ขอเชิญร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ

​

ให้กำลังใจตัวเอง

ใครหลายคนชอบคิดไปไกลในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง
สิ่งที่ยังไม่เกิด ความคิดนี่แหละ
ที่บั่นทอนพละกำลังส่วนหนึ่งของความสุขที่ควรจะเกิด
ควรจะมีให้ลดน้อยลงไป

บางขณะ เราน่าจะทำชีวิตให้ดีกว่านั้นได้ง่ายๆ
แต่เพราะความคิด ความกังวล
ทำให้สิ่งที่น่าจะง่าย กลายเป็นสิ่งยุ่งยาก
ถ้าความคิดบางอย่าง ยิ่งคิดยิ่งเศร้า ยิ่งทำให้กังวล ยิ่งไม่มีความสุข
ยิ่งหวาดกลัววันข้างหน้า ก็อย่าไปคิดมันเลย

แค่ทำวันนี้ให้มีความสุข
ทำให้ดีที่สุดกับเวลานี้ที่มีโอกาสนี้
บางทีใครจะรู้ว่า อะไรๆที่ไปกังวลนั้น อาจจะมาไม่ถึงก็ได้

ชีวิตอาจไม่ยาวนานถึงขนาดนั้น
ไม่มีใครรู้ว่าพรุ่งนี้จะตื่นหรือเปล่า
อย่ากังวลกับอะไรที่ยังมาไม่ถึง มองวันนี้ ทำวันนี้
มีความสุขกับทุกวินาทีที่ยังหายใจอยู่ดีกว่า
เวลามีพอเสมอสำหรับความสุข

ความทุกข์สร้างสิ่งมหัศจรรย์
ชีวิตที่พบความทุกข์เป็นชีวิตที่แท้
ไม่มีความทุกข์ก็ไม่มีการเติบโต
ความทุกข์เป็นพลังขับเคลื่อนให้หลายอย่างเกิดขึ้น
ไม่มีใครไม่มีความทุกข์ เพราะนั่นคือการเป็นชีวิต
ความทุกข์สอนให้แต่ละคนเข้มแข็งในแง่มุมต่างๆ
ถ้าความทุกข์ไม่เข้ามาหาก็จะไม่รู้ว่า
ความสุขที่แท้จริงเป็นอย่างไร
ไม่มีความทุกข์ก็ไม่รู้จักความสุข
เพราะความทุกข์พิสูจน์ความเป็นคนอ่อนแอหรือเข้มแข็ง
ความทุกข์เป็นสิ่งท้าทายความสามารถ

ต่างจากความสุขที่ทำให้อ่อนแอ มองโลกง่ายๆ แคบๆ
ความสุขเหมือนฝนพรำสาย อ่อนโยน งดงาม บางเบา
แต่ว่างเปล่า ไม่มีการเรียนรู้ใดในความสุข
เมื่อใดที่มีความทุกข์ ควรยิ้มรับ
และคิดว่าโชคดีที่ได้เจอความทุกข์
ได้เรียนรู้การแก้ปัญหา ได้สงบ ได้สติ ได้ความนิ่ง
ได้รู้จักโลก รู้จักตัวเอง รู้จักการเติบโตทุกๆก้าว

ให้กำลังใจตัวเองมากๆ บอกตัวเองว่า
โชคดีที่วันนี้มีความทุกข์
เพราะเมื่อผ่านพ้นความทุกข์
ความสุขก็จะรออยู่เบื้องหน้า
จงใช้ความทุกข์สร้างสิ่งมหัศจรรย์ให้กับชีวิต

มีคนมากมายที่กังวลกับอนาคต
แต่เขายังไม่เคยมองปัจจุบันเลยว่าทำอะไรอยู่
และเมื่อตัวคนเดียว กำลังใจจากตัวเองนี่แหละ
ที่จะทำให้เรามีแรงเดินต่อไป
เป็นเรื่องยากที่จะทำได้
แต่ถ้าทำได้คุณจะพบความสุขแบบที่ไม่ต้องพึ่งพาใครเลย

