เจาะประเด็นลึก เชื่อหรือไม่? พระพุทธเจ้าสูง 9 เมตร!!!

watcharasit · 16 สิงหาคม 2008

ปลานิลตัวใหญ่

:z10สมัยยุคก่อนปัจจุบัน ความดันบรรยากาศของโลกเบาบางกว่ามาก สิ่งมีชีวิตเติบโตมีขนาดใหญ่กว่าปัจจุบันมาก มีนักวิทยาศาสตร์รัสเซียได้ทดลองนำปลานิลที่อัฟริกาที่เติบโตในสภาพความกดดันบรรยากาศสูงและมีขนาดเล็ก
ไปเลี้ยงที่ห้องทดลองที่รัสเซียและได้ลดความกดดันบรรยากาศลงเรื่อยๆ ปรากฎว่าขนาดของปลานิลยิ่งมีขนาดใหญ่
ขึ้นเรื่อยๆตามความกดดันบรรยากาศที่ลดลง ได้ โตกว่า ๕ ถึง ๖ เท่า แต่ ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม ไม่ทราบว่า
มีผลเหมือนหรือเปล่าหน้อ

seahero · 16 สิงหาคม 2008

ไม่แปลกหรอกครับเรื่องธรรมดา ทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เราเห็นและสัมผัสอยู่ก็ไม่จำเป็นว่ามันต้องเป็นอย่างนี้ตลอดไป เมื่อเราหิวก็รู้อยู่ว่าหิวแต่เมื่อกินแล้วก็อิ่มไม่ได้หิวเหมือนเดิมตลอดแต่เดี๋ยวก็ต้องกลับมาหิวอีก มันก็ขึ้นๆลงๆ อย่างนี้เหมือนกันทุกเรื่องนั่นแหละครับ โลกจึงเป็นสิ่งที่ไม่น่าปลื้มสำหรับคนที่มีปัญญา

วิทย์ · 16 สิงหาคม 2008

เคยไปดูอาวุธโบราณที่พิพิธภัณฑ์ตอนไปทัศนศึกษาตอนเด็กๆเหมือนกันครับ อาวุธยาวมากจริงๆ เช่นดาบ ถ้าเป็นคนใช้ถือแบบคล้ายๆรูปปั้นยักษ์ตามหน้าวัดก็ต้องเป็นคนตัวสูงมากๆทีเดียว ไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถยืนเอาดาบปักลงพื้นแบบนั้นได้(ไม่งั้นก็คงต้องแบกดาบขึ้นบ่าตลอดเวลา ซึ่งไม่น่าจะต้องทำเช่นนั้นน่ะครับ)

ส่วนเรื่องที่มีคนอายุยืนและตัวใหญ่มากๆในพระไตรปิฎก รวมถึงในชาดกยังมีบางเรื่องที่มนุษย์พูดคุยกับสัตว์ และมนุษย์สามารถมองเห็นเทวดานางฟ้าต่างๆได้เป็นปกติ ผมว่าก็เป็นไปได้ครับ เพราะโลกเรานี้ก็อยู่ในวัฏจักรมีการเกิดแล้วก็แตกดับไปไม่รู้กี่ครั้ง แต่ละครั้งที่โลกสร้างใหม่ ก็อาจจะมีลักษณะที่แตกต่างกันไปรวมทั้งคุณลักษณะของสิ่งมีชีวิตต่างๆด้วยครับ (ดังในพระสูตรต่างๆที่บอกว่ายุคสมัยหรือโลกของพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์นั้นก็จะมีลักษณะที่แตกต่างกันไป เช่น ถ้าในยุคของพระศรีอาริยะเมตรไตยพุทธเจ้า ผู้คนก็จะอายุยืน ไม่ค่อยมีโรค มีแต่คนสวยคนหล่อรักษาศีลกันทุกคน มีต้นกัลปพฤกษ์เกิดขึ้น...ฯลฯ เป็นต้น น่ะครับ)

dhammashare · 16 สิงหาคม 2008

dhammashare · 16 สิงหาคม 2008

http://drew-krag.blogspot.com/2007/08/origins-of-north-american-civilization.html

nip · 16 สิงหาคม 2008

http://www.geocities.com/sakyaputto/katsa.htm
Click to expand...

