เรื่องเล่า ก่อนนอนคืนนี้..ของเหล่าคนผู้มีตาทิพย์

เฉลย คนนี้ ไม่ใช่ อ.ณรงค์ฤทธิ์ แน่นอน .... 55
แต่คุณมังกร พูด มา มี เค้า ...... อยู่ นะ


ถ้า ใช่ ดาวทะเลทราย ดังระเบิด เถิดเทิง เป็นแน่
คงมีเรื่อง .... มาเล่า กัน ยาว เป็นปี ..................แหง ... แหง....

อ.ณรงค์ฤทธิ์ ตายไป หลายปี แล้ว ครับ ................ หุ หุ
แต่ เค้า เป็นเพื่อนสนิท กัน ครับ

เพื่อนผมคนนี้ เค้า ไปเป็นศิษย์ที่สำนัก ตั้งแต่ ปี 19 จนถึง ปี25
หลัง คุณพ่อ มรณะ ก็ไม่ค่อยได้ไปแล้ว
รู้สึกว่า จะไป เรียนกับ พ.อ.ชม อยู่ นาน อีกหลายปี เหมือนกัน
ได้มาหลายวิชา

ตอนไปที่วัดปราโมทย์ หลังจากดู การทดลอง น้ำกรด แล้ว
ตอนยืนคุยกันอยู่ มี สุภาพสตี กลุ่มหนึ่ง ที่มาวัดกันประจำ เชียร์ ให้ ผมและเพือนๆ ทดลอง บ้าง พวกเรา ก็ เฉย ... เค้า ยังพูด ซุบซิบกัน
พอให้ได้ยิน .... พวกผู้ชาย มัก ใจไม่กล้า เท่าไหร่ ไม่เหมือน ผู้หญิง

..................... โห... ........... พูด งี้ ได้ ไง .....

ลูก ผู้ชาย อก สองศอก อย่างเรา จะยอมได้ไง ( 1 ศอก = 20 นิ้ว , 50 ซ.ม. )

เราสามคน มองหน้ากัน แล้วยิ้ม ๆ ..... เฉย ไว้
อีกใจ ก็ อยากจะแกล้ง เดิน ไป หยิบเศษผ้า ที่โดนน้ำกรด ขึ้น มา พิจรณา ดู เอามา เช็ดไม้ เช็ดมือ สักหน่อย
( แกล้ง โง่ แหละ ) อย่า ดีกว่า น่า

เพราะ พวก เรา ก่อนไป ได้ตกลงกันไว้ ก่อนแล้ว
ไป เพื่อดู ว่า มีคนอื่น เขาก็ทำกันได้ จริงๆ เหมือนกัน


เรื่องทดลอง น้ำกรด นี้ ยังมี อีก สองสามแห่ง ทางภาคใต้
แถว ชุมพร สุราษฏร์

ใครสนใจ ลองตามไป ดู ครับ
ร่วมทำบุญ เช่าบูชา พระ กลับมา บ้าน ก็ได้บุญ
แถม ได้พระดี ป้องกันได้จริง ครับ

 

ช่วงนี้ฝนตกทุกวัน..มัวร์แต่วิ่งหนีฝน..และ เวบถูกตัด เพราะค้าง ค่าใช้ของ ทรู นานเกิน สอง เดือน...ต้อง วิ่งหาเงินไป ต่อ..จึงจะเล่น ต่อได้...เอดูไปดูมา
เราปกติหรือ เปล่า..มาเสียเงิน ค่า เวบ.หลายตังค์.แต่ไม่ได้ เงิน...สงสัยๆๆ
แถมถูกด่า อีกด้วย ว่า มาล้าง สมอง คน...สงสัยจะเขียนอีกไม่ได้ นาน
คนอ่านได้ ครบ 100,000 คลิ๊ก ก็คงจะเลิกพอดี...................
.............................................................


