อธิษฐานฤทธิ์

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ขันธ์, 12 เมษายน 2009.

  1. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,927
    ค่าพลัง:
    +9,209
    ในความสามารถของจิตมีอยู่อย่างหนึ่งคือ สร้าง วิมานในหัวตัวเองได้

    จะคิดจินตนาการอะไร ก็ได้ บางคนมีแรงจิตดีคิดสิ่งต่างๆ อย่างต่อเนื่องและมีกำลังทำให้ เกิดสำเร็จผล ตามที่ตั้งใจ

    เทวดา หรือ พรหม ก็คิดนึกเอา อธิษฐานเอา ก็สามารถบันดาลสิ่งต่างๆ ได้ดังใจ ตามกำลังบารมีของตน

    มนุษย์ จินตนาการคิด สร้างอะไรก็ตามเกิดจากใจนี้ทุกอย่าง

    เรียกว่า ใจเป็นประธาน ใจเป็นใหญ่

    ซึ่ง หากว่า บุคคลใด มีทำใจให้บริสุทธิ์แล้ว ตั้งจิตอธิษฐานแล้ว ผลจะสำฤทธิ์โดยง่ายดาย

    ใครมีความทุกข์ ให้ตั้งใจละทุกข์ที่ใจ เพื่อให้ใจสะอาดสว่าง สงบ ทำกุศลใหุ้ถึงพร้อม ทำจิตตนให้ผ่องใส และ ละบาปทั้งปวงแล้ว

    แล้ว อธิษฐานเพื่อประโยชน์แก่ตน เพื่อประโยชน์แก่ส่วนรวม

    ด้วยการ ถือสัจจะในวาจา ถือจาคะ ถือวิปัสสนาให้ดี จะเป็นพื้นฐานให้กับ อธิษฐานฤทธิ์

    ในโบราณกาล จะปลุกเสกเครื่องรางของขลังต่างๆ ก็ด้วยอธิษฐานนี้เป็นกำลัง

    ฝึกให้ดีเถอะครับเรื่องพระศาสนา ของวิเศษต่างๆ ยังรออยู่ข้างหน้าอีกมากมาย
     
  2. haha4959

    haha4959 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +85
    ท่าน จาน ขัน ทำ ไม ต้อง จา คะ ด้วย ครับ
     
  3. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,927
    ค่าพลัง:
    +9,209
    ใครถือสัจจะได้ จะมีวาจาสิทธิ์ คือ พูดอะไรประกอบกับอธิษฐาน จะมีผลจริง
    ที่ให้ถือจาคะ คือ การสละ เมื่อสละออกเท่าไร ยิ่งเปิดเท่านั้น หลวงตามหาบัวบอกว่า เปรียบเหมือน เปิดประตู ถ้าเปิดมาก ก็เข้าได้มาก

    ใจนี้ ถ้ามีจาคะมาก มันจะทำให้ใจใหญ่ ใจกว้าง แผ่ออกไป มันมีกำลัง มีบารมีแผ่ออกไป
    อธิษฐานอะไร ก็จะได้

    ทั้งนี้ จิตนี้ต้องบริสุทธิ์ นะครับ เรียก ฤทธิ์ เหล่านี้ ว่าเป็น อิทธิวิธี คือ 1 ในอภิญญา
     
  4. haha4959

    haha4959 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +85
    ให้ ถือ จา คะ แต่ อยาก ได้

    มัน ไม่ ขัด กัน เอง หรือ ครับ

    สละ กับ อยาก ได้

    อัน นี้ ไม่ รู้ จริง จริง นะ ไม่ ได้ กวน นะ ท่าน จาน ขัน
     
  5. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,927
    ค่าพลัง:
    +9,209
    ได้สิ เพราะว่า คุณมีนิวรณ์ คือ วิจิกิจฉามาก เลยทำให้ไม่เข้าใจเรื่องง่าย

    ตอบให้ก็ได้ครับ คุณทำบุญทำไม ในเมื่อคุณยังมีบาป

    เข้าใจไหม ถ้าไม่เข้าใจก็ถามมาผมจะบอกให้
     
  6. haha4959

    haha4959 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +85
    มัน ไม่ เกี่ยว กัน นี่ ครับ

    ที่ ทำ บุญ เพราะ ว่า อยาก ได้ บุญ ไม่ ได้ เกี่ยว กับ มี บาป อยู่ หรือ ไม่

    แล้ว อยาก ได้ ฤทธิ์ แต่ ให้ มี จาคะ ให้ มาก มัน เลย ดู ขัด กัน ไง

    ถ้า จะ ให้ มี จา คะ ให้ มาก อะ ไร อะ ไร มัน ต้อง ไม่ อยาก ได้ เพิ่ม

    แล้ว จะ อธิษฐาน ทำ ไม
     
  7. เจ้าสัว

    เจ้าสัว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    522
    ค่าพลัง:
    +353
    ยิ่งเสียสละหรือให้ทานมาก เรายิ่งได้รับผลตอบแทนนั้นมาก และเป็นผลตอบแทนที่เราไม่ได้คาดหวังเอาเองครับ ผลตอบแทนนั้นคือผลบุญจากการที่เราเสียสละไงล่ะครับ


    มาช่วยอาจารย์ท่านตอบนะครับ ถ้ามีอะไรผิดพลาด ผมก็ขออภัยนะครับ



    สาธุ...
     
