รวมภาพพระบรมธาตุและพระอรหันตธาตุต่างๆเพื่อการศึกษา

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย jaroenthai, 13 มิถุนายน 2008.

  1. Reliquiae

    Reliquiae เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,184
    ค่าพลัง:
    +2,639
    พระมงคลวุฒิ (หลวงปู่ทอง โสณุตตโร) วัดจักรวรรดิราชาวาส (วัดสามปลื้ม) กรุงเทพฯ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. Reliquiae

    Reliquiae เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,184
    ค่าพลัง:
    +2,639
    พระครูวิสุทธิสุนทร (หลวงพ่อคำมา ปุณฺณสีโล) วัดป่าศรีสะอาด จ.สกลนคร
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. ภูดาว

    ภูดาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    380
    ค่าพลัง:
    +931
    อื่ม.ถ้าเรียงตามอายุก็คงไม่ยุตติธรรมสำหรับพี่บี ว่าแต่เรามาเรียงพรรษาในการบูชาพระธาตุกันดีไม๊ครับ5555 คงม่วนอิหลีน่าดู


    ผมเริ่มบูชาเมื่อ ตุลาปี2548ครับ(ฝุย...ไก่อ่อนเอ้ย) เมื่อก่อน ก็เคยเจอปาฏิหารย์ พักหลังไม่ค่อยเจอ คงเป็นเพราะมีบูชามากเกินไป นานๆๆๆนมนาน เจอที แต่คุณแม่ผมเจอบ่อยครับ --*
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 มีนาคม 2009
  4. pjo2517

    pjo2517 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2009
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +482
    พระธาตุสายครูบา ทางภาคเหนือ

    พระธาตุที่แปรจากอัฐิสายครูบาทางภาคเหนือ มีสามเณรท่านให้มา อาจารย์ท่านให้เณรมาอีกทอดหนึ่ง แล้วเณรก็มอบให้ผมรักษาไว้ เพราะท่านบอกว่าสังขารท่านก็หนักอยู่แล้ว แล้วยังต้องมาแบกสังขารพ่อแม่ครูบาอาจารย์ไปนู้นมานี่อีก ท่านจึงได้มอบให้ผมไว้บูชานานแล้วครับ แต่ท่านจำชื่อไม่ได้ ผมก็เลยจนปัญญา แต่งามมากนะครับ มีทั้งอัฐิครึ่งหนึ่งแก้วครึ่งหนึ่ง รวมไปถึงที่แปรสภาพเป็นเหมือนพระอรหัตธาตุในสมัยก่อนก็มี สีเหมือนงาช้างเลยครับ แต่ต้องรอไปถามอาจารย์เณรอีกที แต่ท่านธุดงไปเรื่อยไม่รู้จะมีโอกาสได้เจอะเจอเมื่อไรครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • PICT2527.JPG
      PICT2527.JPG
      ขนาดไฟล์:
      169.9 KB
      เปิดดู:
      130
  5. pjo2517

    pjo2517 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2009
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +482
    พระบรมสารรีริธาตุ หรือพระอรหันตธาตุก็ไม่ทราบครับ