ประวัติ : พระมหากัสสปเถระ ผู้เป็นประธานการทำสังคายนาครั้งแรก

เมื่อพระบรมศาสดาเสด็จเข้าสู่พระปรินิพพานแล้ว พระมหากัสสปเถระ ได้อุตสาหะกระทำการสังคายนาร้อยกรองพระไตรปิฎก แปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์ แต่ล้วนเป็นคำสั่งพระบรมศาสดาร้อยกรองเข้าไว้หมวดเป็นหมู่ พระวินัยจัดเข้าไว้เป็นพวกวินัย พระสูตรจัดไว้ตามพวกพระสูตร พระอภิธรรมตามพวกพระอภิธรรม กระทำให้ถูกต้องตามพุทธฎีกา ครั้นสำเร็จการปฐมสังคายนาแล้ว พระมหาเถระก็สถิตอยู่ในเวฬุวนาราม ปฎิบัติธรรมอยู่มิได้ประมาท ให้โอวาทสั่งสอนภิกษุทั้งหลาย ซึ่งเป็นสิสสานุสิส มาสิ้นกาลช้านาน อยู่มาเวลาเที่ยงคืนวันหนึ่ง พระมหาเถระเข้าฌานสมาบัติเป็นที่สบายแห่งพระอริยเจ้า จึงพิจารณาอายุสังขารของท่านเห็นว่าแก่ชรา มีพระชนมพรรษาได้ร้อยยี่สิบปีแล้ว เล็งแลดูไปก็เห็นว่าอายุของท่านสิ้นแล้ว เพลาพรุ่งนี้ท่านจะนิพพาน และจะนิพพานในระหว่างภูเขากุกกุฏสัมปาตบรรพตใกล้เมืองราชคฤห์

