ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. 9อมตะ9

    9อมตะ9 อมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    571
    ค่าพลัง:
    +1,288
    มือที่ 3 และสองมาตรฐาน ขอให้แพ้พ่ายต่ออุดมการณ์ประชาธิปไตย อันบริสุทธ์ อย่างแท้จริง.........ขอพระสยามเทวาธิราชและวิญญาณบรรพบุรุษชาติไทย จงคุ้มครอง
     
  2. dalink

    dalink เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    402
    ค่าพลัง:
    +2,436
    สวัสดีปีใหม่ไทยค่ะ ขอให้ทุกท่านโชคดี มีสุขกันถ้วนหน้า

    เรื่องร้ายๆ ขอให้ผ่านไป ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเอย

    ขอให้ทุกท่านช่วยกัน อธิษฐาน ให้บ้านเมืองของเรากลับมาสงบ ร่มเย็นดังเดิมเถิด

    ผู้คิดร้าย ปองร้ายต่อผืนแผ่นดินเกิดของตัวเอง ขอให้แพ้ภัยตัวเอง รับกรรมที่ตนก่อไว้

    ในไม่ช้าเถิด
     
  3. firstman

    firstman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +116
    ทุกอย่างตามกรรม
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ประกาศให้วันที่ 16-17 เม.ย.เป็นวันหยุดราชการ

    [​IMG]

    14 เม.ย. - สำนักนายกรัฐมนตรี ประกาศให้วันที่ 16-17 เมษายน 2552 เป็นวันหยุดราชการ

    ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องให้วันที่ 16-17 เมษายน พ.ศ. 2552 เป็นวันหยุดราชการ ด้วยนายกรัฐมนตรีได้พิจารณาร่วมกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องแล้ว เห็นว่า เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยให้กับประชาชนโดยรวม และเพื่อบูรณะฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ คณะรัฐมนตรีจึงมีมติให้วันที่ 16-17 เมษายน 2552 เป็นวันหยุดราชการ ประกาศ ณ วันที่ 14 เมษายน 2552. -สำนักข่าวไทย

    2009-04-14 14:54:13

    ศูนย์บริการโลหิตฯ ต้องการโลหิตทุกกรุ๊ปด่วน

    [​IMG]

    กรุงเทพฯ 14 เม.ย.- ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย แจ้งว่า ขณะนี้ ศูนย์บริการโลหิตฯ ประสบปัญหาโลหิตสำรองในคลังลดลงต่ำกว่า 300 ยูนิต (14 เม.ย.) ไม่เพียงพอจ่ายให้โรงพยาบาลทั้งส่วนกลางและภูมิภาค เพราะนอกจากจะมีวันหยุดต่อเนื่องแล้ว ปัญหาของการจราจร และเหตุการณ์ไม่สงบ ยิ่งส่งผลให้ไม่มีผู้บริจาคโลหิตเพราะปัญหาการเดินทาง

    เมื่อสถานการณ์คลี่คลายแล้ว ขอวิงวอนให้ประชาชนมาบริจาคโลหิต ต้องการทุกกรุ๊ปด่วน ซึ่งเปิดรับบริจาคที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ถนนอังรีดูนังต์ ดังนี้ ช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์ และวันเสาร์ อาทิตย์ เวลา 08.30-15.30 น. วันจันทร์-พุธศุกร์ เวลา 08.00-16.30 น.วันอังคารและพฤหัสบดี เวลา 07.30-19.30 น. หรือสอบถามเพิ่มเติม 02-256-4300 หรือ 02-263-9600-99 .-สำนักข่าวไทย

    2009-04-14 14:22:05

    สงกรานต์ต่างจังหวัดหลายพื้นที่คึกคักต่อเนื่อง

    [​IMG]

    ภูมิภาค 14 เม.ย.- การเล่นน้ำสงกรานต์ในพื้นที่ต่างจังหวัดหลายจังหวัดยังเป็นไปอย่างคึกคัก อย่างที่พิษณุโลกได้รับอานิสงส์หลายจังหวัดภาคเหนือตอนบน กลุ่มผู้ชุมนุมปิดถนนประท้วง ทำให้นักท่องเที่ยวเปลี่ยนเส้นทางเล่นน้ำสงกรานต์ที่พิษณุโลก ขณะที่อุบัติเหตุ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังเกิดขึ้นตลอด

    ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพิษณุโลก ว่า บรรยากาศการเล่นน้ำสงกรานต์คึกคักต่อเนื่อง สาเหตุพราะหลายจังหวัดทางภาคเหนือตอนบนก่อนหน้านี้ มีปัญหาการปิดถนนของกลุ่มผู้ชุมนุม ทำให้นักท่องเที่ยวเปลี่ยนเส้นทางการท่องเที่ยวมาเที่ยวที่จังหวัดพิษณุโลกแทน และเป็นที่น่าสังเกตว่า กลุ่มเยาวชนวัยรุ่น รวมทั้งนักท่องเที่ยวจะสวมใส่เสื้อผ้าสีสันสดใส และเสื้อลายดอก ซึ่งเป็นการแต่งกายอย่างเหมาะสม รักษา และสืบสานประเพณีที่ดีงามของการเล่นน้ำสงกรานต์ของชาวไทย โดยไม่มีการสวมใส่เสื้อสายเดี่ยว หรือเสื้อไร้สายให้เห็นเลย

    ส่วนที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งวันนี้ (14 เม.ย.) เป็นวันครอบครัว บรรยากาศที่เขื่อนสิริกิติ์เนืองแน่นไปด้วยประชาชนและนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลพาครอบครัว เพื่อนฝูง และคนรัก ไปเที่ยวชมความสวยงามของธรรมชาติเขื่อนดินที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยปีนี้เขื่อนสิริกิติ์ได้นำสปริงเกอร์ติดตั้งบนสันเขื่อนเพื่อให้นักท่องเที่ยวที่เดินชมสันเขื่อนได้สัมผัสกับความสดชื่นจากละอองน้ำ พร้อมจัดเรือมากถึงวันละ 4 เที่ยว ๆ ละ 50-100 คน เพื่อชมอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ด้วย

    ที่จังหวัดยโสธร นายวันชัย อุดมสิน ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร พร้อมด้วยผู้บริหารเทศบาลเมืองยโสธร ร่วมกันเปิด “ถนนข้าวลอดช่อง” ที่บริเวณถนนรัตนเขตด้านหลัง ซึ่งเป็นถนนย่านธุรกิจของเทศบาลเมืองยโสธร โดยวันนี้มีประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก นำถังน้ำขึ้นรถปิกอัพมาเล่นสาดน้ำกันอย่างสนุกสนาน

    อย่างไรก็ตาม ที่จังหวัดจันทบุรี นายดุษฎี คงศรี นายอำเภอสอยดาว ระบุว่า สงกรานต์ปีนี้ ชาวจันทบุรีออกจากบ้านมาเล่นสาดน้ำสงกรานต์บางตาจนเห็นได้ชัด ผู้ที่ออกเล่นน้ำสงกรานต์ส่วนใหญ่มีแต่วัยรุ่นและเด็กเท่านั้น ส่วนผู้สูงอายุ ผู้ที่อยู่ในวัยทำงาน มีการเล่นน้ำสงกรานไม่มากเหมือนทุกปี ซึ่งบรรยากาศโดยรวมของจังหวัดในการเล่นน้ำช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ เป็นไปอย่างเงียบเหงา และไม่คึกคักเหมือนหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งน่าจะมีผลจาก เหตุการณ์ทางการเมืองกำลังตึงเครียด

    สำหรับอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ นายประพัฒน์ ชูสิน ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 12 สงขลา สรุปสถิติผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต จากอุบัติเหตุบนท้องถนน ในช่วง 4 วันแรกของ 7 วันระวังอันตราย ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ สงขลา สตูล ยะลา ปัตตานี และ นราธิวาส มีผู้เสียชิวิตแล้ว 11 ราย บาดเจ็บ 86 ราย จากอุบัติเหตุ 86 ครั้ง โดยจังหวัดสงขลายังครองสถิติสูงสุดมีผู้เสียชีวิต 6 ราย สาเหตุส่วนใหญ่เป็นการขับขี่รถตัดหน้าในระยะกระชั้นชิด.- สำนักข่าวไทย

    2009-04-14 10:28:25

    นักท่องเที่ยวต่างชาติแห่ลงภูเก็ต ผู้ว่าฯ ยืนยันพื้นที่สงบเรียบร้อย

    [​IMG]

    ภูเก็ต 14 เม.ย.- ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ระบุผลพวงจากเหตุการณ์ไม่สงบในพื้นที่เมืองพัทยาและกรุงเทพฯ ก่อนหน้านี้ ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวสงกรานต์ที่จังหวัดภูเก็ตจำนวนมาก ยืนยันพื้นที่มีความสงบเรียบร้อยดี

    นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ จังหวัดภูเก็ตได้ประชุมหารือกับรองผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 3 คนและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง มีการเฝ้าระวังติดตามข่าว และเตรียมความพร้อมรับมือ แต่ขณะนี้ที่จังหวัดภูเก็ตยังไม่มีสิ่งบอกเหตุผิดปกติใด ๆ และการทำความเข้าใจกับกลุ่มมวลชนต่าง ๆ ได้พูดคุยกันตลอดเวลา เนื่องจากจังหวัดภูเก็ตเป็นพื้นที่ท่องเที่ยว จึงไม่อยากจะให้มีเหตุการณ์ประท้วงเกิดขึ้น

    นายวิชัย ระบุว่าจากการติดตามข่าวตามแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่พบว่าจากผลกระทบการชุมนุมที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรีช่วงการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาและสถานการณ์ในกรุงเทพฯ ทำให้มีกลุ่มนักท่องเที่ยวจากยุโรปเดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเป็นจำนวนมาก เพราะมั่นใจว่าที่จังหวัดภูเก็ตมีความสงบสุข และจะทำให้นักท่องเที่ยวจากถนนข้าวสารหรือที่อื่นๆ จะเดินทางมาภูเก็ตแทน และชาวภูเก็ตให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการทำให้บ้านเมืองสงบ ไม่แบ่งแยกสี

    ส่วนการจัดคอนเสิร์ตของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยวันที่ 18 เมษายนนี้ ที่จังหวัดภูเก็ต บริเวณปลายแหลมสะพานหิน ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การจัดคอนเสิร์ตทางการเมืองในครั้งนี้เชื่อมั่นว่าจะเป็นการรวมตัวเพื่อสันทนาการของกลุ่มคน ไม่ใช่การรวมพลังแสดงกิจกรรมทางการเมืองเกิดขึ้น และเชื่อว่าไม่มีปัญหาเกิดขึ้นแต่อย่างใด และชาวภูเก็ตจะเป็นเจ้าบ้านที่ดี.-สำนักข่าวไทย

    2009-04-14 13:31:54

    ขสมก.สรุปความเสียหายรถเมล์ถูกเผาวันนี้ ส่วน ปตท.พร้อมเปิดปั๊ม

    [​IMG]

    กรุงเทพฯ 14 เม.ย.- นายพิเณศวร์ พัวพัฒนกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ขสมก.กำลังเร่งตรวจสอบรถเมล์ที่ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมยึดไปใช้ในการก่อเหตุ เพื่อประเมินและสรุปความเสียหาย คาดว่าจะสรุปได้ภายในวันนี้ (14 เม.ย.) โดยเบื้องต้นหลังจากกลุ่มผู้ชุมนุมประกาศสลายการชุมนุมแล้ว ขสมก.สามารถนำรถเมล์กลับคืนได้แล้ว 10 คัน โดยยังอีก 9 คันที่ยังเหลืออยู่ในพื้นที่

    ส่วนจำนวนรถที่ถูกเผานับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์พบว่ามีทั้งหมด 14 คัน จากรถที่ถูกยึดไปทั้งหมด 33 คัน ทั้งนี้หากฝ่ายเทคนิคตรวจสอบและประเมินค่าเสียหายได้แล้ว ก็จะแจ้งความเพิ่มเติม จากที่ก่อนหน้านี้ได้แจ้งความไว้แล้วทุกคัน
    อย่างไรก็ตาม รถเมล์ของ ขสมก.ทั้งหมด ไม่ได้ทำประกันภัยจากเหตุจลาจล เป็นเพียงประกันภัยชั้น 3 เพื่อคุ้มครองผู้โดยสารและบุคคลที่ 3 เท่านั้น ส่วนมูลค่าของรถเมล์นั้น หากเป็นรถยูโรทูสีส้ม มีมูลค่าปัจจุบัน 1 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่ตัดค่าเสื่อมปีละร้อยละ 10 แล้ว จากราคารถใหม่ประมาณ 6-7 ล้านบาท โดยเป็นรถที่ ขสมก.ซื้อมาทั้งหมดและใช้งานมาแล้ว 8 ปี

    ด้าน นายบูรณิน รัตนสมบัติ ผู้จัดการส่วนกลยุทธ์การตลาด บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวจะมีการยุติการชุมนุม ว่า ปตท.ได้ติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด หากมั่นใจว่าเหตุการณ์จะสงบลงจริง ก็พร้อมที่จะเปิดให้บริการสถานีบริการน้ำมันได้ในเวลาอันรวดเร็ว เนื่องจากตามขั้นตอนนั้น จะเริ่มจากการตรวจเช็กปริมาณเชื้อเพลิงว่ามีเพียงพอหรือไม่ หากไม่เพียงพอ ก็จะจัดส่งจากพระโขนงได้ในเวลาอันรวดเร็ว จากนั้นก็เตรียมการด้านพนักงาน ก็สามารถเปิดบริการได้.-สำนักข่าวไทย

    2009-04-14 14:16:21

    การส่งผู้ชุมนุมกลับภูมิลำเนาเป็นไปอย่างเรียบร้อย

    [​IMG]

