พระไตรปิฏกมหาจุฬาฯ ภาษาไทย ๔๕ เล่ม ฉบับซีดี-รอม คลอดแล้ว

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย aprin, 30 กันยายน 2008.

  1. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=hi12 colSpan=2>วันที่29/09/2008 </TD></TR><TR class=m8><TD vAlign=top width="100%" colSpan=3></TD></TR><TR><TD class=m10 vAlign=top width="100%" colSpan=3>[​IMG]

    พระไตรปิฎก เป็นแหล่งประมวลหลักธรรมวินัยอันเป็นหลักการใหญ่ของพระพุทธศาสนา เป็นมาตรฐานกลางในการตรวจสอบความถูกต้องทางพระพุทธศาสนา


    ตามที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้ชำระพระไตรปิฏกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ซึ่งเป็นภาษาสมัยใหม่ ทันสมัย เหมาะแก่การค้นคว้าวิจัย มีเนื้อหาอ่านเข้าใจง่าย ซึ่งได้จัดพิมพ์จำหน่ายหลายต่อหลายครั้ง ต่อมามหาวิทยาลัยได้พัฒนาโปรแกรมการสืบค้นพระไตรปิฎกภาษาไทยฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จำนวน ๔๕ เล่ม บรรจุในแผ่นซีดี-รอม จำนวน ๒ แผ่น แผ่นที่ ๑ เนื้อหาเกี่ยวกับวิวิฒนาการพระไตรปิฎก ความหมาย ความสำคัญ การทำสังคยนาและพัฒนาของพระไตรปิฎกจากชมพูทวีบ-ถึงประเทศไทยด้วยสื่อมัลติมีเดียที่ร่วมสมัย แผ่นที่ ๒ เนื้อหาประกอบด้วย พระไตรีปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จำนวน ๔๕ เล่ม พร้อมระบบสืบค้น สมบูรณ์แบบ แผ่นซีดี-รอม แผ่นที่สองจะต้องลงทะเบียนผ่านระบบอินเตอร์เน็ต หรือติดต่อยืนยันการลงทะเบียนด้วย โดยได้ป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ไว้ด้วย

    เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ศาสตราจารย์ ดร. พระธรรมโกศาจารย์ (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้สั่งการให้ดำเนินการผลิตและเผยแผ่พระไตรปิฎกซีดี-รอม ชุดดังกล่าวเพื่อมอบแก่ประมุขสงฆ์และมหาวิทยาลัยต่างๆ ในคราวประชุมมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนานานาชาติ และการสัมมนาวิชาการระดับนานาชาติครั้งที่ ๑ เมื่อวันที่ ๑๒-๑๕ กันยายน ๒๕๕๑ ที่ผ่านมา โดยสำนักหอสมุดและเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นเจ้าภาพในการพัฒนา

    พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับซีดี-รอม จะเป็นประโยชน์มากแก่ผู้ศึกษาค้นคว้าพระไตรปิฎก เนื่องจากสามารถค้น "ทรัพย์,วลี,หน้า,เล่ม หรือดรรชนีท้ายเล่ม" เป็นต้น เบื้องต้นมหาวิทยาลัยได้ผลิตจำนวน ๑,๐๐๐ ชุด หรือ ๒,๐๐๐ แผ่น เพื่อเผยแผ่ส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งเพื่อจำหน่ายนำเงินมาเป็นกองทุนพัฒนาปรับปรุงพระไตรปิฏกซีดี-รอมต่อไป

    ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ สำนักหอสมุดและเทคโนโลยีสารสนเทศ โทร ๐-๒ ๒๒๖-๖๐๒๘ หรือ www.mcu.ac.th/mcutrai



    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    http://www.mcu.ac.th/site/news_in.php?group_id=1&NEWSID=3497