ครั้งรุ่งเช้าพระมหาเถระจึงให้ประชุมสงฆ์ แล้วสั่งสอนว่า อย่าประมาท อุตส่าห์พยายามอย่าให้ขาดเวลา จงปฎิบัติตามคำสั่งสอนของพระบรมศาสดา ตัวท่านนั้นสิ้นอายุแล้ว จะนิพพาน ณ เพลาเย็นวันนี้แล้ว บรรดาพระภิกษุที่เป็นปุถุชน ได้ฟังก็พากันโศกา ร่ำร้องไห้พิไร บรรดาพระขีณาสพทั้งหลายครั้นแจ้งเหตุ ต่างก็สงสารสังเวชว่า เกิดมาเป็นสัตว์สังขารแล้ว มีแต่จะสูญสิ้นไปเป็นที่สุด เกิดแล้วดับไป ถ้าแม้นระงับสังขารธรรมลงเสียได้ แล้วนั่นแหละจึงจะเป็นสุข ฝ่ายพระมหาเถระเห็นดังนั้น จึงได้ประโลมปลอบให้ชอบตามพระพุทธฎีกาว่า อันเกิดมาเป็นสังขารแล้วไม่เที่ยงแท้ ย่อมปรวนแปรไปมา พระพุทธเจ้าทั้งหลาย ได้ตรัสในอดีต อนาคต และปัจจุบันนั้น ย่อมเทศนาไว้ทุก ๆ พระองค์ว่า เกิดมาเป็นสัตว์เป็นสังขารแล้ว ไม่แคล้วอนิจจังเลย เมื่อเห็นชัดฉะนี้แล้ว พึงเร่งกระทำเพียรพยายาม ยกตนให้พ้นอนิจจังให้จงได้ อันพระยามัจจุราชนี้ไซร้ ยากที่บุคคลจะข้ามพ้น เว้นไว้แต่พระอริยบุคคลที่ท่านสำเร็จพระนิพพาน อนึ่ง เล่าพระภิกษุทั้งหลาย จะใคร่เห็นเราในขณะเมื่อเข้าสู่พระนิพพาน จงไปประชุมอยู่แทบเชิงเขากุกกุฎปาตบรรพตนั้นเถิด
พระมหาเถระบอกเล่าพระสงฆ์ฉะนี้แล้ว เพลานั้นเล่าก็ควรจะบิณฑบาต ท่านจึงออกจากเวฬุวนาราม เพื่อไปบิณฑบาต บทจรเข้าสู่เมืองราชคฤห์ เที่ยวบิณฑบาตโดยลำดับตรอก ได้จังหันพอแล้วจึงหลีกออกจากบิณฑบาต กลับมาสู่ที่สำราญ กระทำภัตตกิจ เมื่อกระทำภัตตกิจเสร็จแล้วจึงดำริว่า พระเจ้าอชาตสัตรูมีอุปการะแก่ท่านเป็นอันมาก มีศรัทธาบริจาคจตุปัจจัยถวายพระสงฆ์มิได้ขาด เคารพนบนอบในพระรัตนตรัย ช่วยท่านในการปฐมสังคายนา จำท่านจะไปบอกเล่า ให้พระเจ้าอชาตสัตรูรู้ก่อนจึงจะสมควร คิดแล้วท่านจึงเข้าไปในเมืองราชคฤห์ เมื่อเวลาเที่ยงไปสู่หน้าพระลานหลวง เวลานั้นพระเจ้าอชาตสัตรูบรรทมอยู่ ท่านจึงได้แจ้งแก่บรรดาอำมาตย์ทั้งหลายว่า ท่านประสงค์จะมาลาพระเจ้าอชาตสัตรู เพื่อเข้าสู่พระนิพพานในเวลาเย็นวันนี้ จากนั้นท่านก็กลับสู่เวฬุวนาราม วัตตปฎิบัติสิ่งใดที่ควรจะกระทำ ท่านก็ทำเสร็จทุกประการ แล้วจึงจากเวฬุวันพร้อมพระสงฆ์เป็นอันมาก เดินทางไปยังกุกกุฏบรรพต ไปถึงเมื่อเวลาเย็น แล้วท่านก็แสดงปาฎิหาริย์ต่าง ๆ พลางเทศนาโปรดมหาชนทั้งปวง
ให้ลุล่วงเข้าสู่อริยภูมิเป็นอันมาก จากนั้นท่านได้อำลาพระสงฆ์ทั้งหลายว่า ให้อุตสาห์เจริญสมณธรรม อย่าประมาทในคำสั่งสอนของพระบรมศาสดา เราจะลาท่านทั้งหลายเข้าสู่พระนิพพานแล้ว จากนั้นท่านจึงเข้าไปสู่ระหว่างภูเขาทั้งสามลูก คิดอยู่ในใจว่าท่านจะนิพพานในปีนี้ แล้วพระมหาเถระจึงขึ้นสู่ที่ไสยาสน์ นั่งพับพะแนงเชิง เข้าสู่ผลสมาบัติ เมื่อออกจากผลสมาบัติแล้ว จึงตั้งอธิฐานไว้ว่า ถ้าแหละท่านดับสูญสิ้นอายุสังขาร เข้าสูนิพพานแล้วเมื่อใด ภูเขาทั้งสามลูกนี้จงมาประชุมกันเป็นลูกเดี่ยว ให้ปรากฎเป็นห้องหับอยู่ภายในภูผา อุปมาดังห้องที่ไสยาสน์ พระมหาเถระได้ตั้งอธิฐานอีกว่า ตั้งแต่บัดนี้ไป มนุษย์ทั้งหลายอายุจะน้อยถอยลงทุกที ตราบเท่าถึง 10 ปี อายุขัย กาลครั้งนั้นจะเกิดการฆ่าฟันกันตาย เกิดมิคสัญญี มนุษย์ทั้งหลายเห็นกันสำคัญว่าเป็นเนื้อ ต่างเข้าไล่ฆ่าฟันกันตายจนสิ้นสุด ยังเหลืออยู่แต่มนุษย์ ที่หนีไปหลบซ่อนอยู่ผู้เดียว จึงอยู่ได้ ครั้งต่อมาบรรดาผู้ที่หลบซ่อนนั้น ออกมาพบกันบังเกิดเมตตาต่อกัน ประพฤติแต่สุจริตธรรม เมื่อสืบเชื้อสายกันต่อมา ก็มีอายุเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ จนถึงอสงไขยเป็นที่สุด คนทั้งหลายก็ประมาทมิได้ประพฤติธรรม อายุก็ลดน้อยถอยลงจนเหลือ 8 หมื่นปี ในกาลครั้งนั้นชมพูทวีป ก็ราบรื่นเสมอสมาน ปานประหนึ่งหน้ากลอง สรรพจะมีไพบูลย์ทุกสิ่งทุกประการ