    พระบรมสารรีริธาตุ หรือพระอรหันตธาตุก็ไม่ทราบครับ
    พระธาตุหลายองค์นี้ก็เช่นกันครับ ครูบาอาจารย์สายอีสานท่านให้มา ท่านบอกผมว่าเป็นพระบรมสารีกธาตุ เพราะเสด็จมาเองอยู่ในพานทองที่บูชาพระ แต่ผมดูแล้วเหมือนพระอรหันตธาตุในสมัยก่อน แต่พอไปดูของพระบรมมหาราชวังที่ในหลวงของเรานำมาให้ประชาชนบูชากราบไหว้ที่ท้องสนามหลวง ลักษณะของพระบรมสารีริกธาตุก็เหมือนกันกับพระอรหันตธาตุเลยครับ
    มีความมันเงาสีสันเหมือนงาช้างเหมือนของที่ผมได้มาเลยครับ ตอนแรกผมก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ พอดีพระอาจารย์ของผมอีกท่านหนึ่ง ท่านขึ้นเครื่องบินไปประเทศอินเดีย ท่านไปเจอพระอินเดียบนเครื่องบิน แล้วท่านสนทนากันอย่างไรไม่ทราบ พระอินเดียจึงให้พระบรมสารีริกธาตุท่านไว้ พอท่านกลับมาประเทศไทยผมได้ไปกราบท่านที่วัดท่านก็นำมามอบให้ผมไว้บูชา ลักษณะก็มี 2 อย่างคือเหมือนพระอรหันตธาตุที่ผมนำมาลงให้ดูเลยครับ แต่จะออกกลมรีนิดนึง แต่เงาและสีเหมือนงาช้างเหมือนกันเลยครับ 1 องค์ และก็มีลักษณะแบบเมล็ดพันธ์ผักกาดอีกหลายองค์ครับ ผมก็เลยมั่นใจว่าน่าจะมีพระธาตุของพระพุทธองค์ที่มีลักษณะแบบเดียวกันกับพระอรหันตธาตุ เพราะท่านก็เป็นพระอรหันต์เหมือนกันนะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • PICT8832.JPG
      PICT8832.JPG
      ขนาดไฟล์:
      230.7 KB
      เปิดดู:
      109
  6. pjo2517

    pjo2517 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2009
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +482
    ทันตธาตุ(ฟัน) และอัฐิส่วนซี่โครง หลวงปู่ขาน วัดป่าบ้านเหล่า จ.เชียงราย

    ทันตธาตุ(ฟัน) และอัฐิส่วนซี่โครง หลวงปู่ขาน วัดป่าบ้านเหล่า จ.เชียงราย
    เริ่มมีสภาพแปรเป็นตุ่มๆเม็ดกลมๆ ขึ้นมาบนผิวของอัฐิ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 2278.jpg
      2278.jpg
      ขนาดไฟล์:
      33.2 KB
      เปิดดู:
      97
    • PICT2575.JPG
      PICT2575.JPG
      ขนาดไฟล์:
      138.6 KB
      เปิดดู:
      86
    • PICT2795.JPG
      PICT2795.JPG
      ขนาดไฟล์:
      137.7 KB
      เปิดดู:
      74
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มีนาคม 2009
  7. pjo2517

    pjo2517 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2009
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +482
    หลวงปู่ลือ วัดป่านาทาม จ.ยโสธร

    อัฐิ และพระธาตุหลวงปู่ลือ วัดป่านาทาม จ.ยโสธร
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 00106465.jpg
      00106465.jpg
      ขนาดไฟล์:
      33.2 KB
      เปิดดู:
      67
    • IMG_0529.JPG
      IMG_0529.JPG
      ขนาดไฟล์:
      24.5 KB
      เปิดดู:
      89
  8. Reliquiae

    Reliquiae เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,184
    ค่าพลัง:
    +2,639
    ขอเพิ่มเติมครับ พระบรมสารีริกธาตุของพระบรมมาราชวังที่อัญเชิญมานั้น

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระองค์ อัญเชิญจากพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม มาประดิษฐาน ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เนื่องในสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา วันวิสาขบูชา เพื่อให้ประชาชนสักการะบูชาตลอด ๗ วันแห่งสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาเป็นประจำทุกปี (๑ปี มีเพียงครั้งเดียว)

    ซึ่งเป็นลักษณะเจดีย์ทองและมีพระพุทธรูปปางป่าเลไลย์ อยู่ด้วย โดยมีการตรวจนับ พระบรมสารีริกธาตุ จากเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง ก่อนและหลังงานโดยบรรจุลงเจดีย์ทอง แล้วอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ออกทางประตูสวัสดิโสภา เข้าสู่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง

    ซึ่งผมยังไม่เคยเห็นองค์จริงเหมือนกันครับ เพียงแต่เห็นเจดีย์สีทองครับ

    ส่วน วันสำคัญทางพุทธศาสนาอื่นๆ เช่น มาฆบูชา หรือ อาสาฬบูชา นั้น เท่าที่ทราบ วันมาฆบูชา จะนำ พระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุจากที่อื่นมาครับ (ไม่แน่ใจว่าของ รพ.วิชัยยุทธ หรือเปล่า) และจะมีรูปให้ชมตรงที่บูชาครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. Reliquiae

