ขอเชิญร่วมบริจาคปัจจัยเพื่อตั้งกองทุนเพื่อผู้ป่วยโรคมะเร็ง

@ เมื่อเกิดการผิดพลาดจงรีบแก้ไขโดยไว

อย่ามัวแต่แก้ตัวและอย่ามัวตีโพยตีพายโทษผู้อื่นอยู่เลย

เพราะการตีโพยตีพายไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น

มีแต่จะเสียประโยชน์ เสียเวลาเปล่า

“คนดีจึงต้องรีบแก้ไข คนจัญไรมักชอบแก้ตัวเสมอ”

 

@ ในโลกนี้มีคนเราถูกเข้าใจผิดมากมาย

เพิ่มเราเข้าไปอีกคนด้วยจะเป็นไร

เพราะคนเราไม่ถูกนินทาไม่มีในโลก

เหนื่อยนักก็พักผ่อนหย่อนใจเรากับธรรมชาติที่ชอบ

และที่ๆทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายและสบายใจขึ้น

สายลม แสงแดด ธรรมชาติและลมหายใจเรา

ย่อมเป็นเพื่อนเป็นกัลยาณมิตรที่ดีที่สุดในยามที่เราท้อแท้

สิ่งเหล่านี้ไม่เคยเรียกร้องอะไรจากเรา ไม่ว่าจะดีหรือเลว

สายลมแสงแดดและลมหายใจก็ยังอยู่เคียงข้างเราเสมอ

 

@ ยามที่หัวใจท้อแท้

ขอเพียงมีคนรู้ใจสักคนที่ยืนเคียงข้าง

ให้กำลังใจก็ทำให้เรามีชีวิตชีวา

โลกนี้จึงน่าอยู่ต่อไปอีกเยอะทีเดียว

และถึงแม้ไม่มีใครยืนเคียงข้าง

เราก็ต้องสร้างกำลังใจให้ตัวเอง

แม้จะต้องร้องไห้บ้าง ซึ่งอาจดูเหมือนคนอ่อนแอ

แต่จงจำไว้เถิดว่าแค่ดูเหมือนว่าอ่อนแอ

เพราะใจแพ้ทางชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น

 

@ เสียงหัวเราะบ้างบางหน จะทำให้โลกนี้ดูสดใส

แม้ไม่มีใครมาช่วยหัวเราะ

แต่เราก็หัวเราะได้ด้วยตัวของเราเอง

เราต้องสู้ให้ถึงที่สุด เมื่อล้มแล้วจงรีบลุกขึ้นยืนให้ได้

นั่นแหละคือผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่และเป็นผู้กล้าหาญตัวจริง

ผู้กล้าหาญที่แท้จะต้องกล้าหาญในสิ่งที่ถูกต้องและดีงาม

ไม่ใช่พลีชีพของตนอย่างคนโง่ๆ

 

สวัสดีครับคุณยายผีป่า
ขออนุโมทนาทั้งหลายทั้งปวงกับทุกๆท่านครับที่มีจิตอันเป็นกุศล ขอบคุณคุณยายผีป่าทีให้พระองค์นั้นมา ซิ้งใจมากๆ ตอนแรกว่าจะมาถวายแม่ชี 5000 บาทแต่พอมาได้พบแม่ชีและสนทนากันก็เลยมีความศรัทธาเพิ่มขึ้นเลยเพิ่มอีก 5000 บาทเป็น 1 หมื่นและคิดว่าคงจะมาร่วมทำบุญกับแม่ชีเรื่อยๆครับขออนุโมทนาอีกครั้งครับแล้วพระที่เป็นคู่แฝดกับองค์ที่ให้มาเก็บไว้ให้ดีๆนะครับอยากได้อยู่เหมือนกัน ความโลภเริ่มครอบงำอีกแล้ว เรา

 

คุณยายครับ ผมอยากได้สมเด็จฯ ที่ว่ามี 5 องค์ มีเหลือให้ผมร่วมทำบุญบูชาสักองค์ไหมครับ

 