    สนามเสือป่า 14 เม.ย. - บรรยากาศที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ที่จัดให้เป็นจุดรับส่งผู้ชุมนุมกลับภูมิลำเนาเป็นไปอย่างเรียบร้อย โดยมีแกนนำบางคนมารอส่งกลุ่มผู้ชุมนุม และกล่าวอำลาอาลัยกันก่อนส่งขึ้นรถ

    บรรยากาศกลุ่มผู้ชุมนุมที่กำลังทยอยเดินทางกลับที่ลานพระบรมรูปทรงม้าเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แกนนำมารอส่งกลุ่มผู้ชุมนุม บางคนมีน้ำตาคลอเบ้าเนื่องจากได้อยู่ชุมนุมกันมาเกือบ 20 วัน และหลังจากที่มีผู้ชุมนุมตัดสินใจเดินทางกลับภูมิลำเนาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จำนวนรถลำเลียงส่งผู้ชุมนุมก็ทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่องจนขณะนี้เหลือผู้ชุมนุมอยู่อีกไม่มากนัก

    หลังจากกลุ่มผู้ชุมนุมถอนกำลัง เจ้าหน้าที่ก็เข้าตรวจสอบรถเมล์ปรับอากาศ สาย 511 สีส้ม ที่ถูกยึดมาตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน และนำมาจอดปิดกั้นการจราจรไว้ที่แยกเทวกรรม ซึ่งจากการตรวจสอบเพื่อเคลียร์พื้นที่ ก็พบวัตถุระเบิดบนรถเมล์คันดังกล่าว แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียด และในหลายพื้นที่ยังถูกประกาศเป็นพื้นที่ควบคุม เช่น ถนนโดยรอบสวนจิตรลดา รวมไปถึงลานพระบรมรูปทรงม้า และบริเวณทำเนียบรัฐบาล

    ล่าสุดแกนนำอย่างน้อย 3 คน ได้แก่ นายวีระ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ นายสุพร อัตถาวงศ์ ได้เข้าไปในกองบัญชาการตำรวจนครบาลแล้ว.-สำนักข่าวไทย

    2009-04-14 14:07:42

    ที่มา http://news.mcot.net/politic/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>น้ำจืดของโลกกำลังเหลือน้อย ใช้สอยอย่างรู้ค่า-อย่าก่อมลพิษ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>11 เมษายน 2552 10:32 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    [​IMG]
    แหล่งน้ำส่วนใหญ่ของโลก กำลังไม่สามารถใช้บริโภคได้ เพราะมนุษย์ทำลายทั้งโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ

    จริงอยู่ที่ว่าพื้นผิวโลกของเรา ประกอบด้วยน้ำถึง 3 ใน 4 ส่วน แต่ส่วนใหญ่เป็นน้ำเค็ม 97% และมีน้ำจืดเพียงแค่ 3% อีกทั้ง 3 ใน 4 ของจำนวนนี้ ก็เป็นน้ำแข็งที่ขั้วโลก ซึ่งน้ำที่มนุษย์เราบริโภคได้จริงนั้น มีอยู่เพียงน้อยนิดของสัดส่วนน้ำทั้งโลก

    ทว่าแหล่งทรัพยากรเพื่อหล่อเลี้ยงชีวิตมนุษย์ กลับถูกมนุษย์ทำลายลงทุกขณะ ตามการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรโลกที่ปัจจุบันมีมากกว่า 6.5 พันล้านคน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 9 พันล้านคน ในช่วงประมาณปี ค.ศ.2050

    นั่นหมายความว่า จะมีความต้องการน้ำจืดจำนวนมหาศาล มากกว่าปริมาณน้ำที่จะจัดหาได้ในปัจจุบัน

    ล่าสุดที่ประชุมสภาน้ำโลก (World Water Council : WWC) ชี้ว่า ประชากรที่อาศัยอยู่ในบริเวณที่มีปัญหาน้ำอย่างรุนแรงนั้น คาดว่าจะสูงถึง 3.9 พันล้านคนในปี ค.ศ.2030 นับว่าเกือบครึ่งของประชากรทั่วโลก โดยส่วนใหญ่ผู้ที่ประสบปัญหาเหล่านี้จะอยู่ในจีน และเอเชียใต้

    นอกจากนี้ ข้อมูลจากกรีนพีซระบุถึงปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดมลพิษทางน้ำ 6 อันดับแรก คือ 1.ความลาดชันของพื้นที่ 2.โรงงานอุตสาหกรรมที่ก่อมลพิษทางน้ำ 3.พื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก 4.ปริมาณการใช้สารเคมีเกษตร 5.ปริมาณสารเคมีที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม และ 6.ความหนาแน่นประชากร

    อย่างไรก็ดี ในส่วนของประเทศไทยมีพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดมลพิษทางน้ำมากกว่า 92.68% ของพื้นที่ทั้งหมด หากพิจารณารายภาคพบว่า ภาคตะวันออกมีสัดส่วนพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงมากที่สุดคือ 35.64% ของพื้นที่ทั้งหมด รองลงมาคือภาคกลาง 15.89% ส่วนจังหวัดที่มีเนื้อที่ความเสี่ยงต่อการเกิดมลพิษทางน้ำระดับสูงมากที่สุด คือ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ และสมุทรสาคร มีมากถึง 100% ของพื้นที่

    ทั้งนี้ ประชากรไทยประมาณ 63 ล้านคน อาจได้รับผลกระทบจากมลพิษทางน้ำระดับสูงถึง 4,440,049 คน ระดับปานกลางจำนวน 3,687,738 คน และระดับต่ำ จำนวน 1,178,816 คน โดยภาคกลางจะมีประชากรที่ได้รับผลกระทบจากมลพิษทางน้ำระดับสูงมากที่สุด คือประมาณ 3 ล้านคน รองลงมาคือภาคเหนือ 626,839 คน ภาคตะวันออก จำนวน 363,668 คนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 314,369 คน และภาคใต้ จำนวน 209,447 คน

    สำหรับการป้องกันและแก้ปัญหา คือพยายามลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดมลพิษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงงานอุตสาหกรรมที่ก่อมลพิษทางน้ำ ปริมาณสารเคมีที่ใช้ในโรงงานและในการทำเกษตรกรรมให้จูงใจในการลดมลพิษ รวมถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่สะอาด (Clean Production) รวมทั้งลดการทำลายแหล่งน้ำ อันเป็นสถานที่ก่อกำเนิดทรัพยากรที่สำคัญต่อชีวิต

    ที่มา http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9520000040861
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 เมษายน 2009
  6. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,926
    *** โบราณเตือนไว้ กรรมใกล้ปรากฏ ****

    [FONT=DSU_MonTaNa]*** เพลงยาวพยากรณ์ ตอน เมืองอมรมหินทรา ****[/FONT]

    [FONT=DSU_MonTaNa]จะกล่าวถึงกรุงมหานคร.......[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]เป็นกรุงรัตนราชพระศาสนา[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa].......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]มหาดิเรกอันเลิศล้น[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]
    [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]เป็นที่ปรากฏรจนา[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa].......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]สรรเสริญเมืองอมรทุกแห่งหน[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ทุกบุรีสีมามณฑล[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa].......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]จบสกลลูกค้าวาณิช[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ทุกประเทศสิบสองภาษา[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa].......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ย่อมมาพึ่งกรุงมหินทราเป็นอกนิฐษ์[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ประชาราษฏ์ปราศจากภัยพิษ[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa].......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ทั้งความวิกลจริตแลความทุกข์[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ฝ่ายองค์พระบรมราชา[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa].......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ครองขัณฑสีมาเป็นสุข[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ด้วยพระกฤษฏีกาทํานุก[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa].......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]จึงอยู่เย็นเป็นสุขสวัสดี[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]เป็นที่อาศัยแก่มนุษย์ในใต้หล้า[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa].......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]เป็นที่อาศัยแก่เทวดาทุกราศี[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ทุกนิกรนรชนมนตรี[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa].......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]คหบดีชีพราหมณ์พฤฒา[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ประดุจดังศาลาอาศัย[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa].......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ประหนึ่งร่มพระไทรอันสาขา[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ประดุจหนึ่งแม่นํ้าพระคงคา[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa].......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]เป็นที่สิเนหาเมื่อกันดาร[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ด้วยพระเดชเดชาอานุภาพ[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa].......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]อาจปราบไพรีทุกทิศานต์[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ทุกประเทศเขตขัณฑ์บันดาล[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa].......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]แต่งเครื่องบรรณาการมานอบนบ[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]เมืองอมรนั้นสมบูรณ์[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa].......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]เพิ่มพูนด้วยพระเกียรติขจรจบ[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]อุดมบรมสุขทุกแผ่นภพ[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa].......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]จนคํารบศักราชเกินสองพัน[/FONT]

    [FONT=DSU_MonTaNa]คราทีนั้นฝูงสัตว์ทั้งหลาย[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa] .......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]จะเกิดความอันตรายเป็นแม่นมั่น[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ด้วยพระผู้นำมิทรงสัจจะธรรม[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa].......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]จึงเกิดเข็ญมหัศจรรย์สิบหกประการ[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]คือเดือนดาวดินฟ้าจะอาเพศ[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa].......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]อุบัติเหตุเกิดทั่วทุกทิศานต์[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]มหาเมฆจะลุกเป็นเพลิงกาล[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa].......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]เกิดนิมิตพิสดารทุกทั่วเมือง[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]พระคงคาจะแดงเดือดดังเลือดนก[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa].......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]อกแผ่นดินเป็นบ้าฟ้าจะเหลือง[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ผีป่าจะวิ่งเข้าสิงเมือง[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa].......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ผีเมืองนั้นจะออกไปอยู่ไพร[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]พระเสื้อเมืองจะเอาตัวหนี[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa].......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]พระกาลกุรีจะเข้ามาเป็นไส้[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]พระธรณีจะตีอกไห้[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa].......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]อกพระกาฬจะไหม้อยู่เกรียมกรม[/FONT]

    [FONT=DSU_MonTaNa]<O:p</O:p[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ทุกลักษณ์ทํานายไว้บ่ห่อนผิด[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa].......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]เมื่อวินิศพิศดูก็เห็นสม[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]มิใช่เทศกาลร้อนก็ร้อนระงม[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa].......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]มิใช่เทศกาลลมลมก็พัด[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]มิใช่เทศกาลหนาว ก็หนาวพ้น[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa].......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]มิใช่เทศกาลฝน ฝนก็อุบัติ[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ทุกต้นไม้หย่อมหญ้าสารพัด[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa].......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]เกิดวิบัตินานาทั่วสากล[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]เทวดาซึ่งรักษาพระศาสนา[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa].......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]จะรักษาแต่คนฝ่ายอกุศล[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]สัปปุรุษจะแพ้แก่ทรชน[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa].......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]มิตรตนจะฆ่าซึ่งความรัก[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ภรรยาจะฆ่าซึ่งคุณผัว[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa].......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]คนชั่วจะมล้างผู้มีศักดิ์[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ลูกศิษย์จะสู้ครูพัก[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa].......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]จะหาญหักผู้ใหญ่ให้เป็นน้อย[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ผู้มีศีลจะเสียซึ่งอํานาจ[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa].......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]นักปราชญ์จะตกตํ่าต้อย[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa].......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]นํ้าเต้าอันน้อยจะถอยจม[/FONT]

    [FONT=DSU_MonTaNa]<O:p</O:p[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ผู้มีตระกูลจะสูญเผ่า[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]….…[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]เพราะจัณฑาลมันเข้ามาเสพสม[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ผู้มีศีลนั้นจะเสียซึ่งอารมณ์[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]….…[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]เพราะสมัครสมาคมด้วยมารยา[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]พระมหากษัตริย์จะเสื่อมสิงหนาท[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]….…[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ประเทศราชจะเสื่อมซึ่งยศถา[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]สัจจะที่เคยเลื่องลือชา[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]….…[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]โลกุตตระมอบมากลับตกลึกลับ[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ผู้กล้าจะเสื่อมใจหาญ[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]….…[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]จะสาบสูญวิชาการทั้งปวงสรรพ[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ผู้มีศีลจะถอยจากทรัพย์[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]….…[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]สัปปุรุษจะอับซึ่งนํ้าใจ[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ทั้งอายุจะถอยเคลื่อนจากเดือนปี[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]….…[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ประเวณีจะแปรปรวนตามวิสัย[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ทั้งพืชแผ่นดินจะผ่อนไป[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]….…[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ผลหมากรากไม้จะถอยรส[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ทั้งแพทย์พรรณว่านยาจะอาเพศ[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]….…[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]เคยเป็นคุณวิเศษก็เสื่อมหมด[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]จวงจันทร์พันธ์ไม้อันหอมรส[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]….…[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]จะถอยถดไปตามประเพณี[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ทั้งข้าวจะยากหมากแพง[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]….…[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]สารพันจะแห้งแล้งเป็นถ้วนถี่[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]จะบังเกิดทรพิษมิคสัญญี[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]….…[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ฝูงผีจะวิ่งเข้าปลอมคน[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]กรุงประเทศราชธานี[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]….…[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]จะเกิดการกุลีทุกแห่งหน[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]จะอ้างว้างอดใจทั้งไพร่พล[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]….…[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]จะสาละวนทั่วโลกทั้งหญิงชาย[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]จะร้อนอกสมณาประชาราษฏร์[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]….…[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]จะเกิดเข็ญเป็นอุบาทว์นั้นมากหลาย[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]จะรบราฆ่าฟันกันวุ่นวาย[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]….…[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ฝูงคนจะล้มตายลงเป็นเบือ[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ทางนํ้าก็จะแห้งเป็นทางบก[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]….…[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]เวียงวังก็จะรกเป็นป่าเสือ[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]แต่สิงสาราสัตว์เนื้อเบื้อ[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]….…[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]นั้นจะหลงหลอเหลือในแผ่นดิน[/FONT]

