มือใหม่ งง

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธราพงษ์, 21 มกราคม 2009.

  1. ธราพงษ์

    ธราพงษ์ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2009
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +0
    เอาความรู้สึกจับลมหายใจกับตามดูลมมันต่างกันยังไงครับ ผมทำแล้วมันก็เหมือนกัน แล้วตกลงจะทำยังไงดีนะ ตามดูลมนี่ให้รู้แค่ว่ามันไหลเข้าและไหลออกใช่ไหมครับ ไม่ต้องตามดูว่ามันไปถึงไหนหรือไปกระทบส่วนฐานไหนอย่างนั้นใช่ไหม
    ผมนั่งดูลมเกือบ 3 ชม ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้นเลยมาถูกทางหรือผิดครับเนี่ย ผมนั่งมาเกือบปีไม่มีอะไรคืบหน้าเลย ช่วยแนะนำหน่อยครับบบ เริ่มที่จะท้อแล้วละ ผมอธิษฐานทุกครั้ง ว่าอย่างเห็นอุปจารสมาธิถ้ามีบุญจริงขอให้ได้สัมผัสด้วยเถอะ สาธุ
     
  2. นายเมธี12

    นายเมธี12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +540
    ดีแล้วคับ

    ปฏิบัติไปเรื่อยๆจะแยกพิจารณา ออกครับ ว่าอันไหน ไหลเข้า ไหลวน ถึงไหน หรือ กระทบ

    ตอนแรกๆ ให้กำหนด หายใจเข้า รู้ ว่ากำลังมีลมหายใจเข้าไป หาย ใจออก รู้ ว่ากำลังมีลมหายใจออกไป หายใจเข้ากำหนด คำว่า พุธ(หรือ นะมะ) หายใจออก กำหนดคำว่า โธ(หรือ พะทะ)

    ดีแล้วครับทำต่อไปเรื่อยๆ แล้วก็จะพิจารณาออกครับใจจะได้เป็นสมาธิ
    อนุโมทนาสาธุ คับ
     
  3. ศนิวาร

    ศนิวาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    7,337
    ค่าพลัง:
    +17,632
    ถ้าจะให้ดีก็กำหนดลมสามฐาน คือกระทบปลายจมูก กลางทรวงอก และเหนือสะดือ ท่านว่าได้สมาธิเร็วกว่าตามลมเข้า-ออกเฉยๆครับ
     
  4. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ก่อนอื่นนะครับ ให้ทำใจลืมเรื่องระยะเวลาที่เคยทำมา อย่าไปทดสะสมจำนวนเวลาไว้
    ตัวนั้นจะทำให้เรากังวลได้ ให้ทำเหมือนพึ่งนั่งดูลมตะกี๋เอง แล้วค่อยๆ มาดูกันว่าได้
    อะไรบ้าง

    เริ่มจาก การดูลม 3 ชั่วโมง

    เอาง่ายๆ เลย เมื่อก่อนไม่เคยดูลมเลย วันนี้นั่งปฏิบัติดูลมได้ตั้ง 3 ชั่วโมง
    เห็นลมเข้าออกได้ตั้งหลายครั้ง หากคำนวณเล่นๆ ก็ตามดูได้ 10800 ครั้ง
    ดูได้ตั้งเยอะ จากไม่เคยสนใจดูมันเลย

    ต่อไป ก็ดูอย่างเดิมแหละครับ ซึ่งผมว่า คุณก็เคยเห็นแล้ว พอดูลมได้สักพัก
    จะเริ่ม เห็นความอึดอัด ความสงสัยว่าทำถูกไหม ความอด ความทน ขันติ
    การเล็งเห็นผล การคาดคะเนผล การอธิษฐานในผล การไม่สมหวังในผล ซึ่ง
    มันปรากฏมากกว่า การรู้ลมตั้ง 10800 ครั้ง ซึ่งอารมณ์เหล่านี้ ก็ไม่เคยสนใจ
    จะดูมาก่อน ก็คล้ายๆ ไม่เคยสนใจดูลม