 

วันนี้เวลา 12.34 น. ได้ร่วมบริจาคผ้าห่มเป็นเงิน 259 บาท
เข้า ธ.กสิกรไทย เลขบัญชี 7432886020 แล้ว ครับ
โชคดีที่ทางบริษัทได้โอนเงินค่าใช้จ่ายมาให้ทันเวลาเลยไม่ต้องรบกวนให้พี่พัวฤทธิ์ออกเงินทำบุญไปก่อนนะครับ
ขอบคุณพี่พันฤทธิ์อีกครั้งครับ
อนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับ

 

วันนี้เวลา 14.24น. ได้โอนเงินจำนวน 250 บาท เข้าบ/ชธ.กสิกรไทย เลขที่บ/ช 743-2-88602-0

ร่วมบุญผ้าห่ม 1 ผืน

ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยนะค่ะ

 

กราบขอขอบพระคุณ และโมทนาบุญกับทุกท่าน ที่ได้ช่วยกันบริจาคผ้าห่มเพื่อสงเคราะห์พระสงฆ์ที่ท่านกำลังอาพาธอยู่ในขณะนี้

โมทนา สาธุ โมทนา สาธุ โมทนา สาธุ

ส่วนเรื่องเงินที่จะนำไปมอบให้เวบพลังจิต เพื่อซื้อ server นั้นซึ่งทางทุนนิธิฯจะใช้รายได้ส่วนหนึ่งจากหนังสือ ปู่เล่าให้ฟัง ฉบับสมบูรณ์ตามที่คุณพันวฤทธิ์ได้บอกไว้ข้างต้นนั้นท่านก็สามารถสั่งซื้อหนังสือ ปู่เล่าให้ฟัง ฉบับสมบูรณ์ ทางไปรษณีย์มาได้ที่ผม ราคาพร้อมค่าจัดส่งประมาณ 350 บาท โดยโอนเงินที่เลขบัญชีดังนี้

กรุณาโอนเงินเข้าบัญชี นาย เขมชาติ นาคศิลป์ธนาคารไทยพานิชย์ สาขาอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 034-2-74568-3

ขอบพระคุณทุกๆท่านด้วยครับ
โมทนา สาธุ โมทนา สาธุ โมทนา สาธุ

 

ในวันพรุ้งนี้ผมจะโอนให้รอบแรก

รวมคร่าวๆ 4520.- บาทโดยประมาณ รวมของน้องเอ และพี่ๆ ที่จะเก็บเพิ่ม

และท่านอาจารย์ที่ไปช่วยทำบุญโรงพยาบาลเมื่อคราที่ผ่านมา

ก็ประสงค์ร่วมทำบุญนี้

ผมจะเจอวันเสาร์ก็ต้องมีโอนในรอบที่ 2 แน่นอนครับ

เท่าไหร่ก็ค่อยว่ากันครับ

สาธุครับ

 

พี่โสระ ผมขอร่วมบุญบริจาคผ้าห่มด้วย 2 ผืนนะครับ
เมื่อสักครู่ก่อนเข้าบ้านไปโอนที่ตู้เอทีเอ็ม เวลา
สามทุ่มกว่าๆ แต่โอนไปไม่ได้ เลยแจ้งขอร่วม
บริจาคกับพี่ก่อน พรุ่งนี้ช่วงเย็นๆ จะโอนเงินเข้า
บัญชีที่พี่แจ้งไว้ 509 บาท และจะมาโพสแจ้งให้
พี่ทราบอีกครั้งนะครับ

อนุโมทนาบุญกับทุกๆ ท่านด้วยนะครับ

 

เมื่อวานนี้(ประมาณ 18 น.)โอนเงินค่าทำบุญผ้าห่ม 1 ผืน เข้าบัญชีเรียบร้อยแล้วครับ
ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยนะครับ

 

เมื่อมีสติก็จะมีสัมปชัญญะ คือเมื่อมีสติปัญญาก็จะเกิด ทำสิ่งไรพึงใช้สติให้มาก
อย่าเอาความเห็นที่ไม่ตรงกันมาเป็นเครื่องตัดสินความผิดหรือถูก
ถูกใจเขาไม่ถูกใจเราหรือถูกใจเราไม่ถุกใจเขา มันก็พินาศทั้งสองฝ่ายอยู่ดี
ความเห็นความเชื่อส่วนบุคคลต่างฝ่ายต่างคิดว่าถูกต้องก็เท่านั้น
ความเป็นจริงมันก็มีของมันอยู่แล้ว ปล่อยให้เวลาเป็นเครื่องตัดสินและเปิดเผยความจริงเถอะ
จำคำที่หลวงปู่ใหญ่ท่านสอนเอาไว้ให้ดี สั้นๆแต่มันทำยากนะ

"อย่ายึดมั่นถือมั่น"

ปล.เอาเวลามาสร้างบุญกุศลดีกว่า คิดดี
ทำดีเถอะ โลกสรรเสริญ เทวดาพรหม
ก็รับรู้เองแหละ

ข้อความอ้างอิงจาก นายสติ

พอดีเมื่อวานจิตตกไปหน่อยโทสะ+โมหะเข้าครอบงำ วันนี้ได้อ่านข้อความเก่า ๆ เลยทำให้คิดได้ครับ

โมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านครับ
สาธุ สาธุ สาธุ

 

นับถือครับ มาครั้งเดียว ตูมเดียว บริจาคเลย "ตั้งใจมั่นมาก ศรัทธาดีมาก ไม่มีรีรอ" อย่างนี้ต้อง เตโช กสิณัง อธิษฐาณมิ เท่านั้น

​

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 align=center bgColor=#dddddd border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR bgColor=#ffffff><TD><TABLE height=30 cellSpacing=3 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD style="BACKGROUND-POSITION: right bottom; BACKGROUND-IMAGE: url(../bg/pagebg0.jpg); BACKGROUND-REPEAT: no-repeat"><TABLE height=400 align=center border=0><TBODY><TR><TD>

สุข ๔ อย่าง..ล้วนมีโทษ

พุทธองค์ ทรงดำรัส กับจุนทะ
อันความสุข ที่ควรละ มีสี่อย่าง
หนึ่ง ฆ่าสัตว์ เพื่อความสุข ควรละวาง
ไม่ควรสร้าง ไร้ประโยชน์ มิมีคุณ

ข้อที่สอง หวังครอบครอง ของคนอื่น
ด้วยความสุข ใจระรื่น คนอื่นวุ่น
ไม่กลัวบาป ไม่รู้จัก ฝักใฝ่บุญ
ใจครุกรุ่น ไม่ยอมผละ ละอบาย

ข้อที่สาม การกล่าวเท็จ คะนองปาก
สร้างปัญหา ความยุ่งยาก มากเสียหาย
มิรู้สึก ว่าสิ่งนั้น มันน่าอาย
ข้อที่สี่ ข้อสุดท้าย กามคุณ

กามคุณ ทั้งห้า ดุจโอฆะ
รูปกลิ่นเสียง โผฏฐัพพะ พาว้าวุ่น
อีกชิวหา คลุกเคล้ายั่ว กลั้วกามคุณ
หลงหมกมุ่น เพลิดเพลินไป ในธรรมดำ

สุขเหล่านี้ พระอริยะ ควรไกลห่าง
สุขสี่อย่าง นั้นขัดขวาง ปิดทางสัมม์
ดุจบ่อหลุม ปกคลุมไว้ ด้วยน้ำครำ
สุขเลิศล้ำ คือความสงบ ในภพธรรม...


พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๑ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๓
ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค

[๑๑๔]ดูกรจุนทะ การประกอบตนให้ติดเนื่องในความ
สุข ๔ อย่างเหล่านี้ เป็นของเลว เป็นของชาวบ้าน เป็นของปุถุชน มิใช่ของ
พระอริยะ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ ไม่เป็นไปเพื่อความหน่าย เพื่อความคลาย
กำหนัด เพื่อความดับ เพื่อความสงบระงับ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้เพื่อ
พระนิพพาน ๔ อย่างเป็นไฉน ดูกรจุนทะ คนพาลบางคนในโลกนี้ ฆ่าสัตว์แล้ว
ยังตนให้ถึงความสุข ให้เอิบอิ่มอยู่ ข้อนี้ เป็นการประกอบตนให้ติดเนื่องใน
ความสุขข้อที่ ๑ ดูกรจุนทะ ข้ออื่นยังมีอีก คนพาลบางคนในโลกนี้ถือเอาสิ่งของ
ที่เจ้าของไม่ได้ให้แล้ว ยังตนให้ถึงความสุข ให้เอิบอิ่มอยู่ ข้อนี้ เป็นการประกอบ
ตนให้ติดเนื่องในความสุขข้อที่ ๒ ดูกรจุนทะข้ออื่นยังมีอีก คนพาลบางคนในโลก
นี้ กล่าวเท็จแล้ว ยังตนให้ถึงความสุขให้เอิบอิ่มอยู่ ข้อนี้เป็นการประกอบตนให้
ติดเนื่องในความสุขข้อที่ ๓ ดูกรจุนทะ ข้ออื่นยังมีอีก คนพาลบางคนในโลกนี้
เป็นผู้เพรียบพร้อมพรั่งพร้อมบำเรออยู่ด้วยกามคุณทั้ง ๕ ข้อนี้ เป็นการประกอบตน
ให้ติดเนื่องในความสุขข้อที่ ๔ ดูกรจุนทะ การประกอบตนให้ติดเนื่องในความสุข ๔
ประการเหล่านี้ เป็นของเลว เป็นของชาวบ้าน เป็นของปุถุชน มิใช่ของพระอริยะ
ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ ไม่เป็นไปเพื่อความหน่าย เพื่อความคลายกำหนัด
เพื่อความดับ เพื่อความสงบระงับ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ เพื่อพระ-
*นิพพาน ฯ.....
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
บทกวีของคุณเฟื่องฟ้า
http://www.dhammathai.org/kaveedhamma/view.php?No=2224

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เช้าวันนี้ได้โอนเงินเข้าทางไทยพาณิชย์ ๖๐๐ บาท เพื่อ เป็นค่าหนังสือ ๓๕๐ บาท และ ผ้าห่ม ๒๕๐ บาท ครับ

 

พรุ่งนี้เสาร์-อาทิตย์ อย่าลืมใส่บาตรด้วยล่ะ ใส่เสร็จย้อนระลึกถึงคุณบิดา-มารดา และ ถวายเป็นกุศล แด่ "พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย" หรือ "สมเด็จพระพี่นาง" ของเรา เป็นครั้งสุดท้าย เพื่อถวายคุณความดีต่อท่านที่มีคุณความดีช่วยเหลือชาวบ้านผู้เจ็บป่วยยากไร้ในกิจกรรมของมูลนิธิ พอสว. ที่ดำเนินการให้หมู่บ้านยากจนในแต่ละจังหวัดทั่วประเทศได้รับการช่วยเหลือโดยถ้วนหน้าด้วยครับ

​

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="90%" align=center border=0><TBODY><TR><TD align=right width="70%">

</TD><TD align=right></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=10 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=maintitle vAlign=top>บุญบาปมีจริงและให้ผลจริง (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)</TD><TD class=gensmall vAlign=bottom align=right>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>


<HR>

<TABLE cellSpacing=20 width="85%" border=0><TBODY><TR><TD class=postbody vAlign=top>

