ผู้โกรธเท่านั้นที่เป็นทุกข์

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย Lukhgai, 19 พฤษภาคม 2009.

  1. Lukhgai

    Lukhgai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    3,000
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +8,239
    [​IMG]

    สาเหตุที่แท้จริงอยู่ที่การปรุงของใจ

    มิใช่อยู่ที่อะไรอื่น จะโลภก็เพราะใจปรุงให้โลภ จะโกรธก็เพราะใจปรุงให้โกรธ จะหลงก็เพราะใจปรุงให้หลง หรือจะสุขก็เพราะใจปรุงให้สุข จะทุกข์ก็เพราะใจปรุงให้ทุกข์

    ดังนั้นสิ่งที่ควรระมัดระวังที่สุด คือ การปรุงของใจตนเองนี้แหละมิใช่การกระทำของคนอื่น คนอื่นจะทำอะไรอย่างไร ถ้าเราระวังการปรุงของใจของเราเองให้ถูกต้องแล้ว ความทุกข์ของเราจะไม่เกิด เพราะการกระทำของเขาเลย…

    เมื่อพิจารณามาถึงตรงนี้ คือตรงผู้โกรธเท่านั้นที่เป็นทุกข์
    พิจารณาจนเห็นจริงว่า ผู้โกรธเท่านั้นที่เป็นทุกข์จริงๆ ซึ่งจะต้องเห็น
    แม้จะเห็นเพียงครู่ยามแล้วลืมก็จะต้องเห็น
    เพราะตนเองเป็นทุกข์อยู่เพราะความโกรธจริงๆ

    เมื่อเห็นแล้วว่าผู้โกรธเท่านั้นที่เป็นทุกข์ ให้พิจารณาย้อนไปอีกว่าความโกรธเกิดเพราะความปรุงเช่นใด ก็จะเห็นว่าตนได้คิดปรุงไปเช่นใด เมื่อจะแก้ไม่ให้เกิดความโกรธ ก็จะ ต้องไม่คิดปรุงเช่นนั้น จะต้องเปลี่ยนวิธีปรุงคิดเสียใหม่

    ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า ความปรุงของใจเป็นสิ่งสำคัญ ทำความรู้ความเข้าใจในเรื่องความปรุงของใจเสียก่อน ให้เห็นแน่ชัดเสียก่อนว่า ความโกรธหรือความไม่โกรธ ไม่ได้เกิดจากเสียงภายนอกมากระทบหู แต่ความโกรธหรือไม่โกรธ ชอบหรือไม่ชอบ เกิดจากความคิดปรุงแท้ๆ ความปรุงคิดของใจเรานี้แหละ ที่ทำให้เกิดความชอบไม่ชอบ ความโกรธหรือไม่โกรธ เมื่อความชอบหรือไม่ชอบ ความโกรธหรือไม่โกรธ

    เกิดขึ้นเพราะความปรุงคิด จึงมิได้เกิดเพราะบุคคลภายนอก แต่เกิดจากตัวเองเท่านั้น ตัวเองนี้แหละเป็นเหตุให้ชอบหรือไม่ชอบ โกรธหรือไม่โกรธ เวลาเกิดความไม่ชอบหรือความโกรธ จึงควรมีสติรู้ว่าตัวเองเป็นผู้ทำให้เกิด

    ไม่มีผู้อื่นมาทำ เมื่อใจไม่ส่งออกไปโทษผู้อื่นว่าเป็นเหตุ ใจรับความจริงว่าตนเองเป็นเหตุ ความโกรธก็จะลดน้อยถึงหยุดลงได้ สำคัญต้องมีสติรู้ว่า ความโลภ ความโกรธ ความหลง เกิดเพราะความปรุงในจิตใจของเราเอง มิได้เกิดเพราะบุคคลหรือวัตถุภายนอก

    นี่พูดถึงเมื่อความโกรธเกิดขึ้นแล้ว ให้ดับด้วยการมีสติรู้ความจริงว่าตนเป็นผู้ทำ แต่ถ้าพูดถึงการป้องกันมิให้ความโกรธเกิด จะต้องฝึกให้สติเกิดเร็วขึ้นอีก และดังกล่าวแล้วในตอนต้นๆ จะต้องฝึกให้เกิดเหตุผลและปัญญา รวมทั้งเมตตากรุณาด้วย การฝึกในเรื่องเหล่านี้จำเป็นต้องทำเมื่อความโกรธยังไม่เกิดขึ้นในจิตใจ หรือเมื่อเกิดแล้วแต่ดับแล้ว

