ขอเชิญร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ

หนังจีนช่อง 3 วันนี้ผมนานๆ ได้ดูทีหนึ่งครับ

"ฤทธิ์กระบี่อาญาสวรรค์"

ซึ่งมาถึงที่ตอนนางเอกถูกกักกันบริเวณ

นางเอกก็ถาม ตัวโกง

ที่ทำอยู่อย่างนี้เป็นสุขแล้วหรือ

เป็นใหญ่ในยุทธจักร แบบนี้

จะเป็นสุขใจแล้วหรือ

ฝ่ายตัวโกง ก็บอกว่าที่ทำไปก็เพื่อนางเอก รักนางเอก

แล้วนางเอก ก็ถามต่อว่า ที่เป็นใหญ่อย่างนี้ ด้วยการทำร้ายคนอื่น ช่วงชิงคัมภีร์

อาวุธต่างๆ นี้ ใครๆ เขาก็ต้องตามมาล้างแค้นครับ


แต่ในหนังจีน เขามีประโยควาทะสวยงาม กินใจ ทั้งพลังภายในที่สนุกสนาน
ก็เล่าพอสังเขปครับ


เห็นในหนัง ก็เห็นชีวิตจริงในองค์กรครับ

ต่อสู้กันเพื่อเป็นใหญ่ แต่บางท่านใช้วิธีการที่ไม่ค่อยดีครับ

คงเป็นที่เข้าใจกันอยู่ครับ ท่านที่จะเป็นผู้นำ

1. จิตใจ สัมมาทิฎฐิ

2. ปัญญา การคิดพิจารณา

3. ทักษะ ความรู้ ความสามารถ

4. องค์ประกอบอื่นๆ เช่น เครือข่าย รู้จักคน

5. อื่นๆ อีกมากมายนัก

สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เป็นปัจจัย ให้เกิดความสำเร็จ ของงานที่สร้างสรรค์



คนเขาจะสรรเสริญกัน ก็คือการทำความสุข ความดีให้แก่คนอื่น ให้ผู้อื่น

บรรเทาความเจ็บป่วย บรรเทาความเดือดร้อนให้คนอื่น

เพราะคนอื่นเขาก็ทุกข์กันแล้ว หรือพระท่านที่ท่านป่วย

ท่านก็เดือดร้อน เจ็บป่วยกาย

แม้แต่เราเอง เวลาป่วยก็เหลือแสน นอนซม ทำอะไรก็ลำบาก



ผมก็คิดว่าเป็นโอกาสที่ดี ในครั้งหนึ่งของชีวิต ที่ช่วยร่วมสร้างสรรค์สิ่งดี

บรรเทาทุกข์จากการเจ็บป่วยของพระท่าน

ได้ทำดี มีบุญกุศล ให้สิ่งดีๆ แก่สังคม

หยดน้ำน้อยแห่งนี้เต็มเปี่ยมด้วยน้ำใจที่ดีงาม



หากเราโดนคนอื่นทำไม่ดีกับเราละ เราจะชอบไหม ร้อนทั้งกาย ร้อนทั้งใจ

เราเองก็ไม่อยากให้คนอื่นทำเรา เราก็อย่าไปทำคนอื่นๆ เขา

คิดอย่างเรียบๆ ง่ายๆ 1.



แต่ในบางครั้ง เราก็บอกคนอื่นๆ ไม่ได้ ก็ต้องตัดใจ วางอุเบกขา วางเฉยสะ

สังคมยังต้องการความดี ความสวยงามอีกมาก

ซึ่งต้องกรอปด้วย


จิตใจ ความคิดเห็นที่ถูกต้อง ปัญญา ความสามารถ

สาธุครับ

 

