ร่วมสร้างพระชำระหนี้สงฆ์ "สมเด็จองค์ปฐม" กับวัดธรรมญาณ

รูปเค้าขอรีทัชก่อนนะพี่ อิอิ

 

บรรยากาศที่วัดธรรมยาน​

ครั้งนี้ได้ธรรมะจากพระอาจารย์วิรัช และได้อัดเสียงมา
จะนำมาขึ้นในโพสต์ถัดไปนะคะ​

​

​

​

 

บรรยากาศโดยรอบวัดธรรมยาน
จังหวัดเพชรบูรณ์​

​

​

​

​

 

ครั้งนี้ได้ขอธรรมะจากพระอาจารย์วิรัช
และได้อัดเสียงท่านมา..
เหมือนได้ไปทริปด้วยกันค่ะ

@@ ขอแอบบอกว่า .. ธรรมะที่ท่านให้มาครั้งนี้ ไม่ธรรมดามากๆเลย @@


มีท่านใด ช่วยรับอาสา ถอดความจากไฟล์เสียงมั้ยเอ่ย
​

[music]http://palungjit.org/attachments/a.405691/[/music]​

 

ไปกราบหลวงปู่ละมัย จ.เพชรบูรณ์​

ครั้งนี้รู้สึกกันหลายคนที่เคยไปกราบท่านเมื่อต้นปี
ว่าท่านดูแข็งแรงขึ้นมากค่ะ​

หนนี้พวกเราได้ฟังธรรมะจากท่านในสไตล์พระอภิญญา
ซาบซึ้งในธรรม อย่างไม่ธรรมดา​

รอแต่ละท่านมาเฉลยกันนะคะ​

​

​

​

​

 

ครั้งนี้ ทราบข่าวว่า
หลวงปู่ละมัย ท่านได้สร้างมณฑปครอบรอยพระพุทธบาท
ที่มีความยาว 12 เมตร ณ เกาะแก้วพิศดาร จ.ภูเก็ต​

ท่านได้มอบหมายให้พวกเรา ได้ทำงานถวายโดย
ช่วยกันแปลบทคาถาบูขารอยพระพุทธบาท​

จากภาษาไทย เป็นภาษาต่างๆ
และมีเพื่อนในกลุ่มรับอาษาแปลกันไปแล้ว 3 ภาษา ค่ะ​

หัวข้อนี้ ขอตั้งกระทู้แยกไปทำงานอีกกระทู้นะคะ​

​

​

 

เดี๋ยว ค่ำนี้รอรูปจากกล้องหนูนะ อิอิ

 

รีทัชน๊านนาน นะคะ กล้องเนี๊ย !!! ​

 

ธรรมะจากหลวงปู่ละมัย

โดยส่วนตัว เพิ่งได้ไปกราบหลวงปู่ละมัย เป็นครั้งแรก แต่เคยได้เห็นท่านจากรูปที่ลงในกระทู้อื่นและในหนังสือ ทราบว่า ท่านอายุ 100 กว่าปีแล้ว ได้ยินมาว่า ประมาณ 140 กว่าปี แต่ดูท่านแข็งแรง เดินกระฉับกระเฉง ตัวตรง เหมือนอายุ 70 กว่าปีเท่านั้น

ข้าพเจ้าขอเล่าถึงหัวข้อธรรมที่ได้รับจากหลวงปู่ละมัย ในครั้งนี้ เท่าที่พอจะจำได้ และได้ขอความกระจ่างในหัวข้อธรรมของหลวงปู่ละมัย จากคุณ NAKAMURA ซึ่งเป็นผู้มีปัญญาและเข้าใจในหัวข้อธรรม มาอธิบายเพิ่มเติม เพื่อความกระจ่างใจ มากขึ้น หากข้าพเจ้าบรรยายสรุปผิดพลาดคลาดเคลื่อนจากความจริง ความถูกต้อง ประการใดแล้ว ก็ขอน้อมรับความผิดพลาดนั้น และขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