    Reliquiae เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,184
    ค่าพลัง:
    +2,639
    ส่วนพระบรมฯแบบนี้ไม่เคยพบครับ แปลกดีเหมือนกันครับ สาธุที่นำมาให้ชมเป็นบุญตาครับ

    ส่วนพระบรมสารีริกธาตุ ทีมีลักษณะเลื่อมมันเป็นสีเหมือนงาช้างนั้น เท่าที่เคยได้เห็น จะพบว่า เป็นของที่ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ได้ประทาน ให้ไปบรรจุพระเจดีย์ หรือ เศียรพระพุทธรูปครับ

    2 รูปแรกผมจำไม่ได้ว่าของวัดไหน รูปที่ 3 เป็นของวัดสันติธรรมครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 มีนาคม 2009
  10. pjo2517

    pjo2517 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2009
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +482
    สาธุๆๆ ขอมูลแน่นทีเดียวครับ รู้สึกว่าของสมเด็จพระสังฆราช ท่านจะได้มาจากคุณลุงทองดี นะครับ เอาไว้เดี๋ยวผมถ่ายภาพพระบรมสารีริกธาตุที่ได้จากประเทศอินเดียมาให้ชมครับ ว่ามีลักษณะคล้ายของพระอรหันตธาตุก็มีนะครับ สาธุอนุโมทนาบุญร่วมกันด้วยนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มีนาคม 2009
  11. pjo2517