น้อง chaipat พี่รู้ว่าจิตเรากำลังคิดถึงใคร จิตกำลังเคียดแค้นใคร ขอให้ตั้งหลักใหม่ ทำจิตให้สงบ แล้วโน้มเข้ามาหาตัวเองให้มาก พี่มีสิ่งที่ดีมาบอกน้อง อ่านแล้วโน้มระลึก ตัดสิ่งที่มากระทบ ที่เรียกว่าเจตสิกออกไป พิจารณาถึงสาเหตุที่เกิด ตั้งแต่เบื้องต้น ท่ามกลาง และที่สุด น้องจะพบว่าจะมีตัวเมตตาเข้ามาโดยอัตโนมัติ จะมีปิติมาแทนที่ แล้วกำหนดในอารมณ์นั้นไปเรื่อยๆ ในที่สุดความโกรธจะหมดลงไปเอง นี่ล่ะทางแห่งพรหม ที่เราเรียกกันว่า พรหมวิหาร 4 งัยล่ะ อ่านดูตามนี้น๊ะ


หัดระลึกรู้จิตอย่างไร


ว่ากันตามพระสูตรก่อนก็แล้วกันนะ ในพระสูตรจะบันทึกไว้ในทำนองว่า (ขออนุญาตใช้ภาษาและถ้อยคำที่ไม่ตรงตามพระไตรปิฎก แต่ยังคงความหมายตรงกันนะ) ผู้ศึกษาเรียนรู้ปฏิบัติในทางเอกคือสติปัฏฐาน ย่อมพิจารณาเห็นจิตในจิตเนือง ๆ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ เมื่อ
<DL>

• 
  <DT>จิตมีราคะ ก็รู้ชัดว่าจิตมีราคะ หรือจิตไม่มีราคะ ก็รู้ชัดว่าจิตไม่มีราคะ <DT>หรือจิตมีโทสะ ก็รู้ชัดว่าจิตมีโทสะ หรือจิตไม่มีโทสะ ก็รู้ชัดว่าจิตไม่มีโทสะ <DT>หรือจิตมีโมหะ ก็รู้ชัดว่าจิตมีโมหะ หรือจิตไม่มีโมหะ ก็รู้ชัดว่าจิตไม่มีโมหะ <DT>หรือจิตหดหู่ ก็รู้ชัดว่าจิตหดหู่ <DT>หรือจิตฟุ้งซ่าน ก็รู้ชัดว่าจิตฟุ้งซ่าน <DT>หรือจิตเป็นมหรคต ก็รู้ชัดว่าจิตเป็นมหรคต <DT>หรือจิตไม่เป็นมหรคต ก็รู้ชัดว่าจิตไม่เป็นมหรคต <DD>(จิตเป็นมหรคต หมายถึง จิตที่เป็นฌาน เป็นอัปปมัญญาพรหมวิหาร) <DT>หรือจิตเป็นสอุตตระ ก็รู้ชัดว่าจิตเป็นสอุตตระ <DD>(จิตเป็นสอุตตระ หมายถึง จิตที่เกี่ยวเนื่องด้วยกาม หรือไม่ถึงระดับอุปจารสมาธิ) <DT>หรือจิตเป็นอนุตตระ ก็รู้ชัดว่าจิตเป็นอนุตตระ <DD>(จิตเป็นอนุตตระ หมายถึง จิตที่เกี่ยวเนื่องด้วยรูปหรืออรูป) <DT>หรือจิตตั้งมั่น ก็รู้ชัดว่าจิตตั้งมั่น หรือจิตไม่ตั้งมั่น ก็รู้ชัดว่าจิตไม่ตั้งมั่น <DT>หรือจิตวิมุตติ ก็รู้ชัดว่าจิตวิมุตติ หรือจิตยังไม่วิมุตติ ก็รู้ชัดว่าจิตยังไม่วิมุตติ <DD>(จิตวิมุตติในที่นี้ หมายถึง จิตพ้นจากกิเลสชั่วคราวด้วยธรรมตรงข้าม หรือด้วยการข่มไว้) </DD>

</DL>

โอย

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD>วิธีการ "ดูจิต"