เบื้องต้นที่หมู่คณะเราไปถึง และนั่งรอพบท่านประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง ทันที ที่ท่านเข้ามาถึงอาสนะ สีหน้าท่านดูเครงขรึม ดุๆ และถามว่า มาทำไม เคยมามั้ย เมื่อหัวหน้าคณะ ตอบว่า เคยมาครับ และมากราบท่าน ท่านก็พูดว่า เคยมาแล้ว ทำไมต้องมาอีก หัวหน้าคณะ ได้เรียนท่านว่า พวกเรามาทำบุญชำระหนี้สงฆ์ที่วัดธรรมญาณ ก็เลยมาเพื่อน้อมกราบหลวงปู่ด้วยครับ

ท่านจึงได้เทศนาเชิงปริศนาธรรมว่า มาทำบุญ บุญคืออะไร เข้าใจกันมั้ยว่าแท้จริงบุญคืออะไร ทำไมต้องมาทำบุญถึงที่นี่ อยู่บ้านก็ทำบุญได้ คนสมัยนี้เอ๊ะอะอะไร ก็ว่าทำบุญ..ทำบุญ พระสมัยนี้ ก็สอนแบบผิดๆ สอนเน้นแต่ว่าให้ทำบุญ ทำบุญแล้วรวย...

"ถ้าอยากได้บุญ ต้องฆ่าสัตว์ ถึงจะถูกต้อง"
"ทำไมว่า ต้องฆ่าสัตว์ ถึงจะได้บุญ"

พวกเราเข้าใจดีว่า ท่านกำลังสอนเชิงปริศนาธรรม ที่ว่า "ต้องฆ่าสัตว์ ถึงจะได้บุญ" แต่ก็ยังไม่สามารถตอบท่านได้ตรงประเด็นนัก ท่านจึงขยายความให้ว่า

"ต้องฆ่าสัตว์ สัตว์ตัวนี้ใหญ่มาก ใหญ่ที่สุด นั่นคือ อินทรีย์"
อันหมายถึง ร่างกายของเรา นั่นคือฆ่าความยึดติดยึดมั่นในตัวเราว่าเป็นตัวเรา ของเรานั่นเอง อันประกอบไปด้วยกิเลสใหญ่ 3 ตัว คือ โลภ โกรธ หลง ซึ่งเป็นตัวหลักที่ก่อให้จิตเราเกิดการยึดมั่น ถือมั่น ในร่างกายและตัวเรา"

สรุป คือ ต้องฆ่ากิเลสใหญ่ 3 ตัวนี้ จึงจะได้บุญที่แท้จริง

และท่านได้เมตตาสอนต่อไปว่า สิ่งที่ควรจะทำให้ได้ผลที่ยิ่งกว่า เหนือกว่า คือ มรรค 4 ผล 4 นิพพาน 1

ซึ่งในหัวข้อธรรมนี้ ข้าพเจ้าได้รับการไขและขยายหัวข้อธรรม ให้เข้าใจมากขึ้นจากคุณ NAKAMURA ว่า

มรรค 4 ผล 4 นิพพาน 1 นั้น คือ
มรรค 4 ประกอบด้วย
1. โสดาปัตติมรรค
2. สกิทาคามิมรรค
3. อนาคามิมรรค
4. อรหัตตมรรค
ผล 4 ประกอบด้วย
1. โสดาปัตติผล
2. สกิทาคามิผล
3. อนาคามิผล
4. อรหัตติผล
ซึ่งการจะเข้าถึง มรรค 4 ผล 4 นิพพาน 1 ได้นั้น ต้องดำเนินตาม มรรค 8