บุญบาปมีจริง และให้ผลจริง นั่นก็คือกรรมมีจริง กรรมให้ผลจริง ผลของกรรมตรงตามเหตุจริง น่าจะเคยได้ยินได้ฟังกันมาแล้วนับครั้งนับหนไม่ถ้วน และก็น่าจะพากันลืมเสียสนิทอย่างนับครั้งนับหนไม่ถ้วนเช่นเดียวกัน ​

จึงพากันทำกรรมที่เป็นบาปอกุศลมิได้ว่างเว้น ลืมกลัวผลร้ายที่จะเกิดตามมา พากันเดือนร้อนด้วยผลร้ายแรงต่างๆ นานา โดยหารู้ไม่ว่านั่นเกิดแต่ตนได้ทำไว้ด้วยตนเอง เป็นการทำร้ายตนเอง มิใช่มีใครมาทำร้ายรังแกอย่างเป็นที่เข้าใจอยู่ทั่วไป ​

พาให้ก่อกรรมอันเป็นบาปอกุศลเพิ่มขึ้นไม่รู้จบสิ้น ด้วยการคิดตอบโต้ผู้ที่คิดว่าเป็นผู้ทำร้านตนทั้งที่ความจริงทุกคนที่ได้รับความทุกข์ความเดือดร้อน หนักบ้างเบาบ้าง จากเหตุนั้นเหตุนี้หาใช่เป็นเหตุที่ผู้อื่นทำทั้งสิ้น ตนเองทำตนเอง แต่อาจมิใช่ในภพภูมิปัจจุบันที่จำได้ อาจเป็นภพภูมิในอดีตที่นานไกล ซึ่งไม่อาจระลึกรู้ได้ กลายเป็นผู้อื่นทำเราทั้งนั้น การตอบโต้ให้หายเจ็บแค้นจึงเกิดตามมาไม่จบสิ้นเป็นเวรเป็นกรรมต่อกันไม่รู้แล้ว ​

กรรมหมายถึงการกระทำ ๓ ประการ คือ
การกระทำทางกาย คือใช้ไม้ใช้มือ
การกระทำทางวาจา คือพูด
การกระทำทางใจ คือคิด ​

ทำดีพูดดีคิดดีคือกรรมดี ทำชั่วหรือทำไม่ดี พูดชั่วหรือพูดไม่ดี คิดชั่วหรือคิดไม่ดีคือกรรมชั่วหรือกรรมไม่ดี ส่อแสดงให้เห็นจิตใจของผู้ทำดี ผู้พูดดี ผู้คิดดี ว่าเป็นผู้มีจิตใจดี และส่อแสดงให้เห็นจิตใจของผู้ทำไม่ดี ผู้พูดไม่ดี ผู้คิดไม่ดี ว่าเป็นผู้มีจิตใจไม่ดี นี้เป็นความจริง ​

ปราชญ์ท่านจึงกล่าวว่า ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน ทุกสิ่งสำเร็จด้วยใจ สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงภาษิตไว้ มีความว่า “โลกถูกจิตนำไป ถูกจิตชักไป สัตว์ทั้งปวงอยู่ในอำนาจแห่งจิตอย่างเดียว” ​

ประโยชน์หรือวลีที่แทบทุกคนเคยเอ่ยปากพูด หรือไม่ก็เขียน หรือไม่ก็กราดเกรี้ยวอยู่ในใจ ก็คือไม่ได้อย่างใจเลย ไม่ได้ดังใจจริงๆ แสดงถึงจิตใจของผู้คนส่วนใหญ่ หรือไม่ก็ของผู้เป็นปุถุชนทั้งปวงว่า ไม่ตั้งใจให้เป็นเหตุตรงตามที่ปรารถนาให้เกิดผล เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ต้องไม่ได้อย่างใจ ​