เรื่องเล่าก่อนนอนคืนนี้ ตอน ทัวร์วัด (ต่อ)
.......................................................
หลวงพ่อ เงื้อ กะทะจานแบน แบบมีด้าม ยาวสีดำ
เป็นชนิดมือสอง..คือใช้แล้ว..มีรอยเขม่า ดำ ติด ที่ก้น
มายืนตรงหน้า สามตา ทางซ้ายสุดเป็นคนแรก
ตีลงมาตรงๆๆบนหัว กลางกระหม่อม..
แบบที่ ตัวตลกเขาเล่น..ตามจังหวะที่ มือ กลอง คอย จังหวะอยู่
..................................................................
หลวงตาตีลงมาแรงตามปกติ
แต่เป็นการตี..ในอีกมิติ
และคนที่ถูกตี ก็จะถูกตีที่กายทิพย์..ไม่ใช่กายหยาบ
จึงมีแค่ อาการวูบวาบ แบบ มีลมเย็น พัดวูบมาปะทะหัว
ท่าตีลงมาเพียง ครั้งเดียว
..........................................................
พอตีเสร็จ ก็เดินลอยไป ทางขวา..ยืนตรงหน้า คุณ จิระศักดิ์
เอากะทะ..ตี ลงมาบนหัวเช่นกัน..เพียง 1 ครั้ง
เห็น จิระศักดิ์ สะดุ้ง เบาๆๆ เวลาถูกตี
แสดงว่า.มีจิตไว พอที่จะสัมผัส พลัง ของ การถูกกระทบได้
.............................................................
พอเสร็จ หลวงพ่อ ก็ขยับเดินไป ทางขวา
ไปยืนตรงหน้า คุณ จักรพล..ที่นั่งก้มหน้า
รอรับการตีอย่างเตรียมพร้อม
หลวงพ่อ ท่านก็ ยก กะทะ ตี ลงบนหัว
สามครั้งติดกันซ้อนๆๆ...ผ่าง...ผ่าง...ผ่าง
เอ๋!!!ทำไม ต้องตี..สามที ????..........
..............................................

 

พอตีครบสามคน..หลวงปู่ก็เดินกลับมาที่ ตาที่ สาม
มีเสียงบอกมาทางจิต ว่า..."แบมือ..เราก็แบมือ
หลวงพ่อทำท่ายิ้มๆๆ..ลดกะทะลงมา ในระดับ สายตา
ที่เราพอจะเห็นว่า มีอะไร อยู่ในกะทะ
........................................................
ว้าว..ว้าว..ว้าว..เห็นปกธนบัตรใบละ 1000.-บาท
วางอยู่ในกะทะ สอง ปึกหนาๆๆ ประมาณ 2 นิ้ว
จากการคาดเดา น่า จะมีวงเงิน ระหว่าง สี่หมื่น ถึง หก หมื่นบาท
เอ หลวงปู่ท่าจะให้ลาภลอย มา ประมาณ สี่หมื่น ถึง หกหมื่นบาท
ถ้าได้ ก็จะดี..จะได้ เอาไป คืน ดอกเบี้ยแขก ร้อย ละ ยี่สิบต่อเดือน ซะที
...................................................................
พอเห็นฟ่อนเงินแวบๆๆ..หลวงพ่อ ก็เท ปึกเงินลงมาในมือ เราทันที
เป็นเงิน ในอีกมิติหนึ่ง....
มิติในโลกแห่ง ความเป็น จริง คงจะตามมาภายหลัง
ก็ต้อง รอกันต่อไป...อย่างน้อยก็ได้เป็นสัญญาณที่ดี
..........................................................
เทเงินให้ สามตาเสร็จ ก็เดินไป ตรงหน้า คุณ จิระศักดิ์
ท่านคงจะบอกให้เขาแบมือ...เขาก็แบรอ เช่นกัน
เราก็แอบดูว่า ..ในกะทะที่กำลัง จะเท..มีอะไร
ว้าว...ว้าว...ว้าว. สร้อยคอทองคำหนักสามบาท 5 เส้น
เงาทองคำวูบวาบ...ทองคำ หนักรวม 15 บาท
ทองตอนนี้ บาทละเกือบ หมื่นห้า พันบาท
ทองสิบห้า บาท..ราคาเท่าไหร่ ล่ะ..
สองแสนสองหมื่นห้า พันบาท...มากกว่า เรา กว่า สี่ เท่า...
ที่มากกว่า เพราะ แรงบุญ เขามากกว่า
แรงบุญ ที่ ว่า คือ อริยทรัพย์ ที่ได้ สะสมไว้นั่นเอง
.............................................................
(มีต่อ)

 

ไหน ๆ ก็หลงเข้ามาถามผิดกระทู้ จะทำไม่สนใจ ทำมองไม่เห็น ก็ดูกระไร

เอาอย่างนี้ครับ คุณ MR.Bean...หากอาจารย์ไม่ตอบ นั่นหมายความว่า

คุณจะต้องฝึกนั่งสมาธิ ต่อไปครับ ถนัดแบบไหน อย่างไร ต้องหมั่นทำ

ถึงแม้ไม่สามารถเปิดตาได้ แต่คุณประโยชน์ จากการนั่งสมาธิ มีมากกว่าที่คิดครับ

คนอื่น ๆ ที่อยู่ในกระทู้ แม้กระทั่งอาจารย์ ก็เริ่มต้นมาแบบนี้

ตัวคุณเอง ก็ต้อง.....อ่ะนะ

 