    ต่อไป ก็ดูลมอย่างเดิมแหละครับ แล้วก็คอยดูอารมณ์ที่มันผุดแทรกการรู้อยู่ที่ลม
    ดูการเคลื่อนไปของจิตที่จดจ้องลมอยู่ วิ่งไปมีอารมณ์สงสัยที ขันติที อธิษฐานที
    เห็นความคิดที หงุดหงิดที ดูจิตมันไหลไหลมา จะเห็นว่า มันไปของมันเอง
    หากเราจับการดูลมไว้ไม่แน่นเกินไป จิตมันก็จะไหลออกไปคิด นี่ก็จะเริ่มเห็น
    สิ่งที่เรียกว่า จิตมันไหลไป จิตมันตกข้างหลง มีโมหะมูลจิตเกิดขึ้น พอมันไหล
    ไปเราก็ระลึกรู้ว่า โมหะเกิดขึ้น เราดึงกลับมาอยู่ที่ลมได้สักแป๊ปก็ไหลไปอีก

    ทำแบบนี้ ก็จะเริ่มเห็น จิตมันไหลไป เพิ่ม จากที่ไม่เคยดูจิตมันไหลไป


    ต่อไปก็ทำต่อครับ ดูลมต่อ ดูอารมณ์ที่เกิด ดูจิตมันไหลไป แล้วค่อยๆ
    ระลึกการเกิดสภาวะเหล่านั้นโดยที่ไม่แทรกแซง ไม่จับจ้อง เพ่งจนแน่นจน
    จิตไม่ขยับเลย ไม่มีอะไรเกิดเลย เพราะจับลมนิ่งเกินไป ก็ดูไปอย่านี้จนกว่า
    จิตจะจดจำ สภาวะธรรม เหล่านั้นได้ ก็จะเกิดการตั้งมั่นในการ รู้ตามลม รู้ตาม
    อารมณ์ที่ผุด รู้ตามการไหลไปของจิต ตรงที่จิตระลึกรู้ ตรงนั้นคือส่วนของสัมมาสติ
    ซึ่งจะเป็นเหตใกล้ให้เกิดสัมมาสมาธิ คือ ตั้งมั่นในการรู้ โดยไม่เข้าไปแทรกแซง
    การหายใจ การดับอารมณ์ การควบคุมไม่ให้จิตไหล ไปเผลอทำให้มันเที่ยง แทนที่
    จะดูความไม่เที่ยงของจิต(ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา) เมื่อเห็นความไม่เที่ยงของจิต
    ตามความเป็นจริงเพราะ จิตเราตามรู้ได้อย่างตั้งมั่น ก็จะเกิดความเป็นกลางด้วยปัญญา
    เล็งเห็นสภาวะธรรม เกิดดับ มีสภาพตกใต้กฏสามัญลักษณ์ มีสภาวะไตรลักษณ์ ไม่เที่ยง
    เป็นทุกข์ บังคับไม่ได้ อยู่ตลอดเวลา ก็จะเข้าใจได้ถึง อริยสัจจแห่งจิต จากที่ไม่เคย
    ตามรู้ตามดูมาเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มกราคม 2009
  5. ritta

    ritta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    214
    ค่าพลัง:
    +228
    เอ่อ ...พูดตรงๆนะ ชอบคุณ นิวรณ์ ,บุคคลทั่วไป3 ตอบปัญหาอ่ะ ...ติดตามมานานแล้ว
     
  6. วง

    วง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    339
    ค่าพลัง:
    +437
    อยากจะถามผู้รู้ว่าเวลานั่งสมาธิแล้วเห็นแสงสีต่างๆ เช่นสีม่วง มันคืออะไรครับ
     