    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="96%" border=0><TBODY><TR><TD width="38%" height=42></TD><TD width="43%" rowSpan=2>[​IMG]</TD><TD width="11%"></TD><TD vAlign=bottom width="6%" rowSpan=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD background=images/index23_17.gif></TD><TD background=images/index23_17.gif></TD></TR><TR><TD background=images/index23_21.gif></TD><TD align=middle colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]พระไตรปิฎกคืออะไร
    พระไตรปิฎก ก็คือคัมภีร์ที่ประมวลเอาคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้ามาจารึกไว้ พระไตรปิฎกจึงเป็นที่รวบรวม บรรจุไว้ หรือจารึกไว้ ซึ่งพระพุทธศาสนานั้นเอง
    ในเมื่อพระพุทธศาสนาแปลว่าคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า และพระไตรปิฎกเป็นที่ประมวลไว้ซึ่งพระพุทธศาสนาคือคำสอนของพระพุทธเจ้า เพราะฉะนั้น การรักษาพระไตรปิฎกจึงเป็นการรักษาพระพุทธศาสนา

    ถ้าตอบอย่างสั้นที่สุด ก็พูดได้ว่า พระไตรปิฎกกับการธำรงพระพุทธศาสนาเป็นเรื่องเดียวกัน การธำรงพระไตรปิฎกก็คือการธำรงพระพุทธศาสนา นี้เป็นความหมายอย่างง่ายที่สุด

    [​IMG] รักษาพระไตรปิฎก เท่ากับรักษาพระพุทธเจ้า

    ถ้าพูดให้ลึกลงและให้กว้างออกไป พระไตรปิฎกมีความสำคัญต่อการธำรงรักษาพระพุทธศาสนาอีกหลายอย่าง นอกจากมองพระพุทธศาสนาในความหมายที่เป็นคำสั่งสอนแล้ว พระพุทธศาสนายังหมายถึง การเล่าเรียน การศึกษา การปฏิบัติ และการจัดการต่าง ๆ ให้มีการเล่าเรียนศึกษา และเป็นพระพุทธศาสนาที่ประชาชนทั่วไปเข้าใจ ในความหมายนี้ พระไตรปิฎกก็มีความสำคัญต่อการธำรงพระพุทธศาสนา ดูง่าย ๆ ดังต่อไปนี้
    พระพุทธเจ้าตรัสไว้เองก่อนปรินิพพาน ซึ่งเราจำกันแม่นทีเดียวว่า เมื่อพระองค์ปรินิพพานล่วงไป ไม่ได้ทรงตั้งพระภิกษุองค์ใดเป็นศาสดาแทนพระองค์ ชาวพุทธได้รู้กันว่า พระธรรมวินัยนั้นแหละเป็นพระศาสดาแทนพระองค์ พระธรรมวินัยเป็นศาสดาแทนพระพุทธเจ้า พระธรรมวินัยนี้ก็คือคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้านั้นเอง พระธรรมวินัยจึงเท่ากับเป็นองค์พระศาสดา และเป็นตัวพระพุทธศาสนา
    พระธรรมวินัยนี้ประมวลอยู่ในพระไตรปิฎก พระไตรปิฎกจึงเป็นที่สถิตของพระธรรมวินัย พระไตรปิฎกจึงเป็นที่สถิตของพระบรมศาสดาของชาวพุทธ เมื่อรักษาพระไตรปิฎกไว้ จึงเท่ากับดำรงรักษาพระพุทธเจ้าไว้และรักษาพระพุทธศาสนาด้วยนั่นเอง
    เพราะฉะนั้น ในความหมายนี้ พระไตรปิฎกก็มีความสำคัญต่อการรักษาพระพุทธศาสนาอย่างเต็มที่ (รู้จักพระไตรปิฎกเพื่อเป็นชาวพุทธที่แท้. พระพรหมคุณาภรณ์ : ป.อ. ปยุตโต)


