ทำกรรมใด ... จึงตัวร้อนตลอดเวลา

ขอความอนุเคราะห์จากท่านผู้รู้ว่าเพราะเหตุใด

บางคนเป็นคนตัวเย็นตลอดเวลา ( ยกเว้นตอนเป็นไข้ )

บางคนตัวร้อนตลอดเวลา ( ยิ่งเวลาเป็นไข้ยิ่งตัวร้อน )

โปรดช่วยให้ความกระจ่างด้วยค่ะ

ขออนุโมทนาสาธุ

 

น่าจะเกี่ยวกับ ธาตุเจ้าเรือนนะครับ


<table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr align="center"><td colspan="6" valign="top" height="22">ธาตุเจ้าเรือนคืออะไร</td> </tr> <tr> <td width="104" height="102"> </td> <td colspan="4" valign="top"> ตามทฤษฎีการแพทย์ไทย กล่าวว่า คนเราเกิดมาในร่างกายประกอบด้วยธาตุทั้งสี่ ดิน น้ำ ลม ไฟ ซึ่งในแต่ละคนจะมีธาตุหลักเป็น
ธาตุประจำตัว เรียกว่า“ธาตุเจ้าเรือน ” ซึ่งธาตุเจ้าเรือนนี้มี 2 ลักษณะ คือ ธาตุเจ้าเรือนเกิด ซึ่งจะเป็นไปตาม วันเดือนปีเกิด และธาตุเจ้า
เรือนปัจจุบัน ที่พิจารณาจาก บุคลิกลักษณะ อุปนิสัยและภาวะด้านสุขภาพ กายและใจ ว่าสอดคล้องกับลักษณะของบุคคลธาตุเจ้าเรือน
อะไร
ตามทฤษฎีโบราณจะใช้รสชาติของอาหารเป็นยารักษาโรคโดยรสชาติต่าง ๆ จะมีผลต่อร่างกาย จำเป็นกลอนง่าย ๆ ให้ขึ้นใจ
จากรสยา 9 รส ต่าง ๆ ตามนี้

</td> <td width="53"> </td> </tr> <tr> <td height="80"> </td> <td width="73"> </td> <td colspan="2" class="style8 style4" valign="top" align="center">ฝาดชอบทางสมาน หวานซึบซาบไปตามเนื้อ
เมาเบื่อแก้พิษต่าง ๆ ขมแก้ทางโลหิตและดี
รสมันบำรุงหัวใจ เค็มซึมซาบตามผิวหนัง
เปรี้ยวแก้ทางเสมหะ เผ็ดร้อนแก้ทางลม

</td> <td width="91"> </td> <td> </td> </tr> <tr> <td height="118"> </td> <td colspan="4" valign="top"> เมื่อธาตุทั้งสี่ในร่างกายสมดุลย์ บุคคลจะไม่ค่อยเจ็บป่วย หากขาดความสมดุลมักจะเกิดความเจ็บป่วยด้วยโรคที่เกิดจาก จุดอ่อน
ด้านสุขภาพของแต่ละคนตามเรือนธาตุ ุที่ขาดความสมดุลย์

ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาความเจ็บป่วยที่อาจเกิดขึ้นสิ่งที่สามารถช่วยได้ระดับหนึ่งในเบื้องต้นคือ พฤติกรรมการบริโภค
อาหารของแต่ละคนในชีวิตประจำวัน โดยใขรสของอาหารคุณลักษณะที่เป็นยามาปรับ สมดุลของร่างกายเพื่อป้องกันความเจ็บป่วย

จะได้รู้อย่างไรว่าเป็นคนธาตุอะไร มีจุดอ่อนด้านสุขภาพด้วยโรคอะไร และควรจะรับประทานอาหารอย่างไร ให้ตรงกับธาตุ
ุเจ้าเรือนของตนสามารถอ่านได้จากอาหาร สมุนไพรประจำธาตุด้งต่อไปนี้


ไปอ่านต่อได้ที่ http://ittm.dtam.moph.go.th/data_articles/tard.htm ครับ
</td></tr></tbody></table>

 

ผมนี่แหละเป็นร้อนตลอดเวลา อากาศหนาวเย็นแต่ตัวยังร้อนแต่รู้สึกหนาวเย็น

 

ขอบคุณคุณ Veerasak_Chai มากค่ะ

ที่นำสาระความรู้ดี ๆ เล่าสู่กันฟัง

เกิดเดือน 1 ธาตุดิน แต่เหตุใดตัวก็ยังร้อนอยู่ตลอดเวลา

ธาตุเจ้าเรือนผิดปกติ หรือเกิดจากกรรมใด

รบกวนท่านผู้รู้ช่วยให้คำแนะนำอีกครั้งด้วยค่ะ

ขออนุโมทนาสาธุ

 