ในกาลครั้งนั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพระนามว่าพระเมตไตรย ก็จะมาตรัสในโลกนี้ พระองค์จะเสด็จมา ณ ที่นี้ แล้วตรัสบอกแก่พระสงฆ์ว่า ท่านผู้นี้เป็นสาวกผู้ใหญ่ในศาสนา พระโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า มีนามปรากฎว่า อริยกัสสปเถระ ถือธุดงค์ได้สิ้นทั้ง 13 ประการ ตราบเท่าสิ้นชีวิตของท่านคือ ถือบังสุกุลิกธุดงค์ เตจีวริกธุดงค์ บิณฑบาติกาธุดงค์ สัปปทานจาริกธุดงค์ เอกาสนิกธุดงค์ ปัตตบินฑิกธุดงค์ ขลุปัจฉาภัตติกธุดงค์ อารัญญิกธุดงค์ รุกขมลิกธุดงค์ อัพโภกาสิกธุดงค์ โสสานิกธุดงค์ ยถาลันตติกธุดงค์ เนสัชชิกธุดงค์ ตั้งแต่วันอุปสมบทมา ตราบเท่าถึงวันเข้าพระนิพพาน
เมื่อพระมหาเถระ อธิฐานแล้ว จึงเอนองค์ลงเหนือแท่นที่ไสยาสน์โดยบุรพเบื้องทักขิณา ลำดับหัตถบาทเป็นระเบียบ บ่ายพระเศียรสู่อุดรทิศา ก็ดับเบญจขันธ์ เข้าสู่พระอมตมหานิพพาน สูญสิ้นทั้งวิบากขันธ์และกรรมมัชรูปไม่เหลือ มิได้สืบต่อรูปกายให้ปรากฎในภพหน้า ก็ปรากฎชื่อว่า อนุปาทิเสสปรินิพพาน
พระเจ้าอชาตสัตรู เมื่อทราบข่าวพระมหาเถรปรินิพพานก็เศร้าโศกเสียพระทัยยิ่งนัก จึงได้เดินทางไปเคารพศพพระมหาเถระ แล้วให้จัดการสมโภชพระมหาเถระ 7 วัน เมื่อครบกำหนดแล้วจึงได้เสด็จกลับคืนสู่พระนคร ท้าวเธออุตส่าห์รักษาศีลบำเพ็ญทานเป็นเนืองนิจ ด้วยพระทัยคิดถึงคำสอนแห่งพระมหาเถระผู้เป็นอุปัชฌาย์ ตกว่าซากศพพระมหาเถระนั้น ทุกวันนี้ก็ยังปรากฎเป็นปรกติมิได้เปื่อยเน่า เครื่องสักการะบูชาก็ยังตั้งอยู่เป็นปรกติ มิได้ดับสาปสูญไป
สัปบุรุษทั้งหลายผู้มีปัญญาพิจารณา เห็นความอนิจจังดังกล่าวมาฉะนี้ จงมีสติอุตส่าห์ขวนขวายสิ่งอันเป็นแก่นสาร คือรักษาศีล บำเพ็ญทานการกุศลสุจริต ให้ตั้งจิตจำเริญกุศลกรรมบถ 10 ประการ จงอุตส่าห์สร้างสมไปอย่างได้ขาด จะเป็นเสบียงเลี้ยงตนไปในมรรคาอันไกลคือ วัฏฏสงสาร ตราบเท่าสำเร็จพระนิพพาน
Click to expand...