คำถามประเภท ว่า ..จะเปิดตาที่สามได้ หรือยัง...จะเปิดได้ไหม..กำลังเท่าใด
จะต้องทำอย่างไร....ในเวบนี้มีอยู่สองกระทู้ ที่ อธิบายไว้ เกี่ยวกับการเปิดตาที่สาม
แต่คนไม่ยอมอ่าน...ถ้าอ่านจะเช้าใจ...มักจะจะเอาง่ายๆๆ..ถามมาเลย
เหมือนคนชอบลัดคิว...แซงคิว
................................................................................งงง
ผมจะไม่ตอบ คำถามเหล่านี้
ถ้าตอบไป หนึ่งคน
เดี๋ยวอีกนับไม่ถ้วนก็จะมีแต่คนบอกชื่อ แล้ว ถามมา
ว่า เปิดได้ ใหม
.............................................................
เดี๋ยวกระทู้นี้ ก็จะกลายเป็น มีแต่คนถามแต่เรื่องเดียวกัน ยาวเหยียด
เป็นร้อยๆๆคน
ที่ห้อง พีเอ็ม..ผมมีจดหมายถามมา แล้ว ไม่ได้ ตอบ ไป 212 ฉบับแล้ว
ไม่มีเวลาตอบ ครับ...ต้องอ่านเอง ในกระทู้ เกี่ยวกับตาที่สามที่ เปิดไว้
.............................................................................

 

การมาขององค์พระศรีอริยเมตไตร..ว่า เมื่อใด
คำตอบของคำถามนั้นไม่ยาก
ศานาพุทธ ตามพุทธทำนาย คือ จะอยู่ คู่กับโลก 5000ปี
แบ่งคนละครึ่ง ระหว่าง องค์สมณพุทธโคดม กับ พระศรีอริยเมตไตร
คือ ยุค 2500ปี ของ องค์พุทธโคดม ผ่านไป แล้ว
.........................................................................
ยุคของ องค์พุทธโคดม เกิด เมื่อ พระองค์ได้ มาประสูติ/ตรัสรู้/นิพพาน
แล้ว หลังจากนิพพาน จึงเริ่มนับ พศ. เป็น 1...
แล้วก็ผ่านมาจนถึง กว่า พศ 2500
.........................................................................
ดังนั้นในทางตรรกะ..ตั้งแต่ พศ กว่า 2500 มา..
จึงเป็นยุคของ พระศรีอริยเมตไตร
องค์พระศรีอริยเมตไตร..จึงต้องอุบัติ..ตั้งแต่ต้น นับ 1
ในทำนองเดียวกับ การประสูติ ของ องค์ สมณโคดม
ดังนั้นใน ตรรก เดียวกัน..องค์พระศรีอริยเมตไตร..
น่า จะมาเกิดแล้ว ในประเทศไทย
............................................................
ก่อนการปรากฏตัว ของ องค์พระศรีอาริย์
จะมีส่วนหน้า ที่ จะ มาดำเนินการก่อน
เพราะในปลายยุค ของ สมณโคดม..ที่ผ่านมากว่า 2500 ปี
ศาสนาและแผ่นดิน ตกต่ำมาก..
เพราะ เวลาผ่านไป..ทุกอย่างเพี้ยนไป ตามกิเลสของ คน
............................................................
ส่วนหน้ามีหน้าที่ ยกแผ่นดินให้สูง ขึ้น จากเดิมในระดับหนึ่ง
ทั้งทางด้านจิตใจ และคุณธรรม
เป็นงานที่หนักและยิ่งใหญ่
จะค่อยไล่ปรับยก ระดับ..ไปทีละภูมิภาค ของประเทศไทย
คงจะต้องใช้เวลาอีกนานนับเดือน กว่า จะปรับได้หมด.
..........................................................
เมื่อได้ระดับแล้ว องค์พระศรีอริยเมตไตร..จะปรากฏตัว ท่ามกลาง การกวาดล้าง
ผู้คนบาป และ ภัยธรรมชาติที่รุนแรง..หรือ ที่เรียกว่า ทำความสะอาดแผ่นดิน
หลังการกวาดล้าง..แผ่นดิน จะมีแต่ความสุข..เพราะผู้คนที่ รอดมาได้
จะเชื่อมั่นในกฏแห่งกรรม ที่ได้ เห็น อย่าง ชัดเจนด้วยตาตัวเอง

 

ว้า...ผิดซ่ะแร่ะ..แต่เอ้..ลืมไป อ. เป็นอัศวินมาตั้งนานแล้วนี่เนอะ..

