สรุปภัยที่เกิดจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• หิมะตกเป็นเหตุให้ผู้นำอัฟกานิสถานเลื่อนเยือนปากีสถาน

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 20-02-2552 | 18:50:21 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">อิสลามาบัด 19 ก.พ. - ประธานาธิบดีฮามิด คาร์ไซ ของอัฟกานิสถาน ต้องเลื่อนกำหนดการเยือนปากีสถานในวันนี้ เนื่องจากหิมะตกในเมืองหลวงของอัฟกานิสถาน
เจ้าหน้าที่ต่างประเทศปากีสถาน กล่าวว่า ประธานาธิบดีคาร์ไซมีกำหนดพบ กับประธานาธิบดีอาซิฟ อาลี ซาร์ดารี และนายกรัฐมนตรียูซุฟ ราซา กิลานี ระหว่างเยือนปากีสถาน แต่ไม่สามารถไปได้ตามกำหนดในวันนี้ โดยจะประกาศกำหนดการใหม่ให้ทราบในครั้งต่อไป ภายหลังจากที่ผู้นำอัฟกานิสถาน กลับจากการเยือนจีน 4 วันโดยจะเริ่มในวันศุกร์นี้

ทั้งนี้ปากีสถานและอัฟกานิสถานเป็นพันธมิตรของสหรัฐ ในการปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ และกลุ่มตอลิบาน โดยทั้งสองประเทศ มอบหมายให้รัฐมนตรีต่างประเทศ ไปยังกรุงวอชิงตันในสัปดาห์หน้า เพื่อเข้าร่วมการหารือทบทวนนโยบายของสหรัฐในภูมิภาคดังกล่าว
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุไฟป่าออสเตรเลียพุ่งเป็น 208 คน

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [19-02-2552 | 16:11:39 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ซิดนีย์ 19 กพ.- ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุไฟป่าครั้งเลวร้ายที่สุด ในออสเตรเลีย พุ่งเป็น 208 คน หลังพบศพผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมอีก 7 ศพ ทั้งที่เมื่อวันก่อน ตำรวจออสเตรเลียยังระบุว่า ไม่คิดว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจะพุ่งขึ้นอย่างมากมายอีกแล้ว
เหตุไฟป่าครั้งรุนแรงในรัฐวิกตอเรีย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลีย เกิดขึ้นเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพอากาศร้อนจัด บวกกับมีลมร้อนพัดเข้าพื้นที่ จึงส่งผลให้ไฟป่ายิ่งลามไปไกล เผาทำลายบ้านเรือนไปถึง 1,800 หลัง
ทางการออสเตรเลียคาดว่า เหตุไฟป่าหนนี้ส่งผลให้ผู้คนต้องละทิ้งบ้านเรือนสูงถึง 10,000 คน และจนกระทั่งบัดนี้ ออสเตรเลียก็ยังไม่สามารถดับไฟป่า ลงได้อย่างราบคาบ โดยล่าสุด ยังมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงหลายร้อยคน คอยควบคุมไฟป่าอยู่ 5 จุด แต่ยังไม่มีทรัพย์สินตรงส่วนใดถูกไฟป่าคุกคาม
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• เดือน ม.ค.พบผู้ป่วยชิคุนกุนยาภาคใต้กว่า 3 พันราย

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ [ 20-02-2552 | 19:50 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">น.พ.มล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ประชุมร่วมกับสาธารณสุขจังหวัด หัวหน้างานควบคุมโรคติดต่อ และหัวหน้าสถานีอนามัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคชิคุนกุนยา หรือ โรคไข้ปวดข้อยุงลาย ไม่ให้ลุกลามแพร่ระบาดไปยังพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศ

อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ในเดือนมกราคมเพียงเดือนเดียว พบผู้ป่วยจำนวนกว่า 3,000 ราย ใน จ.สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ซึ่งได้ให้เร่งทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย รวมทั้งให้ความรู้กับประชาชน ในการป้องกันไม่ให้ถูกยุงกัด ขณะเข้าไปทำสวน ขณะนี้ก็เริ่มการควบคุมการแพร่ระบาดได้บ้างแล้ว

สำหรับอาการของโรคจะมีอาการปวดข้อ มีผื่นแดง ไข้ขึ้นสูง โดยบางรายหากมีอาการรุนแรง ผู้ป่วยจะนอนซมปวดข้อมากจนเดินไม่ได้ โดยโรคนี้ยังไม่มียารักษา แต่จะหายได้เอง
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ชาวแคชเมียร์แตกตื่น!! หลังเกิดแผ่นดินไหว 5.4 ริกเตอร์

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ [ 20-02-2552 | 13:11 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ รายงานว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหว ในแคว้นเคชเมียร์ของอินเดียวันนี้ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.4 ริกเตอร์ โดยมีศูนย์กลางแผ่นดินไหว อยู่ห่างไปทางตะวันตกของเมืองศรีนคร 91 กิโลเมตร และห่างไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ ของกรุงอิสลามาบัด เมืองหลวงปากีสถาน 93 กิโลเมตร บริเวณเส้นแบ่งเขตแดนการปกครองในแคว้นดังกล่าว ระหว่างดินเดียกับปากีสถาน

แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวทำให้อาคารหลายแห่งสั่นไหว และสร้างความแตกตื่นให้แก่ประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก โดยต่างพากันวิ่งหนีอ อกจากอาคารบ้านเรือน อย่างไรก็ตามไม่มีรายงานความเสียหาย หรือผู้บาดเจ็บจากเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าว
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ดินถล่มปิดเส้นทางเชื่อมกรุงลิมา การสัญจรหยุดชะงัก

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ [ 20-02-2552 | 10:46 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องหลายวันในภาคตะวันออกของเปรู ส่งผลให้เกิดดินถล่ม ปิดเส้นทางมอเตอร์เวย์ เชื่อมกรุงลิมา และพื้นที่ตอนกลางของเทือกเขาแอนดิส ทำให้เกิดความเสียหายต่อขบวนรถบรรทุก ที่รอการขนถ่ายสินค้าจำนวนมาก

ขณะที่ผู้ประสบเหตุบางส่วนต้องตระเวนหาอาหาร ก่อนที่หน่วยกู้ภัยทางหลวง จะใช้ระเบิดเปิดเส้นทาง และประกาศเขตภัยพิบัติฉุกเฉิน ห้ามการสัญจรชั่วคราว
สำนักงานบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ระบุว่า พายุฝนฟ้าคะนองที่เกิดขึ้นตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำท่วม และดินถล่ม ในพื้นที่ 14 แห่ง ทั่วประเทศ
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• จีนเผชิญพายุทรายลูกแรกของปี

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 20-02-2552 | 15:13:47 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">จีน 20 ก.พ. - ภาคเหนือของประเทศจีนเผชิญกับพายุทรายลูกแรกของปี ซึ่งมาถึงเร็วกว่าปกติกว่า 20 วัน

พายุทรายลูกแรกของปีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือน ท้องถนน และรถยนต์ ถูกปกคลุมไปด้วยทรายและฝุ่นสีน้ำตาล ขณะที่ท้องฟ้าส่วนใหญ่ ทางภาคเหนือของจีน มืดมัวไปด้วยฝุ่นทราย ประชาชนต้องสวมหน้ากาก เพื่อป้องกันจมูกและปาก ในขณะออกมาเดินบนท้องถนน