    : ฝึกใจไม่ให้โกรธ
    : สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
    ที่มา http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic....f=7&t=22362
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 พฤษภาคม 2009
  2. Khunkik

    Khunkik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2006
    โพสต์:
    2,150
    ค่าพลัง:
    +18,072
    ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน เจตนากรรมสำเร็จได้ด้วยใจ
    [​IMG]

    โมทนาบุญค่ะ
     
  3. meeni04

    meeni04 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    297
    ค่าพลัง:
    +176
    ขอบคุณครับที่นำธรรมะดีๆมาฝากกันครับ ขออนุโมทนาสาธุครับ
     
  4. Lukhgai

    Lukhgai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    3,000
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +8,239
    อนุโมทนา ค่ะ

    ขอบคุณค่ะ ที่หารูปมาลง เราหาลงไม่เป็น pig_cryy2
     
  5. Francis_NY

    Francis_NY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +585
    ขอบคุณครับ
     
  6. Francis_NY

    Francis_NY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +585
    ขอบคุณครับ
     
  7. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    ค้นหาคำที่เกี่ยวข้องจาก Google ในส่วนของรูปภาพ
    กดไปที่มาของรูป เซฟลงเครื่อง หรือ Copy มาแปะก็ได้ครับ

    โมทนาครับ
     
  8. krisorn

    krisorn สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตเรามันจบไปตั้งนานแล้ว แต่ตัวเราต่างหาก ไม่ยอมจบ ไม่ยอมวาง....
    เขาแทงเราครั้งเดียว ตัวเราเองต่างหากที่เอามีดนั้นกลับมาแทงตัวเองให้เจ็บกว่าเดิม
     
  9. anusaya

    anusaya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +212
    ไม่โกรธ ไม่โกรธ ไม่โกรธเล้ย ฉันจะฆ่าแก
     
  10. Faithfully

    Faithfully เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    656
    ค่าพลัง:
    +2,459
    อุเบกขา จงวางเสียซึ่งกิเลส จะต้องทำให้ได้ค่ะ สาธุ
     
  11. j_image

    j_image Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +49
    อ่านแล้วทำให้นึกถึงบทโศลกของหลวงปู่พุทธอิสระ ไว้ว่า
    ลูกรัก.... วิธีรักษาใจ ก็อย่าทำอารมณ์ให้เป็นอะไร แล้วจะไม่มีอะไร
    ในอารมณ์ ในชั้นต้นคือ สำรวมระวังอินทรีย์ เช่น กำลังจะเตะใคร
    ก็ชักเท้ากลับมาก่อน กำลังจะด่าใครก็หุบปากลงก่อน กำลังจัก
    อิจฉาใคร ก็หยุดยั้งชั่งใจดูก่อน
    โมทนาสาธุครับ
     
  12. ปัทมินทร์

    ปัทมินทร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +1,393
    ขันธ์ 5
    1.รูปขันธ์ = ธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ , พฤติกรรม
    2.เวทนาขันธ์ = สุข ทุกข์ อุเบกขา
    3.สัญญาขันธ์ = ความจำ หมายรู้ในอารมณ์ทั้ง 6 คือ รูปสวยไม่สวย , รสเปรี้ยว หวาน , กลิ่นหอม เหม็น , เสียงดัง เบา , ร้อน หนาว , ดีใจ เสียใจ
    4.สังขารขันธ์ = การปรุงแต่งของจิต สภาพที่ปรากฎขึ้นของจิตนั่นเอง ได้แก่ ความโลภ ความโกรธ ความหลง ความเหย่อหยิ่ง สมาธิ เจตนาในการกระทำเรื่องต่างๆ ความอิจฉา ฯลฯ
    5. วิญญาณขันธ์ = หรือ จิต นั่นเอง คือผู้รับรู้ความรู้สึกทั้งปวง ทั้งรูปขันธ์อันมี หู ตา จมูก ลิ้น กาย และทางฝ่ายใจ อันได้แก่ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ และสังขารขันธ์

    สติ หยุด ผู้โกรธได้
     

แชร์หน้านี้

Loading...