ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

ภาพบรรยากาศที่ เขากะลา2 เมื่อคืนวันที่ 8/11/51

 

ขอบคุณเช่นกันนะคะ ที่ทำให้มีโอกาสได้ขอขมากรรมกะเค้าเหมือนกัน
ก่อนที่กิจกรรมที่เขากะลา 2 จะปิดตัวลง (เหมือนมาส่งท้าย)

จริงๆแอบไปให้ อ.นีโม่ส่องกรรมให้ตั้งแต่บ่ายแล้ว
อาจารย์แนะนำมาหลายอย่าง ..
ขออภัยนะคะ ป่านนี้ยังไม่ได้ทำซักอย่างเลย (แต่จะทำอยู๋นะคะ)

พี่ no.9 ก็เมตตาขยายระบบให้ พูดไป มองหน้าไป คงไม่แน่ใจ
ว่าเข้าใจจริงรึปล่าว ... ที่พี่พูดยาวเหยียดนั่น ไม่เสียแรงปล่าวนะคะ
เข้าใจจริงจริ๊ง..

เรื่องขันธ์ 5 ว่าไปแล้ว ก็คล้ายๆ หลัก ปฏิจสมุปบาท ใช่มั้ยคะ
จะว่าไปแล้ว ธรรมมะที่พระพุทธเจ้าสอน เรื่องไหนๆ สุดท้าย
ก็ดูเหมือน จะเป็นเรื่องเดียวกัน ... (ถ้าพูดผิดก็ขออภัยนะคะ)

ขออภัยนะคะ ที่ทำตัวเป็นนินจาไปหน่อย (มาเงียบๆ ไปเงียบๆ)
ธรรมมะจัดสรรให้เมื่อไหร่ คงได้พบกันอีก

 

เกิดอะไรขึ้นกับห้องนี้ค่ะก็เราแฟนคลับเขากะลาแต่เจอข้อความที่ไม่ให้เข้าเอชักอย่างไรซะแล้วอย่าทำอย่างนี้ได้ไหมแฟนๆน้อยใจนะ

 

capture หน้าจอมาให้ดูหน่อยครับว่าเป็นยังไง เพราะของผมก็เข้าได้ตามปกติ

 

เอ คุณ lazaza นี่คนไหนครับ ใช่ท่านที่มาคนเดียวแล้วกลับไปก่อนหรือเปล่า

 

รายงานข่าวเล็กๆ ครับ เมื่อวาน 11/11/51 รถปิคอัพสามารถจอดบนเขากะลาได้แล้ว แต่รถเก๋งที่ใต้ท้องเตี้ยๆ อาจยังขึ้นไม่สดวกเนื่องจากดินยังนุ่มๆ อยู่บ้างบางจุดเล็กน้อย แต่หลังจากนี้คงไม่มีปัญหาเพราะหมดฝนแล้ว และเมื่อยานบรรทุกเสบียงลงจอดบนเขากะลาได้ ความอดอยากและหิวโหยยามดึกก็ย่อมหมดไปโดยสิ้นเชิงแล้วครับ จบข่าว

:z8​

 

ขออนุโมทนาบุญคุณ No. 9 ค่ะ

ถ้าก่อนรถจอดได้ อดอยากหิวโหยกันอย่างนี้
ตอนรถจอดบนเขาได้ ต้องเอาลู่วิ่งไปติดตั้งกระมังคะ

 

ใช่ค่ะ ขออภัยนะคะ ไม่ได้ทักทายใครเลย เพราะไม่รู้จักใคร
ปกติก็ไม่ค่อยพูดอยู่แล้ว พอไม่รู้จักใครเลยเงียบสนิท (อย่าถือสานะคะ)

วันนั้นถาม อ.นีโม่ไปหลายอย่าง
มีคำถามหนึ่งที่ถามไปว่า เห็นหลายท่านอ้างระบบ ว่าอย่างนั้นอย่างนี้
ไม่คิดว่าเป็นอุปปาทาน คิดเอง หลงเองบ้างเหรอ (ตั้งข้อสงสัยเฉยๆนะคะ)
อาจารย์ก็ตอบชัดเจนดีนะคะ (ไม่ขอพูดนะคะ เดี๋ยวตกหล่น)
แต่มีคำนึง ที่วันนี้ มันแว้บเข้ามา อาจารย์บอกว่า
"หลายอย่างก็บังเอิญจนแนบเนียน" (หรืออะไรทำนองนี้)
ใช่ค่ะ .. มีเรื่องบังเอิญ จะเล่าให้ฟัง