ทั้งนี้ จีนเผชิญกับพายุทรายเป็นประจำทุกปีในเดือน มี.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่มีสภาพอากาศแห้ง ทางการจีนต้องหาทางป้องกัน ไม่ให้พื้นที่ที่เป็นทะเลทรายขยายวงออกไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคเหนือ และภาคตะวันตก ซึ่งเกิดพายุทรายรุนแรงในช่วงหลายปีมานี้ โดยพายุทรายพัดไปไกลถึงเกาหลีใต้และญี่ปุ่น.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• หิมะตกหนักช่วยบรรเทาภัยแล้งทางเหนือของจีน

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 20-02-2552 | 14:27:25 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ปักกิ่ง 20 ก.พ.-รัฐบาลจีนแถลงว่า หิมะและฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ทั่วพื้นที่ทางภาคเหนือของจีน มีส่วนช่วยบรรเทาความแห้งแล้งครั้งรุนแรงที่สุด ในรอบเกือบ 50 ปี และ 2 มณฑลได้ยกเลิกมาตรการฉุกเฉินแล้ว

กรุงปักกิ่งประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อต้นเดือนนี้ หลังฝนตกน้อยลง จนกระทบการปลูกข้าวสาลีทั่วภาคเหนือ และประชาชน 3.46 ล้านคน ใน 8 มณฑล ขาดแคลนน้ำดื่ม สำนักงานป้องกันอุทกภัย และบรรเทาภัยแล้ง แถลงว่า หิมะและฝนที่ตกลงมาในสัปดาห์นี้ มีส่วนช่วยบรรเทาภัยแล้งได้ โดยที่มณฑลอานฮุย และชานตง ได้ยกเลิกมาตรการฉุกเฉิน เพื่อบรรเทาภัยแล้งแล้ว อย่างไรก็ตาม รายงานระบุว่า พื้นที่ปลูกข้าวสาลีที่มณฑลเหอหนาน มีปริมาณฝนตกเพียงเล็กน้อย และจัดว่าสถานการณ์ภัยแล้งยังอยู่ในขั้นรุนแรง
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• พายุฤดูร้อนพัดถล่มหลายพื้นที่ บ้านพังร่วม 100 หลัง

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ [ 21-02-2009 ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (21 ก.พ.) ได้เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่ม ในหลายพื้นที่
โดยที่ อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี พายุลูกเห็บได้พัดถล่มนานประมาณ 15 นาที แต่ทำให้อาคารสหกรณ์การเกษตร ต.กุดชุม พังถล่มลงมา มูลค่าความเสียหายกว่า 3 ล้านบาท และมีบ้านเรือนเสียหายอีกกว่า 50 หลังคาเรือน ส่วนที่ จ.ลพบรี ได้มีพายุฤดูร้อน และฝนตกอย่างหนัก ใน 4 หมู่บ้านของ ต.โคกตูม อ.เมืองลพบุรี ประกอบด้วย หมู่ 2, 5, 10 และ 13

ส่งผลให้มีบ้านเรือนราษฎร์ได้รับความเสียหาย ถูกลมพัดหลังคาปลิวหาย และพังเสียหายเกือบทั้งหลัง รวมกว่า 30 หลังคาเรือน นอกจากนี้ แรงพายุยังทำให้สวนมะม่วงของเกษตรกร ซึ่งกำลังออกดอก โค่นล้มเสียหายอีกหลาย 10 ต้น ขณะที่ซุ้มเฉลิมพระเกียรติขนาดใหญ่ของเทศบาลตำบลโคกตูม ซึ่งมีความสูงประมาณ 18 เมตร ล้มลงมากีดขวางการจราจร บนถนนสายพระพุทธบาท-โคกตูม ทำให้ต้องปิดการจราจรนานนับชั่วโมง ขณะที่วานนี้พายุฤดูร้อนได้พัดถล่มในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ทำให้เสาไฟฟ้าโค่นล้มหลายสิบต้น ทำให้ไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ ล่าสุด การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.พระนครศรีอยุธยา ได้แก้ไขจนกลับมาใช้การได้เหมือนเดิมแล้ว
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• เซอร์เบียประกาศภาวะฉุกเฉินพายุหิมะถล่ม

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย: สำนักข่าวไทย [ 21-02-2009 | 04:03:08 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">เซอร์เบีย 21 ก.พ. - รัฐบาลเซอร์เบียประกาศภาวะฉุกเฉินในพื้นที่ตอนกลาง ของประเทศ ที่เกิดหิมะตกหนัก จนทำให้ต้องปิดโรงเรียน และบริษัทห้างร้านจำนวนมาก
พายุหิมะที่ตกอย่างหนักในเมืองนิส ทางตอนกลางของเซอร์เบีย ตลอด 2 วันที่ผ่านมา ทำให้การจราจรบนทางหลวงสำคัญหลายแห่ง เป็นอัมพาต รถยนต์มากกว่า 100 คัน บนทางหลวงสายหนึ่งไม่สามารถเคลื่อนตัวได้ เนื่องจากผิวถนนมีหิมะปกคลุม สูงกว่า 2 เมตร ขณะที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์หลายแห่ง ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 คน ทางการเซอร์เบียต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน และสั่งปิดโรงเรียน สำนักงานของรัฐบาล ส่วนบริษัทห้างร้านปิดทำการ เนื่องจากพนักงานไม่สามารถเดินทางมาทำงานได้ บ้านเรือนนับพันหลังคาเรือน ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ ขณะที่อุณหภูมิลดต่ำลงถึงลบ 15 องศาเซลเซียส คาดว่าพายุหิมะจะยังคงตกหนักต่อไป จนถึงช่วงสุดสัปดาห์นี้.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• เวียดนามเผยผู้เสียชีวิตด้วยโรคไข้หวัดนกรายแรกของปี

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ช่องเจ็ดสี [ 22-02-2009 | 12:52 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">มีรายงานผู้เสียชีวิตด้วยโรคไข้หวัดนกในเวียดนามรายแรกของปี เป็นหญิงวัย 23 ปี จากจังหวัด"กวงนินห์"ทางภาคเหนือ ซึ่งเสียชีวิต หลังเข้ารักษาอาการป่วย ที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดได้ 3 สัปดาห์ โดยแพทย์เปิดเผยผลการตรวจพบว่า หญิงสาวได้รับเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ "H5N1" ซึ่งอาการป่วยเริ่มปรากฏ หลังผู้ตายได้ฆ่าไก่ และนำมารับประทานในครอบครัว แต่สมาชิกในครอบครัวอีก 5 คน ยังไม่พบว่ามีใครมีอาการป่วย
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• พายุหิมะในญี่ปุ่นกระทบเที่ยวบินและบ้านพัง