    pjo2517 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2009
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +482
    เออ...อีกเรื่องนึงครับ พระบรมสารีริกธาตุ ที่มีลักษณะคล้ายพระธาตุของพระอรหันต์ที่ทางประเทศศรีลังกาได้มอบให้ไว้ประดิษฐ์ฐานที่โบสถ์วัดมัฌชันติการาม ก็มีลักษณะคล้ายพระธาตุของพระอรหันต์เช่นกันครับ ส่วนประวัติและลายละเอียดค่อนข้างจะยาวครับ ต้องลองไปสอบถามและขอดูภาพที่วัดได้นะครับ สวยและเหมือนพระอรหันต์ธาตุมากเลยครับ รู้สึกจะมีอยู่ 2-3 องค์ครับสวยเงางาม และสีคล้ายๆดอกพิกุลแห้ง หรือเหมือนสีงาช้างเหมือนกันครับ
    ผมเห็นมาหลายที่คล้ายๆกันครับ แต่ที่มาจากสมเด็จพระสังฆราช ก็จะคล้ายๆกับที่คุณทองดีมีอยู่ครับ เพราะคุณลุงทองดีเคยเล่าให้ผมฟังว่า เวลาสมเด็จพระสังฆราชจะประทานให้ที่เจดีย์ไหน ลุงท่านก็จะเป็นคนนำไปถวายให้แก่สมเด็จแทบทั้งนั้นเลยครับ
    ส่วนพระบรมสารีริกธาตุที่องค์สมเด็จพระสังฆราชบูชาส่วนตัว ผมเคยเห็นมีพระเลขาท่านนำมาให้อีกวัดหนึ่ง ผมจึงไปขอชม จะมีลักษณะเหมือนเมล็ดพันธ์ผักกาด หรือคล้ายๆพระธาตุ ด้านหน้าแรกๆของกระทู้นี้แหล่ะครับ แต่จะเงาเป็นมันทุกองค์ครับ สวยงามมาก แต่จะไม่ใหญ่เหมือนของคุณลุงทองดีเท่านั้นแหล่ะครับ
    และในบางที่ก็เป็นเหมือนมุขเลยก็มีนะครับ บางทีผมยังไม่รู้ว่าเป็นมุขหรือพระบรมสารีริกธาตุกันแน่เพราะไม่แน่ใจว่า คนสมัยก่อนอาจจะนำมุขมาบูชาร่วมกับพระธาตุ แล้วคนยุคนี้ก็อาจนึกว่าเป็นพระบรมก็อาจเป็นได้นะครับ
    ผมยังเคยได้พระบรมสารีริกธาตุเม็ดเท่าข้อนิ้วชี้เลยครับ ลักษณะก็เป็นคล้ายพระธาตุพระอรหันต์ครับ ถ้าใครไม่รู้ก็บอกว่าเป็นพระธาตุพระโมคลานะ เพราะท่านมีลายคล้ายกัน แต่ยังดูเป็นกระดูกอยู่เลยครับ ส่วนแหล่งที่ได้ชัดเจนมากครับ เพราะมีคู่วัดมานานมากครับ
    พระท่านให้มา ท่านบอกว่าสมัยก่อนมี 15 องค์ แต่ตอนนี้เหลืออยู่ 7 องค์ครับ เวลาท่านจะหายไป จะมีลำแสงพุง่ออกไปจากที่วัดครับ แล้วเวลาจะมาก็จะมีลำแสงพุ่งเข้ามาที่วัดอีกเช่นกันครับท่านเห็นมาตั้งแต่ตอนท่านเล็กๆแล้วครับ ตอนแรกผมก็นำไปคืนที่วัด เพราะรู้สึกเหมือนกับไม่คู่ควรกับผมเท่าไร่ครับ
    เพราะเป็นองค์ใหญ่ครับ แต่พอไปคืนทางวัดกลับบอกว่าไว้ที่ผมแหละดีแล้วครับ ท่านยังบอกอีกนะครับว่า สมัยก่อนตอนสงน้ำในวันสงกรานต์ คนเหนือจะไหว้พระธาตุด้วยน้ำส้มป่อย แล้วต่อลางไม้ไผ่เพื่อให้น้ำไหลมาสงพระธาตุ พระธาตุก็ไหลไปกับน้ำชาวบ้านก็เก็บไป แต่สุดท้ายก็ต้องนำมาคืนครับ
    จนมาถึงกระผม กระผมเห็นจึงได้อฐิษฐานขอท่าน ท่านก็ลองใจกระผม ถึง 3-4 ครั้ง จนในที่สุดท่านก็ให้ไว้ตอนผมไปภาวนาที่ถ้ำผาปล่อง ท่านยังเมตตานำรถกระบะพาผมไปส่งที่ถ้ำเลยครับ
    แล้วพอตอนหลังเพื่อนผมก็เห็นและบอกว่าใหญ่มากเหมือนกระดูกจริงๆ และให้ผมนำไปคืนที่วัด พอผมมีโอกาสผมก็นำท่านติดรถไปถวายคืน แต่ก็มีเหตุแปลกต่างๆนานา เหมือนกับว่าผมต้องได้เก็บไว้อย่างนั้นแหล่ะครับ ในคราวนั้นก็เลยไม่ได้ส่งคืนวัด ต้องนำกลับมาที่กรุงเทพอีกฯลฯ
    อาจเป็นเพราะผมอาลัย เสียดายในคราวที่จะคืนกระมั๋งครับ จนครั้งที่ 2 ผมมีโอกาสได้ไปที่เชียงใหม่อีกครั้ง ผมจึงตั้งใจว่าจะนำท่านไปคืนให้สำเร็จ พอไปถึงท่านอาจารย์กลับพูดว่า โยมเก็บไว้บูชาที่บ้านแหล่ะดีแล้ว ผมทั้งดีใจมากๆ และก็แปลกใจมากๆครับ
    ทุกวันนี้ผมยังบูชาไว้เหนือพระธาตุทุกๆองค์ เลยครับ และยังบูชาท่านไว้ในน้ำมันจันทร์หอมที่หาซื้อได้ยาก และแพงมากอีกด้วยครับ นี่แหล่ะครับ ประสบการณ์พระบรมสารีริกธาตุ ที่มีลักษณะและวรรณเหมือนพระธาตุพระอรหันต์ครับ เดี๋ยวผมจะถ่ายรูปไว้เป็นเครื่องยืนยันให้ชมกันในคราวต่อไปด้วยครับ...สาธุ
     