    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="98%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>[​IMG] [​IMG] </TD></TR><TR><TD vAlign=top>CD - ROM แผ่นที่ ๑ Graphic&Multimedia
    เรียนรู้ความหมาย ความสำคัญ การทำสังคายนา และ การพัฒนาการของพระไตรปิฏกจากชมพูทวีปแดนพุทธภูมิสู่ศรีลังกาสุวรรณภูมิ และประเทศไทย ผ่านสื่อมัลติมิเดียร่วมสมัย
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD background=images/topic/picCol_26.gif height=2></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="98%" border=0><TBODY><TR><TD>
    [​IMG][​IMG]
    </TD></TR><TR><TD>
    CD - ROM แผ่นที่ ๒ ระบบสืบค้นพระไตรปิฏก
    ระบบสืบค้น โดย คำ วลี ระบบสืบค้นแบบเชื่อมโยง การเข้าถึงผ่านสารบัญ เล่ม ข้อ หน้า และผ่านดรรชนีท้ายเล่ม พร้อมบทนำสรุปสาระสำคัญของพระไตรปิฎกทั้ง 45 เล่ม
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#e0dca7 height=22>พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
    บน CD – ROM : MCUTARI Version 1.0

    </TD></TR><TR><TD height=23>
    อำนวยการผลิต โดย
    สำนักหอสมุดและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    www.mcu.ac.th/<WBR>mcutrai/menu5.htm</TD></TR></TBODY></TABLE><!-- / message -->
     
  2. wara43

    wara43 ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2006
    โพสต์:
    9,108
    ค่าพลัง:
    +16,130
    fairy3(f) ขอกราบโมทนาสาธุครับ สาธุ...(f)fairy3
     
  3. ธัมมนัตา

    ธัมมนัตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,515
    ค่าพลัง:
    +9,765
    สาธุ ครับ

    แต่ถ้าสามารถเปิดให้เผยแผ่โดยไม่มีลิขสิทธิ์ก็น่าจะดียิ่งขึ้นนะครับ
    เพราะต้นกำเนิดเนื้อหาธรรมะจากพระพุทธองค์นั้นไม่เคยมีลิขสิทธิ์มาก่อน
    หากจะเก็บเฉพาะค่าแผ่นในการจัดทำก็น่าจะเป็นการทำบุญให้วัดไป
     
  4. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,270
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,074
    อนุโมทนาครับ พระพุทธศาสนาจะได้มีความเจริญยิ่งๆขึ้นไปครับ สาธุ
     
  5. lokemesa

    lokemesa Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    158
    ค่าพลัง:
    +26
    ขอกล่าวอนุโมทนาสาธุการครับ

    รอมาตั้งนานแล้ว พิมพ์จากในหนังสือจนเมื่อยแล้ว

    คราวนี้ได้ทุ่นแรงเผยแผ่พุทธวัจนะไปได้เยอะเรยคับ
     
  6. หนึ่ง99999

    หนึ่ง99999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,369
    ค่าพลัง:
    +1,922
    อุโมทยา สาธู
     
  7. junior phumivat

    junior phumivat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,346
    ค่าพลัง:
    +1,688
    ผู้ถาม : เมื่อทำบุญแล้ว ถ้าจะอุทิศส่วนกุศลภายหลังจะได้ไหมคะ...........?
    หลวงพ่อ : การทำบุญไปแล้วครั้งหนึ่งสักกี่ปี ๆ บุญก็ยังมีอยู่ถ้าทำไปแล้วสัก ๓๐ ปี ก็ยังอุทิศส่วนกุศลได้ บุญมันไม่หาย ไม่ใช่เราทำบุญแล้ว เดี๋ยวเดียวมันหายไปไม่ใช่อย่างนั้นนะ
    ผู้ถาม :แล้วถ้าเผื่อทำบุญแล้ว ไม่ได้อุทิศส่วนกุศลจะได้บุญเต็มที่ไหมคะ...?
    หลวงพ่อ : ก็ได้เต็มที่อยู่แล้ว เราเป็นผู้ได้สมบูรณ์แบบ แต่อยู่ที่ว่าเราจะให้เขาหรือไม่ให้ การอุทิศส่วนกุศล นี่นะ ถ้าเราไม่ให้ เราก็กินคนเดียวใช่ไหม..... ทีนี้ถ้าเราให้เขาของเราก็ไม่หมดอีก ส่วนที่เราให้ไปไม่ได้ยุบไปจากของเดิม อย่างเรื่องของ พระอนุรุทธ สมัยที่ท่านเกิดเป็นคนเกี่ยวหญ้าช้างของมหาเศรษฐี เวลาที่ท่านทำบุญแล้ว เจ้านายขอแบ่งบุญ ท่านก็สงสัยว่าการแบ่งบุญน่ะจะแบ่งได้ไหม จึงไปถามพระปัจเจกพุทธเจ้า ที่ท่านรับบาตรนะ ท่านก็เปรียบเทียบให้ฟังว่า