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 22-02-2009 | 12:43:01 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">โตเกียว 22 ก.พ. - พายุหิมะในญี่ปุ่นทำให้บ้านเรือนเสียหายหลายหลัง ไฟฟ้าดับ กระทบบริการรถไฟ และต้องยกเลิกเที่ยวบินภายในประเทศกว่า 150 เที่ยว
หิมะตกหนา 16 นิ้ว ปกคลุมทั่วรันเวย์สนามบินชิโตเสะ ท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุด ทางเหนือของประเทศ บนเกาะฮอกไกโดในวันเสาร์ ทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินอย่างน้อย 154 เที่ยว พายุหิมะยังทำให้เกิดลมแรง บ้านเรือนพังเสียหายอย่างน้อย 137 หลัง ไฟฟ้าดับตามอาคารและที่อยู่อาศัยต่าง ๆ 47,500 แห่ง ในเขตอาโอโมริ แต่ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ เจ้าหน้าที่กล่าวว่า สภาพอากาศดีขึ้นแล้วในวันนี้
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ไข้หวัดนกในเวียดนาม มีผู้เสียชีวิตรายแรกของปี

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย ช่องเจ็ดสี [ 22-02-2009 | 17:25 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">มีรายงานผู้เสียชีวิตด้วยโรคไข้หวัดนกในเวียดนามรายแรกของปี เป็นหญิงวัย 23 ปี จากจังหวัด"กว่างหนินห์" ซึ่งได้เข้ารักษาตัวด้วยโรคไข้หวัดนก ที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดได้ 3 สัปดาห์ โดยก่อนล้มป่วยผู้ตายได้ฆ่าไก่ และนำไปปรุงอาหารรับประทานในครอบครัว แต่สมาชิกในครอบครัวอีก 5 คน ยังไม่มีใครล้มป่วย นับตั้งแต่ปีใหม่มีชาวเวียดนามล้มป่วย ด้วยโรคไข้หวัดนกแล้ว 3 คน การเสียชีวิตของเหยื่อรายล่าสุดนี้ ทำให้เวียดนามมียอดผู้เสียชีวิต ด้วยโรคไข้หวัดนกเพิ่มเป็น 53 คน
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• เนปาลพบหวัดนกระบาดซ้ำ

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 22-02-2009 | 13:58:25 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">กาฐมาณฑุ 22 ก.พ. – เจ้าหน้าที่เนปาลรายงานการระบาดของไวรัสเอช 5 เอ็น 1 ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ ภายหลังจากที่ทางกา รประกาศเป็นประเทศปลอดไข้หวัดนกได้ไม่กี่วัน
โฆษกกระทรวงสาธารณสุขเนปาล แถลงว่า เจ้าหน้าที่ได้เริ่มกำจัดสัตว์ปีกราว 10,000 ตัว ที่หมู่บ้านซาร์นามาตี ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุ ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 400 กิโลเมตร เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสเอช 5 เอ็น 1 ซึ่งพบที่เนปาลเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนก่อน อนึ่ง มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว อย่างน้อย 254 ราย นับตั้งแต่เกิดการระบาดเมื่อปี 2546 ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญกำลังติดตามแนวโน้มการกลายพันธุ์ของไวรัสไข้หวัดนก ซึ่งอาจส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกกว่าหลายล้านคน
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ชาวออสเตรเลียร่วมร้อยหนีไฟป่าครั้งใหม่

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 23-02-2552 | 16:06:54 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">แคนเบอร์รา 23 ก.พ.- ชาวออสเตรเลียราว 100 คน อพยพออกจากบ้านเรือน ในรัฐวิกตอเรียในวันนี้ เพราะเกิดไฟป่าครั้งใหม่ใกล้ชุมชนที่อาศัยอยู่
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังควบคุมไฟป่า 3 จุดใหญ่ในวันนี้ ขณะที่ทางการเตือนว่า หลายชุมชนเสี่ยงอันตราย เพราะมีกระแสลมแรง อากาศแล้งและร้อนขึ้น ชาวเมืองวอร์เบอร์ตัน ทางตะวันออกของนครเมลเบิร์นราว 100 คน อพยพออกจากบ้านเรือนไปตั้งที่พักชั่วคราวเพื่อรอให้แนวไฟป่าผ่านพ้นไป ด้านทางการเตือนประชาชนให้ยึดนโยบาย “อยู่หรือไป” คือออกจากบ้านเรือนแต่เนิ่น ๆ ไปอยู่ในที่ห่างไกลหลายวันเพื่อรอให้แนวไฟป่าผ่านไป หรืออยู่ในบ้าน แต่ต้องเตรียมพร้อมเต็มที่ป้องกันไม่ให้ไฟไหม้บ้าน เพราะหากเห็นไฟป่าแล้วค่อยคิดมักไม่ทันการ
ทางการออสเตรเลียปรับเพิ่มตัวเลขผู้เสียชีวิตจากไฟป่าเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ หรือที่เรียกว่า “แบล็คแซทเทอร์เดย์” เป็น 210 คน เพราะช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลเพิ่ม 1 คน นายกรัฐมนตรีเควิน รัดด์ เผยว่า รัฐบาลจะรับผิดชอบค่าใช้จ่าย ในการทำความสะอาดบ้านเรือน และร้านค้าที่ถูกไฟไหม้ ด้านนายโรเบิร์ต แมคคลีเลน รัฐมนตรียุติธรรม เผยว่า รัฐบาลจะเสนอร่างกฎหมายการสื่อสารต่อรัฐสภา ให้ทางการระดับรัฐจัดทำระบบเตือนภัยไฟป่าล่วงหน้า ด้วยการโทรศัพท์และส่งข้อความสั้นเตือนประชาชน
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ธรณีขย่มรอยต่ออินโดนีเซีย-ฟิลิปปินส์ 5.8 ริกเตอร์

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย มติชนออนไลน์ [ 23-02-2552 | 11:16:35 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐฯ รายงานเมื่อเวลา 01.45 น. วันที่ 23 ก.พ. ว่า เกิดแผ่นดินไหวซึ่งวัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.8 ริกเตอร์ ในพื้นที่ระหว่างอินโดนีเซียกับฟิลิปปินส์ แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีรายงานใดๆ เกี่ยวกับการได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตของประชาชน และความเสียหายที่เกิดขึ้น แผ่นดินไหวครั้งนี้มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ระยะประมาณ 310 กิโลเมตร ทางใต้หรือตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองเจเนอรัล ซานโตส ในภาคใต้ของฟิลิปปินส์ และอยู่ใต้ระดับน้ำทะเล ถึงราว 38 กิโลเมตร
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• พบเชื้ออีโบลา-เรสตันครั้งใหม่ในฟิลิปปินส์