  7. nuttadet

    nuttadet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +6,454
    ตามนี้เลยครับ พอได้ สามฐานแล้ว ให้ทำแบบไร้ฐาน ตามดูลมตลอดสาย
    ไปเลย เห็นสายลมเป็นเหมือนแพรไหม ค่อยๆ เคลื่อนที่จากจมูกผ่านไป
    ยังหลอดลม หน้าอก ท้องน้อย แต่เวลาที่ดูลม อย่าับังคับลมนะครับให้
    หายใจปกติ จะสั้น จะยาว จะเร็ว จะช้า ก็ปล่อยไปครับ เราแค่ตามดูรู้
    ลมหายใจพอ

    ถ้าทำแล้วจิตเย็นสบาย โล่งโปร่ง แสดงว่า ใช้ได้ครับ แต่ถ้ายังไม่สบาย
    ยังแน่น ติดๆ ขัดๆ เหมือนฝันๆ แสดงว่าต้องปรับอารมณ์ให้เบาขึ้นครับ
    ลองกลับไปทำดูใหม่นะครับ
     
  8. dadeedaa

    dadeedaa Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +69
    พยายามทำต่อไปค่ะ ต้องมีสักวันที่สมหวัง แต่ที่สมหวังและได้แน่ๆแล้วคือสมาธิ
    และกุศลจิต ขอเอาใจช่วยนะค่ะ เมื่อก่อนเราก็สนใจแต่ผลของการนั้งแบบหลงผิดๆ
    เลยไม่ไปไหนก็อยู่แค่นั้น ตอนนี้ตั้งใจให่มละค่ะ มาพยายามกันนะค่ะเอาใจช่วยค่ะ
     
  9. หาธรรม

    หาธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,164
    ค่าพลัง:
    +3,739
    อย่าเพิ่งท้อ ถ้าไม่ท้อ และถูกแนวทาง ย่อมได้ฌานในอัปนาสมาธิ

    ลองทำแบบนี้ดู

    1. ขั้นเตรียมการเพื่อให้ใจนั้นสงบเยือกเย็นโดยการ ทำทานหรือทำบุญ รักษาศีล 5 ให้บริสุทธิ์ พยายามแผ่เมตตา อย่าโกรธเคืองใคร และที่สำคัญต้องละจากกามเมถุน การเสพเมถุนจะด้วยยวิธีใดก็ตาม จะทำเอง หรือกะใครก็ตาม เมถุนมันเป็นข้าศึกกับฌาน และฌาณ แม้ปิติในฌาน 2 ก็สามารถระงับกามได้อย่าเลิศ

    2. ก่อนนั่งคือต้องวอร์มเครื่องนิดนึงเพื่อให้ใจน้อม

    สวดมนต์สักเล็กน้อย เช่น นะโม ฯ 3 จบ และอระหังสัมมา ... ไปจนจบ จากนั้นถ้าอยากสวดอะไรก็สวด พอสมควร สุดท้ายต้องแผ่เมตตา โดยแผ่กระแสเมตตาแบบให้ทั่วโดยไม่มีประมาณคือไม่ต้องเจาะจงว่าใครจะรับ

    3. นั่งขัดสมาธิหาเบาะรองนั่งหลังตรงเบาะหรืออาสนะควรนิ่มพอควรเพื่อให้เลือดเดินได้สะดวก คือไม่ทับเส้น จากนั้นหลับตา และละหรือปล่อยความอยากรู้อยากเห็นอยากได้อยากมีทุกอย่างให้หมด อยากได้สมาธิก็ห้ามคิด และให้ทำต่อไปดังนี้

    3.1 หายใจเข้ายาวลึกก็รู้ หายใจออกยาวก็รู้ ทำไปเรื่อย ๆ สักห้าถึงสิบครั้ง หรืออาจมากกว่านี้ก็ได้ เพียงแต่หายใจเข้าลึกก็รู้หายใจออกลึกก็รู้ (หายใจเข้าบริกรรมว่าพุทธ หายใจออกบริกรรมว่าโท) ยังไม่ต้องกำหนดว่าลมเข้าออกที่ปลายรูจมูกหรือไม่