ดังที่เอยปากรำพันกันอยู่เป็นประจำ แทบจะไม่มียกเว้นเลยสักคน แม้ต้องการผลอย่างใด ต้องทำเหตุให้ตรง จึงจะได้อย่างใจ และทุกคนแน่นอนที่ต้องการแต่อะไรๆ ที่ดีที่งามทั้งนั้น เพื่อให้สมหวัง ให้ได้อย่างใจ จึงต้องทำเหตุที่ดีที่งาม ไม่เช่นนั้นก็ต้องผิดหวังต้องไม่ได้อย่างใจตลอดไป ​

ผลย่อมเกิดแต่เหตุ แน่นอนเสมอ ทำเหตุใดย่อมได้รับผลนั้น ตรงตามเหตุที่ได้กระทำแล้ว จะไม่เกิดผลที่ไม่ตรงตามเหตุที่ได้กระทำและไม่มีผลใดเกิดแต่เหตุที่ไม่ได้กระทำแล้ว และไม่มีเหตุใดที่ได้กระทำแล้วจะไม่ส่งผลให้เกิดตรงตามเหตุที่ได้กระทำ กล่าวสั้นๆ ดังปรากฏในพระพุทธศาสนา ที่ได้ยินได้ฟังกันแทบทุกเวลาก็คือ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว แน่นอนเสมอไป ​

: ทำบุญแผ่นดินไทย ๒๕๔๕
: สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

 

จริยธรรมและอำนาจ
<HR>
<TABLE cellSpacing=20 width="85%" border=0><TBODY><TR><TD class=postbody vAlign=top>

จริยธรรมและอำนาจ

อำนาจ เป็นคำกลางๆ
หมายถึง ความสามารถของบุคคล
ที่จะทำให้บุคคลอื่นปฏิบัติตามความต้องการของตน

ถ้าเป็นระดับหน่วยงาน

อำนาจของผู้นำ
คือความสามารถของผู้อื่นที่จะทำให้คนอื่นๆ ในหน่วยงานนั้น
ทำตามความต้องการของตน

อำนาจจึงเป็นเรื่องที่มีทั้งคุณธรรมและไม่มีคุณธรรม

การใช้อำนาจที่มีคุณธรรมไม่ใช่เป็นเรื่องเพื่อประโยชน์ของตนเอง
หรือเพื่อความยิ่งใหญ่ของตน
แต่เพื่อประโยชน์ของตนเอง หรือเพื่อความยิ่งใหญ่ของตน
แต่เพื่อประโยชน์ของผู้อื่น หรือของหน่วยงาน

อำนาจหน้าที่ เป็นเรื่องของสิทธิในการใช้อำนาจที่มีอยู่
ตามหน้าที่ที่กำหนดไว้ในหน่วยงาน
จึงมีทั้งความชอบธรรมและไม่ชอบธรรม
เพราะอาจขัดแย้งกับคุณธรรมหรือจริยธรรม
จึงเป็นเรื่องที่ไม่ถูกหลักจริยธรรมเสมอไป

อิทธิพล มีความหมายคล้ายคลึงกับอำนาจ
แต่มักใช้ในเรื่องของความสามารถ
ที่จะโน้มน้าวชักจงให้ผู้อื่นปฏิบัติตามได้ทั้งดีและเลว

แต่ไม่ใช่เป็นความสามารถในการบังคับโดยใช้เป็นเครื่องมือ
หรือวิธีการเปลี่ยนแปลงทัศนคติและพฤติกรรมของบุคคล

ดังนั้น ผู้ใดที่มีทั้งอำนาจและอิทธิพล
จึงสามารถผลักดันให้ผู้อื่นปฏิบัติตามได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ยากที่ผู้อื่นจะต้านทานได้เป็นความเลวที่มีระดับ

ปัญหาทางจริยธรรมเกิดขึ้นเมื่อมีการใช้อำนาจไปในทางที่ผิด
เช่น สร้างความยิ่งใหญ่ให้กับตนเองเพื่อประโยชน์แก่ตนเอง
มากกว่าผู้อื่นโดยไม่ชอบธรรม