ผมโอนเงินแล้วครับ จัดส่งพระที่
คุณสายัณห์ ขวัญพะงุ้น
ศูนย์ควบคุมการบินหาดใหญ่
อ. หาดใหญ่
จ. สงขลา 90115
ขอบคุณครับ
<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=5><TBODY><TR><TD>เวลาที่สั่งทำรายการ</TD><TD align=right colSpan=2>:</TD><TD>14/10/2008 10:00</TD></TR><TR><TD>วันที่ทำการโอนเงิน</TD><TD align=right colSpan=2>:</TD><TD>14/10/2008</TD></TR><TR><TD>หมายเลขอ้างอิง</TD><TD align=right colSpan=2>:</TD><TD>217587887520081014</TD></TR><TR><TD>บัญชีที่โอน </TD><TD align=right colSpan=2>:</TD><TD>สายัณห์ ขวัญพะงุ้น </TD><TD>A/C No.</TD><TD align=right colSpan=10>:</TD><TD>9021449528</TD></TR><TR><TD>บัญชีผู้รับโอน </TD><TD align=right colSpan=2>:</TD><TD>กองทุน "ฟ้าใหม่" แห่งทิพยสถานธรรม </TD><TD>A/C No.</TD><TD align=right colSpan=10>:</TD><TD>3810085154</TD></TR><TR><TD>จำนวนเงินที่โอน</TD><TD align=right colSpan=2>:</TD><TD>THB 5,000.00</TD></TR><TR><TD>ค่าธรรมเนียม</TD><TD align=right colSpan=2>:</TD><TD>THB .00</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

#22180
เมื่อวานนี้ ผมนำพระไปเลี่ยม 12 องค์ กะว่าในวันที่นัดพบกันในครั้งหน้า ผมจะห้อยไปให้ชมกันสัก 4-5 เส้น รอชมกันนะครับ

ผมได้ติดต่อกับชา ให้แจ้งพี่แอ๊วเรื่องของการนัดพบกันในครั้งหน้า ผมว่าจะให้พี่แอ๊วนิมนต์พระอาจารย์นิล ไปด้วย จะได้ไปถวายเพลกัน วันนั้นผมมีพระพิมพ์แจกให้ด้วย

ส่วนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ผมได้มอบพระสมเด็จหลังเบี้ยให้พี่ใหญ่ จำนวน 50 องค์ เพื่อมอบให้กับคนที่ไปทำบุญกับทุนนิธิท่านอาจารย์ประถม อาจสาครครับ

#22181
ผมจะถวายพระสมเด็จ หลังเบี้ย (ซึ่งพระพิมพ์ชุดนี้ หลวงปู่อิเกสาโร ท่านเมตตาอธิษฐานจิต เดี่ยว) จำนวน 200 องค์กับพระอาจารย์รูปหนึ่ง ในวันพฤหัสที่จะถึงนี้

ผมจะถวายหลวงพ่อแผน ที่สนส.บ่อเงินบ่อทอง จำนวน 200 องค์ เพื่อมอบให้กับคนที่มาทำบุญที่ สนส.บ่อเงินบ่อทอง

ผมจะถวายแม่ชีณัฐทิพย์ จำนวน 200 องค์ เพื่อมอบให้กับคนที่มาทำบุญที่เกาะยอ

ส่วนรายละเอียดต่างๆ ผมจะกราบเรียนหลวงพ่อแผน และแม่ชีณัฐทิพย์อีกครั้งครับ


โมทนาสาธุครับ
http://palungjit.org/showthrea...2445&page=1110
<!-- / message --><!-- sig -->

 

@ จงอย่าเป็นเพียงผู้รับแต่ถ่ายเดียว

ยังมีคนอีกมากมายที่จะเป็นผู้รับฝ่ายเดียว

มีเราสักคนที่ออกนอกกรอบจากพวกเขาแล้วมาเป็นผู้ให้จะเป็นไรไป

อย่ามัวเข้าใจผิดติดอยู่แต่ในความสงบภายในอย่างเดียวเลย

ความสงบที่แท้จริงนั้นต้องสงบภายใน

แล้วนำมากระทำในชีวิตประจำวันด้วยการทำงานอย่างผู้สงบ

สุขุมรอบคอบ เพราะ งานคือ ชีวิต

ชีวิตคืองานบันดาลสุข ทำงานให้สนุก เป็นสุขเมื่อได้ทำงาน

คุณภาพชีวิตของคนจึงอยู่ที่ผลของงาน

 

@ ยามที่ร่างกายอ่อนแอเจ็บป่วยไข้บ้างก็ดีเหมือนกัน

ทำให้มีเวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น ได้อ่านหนังสือที่ชอบ

ได้ทำงานบางอย่างที่ยังไม่ได้ทำ สวดมนต์ ทำสมาธิได้มากกว่าเดิม

ได้ไตร่ตรองครุ่นคิดพิจารณากับชีวิตที่ผ่านมาบ้าง

ได้วางแผนในชีวิตต่อไปอย่างรอบคอบ

รวมทั้งได้เห็นอะไรๆจากใครบางคนอีกด้วย

เราให้กำลังใจกับตัวเองได้ว่า เราต้องหายเจ็บป่วย

เพื่อจะได้ทำในสิ่งที่อยากทำต่อไป เราต้องมีกำลังและพลังใจที่เข็มแข็ง

เพื่อใครอีกหลายคนที่กำลังรอคอยความหวังจากเรา

เราต้องมีสุขภาพดีขึ้นเพื่อเป็นตัวอย่างเป็นครูที่ดีกับอีกหลายคน

เราให้กำลังใจกับตัวเองได้เพราะเราเป็นผู้ฝึกจิตมาดีแล้ว

เราให้กำลังใจกับตัวเองได้เพราะเรามีความหวังและเป้าหมายชีวิต

ที่จะทำอะไรที่ดีๆเพื่อใครอีกหลายคนและเพื่อคนทั้งมวล

 

ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

" การให้ธรรมเป็นทานชนะการให้ทั้งปวง "




ขอบอกบุญต่อด้วยค่ะ บริจาคอวัยวะที่ http://www.organdonate.in.th/
บริจาคดวงตาที่ http://www.eyebankthai.com/

ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ต้องการบริจาคนะคะ สาธุ สาธุสาธุ<O</O

 

@จะมัวท้อแท้อยู่ทำไมเมื่อหัวใจยังเป็นอิสระและโบยบินได้เสมอ

อย่าพยายามผลักดันตัวเองเข้าไปอยู่ในกรง

หรือกรอบที่ไร้อิสรภาพทั้งๆที่มีอิสรภาพตลอดมาเลย

ชีวิตนี้เป็นของเรา จงโบยบินเก็บเกี่ยวความรู้

และประสบการณ์อย่างผู้ชาญฉลาด

 

@ อย่ามัวบอกรักคนทั้งหลายอย่างผู้โง่งมงายอยู่เลย

เพราะความรักที่แท้จริงนั้นต้องตั้งอยู่บนความถูกต้อง

เสียสละแบ่งปัน ให้โอกาส ให้อภัย ให้กำลังใจ.....

คนที่ร้องไห้ฟูมฟายต่างหากที่เสียใจเพื่อตัวเอง

เพราะยังไม่ได้ทำอะไรที่ดีให้กับคนที่รักเลย

และการร้องไห้นั้นเป็นการเรียกร้องความสนใจ....ต่างหาก

 

@ คิดและทำอะไรที่ดีๆให้กับตนเอง

และมอบสิ่งที่ดีๆให้กับคนทั้งหลายบ้าง

จะทำให้เราเห็นคุณค่าของการให้อย่างแท้จริง

กำไรชีวิตที่ได้คือความสุขสงบโดยแท้

 

@ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกท่านด้วยความจริงใจ

ท้อทำไมเมื่อชีวิตนี้ยังเป็นของเราและอยู่ในกำมือเรา

ที่เราจะต้องเป็นผู้ลิขิตขีดเส้นชะตาชีวิตของเราเองต่อไป

จนกว่าเส้นชีวิตนั้นจะถึงจุดหมายปลายทางที่สงบสุขตลอดกาล นิจนิรันดร..........

ท้อทำไม ท้อทำไมให้เป็นทุกข์

ชีวิตนี้มีสุขทุกข์จางหาย

ออกนอกกรอบมองดูผู้อยู่ใน

เร่าร้อนเพราะเอากรอบครอบไว้เองฯ

 

ขอนมัสการ อ.แม่ชี ก่อน (พักผ่อนบ้างน่ะครับ)

ขอกราบเรียนท่านท่านสมาชิกที่ได้มาเยือนในกระทู้นี้

มีคำถามมาตอบเพื่อคิด พิจารณา แยกแยะเป็นประสบการณ์ใส่ตน

มหาวิทยาลัยชีวิตของคนจึงไม่จำเป็นต้องไปนั่งเรียน

ในห้องเรียนแคบๆเลย คำถามที่ต้องตอบ

วันนี้ถาม วันพรุ่งนี้ตอบ เริ่มคำถามแรกเลยน่ะ

คนที่นิพพานไปแล้ว ยังมีดวงจิตอยู่อีกไหม?

 

สวัสดีค่ะทุกท่าน

วันนี้จัดส่งพระให้ทางหาดใหญ่แล้วนะคะ ส่วนที่เชียงรายนั้น หาพิมพ์ที่ต้องการเนื้อที่ต้องการไม่ได้ค่ะ พิมพ์ได้แต่คนละเนื้ออะไรทำนองนี้แหละค่ะ

ยายอัญเชิญพระสมเด็จเนื้อแช่น้ำมนต์ขึ้นคอ ทำให้มีแต่คนเมตตา เพราะคนเก่าคนแก่บอกว่า ถ้าจะเล่นพระสมเด็จให้เล่นรุ่นแช่น้ำมนต์ ขออะไรได้ทุกอย่าง ยายมีมงคลวัตถุมากมาย เลยขอให้ท่านช่วยแทคทีมช่วยเหลือ

สนใจร่วมทำบุญ สอบถามได้เรื่อยๆ นะคะ

ขอบคุณสำหรับภาพหลวงปู่นะคะคุณวิโรจน์และเพื่อนๆ สั่งทำกรอบแล้วจ๊ะ

 