ปีก็มีธาตุประจำของแต่ละปีด้วยนะครับ
วันก็มีธาตุประจำอยู่ด้วยครับ

เมื่อทราบว่าปี เดือน วัน มีธาตุประจำเป็นอะไร ก็ต้องมาชั่งน้ำหนักดูว่า ธาตุใดภายในกายหนักที่สุด ก็ต้องทานหรือไม่ทานอาหารที่โฉลกกับธาตุประจำกายครับ

เมื่อสมัยเด็กผมก็เป็นคนที่ตัวร้อนอยู่ตลอด หน้าหนาวก็ตัวอุ่น ฝ่าเท้า ฝ่ามืิอ มีเหงื่ออกตลอดเวลา

ผมพยายามทานอาหารที่ไม่ร้อน(ไม่ใช่อุณหภูมิ) เป็นอาหารที่เสริมธาตุเย็นเพื่อไปดับธาตุร้อนภายในกายเนื้อครับ

นอกจากนั้นยังนำธาตุเย็นเข้าสู่จิตด้วย เพราะเมื่อจิตได้ถูกฝึกอย่างเชี่ยวชาญ จากบ่าวกลายเป็นนาย จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว เมื่อจิตเย็น กายซึ่งเป็นบ่าวธาตุร้อนภายในก็ถูกดับไปโดยปริยายครับ

 

โอ้โฮ ! อ่านแล้วขนลุกเลยค่ะคุณ Veerasak_Chai เพราะอาการเป็นเหมือนกันเลย

คงต้องทานอาหารที่เสริมธาตุเย็น ให้กายเนื้อ

และจะพยายามฝึกนำธาตุเย็นเข้าสู่จิตอย่างที่แนะนำด้วย

ขออนุโมทนาสาธุอย่างยิ่งเลยนะคะ

ขอให้เจริญในธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไปเลยนะคะ

สาธุ สาธุ สาธุ

 

เป็นการอุทิศบุญที่ยังไม่ได้ระบุผู้รับน่ะครับ

ปุญญัง ก็คือ บุญ อุทิศสทานัง คือการอุทิศทาน สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งสิ้น อะเวรา โหนตุ ... อิทัง สัพพะสัตตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ
........................................................

ปุญญัง อุทิศสทานังสัพเพสัตตา สุขิตาโหนตุ

..ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลของข้าพเจ้านี้ให้แก่ สัตว์ทั้งหลาย ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันหมดทั้งสิ้น ขอให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงมีความสุขทั่วหน้ากันเทอญ


หรือจะเป็นแบบนี้ก็ได้นะครับ....

อิทัง สัพพะสัตตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ สัตตา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ขอให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงมีความสุขทั่วหน้ากันเทอญ
.......................................................

อันนี้สำหรับอุทิศแบบระบุตัวผู้รับ

อากาสัฏฐา จะ ภุมมัฏฐา เทวา นาคา มะหิทธิกา เทวดาและนาคทั้งหลาย ผู้มีฤทธิ์มาก ซึ่งสถิตอยู่ในอากาศก็ดี สถิตอยู่ในภาคพื้นก็ดี
ปุญญัง โน อะนุโมทันตุ จงอนุโมทนาบุญของข้าพเจ้าทั้งหลาย
จิรัง รักขันตุ สาสะนัง จงรักษาพระศาสนาอยู่ชั่วกาลนาน ฯ
อากาสัฏฐา จะ ภุมมัฏฐา เทวา นาคา มะหิทธิกา เทวดาและนาคทั้งหลาย ผู้มีฤทธิ์มาก ซึ่งสถิตอยู่ในอากาศก็ดี สถิตอยู่ในภาคพื้นก็ดี
ปุญญัง โน อะนุโมทันตุ จงอนุโมทนาบุญของข้าพเจ้าทั้งหลาย
จิรัง รักขันตุ ราชาโน จงรักษาพระราชาทั้งหลายอยู่ชั่วกาลนาน ฯ

อากาสัฏฐา จะ ภุมมัฏฐา เทวา นาคา มะหิทธิกา เทวดาและนาคทั้งหลาย ผู้มีฤทธิ์มาก ซึ่งสถิตอยู่ในอากาศก็ดี สถิตอยู่ในภาคพื้นก็ดี
ปุญญัง โน อะนุโมทันตุ จงอนุโมทนาบุญของข้าพเจ้าทั้งหลาย
จิรัง รักขันตุ คะรุอุปัชฌายะอาจะริเย จงรักษาครู อุปัชฌาย์ อาจารย์ อยู่ชั่วกาลนาน ฯ

อากาสัฏฐา จะ ภุมมัฏฐา เทวา นาคา มะหิทธิกา เทวดาและนาคทั้งหลาย ผู้มีฤทธิ์มาก ซึ่งสถิตอยู่ในอากาศก็ดี สถิตอยู่ในภาคพื้นก็ดี
ปุญญัง โน อะนุโมทันตุ จงอนุโมทนาบุญของข้าพเจ้าทั้งหลาย
จิรัง รักขันตุ มาตาปิตะโร จงรักษามารดาบิดา อยู่ชั่วกาลนาน ฯ