<TABLE style="BORDER-RIGHT: #c0c0c0 1px; BORDER-TOP: #c0c0c0 1px; BORDER-LEFT: #c0c0c0 1px; BORDER-BOTTOM: #c0c0c0 1px" cellSpacing=1 cellPadding=2 width="95%" bgColor=#ffffff><TBODY><TR><TD style="BORDER-RIGHT: #c0c0c0 1px; BORDER-TOP: #c0c0c0 1px; BORDER-LEFT: #c0c0c0 1px; BORDER-BOTTOM: #c0c0c0 1px" colSpan=2>จิตที่ฝึกดีแล้ว ..ย่อมนำความสุขมาให้</TD></TR><TR><TD style="BORDER-RIGHT: #c0c0c0 1px; BORDER-TOP: #c0c0c0 1px; BORDER-LEFT: #c0c0c0 1px; BORDER-BOTTOM: #c0c0c0 1px" colSpan=2>
1. การค้นพบจิต
</TD></TR><TR><TD style="BORDER-RIGHT: #c0c0c0 1px; BORDER-TOP: #c0c0c0 1px; BORDER-LEFT: #c0c0c0 1px; BORDER-BOTTOM: #c0c0c0 1px">

​

</TD><TD style="BORDER-RIGHT: #c0c0c0 1px; BORDER-TOP: #c0c0c0 1px; BORDER-LEFT: #c0c0c0 1px; BORDER-BOTTOM: #c0c0c0 1px">หงายมือทั้ง 2 ข้าง วางบนหัวเข่า
สูดลมหายใจเข้าช้าๆ ลึกๆ ผ่อนลมหายใจออกเบาๆ ลงไปตรงกลางทรวงอก บริเวณลิ้นปี่
นิ่ง.. และสังเกตสักครู่หนึ่ง จะมีความรู้สึกเหมือนชีพจรเต้นอยู่ ตึ้บๆ วึ้บๆ (เกิด-ดับ) บางครั้ง รู้สึกแน่นๆ เหมือนเหนื่อยๆ หรือ รู้สึกว่างๆ อยู่ภายใน ก็ให้สังเกตความรู้สึกไว้ตรงนี้ด้วยอาการที่ผ่อนคลาย
</TD></TR><TR><TD style="BORDER-RIGHT: #c0c0c0 1px; BORDER-TOP: #c0c0c0 1px; BORDER-LEFT: #c0c0c0 1px; BORDER-BOTTOM: #c0c0c0 1px" colSpan=2>
2. เรียนรู้การรับ-ส่งกระแสเพื่อแผ่เมตตา
</TD></TR><TR><TD style="BORDER-RIGHT: #c0c0c0 1px; BORDER-TOP: #c0c0c0 1px; BORDER-LEFT: #c0c0c0 1px; BORDER-BOTTOM: #c0c0c0 1px"></TD><TD style="BORDER-RIGHT: #c0c0c0 1px; BORDER-TOP: #c0c0c0 1px; BORDER-LEFT: #c0c0c0 1px; BORDER-BOTTOM: #c0c0c0 1px">จากจิต..รู้สึกไปที่มือทั้ง 2 ข้าง ค่อยๆยกมือขึ้น ระยะห่างกันเล็กน้อย นิ่ง.. สังเกตความรู้สึก
จากนั้น ขยับมือเข้า - ออก ช้าๆ จะรู้สึกเหมือนแรงดึงดูด หรือลูกบอลพลังงาน
ให้ส่งกระแสซึ่งกันและกัน โดยฝ่ายรับยกมือค้างไว้ ฝ่ายส่งขยับมือเข้า-ออก ส่งกระแสเข้าไป แล้วให้ผู้รับบอกความรู้สึกของกระแสที่รับได้ จากนั้น ผู้รับเปลี่ยนเป็นผู้ส่ง แล้วให้บอกความรู้สึกซึ่งกันและกัน
</TD></TR><TR><TD style="BORDER-RIGHT: #c0c0c0 1px; BORDER-TOP: #c0c0c0 1px; BORDER-LEFT: #c0c0c0 1px; BORDER-BOTTOM: #c0c0c0 1px"></TD><TD style="BORDER-RIGHT: #c0c0c0 1px; BORDER-TOP: #c0c0c0 1px; BORDER-LEFT: #c0c0c0 1px; BORDER-BOTTOM: #c0c0c0 1px">เปลี่ยนรูปแบบการส่ง โดยฝ่ายรับ หงายฝ่ามือขึ้น ไม่ต้องเคลื่อนไหว ฝ่ายส่ง คว่ำมือลง ผู้ส่งน้อมกระแสจากจิตไปที่มือทั้ง 2 ข้าง ขยับมือขึ้น-ลงช้าๆ เพื่อสังเกตความรู้สึกที่ส่งไป แล้วบอกความรู้สึกซึ่งกันและกัน เช่น อุ่นๆ ร้อนๆ เหมือนแรงดึงดูด .. หนักๆ เวลาขยับมือเข้าใกล้ เบาๆ เมื่อยกมือออกห่าง ฯลฯ
ฝ่ายรับเปลี่ยนเป็นฝ่ายส่ง ให้ส่งกระแสซึ่งกันและกัน
</TD></TR><TR><TD style="BORDER-RIGHT: #c0c0c0 1px; BORDER-TOP: #c0c0c0 1px; BORDER-LEFT: #c0c0c0 1px; BORDER-BOTTOM: #c0c0c0 1px" colSpan=2>
3.กระแสที่เรียนรู้ .. สูการแผ่เมตตา
</TD></TR><TR><TD style="BORDER-RIGHT: #c0c0c0 1px; BORDER-TOP: #c0c0c0 1px; BORDER-LEFT: #c0c0c0 1px; BORDER-BOTTOM: #c0c0c0 1px">