ตอบ ในแดนนิพพานนั้นท่านกล่าวว่า “แดนนิพพานไม่มีวันเต็มและพร่องเลย”
นิพพานคือความว่างเปล่า แต่บริสุทธิ์ของความสะอาดที่เป็นความสงบ ไม่เร่าร้อน ส่วนการเห็นและได้สัมผัสแดนนิพพานในรูปแบบต่างๆนั้น มันขึ้นอยู่กับสภาวะของจิตที่ไม่มีการปรุงแต่ง หรือกิเลสนั่นแหละ
และที่ถามว่าในแดนนิพพานนั้นมีดวงจิตไหม? ต้องตอบแบบฟันธงเลยว่า ไม่มี
ผู้ที่จะเข้าแดนนิพพานอย่างถาวรนั้นไม่มีแม้กระทั่งดวงจิตที่จะก่อเชื้อให้ต้องกลับมาเกิดอีกเลย ดวงจิตนั้นแตกสลายหายไป
ท่านจึงกล่าวว่า แดนนิพพานไม่มีวันเต็มและไม่มีวันพร่องด้วย คงที่ของความว่างเปล่า นิพพานัง ปะระมัง สูญญัง. นิพพานนั้นสูญสิ้นจากกิเลสทั้งหลายทั้งปวง
ท่านจึงกล่าวว่าแดนนิพพานนั้นเป็นอนัตตา คือสูญจากการยึดถือยึดมั่นแบบโลกๆ ไม่มีการสมมติใดๆ อยู่เหนือธรรมหรือกฎไตรลักษณ์ และที่กล่าวว่าเป็นอัตตานั้นก็ถูก นั่นคือเป็นอัตตาของความคงที่ของความว่างเปล่าและความสะอาดบริสุทธิ์ที่หาเชื้อสกปรกไม่ได้เลย
บุคคลทั้งหลายสามารถที่จะเข้าสู่กระแสนิพพานได้โดยยังไม่ต้องตาย เพียงทำจิตใจให้เบิกบาน แจ่มใส ผ่องแผ้ว ค่อยๆลดละเลิกรากับกิเลสตัณหาไปโดยลำดับ ปรับสภาพจิตให้คงที่ของความเบิกบาน แจ่มใส ไม่ขุ่นมัว เพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่พระนิพพานโดยสมบูรณ์เมื่อตายเพราะกายแตก
ฉะนั้นแดนพระนิพพานนั้นไม่ได้สูญคือมีอยู่ แต่แดนพระนิพพานนั้นสูญจากกิเลสตัณหาและอุปาทานทั้งปวง ไม่มีหรือหลงเหลือเชื้อใดๆให้ต้องกลับมาเกิดอีก เปรียบเหมือนไม่มีเชื้อหรือร่องรอยของพายุที่จะก่อตัวขึ้นมาเพื่อสร้างความหายนะต่อโลกและชีวิต
ถ้าจะบอกกันตรงๆแล้วหลายคนคงไม่อยากไปนิพพานแน่นอน เพราะนิพพานนั้นไม่มีอะไรให้ต้องทรงจำ ไม่มีความรู้จัก ไม่มีความรัก ไม่มีความสุข ไม่มีความทุกข์ คนทั้งหลายจึงมักกลัวนิพพาน พอจะได้ไปนิพพานจริงๆจึงไม่อยากไป เพราะยังอยากเห็นหน้าเห็นตาลูกหลาน ยังอยากเกาะเกี่ยวสนุกถึงแม้จะมีทุกข์บ้าง
ยังอยากมีความรักอยากรู้จักกับใครๆ นี่แหละที่ทำให้บุคคลพ้นจากวัฏสงสารไม่ได้ นิพพานะ ปัจจะโย โหนตุ. จึงเป็นเพียงคำกล่าวที่ว่าตามๆกันมาโดยไม่รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วนิพพานเป็นเช่นไร? พอรู้จริงๆ จึงไม่มีใครอยากไปกัน พากันทิ้งนิพพานวิ่งหนีนิพพานไปทันที
คนฉลาดที่วิ่งหาและทำตนฝึกฝนตนเพื่อจะไปนิพพาน ก็พิจารณาตามความเป็นจริงดูแล้วกัน

 

โมทนาบุญกับคุณวิโรจน์ที่ได้นำบทความมาลงให้อ่านกันทุกๆวันค่ะ

.

 

มีหลายท่านที่ไม่รู้จักแม่ชีณัฐทิพย์ เพราะกระทู้ของท่านแยกมาอยู่หมวดที่หลายคนมองข้าม

ยายผีป่าขอเชิญมารู้จัก มาร่วมบุญกันนะคะ ขอบคุณกัลยาณมิตรทุกท่านค่ะ