อากาสัฏฐา จะ ภุมมัฏฐา เทวา นาคา มะหิทธิกา เทวดาและนาคทั้งหลาย ผู้มีฤทธิ์มาก ซึ่งสถิตอยู่ในอากาศก็ดี สถิตอยู่ในภาคพื้นก็ดี
ปุญญัง โน อะนุโมทันตุ จงอนุโมทนาบุญของข้าพเจ้าทั้งหลาย
จิรัง รักขันตุ ญาตะโย จงรักษาญาติทั้งหลาย อยู่ชั่วกาลนาน ฯ

อากาสัฏฐา จะ ภุมมัฏฐา เทวา นาคา มะหิทธิกา เทวดาและนาคทั้งหลาย ผู้มีฤทธิ์มาก ซึ่งสถิตอยู่ในอากาศก็ดี สถิตอยู่ในภาคพื้นก็ดี
ปุญญัง โน อะนุโมทันตุ จงอนุโมทนาบุญของข้าพเจ้าทั้งหลาย
จิรัง รักขันตุ ธัมมะราชาโน จงรักษาพระธรรมราชาทั้งหลายอยู่ชั่วกาลนาน ฯ

อากาสัฏฐา จะ ภุมมัฏฐา เทวา นาคา มะหิทธิกา เทวดาและนาคทั้งหลาย ผู้มีฤทธิ์มาก ซึ่งสถิตอยู่ในอากาศก็ดี สถิตอยู่ในภาคพื้นก็ดี
ปุญญัง โน อะนุโมทันตุ จงอนุโมทนาบุญของข้าพเจ้าทั้งหลาย
จิรัง รักขันตุ โลกะปาลา จงรักษาท้าวโลกบาลทั้งหลาย อยู่ชั่วกาลนาน ฯ

อากาสัฏฐา จะ ภุมมัฏฐา เทวา นาคา มะหิทธิกา เทวดาและนาคทั้งหลาย ผู้มีฤทธิ์มาก ซึ่งสถิตอยู่ในอากาศก็ดี สถิตอยู่ในภาคพื้นก็ดี
ปุญญัง โน อะนุโมทันตุ จงอนุโมทนาบุญของข้าพเจ้าทั้งหลาย
จิรัง รักขันตุ โน สะทา จงรักษาข้าพเจ้าทั้งหลาย อยู่ชั่วกาลนานทุกเมื่อ ฯ

อากาสัฏฐา จะ ภุมมัฏฐา เทวา นาคา มะหิทธิกา เทวดาและนาคทั้งหลาย ผู้มีฤทธิ์มาก ซึ่งสถิตอยู่ในอากาศก็ดี สถิตอยู่ในภาคพื้นก็ดี
ปุญญัง โน อะนุโมทันตุ จงอนุโมทนาบุญของข้าพเจ้าทั้งหลาย
จิรัง รักขันตุ โลกัง สัพพะทา จงรักษาโลก อยู่ชั่วกาลนานทุกเมื่อ ฯ

อากาสัฏฐา จะ ภุมมัฏฐา เทวา นาคา มะหิทธิกา เทวดาและนาคทั้งหลาย ผู้มีฤทธิ์มาก ซึ่งสถิตอยู่ในอากาศก็ดี สถิตอยู่ในภาคพื้นก็ดี
ปุญญัง โน อะนุโมทันตุ จงอนุโมทนาบุญของข้าพเจ้าทั้งหลาย
จิรัง รักขันตุ จงรักษาชั่วกาลนาน

โสตถิง คัจฉันตุ เทวะตา ขอเทวดาทั้งหลายจงถึงความสวัสดี ฯ

เพื่อนกัลยาณมิตรสหายธรรม มอบให้ไว้หลายเดือนแล้ว สาธุ

 

ไอตัวร้อนจัด มีกลิ่นตัวแรง
ผลกรรมจากการพูดเท็จ พูดโกหกหลอกลวง เพราะผู้ที่โกหกเกือบทุกรายถ้ามีใครมาพูดพาดพิงถึงเรื่องที่ตนได้พูดไปนั้น ย่อมมีความร้อนตัวกลัวภัยที่จะมาถึงตนเอง อำนาจนี้จะทำให้เกิดมาเป็นคนไอตัวร้อนจัดหรือมีกลิ่นตัวแรง ไม่มีใครอยากเข้าใกล้ เหตุเพราะอดีตชาติเป็นคนพูดโกหกเก่ง พูดอะไรหาความจริงได้ยาก จึงไม่มีใครอยากคบคนประเภทนี้

จากหนังสือ : รู้ชีวิตกำหนดชีวิต

 

เป็นเหมือนกันเลยค่ะ ตัวร้อนตลอดเวลา โดยเฉพาะฝ่ามือฝ่าเท้า ท้อง คอ ยามอากาศร้อนๆก็รู้สึกร้อนกว่าคนอื่น(ทรมานเลยล่ะค่ะ)ยามหน้าหนาว ก็หนาวมากกว่าคนอื่น เฮ้อ เวร กรรม