    [FONT=DSU_MonTaNa]<O:p</O:p[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ทั้งผู้คนสารพัดสัตว์ทั้งหลาย[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]….…[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]จะสาญสูญล้มตายเสียหมดสิ้น[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ด้วยพระกาฬจะมาผลาญแผ่นดิน[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]….…[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]จะสูญสิ้นการรนรงค์เพื่อสงคราม[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]กรุงมหาอมรจะสูญแล้ว[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]….…[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]จะลับรัศมีแก้วเจ้าทั้งสาม[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ไปจนคํารบปีเดือนคืนยาม[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]….…[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]จนสิ้นนามศักราชห้าพัน[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]โอ้...เมืองมหินทราเกษมสุข[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]….…[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]แสนสนุกยิ่งลํ้าเมืองสวรรค์[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]เมื่อเป็นเมืองแพศยาอาธรรม์[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa] ….…[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]จึงนับใกล้วันเสื่อมสูญเอย ฯ[/FONT]<O:p</O:p
    [FONT=DSU_MonTaNa]<O:p</O:p[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa][/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa][/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]หนุมาน ผู้นำสาร[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa][/FONT][FONT=DSU_MonTaNa] [/FONT]
     
  7. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,926
    *** สุนทรภู่เตือนกรรมไว้ นานแล้ว ****

    *** พระไชยสุริยา ****

    เรื่องย่อ<O:p</O:p
    .......มีกษัตริย์พระองค์หนึ่งมีพระนามว่าไชยสุริยา ครองเมืองสาวัตถี มีพระมเหสีทรงพระนามว่าสุมาลี ครอบครองบ้านเมืองด้วยความผาสุก
    .......ต่อมาข้าราชการ เสนาอำมาตย์ประพฤติตนไม่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม จึงเกิดเหตุอาเพศ เกิดน้ำป่าไหลท่วมเมือง ผีป่าอาละวาด ทำให้ชาวเมืองล้มตายจำนวนมาก
    .......พระไชยสุริยากับพระมเหสีจึงลงเรือสำเภา แต่ก็ถูกพายุพัดจนเรือแตก พระไชยสุริยาและมเหสีขึ้นฝั่งได้ พระอินทร์จึงเสด็จมาสั่งสอนธรรมะให้ทั้งสองพระองค์ปฏิบัติตามธรรมจึงเสด็จไปสู่สวรรค์.......


    [FONT=DSU_MonTaNa]*** พระไชยสุริยา ****[/FONT]

    [FONT=DSU_MonTaNa]ยานี ๑๑ แม่ก กา [/FONT]<O:p[FONT=DSU_MonTaNa]บ้านเมือง[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]สาธุสะจะขอไหว้ พระศรีไตรสรนา.......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]พ่อแม่แลครูบา เทวดาในราศี[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ข้าเจ้าเอา ก ข เข้ามาต่อ ก กา มี .......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]แก้ไขในเท่านี้ ดีมิดีอย่าตรีชา[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]จะร่ำคำต่อไป พอฬ่อใจกุมารา .......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ธรณีมีราชา เจ้าพาราสาวะถี[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ชื่อพระไชยสุริยา มีสุดามะเหษี .......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ชื่อว่าสุมาลี อยู่บูรีไม่มีไภย[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ข้าเฝ้าเหล่าเสนา มีกริยาอะฌาสัย ....... [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]พ่อค้ามาแต่ไกล ได้อาศัยในพารา[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ไพร่ฟ้าประชาชี ชาวบูรีก็ปรีดา.......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ทำไร่เขาไถนา ได้เข้าปลาแลสาลี[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]อยู่มาหมู่ข้าเฝ้า ก็หาเยาวนารี.......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ที่หน้าตาดีดี ทำมโหรีที่เคหา[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ค่ำเช้าเฝ้าสีซอ เข้าแต่หอล่อกามา.......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]หาได้ให้ภริยา โลโภพาให้บ้าใจ[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ไม่จำคำพระเจ้า เหไปเข้าภาษาไสย.......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ถือดีมีข้าไท ฉ้อแต่ไพร่ใส่ขื่อคา[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]คะดีที่มีคู่ คือไก่หมูเจ้าสุภา.......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ใครเอาเข้าปลามา ให้สุภาก็ว่าดี[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ที่แพ้แก้ชนะ ไม่ถือพระประเวณี.......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ขี้ฉ้อก็ได้ดี ไล่ด่าตีมีอาญา[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ที่ซื่อถือพระเจ้า ว่าโง่เง่าเต่าปูปลา.......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ผู้เฒ่าเหล่าเมธา ว่าใบ้บ้าสาระยำ[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ภิกษุสะมะณะ เล่าก็ละพระสธรรม.......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]คาถาว่าลำนำ ไปเร่ร่ำทำเฉโก[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ไม่จำคำผู้ใหญ่ ศีรษะไม้ใจโยโส.......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ที่ดีมีอะโข ข้าขอโมทนาไป[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]พาราสาวะถี ใครไม่มีปราณีใคร.......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ดุดื้อถือแต่ใจ ที่ใครได้ใส่เอาพอ[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ผู้ที่มีฝีมือ ทำดุดื้อไม่ซื้อขอ.......ไ[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ล่คว้าผ้าที่คอ อะไรล่อก็เอาไป[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ข้าเฝ้าเหล่าเสนา มิได้ว่าหมู่ข้าไทย.......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ถือน้ำร่ำเข้าไป แต่น้ำใจไม่นำพา[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]หาได้ใครหาเอา ไพร่ฟ้าเศร้าเปล่าอุรา.......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ผู้ที่มีอาญา ไล่ตีด่าไม่ปราณี[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ผีป่ามากระทำ มรณะกรรมชาวบูรี.......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]น้ำป่าเข้าธานี ก็ไม่มีที่อาไศรย[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ข้าเฝ้าเหล่าเสนา หนีไปหาพาราไกล.......[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ชีบาล่าลี้ไป ไม่มีใครในธานี[/FONT]

    [FONT=DSU_MonTaNa]ฉบัง ๑๖ “[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]คำเตือน[/FONT]<O:p</O:p

    [FONT=DSU_MonTaNa]พระไชยสุริยาภูมี พาพระมเหษี [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]มาที่ในลำสำเภา[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]เข้าปลาหาไปไม่เบา นารีที่เยาว์ [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ก็เอาไปในเภตรา[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]เถ้าแก่ชาวแม่แซ่มา เสนีเสนา [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ก็มาในลำสำเภา[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ตีม้าฬ่อช่อใบใส่เสา วายุพยุเพลา [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]สำเภาก็ใช้ใบไป[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]เภตรามาในน้ำไหล ค่ำเช้าเปล่าใจ [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ที่ในมหาวารี[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]พะสุธาอาไศรยไม่มี ราชานารี [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]อยู่ที่พระแกลแลดู[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ปลากะโห้โลมาราหู เหราปลาทู [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]มีอยู่ในน้ำคล่ำไป[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ราชาว้าเหว่หฤทัย วายุพาคลาไคล [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]มาในทะเลเอกา[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]แลไปไม่ปะพะสุธา เปล่าใจนัยนา [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]โพล้เพล้เวลาราตรี[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ราชาว่าแก่เสนี ใครรู้คะดี [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]วารีนี้เท่าใดนา[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ข้าเฝ้าเล่าแก่ราชา ว่าพระมหา [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]วารีนี้ไซ้ใหญ่โต[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ไหลมาแต่ในคอโค แผ่ไปใหญ่โต [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]มะโหฬาร์ล้ำน้ำไหล[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]บาฬีมิได้แก้ไข ข้าพเจ้าเข้าใจ [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ผู้ใหญ่ผู้เฒ่าเล่ามา[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ว่ามีพระยาสกุณา ใหญ่โตมะโหฬาร์ [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]กายาเท่าเขาคีรี[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ชื่อว่าพระยาสัมพาที ใครรู้คะดี [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]วารีนี้โตเท่าใด[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]โยโสโผผาถาไป พอพระสุริไสย [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]จะใกล้โพล้เพล้เวลา[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]แลไปไม่ปะพสุธา ย่อท้อรอรา [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ชีวาก็จะประลัย[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]พอปลามาในน้ำไหล สกุณาถาไป [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]อาไศรยที่ศีร์ษะปลา[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ฉะแง้แลไปไกลตา จำของ้อปลา [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ว่าขอษะมาอะไภย[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]วารีที่เราจะไป ใกล้หรือว่าไกล [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ข้าไหว้จะขอมรคา[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ปลาว่าข้าเจ้าเยาวะภา มิได้ไปมา [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]อาไศรยอยู่ต่อธรณี[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]สกุณาอาไลยชีวี ลาปลาจรลี [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]สู่ที่ภูผาอาไศรย[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ข้าเฝ้าเล่าแก่ภูวไนย พระเจ้าเข้าใจ [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ฤไทยว้าเหว่เอกา[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]จำไปในทะเลเวรา พายุไหญ่มา [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]เภตราก็เหเซไป[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]สมอก็เก่าเสาใบ ทะลุปรุไป [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]น้ำไหลเข้าลำสำเภา[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ผีน้ำซ้ำไต่ใบเสา เจ้ากำม์ซ้ำเอา [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]สำเภาระยำคว่ำไป[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ราชาคว้ามืออรไทย เอาผ้าสะไบ [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ต่อไว้ไม่ไกลกายา[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]เถ้าแก่เชาแม่เสนา น้ำเข้าหูตา [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]จระเข้เหราคร่าไป[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ราชานารีร่ำไร มีกำม์จำใจ [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]จำไปพอปะพสุธา[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]มีไม้ไทรใหญ่ใบหนา เข้าไปไสยา [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]เวลาพอค่ำรำไร[/FONT]


    [FONT=DSU_MonTaNa]สุรางคนางค์ ๒๘ (แม่กน)[/FONT]

    [FONT=DSU_MonTaNa]ขึ้นใหม่ใน กน ก กา ว่าปน ระคนกันไป[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]เอ็นดูภูธร มานอนในไพร มณฑลต้นไทร แทนไพชยนต์สถาน[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ส่วนสุมาลี วันทาสามี เทวีอยู่งาน[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]เฝ้าอยู่ดูแล เหมือนแต่ก่อนกาล ให้พระภูบาล สำราญวิญญา[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]พระชวนนวลนอน เข็ญใจไม้ขอน เหมือนหมอนแม่นา[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ภูธรสอนมนต์ ให้บ่นภาวนา เย็นค่ำร่ำว่า กันป่าไภยพาล[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]วันนั้นจันทร มีดารากร เป็นบริวาร[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]เห็นสิ้นดินฟ้า ในป่าท่าธาร มาลีคลี่บาน ใบก้านอรชร[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]เย็นฉ้ำน้ำฟ้า ชื่นชะผะกา วายุพาขจร[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]สาระพันจันทน์อิน รื่นกลิ่นเกสร แตนต่อคลอร่อน ว้าว่อนเวียนระวัน[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]จันทราคลาเคลื่อน กระเวนไพรไก่เถื่อน เตือนเพื่อนขานขัน[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ปู่เจ้าเขาเขิน กู่เกริ่นหากัน สินธุพุลั่น ครื้นครั่นหวั่นไหว[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]พระฟื้นตื่นนอน ไกลพระนคร สะท้อนถอนฤไทย[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]เช้าตรู่สุริยน ขึ้นพ้นเมรุไกร มีกำม์จำไป ในป่าอารัญ[/FONT] ​

    [FONT=DSU_MonTaNa]ฉบัง ๑๖ (แม่กง)[/FONT]

    [FONT=DSU_MonTaNa]ขึ้นกงจงสำคัญ ทั้งกนปนกัน [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]รำพันมิ่งไม้ในดง[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ไกรกร่างยางยูงสูงระหง ตะลิงปลิงปริงประยงค์[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]คันทรงส่งกลิ่นฝิ่นฝาง[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]มะม่วงพวงพลองช้องนาง หล่นเกลื่อนเถื่อนทาง [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]กินพลางเดินพลางหว่างเนิน[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]เห็นกวางย่างเยื้องชำเลืองเดิน เหมือนอย่างนางเชิญ [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]พระแสงสำอางข้างเคียง[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]เขาสูงฝูงหงส์ลงเรียง เริงร้องซ้องเสียง [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]สำเนียงน่าฟังวังเวง[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]กลางไพรไก่ขันบรรเลง ฟังเสียงเพียงเพลง [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ซอเจ้งจำเรียงเวียงวัง[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ยูงทองร้องกะโต้งโห่งดัง เพียงฆ้องกลองระฆัง [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]แตรสังข์กังสดาลขานเสียง[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]กะลิงกะลางนางนวลนอนเรียง พระยาลอคลอเคียง [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]แอ่นเอี้ยงอีโก้งโทงเทง[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ค้อนทองเสียงร้องป๋องเป๋ง เพลินฟังวังเวง [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]อีเก้งเริงร้องลองเชิง[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ฝูงละมั่งฝังดินกินเพลิง ค่างแข็งแรงเริง [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ยืนเบิ่งบึ้งหน้าตาโพลง[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ป่าสูงยูงยางช้างโขลง อึงคะนึงผึงโผง [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]โยงกันเล่นน้ำคล่ำไป[/FONT]

    [FONT=DSU_MonTaNa]ยานี ๑๑ (แม่กก)[/FONT]

    [FONT=DSU_MonTaNa]ขึ้นกกตกทุกข์ยาก แสนลำบากจากเวียงไชย [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]มันเผือกเลือกเผาไฟ กินผลไม้ได้เป็นแรง[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]รอนรอนอ่อนอัษดงค์ พระสุ่ริยงเย็นยอแสง [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ช่วงดังน้ำครั่งแดง แฝงเมฆเขาเงาเมรุธร[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ลิงค่างครางโครกครอก ฝูงจิ้งจอกออกเห่าหอน [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ชะนีวิเวกวอน นกหกร่อนนอนรังเรียง[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ลูกนกยกปีกป้อง อ้าปากร้องซ้องแซ่เสียง [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]แม่นกปกปีกเคียง เลี้ยงลูกอ่อนป้อนอาหาร[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ภูธรนอนเนินเขา เคียงคลึงเคล้าเยาวมาลย์ [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ตกยากจากศฤงฆาร สงสารน้องหมองภักตรา[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ยากเย็นเห็นหน้าเจ้า สร่างโศกเศร้าเจ้าพี่อา [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]อยู่วังดังจันทรา มาหม่นหมองลอองนวล[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]เพื่อนทุกข์ศุขโศกเศร้า จะรักเจ้าเฝ้าสงวน[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]มิ่งขวัญอย่ารันจวน นวลภักตร์น้องจะหมองศรี[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ชวนชื่นกลืนกล้ำกลิ่น มิรู้สิ้นกลิ่นมาลี [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]คลึงเคล้าเย้ายวนยี ที่ทุกข์ร้อนหย่อนเย็นทรวง[/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 เมษายน 2009
  8. ปูเเว่น

    ปูเเว่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,614
    ค่าพลัง:
    +6,697
    ขอเชิญทุกท่านรวมใจตั้งจิตอธิษฐาน ให้ประเทศไทยอยู่เย็นเป็นสุข คนไทยมีความรักสามัคคีกัน มีจิตใจเมตตาต่อกันด้วยเทอญ
     
  9. ดาบจันทรา

    ดาบจันทรา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2007
    โพสต์:
    986
    ค่าพลัง:
    +1,953
    ในที่สุดคุณหนุมานผู้นำสาร ก็ออกมาเฉลยตัวตนจนได้แล้วนะค่ะ
    จะดีใจหรือเสียใจดีเนี่ย เฮ้อ...