ผู้บริหารสามารถใช้อำนาจอย่างมีจริยธรรมได้อย่างไม่ยาก
ถ้าคำนึงถึงแนวทางของ ความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
และถ้ามี ขันติ และโสรัจจะ ด้วย
ก็จะก้าวสู่ตำแหน่ง ผู้นำในฝัน ได้อย่างสบาย ...สบาย


ที่มา..... ​

 

สมุนไพรไทย สูตรป้องกันรังแค


รังแคเป็นอาการผิดปกติที่อยู่ใกล้ตัวที่สุด แชมพูสระผมนั้นมีมากมายแต่บางยี่ห้อไม่ช่วยกำจัดรังแคเลย สู้สูตรนี้ไม่ได้ถูกตังค์ที่สุดและยังได้ผลดีที่สุด
ให้ไปซื้อกำมะถันจากร้านเครื่องยาไทยเอามาบดให้ละเอียดเป็นผงตอนเช้าก่อนไปทำงานก็เอากำมะถันผงผสมกับน้ำมันใส่ผมของคุณนั่นแหละใส่ไปสักอาทิตย์ก็รู้ผลครับ แต่อย่าลืมสระผมบ่อยๆนะครับ

เก็บสาระดี ๆ เกี่ยวกับสุขภาพมาฝากกันครับ
;aa13

 

สรุปยอดบริจาคผ้าห่มให้กับโรงพยาบาลสงฆ์ที่อำเภอปัว โรงพยาบาลที่สกลนคร ของหลวงปู่แฟ๊บ และ โรงพยาบาลที่อำเภอแม่สอด ทั้งหมดจำนวน 62 ผืน



บ่ายนี้จะโอนเงินให้กับโรงพยาบาลที่อำเภอปัว เพื่อไปซื้อผ้าห่มจำนวน28ผืน วันเสาร์หรืออาทิตย์นี้เพื่อนผมจะนำผ้าห่มที่เหลืออีก28ผืนไปถวายกับหลวงปู่แฟ๊บที่วัด ในจังหวัดสกลนครด้วยตนเองพร้อมทั้งเครื่องดูดเสมหะอีก 2 เครื่อง และโอนเงินไปให้กับโรงพยาบาลที่อำเภอแม่สอดอีก 6 ผืน

จำนวนราคา250บาทต่อผืนทางคณะกรรมการประเมินไว้เป็นผ้าห่มขนหนู แต่ทางโรงพยาบาลปัว และแม่สอด บอกว่าตอนนี้หนาวมากอาจต้องซื้อผ้าอย่างหนาจึงแพงขึ้น ในส่วนนี้ก็แล้วแต่ทางโรงพยาบาลปัว และ แม่สอด จะพิจารณา จึงขออนุญาตเรียนมาให้ทุกๆท่านที่บริจาคทราบว่า อาจได้จำนวนผืนเท่าเดิม หรือน้อยลงแต่หนาและอุ่นขึ้น เป็นประโยชน์สูงสุดสมดังเจตนาทุกๆท่าน

ขอโมทนาทุกๆท่าน สาธุ สาธุ

 