​

</TD><TD style="BORDER-RIGHT: #c0c0c0 1px; BORDER-TOP: #c0c0c0 1px; BORDER-LEFT: #c0c0c0 1px; BORDER-BOTTOM: #c0c0c0 1px">การแผ่เมตตาอย่างสั้นๆ.. จากจิต นึกถึงใคร
แผ่เมตตาไป "ให้มีความสุข"
การแผ่เมตตาไม่มีประมาณ
จากจิต น้อมบุญกุศลที่เราได้ทำแล้วในบัดนี้ แผ่ไปให้พ่อ-แม่ ครูบาอาจารย์ ญาติสนิท มิตรที่รัก แผ่เมตตาให้ในหลวงของพวกเรา สมเด็จพระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ บรรพบุรุษที่รักษาผืนแผ่นดินนี้ไว้ ผู้มีพระคุณทุกท่าน เทวดาทั้งสิบทิศ เจ้ากรรมนายเวร สัตว์นรก เปรต อสูรกาย สรรพสัตว์ทั้งหลายอันไม่มีประมาณ ให้ร่วมอนุโมทนาสาธุการ...
ท่านที่มีทุกข์ ขอให้พ้นทุกข์ สุขอยู่แล้ว ขอให้สุขยิ่งขึ้น...
</TD></TR><TR><TD style="BORDER-RIGHT: #c0c0c0 1px; BORDER-TOP: #c0c0c0 1px; BORDER-LEFT: #c0c0c0 1px; BORDER-BOTTOM: #c0c0c0 1px"></TD><TD style="BORDER-RIGHT: #c0c0c0 1px; BORDER-TOP: #c0c0c0 1px; BORDER-LEFT: #c0c0c0 1px; BORDER-BOTTOM: #c0c0c0 1px">จากจิต.. แผ่พลังความรัก ความปรารถนาดีออกไปรอบๆสถานที่ รอบๆจังหวัด รอบๆประเทศ ออกไปทั่วโลก จักรวาลอันกว้างใหญ่ แผ่ไปไม่มีประมาณ กว้างขวาง ไร้ขอบเขต " ให้ทุกท่านมีความสุข" นิ่งสักครู่หนึ่ง...
</TD></TR><TR><TD style="BORDER-RIGHT: #c0c0c0 1px; BORDER-TOP: #c0c0c0 1px; BORDER-LEFT: #c0c0c0 1px; BORDER-BOTTOM: #c0c0c0 1px"></TD><TD style="BORDER-RIGHT: #c0c0c0 1px; BORDER-TOP: #c0c0c0 1px; BORDER-LEFT: #c0c0c0 1px; BORDER-BOTTOM: #c0c0c0 1px">เมื่อต้องการออกจากการแผ่เมตตา อย่ารีบลืมตา ให้ตั้งจิตภายในว่า "กลับ" แล้วสูดลมหายใจเข้าช้าๆ ผ่อนความรู้สึกลงมาที่จิต ... ที่มือ... ลงมาที่ขา สัก 2-3 ครั้ง แล้วค่อยๆลืมตา</TD></TR><TR><TD style="BORDER-RIGHT: #c0c0c0 1px; BORDER-TOP: #c0c0c0 1px; BORDER-LEFT: #c0c0c0 1px; BORDER-BOTTOM: #c0c0c0 1px" colSpan=2>