    มนุษย์มีกรรมเป็นเผ่าพันธ์ เร่งเพียรทำคุณงามความดีกันไว้เถอะค่ะ
    อย่างน้อยจะได้ชื่อว่า เกิดมาแล้วไม่เสียชาติเกิด
     
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    [​IMG]

    "พระแก้วมณีโชติ"

    (เนื้อเรื่องนำมาจากเว็บไซต์เทพพรหมประทานพร ท่านผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณ)

    ตำนานพระแก้วมณีโชติ (ฉบับย่อ)

    พระพุทธศาสนาผ่านไป ๒,๕๐๐ ปี จะเกิดกลียุคมนุษย์รบราฆ่าฟันกันเอง โลกมนุษย์จะพบภัยพิบัติจากโรคระบาดที่ร้ายแรง มาคร่าชีวิตผู้คนและสัตว์ให้ล้มตายจำนวนมาก แต่คนที่แขวนพระแก้วมณีโชติติดตัว จะปลอดภัยจากอันตรายทั้งหลายทั้งปวง สมเด็จโตได้นิมิตบอกหลวงปู่ทิพย์พระอรหันต์แห่งถ้ำเชียงดาว จ.เชียงใหม่ ปัจจุบันท่านได้ละสังขารไปแล้ว ท่านเป็นอาจารย์ของผู้เขียน และอนุญาตให้เปิดเผยเรื่องราวพระแก้วมณีโชติ พระแก้วกายสิทธิ์ที่เทวดาสร้างถวายบูชาพระพุทธเจ้า ท่านเล่าว่า

    เมื่อครั้งสมัยพุทธกาล องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์ชีพอยู่ พระพุทธองค์ทรงจาริกประเทศเทศนาธรรมสั่งสอนเวไนยสัตว์ ทรงเสด็จจาริกมายังถิ่นต่างๆ ทรงพยากรณ์ที่ต่างๆ ทรงประทานพระเกศาธาตุและรอยพระพุทธบาทอันทรงเห็นสมควร และทรงเล็งด้วยพระพุทธญาณว่าต่อไปที่แห่งนี้จะเป็นที่อุดมในธรรม ทรงพยากรณ์ว่า “ ต่อไปภายหน้าเมื่อตถาคตปรินิพพานได้ ๑๐๐ ปี ณ ที่แห่งนี้จะเกิดนครใหม่ที่มีความรุ่งเรืองทางพระพุทธศาสนาอย่างมากมีนามว่า “ ทิพย์มหานคร ”

    เมืองนี้ปรากฏพระเถระองค์หนึ่งนามว่า พระธรรมราช เป็นพระอรหันต์ที่มีฤทธิ์ศักดามาก เป็นที่เคารพนับถือของเหล่ามนุษย์และพญานาคตลอดจนเทวดาทั้งหลาย พระธรรมราชคิดว่าพระพุทธศาสนาจะรุ่งเรืองได้ ต้องให้คนทั้งหลายระลึกถึงพระพุทธคุณ จึงคิดจะสร้างพระพุทธรูปองค์เล็กจำลองเป็นรูปของพระพุทธเจ้า เพื่อให้เป็นที่พึ่งของเหล่ามนุษย์ แต่จะสร้างด้วยทองคำหรือเงินก็จะทำให้มนุษย์เกิดความโลภทำอันตรายต่อรูปจำลองของพระพุทธเจ้า ความคิดนี้รู้ไปถึงมหาพรหมผู้มีนามว่า "ชินนะปัญจะระ" ท่านจึงแปลงร่างเป็นชีปะขาวนำเอาแก้วมณีโชติ ที่ถือเป็นแก้วกายสิทธิ์อยู่บนสวรรค์ชั้นดุสิต มาถวายให้พระธรรมราช พระธรรมราชจึงให้ช่างแกะสลักในเมือง ช่วยกันแกะเป็นรูปจำลองของพระพุทธเจ้า ปรากฏว่าช่างแกะสลักไม่สามารถที่จะแกะสลักแก้วมณีโชติได้

    พวกช่างปรึกษากันด้วยจนปัญญา ความนี้ทราบถึงพระอินทร์จึงสั่งให้เทวดาประจำวันทั้ง ๗ องค์ แปลงร่างเป็นมนุษย์ลงมารับอาสา แกะสลักแก้วมณีโชติเป็นรูปจำลองของพระพุทธเจ้า ด้วยการแกะสลักเป็นพระพุทธรูปองค์เล็กใช้ติดกายและองค์ใหญ่สูงครึ่งคืบไว้ประจำบ้านเมือง เพียงใช้เวลา ๗ วันแกะได้ ๘๔,๐๐๐ องค์ เมื่องสร้างเสร็จแล้วพระธรรมราชจึงประชุมกับเจ้าเมืองและชาวเมืองเพื่อจัดงานทำบุญฉลองสมโภชพระแก้วมณีโชติ

    ท่านมหาพรหมชินนะปัญจะระและพระอินทร์ จึงแปลงร่างเป็นชีปะขาวมาร่วมในงานฉลองด้วย เมื่อถึงเวลาพระธรรมราชเป็นผู้เจริญพระพุทธมนต์ ชีปะขาวทั้งสองเจริญทิพย์มนต์บูชาพระพุทธเจ้า และมีการจุดบ้องไฟเป็นพุทธบูชานับได้ ๑๐๘ กระบอก ชาวเมืองพร้อมใจกันจุดบ้องไฟ เมื่อจุดบ้องไฟติด พวกช่างแกะสลักทั้งเจ็ดและชีปะขาวทั้งสอง ก็กระโดดขึ้นนั่งบนหัวบ้องไฟ บ้องไฟได้พาเอาร่างชีปะขาวและช่างแกะสลัก สูงขึ้น สูงขึ้น จนหายเข้ากลีบเมฆไปในที่สุด

    ชาวเมืองจึงรู้ว่าเทวดาแปลงร่างมาเป็นช่างแกะสลักและชีปะขาว จึงพากันส่งเสียงแซ่ซ้อง สาธุ สาธุ กึกก้องอึงคะนึงไปทั่วทั้งเมือง ท่านมหาพรหมชินนะปัญจะระจึงประพรมน้ำพุทธมนต์ อวยพรอวยชัย โดยบันดาลให้ฝนทิพย์ตกลงมาทั่วเมือง เสร็จงานแล้วชาวเมืองช่วยกันขุดหลุมลึก ๗ ศอก ๕๖ หลุม นำเอาพระทั้งหมดใส่ไห ๕๖ ไห ฝังในหลุมและกลบอย่างดี พระธรรมราชขอให้พญานาคชื่อ พญาศรีเสน เป็นผู้เฝ้ารักษาไม่ให้ผู้ใดมาเหยียบย่ำที่แห่งนี้

    ศาสนาตถาคตผ่านไป ๑,๒๐๐ ปี พระแก้วมณีโชติจะปรากฏขึ้นครั้งแรกโดยพระอรหันต์ผู้มีนามว่า โสนันโท ได้นิมิตพบพระแก้วมณีโชติขณะที่เหาะไปเมืองพญาครุฑ เห็นดวงไฟลอยจากใต้พื้นดินสู่ท้องฟ้านับหมื่นดวง เป็นที่อัศจรรย์ จึงได้เชิญกษัตริย์ละโว้มาสร้างเมือง ณ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ได้ตั้งชื่อเมืองนี้ว่า พิสดารมหานคร กษัตริย์ผู้ครองเมืองมีความเลื่อมใส พระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก ได้สร้างวัด ๑๐๘ วัดเป็นพุทธบูชา ท่านจึงแปลงร่างปีชะขาวมาร่วมอนุโมทนากุศลครั้งนี้ พร้อมถวายพระแก้วมณีโชติ ๑ ไหให้ไว้ประจำเมือง และให้เหล่าเทวดาที่ร่วมสร้างพระแก้วมณีโชติช่วยกันคุ้มครองรักษาแผ่นดินธรรมสืบไป

    ศาสนาตถาคตผ่านไป ๒๐๐๐ ปี พระแก้วมณีโชติจะถูกนำขึ้นมาให้มนุษย์สักการบูชากราบไหว้ เป็นที่พึ่งที่ยึดเหนี่ยวของคนดีมีศีลธรรม ที่เคารพนับถือพระพุทธเจ้า มนุษย์ที่ได้ครอบครองพระแก้วมณีโชติจะปลอดภัยจากอันตรายทั้งหลายทั้งปวง มีความสุขสมบูรณ์ เจริญด้วยโภคทรัพย์ เทวดาปกปักษ์คุ้มครองรักษา เมื่อนั้นพระพุทธศาสนาจะเจริญรุ่งเรืองสืบต่อไปจนครบ ๕,๐๐๐ ปี ตามพุทธพยากรณ์

    สมเด็จโตผู้นิมิตพบท่านมหาพรหมชินนะปัญจะระ เมื่อครั้งธุดงค์ไปที่กำแพงเพชร ท่านมหาพรหมชินนะปัญจระได้สอนคัมภีร์ธรรมศาสตร์ และพิธีการปลุกเสกพระเครื่อง ทำให้พระสมเด็จของท่านมีชื่อเสียงเลื่องลือระบือนามไปทั่วทิศ พร้อมทั้งบอกเล่าตำนานพระแก้วมณีโชติ และบอกให้สมเด็จโตไปเอาพระแก้วมณีโชติมา ๕ ไหเก็บรักษาไว้ ในภายภาคหน้าจะเป็นประโยชน์ในการช่วยทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาอยู่ครบ ๕,๐๐๐ ปี

    สมเด็จโตพร้อมศิษย์จึงเดินทางมาที่เมืองทิพย์นครและได้พบกับพญานาคผู้รักษาพระแก้วมณีโชติ พญานาคได้พ่นไฟพิษเข้าใส่ สมเด็จโตจึงภาวนานึกถึงท่านมหาพรหมชินนะปัญจะระ ไฟพิษของพญานาคไม่สามารถทำอันตรายได้ สมเด็จโตบอกพญานาคว่าท่านมหาพรหมชินนะปัญจะระใช้มาจริงไม่ได้พูดเท็จ จึงมอบพระแก้วมณีโชติให้สมเด็จโต ๕ ไห สมเด็จโตนำเอามาเก็บไว้ที่กุฏิท่านโดยให้วิญญาณผู้หญิงเป็นผู้เฝ้าดูแล ทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ไหของสมเด็จท่าน ด้วยเกรงกลัวอิทธิฤทธิ์ของวิญญาณของหญิงสาวนั้น ที่ชอบปรากฏตัวให้ผู้คนเห็น

    ก่อนสมเด็จโตจะมรณภาพ ท่านได้นำเอาไหทั้ง ๕ ใบไว้บนเพดานโบสถ์วัดระฆังโดยไม่มีใครรู้ เวลาผ่านไป ๑๐๐ ปี สมเด็จโตได้นิมิตบอกผ่านหลวงปู่ทิพย์ได้รับรู้ถึงนิมิตตำนานพระแก้วมณีโชติ และก่อนที่ท่านจะละสังขารได้มอบพระแก้วมณีโชติให้ศิษย์ของท่านเป็นผู้ดูแลเก็บรักษาไว้ และอนุญาตให้เปิดเผยเล่าเรื่องราวตำนานพระแก้วมณีโชติให้พุทธศาสนิกชนทั้งหลายได้รับรู้ เพื่อช่วยกันสืบอายุพระพุทธศาสนาให้ครบ ๕,๐๐๐ ปี