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 24-02-2552 | 13:51:34 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">มะนิลา 24 ก.พ. – เจ้าหน้าที่สาธารณสุขฟิลิปปินส์ เผยวันนี้ว่า พบคนงานฟาร์มเลี้ยงหมูคนหนึ่งติดเชื้อไวรัสอีโบลา-เรสตัน เป็นรายที่ 6 ของประเทศ
กระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์ แถลงว่า ผลการตรวจสอบตัวอย่าง ที่เก็บจากคนงานชำแหละหมูคนหนึ่ง ทางตอนเหนือของประเทศ พบสัญญาณภูมิคุ้มกันเชื้อไวรัสอีโบลา-เรสตัน ซึ่งบ่งชี้ว่า เขาอาจเคยติดเชื้อไวรัสชนิดนี้มาก่อน ตามข้อมูลพบว่า ผู้ติดเชื้อรายล่าสุดไม่เคยมีประวัติสัมผัสหมูป่วยโดยตรง
การเปิดเผยครั้งนี้มีขึ้นเกือบ 1 เดือนหลังพบคนงานฟาร์มหมู 4 คน และคนชำแหละหมู 1 คนมีภูมิคุ้นกันเชื้อไวรัสอีโบลา-เรสตัน ขณะนี้นักวิทยาศาสตร์พยายามระบุว่า ผู้ติดเชื้อ 6 คนติดเชื้อไวรัสจากหมูหรือไม่ เพราะหากพิสูจน์ว่าข้อสันนิษฐานเป็นจริง ก็จะเป็นครั้งแรกที่มนุษย์ติดไวรัสชนิดนี้จากหมู
ก่อนหน้านี้รัฐบาลฟิลิปปินส์ใช้มาตรการกักโรคในฟาร์มหมู 2 แห่งในจังหวัดบูลากัน และปังกาซินัน หลังตรวจพบตัวอย่างที่เก็บจากหมู แสดงให้เห็นว่า หมูติดเชื้อไวรัสอีโบลา-เรสตัน ซึ่งพบครั้งแรกในลิง นอกจากนี้ยังพบเชื้อไวรัสได้แพร่ระบาด ในจังหวัดบูลากัน กระทรวงสาธารณสุขจึงสั่งฆ่าหมู ราว 6,000 ตัว ทั้งนี้เชื้อไวรัสอีโบลา-เรสตัน เป็นเชื้อไวรัสที่ไม่มีอันตรายถึงชีวิตต่อมนุษย์ ต่างจากอีโบลาสายพันธุ์ร้ายแรงที่พบในแอฟริกา.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• เกิดแผ่นดินไหว ที่เกาะสุมาตรา

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 23-02-2552 | 14:26:50 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">จาการ์ตา 23 ก.พ. - เกิดแผ่นดินไหวระดับปานกลางวัดความรุนแรงได้ 5.9 ริกเตอร์ ที่เกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย แต่ยังไม่ได้รับรายงานความเสียหาย และคำเตือนเกิดคลื่นสึนามิ
แผ่นดินไหวเกิดขึ้นในเวลา 12.56 น. ตามเวลาประเทศไทย มีศูนย์กลางห่างจาก เมืองทานาห์มาซา ในจังหวัดสุมาตราเหนือไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ 74 กิโลเมตร และอยู่ลึกลงไปใต้ทะเล 21 กิโลเมตร
หมู่เกาะอินโดนีเซียตั้งอยู่บนบริเวณที่เรียกว่า วงแหวนแห่งไฟมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งเปลือกทวีปมาบรรจบกัน จึงมักเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดอยู่เสมอ
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ภูเขาไฟไคเทนในชิลีปะทุครั้งใหม่
  

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 25-02-2552 | 15:15:43 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ชิลี 25 ก.พ. - ภูเขาไฟไคเทนในชิลีเกิดระเบิดอีกครั้ง เป็นครั้งที่ 3 ในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง
การปะทุครั้งล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้เถ้าถ่าน และหินร้อน พวยพุ่งตกลงมา ในบริเวณเชิงเขา และมีเถ้าถ่านจำนวนมาก ปกคลุมบ้านเรือนประชาชน ในเมืองไคเทน ขณะที่ประชาชนที่หลงเหลืออยู่ไม่มากในเมืองนี้ ได้อพยพไปยังที่ปลอดภัยจนหมดแล้ว ด้านผู้เชี่ยวชาญเรื่องแผ่นดินไหว เตือนว่า การปะทุของภูเขาไฟครั้งล่าสุดนี้ อาจจะทำให้ลาวาไหลไปถึงเมืองไคเทนได้
ทั้งนี้ เมืองไคเทนต้องเผชิญกับการระเบิด ของภูเขาไฟที่มีชื่อเดียวกันครั้งแรก เมื่อวันที่ 2 พ.ค.ปีก่อน ซึ่งเป็นการระเบิดครั้งแรก ในรอบ 9,000 ปี.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ออสเตรียเตือนภัยระวังหิมะถล่มเทือกเขาแอลป์

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 24-02-2552 | 19:40:12 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">เวียนนา 24 ก.พ. -ทางการออสเตรียประกาศเตือนว่า มีแนวโน้มสูงที่จะเกิดอันตราย จากหิมะถล่ม ในพื้นที่บางส่วน ของเทือกเขาแอลป์ ภายหลังหิมะตกหนักช่วงหลายวันที่ผ่านมา
แถลงการเตือนระบุว่า พื้นที่ในรัฐซาลซ์บูร์ก สติเรีย โลว์เออร์ออสเตรีย และอัปเปอร์ ออสเตรีย เสี่ยงที่จะเกิดหิมะถล่ม และเตือนไม่ให้ประชาชนเล่นสกี ในเขตดังกล่าว นอกจากนี้ หิมะตกหนักยังตัดขาดชุมชนบางแห่ง จากพื้นที่ส่วนอื่น ๆ ในวันนี้ ขณะเจ้าหน้าที่พยายามเก็บกวาดหิมะกองโต ออกจากท้องถนน โรงเรียนบางแห่งปิดทำการ และอาคารบางส่วนต้องอพยพคนออก เนื่องจากหิมะ อาจทำให้หลังคาพังลงมา ทั้งนี้ ในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตหลายสิบคน จากหิมะถล่มบริเวณเทือกเขาแอลป์ในออสเตรีย
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• พบเชื้อมาลาเรียดื้อยาบริเวณพรมแดนไทย-กัมพูชา

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 26-02-2552 | 07:22:30 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">องค์การอนามัยโลก 26 ก.พ.-ความพยายามในการป้องกันการแพร่ระบาด ของโรคมาลาเรีย ดูจะพบอุปสรรคครั้งสำคัญ หลังมีการพบเชื้อซูเปอร์มาลาเรีย ที่สามารถทนทานดื้อยาเกือบทุกอย่าง
แถลงการณ์ขององค์การอนามัยโลก หรือดับเบิลยูเอชโอ ระบุว่า แม้ในปัจจุบัน อาร์ติมิซินิน สารสกัดที่ได้จากต้นชิงเฮา สมุนไพรจีนชนิดหนึ่ง จะได้รับการยอมรับ จากผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ว่า เป็นยาต้านมาลาเรียที่ได้ผลดีที่สุดในขณะนี้ และมักจะถูกใช้ร่วมกับยาตัวอื่น ๆ เพื่อป้องกันเชื้อดังกล่าว แต่ล่าสุด มีรายงานพบเชื้อมาลาเรียที่สามารถทนทานสารสกัดอาร์ติมิซินินได้ บริเวณพรมแดนรอยต่อระหว่างไทย-กัมพูชา
เจ้าเชื้อมาลาเรียนี้ ยังสามารถทนทานต่อยาต้านมาเลเรียตัวอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น คลอโรควิน ซัลฟาด็อกซิน-ไพรีเมธามิน รวมถึงยาเมฟโฟลควิน ที่ถูกใช้เป็น ยาต้านไวรัสมานานหลายปี ความเสี่ยงดังกล่าวใกล้เคียงกับตอนที่มีการค้นพบ “ซูเปอร์บัก” ที่สามารถทนทานและดื้อยาปฏิชีวนะได้เลยทีเดียว
แถลงการณ์ของดับเบิลยูเอชโอระบุว่า หากยังไม่สามารถหาวิธีปราบปราม หรือหยุดยั้งซูเปอร์มาลาเรียตัวนี้ได้ มันจะแพร่ระบาดไปยังประเทศอื่น ๆ ที่มีพรมแดนติดกันอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวง ต่อความพยายามของหลายฝ่าย ในการป้องกันการแพร่ระบาด ของโรคมาลาเรีย
ที่ผ่านมา ดับเบิลยูเอชโอ เป็นแกนนำในดำเนินความพยายามป้องกัน การแพร่ระบาดของโรคมาลาเรีย โดยได้รับความช่วยเหลือ จากเงินบริจาค 22.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 787 ล้านบาท ที่ได้รับจากมูลนิธิบิล และเมลินดา เกตส์ การแพร่ระบาดของโรคมาลาเรียได้ลดลงอย่างมาก ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา แต่มันก็ยังเป็นสาเหตุสำคัญที่คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกมากกว่า 1 ล้านคนทุก ๆ ปี.-
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• เกิดน้ำท่วม-ดินถล่มในอินโดนีเซีย มีผู้เสียชีวิต 6 คน
  