4. ดวงจิตผ่องใส ได้ตลอดทั้งวัน
</TD></TR><TR><TD style="BORDER-RIGHT: #c0c0c0 1px; BORDER-TOP: #c0c0c0 1px; BORDER-LEFT: #c0c0c0 1px; BORDER-BOTTOM: #c0c0c0 1px"> </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #c0c0c0 1px; BORDER-TOP: #c0c0c0 1px; BORDER-LEFT: #c0c0c0 1px; BORDER-BOTTOM: #c0c0c0 1px">ไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง หรือนอน ทุกการเคลื่อนไหว ให้สังเกตความรู้สึกที่จิต เห็นการเกิด-ดับภายในไปตลอดเวลา ศีล-สมาธิ-ปัญญา จึงเดินไปพร้อมกัน</TD></TR><TR><TD style="BORDER-RIGHT: #c0c0c0 1px; BORDER-TOP: #c0c0c0 1px; BORDER-LEFT: #c0c0c0 1px; BORDER-BOTTOM: #c0c0c0 1px" colSpan=2>
5. ทางสายกลาง..ทางดับทุกข์
</TD></TR><TR><TD style="BORDER-RIGHT: #c0c0c0 1px; BORDER-TOP: #c0c0c0 1px; BORDER-LEFT: #c0c0c0 1px; BORDER-BOTTOM: #c0c0c0 1px">

​

</TD><TD style="BORDER-RIGHT: #c0c0c0 1px; BORDER-TOP: #c0c0c0 1px; BORDER-LEFT: #c0c0c0 1px; BORDER-BOTTOM: #c0c0c0 1px">จิต..ดำเนินอยู่บนทางสายกลาง เห็นทุกข์ และดับทุกข์ได้ .. เพราะมีปัญญาเห็นความจริงว่า .. ทุกข์ที่เกิดขึ้น มีความดับไปเป็นธรรมดา จิตกับความคิดแยกจากกัน จิตจึงผ่องใส เป็นอิสระจากความคิดดีและไม่ดี ความคิดไม่ดีละทิ้งไป ความคิดดีนำมาใช้ แต่ไม่ยึดมั่นว่าความคิดทั้งหลายเป็นเรา เป็นของเรา จิตจึงหลุดพ้นจากความทุกข์ พบความสุขที่แท้จริงตลอดไป</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE>
ขอขอบคุณ

http://www.thammatipo.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=427156

 

ภาพสุดท้ายของนักเรียนดูพระครับ



สาธุครับ

 

ไม่ทราบครั้งหน้าจะมีงานบุญแบบนี้ให้ผมได้ไปร่วมอีกไหมครับอยากไปน่าเสียดาย

 