    สนใจติดต่อ..๐๘๗-๘๑๔๙๑๗๗/๐๘๐-๒๘๐๙๙๓๗

    ที่มา http://login.totalweblite.com/design/1075/index.asp?pageid=31160&AccId=2763
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • pagaw%2011.jpg
      pagaw%2011.jpg
      ขนาดไฟล์:
      106.8 KB
      เปิดดู:
      2,688
    • 154636.jpg
      154636.jpg
      ขนาดไฟล์:
      81.7 KB
      เปิดดู:
      196
    • dsc03625.jpg
      dsc03625.jpg
      ขนาดไฟล์:
      70.1 KB
      เปิดดู:
      142
    • dsc03627.jpg
      dsc03627.jpg
      ขนาดไฟล์:
      68.7 KB
      เปิดดู:
      106
    • pa.jpg
      pa.jpg
      ขนาดไฟล์:
      78.7 KB
      เปิดดู:
      120
    • pa6.jpg
      pa6.jpg
      ขนาดไฟล์:
      83 KB
      เปิดดู:
      111
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 เมษายน 2009
  11. ragpon

    ragpon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    456
    ค่าพลัง:
    +954
    พระแก้วมณีโชติ เป็นเรื่องที่ดีที่สุดที่ได้พบได้อ่าน มาในรอบหลายเดือนที่ผ่านมาเลยครับ อนุโมทนา กับข้อมูลและผู้สืบเสาะมาด้วยครับ ปลื้มใจจริงๆ
     
  12. กฤติกร

    กฤติกร สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +0
    รักษาตัว กลัวกรรม อย่าทำชั่ว
    จะหมองมัว หม่นไหม้ ไปเมืองผี
    จงเลือกทำ แต่กรรม ที่ดีดี
    จะได้มี ความสุข พ้นทุกข์ภัย
     
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    "ท้าวมหาพรหมชินะบัญจะระ"

    [​IMG]

    ประวัติ ท่านท้าวมหาพรหมชินนะบัญจะระ

    ในอดีตกาลครั้งองค์สมณะโคดมเจ้า ทรงตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ครานั้นอัครสาวกเบื้องซ้ายและเบื้องขวาของพระพุทธองค์ คือ พระโมคคัลลานะ ผู้เลิศในอิทธิฤทธิ์ และพระสารีบุตรผู้เลิศในปัญญา ณ แคว้นพาราณสี ปรากฏเด็กน้อยนามว่า ชินนะ บุตรของมะติโตพราหมณ์ และนางยะถานาพราหมณ์ โคตรบัญจะระ เลื่อมใสในพระพุทธศาสนาแห่งองค์พระศาสดาแต่ครั้งเยาว์วัย ได้บวชเป็นสามเณร และเป็นศิษย์ของพระโมคคัลลานะ สามเณรชินนะ ทรงภูมิปัญญาเป็นที่เฉลียดฉลาดเป็นยิ่ง ศรัทธาในการบิณฑบาตอย่างสงบขยันหมั่นเพียรเป็นนิจ ครั้นอายุได้เพียง 7 ขวบก็สำเร็จอรหันต์

    สามเณร ชินนะ บัญจะระ นับว่ามีรูปงาม เสียงไพเราะ รู้พิธี เจ้าระเบียบ รอบคอบด้วยความสะอาด ตั้งอยู่ในศีลาจาวัตรอันงดงาม ครั้นย่างเข้าสู่วัยหนุ่ม รูปร่างของท่านชินนะ บัญจะระ ยิ่งสวยสดงดงาม ผิวขาวละเอียดประดุจหยก หน้าแดงระเรื่อสีชมพู คิ้วโก่งดังคันศร ไว้เกษาเกล้าจุก เยื้องย่างสง่างามประดุจราชสีห์ ด้วยรูปงามเป็นที่ต้องตาต้องใจของสตรีเพศ จึงมีสตรีเพศต่างหลงใหลในตัวของท่านชินนะเป็นอย่างยิ่ง ด้วยท่านชินนะนั้นยึดพรหมจรรย์เป็นสรณะจึงมีแต่ความสงบ

    แล้ววันหนึ่ง ขณะที่ท่านชินนะได้ออกบิณฑบาตโปรดสัตว์ ได้มีหญิงผู้หนึ่งซึ่งแอบหลงรักท่านชินนะ มิอาจยับยั้งใจเอาไว้ได้จึงได้โผผวาเข้ากอดท่านชินนะอย่างลืมตัว ท่านชินนะ เห็นอาการของผู้หญิงคนนั้นกระทำแก่ท่านดังนี้ก็บังเกิดความสังเวชอย่างใหญ่หลวง อันพรหมจรรย์ของท่านต้องมาแปดเปื้อนเสียดังนี้ ความยึดมั่นในพรหมจรรย์ของท่านต้องมาสะบั้นลง ท่านจึงดำริขึ้นว่า "ตัวท่านนี้มีรูปงามเช่นนี้ย่อมก่อให้เกิดอกุศลกรรมแก่อิตถีเพศ เป็นการสร้างบาปให้เกิดขึ้นด้วยมีกายรูปนี้เป็นเหตุ จะมีสักเท่าใดกันหนอที่ปรารถนาล่วงพรหมจรรย์ของท่านเช่นผู้หญิงคนนี้.."

    ท่านชินนะ คิดดังนี้ เห็นกายเป็นเหตุ กายทำให้พรหมจรรย์จิตเสื่อมสลาย กายก่ออกุศลจิตให้เกิดเป็นบาปกับอิตถีเพศผู้ยังมัวเมาในรูป ท่านจึงถอดกายทิพย์ออกจากร่าง ทิ้งสังขารไว้เมื่อยังไม่ถึงกาล เมื่ออายุท่านเพียง 23 ปี 6 เดือน กายทิพย์ของท่านจึงไปได้แค่ชั้นพรหมโลก

    ท่านชินนะ นับว่าเป็นผู้รอบรู้พิธีการต่างๆของโลกวิญญาณ ท่านสามารถสวดพระคาถาคลายพระเวทย์ได้อย่างเยี่ยมยอดยามท่านสวดพระคาถาไม่ว่าบนโลกหรือบนสวรรค์เสียงของท่านจะก้องกังวานไปทั่วนรกภูมิ และสวรรค์สามสิบสามชั้นเทพพรหมได้ยินจะสะเทือนจิตออกจากสมาบัติหมดสิ้น เพื่อรับทราบพิธีการที่ท่านชินนะจัดขึ้น

    ท่านชินนะบัญจะระ มีกายละเอียดอยู่ในชั้นพรหม ขณะนี้เป็นชั้นหัวหน้ารูปพรหม 16 ชั้น ควบคุมทั้งหมด ดังด้วยว่าสตรีเพศเป็นผู้ทำลายความบริสุทธิ์ของท่านเสียก่อนดังนี้ ทำให้ท่านละสังขารก่อนถึงกาลเวลาแห่งอายุดังนี้ จึงทำให้ท่านมีกำลังบุญอยู่ในแค่ชั้นพรหม ดังนั้นท่านจึงต้องสร้างบุญในโลกมนุษย์เพื่อสร้างบุญบารมีนำท่านขึ้นไปสู่แดนอรหันต์

    ดังนั้น ชินบัญชรคาถา หากท่านได้ภาวนาเป็นประจำสม่ำเสมอจักก่อให้เกิดผลดียิ่งแก่ผู้ภาวนา เพราะท่านท้าวมหาพรหม ชินนะบัญจะระ จะทรงแผ่อำนาจลงมาช่วยท่านตลอดเวลาคิดหวังอะไรย่อมสมหวังยิ่ง

    [​IMG]

    กำเนิดพระคาถาชินบัญชร

    เรียบเรียงโดยคุณปัญญา นี้ได้คัดลอกมาจากหนังสือ พระคาถาชินบัญชร จากรายการชินบัญชรทางวิทยุ นานแล้ว ก็ขอจะเล่าประวัติดังนี้

    เมื่อครั้งนั้น สมเด็จ (โต) ได้มีโอกาสเดิทางไปยัง จังหวัดกำแพงเพชร ท่านได้เดินทางไปที่วัดเก่าแห่งหนึ่งซึ่งมีกรุโบราณ ที่นั่นท่านได้พบคัมภีร์โบราณผูกหนึ่งฝังอยู่ในเจดีย์หัก สมเด็จจึงนำคัมภีร์ผูกนั้นมาเก็บไว้ที่กุฏิ ขณะนั้นสมเด็จ (โต) ท่านมีจิตดำริที่จะสร้างพระเครื่องเพื่อมอบให้แก่เจ้าปิยะ (ร.5) หรือพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อเป็นสมบัติในยุคสมัยครองราชย์ ระหว่างครุ่นคิดสมเด็จ (โต) ท่านก็ได้จำวัดหลับไป

    ในคืนนั้นราวๆประมาณตี 3 สมเด็จ (โต) ได้นิมิตว่าท่านได้ตื่นขึ้น เห็นชายหนุ่มรูปงามรูปหนึ่งมายืนอยู่ที่หัวนอนในชุดนุ่งขาวห่มขาว มีรูปลักษณ์งดงามหาที่ติมิได้เลย สมเด็จ(โต) ท่านก็มองขึ้นตามกำหนดของจิต ทราบว่าหนุ่มรูปงามนี้คงจะไม่ใช่มนุษย์อย่างแน่นอน

    สมเด็จ (โต) จึงถามว่า "ท่านผู้เจริญ การที่อาตมาได้มีโอกาสชมท่านนับว่าเป็นขวัญตาเหลือเกิน ท่านมาในสถานที่แห่งนี้ มีสิ่งใดที่อาตมาปฏิบัติผิดพลาดในหลักพระพุทธศาสนาเล่า ? ขอให้ท่านจงประสาทประทานการสอนให้อาตมาแจ่มแจ้งในพระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเถิด"

    ชายหนุ่มผู้นั้นจึงกล่าวขึ้นด้วยคำพูดที่เย็นกังวาน "ท่านโต วิธีการที่ท่านดำเนินงานอยู่นี้คล้ายกับองค์สมณะโคดมอยู่ แต่การที่ท่านคิดจะสร้างพระให้เป็นสิ่งที่ระลึกของมนุษย์นั้น สร้างแล้วสิ่งนั้นจะต้องดี ท่านโตเชื่อในเรื่องวิญญาณ เพราะฉะนั้นควรจะปฏิบัติตามกฏของโลกวิญญาณ คือวิธีการตั้งให้ถูกหลักการในการปลุกเสก"

    สมเด็จ(โต) ท่านจึงกล่าวว่า "ท่านผู้เจริญ ขรัวโตนี้รับฟังความคิดเห็นของทุกคนหากแม้นท่านโปรดข้านี้ ขอได้โปรดบอกมาเถิด จะด่าว่าตักเตือนเราก็ไม่ว่า"

    หนุ่มรูปงามผู้มีความสงบแลดูเป็นที่เลื่อมใส จึงได้แนะวิธีการต่างๆในเรื่องทิศทางว่าทิศใดเป็นทิศมงคล ในการวาง เทียน ธูป ดอกไม้ เทียนชัย ให้ตรงตามหลักของกฏระเบียบแห่งโลกวิญญาณ เรียกว่าเทวบัญญัติ หรือพรหมบัญญัติ

    ระหว่างนั้นสมเด็จ (โต) ยังคุมสติสัมปชัญญะอยู่ทุกเมื่อ จึงได้ถามหนุ่มรูปงามนั้นว่า "ท่านผู้รูปงามท่านนี้มีนามว่ากระไรหรอ?"

    "หม่อมฉันนี้คือลูกศิษย์องค์พระโมคคัลลานะ หม่อมฉันสำเร็จเป็นอรหันต์เมื่ออายุ 7 ขวบ แต่ด้วยทิ้งสังขารก่อนอายุขัยจึงมิได้สู่แดนอรหันต์ คงยังอยู่ในแดนพรหมโลก เพราะหม่อมฉันไม่อยากติดสตรีมิชอบสตรี เพราะสตรีทำลายพรหมจารีย์ของหม่อมฉัน หม่อมฉันจึงทิ้งสังขารก่อนอายุขัย ทางโลกวิญญาณถือว่าสิ้นก่อนอายุขัย จึงอยู่รูปพรหม ถ้าท่านโตต้องการปรึกษาจากหม่อมฉัน ก็จงระลึกถึงชินนะบัญจะระ" มานพหนุ่มรูปงามกล่าวต่อสมเด็จ (โต) อย่างสำรวม

    ต่อมาไม่ว่าสมเด็จ (โต) จะทำงานสิ่งใด จึงมักระลึกถึง ท่านท้าวมหาพรหมชินนะบัญจะระทีไร ท่านก็ปรากฎร่างทันที ช่วยเหลือสมเด็จ (โต) ประกอบพิธีต่างๆ จึงทำให้เครื่องรางของขลังของสมเด็จ (โต) มีความศักดิ์สิทธิ์มาก

    สมเด็จ (โต) ท่านปลุกเสกพระสมเด็จรุ่นสุดท้าย 84,000 องค์ เรียกว่าสมเด็จอิทธิเจ ท่านได้แปลคาถาจากคัมภีร์ ซึ่งท่านพบจากกรุวัดที่กำแพงเพชร ซึ่งคัมภร์นั้นเขียนด้วยภาษาสิงหลได้ความบ้าง มิได้ความบ้าง จับใจความได้ว่าเป็นชื่ออรหันต์แปดสิบองค์ จึงได้ตัดต่อแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อง่ายต่อการสวด จึงแปลใหม่ได้ความว่า "คาถาชินบัญชร"

    ซึ่งตรงกับชื่อท่านท้าวมหาพรหมชินนะบัญจะระ สมเด็จ (โต) ท่านจึงถือคาถาบทนี้เป็นการเทิดทูนท่านท้าวมหาพรหมชินนะบัญจะระ ที่ท่านได้ช่วยเหลือตลอดมา และพระคาถาบทนี้เป็นบทสวดในการนั่งปลุกเสกพระอิทธิเจรุ่นสุดท้าย ซึ่งสมเด็จ (โต) ท่านนั่งปลุกเสกอยู่เพียงผู้เดียว

