ใครเคยคิดบ้างมั้ยว่า โลกนี้ไม่มีอยู่จริง เป็น Matrix ต่างหาก

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย gibzilla, 20 สิงหาคม 2005.

  1. gibzilla

    gibzilla สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    คำสอนในศาสนาพุทธเคยบอกอะไรทำนองนี้แฝงอยู่ในเนื้อหา
    แต่ดูเหมือนยังไม่มีใครตีโจทย์แตกว่า
    สิ่งที่พระพุทธเจ้า
    ที่เป็น ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
    รู้อะไร ตื่นจากอะไร แล้วเบิกบานเพราะอะไร

    หรือว่า
    แท้จริง โลกนี้ สิ่งต่างๆ จักรวาลไม่มีอยู่จริง

    เป็นแค่ Virtual Reality ซึ่งมีบางคนเท่านั้นที่ทราบ และออกจาก Virtual Reality นี้ได้

    การเวียนว่ายตายเกิด นรก สวรรค์ แท้จริงก็คือการวนลูปของตัวแปรต่างๆ

    มีใครเคยคิด หรือ มีแนวคิดแบบนี้บ้างมั้ยคะ

    โลกนี้แท้จริง เราอยู่ ไม่มีจริง เราเองก็ไม่มีจริงเช่นกัน
     
  2. NaCl

    NaCl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +289
    ก็อย่างน้อย คนสร้าง The Matrix ก็คิดก่อนแล้วละ
     
  3. bassate

    bassate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +601
    ผมชอบแนวคิดจาก the Matrix มากๆ คือ เค้าเปรียบเทียบระบบ matrix เหมือนกับ ระบบของ สัจธรรม หลังความตาย และ เบื้องหลังมิติโลก เบื้องหลังมิติแห่งจักรวาล ประทับใจจริงๆคับ ช่างคิดซะ โลกเรายังไงก็เป็นโลกขี้ฝุ่นขี้ดินนี่แหละคับ ไม่ใช่ matrix แต่อย่างใด โลกเราเป็นธาตุ และ พลังงานคับ
     
  4. ^ ^

    ^ ^ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    570
    ค่าพลัง:
    +1,279
    ก็หลัก อนัตตา ไงครับ
    หลายๆ ความเชื่อศาสนา ก็บอกไว้เหมือนกันว่า
    ก่อนที่จะมี ตัวเรา และ สรรพสิ่ง ไม่เคยมีอะไรมาก่อน อ่ะ

    ให้จินตนาการ เล่นๆ ว่าคุณคือเชื้อโรคตัวหนึ่ง
    ที่ลอยอยู่กลางฮอลล์ อินดอร์สเตเดี้ยม
    ในคืนวันที่ไม่ได้เปิดใช้งาน แล้วจะเห็นภาพครับ

    และพระพุทธเจ้าท่านสอนมากกว่านั้นอีกนิด คือ
    ถึงจะไม่มีตัวตนของอะไร แต่มันก็มี 4 สิ่งนี้อยู่
    1.จิต 2.เจตสิก 3.รูป 4.นิพพาน

    การทำงานระหว่า จิต+เจตสิก<-->รูป
    มันก็เหมือนเราอยู่ในโปรแกรม Matrix น่ะแหละครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มกราคม 2009
  5. เจ้าโก้

    เจ้าโก้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2005
    โพสต์:
    1,223
    ค่าพลัง:
    +939
    ถ้าระบบสุริยจักรวาลของเรา มีขนาดเท่ากับถ้วยกาแฟ กาแล็กซี่ทางช้างเผือกของเรา(เส้นผ่านศูนย์กลาง~แสนปีแสง)จะมีขนาดเท่ากับทวีปอเมริกาเหนือ....
     
  6. c_nopadol

    c_nopadol สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    นั่นนะซิ ถ้าความตายเป็นการตื่นจากฝันล่ะ แล้วตัวตนจริงๆของเราคืออะไร
     
  7. Gaze from Darkness

    Gaze from Darkness สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +20
    ............................
     