3 เวอร์ชั่น วัยรุ่น วัยกลาง และวัยโรย อาม่านี่ประมาทไม่ได้เลย มีความรู้ด้านดูลายมือฉมังนัก ส่วนน้องคนกลางนี่การมาทำบุญนี่เหมือนเปลี่ยนชีวิตเธอเลย ครอบครัวนี้มาครบ 4 คนพ่อแม่ ลูกสาว ลูกชาย เป็นเจ้าของกิจการส่งออกนำเข้า ฐานะดี ความรู้เธอก็ดี แม่ของน้องเล่าให้ฟังว่าแต่ก่อนน้องไม่เคยสนใจเรื่องธรรมะเลย แต่เดี๋ยวนี้พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ ชอบทำบุญทำกุศลมาก ตื่นแต่เช้ารีบมาทำบุญทุกครั้ง แถมคอยถามตลอดว่าเมื่อไรจะทำกิจกรรมสักที วันนี้ได้โอกาสนักเรียนเพิ่งลุกออกไปเลยหัดคว้ากล้องมาหัดดูพิมพ์ดูเนื้อ ช่างซัก ช่างถาม ช่างสังเกตุ แต่เหนือสิ่งอื่นใด เริ่มมีการฝึกกำหนดจิต ตรวจพลังได้แล้ว นี่ล่ะทางบุญ

 

สวัสดีครับวันนี้ครอบครัวผมได้ส่งเงิน 500 บ.ร่วมทำบุญครับ
(09/11/08 เวลา 18:53 น. *3481232459*

 

ทุนนิธิฯจัดทำบุญทุกๆเดือน โดยเดือนหน้าธันวาคมจะจัดในวันอาทิตย์ที่21ครับ

 

ชมภาพกิจกรรมประจำเดือนพฤศจิกายนแล้ว ต่อไปผมขอเสนอภาพที่เกี่ยวกับ สมเด็จพระพี่นาง เนื่องมาจากตึกที่คณะพวกเราได้ทำบุญกับสงฆ์กันเป็นประจำคือตึกที่สร้างถวายสมเด็จพระพี่นางครับ

<CENTER></CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER><CENTER></CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER><CENTER></CENTER></CENTER><CENTER> </CENTER></CENTER>

 

ต่อไปมาชมภาพองค์บรมครูทางการแพทย์ หมอชีวกโกมารภัจ ที่ศักดิ์สิทธิ์ประจำโรงพยาบาลสงฆ์
<CENTER></CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER><CENTER></CENTER></CENTER>

 

<CENTER></CENTER><CENTER> </CENTER>

ภาพพระพุทธเจ้าทรงให้การดูแลรักษาอาการอาพาธของพระสงฆ์ด้วยพระองค์เอง
​

<CENTER></CENTER><CENTER> </CENTER>

พระสมเด็จโตสวยๆที่ติดอยู่ในโรงพยาบาลสงฆ์

​

 

<CENTER></CENTER><CENTER> </CENTER>

วิสัยทัศน์ประจำโรงพยาบาลสงฆ์
​

<CENTER></CENTER><CENTER> </CENTER>

ภาพบัวสี่เหล่าในโรงพยาบาลสงฆ์​

 

หลังจากทำการถวายอาหารพระและบริจาคเงินให้กับโรงพยาบาลสงฆ์แล้ว ทางทุนนิธิฯได้เปิดโอกาสให้ท่านที่สนใจในพระพิมพ์ ได้สิ่งที่ทรงคุณค่าหลายอย่างไว้บูชากันเช่น

<CENTER></CENTER><CENTER>พระปางซ่อนหา เนื้อเมฆสิทธิ์ หลวงพ่อทับ วัดอนงค์</CENTER><CENTER></CENTER><CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER>พระปิดตา เนื้อเมฆสิทธิ์ หลวงพ่อทับ</CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER>ลูกอม เนื้อเมฆสิทธิ์ หลวงพ่อทับ</CENTER><CENTER></CENTER>

ท่านประธานไปแสวงหาพระดีๆนี้มาให้กับทุกๆท่านได้ทำบุญกันในราคาไม่คุ้มค่ารถจริงๆ และที่สำคัญให้บูชากันแบบไม่กั๊กจนลืมเก็บไว้ให้ตนเอง ​

<CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER></CENTER>

 

และคณะกรรมการทุนนิธิฯขอขอบคุณสำหรับพระพิมพ์สกุลวังหน้า ที่ได้รับจากคุณสิทธิพงศ์(หนุ่ม)สำหรับแจกฟรีให้กับทุกท่านที่มาในวันงาน
<CENTER></CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER><CENTER></CENTER></CENTER><CENTER> </CENTER>

 

หลังจากนี้มาชมภาพพระเปิม ลำพูน ที่ท่านประธานไปแสวงหามา ให้พี่ใหญ่พิจารณาแล้วว่าแท้ และ ทันสมัยพระนางจามเทวี ท่านใดสนใจอย่าลืมสะกิดถามท่านประธานในการทำบุญเดือนหน้า จะได้ของดี สวยๆ ถูกๆ กันอีกครับ

<CENTER></CENTER>

 

เดือนนี้ ทางทุนนิธิฯ ทำบุญต้นเดือนเลยนะคะ ไม่ทันได้โอนเงินเลยอ่ะ อาทิตย์นี้จะโอนตามไปสมทบบุญด้วยค่ะ ดูรูปที่ร.พ.สงฆ์แล้ว รู้สึกใจเป็นสุขไปด้วย ยินดีกับทุกท่านที่มีโอกาสไปร่วมบุญ อนุโมทนาค่ะ

 

สิ่งที่รำพันไปนั้น เห็นจิตอยู่ 2 อย่าง

เป็นจุดเริ่มต้น


ท่ามกลางก็จะเป็นเรื่องที่ดำรงอยู่นี้


ช่วงต่อไปก็จะเห็นเองครับ


ผมคุยกับอาจารย์ ที่ท่านมาทำบุญเมื่อวานที่ผ่านมา จนถึงจุดที่

ท่านอาจารย์บอกว่า ไม่อยากติดดีแล้ว

เห็นโทษของการติดดี เมื่อมีดี ก็จะเห็นไม่ดี

สองฟากฝั่ง ฝังจิตที่จะเริ่ม จะพูด จะทำ



ยิ่งบูดเบี้ยว เอี้ยว ไปตามกิเลส อันใดก็ตาม มันก็เพี้ยนไปเช่นนั้นเอง



ดูแล้วเห็น ก็มาสะดุดที่ ใครๆ เริ่มต้นจะรับผลที่ดี

ฉะนั้นก็ทำให้คนอื่น เขาดีๆ ให้เขาทำดีครับ


ก็เริ่มที่จิต พิจารณา เห็นให้จริงแท้ และสติครับ

สาธุครับ

 

ขออนุโมทนากับทุกๆ ท่าน ที่ไปร่วมทำบุญที่โรงพยาบาลสงฆ์ประจำเดือนนี้ด้วยครับ เห็นภาพทุกครั้งก็ปลื้มใจไปด้วยทุกครั้งครับ

และผมขอแจ้งการทำบุญกับทุนนิธิฯ ประจำเดือนนี้ด้วยครับ จำนวน 500 บาทเข้าบัญชีทุนนิธิฯ ในวันนี้แล้วครับ ขอบคุณครับ

 

แวะมาเยี่ยมเยียนครับ...

 

วันเพ็ญเดือนสิบสองหรือวันลอยกระทง มิใช่เป็นวันสำคัญที่เราได้ขมาแม่คงคาสืบสานประเพณีอันดีงามเท่านั้น แต่เป็นวันที่ลูกหลานผู้นับถือในองค์หลวงพ่อโสธร จะได้มีโอกาสขอบารมีในองค์ใหญ่ที่จะลงมารับการสักการะบูชา อธิษฐานของเราท่าน ได้ตั้งแต่เช้าจนตลอดวัน ท่านใดมีเรื่องขอบารมีเชิญได้ที่วัดโสธรตลอดวัน แต่ควรไปให้เช้านะครับเพราะมหาชนจะมากมายครับ