  8. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,927
    ค่าพลัง:
    +9,209
    แล้วจะเอาอะไรให้มันถูกใจ ดังที่คุณคิดทุกอย่าง คุณก็สำเร็จธรรมแล้วนะสิ

    คุณ อ่านที่ผมขีดเส้นใต้ให้ดีนะ สิ่งที่คุณพูดเอง คือ มันไม่เกี่ยวกัน ทำบุญเพราะอยากได้บุญ ไม่เกี่ยวกับมีบาปอยู่หรือไม่

    คำตอบนั้นก็เหมือนกัน
    คือ มีจาคะ เพราะทำจาคะ ไม่ได้เกี่ยวกับว่า มีตัณหาอยู่หรือไม่

    คนมีตัณหาก็มีอยู่แล้ว นอกจากพระอรหันต์ หรือว่า คุณจะรอให้ถึงพระอรหันต์ก่อนแล้วค่อยมีจาคะ

    เข้าใจหรือยัง
     
  9. แว๊ด

    แว๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    982
    ค่าพลัง:
    +509
    เหมือนที่แว๊ดเคยอ่านของ ดร.สนอง เลยที่ว่า คนมีสัจจะ จะอธิษฐานอะไรก็ได้

    บางที ไม่ต้องอธิษฐาน แค่คิดก็ได้

    อนุโมทนากับอาจารย์ขันธ์ค่ะ

    ____________________________

    แว๊ด ไปอ่านเจอ ข้อความหนึ่ง ที่พระในป่า ท่านกล่าวกับ หลวงพ่อจรัญฯ (หาอ่านได้ใน กฏแห่งกรรม เล่มที่ 1) พระในป่าท่านกล่าวกับหลวงพ่อจรัญฯ ดังนี้

    "คุณรอให้คุณอายุ ๔๕ ก่อนนะแล้วจะมาพบเราอีกครั้ง อายุเธอยังน้อยนัก ยังไม่แน่นอน ยังหละหลวมอยู่อย่างนี้ จะรับได้อย่างไร รับได้ต้องเป็นคนหนึ่ง ไม่ใช่คนสอง มีสัจจะ มี เมตตาสามัคคีแล้วหรือยัง สัจจะก็ไม่มีจะเกิดเมตตาได้อย่างไร แล้วเมตตาไม่มี จะเกิดความสามัคคีได้ทั้งใจ ทั้งจิต จะเกิดรูป นาม ได้หรือ"
     
  10. Jeerachai_BK

    Jeerachai_BK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    318
    ค่าพลัง:
    +821
    จาคะ เป็นธรรมที่เป็นเหตุให้ผู้ปฏิบัติมองเห็นและเอื้ออาทรต่อความทุกข์ยากของผู้อื่น ทำให้ผู้ปฏิบัติเป็นคนที่ไม่ใจแคบและไม่เห็นแก่ตัว และทำให้ผู้ปฏิบัติเป็นคนที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่พร้อมจะช่วยเหลือด้วยความเห็นอกเห็นใจ อีกนัยหนึ่งทำให้เป็นคนที่ชอบให้หรือชอบแบ่งปันแก่ผู้อื่นมากกว่าตนเอง (อ้างอิงจากวิกิพีเดีย)

    เมื่อผู้ปฏิบัติถือจาคะ ผู้ปฏิบัติจะเป็นคนที่เอื้อเฟื้อแก่ผู้อื่น สิ่งนี้ถือเป็นทานอย่างหนึ่งและเป็นผลบุญด้วย การกระทำใดก็ตามที่เป็นบุญก็จะได้รับผลที่ดีตอบสนองกลับมา ผลจะมากหรือน้อยขึ้นกับความเจตนาในการทำบุญ

    การอธิษฐานจิตที่ดีนั้นจะถูกทำเพื่อผลประโยชน์ของผู้อื่น คือเพื่อให้ผู้อื่นมีความสุขความเจริญในชีวิต สิ่งนี้ไม่ได้เป็นความอยากได้ของผู้ปฏิบัติแต่เป็นความเมตตาและกรุณา (ดังที่ปรากฎในพรหมวิหารสี่)

    หมายเหตุ: การอธิษฐานจิตนั้นจะถูกทำเมื่อผู้ปฏิบัติ (โดยเฉพาะพระคุณเจ้า) อยู่ในสมาธิขั้นอุปจาร
     
  11. demonicus

    demonicus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +314
    ให้ เพราะใจอยากให้ ......
     