 

ถาม the thrid eyes

หลวงพ่อใช้กะทะตีคุณจักรพลมากกว่าใครเพื่อน

แสดงว่า ในกะทะที่หลวงพ่อให้คุณจักรพล น่าจะมีอะไรที่โดดเด่นกว่า the third eyes และคุณจีรศักดิ์หรือเปล่าคะ??

รออ่านคำตอบ

 

คำถามว่า ที่ถูกตีมากกว่า..จะได้อะไร พิเศษ มากกว่า ปกติใช่ใหม
ขอขยายความว่า...การที่ได้มากกว่า..สำหรับผู้ทรงจิต
หมายความว่า..ในชีวิตประจำวัน และในอนาคต...
เขาผู้นั้นมีความจำเป็น ที่ จะต้องการการบริโภค ทรัพย์ มากว่า
ปกติ..เพื่อการดำรงอยู่

 

เรื่องเล่าก่อนนอนคืนนี้ ตอนทัวร์วัด (ต่อ)
......................................................
หลวงพ่อ หันมาทางคนสุดท้าย ที่ ตีหัวไป สามผ่าง
เงื้อไว้ในมือ..แอบเหลือบมามอง ..ก็เห็น
มณีแดง/เขียวใสแสงมรกต/เหลืองใสสด..บุษราคำ
แดงแก่ก่ำ โกเมนเอก/สีหมอกเมฆนิลกาฬ/มุกดาหาร หมอกมัว
เต็มถาด เดามูลค่าไม่ถูก...น่าจะเกิน ถาดละ แสนบาท
................................................................
จักรพล แบมือ เตรียม พร้อม..หลวงปู่ก็ เทลงในมือ ทีละถาด
ครบสามถาด..มูลค่า ก็มากกว่า สามแสน บาท ..มากกว่า เพื่อน
แปลว่า..ในอนาคตอันใกล้..เขาจะต้องใช้เงินจำนวนนี้ ในการจัดการกับตนเอง
ให้หลุดพ้นภาระ บางส่วน..เพื่อให้จิตจะได้ว่างขึ้น
.................................................................................
เมื่อ จิต ว่าง..ไม่มีภาระ....พลังจิต จะทวีคูณ เพื่อจะได้มีกำลังช่วยผู้อื่น ต่อไป
คาดว่า ทั้งหมดที่ได้ รับ ของมีค่าจากถาดในมิติทิพย์
และจะต้องได้ มาจริงๆๆในมิติที่เป็นจริง ในลำดับต่อมา
สาธุ...สาธุ....สาธุ
...................................................................................

 

ขับรถออกมาจากวัด...ก็มุ่งสู่ ดอนหอยหลอด..เป้าหมายสุดท้าย
ถนนดี..ทางโล่ง..จึงใช้เวลาไม่นาน..ก็มาถึงดอนหอยหลอด
พอมาถึงก็แยกเข้า ทางสายเก่า..ที่เมื่อมาจาก กทม. ..ก็จะมาถึงก่อน
ถนนทางเข้าสายเก่า..ไม่ค่อยดี นัก..เพราะ ขาดการบำรุงรักษาที่ดี
แต่ระยะทางค่อนข้างสั้น...นั่งรถส่ายไปมา.เล็กน้อย ตามสภาพถนน
ไม่นานนัก...ก็มาถึง ดอนหอยหลอด
..........................................................................
ขับมาจนสุดริม หาดทะเล ด้านขวา
ก็มองเห็นอาคารศาลใหญ่..ตั้งอยู่เบื้องหน้า
มีรถผู้คน มาจอด มากกว่า ครึ่งของ ลานกว้างที่ มีอยู่
เป็นอาคารที่ ยกพื้นสูงมาก..สูงจากพื้นดินโดยรอบ มากกว่า 1 เมตร
มีบันไดหลายขั้น ..เอาเรื่องอยู่..ที่ต้องยกสูง เพราะ อยู่ใกล้ทะเล
วันได มีพายุมา..คลื่นอาจจะสูง ขึ้นมา สาดท่วมได้
....................................................................
เราจอดรถที่ มุมที่หลบแดด..ออกจารกรถ ทั้ง สาม คน
มุ่งสู่บันได..ค่อยๆๆไต่ขึ้นไป..เพราะสังขารแต่ละคน..ล่วงไปแยะแล้ว
โผล่เข้าไป..พบว่า เป็น ห้อง กว้าง ขวาง พอสมควร
ทางขวา เป็น โต๊ะ/ตู้ จำหน่าย วัตถุมงคล และ ธูปเทียนสำหรับ สักการะ
........................................................................
ทางซ้าย มี รูปปั้น ของ สมเด็จเตี่ย หรือ กรมหลวงชุมพร เขตอุคมศักดิ์
เกจิอาจารย์ ผู้เรืองฤทธิ์..ของ เหล่า ทหารเรือ ราชนาวีไทย
มีขนาดสูงเท่าองค์ จริง..ทรงประทับยืน สงบ..
รอการมากราบไหว้ของผู้ที่ ศรัทรา หรือ ผู้ที่เคยเกิดในยุคท่าน
.....................................................................
เจ้าหน้า ที่ เฝ้าดูแล..ขยับถุญแจพวงใหญ่ในมือ
แปลว่า..จะปิด ศาลแล้ว..กลุ่มเราน่าจะเป็น ชุดสุดท้าย
เราก็รีบเดินไป..ยืนที่เบื้องหน้า ของ พระองค์
ทำสมาธิในท่ายืน..เพื่อ น้อมจิต..ระลึกถึง
........................................................
จิตพระวิญญาณ เสด็จมา..มีพลัง ค่อน ข้างแรง และร้อน
อันเป็น สัญญลักษณ์ ของ พระองค์..ที่เมื่อสัมผัสก็รู้ว่า ..ใช่
ทุกคน ตัวสั่นเบาๆๆ..แบบสอื้นในหัวอก..ด้วยแรงปิติโสมนัส
จักรพล..มีอาการมากหน่อย ..เพราะ ในอดีตชาติ เคย อยู่รับใช้ พระองค์
อย่างใกล้ชิดที่ สุด...เรียก ได้ ว่า ..หน้า ห้อง บรรทม เลย
นายเก่า ..คนใหม่ มาเจอกัน..จำกันได้..จิตก็ประหวัดแบบชิดๆๆ
.......................................................................
(มีต่อ)