สำหรับที่ รพ.แม่สอดนี้ เดิมทีไม่ได้เช็คไป แต่พอนึกได้ เลยโทร.ไปที่ หอสงฆ์ ก็เพิ่งได้รับทราบว่าหนาวเหมือนกัน แต่เนื่องจากมีพระยังไม่มาก จึงใช้น้อยผืนหน่อย (ตามสุขลักษณะ หากพระสงฆ์ต้องนอนพักนานๆ รพ.จะเปลี่ยนผ้าห่มให้ทุก 7 วัน ตอนนี้มีพระชาวพม่าอยู่เพียง 2-3 รูป เท่านั้น จึงยังพอไหว สำหรับผ้า 6 ผืน นี้ครับ) ยังไงก็แล้วแต่ หมดไปอีก ภารกิจหนึ่งแล้ว สำหรับ ผ้าห่มหนาว "ฮีตเดือน 11" คงเหลือภารกิจ "ช่วยรักษาสะพานบุญ" โดยการบริจาคซื้อ server ให้กับ พลังจิต ยังไง ช่วยชื้อหนังสือให้ด้วยครับ เงินที่ได้จากการซื้อหนังสือครบ 7 เล่ม เราจะรีบโอนไปช่วยทันที (ตอนนี้น่าจะได้ 3 หรือ 4 เล่ม แล้ว) หนังสือ "ปู่เล่าให้ฟัง ฉบับสมบูรณ์" นี้ สำหรับผู้ที่ไม่เคยอ่านมาก่อนเลย จะดีทีเดียว มีทั้งเรื่อง ทั้งอิทธิฤทธิ์ ในการเสกพระอยู่มาก ทำให้เห็นว่าเรื่อง "จิต" นั้นเป็นของสูง ยิ่งนำ "จิต" ที่มีพลังมาฝึกจนเกิดเป็นอภิญญาฤทธิ์นั้น สามารถ แสดงปาฏิหารย์ที่เรียกว่า "ฉฬภิญญา" แปรเปลี่ยนได้นานับประการ ผู้ที่มีความสามารถตรวจพลังพระได้อย่างถึงแก่นนั้น มีน้อยเต็มที ซึ่งเรื่องนี้บางตอนมีเขียนไว้ ลองหาซื้อนำไปอ่านไว้เป็นความรู้กันครับ แค่เห็นภาพประกอบ ผมว่าก็พอคุ้มราคาแล้ว ยังไงจองไปที่นายสติ ก็แล้วกัน ครับ จะได้รีบจัดส่งให้ ไม่งั้น สั่งที่หลัง พอตามบริษัทห้างร้านต่างๆ ทยอยส่ง ส.ค.ส กันช่วงปลายปีแล้ว อาจจะเสียหายหรือสูญหาย ได้ครับ

พันวฤทธิ์
21/11/51

 

ผมได้โอนแล้ว 7000.01 บาท

และขอขอบคุณพี่โสระ ออกให้ก่อน 500.00 บาท

รวมเป็น 7,500. บาทครับ จำนวน 30 ผืน

หรือจำนวนน้อยกว่านี้ เพื่อคุณภาพที่สุงขึ้นก็สุดแท้แล้วแต่ครับ

เพื่อความเหมาะสมครับ


ถามท้ายถ้าท่านอาจารย์ กับเจ้าพร ทั้งสองท่านให้รวมกันเกิน 500.- บาท
ในส่วนที่พี่โสระออกให้ก่อนเนี้ย ผมก็รับนะครับ

ไม่อยากขัดศรัทธาเขา แต่จะบอกว่าส่วนเกินเข้าทุนนิธิละกันครับ

และขอขอบคุณในน้ำใจของพี่โสระครับ


แต่ถ้าทั้งสองท่านให้น้อยกว่านี้(500.-) ส่วนขาดเหลือ พี่โสระก็ออกให้

ก็ขอขอบคุณเช่นกันครับ

สาธุครับ

 

โอนเงินให้แล้วครับ 21/11/51 500 บาทครับ อนุโมทนาบุญกับทุกๆ ท่านครับ

 

วันนี้ เวลา 13.12 ออกไปโอนเงิน 500.-บาท เพื่อร่วมบุญ
ผ้าห่ม 1 ผืน 250.-
สมทบเครื่องดูดเสมหะ 200.-
ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ของทุนนิธิฯ 50.-

ไม่รู้ว่าจะทันเวลา หรือไม่
ถ้าไม่ทันยังไง เงินจำนวนนี้ ทุนนิธิฯ เห็นชอบดำเนินการยังไง ก็ขอร่วมบุญด้วยครับ

ขออนุโมทนา สาธุ

ปล. ผมโอนเข้าบัญชี คุณ พลภัทร (กสิกรไทย)