  12. Reliquiae

    Reliquiae เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,184
    ค่าพลัง:
    +2,639
    ครับ จากที่ได้ทราบมานั้น ท่านมีของท่านเองด้วยครับ แล้วก็เสด็จมาเต็มโถไม่เคยพร่องครับ ไม่ได้ได้มาจากของคุณลุงทองดีเพียงอย่างเดียวครับ
     
  13. Reliquiae

    Reliquiae เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,184
    ค่าพลัง:
    +2,639

    ครับ จะรอชมครับ
     
  14. chakapong

    chakapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    497
    ค่าพลัง:
    +1,305
    เป็นบุญแล้วแน่แน่วแท้ไหว้สา
    องค์พุทธาจากพระธาตุสะอาดใส
    ระลึกธรรมคำสอนแม้นตอนใด
    ชื่นหัวใจในพระคุณหนุนโลกา
     
  15. Reliquiae

    Reliquiae เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,184
    ค่าพลัง:
    +2,639
    พระครูสันติยานุศาสน์ (หลวงปู่ครูบาอิ่นคำ อินฺทนันฺโท) วัดข้าวแท่นหลวง จ.เชียงใหม่
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. Reliquiae

    Reliquiae เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,184
    ค่าพลัง:
    +2,639
    ครูบาเตชะ วัดป่าแดด จ.เชียงใหม่
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. Reliquiae

    Reliquiae เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,184
    ค่าพลัง:
    +2,639
    อุบาสิกาคุณย่าบุญเรือน โตงบุญเติม วัดอาวุธวิกสิตาราม (วัดบางพลัดนอก) กรุงเทพฯ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. chakapong

    chakapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    497
    ค่าพลัง:
    +1,305
    อัฐิหลวงพ่อทูล

    อัฐิหลวงพ่อทูล ขิปปปญโญ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • xxhd6[1].jpg
      xxhd6[1].jpg
      ขนาดไฟล์:
      80.9 KB
      เปิดดู:
      127
  19. Reliquiae

    Reliquiae เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,184
    ค่าพลัง:
    +2,639
    คุณยายขาวกั้ง เทพิน สำนักชีวัดป่าภูริทัตถิราวาส (วัดป่าหนองผือนาใน) จ.สกลนคร


    สมัยนั้นญาติโยมชาวบ้านหนองผือกำลังมีความสนใจในการปฏิบัติธรรมมาก ทั้งหญิงทั้งชาย หลังจากได้พากันละเลิกนับถือผีแล้ว โดยพระอาจารย์หลุย จนฺทสาโร ผู้แนะนำสั่งสอนเป็นองค์แรก ให้ละเลิกนับถือผีถือผิดเหล่านั้น ให้หันหน้ามานับถือพระไตรสรณคมน์อย่างจริงจังมี พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ เป็นสรณที่พึ่งแทน และท่านยังได้อบรมสั่งสอนให้ปฏิบัติฝึกหัดนั่งสมาธิภาวนาพร้อมทั้ง เดินจงกรมด้วย พากันปฏิบัติอย่างนั้นมาเรื่อย ๆ จนทำให้การปฏิบัติธรรมของญาติโยมชาวหนองผือสมัยนั้น บางคนมีความก้าวหน้ามาก และได้สละบ้านเรือนออกบวชกันหลายคน โดยเฉพาะฝ่ายหญิงออกถือบวชเนกขัมมะ สละเรือนเป็นแม่ขาว แม่ชี สมาทานรักษาศีลแปดจำนวนหลายคนด้วยกัน ที่สำคัญมีคุณยายขาวกั้ง เทพิน คุณยายขาววัน พิมพ์บุตร คุณยายขาวสุภีร์ ทุมเทศ คุณยายขาวตัด จันทะวงษา คุณยายขาวเงิน โพธิ์ศรี คุณยายขาวงา มะลิทอง คุณยายขาวกาสี โพธิ์ศรี และคุณแม่ชีกดแก้ว จันทะวงษา ( ชาวบ้านหนองผือ บวชเป็นแม่ชีตั้งแต่สมัยพนะอาจารย์หลุย จนฺทสาโร อยู่จำพรรษา จนปัจจุบัน พ.ศ. ๒๕๔๔ ยังเป็นแม่ชีพักอยู่วัดป่าบ้านหนองผือ และได้เล่าเหตุการณ์สมัยท่านพระอาจารย์มั่นมาจำพรรษาที่วัดป่าบ้านหนองผือ ) โดยมีพระอาจารย์ หลุย จนฺทสาโร เป็นผู้บวชให้