 

เรียน the third eyes

ถ้าดิฉันได้พบหลวงพ่อวัด โกรกกราก สงสัยคงโดนตีมากกว่านั้นแน่

ผ่างๆ......ๆ

โอ้ย!!

the third eyes ว่าอย่างนั้นไหมคะ??

 

เสาร์ นี้ มี เวลา น่าจะไป เที่ยว วัดโกรกกราก ดูบ้าง ....
อันที่จริง บ้านผม ไป สมุทรสงคราม สมุทรสาคร ก็ไม่ ไกล
กำลัง จัดโปรแกม ไป อีกวัด หนึ่ง อยู่ในแม่กลองเหมือน กัน ชื่อวัดบางแค
ที่นี่ มี ของดี ขึ้นชื่อ เป็นเบี้ยแก้ มาตั้งแต่สมัยโบราณ ยุคหลวงพ่อไพร
จนมา ในปัจจุบัน หลวงพ่อยง ซึ้งเป็นลูกศิษย์ ท่าน ก็ยังทำอยู่
รายละเอียด อย่างไร ไปมาแล้ว จะมาเล่าต่อ ครับ

 

คุณ อฐิษฐาน.ถ้าไปวัดโกรกกราก..แน่ใจเลยว่า จะโดนเอากะทะ ตีก้น อย่างน้อย สี่ ฉาด..ฐานรู้มากเกิน
.................................................................................................
พอคุณ ดาวทะเลทรายบอกชื่อวัดมา ..วัดบางแค...พลังมาเลย..ค่อนข้างแรง ..เน้นคุณไสยเป็นหลัก..ไล่ลมพัดลมเพ/ป้องกันการทำเสน่หฺได้ ดี

 