    โพสต์ข้อความโดยคุณ รุธ<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_46044", true); </SCRIPT> ศิษย์วัดถ้ำเมืองนะ

    ที่มา http://www.watthummuangna.com/board/showthread.php?p=46446
    <!-- / message -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 เมษายน 2009
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เด็กอังกฤษแพ้ผักผลไม้เพิ่มขึ้น

    [​IMG]

    ลอนดอน 15 เม.ย.- ผู้เชี่ยวชาญเผยว่า พบเด็กในอังกฤษมีอาการแพ้ผักและผลไม้เพิ่มขึ้น โดยมีจำนวนมากกว่าเด็กแพ้ถั่วแล้วในขณะนี้

    ดร.พาเมลา อีวาน แพทย์ที่ปรึกษาด้านภูมิแพ้ โรงพยาบาลแอดเดนบรู้คในเมืองเคมบริดจ์ เผยว่า ตรวจพบผู้ป่วยภูมิแพ้มากกว่าปีละ 8,000 คน โดยในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมาพบผู้ป่วยแพ้ผักและผลไม้เพิ่มขึ้นมาก ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น อาการแพ้ เช่น ปากและคอบวม หายใจลำบาก สถานการณ์คล้ายกับการพบผู้ป่วยแพ้ถั่วจำนวนมากช่วงทศวรรษหลังปี 1990 จึงฝากเตือนผู้ปกครองระมัดระวังเรื่องนี้ให้มาก เพราะผักผลไม้ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายก็อาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้

    ดร.อีวาน เผยว่า เริ่มแรกที่พบผู้ป่วยแพ้ผักผลไม้ไม่คิดว่าเป็นเรื่องร้ายแรง เพราะมีเพียงอาการคันในปาก แต่ระยะหลังพบผู้ป่วยอาการหนักถึงขั้นคอบวมจนทำให้หายใจลำบาก เธอยกตัวอย่างเด็กนักเรียนชายวัย 15 ปีคนหนึ่งว่ารู้ตัวว่าแพ้กล้วยเมื่ออายุ 11 ปี เมื่อทดสอบต่อไปพบว่าเขาแพ้ผลไม้อื่น ๆ ด้วย จึงต้องระมัดระวังอย่างมากในการรับประทานผลไม้ที่คนทั่วไปสามารถรับประทานได้ตามปกติ ดร.อีวานประเมินว่า หลังจากนี้ไป 50 ปี ทุกคนจะกลายเป็นภูมิแพ้
    ผู้เชี่ยวชาญหลายคนยืนยันว่า การแพ้ผักผลไม้กำลังเป็นปัญหารุนแรงขึ้น และจะส่งผลต่อผู้ที่แพ้ละอองเกสรอยู่แล้วเพราะโปรตีนในละอองเกสรทำปฏิกิริยากับโปรตีนในผักผลไม้ สันนิษฐานว่าอนุภาคของไอเสียรถยนต์ไปทำให้ละอองเกสรกระตุ้นให้เกิดอาการภูมิแพ้มากขึ้น.-สำนักข่าวไทย

    2009-04-15 11:26:41

    เกิดกระแสแห่ซื้อจักรเย็บผ้าแบบเก่าในซาอุดีอาระเบีย

    [​IMG]
    ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต

    ริยาด 15 เม.ย.- ตำรวจซาอุดีอาระเบียเผยว่า กำลังสอบสวนการต้มตุ๋นครั้งใหญ่ที่ปลุกกระแสให้ประชาชนแห่ซื้อจักรเย็บผ้าซิงเกอร์แบบเก่าในราคาสูงถึง 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.75 ล้านบาท) โดยอ้างว่ามีปรอทสีแดง ซึ่งเป็นสสารที่อาจไม่มีอยู่จริง

    หนังสือพิมพ์ซาอุดีกาเซ็ทท์ รายงานว่า ผู้คนเชื่อกันอย่างกว้างขวางว่าปรอทสีแดงใช้ตามหาขุมทรัพย์ได้ รวมทั้งใช้ขับไล่วิญญาณชั่วร้าย หรือแม้แต่ใช้ทำระเบิดนิวเคลียร์ จึงเชื่อกันว่าหากพบปรอทสีแดงจำนวนเพียงเล็กน้อยก็จะทำเงินให้ได้มหาศาล ข่าวลือเรื่องจักรเย็บผ้าแบบเก่ามีปรอทสีแดงแพร่กระจายอย่างรวดเร็วแบบปากต่อปากและผ่านอินเทอร์เน็ต ส่งผลให้เกิดกระแสแห่หาซื้อจักรเย็บผ้าซิงเกอร์แบบเก่าไปทั่วประเทศ นอกจากนี้ ยังมีข่าวลือว่าผู้เชี่ยวชาญต่างชาติและบริษัทต่างชาติกำลังเปิดรับซื้อจักรเย็บผ้าแบบนี้

    มีรายงานว่าร้านตัดเสื้อ 2 แห่งถูกบุกเข้าไปขโมยจักรเย็บผ้าซิงเกอร์แบบเก่า ส่วนที่เมืองมาดินา ชาวบ้านถือโทรศัพท์เคลื่อนที่จ่อไว้หน้าจักรเย็บผ้าเพราะคิดว่าจะช่วยให้ตรวจพบร่องรอยของปรอทสีแดงในจักรเย็บผ้า ด้านโฆษกกระทรวงมหาดไทยเผยว่า เจ้าหน้าที่กำลังตามหาตัวผู้ปล่อยข่าวลือ เพราะไม่ต่างจากการหลอกลวงให้คนหลงเชื่อลงทุนในแชร์ลูกโซ่.-สำนักข่าวไทย

    2009-04-15 10:52:34

    โจรสลัดโซมาเลียเหิมหนัก ยึดเรือสินค้าอีก 2 ลำ

    [​IMG]

    โซมาเลีย 15 เม.ย. - โจรสลัดนอกน่านน้ำโซมาเลียเหิมเกริมหนัก ล่าสุดก่อเหตุปล้นยึดเรือบรรทุกสินค้าอีก 2 ลำ โดยไม่หวั่นปฏิบัติการของกองเรือนานาชาติ

    เจ้าหน้าที่ของสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนบริเวณอ่าวเอเดน เผยว่า กลุ่มโจรสลัดได้ปล้นยึดเรือบรรทุกสินค้าสัญชาติกรีซซึ่งเดินทางมุ่งหน้าไปยังอินเดีย พร้อมจับลูกเรือชาวฟิลิปปินส์รวม 20 คน เป็นตัวประกัน นอกจากนี้ยังปล้นเรือบรรทุกสินค้าติดธงโตโกได้อีกลำ ทั้ง ๆ ที่บริเวณน่านน้ำดังกล่าวมีกองเรือของนานาประเทศคอยให้ความคุ้มครองเรือสินค้าและปราบปรามโจรสลัดอยู่หลายลำ ทั้งของสหรัฐ รัสเซีย จีน ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ แต่เหตุการณ์โจรปล้นเรือนอกน่านน้ำโซมาเลียไม่มีทีท่าว่าจะลดลง แต่ยังกลับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในเดือนนี้เกิดขึ้นเฉลี่ยวันละ 1 ครั้ง. -สำนักข่าวไทย

    2009-04-15 10:14:02

    โจรสลัดพยายามปล้นเรืออเมริกันแต่ไม่สำเร็จ

    [​IMG]

    วอชิงตัน 15 เม.ย.- เรือสินค้าอเมริกันลำหนึ่งเผยว่าถูกโจรสลัดถล่มด้วยจรวดและปืนกลนอกชายฝั่งโซมาเลีย แต่ไม่สามารถบุกขึ้นเรือได้

    บริษัทลิเบอร์ตี้มาริไทม์คอร์ปออฟเลคซัคเซสแถลงว่า โจรสลัดใช้เครื่องยิงระเบิดและสาดปืนกลใส่เรือลิเบอร์ตี้ซันที่อยู่ระหว่างเดินทางจากเมืองฮิวสตันในสหรัฐไปยังกรุงมอมบาซาของเคนยา เพื่อนำอาหารของสหรัฐไปช่วยเหลือชาติในแอฟริกา ลูกเรือได้ขอความช่วยเหลือจากกองทัพเรืออเมริกันทันทีและได้รับการอารักขาแล้ว ลูกเรือทุกคนปลอดภัยแต่เรือเสียหาย ด้านโฆษกหน่วยบัญชาการกลางสหรัฐไม่ให้ความเห็นต่อเรื่องนี้

    เหตุการณ์ดังกล่าวนับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบสัปดาห์ที่เรืออเมริกันถูกโจมตีนอกชายฝั่งโซมาเลียหลังจากเมื่อวันอาทิตย์เจ้าหน้าที่สหรัฐยิงโจรสลัดตาย 3 คน ช่วยกัปตันเรือที่ถูกจับเป็นตัวประกันนาน 5 วัน.-สำนักข่าวไทย

    2009-04-15 10:00:47

    โอบามา ประกาศจะร่วมมือกับนานาชาติปราบโจรสลัด

    [​IMG]

    มอมบาซา 14 เม.ย.- ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ ประกาศจะยุติปัญหาโจรสลัดโซมาเลียที่ทวีความรุนแรงขึ้น และว่า สหรัฐจะทำงานกับนานาชาติแก้ปัญหาดังกล่าว

    ประธานาธิบดีโอบามา แถลงในกรุงวอชิงตัน ว่า สหรัฐมุ่งมั่นจะยุติปัญหาโจรสลัดที่ทวีความรุนแรงขึ้นบริเวณน่านน้ำนอกชายฝั่งโซมาเลีย โดยจะให้ความร่วมมือกับหุ้นส่วนทั้งหลายในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุโจรสลัดโจมตีขึ้นอีก
    คำกล่าวของผู้นำสหรัฐมีขึ้นหลังจากนายริชาร์ด ฟิลิปส์ กัปตันเรือชาวอเมริกันที่ถูกโจรสลัดโซมาเลียจับตัวไปเป็นตัวประกันได้รับการช่วยเหลือให้ได้รับอิสรภาพ ด้านลูกเรือเมิร์สค์ แอละแบมา ซึ่งเป็นเรือลำประสบเหตุ ออกมาเรียกร้องให้ทางการดำเนินมาตรการแข็งกร้าว เพื่อยุติปัญหาโจรสลัด

    ขณะนี้สหรัฐกำลังพิจารณาทางเลือกต่างๆ ในการแก้ปัญหานี้ ซึ่งรวมทั้งการเพิ่มเรือติดอาวุธของกองทัพเรือไปประจำตามแนวชายฝั่งโซมาเลีย การทำลายเรือแม่ของโจรสลัด รวมถึงอาจโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มโจรสลัดที่ตั้งอยู่บนฝั่งโซมาเลีย ส่วนชาติพันธมิตรบางประเทศต้องการส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปปราบปรามโจรสลัดบนฝั่งโซมาเลีย อย่างไรก็ดี ก็มีเสียงเตือนจากนายแลร์รี จอห์นสัน อดีตเจ้าหน้าที่ซีไอเอ และผู้เชี่ยวชาญด้านต่อต้านการก่อการร้าย ของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ที่เห็นว่า กลุ่มโจรสลัดเหล่านี้ไม่ได้เป็นกองกำลังทางทหาร และมักปะปนไปกับสตรี และเด็ก จึงไม่ควรโจมตีหมู่บ้านที่โจรสลัดใช้เป็นฐานที่มั่น. -สำนักข่าวไทย

    2009-04-14 15:24:08

    เกาหลีเหนือขับเจ้าหน้าที่ยูเอ็น

    [​IMG]

    โซล 15 เม.ย. - เกาหลีเหนือตอบโต้มติประณามของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ด้วยการสั่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) เดินทางออกนอกประเทศ โดยก่อนหน้านี้ประกาศว่าจะถอนตัวจากการเจรจานิวเคลียร์ 6 ฝ่าย และจะเดินเครื่องโรงงานผลิตเชื้อเพลิงนิวเคลียร์อีกครั้ง

    สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของทางการเกาหลีเหนือ รายงานแถลงการณ์ของทางการว่า การกระทำของยูเอ็น และการเจรจาของ 6 ชาติมหาอำนาจเกี่ยวกับเกาหลีเหนือ เป็นการละเมิดอธิปไตยของเกาหลีเหนือ ดังนั้น เกาหลีเหนือจะไม่เข้าร่วมการเจรจาใด ๆ และจะไม่ทำตามมติใด ๆ อีกทั้งจะเพิ่มแสนยานุภาพนิวเคลียร์ เพื่อปกป้องตนเองในทุกวิถีทาง ด้านเจ้าหน้าที่ไอเออีเอ เผยว่า เกาหลีเหนือได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่โรงงานนิวเคลียร์ยองเบียน เดินทางออกนอกประเทศทันที เพราะได้ยุติความร่วมมือทุกอย่างแล้ว

    นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ตำหนิเกาหลีเหนือที่สั่งขับเจ้าหน้าที่ไอเออีเอ ว่าเป็นการตอบโต้ที่ไม่จำเป็นต่อมติอันชอบธรรมของคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น และหวังว่าสหรัฐจะได้หารือเรื่องนี้กับประเทศพันธมิตร รวมทั้งกับเกาหลีเหนือด้วย ส่วนตลาดเงินในเกาหลีใต้และญี่ปุ่นไม่ได้รับผลจากปฏิกิริยาของเกาหลีเหนือแต่อย่างใด เนื่องจากนักลงทุนคาดหมายเกาหลีเหนือจะทำเช่นนี้อยู่แล้ว. - สำนักข่าวไทย

    2009-04-15 08:22:48

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    ให้ไปชม Knowing!