    "สมมุติว่าโยมมีคบ แล้วก็มีไฟด้วย คนอื่นเขามีแต่คบ ไม่มีไฟ ทุกคนต้องการแสงสว่าง ก็มาขอต่อไฟที่คบของโยมแล้วคบทุกคนสว่างไสวหมด อยากทราบว่าไฟของคุณโยมจะยุบไปไหม....?
    ท่านอนุรุทธก็บอกว่า ไม่ยุบ
    แล้วท่านก็บอกว่า "การอุทิศส่วนกุศลก็เหมือนกัน ให้เขา เขาโมทนา แต่บุญของเราเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์"



    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ




    ธรรมใดที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงพบแล้ว ขอธรรมนั้น จงสำเร็จแก่ท่านทั้งหลายโดยเร็วด้วยเถิด สาธุ สาธุ สาธุ
    อิทัง ปุญญะผะลัง ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงโมทนา ส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่บัดนี้ ตราบเท้าเข้าสู่พระนิพพาน และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลาย ที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลาย ทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลาย และพระยายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยาน ในการบำเพ็ญกุศล ของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ท่านทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลาย จงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้า จะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด หากท่านทั้งหลายยังไม่มีโอกาสได้อนุโมทนาเพียงใด ขอเทพเจ้าทั้งหลายและพระยายมราชจงเป็นสักขีพยานให้แก่ข้าพเจ้าด้วย เจอเธอเมื่อใด ขอให้เธอได้อนุโมทนาส่วนกุศลนี้ด้วยเถิด ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาตินี้ ขอผลบุญนี้ จงเป็นปัจจัย ให้ข้าพเจ้า ได้เข้าถึง ซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเถิด หากแม้นยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด ขอคำว่าไม่รู้ ไม่มี จงอย่าได้บังเกิดแก่ข้าพเจ้าเลย ขอผลบุญทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้า ได้กระทำแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ จงบังเกิดผล ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
     
  8. แจซ

    แจซ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +23
    สร้างพระไตรปิฎก บุญสุดประมาณ