  12. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,291
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,002
    เห็นด้วยครับ คิดเเล้วลงมือกระทํา ซักวันเขามาอยู่ตรงหน้าเราเเน่นอน อนุโมทนาครับ
     
  13. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +1,073
    อิทธิฤทธิ์ vs บุญฤทธิ์
     
  14. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +1,073
    ต้องการให้ท่านขันธ์ แสดงกระทู้เรื่อง กายคตาสติ
    ช่วงนี้ราคะ มันมากวนจิตมากเลย เด้วก็พลิกกายเป็นโทสะ
    ทุกข์จริงๆ ทุกข์ล้วนๆ
     
  15. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,927
    ค่าพลัง:
    +9,209
    การพิจารณาด้านราคะ ถ้าเป็นราคะระหว่างชายหญิง ก็ให้พิจารณาว่า เราเจอผู้หญิง หรือ เราเจอผู้ชายแล้ว เรารู้สึกชอบ รู้สึกหลงรักใคร่ทำไม นั่นเป็นเพราะอนุสัยที่ดองอยู่ พระอนาคามีเท่านั้นจึงจะดับได้ ละอนุสัยนั้นได้

    แต่ หากเป็นปุถุชน ก็ให้พิจารณา ดูว่า ผู้หญิงมีอะไร ที่เราหลงรัก ไล่ตามลำดับไป
    ท่าทาง หรือ อากัปกิริยาของผู้หญิง แบบใดที่เราเห็นแล้วเราหลงไหล หาใจเราให้เจอว่า เวลาตากระทบส่วนใดของผู้หญิงนั้น แล้วมันเกิดราคะ มองจี้ลงไปที่หน้าอกหญิงนั้น ก็เห็นแต่ หัวนม มองไปที่หัวนมดูว่า มันมีอะไรงดงามหรือ มันเป็นปุ่ม รอบๆปุ่มมีฐาน มีปุ่มเล็กๆ กระดำกระด่าง มองลงไปบางคนมีขน บางคนหัวนมใหญ่หน้าเกลียด แล้วเราหลงไหลส่วนไหน หลงไหลตรงหัวนมก็ไม่ใช่ ก็ไล่ไปที่ งั้นความอิ่มเอิบของหน้าอกหญิงหรือ มองไป มันก็เหมือนอะไรที่บวมๆ ขึ้นมา นูนๆ ขึ้นมาบางคนพอแก่ก็ยาน เหี่ยวๆ มองนมหมาสิ นั่นแหละ เหมือนกัน

    ดังคาถาพระโมคคัลลานะ ว่า พวกมีฝีที่หน้าอก ก็ท่านมองเห็นแบบนั้น

    ทีนี้มันมีเคล็ดลับคือ อย่ามองโดยรวม ให้มองละเอียดจี้ไปเฉพาะจุด มองโดยรวมเมื่อไรเสร็จ เพราะ อำนาจแห่ง การปกปิดอวิชชา มันจะทำให้มองเห็นโดยรวม ก็จะถูกปิดบังความจริง

    เช่นหญิงสวย น่ารัก มองจี้ไปที่ฟันเลย เวลายิ้มอย่าไปมองว่าเขายิ้ม ให้มองไปที่ฟัน บางคนฟันเหลือง มีน้ำลาย ขี้ฟัน บางคนฟันเหยเก ทุเรสที่สุด นั่นแหละ

    บางคน มองโดยรวมแล้วน่ารัก พอมองไปทีละอย่าง เช่น เมย์ พิชนาถ นี่เห็นทำท่าทางเซ้กซี่ นี่ มองไปเป็นส่วนๆ ดูฟันมันสิ ฟันหน้าก็เก ดูตามันสิ มีขี้หูขี้ตา ดูจมูกสิ มีขี้มูก ดูผมสิ ผมนั้น เมื่อไม่ได้ทำ ไม่ได้แต่ง ก็กลายเป็นกระเซอะกระเซิงดังกับศพ นั้นไม่ปาน

    เอาหละนะ ใครตั้งใจ อยากละราคะจริง ทำอย่างที่ผมบอก จะเห็นความทุเรสของร่างกายนี้
    จนทำราคะให้เบาบางได้แน่นอน

    สรุป หลักคือ มองลงไปเฉพาะจุด ตามความจริง อย่ามองโดยรวม พิจารณากลับไปกลับมา
     
  16. haha4959

    haha4959 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +85
    ราคะ นั่น ถ้า ไม่ ใช่ อะ ไร ที่ มัน เป็น รูป เรา จะ พิจารณา ยัง ไง ท่าน จาน ขัน

    ต๊กลง ราคะ แปล ว่า อะ ไร กัน แน่
     
  17. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,927
    ค่าพลัง:
    +9,209
    ถ้าอยาก รู้ต้องไปทำ ที่ผมบอก เอาเท่านั้นก่อน ส่วนราคะอันเป็นสังโยชน์นั้นเป็นหน้าที่ของพระอนาคามี ซึ่งละเอียดลงถึง รูปราคะ และ อรูปราคะ อันเป็นเชื้ออันละเอียด
     

แชร์หน้านี้

Loading...