    :z2
     
  16. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    <table id="post2026531" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">[​IMG] 09-04-2009, 08:50 AM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #2632 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->badboy_gt10<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_2026531", true); </script>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Nov 2005
    สถานที่: ลาดพร้าว กรุงเทพ
    ข้อความ: 23
    <if condition=""></if> Groans: 0
    Groaned at 0 Times in 0 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 0
    ได้รับอนุโมทนา 36 ครั้ง ใน 14 โพส
    พลังการให้คะแนน: 0 [​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_2026531" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start -->ฝัน ว่า....เรื่องที่หนึ่ง ผมนั่งแท็กซี่ไปกับพี่ชายขับไปเรียบชายทะเลน่าจะแถวบางแสนอะครับ น้ำแห้งขอดลงไปจนเห็นพื้นดินข้างล่างชัดมากแห้งไปเป็นกิโลๆเลย แล้วเราก็ขับแท็กซี่ลงไปในนั้นมันจะมีทางน้ำไหนต่อไปเป็นคลอง ซึ้งน้ำก็แห้งเช่นกันเลยกลายเป็นถนนไป ขับๆไปก็มีคนเดินประมาณว่าอพยบอะครับผมก็มองผู้หญิงคนนึงน่าตาดีซึ่งเราขับ ผ่านมาแล้ว แล้วจู่ๆคลื่นยักสูงประมาญตึกสามสี่ชั้นก็มา เร็วมากๆจากทางที่เราขับผ่านมา ผมกับพี่ชายเลยบอกแท็กซี่ว่าให้รีบขับเร็วๆหน่อย พอเลี้ยวซ้ายไปมันจะเป็นเนินอะครับ รถขึ้นไม่ไหวผมกับพี่ชายเลยลงมาช่วยกันเข็น พอรถขึ้นมาได้น้ำก็ใกล้มากแล้วผมเลยวิ่ง นึกในใจว่ายังไม่ได้จ่ายค่าแท็กซี่เลย แต่เอาชีวิตไว้ก่อนผมไม่ได้ดูว่าพี่กับคนขับแท็กซี่หายไปไหนหลังจากนั้น แต่ผมเห็นเมนเผาศพความรู้สึกเหมือนจะเป็นข้างหลังวัดแต่มองยังไงก็ไม่มีวัด มีแต่เมน และมีคนกำลังปีนขึ้นไปบนเมนเพราะเป็นสิ้งปลูกสร้างที่สูงที่สุดบริเวณนั้นผม เลยไปปีนด้วยพอปีนขึ้นไปไม่ทันไรน้ำก็ท่วมมาผมสดุ้งตื่นซะก่อนนะครับ

    เรื่องที่สองคืนถัดมา ผมไปชายทะแลน่าจะชลบุรีนะครับคิดว่านะ กำลังเล่นน้ำทะเลอยู่กับครอบครัว ผมมองไปยังเกาะกลางทะเลเป็นเกาะหัวล้านด้านบนมีน้ำแข็งเกาะอยู่เป็นจำนวนมาก แล้วน้ำแข็งก็ล่วงลงมากลายเป็นน้ำเยอะขึ้นๆ คล้ายถล่มลงมาแล้วน้ำในทะเลนั้นก็ค่อยๆเพิ่มขึ้นๆๆ อย่างรวดเร็ว ผมกับครอบครัวต่างพากันวิ้งและบีนขึ้นสู่ที่สูง มันจะมีโขดหินอยู่บีนขึ้นไปผมจมน้ำไปทีนึงแต่พี่ชายก็ดึงมือขึ้นมาทันแล้วก็ ปีนต่อ พอขึ้นถึงด้านบนก็เจอแก๊งค์ไวรุ่นเข้ามาจะทำร้าย (นัยะว่าภัยธรรมชาติยังไม่เท่าภัยจากคนด้วยกันเอง)

    เสริมอีกนิดผมเป็นคนที่ฝันบ่อยครับและตื่นมาชอบทบทวนฝันนั้นเสมอ ผมยังจำความฝันตอนเรียนอยู่มัธยมได้เลยครับและจะจำได้ด้วยว่าฝันนี้เกิดช่วง ไหนเหมือนว่ามันคือเหตุการจริงที่เคยเกิดกับตัวเองเลยละครับ<!-- google_ad_section_end -->
    __________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->บอล
    </td></tr></tbody></table>
     
  17. k_isara

    k_isara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +119
    14 เม.ย. 52
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    Happy room
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ในบทต้นๆ ผมได้เคยสร้างห้องสุขาเคลื่อนที่ โดยใช้ท่อ พีวีซี ทำเป็นโครงสร้างแล้วหุ้มด้วยผ้าใบพล๊าสติก ส่วนตัวสุขาก็ใช้ถังผงซักฟอก โดยการเจาะฝาถังแล้วเอาฝาชักโครกยึดบนฝาทำเป็นที่นั่ง ส่วนภายในถังใช้ถังใบเล็กรองมูลที่เราถ่าย เมื่อเสร็จกิจก็นำไปเททิ้งในห้องสุขา
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    เมื่อไม่กี่วันมานี้ ผมได้สร้างถังเก็บมูล มาประกอบเพิ่มเข้ากับถังสุขา โดยนำเอาถังน้ำมันเครื่อง ขนาด <?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com[​IMG]5 ลิตร</st1:metricconverter> มาเจาะและใช้ข้องอ 90 ํ 1 ตัว ข้องอ 45 ํ 2ตัว ข้อต่อตรงเกลียวนอก 1 ตัว ท่อ 50 ซ.ม. (ใช้ขนาด <st1:metricconverter w:st="on" ProductID="2 นิ้ว">2 นิ้ว</st1:metricconverter>) มาทำการต่อเชื่อม
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    วิธีทำ เมื่อเจาะฝาถังผงซักฟอกและยึดฝาชักโครกติดกับฝาถังเรียบร้อยแล้ว ให้นำกรวยพล๊าสติกขนาด 25 ซ.ม. มาตัดปลายให้เหลือ <st1:metricconverter w:st="on" ProductID="2 นิ้ว">2 นิ้ว</st1:metricconverter> แล้วยึดติดไว้ใต้ฝาผงซักฟอกที่เจาะไว้แล้ว ต่อท่อตรงลงถึงข้องอ 90 ํก้นถัง เจาะรูข้างก้นถัง ให้ตำแหน่งรูอยู่ระหว่างกึ่งกลางหูหิ้ว ต่อท่อตรงจากข้องออีกข้างออกข้างถัง ให้ความยาวเลยถังออกไป <st1:metricconverter w:st="on" ProductID="3 นิ้ว">3 นิ้ว</st1:metricconverter> ใส่ข้องอ 45 ํ หงายขึ้น ต่อท่อตรงแล้วใส่ข้องอ 45 ํ ตัวที่สองให้ปลายท่อตั้งฉาก ความยาวของท่อระหว่างข้องอ 45 ํ ทั้งสองตัว ให้ประมาณจาก การที่เราเติมน้ำทางฝากรวย อย่าให้ระดับน้ำ เกินแนวต่อของท่อกับกรวย (ไม่ต้องการให้กลิ่นย้อนกลับ) ต่อท่อตรงยาว <st1:metricconverter w:st="on" ProductID="5 นิ้ว">5 นิ้ว</st1:metricconverter> ไว้รอเสียบกับถังเก็บมูล ทุกจุดต่อให้ยาน้ำยา
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    นำถังน้ำมันเครื่องมาเจาะรู ตำแหน่งเจาะให้ระดับรูตรงกับปลายท่อของท่อสุขาที่ยาน้ำยาเรียบร้อยแล้ว รูที่เจาะให้เจาะด้านตรงข้ามกับฝาเปิดของถัง ขนาดรูให้เอาข้อต่อตรงด้านที่มีเกลียวมาทาบแล้ววาดวงกลม เมื่อได้รูแล้วขันเกลียวเข้ารูให้สุด ส่วนฝาน้ำมันให้เจาะรูเล็ก 3รู ไว้สำหรับระบายอากาศ<O:p</O:p
    ท่านก็จะได้ที่เก็บมูล จุดเชื่อมระหว่างสุขากับถังเก็บไม่ต้องยาน้ำยา เพราะเมื่อใช้เสร็จก็ถอดนำมูลไปเททิ้ง
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ถ้าไม่ต้องการให้ท่อที่ยื่นออกมาจากสุขา ก็ให้เพิ่มข้อต่อตรงเกลียวนอกและเกลียวในอย่างละตัว ตัวเกลียวในให้เจาะแนบติดกับตัวถังสุขา ตัวเกลียวนอกให้ขันยึดติดกับตัวเกลียวใน จากนั้นก็ต่อท่อ 45ํ ํ ตามที่กล่าวมา
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ท่านจะได้สุขาถอดเก็บได้ 3 ส่วน คือตัวสุขา ท่อต่อ และถังเก็บมูล
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ข้อมูลที่ลงมาให้ เพื่อที่จะให้สร้างไว้ใช้เองในยามฉุกเฉิน ในยามที่เราจะต้องย้ายไปอยู่นอกบ้าน เช่นแผ่นดินไหวหรือหนีภัยพิบัติ อยู่ในพื้นที่ๆมีคนอยู่เป็นจำนวนมาก ห้องสุขาไม่พอใช้ งบประมาณแค่ 1,000 บาท ก็สร้างได้แล้ว<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 เมษายน 2009
  18. k_isara

    k_isara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +119
    16 เม.ย. 52

    คนหนึ่งขอโทษ
    คนหนึ่งให้อภัย
    เรื่องทุกอย่างก็จบ
     
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    กองทัพแมลงชีปะขาวนับล้าน ขึ้นมาจากแม่น้ำโขงบุกเมือง

    [​IMG]
    ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต

    มุกดาหาร - กองทัพชีปะขาวนับล้านตัว แปลงร่างขึ้นมาจากแม่น้ำโขงบุกเมืองมุก สร้างความเดือดร้อนให้ผู้คนที่อยู่ในตัวเมืองเป็นย่างมาก อย่างไม่เคยปรากฏที่มีชีปะขาวจำนวนมากอย่างนี้มาก่อน

    เมื่อเวลา 20.00 น. ของเมื่อคืน 13 เมษายน 2552 เมื่อคืนที่ผ่านมา ได้เกิดมีกองทัพแมลงปอ ที่ชาวบ้านเรียกว่าชีปะขาว อยู่ใต้แม่น้ำโขงแปลงร่างจากแมลงปอ ซึ่งเมื่อยามเป็นแมลงปอจะไม่มีปีก แต่เมื่อแปลงร่างออกมาจะกลายเป็นชีปะขาวทั้งตัวพร้อมมีปีกบิน เมื่อถึงฤดูหรือเกิดสภาพอากาศแปรปรวน โดยธรรมชาติชีปะขาวจะไม่แปลงร่างยามกลางวันได้

    เนื่องจากชีปะขาวจะชอบแสงสว่างตมหลอดไฟตามถนน บ้านเรือน ผู้คนที่ประกอบอาชีพตอนกลางคืนที่จำเป็นต้องมีหลอดไฟคอยให้แสงสว่าง กองทัพชีปะขาวจะดาวกระจาย ออกยึดทุกสถานที่ที่มีแสงสว่างจากหลอดไฟ

    บินเล่นตามถนนเป็นสีขาวไปหมดเหมือนห่าฝน จนหมดแรงแล้วร่วงลงมาตายเกลื่อนตามร้านค้าและถนน จะมีซากชีปะขาวเกลื่อนเมือง แล้วส่งกลิ่นเหม็นตามมุงเมือง สร้างความเดือดร้อนให้ผู้คนที่สัญจรไปมาเป็นอย่างมาก ส่งผลกระทบให้ร้านค้าผู้ประกองการ ไม่สามารถเปิดร้านได้

    แทนที่ร้านค้าต่าง ๆ อาศัยหาร้ายได้จากงานเทศกาลสงกรานต์ แต่ต้องมาเจอกองทัพชีปะขาวโดยเฉพาะเมื่อคืนที่ผ่านมา ทางเทศบาลเมืองมุกดาหารได้จัดงานเทศกาลสงกรานต์ 3 แผ่นดินอย่างยิงใหญ่ แต่ต้องประสบปัญหาถูกกองทัพชีปะขาวรบกวน

    ทำให้งานยิ่งใหญ่ต้องกร่อยไป เนื่องจากเวทีตั้งอยู่ริมโขง จึงถูกกองทัพชีปะขาวโจมตีทั้งบนเวทีการแสดง ต้องรีบวิ่งหนีเข้าหลังเวที บรรดาแขกที่มาชมงานส่วนมากต้องลุกไป เนื่องจากแมลงชีปะขาวจะมีกลิ่นคาวลำตัวจะมีเกล็ดฝุ่น ถ้าร่วงลงอาหารแล้วทานเข้าไปจะเกิดอาการท้องร่วง อย่างไรก็ตามนั่นคือวงจรชีวิตของแมลงปอชีปะขาว

    ที่มา http://76.nationchannel.com/playvideo.php?id=34254

    แมลงชีปะขาว ผู้บอกเล่าตำนานการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ

    [​IMG]

    ท่วงท่าเริงระบำเพื่อจับคู่ผสมพันธุ์ และซากฟอสซิลของบรรพบุรุษแมลงชีปะขาวกำลังช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจการ เปลี่ยนแปลงของชั้นบรรยากาศโลก ที่เกิดขึ้นเมื่อกว่า 300 ล้านปีก่อนดีขึ้น

    สาเหตุที่เป็นเช่นนั้น เพราะเแมลงชีปะขาวมีวิวัฒนาการเพียงเล็กน้อยตั้งแต่พวกมันเกิดขึ้นมาบนโลก และมีการเคลื่อนไหวเข้าหาเพศตรงกันข้าม นักวิทยาศาสตร์จึงเชื่อว่า ถ้าบรรยากาศมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก ก็น่าจะกระทบกับขนาดซากฟอสซิลของปีกและกล้ามเนื้อของแมลงชนิดนี้