    จนกระทั่งท่านพระอาจารย์มั่นได้เดินทางเข้าไปยังบ้านหนองผือ และพำนักอยู่วัดป่าบ้านหนองผือ และพำนักอยู่วัดป่าบ้านหนองผือ ยิ่งทำให้คุณยายขาวแม่ชีและญาติโยม ซึ่งกำลังมีความสนใจปฏิบัติธรรม อยู่แล้วมีความสนใจมากยิ่งขึ้น จนบางคนปรากฎผลเป็นที่น่าอัศจรรย์ในการปฏิบัติสมาธิภาวนา ในจำนวนนั้นมีคุณยายขาวคนหนึ่งผู้บวชชีเมื่อตอนแก่ ท่านมีอายุมากกว่าเพื่อนและเป็นหัวหน้าคณะแม่ชี ชื่อคุณยายขาวกั้ง เทพิน อายุประมาณ ๗๐ กว่าปี การปฏิบัติมาธิมีความก้าวหน้ามากมีความรู้ความเห็น ซึ่งเกิดจากการภาวนาหลายเรื่องหลายประการ ท่านมีนิสัยชอบเที่ยวรู้สิ่งนั้นสิ่งนี้ทางด้านจิตภาวนาอยู่เสมอ เมื่อเกิดปัญหาขัดข้องทางด้านจิตภาวนา มีโอกาสก็เข้าไปกราบนมัสการเล่าปัญหาถวายท่านพระอาจารย์มั่นฟัง ท่านก็จะแนะอุบายวิธีให้ไปประพฤติปฏิบัติตาม ในที่สุดปัญหาเหล่านั้นก็ตกไป

    ตอนหลังคุณยายขาวกั้ง ท่านแก่ชราภาพมากไปมาไม่สะดวก ลูกหลานจึงให้ไปพักที่บ้าน ขณะที่อยู่บ้านท่านก็ไม่ได้ลดละความพากเพียร ตอนบ่ายเดินจงกรมบนบ้าน ค่ำลงเข้าห้องทำวัตรสวดมนต์ เสร็จแล้วนั่งสมาธิภาวนาต่อ ทำอย่างนี้ทุกวัน ตอนหนึ่งท่านนั่งภาวนาจิตไปเที่ยวเพลิน ชมเมืองสวรรค์ เกือบทุกคืน นั่งภาวนาคราวใดจิตใจจะไปเที่ยวชมเมืองสวรรค์ทุกครั้งท่านบอกว่า มันสนุกสนานเพลิดเพลิน เห็นแต่สิ่งสดสวยงามทั้งนั้น ไปแล้วก็อยากไปอีก เป็นอย่างนี้อยู่หลายวัน วันหนึ่งไปกราบนมัสการเล่าเรื่องนี้ ถวายท่านพระอาจารย์มั่น ท่านจึงพูดปรามไม่ให้ไปเที่ยวเมืองสวรรค์บ่อยนัก แต่คุณยายขาวกั้งก็ยัง ติดอกติดใจจะไปเที่ยวชมเมืองสวรรค์อีก