เพราะวันนั้นที่ไปให้อาจารย์ส่องกรรมให้
อาจารย์ถามว่า บ้านอยู่ตรงทาง 3 แพ่งรึเปล่า
เราก็ตอบว่าไม่ใช่ แต่ใกล้ๆน่ะมี 2 สามแพ่งเลย
คือมีทั้งซ้ายทั้งขวา ห่างออกไปไม่ถึง 20 เมตร
อาจารย์เลยแนะให้หา ท้าวเวสสุวรรณมาบูชา
เราก็รับฟัง แต่ไม่รู้จะหามายังงัย บูชายังงัย
คิดในใจว่า ถ้าหาได้ก็เอา หาไม่ได้ก็ไม่เป็นไร

กลับมาจากวันนั้นได้ 3 วัน รถจอดเฉยๆก็มีคนถอยมาชน
(ครั้งที่ 4 ในรอบ ครึ่งปีหลัง ที่รถจอดเฉยๆ แล้วก็โดนซะงั้น)
มันก็เลยทำให้หวนคิดเรื่องบูชาท้าวเวสสุวรรณขึ้นมา
แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะหามาจากไหน แต่ก็คิดว่าจะลองมองหาดู

ตื่นเช้าวันนี้ ได้ท้าวเวสสุวรรณมาแล้วองค์นึง
เป็นองค์เล็กๆ อัดกรอบพลาสติก สำหรับแขวนคอ
แม่ได้มาจากงานขึ้นบ้านใหม่ ตั้งแต่วัน สองวันที่แล้ว

ก็มันบังเอิญจนแนบเนีบน จริงมั้ยคะ

 

ยินดีที่รู้จักครับ..ผมสมาชิก A.41 วันนั้นคุณ Lazaza มา ผมนั่งอยู่ข้างๆ นั่งหลับอยู่...เลยไม่ได้พูดคุยอะไรเลย...และต้องกลับบ้านก่อนมีธุระ ..

 

ภาพนี้เจ้ากรรมนายเวรตามมาเป็นกองทัพเลยครับ
แต่โชคดีที่มีดวงเทพรักษาอยู่ ดวงเบ้อเริ่มเลยทางขวา


<!-- / attachments --><!-- sig -->

 

เมื่อคืนดูรายการบางอ้อ ของคุณหนุ่ม คงกระพัน

เรื่องราวของ ดอน สอนระเบียบ ที่เป็นอัมพฤกษ์
ดี๋ ดอกมะดัน ที่กลายเป็นเจ้าชายนิทรา
และสายันต์ ดอกสะเดา ที่โดนไข้กาฬหลังแอ่นเล่นงานอยู่

เหล่านี้ เป็นความทุกข์ที่เกิดขึ้นทางกาย แต่จิตยังยึดเกาะเกี่ยวแน่น จึงต้องเพิ่มทุกข์ทางใจ เข้าไปอีก อย่างไม่มีทางแกะออก
เมื่อไม่เคยเรียนรู้ หรือฝึกมาเกี่ยวกับการปล่อยวาง ละอัตตาตัวตน จึงต้องผจญอยู่บนกองทุกข์ เป็นบั้นปลายชีวิตที่น่ากลัวมาก

หากจิตวิญญาณ หลุดออกไปเมื่อไร เชื้อแห่งการยึดติดในสังขารขันธ์ห้า ยังมีอยู่ ก็จะนำเกิดอีกภพแล้วภพเล่า ตามกรรมจัดสรร
วนเวียนกันไปไม่รู้จบสิ้น จนกว่า ปัญญาความเข้าใจในชีวิต ขันธ์ห้า การละวางอัตตาตัวตน จะเกิดขึ้น เมื่อนั้น หนทางแห่งการพ้นทุกข์ ก็จะบังเกิด บนวิถีทางแห่งอริยสัจสี่

 

ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมก็เพิ่งพาภรรยามาครั้งแรกเหมือนกัน (ที่มาเป็นคู่นะครับ )

คนอีสาณเหมือนกัน ว่างๆผ่านขอนแก่นไปอุดร จะแวะเยี่ยม

 

เมื่อคืนผมก็ได้ดูครับรู้สึกปลงอย่างแรง นึกถึงตอนที่เขามีชื่อเสียงเงินทองไหลมาเทมา ดูตอนนี้ซิครับต้องขายทรัพย์สินรักษาตัว ชีวิตคนเราช่างไม่แน่นอนจริงจริงครับ

อนิจจัง ทุกข์ขัง อนัตตา rabbit_run_away

 

ขออนุโมทนากับผู้ที่ร่วมบริจาคเพื่อทำทางขึ้นเขากะลาทุกท่านค่ะที่สนับสนุนปัจจัย ทั้งในส่วนที่เริ่มทำทางขึ้นในครั้งแรก ทุก ๆ ท่าน และผู้ที่สนับสนุนซ่อมแซมปรับปรุงอีกครั้ง