    จอห์น ซิสเน นักธรณีวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยคอร์เนลกล่าวในการประชุมของสมาคมนักธรณีกายภาพ ชาวอเมริกาว่า ข้อมูลก่อนหน้านี้ก็แสดงให้เห็นว่า ความกดอากาศมีความเปลี่ยนแปลงไม่มากนัก

    "ตราบเท่าที่แมลงชีปะขาวเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง ดูเหมือนว่ามวลและความกดอากาศในระดับใกล้พื้นดินจะมีสภาพเช่นเดียวกับช่วง สามล้านปีหลัง" จอห์น ซิสเน กล่าวพร้อมกับเสริมว่า แมลงชนิดอื่นๆ ก็ดูจะให้ร่องรอยต่างๆ พวกนี้ แม้ว่า จะย้อนเวลาถอยหลังไปนานกว่านั้น

    สำหรับสาเหตุที่นักวิทยาศาสตร์ทำการศึกษาการเปลี่ยนแปลงของชั้นบรรยากาศ ก็เนื่องมาจากว่า หากเข้าใจว่า บรรยากาศของโลกมีวิวัฒนาการมาอย่างไร จะทำให้เข้าใจการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศได้ง่ายขึ้นเพียงนั้น นอกจากนี้ยังทำให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจช่วงเวลาที่บรรยากาศมีสภาพเอื้อให้ เกิดสิ่งมีชีวิตเป็นครั้งแรกมากขึ้น

    โดยก่อนนี้นักวิทยาศาสตร์คาดเดาลักษณะของบรรยากาศของโลกจากการวิเคราะห์ฟอง อากาศในหินต่างๆ เช่น หินลาวาที่แข็งตัว พวกเขาทราบว่าตอนนั้น อากาศมีปริมาณออกซิเจนอยู่น้อยมาก และมีการสูญเสียก๊าซจำนวนมากออกไปสู่อวกาศ

    ดังนั้นการศึกษาที่ ถูกต้องมากขึ้น เกี่ยวกับแมลงชีปะขาว จึงสามารถช่วยสร้างความเข้าใจใหม่ๆ ให้นักวิจัย ในเรื่องช่วงเวลาที่บรรยากาศเกิดการเปลี่ยนปลงและปริมาณของบรรยากาศที่รั่ว ออกไปนอกโลก ตั้งแต่บรรพบุรุพของแมลงชีปะขาวเริ่มบินครั้งแรก

    การบันทึก ข้อมูลที่แน่นอน ยังทำให้เกิดความเข้าใจใหม่ๆ ในเรื่องผลกระทบจากการพุ่งชนของอุกกาบาตที่ทำให้เกิดความเชื่อว่า เป็นเหตุให้ไดโนเสาร์สูญพันธุ์ ไปจากโลกเมื่อ 65 ล้านปีที่ผ่านมา โดยความเสียหายที่เกิดขึ้นในชั้นบรรยากาศ อาจจะทำให้สัตว์เลื้อยคลานขนาดยักษ์ชนิดนี้ถึงกาลอวสาน

    "แมลง ชีปะขาวเป็นกรณีศึกษาที่ดีเป็นพิเศษ เพราะว่ากลไกการบินของพวกมันไม่ซับซ้อนและง่ายต่อการแยกแยะลักษณะ และเพราะว่าพวกมันอยู่ในกลุ่มสัตว์ดึกดำบรรพ์" ซิสเนกล่าว

    หลัง จากใช้เวลาเป็นตัวอ่อนอยู่หนึ่งปีหรือกว่านั้น แมลงชีปะขาวมีเวลาไม่ถึงหนึ่งวันในการใช้ชีวิตช่วงตัวเต็มวัยก่อนที่จะตาย พวกมันจึงอุทิศเวลาเกือบทั้งหมด ในช่วงนี้ให้กับการดึงดูดความสนใจจากเพศตรงข้าม ระหว่างที่เริงระบำเพื่อหาคู่ผสมพันธุ์ ตัวชีปะขาวจะแสดงท่าประหนึ่งเฮลิคอปเตอร์ขนาดเล็ก โดยการตีปีกด้วยความถี่ 20-30 ครั้งต่อวินาที ก่อนที่จะพักด้วยการร่อนลงสู่เบื้องล่าง แล้วก็กลับขึ้นมาทำท่าเช่นเดิมอีก

    นักธรณีวิทยากล่าวว่า ไม่น่าเป็นไปได้อย่างมาก ที่มันจะเปลี่ยนแปลงท่วงท่าในการเริงระบำนี้ เพราะแมลงชีปะขาวในยุคนี้ก็ดูไม่แตกต่างจากบรรพบุรุษของพวกมัน

    ซิสเนกล่าวถึงแรงบันดาลใจที่ทำให้เขาหันมาศึกษาแมลงชีปะขาวว่า มาจากการเฝ้าดูพวกมันที่บ้านของเขา

    "เย็น วันหนึ่ง ขณะที่กำลังมองออกไปหลังบ้าน ระหว่างที่กำลังดูการเต้นระบำบิดตัวของเหล่าแมลงชีปะขาว ผมก็เกิดความคิดขึ้นว่า แมลงตัวเล็กๆที่น่าทึ่งพวกนี้ กำลังทดลองวัดความหนาแน่นของบรรยากาศ และพวกมันก็ทำอย่างนี้มานานนับล้านๆปี " ซิสเนกล่าว

    ส่วนผลการศึกษาจะออกมอย่างไรนั้น คงต้องให้เวลาเขาอีกหน่อย
    มาร์ลีย์ แปลเรียบเรียง

    ที่มา http://onknow.blogspot.com/2005/04/blog-post_7642.html
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 เมษายน 2009
  20. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,926
    *** สุนทรภู่ แต่งเตือนอนาคต ****

    [FONT=DSU_MonTaNa]*** พระไชยสุริยา ****[/FONT]


    [FONT=DSU_MonTaNa]ยานี ๑๑ (แม่กด) [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]โลก วันมหานครล่มจม [/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ขึ้นกดบทอัศจรรย์ เสียงครื้นครั่นชั้นเขาหลวง [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]นกหกตกรังรวง สัตว์ทั้งปวงง่วงงุนโงง[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]แดนดินถิ่นมนุษย์ เสียงดังดุจพระเพลิงโพลง [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ตึกกว้านบ้านเรือนโรง โคลงคลอนเคลื่อนเขยื้อนโยน[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]บ้านช่องคลองเล็กใหญ่ บ้างตื่นไฟตกใจโจน [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ปลุกเพื่อนเตือนตะโกน ลุกโลดโผนโดนกันเอง[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]พิณพาทย์ระนาดฆ้อง ตะโพนกลองร้องเป็นเพลง [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ระฆังดังวังเวง โหง่งหง่างเหง่งเก่งก่างดัง[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ขุนนางต่างลุกวิ่ง ท่านผู้หญิงวิ่งยุดหลัง [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]พัลวันดันตึงตัง พลั้งพลัดตกหกคะเมน[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]พระสงฆ์ลงจากกุฏิ วิ่งอุตลุตฉุดมือเณร [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]หลวงชีหนีหลวงเถร ลงโคลนเลนเผ่นผาดโผน[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]พวกวัดพลัดเข้าบ้าน ล้านต่อล้านซานเซโดน [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ต้นไม้ไกวเอนโอน ลิงค่างโจนโผนหกหัน[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]พวกผีที่ปั้นลูก ติดจมูกลูกตาพลัน [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ขิกขิกระริกกัน ปั้นไม่ทันมันเดือดใจ[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]สององค์ทรงสังวาส โลกธาตุหวาดหวั่นไหว [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ตื่นนอนอ่อนอกใจ เดินไม่ได้ให้อาดูร[/FONT]

    [FONT=DSU_MonTaNa]ยานี ๑๑ (แม่กบ) [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ผู้ทำได้เป็นผู้รู้เห็นอนาคต [/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ขึ้นกบจบแม่กด พระดาบสบูชากูณฑ์ [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ผาสุกรุกขมูล พูนสวัสดิ์สัตถาวร[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ระงับหลับเนตรนิ่ง เององค์อิงพิงสิงขร [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]เหมือนกับหลับสนิทนอน สังวรศีลอภิญญาณ[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]บำเพ็งเล็งเห็นจบ พื้นพิภพจบจักรวาล [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]สวรรค์ชั้นวิมาน ท่านเห็นแจ้งแหล่งโลกา[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]เข้าฌานนานนับเดือน ไม่เขยื้อนเคลื่อนกายา [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]จำศีลกินวาตา เป็นผาสุกทุกเดือนปี[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]วันนั้นครั้นเดินไหว เกิดเหตุใหญ่ในปฐพี [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]เล็งดูรู้คดี กาลกิณีสี่ประการ[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ประกอบชอบเป็นผิด กลับจริตผิดโบราณ [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]สามัญอันธพาล ผลาญคนซื่อถือสัตย์ธรรม์[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ลูกศิษย์คิดล้างครู ลูกไม่รู้คุณพ่อมัน [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ส่อเสียดเบียดเบียนกัน ลอบฆ่าฟันคือตัณหา[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]โลภลาภบาปบ่คิด โจทย์ผิดริษยา [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]อุระพสุธา ป่วนเป็นบ้าฟ้าบดบัง[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]บรรดาสามัญสัตย์ เกิดวิบัติปัตติปาปัง [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ไตรยุคทุกขตะรัง สังวัจฉระอวสาน[/FONT]

    [FONT=DSU_MonTaNa]ฉบัง ๑๖ (แม่กม) [FONT=DSU_MonTaNa]ทางแก้ มีหนึ่งเดียว [/FONT][/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ขึ้นกมสมเด็จจอมอารย์ เอ็นดูภูบาล [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ผู้ผ่านพาราสาวะถี[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ซื่อตรงหลงเล่ห์เสนี กลอกกลับอัปรีย์ [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]บูรีจึงล่มจมไป[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ประโยชน์จะโปรดภูวไนย นิ่งนั่งตั้งใจ [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]เลื่อมใสสำเร็จเมตตา[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]เปล่งเสียงเพียงพิณอินทรา บอกข้อมรณา [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]คงมาวันหนึ่งถึงตน[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]เบียฬ[FONT=DSU_MonTaNa]เบียดเสียดส่อฉ้อฉล [/FONT][/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]บาปกำม์นำตน [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ไปทนทุกข์นับกัปกัลป์[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]เมตตากรุณาสามัญ จะได้ไปสวรรค์ [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]เป็นศุขทุกวันหรรษา[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]สมบัติสัตว์มนุษย์ครุฑา กลอกกลับอัปรา [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]เทวาสมบัติชัชวาล[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ศุขเกษมเปรมปรดิ์วิมาน อิ่มหนำสำราญ [FONT=DSU_MonTaNa]ศฤงฆาร[/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ห้อมล้อมพร้อมเพรียง [/FONT][/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]กระจับปี่สีซอคลอเสียง ขับรำจำเรียง [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]สำเนียงนางฟ้าน่าฟัง[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]เดชะพระกุศลหนหลัง สิ่งใดใจหวัง [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ได้ดังมุ่งมาตรปรารถนา[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]จริงนะประสกสีกา สวดมนต์ภาวนา [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]เบื้องน่าจะได้ไปสวรรค์[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]จบเทศน์เสร็จคำรำพัน พระองค์ทรงธรรม์ [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]ดันดั้นเมฆาคลาไคล[/FONT]

    [FONT=DSU_MonTaNa]ฉบัง ๑๖ (แม่เกย) [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]วันฟ้าใหม่ [/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ขึ้นเกยเลยกล่าวท้าวไทย ฟังธรรมน้ำใจ [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]เลื่อมใสศรัทธากล้าหาญ[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]เห็นไภยในขันธสันดาน ตัวห่วงบ่วงมาร [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]สำราญสำเร็จเมตตา[/FONT]

    [FONT=DSU_MonTaNa]สององค์ทรงหนังพยัคฆา จัดจีบกลีบชะฎา [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]รักษาศีลถือฤาษี[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]เช้าค่ำทำกิจพิธี กองกูณฑ์อัคคี [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]เป็นที่บูชาถาวร[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ปะถะพีเป็นที่บรรจฐรณ์ เอนองค์ลงนอน [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]เหนือขอนเขนยเกยเศียร[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ค่ำเช้าเอากราดกวาดเตียน เหนื่อยยากพากเพียร [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]เรียนธรรมบำเพ็งเคร่งครัน[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]สำเร็จเสร็จได้ไปสวรรค์ เสวยศุขทุกวัน [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]นานนับกัปกัลป์พุทธันดร[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]กุมราการุญสุนทร ไว้หวังสั่งสอน [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]เด็กอ่อนอันเยาว์เล่าเรียน[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ก ข ก กา ว่าเวียน หนูน้อยค่อยเพียร [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]อ่านเขียนผสมกมเกย[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]ระวังตัวกลัวครูหนูเอ๋ย ไม้เรียวเจียวเหวย [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]กูเคยเข็ดหลาบขวาบเขวียว[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]หันหวดปวดแสบแปลบเสียว หยิกซ้ำซ้ำเขียว [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]อย่าเที่ยวเล่นหลงจงจำ[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]บอกไว้ให้ทราบบาปกรรม เรียงเรียบเทียบทำ [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]แนะนำให้เจ้าเอาบุญ[/FONT]
    [FONT=DSU_MonTaNa]เดชะพระมหาการุญ ใครเห็นเป็นคุณ [/FONT][FONT=DSU_MonTaNa]แบ่งบุญให้เราเจ้าเอยฯ[/FONT]

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 เมษายน 2009

แชร์หน้านี้

Loading...