื่อมใสพระพุทธศาสนา จบวิศวโยธาและสถาปัตยกรรม ครั้งนั้นบังเอิญมีปัญหาเรื่องงานถูกกั่นแกล้งเลยไปสงบจิตใจ ไม่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องนอกจากความสุขใจ ยืนยันว่าทำด้วยความบริสุทธิ์ใจจริงๆ อยากเห็นญาติโยมที่ไปถือศิลภาวนาที่นั่นสะดวกขึ้น และเหมือนได้ตอบแทนสถานที่ครูบาอาจารย์ด้วยค่ะ มีอะไรก็โทรมาก็ได้ค่ะ
คุณอ้อม 083-3722244
(ภาพที่แสดงเป็นเพียงส่วนหนึ่งในคอมในกล้องของดิฉันเท่านั้นค่ะ)

ฝากอีกนิดค่ะ
ภาพศาลาหลังใหม่พอดีพี่ชายออกแบบให้พระอาจารย์ กำลังสร้าง ตอนนี้มีเพียงเสา 9 ต้นใครมีจิตศรัทธาก็เชิญนะค่ะ ช่วยกันทำบุญกันค่ะ
อนุโมทนาค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