    3.2 เมื่อผ่านไปการหายใจเข้า-ออกจะสั้นลงเอง หายใจเข้าสั้นก็รู้ หายใจออกสั้นก็รู้ บริกรรมพุทธ และโธ ไปด้วย ทำไปให้มากที่สุด จนกระทั้งการหายใจสั้นลงและแผ่วเบาลงเรื่อย ๆ เรารู้ตัวอยู่ คำบริกรรมก้ยังอยู่แต่เริ่มแผ่วไป

    3.3 เมื่อลมแผ่วเบาแล้วให้รู้กองลม คือ ให้รู้ตำแหน่งลมเข้า-ออกที่ปลายรูจมูก ตามรู้เฉย ๆ ตามไปเรื่อย ๆ คำบริกรรมจะเริ่มหายไป ไม่ต้องตึงกลับมาตั้งใหม่อีก คำบริกรรมหายก็ปล่อยไปเลย

    3.4 เมื่อลมหายใจละเอียดก้รู้อยู่ คำบริกรรมหายไปแล้ว ลมละเอียก็รู้อยู่ สติรู้อยู่ ไม่ต้องไปจ้องลมเข้าออกที่ปลายจมูกอีกแล้ว ปล่อยไป


    คราวนี้จะรู้สึกอิ่มเอิบบางคนซาบซ่าไปทั้งตัวเหมือนลมแทรกไปทั่วทุกอณูของร่างกาย (บางคนอาจจะมีลักษณะปิติอย่างอื่น) ก้แล้วแต่ อย่าตกใจ ให้มีสติรู้อยู่เฉย ๆ (นี่ฌาน 2 แล้ว) ปิติทางกายจะชัดเจน

    ถ้าเราไม่ยึดติดตรงนี้ เพื่อ ปล่อยปิติไป คือเรารู้เองอยู่ ความรู้สึกทางกาย (ปิติเป็นความรู้สึกที่เกิดที่กาย แต่ใจทราบ) ปล่อยไป จากนั้นจะรู้สึกว่ากายค่อย ๆ หายไป เหมือนไม่มีตัวอยู่ แต่จิตรู้แจ่มชัดอยู่ ปิติหายไปแล้ว จิตรู้อยู่ มีความสุขอิ่มเอิบ

    ถึงตอนนี้ไม่รู้จะทำอะไรก็เอาจิตนั่นแหละดูจิตตนเองซิว่า มันขยับไปคิด ไปนึกอะไรไหม ตามรู้มันไปเรื่อย ๆ นี่แหละวิชาดูจิต ว่าคิดกุศลหรือคิดอกุศลกิเลสตัณหาอะไรก็จะได้รู้กันทีนี้

    นี่แค่ฌาน 3 เอาเท่านี้ก่อน

    ถ้าทำได้ตามนั้ติดต่อกันทุกวันก่อนนอนวันละอย่างน้อย 1 ชม รับรองได้ ได้ผลแน่นอน อย่างน้อยก็ฌาน 3
     
  10. หาธรรม

    หาธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,164
    ค่าพลัง:
    +3,739
    อย่าดูลมแบบตามเป็นสายหรือตามลมไปทั่ว เพราะจะทำให้จิตไม่ตั้งมั่น หรือตั้งมั่นช้า ควรเอาจิตดักจับลมที่เดียว ที่ ๆ รู้สึกชัดที่สุดคือที่ปลายจมูก ชัดชนิดที่ว่าลมเข้าเย็นก็รู้ออกร้อนก็รู้ สักพักจิตก็จะสงบตั้งมั่น

    สรุปอีกที่ อย่าเอาจิตไล่ตามลมไปทั่ว จิตจะตั้งมั่นช้า
     
  11. nuttadet

    nuttadet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +6,454
    ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ พอดีว่าผมถนัดแบบตามดูลมเป็นสายหน่ะครับ