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 25-02-2552 | 15:26:51 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">จาการ์ตา 25 ก.พ. - เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียเผยวันนี้ว่า ฝนตกหนักเมื่อวานนี้ ทำให้เกิดน้ำท่วม และดินถล่ม เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 6 คน
เจ้าหน้าที่เผยว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้เกิดน้ำท่วม และมีผู้เสียชีวิต 4 คน ในเขตโบโจเนโกโร ของจังหวัดชวาตะวันออก ในจำนวนนั้น มีเด็กหญิงรวมอยู่ด้วย 2 คน ส่วนในจังหวัดสุลาเวสีกลาง เกิดดินถล่มใส่บ้านหลังหนึ่ง เมื่อค่ำวานนี้ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน และมีบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหาย 8 หลัง ทั้งนี้ ดินถล่มและน้ำท่วมเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ในอินโดนีเซียในฤดูมรสุม ซึ่งรุนแรงที่สุดระหว่างเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• พบหวัดนกระบาดทางตะวันออกของอังกฤษ

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 27-02-2552 | 09:17:30 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ลอนดอน 27 กพ. - บริษัทเบอร์นาร์ด แมทธิวส์ ผู้ประกอบธุรกิจฟาร์มไก่งวงในอังกฤษ แถลงยืนยันว่า พบการระบาดของโรคไข้หวัดนก ที่ฟาร์มเพาะพันธุ์ไก่งวง 2 แห่งทางตะวันออกของอังกฤษ แต่สายพันธุ์ของเชื้อไวรัสที่พบ มีความเสี่ยงที่จะเป็นอันตรายต่อคนน้อยมาก
บริษัทแถลงว่า กระทรวงเกษตรอังกฤษ ได้ดำเนินการตรวจสอบภายหลังฟาร์มทั้งสองแห่ง พบว่าปริมาณไข่ไก่ที่ผลิตได้ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ผลการตรวจพิสูจน์จากห้องปฏิบัติการ ทดลองยืนยันว่า เป็นเชื้อไข้หวัดนก แต่ไม่ใช่สายพันธุ์เอช 5 และเอช 7 ซึ่งกำลังตรวจวิเคราะห์ เพื่อให้ได้ผลสรุปต่อไป หลังจากที่บริษัทเบอร์นาร์ด แมทธิวส์ เคยได้รับผลกระทบจากการระบาด ของเชื้อไข้หวัดนกเอช5 เอ็น1 ที่ฟาร์มทางตะวันออกของอังกฤษเมื่อต้นปี 2550 นอกจากนี้ยังมีรายงานการระบาด ของเชื้อไวรัสเอช7 เอ็น7 ในยุโรปช่วงสองสามปีที่ผ่านมาด้วย
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• หวัดนกระบาดในลาวครั้งแรกในปีนี้

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 26-02-2552 | 13:40:56 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">เวียงจันทน์ 26 ก.พ.- องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (เอฟเอโอ) ยืนยันว่า เกิดไข้หวัดนกระบาดในลาว เป็นครั้งแรก ในปีนี้ ที่แขวงพงสาลี
รายงานระบุว่า ไข้หวัดนกได้แพร่ระบาดตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และทางการลาว ได้ประกาศพื้นที่สีแดง 2 จุด ในรัศมี 1 กิโลเมตร เป็นเขตเฝ้าระวังไข้หวัดนก พร้อมกับส่งเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมการแพร่ระบาดของไข้หวัดนก ซึ่งรวมถึง การฆ่าสัตว์ปีก ในฟาร์มต้องสงสัย การฉีดสารป้องกัน การแพร่ระบาดของไวรัส ไข้หวัดนก และการควบคุมการเคลื่อนย้ายสัตว์ปีกออกนอกพื้นที่ ตลอดจน การให้คำแนะนำ ที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน นอกจากนี้ ทางการลาว ยังได้ดำเนินมาตรการป้องกัน การแพร่ระบาดของไข้หวัดนก ในแขวงใกล้เคียงด้วย
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ไข้เดงกี่ระบาดในโบลิเวีย มีผู้เสียชีวิต 19 คน ติดเชื้ออีก 31000 คน

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 27-02-2552 | 11:34:58 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ลาปาซ 27 ก.พ. – โบลิเวียเผชิญไข้เดงกี่ระบาดครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 10 ปี ทำให้นับแต่เดือนมกราคม มีผู้เสียชีวิตแล้ว 19 คน และติดเชื้ออีก 31,000 คน
สถานีโทรทัศน์เอทีบี ของโบลิเวีย รายงานอ้างข้อมูลของทางการว่า ไข้เดงกี่ได้คร่าชีวิตประชาชนในแคว้นซานตากรูซ ทางตะวันออกของประเทศ ไปแล้ว 12 คน ส่วนในพื้นที่ภาคกลางมีผู้เสียชีวิต 3 คน ภาคตะวันตก มีผู้เสียชีวิต 2 คน ในกรุงลาปาซ นครหลวง พบผู้เสียชีวิต 1 คน นายรามิโร ตาเปีย รัฐมนตรีสาธารณสุข กล่วว่า มีชาวโบลิเวียอีก 1 คน เสียชีวิตขณะเดินทางไปถึงประเทศเปรู ทำให้ขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตจากไข้เดงกี่ทั้งหมดอยู่ที่ 19 คน
ส่วนยอดผู้ป่วยขณะนี้อยู่ที่ 30,870 คน ร้อยละ 71 ของผู้ติดเชื้อ อยู่ในแคว้นซานตากรูซ ซึ่งทางการได้ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข รวมทั้งในแคว้นเบนี ปันโด และโกชาบัมบา นอกจากนี้ ยังพบว่าในจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมดมีอยู่ 88 คน ที่ป่วยเป็นไข้เลือดออก ขณะนี้ทางการได้ระดมทหาร 15,000 นาย ไปให้ความช่วยเหลือทีมเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ส่วนประเทศต่างๆ อาทิ บราซิล คิวบา ปารากวัย เวเนซุเอลา สเปน และญี่ปุ่น ได้มอบความช่วยเหลือไปยังรัฐบาลโบลิเวีย ในรูปแบบของเงินบริจาค การส่งผู้เชี่ยวชาญ และอุปกรณ์พ่นกำจัดยุง
ไข้เดงกี่ เป็นโรคที่มียุงลายเป็นพาหะ และเป็นโรคที่แพร่ระบาด ในเขตร้อนมากที่สุด รองจากไข้มาลาเรีย ผู้ติดเชื้อจะมีอาการไข้สูง ปวดศีรษะ และปวดเมื่อยตามข้อ แต่หากติดเชื้อไข้เลือดออก ก็จะเป็นอันตรายกว่า เพราะจะทำให้เกิดอาการเลือดออกในร่างกายอย่างรุนแรง และทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำเฉียบพลัน ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตลงอย่างรวดเร็วหากไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที
องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) คาดว่า ในแต่ละปี มีผู้ติดเชื้อไข้เดงกี่ราว 50 ล้านคน และพบโรคชนิดนี้เพิ่มขึ้น ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากภาวะโลกร้อน โดยเฉพาะในทวีปอเมริกา ที่โรคกลับมาระบาดครั้งใหญ่ เมื่อปี 2550 มีผู้ป่วย 900,000 ราย ในจำนวนนั้น มีผู้ป่วยไข้เลือดออก 20,000 ราย
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• พบผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดนกรายล่าสุดในเวียดนาม