  8. penkonthai

    penkonthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    64
    ค่าพลัง:
    +129
    งืมม เคยคิดเหมือนกันว่า ตอนนี้เรากำลังฝันอยู่ ถ้าอยากตื่นก็คงตอนตาย แต่ว่ามันเป็นฝันที่นานจริงๆ คิดไปคิดมา ก็เริ่มอึดอัด เลยไม่คิดดีกว่า เหะๆ
     
  9. nnn

    nnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2005
    โพสต์:
    314
    ค่าพลัง:
    +1,298
    สรรพสิ่งล้วนแตกดับเป็นสัจธรรมครับ..............
     
  10. webchit

    webchit สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +11
    ถูกต้องของคุณครับ

    จริงๆแล้ว สิ่งที่เราเห็นอยู่นี้ประกอบไปด้วยอะตอมธาตุต่างๆ ที่เกิดจากการรวมตัวกันของกระแสไฟฟ้า (อะตอมเกิดจาก อิเล็กตรอน+โปรตรอน+นิวตรอน=กระแสไฟฟ้า)

    สิ่งต่างๆ เช่น โลกนี้ , ต้นไม้ , แม่น้ำ , คน , สัตว์ ล้วนตกอยู่ในสภาวะที่เกิดจากการรวมตัวกันของกระแสไฟฟ้าทั้งสิ้น
    การที่คนเรารัก ชอบ มีกิเลส มีโลภ โกรธ หลง ก็เพราะความเปลี่ยนไปของกระแสไฟฟ้าในตัว หรือกินอาหารแล้วบอกอาหารอร่อย เพราะว่าเป็นที่กระแสไฟฟ้ามันก่อให้เกิดรสชาติ รูปร่าง ที่ชวนมองชวนกิน

    ถ้าเราตาย ไอ้ตัวกระแสไฟฟ้ามันก็ไม่ตายด้วย มันจะอยู่ในรูปพลังงานไฟฟ้าที่ไม่มีตัวตนมองไม่เห็น เรียกว่าวิญญาณ อีกตะหาก เป็นอมตะ

    ถ้าเราไม่อยากเกิดมารับรู้ความทุกข์อีก เราต้องสลายกระแสไฟฟ้าที่เป็นอมตะนี้ให้หายไปเสีย เรียกว่า นิพพาน เป็นการทำลายทุกอย่างที่จะเกาะเกี่ยวกันให้เป็นรูปเป็นร่างมาใหม่ เรียกว่าทำลายพลังงานไฟฟ้าไม่ให้เกิดขึ้นได้อีก เรียกว่าเข้านิพพานแหละครับ

    ทฤษฎีเดียวกันแหละครับกับหนังเรื่อง Metrix แต่คนเรามักจะมองข้ามไป นี่ถ้าฝรั่งเรียนและนับถือพระพุทธศาสนาเหมือนอย่างเราๆ นะ ผมว่าตอนนี้คงได้สำเร็จมรรคผลกันบ้างแล้วล่ะ
     
  11. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,291
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,002
    ไม่มีอะไรในโลกนี้เลยครับเเม้เเต่ตัวเรา ที่มีอยู่คือเเค่ดวงจิตของเราครับ
     
  12. karain

    karain เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    640
    ค่าพลัง:
    +707
    ก็อาจเป็นไปได้ครับ
     
  13. kwamawauyo

    kwamawauyo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    499
    ค่าพลัง:
    +64
    ขอบคุณสำหรับข้อมูลคะ
     
  14. aonlin

    aonlin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2006
    โพสต์:
    200
    ค่าพลัง:
    +1,608
    เคยคุยกันกับพี่ชายเหมือนกัน ว่าสิ่งต่างๆนี่มันเป็นการรวมตัวกันของพวกอนุภาค ซึ่งเมื่อย่อยๆไปเรื่อยๆสุดท้ายเป็นเหมือนความว่างเปล่า คือเหมือนเรารวมตัวจากความว่างเปล่า ถ้าไม่มีกิเลศความยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นตัวกูของกู ทุกอย่างคงไม่มีความหมายอะไร บางทีการทีเรามองลึกไปถึงกระบวนการเกิดของจิต อาจทำให้เราเห็นได้ชัดว่าจริงๆทุกสิ่งล้วนเป็นอนัตตา ไม่มีตัวตนไม่ควรที่จะไปยึดมั่นถือมั่น
     