    อานิสงส์สร้างพระไตรปิฎก<O:p</O:p
    ......ดังมีใจความว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จประทับอยู่ในเชตวันมหาวิหาร
    กรุงสาวัตถีในเวลานั้นพระสารีบุตรเถระเจ้ามีความประสงค์ว่าจักทูลถามพระพุทธเจ้าให้ทรงแสดง
    ธรรมประกาศอานิสงส์สร้างพระไตรปิฎกให้ทราบทั่วถึงกันแก่พุทธบริษัทพระเถระเจ้าก็เข้าเฝ้าทูลถาม
    แก่พระผู้มีพระภาคเจ้าว่าข้าแต่พระองค์ผู้เจริญถ้าชนทั้งหลายให้พุทธศาสนายืนยาวถึง ๕ พันวัสสา จะ
    มีอานิสงส์เป็นประการใดพระพุทธเจ้าข้า <O:p></O:p>
    ........ พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า ดูกรท่านสารีบุตรถ้าชนทั้งหลายมีจิตรศรัทธาเลื่อมใสเช่นนั้นแล้ว
    เมื่อตายไปแล้วก็จักรได้เสวยราชสมบัติเป็นพระเจ้าจักรพรรดิราชถึง ๘ หมื่น ๔พันกัลป์
    ใช่แต่เท่านั้น เมื่อเคลื่อนจากความเป็นพระเจ้าจักรพรรดิแล้วก็จะได้เป็นพระราชา
    มีอนุภาพอีก ๙ อสงไขยต่อจากนั้นก็ได้เสวยสมบัติในตระกูลต่าง ๆ เป็นลำดับไป คือตระกูลพราหมณ์
    มหาศาลตระกูลเศรษฐีคฤหบดี และเป็นภูมิเทวดาอากาศเทวดา อย่างละ ๙ อสงไขยต่อแต่นั้นก็จะได้
    เสวยในสวรรค์ทั้ง ๖ ชั้น เป็นลำดับไปชั้นละ ๘ อสงไขยเมื่อจุติจากชั้นเทวโลกแล้ว มาถือกำเนิดเกิด
    เป็นมนุษย์ก็จะมีร่างกายบริสุทธิ์ผุดผ่องเป็นที่รักใคร่แก่คนทั้งหลายที่ได้พบเห็นทั้งน้ำใจก็บริสุทธิ์
    สุจริตปราศจากบาปธรรมอกุศลทั้งปวงและเป็นผู้มีปัญญาเฉลียวฉลาดรอบรู้ทั้งทางโลกและทางธรรม
    ดังนี้เป็นต้นดูกรท่านสารีบุตรเมื่อตถาคตสร้างบารมีอยู่ได้เกิดเป็นอำมาตย์ของพุทธบิดาแห่งสมเด็จ
    พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า ปุราณโคดมได้สร้างพระไตรปิฎกไว้ให้สืบองค์ได้ตั้งความปรารถนา
    ขอตรัสเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งเถิดในอนาคตกาลโน้นสมเด็จพระปุราณโคดมบรม
    ศาสดาทรงพยากรณ์ไว้ว่า อำมาตย์ผู้นี้ต่อไปภายภาคหน้าจะได้ตรัสเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์
    หนึ่งมีพระนามว่าพระสมณโคดมก็คือพระตถาคต เรานี้เองดังนี้แลก็สิ้นสุดพระกระแสธรรมเทศนาที่
    พระบรมศาสดาทรงแสดงแก่พระสารีบุตรเถระเจ้าแต่เพียงเท่านี้<O:p></O:p>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 ตุลาคม 2008
  9. แจซ

    แจซ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +23
    สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ การให้ธรรมะเป็นทาน ย่อมชนะ การให้ทั้งปวง
    ทำไมการให้ธรรมะจึงชนะการให้อย่างอื่น ? ก็เพราะว่า การให้อย่างอื่น เช่นให้ข้าวของเงินทอง จะให้ประโยชน์แก่ผู้รับก็เฉพาะในโลกนี้เท่านั้น ไม่สามารถติดตามให้ประโยชน์ไปยังโลกหน้าได้ และอีกประการหนึ่ง ถึงแม้จะให้ประโยชน์อย่างไร ก็ไม่เคยทำให้ผู้รับดับทุกข์ได้เลย ซึ่งต่างจาก การให้ธรรมะเป็นทาน ถ้าผู้รับน้อมนำธรรมะนั้นมาปฏิบัติ หรือมาพิจารณาตาม ความทุกข์ที่มีอยู่ในใจก็สามารถดับลงได้โดยไม่ยาก ธรรมะมีไว้เพื่อชี้ทางดับทุกข์ บางคนร่ำรวย แต่ไม่รู้ธรรมะ เขาก็เลยไม่รู้ทางที่จะดับทุกข์ให้แก่ตัวเอง ถ้ารวยแล้วยังทุกข์ ก็ถือว่ายังเป็นชีวิตที่ไม่มีความสุขอย่างแท้จริง
    ฉะนั้น การให้ธรรมะ จึงถือว่าเป็นการให้ที่ทรงคุณค่าอย่างมหาศาล ธรรมะ ได้ชื่อว่าเป็นของเลิศ ของประเสริฐ เพราะแม้แต่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ยังทรงให้ความเคารพต่อธรรมะ ในเมื่อธรรมะเป็นของเลิศของประเสริฐ ผู้ที่ให้ธรรมะจึงได้ชื่อว่าเป็นผู้ให้ ของเลิศของประเสริฐ ผู้ที่ให้ของเลิศก็ย่อมเข้าถึงฐานะอันเลิศเสมอ... นี่คืออานิสงส์ ฉะนั้น ท่านคงหมดสงสัยแล้วว่า ทำไมท่านจึงสรรเสริญ การให้ธรรมะเป็นทานว่าจึงชนะการให้ทั้งปวง