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 27-02-2552 | 10:03:20 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ฮานอย 27 ก.พ.-หนังสือพิมพ์พีเพิ่ลส อาร์มี ของเวียดนาม รายงานวันนี้ว่า ชายชาวเวียดนามวัย 32 ปี ที่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนก สายพันธุ์เอช 5 เอ็น 1 เสียชีวิตลงแล้วเมื่อวันพุธที่ผ่านมาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในกรุงฮานอย นับเป็นผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดนกรายที่ 2 ของเวียตนาม เหยื่อไข้หวัดนกรายนี้ มาจากจังหวัดนิงบิ่ง ห่างจากกรุงฮานอย ไปทางใต้ราว 90 ก.ม. ผลการตรวจสอบพบว่า เขาติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์มรณะ หลังจากเชือดและบริโภคสัตว์ปีกป่วยที่ครอบครัวเลี้ยงไว้ จากนั้นเริ่มล้มป่วยเมื่อวันที่ 11 ก.พ. และเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 25 ก.พ.
เวียดนาม มีรายงานพบไข้หวัดนกระบาดในพื้นที่ 11 จังหวัดทั่วประเทศ รวมทั้งจังหวัดนิงบิ่ง และกว่างนิงห์ เมื่อสัปดาห์ก่อนสตรีวัย 23 ปี คนหนึ่งในจังหวัดกว่างนิงห์ ทางภาคเหนือเสียชีวิตจากไข้หวัดนก เป็นรายแรกของเวียดนามในปีนี้.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• เกิดแผ่นดินไหว 5.7 ริกเตอร์ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 28-02-2552 | 08:57:58 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">วอชิงตัน 28 ก.พ.-สำนักงานธรณีวิทยาสหรัฐรายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.7 ริกเตอร์ บนเกาะฮอกไกโด ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น ในวันนี้ แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายหรือผู้บาดเจ็บแต่อย่างใด
รายงานระบุว่า ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเวลา 09.35 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเวลา 07.35 น. ตามเวลาในไทย อยู่ห่างจากเมืองซัปโปโร บนเกาะฮอกไกโด ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 80 กม. และลึกลงไปเพียง 5 กม.เท่านั้น สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น ไม่ได้ประกาศเตือนภัยคลื่นยักษ์ หรือสึนามิแต่อย่างใด
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ญี่ปุ่นมีรายงานไข้หวัดนกระบาดที่ฟาร์มนกกระทา

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 27-02-2552 | 11:48:51 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">โตเกียว 27 ก.พ. - เจ้าหน้าที่เกษตรญี่ปุ่น แถลงว่า พบไข้หวัดนกที่ฟาร์มนกกระทา ทางภาคกลางของญี่ปุ่น แต่ไม่มีสัตว์ตายหรือคนติดเชื้อจากไข้หวัดนก
เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่น กล่าวว่า สัตว์ปีกในฟาร์มนกกระทาที่เขตไอจิ ติดเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์เอช 7 หลังจากหงส์หลายตัว ตายจากเชื้อไวรัสไข้หวัดนกเอช 5 เอ็น 1 บนเกาะฮอกไกโด ทางภาคเหนือของญี่ปุ่น เมื่อเดือนเมษายน และเดือนพฤษภาคม ปีที่แล้ว.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• แคลิฟอร์เนียประกาศภาวะฉุกเฉินจากภัยแล้ง

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 28-02-2552 | 09:37:22 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">แซคราเมนโต 28 ก.พ.- นายอาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ ประกาศภาวะฉุกเฉินแล้ว เมื่อวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากมีปริมาณฝนและหิมะตกต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ยถึง 3 ปี และนับเป็นมาตรการหนึ่ง ที่เร่งให้หน่วยงานดูแลน้ำต้องลดการใช้น้ำลง 20%
สภาวะแห้งแล้งส่งผลให้บรรดาเกษตรกรต้องชะลอการเพาะปลูก ซึ่งทำให้คนงานในภาคการเกษตรนับพันต้องตกงาน และทำให้ต้องนำมาตรการอนุรักษ์มาใช้ตามเมืองต่าง ๆ ทั่วรัฐ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตผลผลิตทางการเกษตรรายใหญ่ในสหรัฐ คาดว่าความสูญเสียทางการเกษตรในปีนี้อาจสูงถึง 2,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และอาจทำให้สูญเสียตำแหน่งงานถึง 95,000 ตำแหน่ง รายงานระบุว่า สภาพแห้งแล้งติดต่อกัน 3 ปี ส่งผลให้ระดับน้ำ ในอ่างเก็บน้ำลดลงต่ำสุด นับแต่เมื่อปี 2535 เป็นต้นมา ด้านผู้บริหารจัดการน้ำ วางแผนจะระงับการจ่ายน้ำ เป็นการชั่วคราวให้แก่พื้นที่เพาะปลูกนับพันแห่งในเดือนมีนาคมนี้
การประกาศภาวะฉุกเฉินของผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียจะนำไปสู่การประกาศมาตรการ จำกัดการใช้น้ำมากขึ้นตามมา ซึ่งอาจรวมถึงการปันส่วนน้ำ และลดการใช้น้ำ หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• เตือนโลกร้อนกระทบรุนแรงเอเชียใต้

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 01-03-2552 | 10:34:40 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ชิคาโก 1 มี.ค. – นักวิจัยเตือนภาวะโลกร้อน จะส่งผลกระทบรุนแรง ต่อภูมิภาค เอเชียใต้ ในศตวรรษหน้า ส่งผลให้ฤดูมรสุมมาถึงล่าช้า และมีปริมาณฝนลดลง อย่างมีนัยสำคัญ