เป็นเพราะ อายุของ มนูษย์ในสมัยก่อนมีอายุมากกว่า 100000 ปี หรือเปล่า

เลยทำให้การเจริญเติบโต สามารถพัฒนาการไปได้ มากกว่า มนุษย์ในปัจจุบัน

ปล... เป็นเพียงข้อสังเกต ส่วนตัว อาจจะจริงหรือไม่จริง ก็ได้

ด้วยความขอบคุณ

อนุโมทนา......สาธุ....สาธุ...สาธุ

Prathuang · 16 สิงหาคม 2008

อือ.........น่าคิด
อายุแปรผันตามขนาดร่างกาย
อนุโมทนา....สาธุ....สาธุ...สาธุ

kunchatorn · 16 สิงหาคม 2008

เชื่อว่ามนุษย์โบราณตัวสูงใหญ่จริงครับ ไปดูอาวุธ ดาบ หอก ง้าว ในพิพิธภัณ์ซิครับ สองมือเรายังกำไม่มิดเลยครับ เนี่ย..ขนาดแค่สมัยสุโขทัย /อยุธยานะครับ ...ถ้าเป็นสมัยพระพุทธเจ้าจะตัวใหญ่ขนาดไหน...อันนี้มีเหตุผลเชื่อถือได้ว่าตัวสูงใหญ่แน่ๆ เลยครับ

hellotawan · 16 สิงหาคม 2008

ตามทฤษฎีทางวิวัฒนาการ อวัยวะใดที่ถูกใช้จะขยายขนาดขึ้น แต่อวัยวะใดที่ไม่ได้มีการใช้ก็จะลดรูปไปหรือกระทั่งหายไปในที่สุด และยังเกิดจากการคัดเลือกทางธรรมชาติเอาลักษณะที่เหมาะสมไว้ คัดทิ้งลักษณะที่ไม่เหมาะสม ในสมัยก่อนความเป็นอยู่ของมนุษย์ต้องใช้แรงงาน และกำลังมาก แต่มาสมัยนี้อะไรหลายอย่างสะดวกขึ้น รูปร่างอวัยวะจึงลดขนาดลงให้เหมาะสมกับความกดดันของบรรยากาศ ความเป็นอยู่ และการใช้งาน จึงไม่แปลกที่คนสมัยก่อนจะมีรูปร่างสูงใหญ่ ดูอย่างนักกล้ามที่เค้าต้องใช้แรงออกกำลังกายทุกวัน ร่างกายเค้าสูงใหญ่มาก แต่เรานักเพาะกระดูกมีรูปร่างเล็กกว่านักกล้ามมาก

ชนะ สิริไพโรจน์ · 14 ธันวาคม 2008

คนในสมัยโบราณสรีระสูงใหญ่จริง อย่างเช่นหลวงปู่เทพโลกอุดร

จากข้อคิดเห็นของคุณ to2504

อืม น่าคิด หลวงปู่เทพโลกอุดร ท่านก็สูงใหญ่เช่นกัน

ผมขอนำรายละเอียดเกี่ยวกับ หลวงปู่เทพโลกอุดร มาให้ทราบและเป็นสิ่งที่จะ
ยืนยันถึงสรีระของคนในสมัยโบราณ ว่าสูงใหญ่จริง และมีหลักฐานคือจีวรของ
ท่าน ซึ่งผมเคยเห็นที่วัดกลางชูศรี สมัยหลวงปู่บุดดา ยังมีชีวิตอยู่ ได้กางจีวร
ดูกัน ใหญ่กว่าจีวรปกติประมาณ ๓ เท่า และขอนำเรื่องที่หลวงปู่บุดดาได้พูดถึงหลวงปู่ใหญ่
หรือ หลวงปู่เทพโลกอุดร ดังนี้