เรื่องเล่าก่อนนอนคืนนี้ ตอนทัวร์วัด (ต่อ)
.....................................................
ยืนนิ่งทำสมาธิ และทำสติ อยู่หน้า เสด็จกรมหลวงฯ อยู่ครู่ใหญ่
ก็รีบ เดินออกมา..เพราะ เจ้าหน้าที่ ทำท่าจะไล่..คล้องกุญแจ ปิดประตูแล้ว
เราก็กลับออกมาทางประตูหน้า.ก้าว ขาข้ามออกไป หนึ่งก้าว
ก็มีเสียงในจิต ไล่ ตามมา..."เฮ่ย อย่าเพิ่งไป "...เสียงมาจากโสต
เสด็จ เตี่ย....สั่งมา
.........................................................................
เราก็รีบกลับเข้าไปยืนตรงหน้า พระองค์ ท่านเรียงสามเหมือนเดิม
.".พวกเรา..ชาติทหารเรือ...ร้องเพลงให้กูฟัง สักเพลง ซิ.."
"..เอาเพลงที่กู ชอบ..นะ" ...สุรเสียง สั่งแว่วมา
......................................................................
จักรพล..ทหารเรือ อดีตต้นห้องเก่า..ก็เริ่มต้น ร้อง เสียงดัง
.." หะเบส สมอพลัน.........
........................................................
.......................................................
ลัดไปเกาะสีชัง จนกระทั่ง กระโจมไฟ
..เที่ยวหา ข้าศึก..มิได้ นึก จะกลับมาใน.....
................................................
................................................
ร้องไป..เสียงแหบ แบบร้องไห้ ไปด้วย
ลากจนจบจนได้
...................................................
พอจบ..พระองค์ ท่าน ก็ ทรง เอาดาบ ขึ้น แตะบ่า ของ จักรพล
แล้วยกดาบกลับไป..ชูดาบขึ้นสุง
ยกพระหัตถ์ซ้าย ขึ้น.ชูดัชนีนิ้วซ้ายขึ้น
เอาปลายดาบ สกิด ที่ปลายนิ้ว...ให้พระโลหิตไหลออกมา
................................................................ง
ยกพระดัชนีซ้ายที่มีหยดพระโลหิตไหล ออก
มาแตะที่หว่างคิ้ว ของ จักรพล..
ขยี้หมุนเป็นวง ณ จุด ที่เรียกว่า จักรที่ หก หรือ ตาที่สาม
หมุน อยู่ สามสี่รอบ
.............................................................
นี่คือ พิธีการอันศักดิ์สิทธิ์ ยิ่ง ..ที่ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
ได้ ทรงโปรด ทำพิธี เปิด ตาที่สาม และเพิ่ม พลัง แห่ง จิตสัมผัส
ให้แก่ ข้า เก่า ที่ในอดีตชาติ..ได้ เคย รับ ใช้พระองค์มาตลอด
แม้กระทั่งปัจจุบัน...อันเป็น ยอดปราถนา ที่เจ้าตัว อยากได้ มานานแล้ว
ก็ได้ สมหวังในวันนี้
...........................................................................
การเปิดตาที่สาม หรือ มีตาทิพย์ จิตทิพย์
จะเปลี่ยน วิถีชีวิต ของ ตนอย่างมาก
จะต้อง กระทำตนให้เป็นประโยชน์ แก่ ประเทศ ชาติ
และผู้อื่น มากขึ้น...ภาระ ในการกู้ชาติ..
ได้ เริ่มต้น ขึ้นแล้ว ตั้งแต่บัดนั้น
หวังว่า ความสำเร็จ..ตามเป้าหมาย
จะเป็นไปเช่นนั้น..เพื่อ สยาม ของ เรา
..................................................

 

เรื่องเล่าก่อนอนคืนนี้ ทัวร์ วัด (ต่อ
ตอนวัด คุ้งท่าเลา
.............................................
ก่อนหน้านี้ ประมาณ สอง สัปดาห์...ได้ รับสัมผัสจากการสำรวจวัด
เพื่อจะดูว่า..ต่อไป ถ้าจะไปเที่ยววัด..ควรจะเป็นวัดใด
พลันมีเสียงและพลัง เรียกมาจาก วัดที่ไกล จาก กทม. แห่งหนึ่ง
เราจึงได้ ตรวจสอบ ทางจิตและทางสัมผัส..พบว่ามาจากวัด"วัดคุ้งท่าเลา"
...............................................................................
ตรวจสอบจากแผนที่..พบว่าอยู่ถนนเส้นที่ผ่านวัดไลย์ ตลาดท่าโขลง
มุ่งไปยัง บ้านหมี่ จ.ลพบุรี...ห่างจากกทม ประมาณ 200 กม.เศษ
........................................................................
เสียงเรียกนั้น มีพลังที่คม และแรงมาก..จนต้องตั้งใจว่าจะต้องไปให้ได้
จนเมื่อ วันที่ 20 พค. 2552..ช่วงบ่ายสามโมง..ไม่มีคนมาให้ตรวจออร่า
เราสี่คน จักรพล โชเฟอร์มือ เก่า/จิระศักดิ์ ผู้ไม่เคยพลาดรายการเที่ยววัด/
วิโรจน์ ผู้มักจะโชคดี ได้ ติดสอยห้อยตามไปด้วยบางโอกาส
และ ข้าพเจ้า....สามตา..รวมเป็นสี่สหายเสี่ยงตายเข้าวัด
................................................................................
ออกเดินทางมาได้ ประมาณ ชั่วโมงเศษ...
เราก็มาถึงทางแยก เข้า อ.บ้านหมี่..บนถนน สิงห์บุรี-ลพบุรี
ต่อจากนี้ไป..ก็ต้อง อาศัยแผนที่ ทางหลวง..นำไป
ระยะทางจากทางแยก ประมาณ 20 กม. ที่ต้องขับรถผ่าน..
ในที่สุดเราก็มาถึงปากทางเข้าวัด..ตามเป้าหมาย
......................................................
เราช่วยกันมองหาทางแยก..เพราะ ด้านหน้าวัด มีแถบพงหญ้าบังอยู่
ในที่สุดก็เจอ..ก็เลี้ยวรถเข้าไป.อย่างค่อนข้างเร็ว
แต่ก็ต้องเบรครถอย่างกระทันหัน..ด้วยความตกใจ
ทำไม ประตูเข้าวัด เป็น เช่นนี้...
ทำไมประตูเข้าวัด...น่ากลัว สยดสยอง เช่นนี้
แล้วเรา..เรา..เรา..เรา..จะเข้าไปได้ อย่างไร ???
.......................................................
(มีต่อ)