ผลการศึกษาโดยศูนย์วิจัยการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ รายงานในวารสาร จีโอฟิสิคอล รีเสิร์ช เลตเตอร์ส ระบุว่า อุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นอาจทำให้มรสุดฤดูร้อน ในภูมิภาคเอเชียใต้ ภายในศตวรรษหน้า มาถึงล่าช้าราว 1-2 สัปดาห์ ขณะเดียวกัน ก็อาจทำให้มรสุมเปลี่ยนทิศไปทางตะวันออก ทำให้มีปริมาณน้ำฝน ในมหาสมุทร อินเดีย พม่า และบังกลาเทศมากขึ้น ขณะที่ปากีสถาน อินเดีย และเนปาล กลับมีปริมาณฝนลดลง

รายงานชี้ด้วยว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ยังอาจก่อให้เกิดอุทกภัย โดยเฉพาะ ในพื้นที่ชายฝั่งทางตะวันตกของอินเดีย ศรีลังกา และพม่า จากการที่มี ประมาณน้ำฝนมากผิดปกติ ซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อภาคกสิกรรม สาธารณสุข และเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียใต้ นอกจากนี้ ยังอาจเป็นสาเหตุ ของภาวะอากาศร้อนจัดที่ทำให้ระดับความชื้นเหนือผิวดินลดลง ทำให้เกิดภาวะฤดูฝน ทิ้งช่วงท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนจัด เป็นระยะเวลานาน.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• เวสต์แบงก์น้ำท่วมหนัก ประชาชนเดือดร้อนจำนวนมาก

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 01-03-2552 | 02:10:04 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">กาซา 1 มี.ค.-เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมในเขตเวสต์แบงก์ ทำให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบเดือดร้อนจำนวนมาก

ภาวะฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันในพื้นที่เมืองตุลคาเรม ในเขตฉนวนกาซา ก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ในพื้นที่ทะเลทราย บางพื้นที่ระดับน้ำสูงเกินหัวเข่า ถนนหลายสาย สัญจรผ่านไปมาไม่ได้ นอกจากนั้น บ้านเรือนราษฎรหลายหลัง และพื้นที่เพาะปลูกตามที่ลุ่มได้รับความเสียหาย รถยนต์ต้องจอดจมน้ำหลายคัน

อย่างไรก็ดี ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือสูญหาย ขณะที่ทางการอยู่ระหว่าง เร่งให้ความช่วยเหลือชาวบ้าน แต่ความช่วยเหลือเป็นไปอย่างเชื่องช้ายากลำบาก เพราะลำพังทางการปาเลสไตน์ ก็ตกอยู่ในสถานะย่ำแย่อยู่แล้ว
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• หมอกควันยังปกคลุมเชียงรายหนัก ขณะที่ลำปางเผชิญไฟป่า

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 01-03-2552 | 14:04:35 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">เชียงราย,ลำปาง 1 ม.ค.-เทศบาลนครเชียงราย นำรถดับเพลิงฉีดพ่นละอองน้ำ ชะล้างหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก หลังหมอกควันปกคลุมเชียงราย หนาแน่นมานานกว่า 1 สัปดาห์แล้ว ขณะที่จังหวัดลำปาง ไฟป่าสร้างความเสียหาย กินพื้นที่ไปแล้วกว่า 120 ไร่

สถานการณ์หมอกควันที่ปกคลุมจังหวัดเชียงรายยังอยู่ในขั้นวิกฤติ ทำให้ทัศนวิสัย การมองเห็น ขณะขับขี่ยานพาหนะในจังหวัดวันนี้(1 มี.ค.) ต่ำกว่า 1,000 เมตร ขณะที่เทศบาลนครเชียงรายได้เร่งระดมรถดับเพลิง กระจายออกฉีดพ่นละอองน้ำ ในอากาศตามถนนสายต่างๆ ทั่วเมืองเพื่อชำระล้างหมอกควัน และฝุ่นละออง ขนาดเล็กสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว

นายสมพงษ์ กูลวงษ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงรายระบุว่า หมอกควัน ที่ปกคลุมเชียงราย หนาแน่นมานานหลายวัน ส่งผลให้ประชาชน ในเขตเทศบาล นครเชียงราย เริ่มป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจแล้วจำนวนมาก ทางเทศบาลฯ จึงได้เร่งวางมาตรการในการแก้ปัญหา เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน และการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงราย เบื้องต้นได้ระดมรถดับเพลิงฉีดพ่นละอองน้ำ เพื่อล้างหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ลอยอยู่กลางอากาศ และตามต้นไม้ และเร่ง ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั้ง 60 ชุมชน งดเผาทุกชนิดอย่างเด็ดขาด พร้อมเตรียมหน้ากากอนามัยแล้วนับแสนชิ้น เพื่อแจกจ่ายให้ประชาชน นอกจากนี้จะเร่งจัดทีมแพทย์พยาบาล ออกให้การดูแลสุขภาพของประชาชนต่อไป

ส่วนที่จังหวัดลำปาง นายสมศักดิ์ เขื่อนแก้ว ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม จังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า ขณะนี้หน่วยงานของรัฐร่วมกันสอดส่องดูแลพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ป่า เพื่อป้องกัน และควบคุมการจุดไฟเผาป่า ซึ่งเป็นสาเหตุหลัก ที่ทำให้เกิดหมอกควันพื้นที่จังหวัดลำปางขณะนี้ โดยผู้ว่าราชการจังหวัด ได้กำชับ ให้หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายกวดขันในพื้นที่รับผิดชอบของตนเองอย่างเต็มที่ เพื่อบรรเทาสถานการณ์หมอกควันไฟให้เบาบางลง ซึ่งเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เกิดไฟป่ามากกว่า 150 จุดรอบจังหวัดลำปาง มีพื้นที่ป่าที่ถูกไฟไหม้ไปแล้วกว่า 120 ไร่
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• พายุฤดูร้อนถล่มยโสธรโค่นเสาไฟฟ้า-หอบหลังคาบ้านปลิว

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 01-03-2552 | 13:33:54 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ยโสธร 1 มี.ค.- เช้าวันนี้ (1 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธาขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ลุมพุก อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร เร่งลงพื้นที่ตรวจความเสียหาย จากพายุฤดูร้อน กระหน่ำอย่างหนักกลางดึกที่ผ่านมา พบว่าต้นไม้ใหญ่ เสาไฟฟ้า ต้านแรงลมแรงไม่ไหวหักโค่น ทำให้บ้านเรือนในพื้นที่ ม.2 บ้านหนองหาบแห และ ม.7 บ้านเหล่าฝ้าย ต.ลุมพุก ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้มาตลอดทั้งคืน

นอกจากนี้ แรงลมยังหอบหลังคาบ้านปลิวหายไป 10 หลัง ราษฎรเดือดร้อน 40 คน แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ โดยชาวบ้านที่ถูกแรงลมพัดหลังคาหายไป ย้ายไป อาศัยบ้านญาติชั่วคราว ส่วนหลังอื่นเร่งซ่อมแซมความเสียหาย เพราะเกรงว่า พายุอาจเกิดขึ้นอีกระลอก เนื่องจากสภาพอากาศทั่วไป วันนี้ยังมีเมฆฝนปกคลุมทั้งจังหวัด
ขณะเดียวกัน นายขจรศักดิ์ สิงโตกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ประกาศเตือน ประชาชน ให้ระวังภัยจากพายุ หากฝนฟ้าคะนองควรงดเว้นการทำงานกลางแจ้ง
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ไฟป่าที่อุดรธานีปีนี้รุนแรง เหตุจากชาวบ้านเป็นส่วนใหญ่