มรรค 8 นั้นประกอบด้วย

1. สัมมาทิฏฐิ คือ ปัญญาเห็นชอบ หมายถึงเห็นถูกตามความเป็นจริงด้วยปัญญา
2. สัมมาสังกัปปะ คือ ดำริชอบ หมายถึง การใช้สมองความคิดพิจารณาแต่ในทางกุศลหรือความดีงาม
3. สัมมาวาจา คือ เจรจาชอบ หมายถึงการพูดสนทนา แต่ในสิ่งที่สร้างสรรค์ดีงาม
4. สัมมากัมมันตะ คือ การประพฤติดีงาม ทางกายหรือกิจกรรมทางกายทั้งปวง
5. สัมมาอาชีวะ คือ การทำมาหากินอย่างสุจริตชน
6. สัมมาวายามะ คือ ความอุตสาหะพยายาม ประกอบความเพียรในการกุศลกรรม
7. สัมมาสติ คือ การไม่ปล่อยให้เกิดความพลั้งเผลอ จิตเลื่อนลอย ดำรงอยู่ด้วยความรู้ตัวอยู่เป็นปกติ
8. สัมมาสมาธิ คือ การฝึกจิตให้ตั้งมั่น สงบ สงัด จากกิเลศ นิวรณ์อยู่เป็นปกติ

พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ท่านตรัสรู้ธรรมเดียวกันคือ อริยสัจ4 ประกอบด้วย
ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค

ซึ่งหนทางพ้นทุกข์ก็คือ มรรค

มรรค 8 ย่อ เหลือ ศีล สมาธิ ปัญญา
ศีล สมาธิ ปัญญา ย่อ เหลือ สติ
ที่สุดแล้วก็ถึงพระนิพพาน

และสุดท้าย หลวงปู่ละมัย ท่านได้บอก "ให้กราบพระ" ในเบื้องต้น พวกเรายังไม่ฉลาดในกุศโลบายทางธรรมของท่าน ก็พากันก้มกราบพระ 3 ครั้ง ท่านก็ว่า ยังกราบไม่ถูก หัวหน้าคณะ จึงนำกราบด้วย อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อภิวาเทมิ (กราบ)......ฯลฯ...

หลวงปู่ท่านยิ้ม และก็ว่า แบบนี้ยังเป็นแค่อนุบาล การกราบพระที่ถูกต้องนั้น (คุณคณานันท์ หัวหน้าคณะ ได้อธิบายสรุปให้เข้าใจและชัดเจนยิ่งขึ้น)

"ต้องน้อมกราบด้วยใจ ที่ระลึกถึงพระพุทธเจ้าทั้งในอดีต ปัจจุบัน และในอนาคต
น้อมกราบด้วยใจ ที่ระลึกถึงพระธรรม ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และในอนาคต
น้อมกราบด้วยใจ ที่ระลึกถึงพระสงฆ์ ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และในอนาคต"

สรุปคือ การกราบพระ ที่ถูกต้องนั้น ต้องน้อมใจกราบด้วยการระลึกถึงพระคุณของพระพุทธเจ้าซึ่งมีพระเมตตาอย่างไม่มีที่สุด และไม่มีประมาณ ที่โปรดชี้ให้เห็นทุกข์ บอกหนทางดับทุกข์ และหนทางพ้นทุกข์ แก่มวลหมู่สรรพสัตว์ ผู้มีปัญญาพอจะเข้าใจและปฏิบัติได้
พร้อมทั้งการระลึกถึงพระปัญญาธิคุณ พระบริสุทธิคุณ และพระเมตตาธิคุณ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วย
ก่อนที่พวกเราชาวหมู่คณะ จะลากลับ หลวงปู่ละมัย ได้เล่าถึงการสร้างรอยพระพุทธบาทจำลอง ด้วยวิธียิงด้วยแสงเลเซอร์ และการสร้างมณฑปเจดีย์ครอบรอยพระพุทธบาทของคณะลูกศิษย์ ที่จ.ภูเก็ต (ดูรูปภาพประกอบในกระทู้ก่อนหน้า)
และได้เมตตาให้ดูของเล่น ของท่าน อ้นได้แก่ ปรอท ซึ่งท่านกำลังจะหุงเป็นลูกประคำ ช่วยในเรื่องการดูดรักษาโรค และธาตุกายสิทธิ์อื่นๆ