คืนหนึ่งในเดือนพฤษภาคม ๒๕๒๗ ศิษย์คนหนึ่งได้ถามหลวงปู่ว่า "หลวงปู่เจ้าคะ หลวงปู่เทพโลกอุดรมีจริงหรือเปล่าคะ"
หลวงปู่บุดดาตอบว่า " มีจริงซิโอ รูปร่างท่านสูงใหญ่ สูง ๘ ศอกโน่น เราไม่เคยเจอท่านหรอก อยากรู้เรื่องของท่านให้ไปถาม
หลวงปู่วัย โน่น ท่านอยู่หินกอง หลวงปู่ใหญ่ท่านมาหาหลวงปู่วัยบ่อยๆ " และผู้ถามได้ถามต่ออีกว่า "หลวงปู่เจ้าคะ หลวงปู่วัย
ที่เอาจีวรหลวงปู่ เทพโลกอุดรมาถวายหลวงปู่ ใช่ใหมคะ" หลวงปู่ตอบว่า "อื้อ"
(สุรปย่อมาจาก http://board.agalico.com/showthread.php?t=20445)

พระอีกรูปหนึ่งที่ท่านยืนยันเรื่อง หลวงปู่เทพโลกอุดร คือ หลวงพี่เล็ก สุธัมปัณโญ มีผู้ถามท่าน ณ บ้านอนุสาวรีย์
เมื่อเดือนพฤษภาคม ๒๕๔๕ ขอสรุปคำตอบของท่านดังนี้

ท่านตอบว่า" มีจริงๆ หลวงปู่โลกอุดร จริงๆ คณะของท่านมี ๕ องค์ ก็คือสมณฑูตสายที่พระเจ้าอโศกมหาราช
ส่งมาเผยแพร่พระศาสนาที่สุวรรณภูมิสมัยนั้นทะเลมันยังอยู่ที่เขต นครปฐม ตรงจุดที่ท่านขึ้นมา เขาถึงสร้างเป็นเจดีย์
ทุกวันนี้สองพันปี ทะเลมันงอกไปโน่นแล้ว ชะอำ งอกเยอะ คราวนี้หลวงปู่โลกอุดรก็คือ พระอุตรเถระ
แล้วตรงจุดที่สำคัญก็คือว่า ท่านตั้งความปราถนาพระโพธิญาณ บริษัทบริวารที่ตามท่านมาก็มาก เมื่อท่านลาพุทธภูมิ
ลูกศิษย์ก็ตามไม่ทัน ท่านเลยต้องอยู่สงเคราะห์ลูกศิษย์ด้วยการอธิษฐานให้อยู่ต่อ

ท่านเองท่านมาไทยตั้งแต่ประมาณ พ.ศ. ๓๗๕ จนป่านนี้ท่านยังไม่ตาย เป็นสิ่งที่ยืนยันที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า
บุคคลที่มั่นคงในอิทธิบาทสี่ สามารถอธิษฐานให้มีชีวิตอยู่ได้เป็นกัปป์ ถามหลวงปู่ว่าอายุเท่าไรแล้ว
ท่านบอกว่าข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ตอนสร้างพระปรางค์สามยอดที่ลพบุรี ข้าไปยืนดูมันสร้างอยู่
พระปรางค์สามยอด ไม่หนีพันห้าพันหกนะอายุ อยู่จนป่านนี้"

ขอเชิญทุกท่านได้โมทนาบุญผ้าป่า ๓ กองบุญร่วมกันครับ
http://palungjit.org/showthrea...=158315&page=3

ศูนย์พุทธศรัทธา
สำนักปฏิบัติพระกรรมฐานสาขาวัดท่าซุง
เพียงท่านแวะชมและโมทนาท่านก็จะได้บุญได้กุศลตามกำลังใจของแต่ละท่าน

punyawat · 17 สิงหาคม 2008

ตามความคิดผมแล้วผมเชื่อน่ะครับ

เพราะผมเคยเห็นตามพิพิธภัณฑ์

ทั้งเสื้อผ้าและอาวุธของคนโบราณก็ใหญ่จริงๆครับ

และอีกอย่างผมก็เคยได้ยินมาเหมือนกันว่าพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันสูง18ศอก