    +การสร้างพระไตรปิฎก คือ ธรรมทาน ที่สูงสุด
    เพราะ สืบทอดพระพุทธศาสนา ให้ ครบ พุทธกาล
     
  10. โจโฉ คร้าบบบ

    โจโฉ คร้าบบบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2005
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +1,550
    เห็นด้วยว่าไม่น่ามีลิขสิทธิ์ ถ้านำไปเผยแพร่ต่อเป็นธรรมทาน
    เพื่อประโยชน์ของสังคม เพื่อรักษาสืบต่อพระศาสนา

    ไม่สมควรจะมีลิขสิทธิ์
    แต่อาจใช้ข้อความเชิญชวน ผู้ทีสนใจ ร่วมกันบริจาคเพื่อเข้ากองทุนมากกว่า

    เหมือนกับที่หลายๆ หน่วยงานแจกซีดีฟรีกันอยู่ ก็ไม่มีลิขสิทธิ์
    งานของพี่ดังตฤณก็ไม่หวงห้าม นำไปเผยแพร่
    ไรท์แจกจ่าย กันได้แม้กระทั่งหนังสือจริงพึ่งวางขาย

    ชมรมเพื่อนคุณธรรม บ้านอารีย์ และหลายๆ ที่
    ก็แจกฟรี นำไปแจกจ่ายต่อได้โดยไม่มีลิขสิทธิ์ แต่ต้องทำเพื่อธรรมทานเท่านั้น

    ถ้าอีกหน่อยธรรมะต้องมีลิขสิทธิ์ มันก็ไม่ใช่การสืบต่อพระศาสนาแล้วอะ
    พระพุทธเจ้าสอนให้เป็นผู้ให้อย่างไม่มีเงื่อนไข

    แล้วกรรมที่ใจเปิดกว้างต่อการให้ไม่มีประมาณนั่นแหละ
    จะส่งทุกอย่างกลับมาเอง

    แต่ก็อนุโมทนาสำหรับผู้จัดสร้างด้วย

    หวังอย่างยิ่งว่า จะมีหน่วยงานอื่นๆ ช่วยเร่งทำสื่อสำหรับเยาวชนและคนรุ่นใหม่
    ที่เหมาะสม ฟังง่าย เข้าใจง่าย เหมาะกับยุคสมัย
    เพราะปัญหามันอยู่ตรงนี้ มันอยู่กับกลุ่มที่ไม่เข้าใจ และไม่อยากมาสนใจ

    พระไตรปิฏกเหมาะสำหรับผู้สนใจธรรมอยู่แล้ว
    และเป็นเอกสารที่สำคัญจำเป็นต้องบันทึกเก็บไว้ให้ได้ศึกษา

    แต่จะมีสักกีคนที่อยากอ่าน และอ่านรู้เรื่อง แม้ืจะบอกว่าปรับปรุงมากี่ครั้งแล้วก็ตาม

    หลายๆ อย่างต้องทำควบคู่กันไป

    แต่สื่อธรรมะ สำหรับคนรุ่นใหม่ และคนที่ยังไม่ได้สนใจในธรรม
    มันก็หาได้ยากจริงๆ รวมถึงหาคนทำสื่อแนวนี้ ที่เข้าใจโลก เข้าใจสังคมจริงๆ ก็ยากขึ้นไปอีก

    เอาแค่ทุกวันนี้ ศาสนาพุทธสอนอะไร ปฏิบัติธรรมอย่างไรให้ถูกทาง
    ยังหาคนเข้าใจได้น้อยมากๆ เลย

    บุญคืออะไร ทำบุญไปเพื่ออะไร ก็ยิ่งหาคนเข้าใจยาก
    ทุกวันนี้มีแต่รูปแบบ ประเพณี ซะเป็นส่วนมาก
     

แชร์หน้านี้

Loading...