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 01-03-2552 | 15:17:19 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">อุดรธานี 1 มี.ค.- นายมานพ เพ็งพูน หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าอุดรธานี เปิดเผยว่า สถานการณ์ไฟป่าปีนี้รุนแรง เพราะปีที่แล้วรวม 5 เดือน ตั้งแต่ธันวาคม-เมษายน มีไฟป่าเกิดขึ้น 50 ครั้ง เฉลี่ยสูญเสียครั้งละ 11.5 ไร่ แต่ในปีนี้เพียง 3 เดือน เกิดขึ้นแล้ว 62 ครั้ง พื้นที่ป่าสูญเสียไป 418 ไร่ หรือเฉลี่ยครั้งละ 9 ไร่เศษ เวลาที่เหลือต้องทำงานป้องกันเต็มที่ ทั้งฝ่ายปกครอง องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และทหาร เร่งทำแนวกันไฟ พร้อมขอความร่วมมือจากประชาชน เพราะสาเหตุทั้งหมดเกิดขึ้นจากมนุษย์ โดยสาเหตุ คือ จุดไฟ เพื่อหาของป่า โดยเฉพาะหา “ผักหวาน” จุดไฟเพื่อล่าสัตว์ และ มีความรุนแรงมากขึ้นบริเวณ แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ภูฝอยลม คือการเผาป่าเพื่อให้ต้องการให้หญ้าใหม่ หรือ “หญ้าระบัด” เพื่อให้สัตว์เลี้ยงกิน โดยมีชาวบ้านนำวัวขึ้นไปเลี้ยงมากกว่าทุกปี
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• ไข้เลือดออกระบาดหนักที่โบลิเวีย

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 01-03-2552 | 14:06:34 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">โบลิเวีย 1 มี.ค. – คิวบาส่งทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือโบลิเวีย รับมือกับการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก ครั้งร้ายแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์

คณะแพทย์และเจ้าหน้าที่ 500 คน จากคิวบาเดินทางถึงโบลิเวียแล้ว เพื่อให้ การช่วยเหลือต่อสู้กับการแพร่ระบาดอย่างหนักของโรคไข้เลือดออก ซึ่งขณะนี้ พบผู้ป่วยถึง 31,000 ราย กระจายอยู่ทั่วประเทศ และมีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 19 คน การพบผู้ป่วยในปีนี้นับว่า มีจำนวนมากกว่าเมื่อปีที่แล้วถึง 3 เท่าตัว ทำให้รัฐบาล ต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ในจังหวัดซานตาครูซทางภาคตะวันออก ซึ่งเป็นพื้นที่ ที่มีการแพร่ระบาด ของโรครุนแรงที่สุด ด้านรัฐมนตรีสาธารณสุขของโบลิเวีย ได้กล่าวขอบคุณคิวบาที่ส่งบุคลากรเข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งทีมผู้เชี่ยวชาญของคิวบา จะให้การฝึกอบรมแก่เจ้าหน้าที่ของโบลิเวีย เพื่อให้รับมือกับการแพร่ระบาด ของไข้เลือดออกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• อุณหภูมิในฮ่องกงร้อนที่สุดในรอบ 125 ปี

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 01-03-2552 | 16:00:49 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ฮ่องกง 1 มี.ค.-นักอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า อุณหภูมิที่ฮ่องกง ในเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาร้อนที่สุด ในรอบ 125 ปี นับตั้งแต่มีการจดบันทึกสถิติ ซึ่งเป็นสัญญาณ ล่าสุดที่บ่งชี้แนวโน้มระยะยาวว่า อุณหภูมิในฮ่องกงจะสูงขึ้น

อุณหภูมิเฉลี่ยของฮ่องกงในเดือนที่แล้วคือ 20.5 องศาเซลเซียส สูงกว่าอุณหภูมิเฉลี่ย ในเดือนเดียวกัน ตั้งแต่ปี 2514-2543 ถึง 4.2 องศาเซลเซียส รายงานระบุว่า อุณหภูมิในรอบวันที่สูงที่สุด คือ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ วัดได้ 28.3 องศาเซลเซียส สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์

สาเหตุที่อุณหภูมิสูงขึ้นเกิดจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนืออ่อนกำลัง ทำให้แทบ ไม่สามารถพัดพาอากาศหนาวเย็น จากทางตอนเหนือ ลงมาสู่ภาคใต้ของจีนได้
แถลงการณ์ระบุว่าอุณหภูมิที่สูงขึ้นได้สะท้อนแนวโน้มว่า ฮ่องกงจะมีอากาศอุ่นขึ้น ในระยะยาว ทั้งนี้อุณหภูมิในช่วง 10 ปีในเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้นราว 0.4 องศาเซลเซียสในรอบ 50 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะโลกร้อน ที่มีสาเหตุ มาจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ของผู้ที่อยู่อาศัยในเขตเมือง
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>

• อุณหภูมิในฮ่องกงร้อนที่สุดในรอบ 125 ปี

</TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 01-03-2552 | 16:00:49 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ฮ่องกง 1 มี.ค.-นักอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า อุณหภูมิที่ฮ่องกง ในเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาร้อนที่สุด ในรอบ 125 ปี นับตั้งแต่มีการจดบันทึกสถิติ ซึ่งเป็นสัญญาณ ล่าสุดที่บ่งชี้แนวโน้มระยะยาวว่า อุณหภูมิในฮ่องกงจะสูงขึ้น

อุณหภูมิเฉลี่ยของฮ่องกงในเดือนที่แล้วคือ 20.5 องศาเซลเซียส สูงกว่าอุณหภูมิเฉลี่ย ในเดือนเดียวกัน ตั้งแต่ปี 2514-2543 ถึง 4.2 องศาเซลเซียส รายงานระบุว่า อุณหภูมิในรอบวันที่สูงที่สุด คือ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ วัดได้ 28.3 องศาเซลเซียส สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์

สาเหตุที่อุณหภูมิสูงขึ้นเกิดจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนืออ่อนกำลัง ทำให้แทบ ไม่สามารถพัดพาอากาศหนาวเย็น จากทางตอนเหนือ ลงมาสู่ภาคใต้ของจีนได้
แถลงการณ์ระบุว่าอุณหภูมิที่สูงขึ้นได้สะท้อนแนวโน้มว่า ฮ่องกงจะมีอากาศอุ่นขึ้น ในระยะยาว ทั้งนี้อุณหภูมิในช่วง 10 ปีในเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้นราว 0.4 องศาเซลเซียสในรอบ 50 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะโลกร้อน ที่มีสาเหตุ มาจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ของผู้ที่อยู่อาศัยในเขตเมือง
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD width="1%"> </TD><TD colSpan=2>
</TD></TR></TBODY></TABLE>