*จากที่ผมเคยศึกษามาพระพุทธเจ้าองค์ก่อนหน้านี้มีความสูงกว่าองค์ปัจจุบันตั้งเยอะครับ*

แต่ถ้าเราไม่เห็นด้วยตาเราก็ไม่รู้หรอกครับว่าข้อเท็จจริงๆเป็นอย่างไร

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทนามิ
__________________
จงอย่าอยู่อย่างประมาท

อัสติสะ · 18 สิงหาคม 2008

ไม่พระพุทธองค์จะสูงสักกี่เมตร
ก็หาใช่สาระที่เราจะพึง นึกคิด ตรองกันให้เสียเวลา
หากแต่ ธรรม ที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ดีแล้วนั่นแหละ
ที่เราพึงใช้เวลาที่เหลือในชีวิต ขวนขวาย
และปฏิบัติตาม คำสั่งสอนของพระพุทธองค์

ราเมง · 18 สิงหาคม 2008

ผมว่าจิงๆนะคับผมก็เคยอ่านเหมือนกัน
ชื่อหนังสือว่า กว่าจะมาเป็นพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์

karain · 11 กันยายน 2008

น่าคิดนะครับเนี่ย

อิอิ

NaCl · 12 กันยายน 2008

อาจจะมีมนุษย์สองเผ่าพันธุ์อยู่แล้วก็ได้

คือ ขนาดปกติ กับ ขนาดพิเศษ

ไม่งั้นเราจะมีนิทาน เรื่องเล่า เกี่ยวกับยักษ์ได้ไงล่ะ

ประทีปแก้ว · 15 ตุลาคม 2008

เศษสตางค์ said: ↑

ไม่มีความเห็น เพราะข้าพเจ้าไม่รู้
Click to expand...

เหมือนกัน

JCkula · 25 ตุลาคม 2008

ตกลงคือ พระพุทธเจ้า หรือ ยักษ์ หรือ รากษส

งงจริง อะไรกัน

AmpeerA · 26 ตุลาคม 2008

นี่น่าจะเกี่ยวข้องกับขนาดของพระพุทธบาทในบ้านเรา

มีใครเคยเห็นองค์จริงที่อยู่ใต้องค์ครอบมั๊ยครับว่า สันฐานเหมือนเท้าเราๆรึเปล่า??

ยังไงก็เหอะ กะพ๊มเห็นด้วยกับท่านอัสติสะ
แ่ต่บางทีในแง่อี่นเราก็มักขวนขวายหาพุทธอัศจรรย์ให้กระจ่างตาตนเอง
เพื่อเร้าศรัทธาด้วยอะครับ อย่างบางคนที่ยังไม่สามารถสัมผัสถึงธรรมมานุภาพ จากการลงมือปฏิบัติได้ ก็ต้องยึดสิ่งเหล่านี้แก้ขัดไปก่อน ด้วยใจเคารพครับบบ

เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

เจาะประเด็นลึก เชื่อหรือไม่? พระพุทธเจ้าสูง 9 เมตร!!!

watcharasit สมาชิก

seahero เป็นที่รู้จักกันดี

วิทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

dhammashare เป็นที่รู้จักกันดี

dhammashare เป็นที่รู้จักกันดี

nip สมาชิก

Prathuang เป็นที่รู้จักกันดี

kunchatorn เป็นที่รู้จักกันดี

hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

punyawat เป็นที่รู้จักกันดี

อัสติสะ เป็นที่รู้จักกันดี

ราเมง เป็นที่รู้จักกันดี

karain เป็นที่รู้จักกันดี

NaCl เป็นที่รู้จักกันดี

ประทีปแก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

JCkula สมาชิกใหม่

AmpeerA เป็นที่รู้จักกันดี

แชร์หน้านี้

แชร์หน้านี้

เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

เจาะประเด็นลึก เชื่อหรือไม่? พระพุทธเจ้าสูง 9 เมตร!!!

แชร์หน้านี้

การค้นหาที่มีประโยชน์

ติดต่อเรา