และขออนุโมทนากับผู้สนับสนุนรายใหญ่ ซึ่งแม้ว่าท่านเป็นผู้ที่อยู่ไกลสุด แต่ไม่เคยห่างหายจากความเอื้ออาทร ที่มีต่อเขากะลา 1 เสมอมา ท่านนั้นก็คือคุณ Digital จากอเมริกา ซี่งได้สนับสนุนเงินจำนวน 10,000 บาท เข้าร่วมปรับปรุงทางขึ้นด้วยนั้น ต้องขออนุโมทนาเป็นอย่างยิ่งค่ะ

และผู้ที่สนับสนุนอุปกรณ์เครื่องใช้ เครื่องอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่ทำให้ผู้ไปเยือนเขากะลา 1 ได้รับความสะดวกสบายอย่างยิ่ง ซึ่งต้องขออนุโมทนากับคุณ vijit_j ด้วยค่ะ

และตอนนี้ ก็ได้รับการสนับสนุนจากคุณ no.9 ซึ่งเป็นผู้อาวุโสจากเขากะลา 1 ปรับปรุงทางขึ้นให้กับเพื่อน ๆ น้อง ๆ รุ่นเขากะลา 2 ได้มีความสะดวกในการเดินทางขึ้นมาประมวลพลังและพักบนเขากะลา นั้น และแผนกพื้นที่ได้ดำเนินการตามที่คุณ no.9 แจ้งความจำนงค์มา เรียบร้อยแล้ว

และวันนี้.... รถยนต์สามารถขึ้นไปถึงด้านบนสุดของเขากะลาได้แล้ว​

 

ยังงี้คนที่ไปหลังๆก็หมดโอกาสทดสอบความอดทนนะสิครับ

 

เนื่องจาก มีเรื่องราวที่เขากะลา ต่อเนื่องกันตลอด 4 วัน ไล่เรียงกันมาแต่ละวันดังนี้

วันที่ 8-9 พฤศจิกายน 2551 น้อง Pasika มาประมวลพลังเดี่ยว ผู้อาวุโสให้การต้อนรับ และพาขึ้นเขากะลา

วันที่ 10 พฤศจิกายน 2551 รายการทีวีข่าว 3 มิติ ทางช่อง3 มาถ่ายทำที่เขากะลา ผู้อาวุโสและคุณ mead ร่วมให้สัมภาษณ์ด้วย

วันที่ 11 - 12 พฤศจิกายน 2551 มีผู้มาปรับหมายเลข และมาประมวลพล้ง 2 ท่าน ที่เขากะลา เพิ่งเดินทางกลับไปเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา

ก็คงขอเล่าเรื่องของน้อง Pasika ที่ค้างไว้ให้จบก่อนนะคะ แล้วจะรายงานเรื่องอื่น ๆตามลำดับค่ะ

ตอนเช้าบนเขากะลา ก่อนเดินทางกลับ

 

ลงจากเขาแล้ว แวะทานก๋วยเตี๋ยวเจ้าอร่อยที่เขากะลา

ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ ผู้อาวุโสแวะพาเที่ยวบึงบอระเพ็ด ด้านอุทยานนกน้ำ

จากนั้นจึงส่งขึ้นรถตู้ เดินทางกลับกรุงเทพฯ

ขออนุโมทนากับคุณ Pasika ด้วยนะคะ

 

รายการ "ข่าว 3 มิติ" ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3

คุณศุภโชค พิธีกรรายการ ข่าว 3 มิติ ได้นำทีมงานมาถ่ายทำเรื่อง UFO ที่เขากะลา โดยเดินทางมาที่เขากะลา เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2551 เวลาประมาณ 17.30 นาฬิกา

กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ได้ให้การต้อนรับ และนำขึ้นเขากะลา โดยรถปิคอัพ ไปที่เชิงเขา เพราะรถเก๋งไม่สามารถเข้าได้ในช่วงนั้น

ทีมงานจึงนำอุปกรณ์ในการบันทึกเทปรายการ เปลี่ยนมาขึ้นรถปิคอัพเพื่อเดินทางไปเขากะลา

 

รถปิคอัพกระบะไม่สามารถขึ้นเขากะลาได้ เพราะทางลื่นและเป็นหลุมใหญ่ จึงจอดไว้ด้านล่างเขา และทีมงานพากันเดินขึ้นไปบนเขา

เมื่อขึ้นไปถึงด้านบน ก็บันทึกภาพบรรยากาศรอบ ๆ เขาไว้ก่อนที่จะค่ำ

 

คุณ mead เดินทางมาถึงเขากะลาก็พระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว แต่ไม่สามารถนำรถยนต์เข้ามาได้ จึงต้องเดินเท้าเข้ามาจากโรงเรียนเขากะลา ซึ่งจอดรถไว้ที่นั่น

พี่สุดใจ และคุณวาสนา ก็เลยรอรับคุณ mead ที่เชิงเขา เพื่อขึ้นไปพร้อมกัน

ระหว่างทางเดินขึ้นเขา ท้องฟ้าสวยงามมาก มีหลากหลายสีสัน จึงบันทึกภาพมาให้ชมค่ะ