    คืนหนึ่งคุณยายขาวกั้งนั่งสมาธิภาวนาจะน้อมจิตไปเที่ยวชมเมืองสวรรค์ ตามที่เคยไปแต่เหมือนมี อะไรมาขวางกั้นจิตทำให้ไม่รู้ทิศทางที่จะไป คืนนั้นเลยไปไม่ได้ พอตอนเช้าฉันจังหันเสร็จคุณยายก็ไปที่วัด เข้าไปกราบนมัสการท่านพระอาจารย์มั่น เล่าเรื่องถวายท่านว่า " เมื่อคืนหลวงพ่อเอาหนามไปปิดทางข้าน้อย ข้าน้อยเลยไปมิได้ " ท่านพระอาจารย์มั่นตอบว่า " ไปเที่ยวเฮ็ดยั้งดุแท้ ( บ่อยแท้ ) " คุณยายขาวกั้งจึงพูดตอบ ว่า " ไปแล้วมันม่วนรื่นเริงใจ เห็นแต่สิ่งสวย ๆ งาม ๆ ทั้งนั้น " ท่านพระอาจารย์มั่นจึงบอกว่า " เอาล่ะ บ่ต้อง ไปอีกนะทีนี้ " คุณยายขาวกั้งก็เข้าใจความหมาย และยอมรับที่ท่านพระอาจารย์มั่นพูดเช่นนั้น แต่ในใจของ คุณยายก็ยังคิดอยากจะไปเที่ยวชมเมืองสวรรค์อยู่อีก ท่านพระอาจารย์มั่นไม่ให้ไปเพราะกลัวคุณยายจะผิดทาง และเสียเวลา ท่านต้องการอยากจะให้ดูหัวใจตัวเองมากกว่าจึงจะไม่ผิดทาง ในที่สุดคุณยายขาวกั้งก็รับไป ปฏิบัติตาม ซึ่งตามปกติาคุณยายขาวกั้งจะเข้าไปกราบถามปัญหาธรรมกับท่านพระอาจารย์มั่นอยู่เสมอ ๆ แต่ ละครั้งใช้เวลาไม่นานเพราะคุณยายขาวกั้งจะถามเฉพาะปัญหาที่แก้ไม่ตกจริง ๆ เท่านั้น เมื่อท่านพระอาจารย์มั่น ตอบมาอย่างไร คุณยายใจแล้วจะกราบลาท่านกลับที่พักของตนเป็นอยู่อย่างนี้เสมอ ต่อมาคุณยายขาวกั้งก็ เกิดปัญหาทางจิตที่สำคัญขึ้นอีกคือ วันหนึ่งไปที่วัดเพื่อจะไปกราบถามปัญหากับท่านพระอาจารย์มั่นตามปกติ วันนั้นพอถึงวัดเข้าไปกราบนมัสการท่านพระอาจารย์มั่น ท่านจึงทักขึ้นว่า " ฮ้วย...บ่แม่นไปเกิดกับหลานสาว แหล่วบ่น้อ " ( หมายความว่า ไม่ใช่จิตของยาย เข้าไปปฏิสนธิในครรภ์ของหลานสาวแล้วหรือ ) เพราะช่วงนั้น คุณยายขาวกั้งมีหลานสาวคนหนึ่งแต่งงานใหม่กำลังตั้งครรภ์อ่อน ๆ อยู่ ด้วยเหตุนี้คุณยายขาวกั้งจึงบอกต่อ ท่านพระอาจารย์มั่นว่า " ข้าน้อย มิเยอะเกิด เพราะว่ามันทุกข์ แล้วล่ะเอ็ดแนวเลอ ข้าน้อยจังสิมิเกิดอีก " ท่านพระอาจารย์มั่นตอบว่า " อ้าว... เอาให้ดีเด้อ... ภาวนาให้ดีๆ เด้อ " เหมือนกับคติพจน์ที่ท่านมักยกขึ้นมา กล่าวอยู่เสมอว่า

    " แก้ไห้ให้ตกเน้อ แก้บ่ตกคาพกเจ้าไว้ แก้บ่ได้แขวนคอต่องแต่ง แก้บ่พ้นคาก้นย่างยาย คาย่างยายเวียนตายเวียนเกิด เวียนเอากำเนิดในภพทั้งสาม ภพทั้งสามเป็นเฮือนเจ้าอยู่ "