    แต่ละคนคงถนัด ไม่เหมือนกันครับ ใครทำแบบไหนแล้วชอบ หรือถูกจริต

    ก็ต้องลองดูครับ

    วันที่ 25 นี้ ท่านใดอยู่ กทม. หรือจังหวัดใกล้เคียง สนใจจะฝึกสมาธิ ไปฝึกกันได้นะครับที่สวนลุม ฟรี ครับ ไม่มีเรี่ยไร
     
  12. pharm.taung

    pharm.taung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2009
    โพสต์:
    945
    ค่าพลัง:
    +432
    "รักษาศีลทางจิต ไม่ถือศีลทางปาก ปฏิบัติตามสบาย"
     
  13. lg786ls

    lg786ls สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +9
    ขอออกความเห็นหน่อยครับ ผมเองก็เคยมีปัญหาเรื่องนี้เหมือนกัน
    ผมเองที่เริ่มฝึกในช่วงแรกๆจะจดจ่อลมอยู่ที่เดียวครับแต่ไม่มีความคืบหน้าให้เห็น
    มีแต่ฟุ้งซ่านกับสงบสลับกันอยู่ตลอดเวลา
    ต่อมาจึงเปลี่ยนมาใช้วิธีตามลมหายใจครับ ข้อสังเกตุของผมในขณะที่นั่งตามลมครั้งแรก
    ขอบอกว่าจิตไม่เป็นสมาธิเลย รู้สึกว่าจะแย่กว่าแบบแรกอีกเพราะว่าต้องตามลมอยู่ตลอดเวลา
    รู้สึกได้เลยว่าหาความเป็นสมาธิไม่เจอ แต่ก็พยายามนั่งต่อไปด้วยใจที่สงสัย ว่ามันจะมีสมาธิได้อย่างไรเพราะว่าจิตขึ้นบนลงล่างไปตามลมหายใจ ในขณะนั้นเกิดเอะใจขึ้นมาว่า
    ใครกำลังหายใจอยู่ ทันใดนั้นผมก็เห็นว่าร่างกายมันพองเข้าออกและมีคนที่ดูลมอยู่ต่างหาก
    แยกออกจากกัน ซึ่งมันทำให้ผมงงมาก หลายวันต่อมาจึงได้รู้ว่าสมาธิที่ถูกต้อง
    จะต้องประกอบไปด้วย สติรู้ในสิ่งที่ทำอยู่ ไม่เฉพาะแต่การนั่งสมาธิเท่านั้น
    ลองสังเกตุดู เวลาที่เราทำอะไรสักอย่าง ด้วยใจที่มุ่งมั่น
    ในตอนนั้น จะมีอารม์ที่เหมือนกับตอนที่นั่งสมาธิ ทดลองดูได้ครับ ลองหลับแล้วสูดลม
    เข้า-ออก ด้วยความรู้สึกตัวสักสิบครั้ง หรือพอเริ่มมีสมาธิแล้วให้ลืมตาขึ้นมาและหายใจ
    ต่อไปเหมือนตอนที่หลับตา จะเห็นความเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง
    นั่นคือใจที่ตั้งมั่นครับ ฉะนั้นการที่นั่งสมาธิมาเกือบหนึ่งปีแล้วไม่เห็นความเปลี่ยนแปลง
    ลองทบทวนดูนะครับว่าเราขาดอะไรไปหรือเปล่า
    ถ้านั่งแล้วรู้สึกฟุ้งซ่านลองสังเกตุดูนะครับ ว่าความฟุ้งซ่านนั้นเรารู้ได้อย่างไร .....
    ในทางตรงข้ามกัน ในขณะที่มีสมาธิเรารู้ใด้อย่างไรว่ามีสมาธิ สังเกตุอารมณ์ ทั้ง2อย่าง
    จะมีสิ่งที่เหมือนกันครับ ..(ลองหาด้วยตัวเอง)....
    ขอเป็นกำลังใจให้ครับ
     