 

เพลงดอกประดู่




หะเบสสมอพลัน ออกสันดอนไป
ลัดไปเกาะสีชัง จนกระทั่งกระโจมไฟ
เที่ยวหาข้าศึก มิได้นึกจะกลับมาใน
ถึงตายตายไป ตายให้แก่ชาติของเรา

พวกเราจงดู รู้เจ็บแล้วต้องจำ
ลับดาบไว้พลาง ช้างบนยอดกาฟฟ์จะนำ
สยามเป็นชาติของเรา ธงยอดเสาชักขึ้นทุกลำ
ถึงเรือจะจมในน้ำ ธงไม่ต่ำลงมา

เกิดมาเป็นไทย ใจร่วมกันแหละดี
รักเหมือนพี่เหมือนน้อง ช่วยกันป้องปฐพี
สยามเป็นชาติของเรา อย่าให้เขามาย่ำมายี
ถึงตายตายดี ตายในหน้าที่ของเรา

พวกเราทุกลำ จำเช่นดอกประดู่
วันไหนวันดี บานคลี่พร้อมอยู่
วันไหนร่วงโรย ดอกโปรยตกพรู
ทหารเรือเราจงดู ตายเป็นหมู่เพื่อชาติไทย


เพลง ดอกประดู่
หรือเพลง "หะเบสสมอพลัน"
เป็นบทเพลงพระนิพนธ์ใน พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์
เดิมเรียกชื่อว่า "Coming Thro' the Rye" ตามชื่อทำนองเพลงเดิมในภาษาอังกฤษ
(เพลงนี้เป็นเพลงสก็อต เข้าใจกันว่าดัดแปลงทำนองมาจากเพลง Auld Lang Syne อีกทีหนึ่ง)

ทรงศึกษาในโรงเรียนนายเรืออังกฤษ ในปี พ.ศ. 2439
ต่อจากนั้นทรงศึกษาต่อ ในมหาวิทยาลัยทหารเรือ
โรงเรียนปืนใหญ่ และโรงเรียนตอร์ปิโด
จนได้เลื่อนยศเป็นเรือเอก
รวมเวลาที่ทรงศึกษาอยู่ในราชนาวีอังกฤษ 6 ปีเศษ
ทรงเสด็จกลับประเทศไทย ในวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2443


แรงบันดาลใจสำคัญในการทรงนิพนธ์เพลงนี้คือเหตุการณ์วิกฤตการณ์ปากน้ำ ร.ศ.112 (พ.ศ. 2436)

สงครามที่ ปัจจุบัน ได้ถูกลืม
ทำให้ประเทศไทย ต้องสูญเสียดินแดน ลาว,เขมร ลงมาจนถึงแหลมงอบ จ.ตราด ในทุกวันนี้
ซึ่งเป็นที่จดจำกันได้ดีทุกคนสำหรับคนไทยในยุคนั้น

ทำให้พระองค์ ทรงเสีย พระทัย อย่างยิ่ง
จนได้ สัก คำว่า ร.ศ.112 ไว้ ที่ หัวไหล่ ของพระองค์
เพื่อเตือนความทรงจำ

สันนิษฐานว่าทรงนิพนธ์เพลงดอกประดู่เมื่อ พ.ศ. 2448
เพลงนี้ถือเป็นเพลงสัญลักษณ์ของกองทัพเรือไทยที่คนไทยรู้จักกันดี และเป็นที่มาของการเปรียบเทียบตนเองของทหารเรือไทยว่า เป็น "ลูกประดู่" มาจนถึงทุกวันนี้


เพลงนี้ ได้ยิน ทีไร ให้ใจฮึกเหิม
แต่ ก็ระคน กับความ เคร้า ในใจ ลึกๆ


" วันไหนร่วงโรย ดอกโปรยตกพรู "
" ทหารเรือเราจงดู ตายเป็นหมู่เพื่อชาติไทย "

..............วันทยาวุธ.............