  15. Orora416

    Orora416 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +112
    สิ่งต่างๆ ที่อยู่บนโลกนี้ ล้้วนประกอบไปด้วยธาตุ
    แล้วเราก็มาสมมติ ตั้งชื่อเรียกแทนสิ่งต่างๆ เพื่อให้เป็นที่เข้าใจใช้ร่วมกัน
    ถ้าถามคำถามนี้กับผู้ที่บรรลุธรรม เป็นอริยบุคคลแล้ว
    ใครเคยคิดบ้างมั้ยว่า โลกนี้ไม่มีอยู่จริง

    ก็จะได้คำตอบว่า "โลกนี้ไม่มี กายนี้-ใจนี้ไม่ใช่เรา"

    แต่ก็เป็นการยากที่เราจะเข้าใจได้ด้วยการคิดเอา
    เพราะสิ่งนี้เป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนือจากการปรุงแต่ง

    ____________________

    วาทะ หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ ผู้สอนสมาธิแบบเคลื่อนไหว

    "การที่ให้มารู้อยู่กับจังหวะมือนี้
    เป้าหมายก็เพื่อจะให้มัน
    เข้าไปรู้ใจ ที่มันนึกมันคิดโน่น ....เพราะตัวรู้สึกนี้ เมื่อมันมีมากขึ้นๆ
    มันจะไปรู้ความคิด ไปทันความคิด
    รู้คิดกับเห็นคิด มันคนละอันกันนะ
    เมื่อเรารู้เราเห็น เท่าทันมันแล้ว
    มันก็จะไม่ถูกปรุง
    มันก็ไม่เป็นเรื่องยืดยาว...
    ....มันคิดมาก เราก็จะรู้มาก
    เท่าทันกันเข้าๆ
    เมื่อมันทันกันเข้า ถึงที่สุดแล้ว
    เหมือนฟิวส์ไฟฟ้านี้ ขาดปุ๊ดออกไปเลย
    หรือเหมือนเชือกไนล่อน
    ที่เราดึงตึงๆแล้วตัดตรงกลาง
    เชือกมันจะขาดสะท้อนไปสู่หลักเดิม... ....อันนี้ก็เช่นเดียวกัน
    จิตของเราจะไม่ถูกปรุง
    อันนี้เรียกว่าการเกิดดับแบบปรมัตถ์..."



     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มกราคม 2009
  16. dont_worry

    dont_worry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +1,221
    สาธุ ขอบคุณค่ะ
     
  17. nuttadet

    nuttadet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +6,454
    เคยได้ยินว่า the matrix นี่ได้พล๊อตมาจากพุทธทางทิเบต นะ เนื้อเรื่องก็เลยคล้ายๆ มี พระโพธิสัตว์ หรือ the one
     
  18. อบ.

    อบ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    430
    ค่าพลัง:
    +1,538
    มาดูว่าใครเคยคิดไหม

    ตอนเด็กๆเราเคยคิดล่ะว่า

    ทุกอย่างในชีวิตเราเป็นเพียง set up

    เหมือนคิดว่ามันอาจจะมีโลกที่เหนือโลกนี้อีก

    แต่ไม่เคยเล่าให้ใครฟัง เพราะเด็กๆ อธิบายไม่เป็น

    อะไรก็ช่างเถอะ ภาวนาไป เดี๋ยวรู้เองล่ะนะ

    ขอให้เจริญในธรรมทุกคนค่ะ
     
  19. จันทร์เจ้า

    จันทร์เจ้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    830
    ค่าพลัง:
    +1,948
    ผมคิดว่าสาเหตุที่เราไม่รู้ว่าโลกนี้เป็นสิ่งลวง
    เพราะเราไม่เคยสัมผัสสิ่งที่จริงกว่าเท่านั้น
    สัจธรรมที่ว่านี้ต้องใช้ปัญญาในการมอง
    เพราะหากใช้กิเลสมองแล้วจะมองไม่เห็น
     
  20. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    [MUSIC]mms://61.19.249.111/home1_j/contentlibrary/musicdb/wm_0/5/52557.wma#0;1.000;0;0;1:2[/MUSIC]
     

แชร์หน้านี้

Loading...