  14. เด็กอนุบาล

    เด็กอนุบาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    689
    ค่าพลัง:
    +4,156
    ก่อนอื่นขอโมทนาสาธุ ในความตั้งใจปฏิบัติธรรมของเจ้าของกระทู้ครับ ที่มาดีในระดับนึงแล้ว อย่าท้อครับ

    แต่ถ้าต้องการก้าวหน้าไปกว่านี้ ต้องปรับทัศนคติในการปฏิบัติสมาธิจิตเสียใหม่ ว่าเราไม่ได้ปฏิบัติเพื่อหวังจะพบ จะเห็น ใดๆ เราปฏิบัติเพื่อให้จิตสะอาด ปราศจากกิเลส แม้เราจะทำได้แค่รู้ลมหายใจในชั่วระยะเวลาสั้นๆในแต่ละวัน จิตเราขณะนั้นก็ปราศจากกิเลสถือเป็นมหากุศลแล้ว สามารถถวายกุศลนี้เป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา ได้แล้ว ทุกครั้งที่เรารู้ลมหายใจ ไม่ถือว่าสูญเปล่าเลย เกิดกุศลที่เราสามารถอธิษฐานจะถวายบูชาพระคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ได้ตลอด แต่ความดีนี้ก็ไม่หายไปไหน สะสมตัวอยู่เรื่อยๆ ถ้าปรับทัศนคติเป็นแบบนี้ได้ จะก้าวหน้าขึ้นอีกมาก เมื่อรู้ลมหายใจจนจิตตั้งมั่นได้พักนึงแล้ว ก็ควรพิจารณาหาความจริงของร่างกายว่า การที่ร่างกายต้องมีหน้าที่หายใจเข้าออกอยู่ตลอดนี้มันสุขหรือทุกข์ หายใจเข้าไม่หายใจออกก็ตายแล้ว ชีวิตนี้เป็นของเที่ยงหรือไม่เที่ยง ความตายมันอยู่ใกล้หรืออยู่ไกลจากร่างกายแบบนี้ ตายแล้วจะไปไหน

    ถ้าวางเป้าหมายไว้ถูกต้องแล้ว กำลังใจจึงจะเดินทางสายกลางอย่างแท้จริง ที่ผ่านมาคุณวางกำลังใจตึงไป ให้วางกำลังใจใหม่ ใจจะโปร่งสบายขึ้น ความก้าวหน้าจึงเกิดได้

    การปฏิบัติต้องไม่ลืมพื้นฐาน จะมีสมาธิได้ต้องคุมศีลให้บริสุทธิ์ก่อน จะมีปัญญาได้ต้องคุมจิตให้ตั้งมั่นเป็นสมาธิก่อน การสมาทานศีลและตั้งใจรักษาศีลในระหว่างวันจึงสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการทำสมาธิให้ได้ผล เพราะถ้าคุมใจให้รักษาศีลซึ่งเป็นของหยาบกว่าสมาธิไม่ได้ ย่อมมีกำลังใจไม่พอที่จะเข้าถึงสมาธิจิตที่เป็นของละเอียดและต้องใช้กำลังใจสูงกว่า

    ลองศึกษาต่อเพิ่มเติมว่าควรใช้อะไรวัดความก้าวหน้าของการทำสมาธิจากลิ้งด้านล่างที่เป็นโอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุงฯ

    http://www.agalico.com/board/showthread.php?t=4018
     
  15. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,459
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,011
    เวลาทํา อย่าไปคิดอะไรครับ ยิ่งคิดอยากได้ยิ่งไม่ได้ครับ อันนี้สัจธรรม เวลาเรานั่งสมาธิก็นั่งไป ถ้าใจมันคิดอะไรก็ช่างมัน เอาใจอยู่ที่พุทโธเข้าออกพอครับ อีกหน่อยเรื่องอื่นๆก็จะตามมาเองอย่างที่เราคาดไม่ถึง
     
  16. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    อาการของอุปจารสมาธิครับ.....ไม่ต้องไปให้ความสนใจครับ.....กำหนดลมต่อไป....
     

แชร์หน้านี้

Loading...