ท้ายที่สุด หัวหน้าคณะ คุณคณานันท์ ได้เชิญชวนพวกเราชาวหมู่คณะ ได้ร่วมทำบุญถวายปัจจัย ร่วมบุญสร้างรอยพระพุทธบาทและเจดีย์ครอบรอยพระพุทธบาท หลวงปู่ละมัย ท่านจึงเมตตาแจกพระผง ให้คนละ 1 องค์

สุดท้ายนี้ ข้าพเจ้าขอขอบพระคุณหัวหน้าคณะ และขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่มีส่วนร่วมเดินทางในครั้งนี้ พาให้ได้พบและกราบพระสุปฏิปัณโณ เช่นหลวงปู่ละมัย ทั้งได้รับฟังธรรมอ้นประเสริฐจากท่าน ให้เข้าใจและปฏิบัติได้ถูกต้อง
;41
มนสดใส.

 

​

 

-*- !!!​

 

เสียดายจังไม่ได้ไปด้วย
ผบ. ไม่สบายเป็นไข้เลือดออก ตอนเช้าวันเสาร์พอดี ปวดท้องทั้งวัน

ว่าแต่เสาร์-อาทิตย์นี้ มีโปรแกรมไปไหนกันอีกหรือเปล่าครับ..

อนุโมทนากับทุกๆท่านด้วยนะครับ

 

เมื่อวันไปทริป เห็นน้องเดียร์บอกว่า ผบ.ของคุณเอกณัฏฐ์ ไม่สบาย​

ก็ขอบารมีแห่งพระรัตนไตร ทั้งในอดีต ณ ปัจจุบัน และอนาคต
พระปัจเจกพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ พระมหาโพธิสัตว์
พรหมเทพเทวาสัมมาทิฏฐิร่วมด้วย
และบุญกุศลที่ได้กระทำมาดีแล้วทั้งหมดทั้งปวง โปรดช่วยดลบันดาลให้​

ผบ.และคุณเอกณัฏฐ์ และครอบครัว ปลอดภัยจากโรคภัยไข้เจ็บ ทุกข์ภัยทั้งปวง ​

มีความเจริญก้าวหน้าทั้งทางโลกและทางธรรมด้วยเทอญค่ะ​

 

ช่วงพิชิตอาหาร ที่ร้าน บัวตองวิเชียรบุรี

ก่อนไปร่วมทำบุญ

 

ร่วมกันถวายปัจจัยที่พี่ตั้มได้ฝากเป็นเงินสดมากับคุณกิ๊ก จำนวน 100,000 บาท และได้รวบรวมกันได้อีกจำนวน 14200 บาท

โดยคุณกิ๊กเป็นผู้ถวายปัจจัยทั้งสองส่วนนี้ จากนั้นทุกๆท่านร่วมกันน้อมถวาย มหาสังฆทาน ไทยทาน เวชภัณฑ์ ซึ่งได้นำกันมาจากกรุงเทพ ทั้งจากพี่มน คุณเอ๋สาวปีใหม่ และอีกหลายๆท่านร่วมกันครับ

พี่วิจิตรได้เมตตาแนะนำให้พวกเราได้รู้จักกับกำนันและโยมอุปฐากของวัดธรรมยานซึ่งพวกเรา ได้สนนทนาเรื่องงานในภาพรวมในเรื่องภัยพิบัติกัน อีกทั้ง กำนันเองท่านก็ได้ทราบอยู่แล้วว่าต่อไปสถานที่นี้จะรองรับคนได้มาก รวมทั้งเป็นสถานที่ปฏิบัติพระกรรมฐานอีกด้วย

ท่านได้ลงปัจจัยไปให้นับสิบล้านบาทแล้วครับ

แต่ทางวัดก็ยังขาดปัจจัยในการดำเนินการก่อสร้างอีกมาก หากศาลาใหญ่เสร็จจะรองรับคนได้นับพันคนเลยทีเดียว