 

บันทึก
ของ
เสด็จในกรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์​

​

<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o> ​

เจอบันทึกนี้ ให้เอาคำต่อไปนี้ของกูไปประกาศให้คนรับรู้ว่า
กู กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
ผู้เป็นโอรสของพระปิยะมหาราช
ขอประกาศให้พวกมึงรับรู้ไว้ว่า
แผ่นดินสยามนี้ บรรพบุรุษได้เอาเนื้อเอาชีวิตเข้าแลกไว้
ไอ้อีผู้ใดมัน คิดบังอาจทำลายแผ่นดิน
ทำลายชาติ ทำลายศาสนา พระมหากษัตริย์
ฤากระทำการทุจริต ก่อให้เกิดความเดือนร้อนต่อส่วนรวม
จงหยุดคิดการกระทำนั้นเสียโดยเร็ว
ก่อนที่กูจะสั่งทหารผลาญสิ้นทั้งโคตรให้หมดเสนียดของแผ่นดินสยาม
อันเป็นที่รักของกู ตราบใดที่คำว่าอาภากร
ยังยืนหยัดอยู่ในโลก กูจะรักษาแผ่นดินสยามของกู
ลูกหลานทั้งหลาย
แผ่นดินใดให้กำเนิดเรามา แผ่นดินใดให้ที่ซุกหัวนอน
ให้ความร่มเย็นเป็นสุข มิให้อนาทรร้อนใจ
จงซื่อสัตย์ต่อแผ่นดินนั้น<o></o>​

 

ขอบคุณค่ะพี่ดาวทะเลทราย ชอบมากเลยค่ะ เพลงดอกประดู่
ตอนเด็กๆไม่รู้ว่าชื่อเพลงอะไร เวลาร้อง ฮึกเหิมปลุกใจ แต่ก็
ทำให้น้ำตาซึมเหมือนกัน

ความใฝ่ฝันตอนเด็กๆอยาก เป็นทหารเรือเจ้าค่ะ ชอบผืนฟ้ากับ
ท้องทะเลเขียวๆ ชุดกะลาสีเรือก็น่าร้ากกก
เจ้าตัวเล็กได้ฟัง ให้พิมพ์เนื้อเพลง เลยได้ฟังเสียงแจ้วๆหลายรอบ

แล้วก็มีคำถามว่า "หะเบส" หมายถึงอะไร ไอ้เราก็ไม่ใช่ทหารเรือ
ค้นได้ความว่า "หะเบส" หมายถึง ดึง หรือ ลาก
"หะเบสสมอ" ก็จะหมายถึงการถอนสมอนั่นเองค่ะ
ใครที่เคยฟังเคยร้อง ลองเปิดฟังอีกซักทีนะคะ นานแค่ไหน ก็ยังไพเราะ

<object width="300" height="110">

<embed src="http://media.imeem.com/m/t9PqNAYSYq/aus=false/" type="application/x-shockwave-flash" wmode="transparent" width="300" height="110"></object>
<form method="post" action="http://www.imeem.com/embedsearch/" style="margin: 0pt; padding: 0pt;"><input name="EmbedSearchBox" type="text"><input value="Search" style="font-size: 12px;" type="submit">
</form>


เพลงดอกประดู่.mp3 -

 

อนุโมทนากับคุณดาวทะเลทรายค่ะ

กำลังนึกถึงเพลงเต็มๆ ของเพลงดอกประดู่ คุณก็เขียนต่อมาได้อรรถรส แถมประวัตเพลงอีกต่างหาก ซาบซึ้งอรรถรสของเพลง ตรึงใจเหมือนคนกลั้นน้ำตาที่ไหลไปจุกอก

และที่มากกว่านั้นคือ บันทึกของเสด็จในกรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์ รู้สึกเหมือนน้ำตาจะซึมและอึ้งในอก รู้สึกว่าเป็นคำกล่าวที่เต็มไปด้วยพลังกึกก้อง และวาจาศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง

************************

เรียน The third eyes

อาจารย์ไม่สงสารก้นนวลๆ ของดิฉันเลยหรือคะ??

ส่งพลังมาตี ผ่างงงงงง!

ก้นนวลกลมของดิฉันแดงไปหมดแล้ว

ทาบัวหิมะแล้วจะหายไหมเนี่ย?

อาจารย์คะ บัวหิมะจะช่วยบรรเทาอาการที่ก้นได้หรือเปล่า??