    ดังนี้ จากนั้นท่าน พระอาจารย์มั่น คงจะแนะอุบายวิธีแก้ให้คุณยายนำไปปฏิบัติ คุณยายพอได้อุบายแล้ว ก็ถือโอกาสกราบลาท่าน กลับบ้านของตน เมื่อกลับถึงบ้านแล้วจัดแจงเตรียมตัวเตรียมใจ ทำความพากเพียรตามอุบายที่ท่านพระ อาจารย์มั่นแนะนำให้ปฏิบัติ คุณยายขาวกั้งทำความพากเพียรนั่งสมาธิ ภาวนาอยู่ประมาณสองสามวันจึงรู้ สาเหตุ แต่ก็ยังไม่สามารถทำลายอวิชชา ตัณหา อุปาทาน เหล่านั้นได้ จนคุณยายขาวกั้งอุทานออกมาให้ลูก หลานฟังว่า " พวกสู..กูกำลังไปเกิดกับอีอุ่น จังวากูมิเยอะเกิดอิก กูกำลังม้างอยู่เดี๋ยวนี้ " ( หมายความว่า พวก ลูกๆ หลานๆ ทั้งหลายยายเห็นว่า ยายกำลังไปเกิดเป็นลูกของหลานสาวคือนางอุ่น แต่ว่ายายไม่ต้องการจะ เกิดอีก จึงกำลังพยายามทำลายภพชาติอยู่ในขณะนี้ ) หลังจากนั้นต่อมาไม่นานนาอุ่นหลานสาวของคุณยาย ขาวกั้งที่กำลังตั้งท้องอยู่ ยังไม่ถึงเดือนนั้นก็แท้งออกเสียโดยไม่รู้สาเหตุเลย หรือจะเป็นด้วยจิตเดิมของคุณยาย ขาวกั้ง เข้าไปปฏิสนธิในครรภ์ของนางอุ่นหลานสาวจริง เมื่อคุณยายทำลายสาเหตุ คือ อวิชชา ตัณหา อุปาทาน ในจิตของคุณยายได้แล้ว จึงทำให้ครรภ์นั้นแท้งเสียดังกล่าว สำหรับคุณยายขาวกั้งหรือแม่ชีกั้ง เรื่องการภาวนานั้นรู้สึกว่ามีความก้าวหน้ามากและเป็นไปเร็วกว่า บรรดาแม่ชีที่บวชรุ่นเดียวกัน แม้จะถือบวชชีตอนแก่ของบั้นปลายชีวิตแล้วก็ตามการภาวนาของท่านก็เกิด ความรู้ความเห็นวิจิตรพิสดารโลดโผนมาก แต่คงจะเป็นด้วยบุญวาสนาของคุณยายที่มีท่านพระอาจารย์มั่น ซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ที่เชี่ยวชาญทางด้านจิตภาวนา ได้เข้ามาพำนักอยู่วัดป่าบ้านหนองผือในช่วงนั้นพอดี จึงเป็นโอกาสให้คุณยายขากั้งได้เข้าไปกราบเรียนถามปัญหาต่างๆ ที่เกิดจากการภาวนากับองค์ท่าน จนสามารถ แก้ปัญหาเหล่านั้นลุล่วงไปด้วยดี และก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรมได้อย่างรวดเร็ว จนเป็นที่อบอุ่นใจของ คุณยายมาจนกระทั่งท่านหมดอายุขัย


    บางส่วนจาก ปกิณกธรรมของท่านพระอาจารย์มั่น เล่าถึงเหตุการณ์ที่น่าสนใจในช่วงที่ท่านจำพรรษา ณ วัดป่าบ้านหนองผือ ช่วง ๕ พรรษาสุดท้าย คัดจากหนังสือบูรพาจารย์ ฉบับพิมพ์ครั้งที่ ๒
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 5 มีนาคม 2009
  20. Reliquiae

    Reliquiae เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,184
    ค่าพลัง:
    +2,639
    คุณยายขาวตัด จันทะวงษา สำนักชีวัดป่าภูริทัตถิราวาส (วัดป่าหนองผือนาใน) จ.สกลนคร

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...