ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

<TABLE border=5 borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เปิดโพย...'อาหารบำรุงดวงตา' </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#ffffcc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>การไปหาหมอตรวจตาทุกปี คอยล้างแว่นและคอนแท็กต์เลนส์ให้สะอาด ไม่ใช่วิธีเดียวที่จะดูแลถนอมดวงตา อาหารก็จะมีส่วนช่วยได้

ศาสตราจารย์เอียน เกรียร์สัน แห่งภาควิชาจักษุวิทยา มหาวิทยาลัยลิเวอร์พูล บอกว่า สารอาหาร เช่น วิตามินซี น้ำมันโอเมกา-ทรี และโมเลกุลในพืชผัก เป็นอีกหนึ่งทางเลือก "ปัญหาดวงตา เช่น ต้อกระจก ต้อหิน และจุดด่าง ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ตาบอด มีผลมาจากสิ่งที่เรากิน การกินผัก-ผลไม้เพิ่มขึ้นจะช่วยลดปัญหาเหล่านี้ได้อย่างมากในอนาคต"

ต่อไปนี้เป็นชนิดอาหารที่จะช่วยให้ดวงตามีสุขภาพดีและสายตาคมชัด

ผักใบเขียว

ผักโขม บร็อกโคลี กะหล่ำ เป็นแหล่งของสารให้เม็ดสี คือ ลูทีน กับซีแซนทีน ซึ่งเรตินาจะอาศัยเม็ดสีเหล่านี้ในการสร้างภาพที่คมชัด

"ผลวิจัยบ่งบอกว่า โมเลกุลของพืชเหล่านี้ช่วยเสริมเม็ดสีในดวงตา ซึ่งจะร่อยหรอลงเมื่อคนเราได้รับแสงอย่างต่อเนื่อง" ศ.เกรียร์สันบอก

งานวิจัยของสถาบันดวงตาแห่งชาติของสหรัฐพบว่า การมีเม็ดสีเพิ่มขึ้นช่วยป้องกันไม่ให้ตาบอดได้

กินมากแค่ไหน? พยายามกินผักใบเขียวให้ได้ 100 กรัม ทุกวันเว้นวัน อาจเป็นสลัดหรือผัดผักต่างๆ

ไข่

นับแต่นักวิจัยของมหาวิทยาลัยเซอร์เรย์สรุปว่า ไข่ไม่ได้เพิ่มคอเลสเตอรอล อาหารชนิดนี้ก็กลับมาอยู่ในรายการของกินบำรุงสุขภาพอีกครั้ง และเป็นอาหารที่มีประโยชน์แก่ดวงตาเช่นกัน เพราะในไข่แดงก็มีแหล่งของสารเม็ดสีในดวงตา คือ ลูทีนกับซีแซนทีน

กินมากแค่ไหน? ไข่คน หรือไข่ลวก เป็นอาหารเช้าสัก 2 ฟอง ในทุกวันเว้นวัน หรือจะทำไข่เจียว หรือเอาไข่แดงมาทำน้ำมายองเนสใส่สลัดก็ได้

น้ำมันปลา

สถาบันดวงตาแห่งชาติของสหรัฐวิจัยพบว่า การได้รับโอเมกา-ทรีในน้ำมันปลาเพิ่มขึ้น ช่วยลดโอกาสที่จะเป็นต้อหิน และจุดภาพชัดเสื่อมสภาพ และช่วยไม่ให้ดวงตาแห้ง ซึ่งเป็นผลจากการผ่าตัดดวงตาด้วยเลเซอร์

งานวิจัยชิ้นหนึ่งในวารสาร American Journal of Clinical Nutrition พบว่า เมื่อสตรีที่มีอาการดวงตาแห้ง กินเนื้อปลาทูนาสัปดาห์ละ 5 มื้อ อาการก็จะลดน้อยลง 68%

กินมากแค่ไหน? สัปดาห์ละ 2-3 มื้อต่อคน จะช่วยบำรุงฮอร์โมน สมอง ผิวหนัง และช่วยบำรุงสายตา

ผลไม้สด

ผลวิจัยพบว่า วิตามินชนิดต่างๆ โดยเฉพาะวิตามินซี ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคเกี่ยวกับดวงตาทั้งหลายได้

ศาสตราจารย์เกรียร์สันบอกว่า การกินผัก-ผลไม้ให้มากขึ้นจะเป็นผลดีต่อดวงตาอย่างแน่นอน

กินมากแค่ไหน? กินผลไม้สดในตอนเช้า ผักต่างๆ เช่น บร็อกโคลี ก็มีประโยชน์มาก กินดิบๆ เป็นสลัดก็ได้ หรือนึ่งเล็กน้อยเพื่อให้ได้วิตามิน.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เตือนปล่อยตัว"อ้วน"ช่วงวัยกลางคน </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#ffffcc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top> วารสารโรคหัวใจยุโรป รายงานว่า นักวิจัยฟินแลนด์ศึกษาติดตามเก็บข้อมูลจากผู้ชายมากกว่า 1,000 คน อายุตั้งแต่ 25 ปีไปจนถึง 70 กว่าปี

พบว่า ผู้ที่เริ่มมีปัญหาเรื่องความอ้วนในวัย 40 กว่าปี มีสุขภาพแย่กว่าผู้มีน้ำหนักตัวปกติ และมีความเสี่ยงเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดหัวใจมากที่สุด สิ่งที่น่าแปลกใจจากการค้นพบครั้งนี้ก็คือ หากคนอ้วนช่วงวัยกลางคนมีน้ำหนักตัวลดลงในภายหลัง จะมีความเสี่ยงเสียชีวิตและเจ็บป่วยสูงที่สุดเมื่อเข้าสู่วัย 70 กว่าปี นักวิจัยสันนิษฐานว่าสาเหตุที่คนอ้วนในวัยกลางคนเสี่ยงอ่อนแอเมื่อเข้าสู่วัยชราน่าจะเกิดจากปัญหาเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดหัวใจ เช่น ความดันโลหิตสูง รวมถึงการเป็นเบาหวานระยะแรกๆ

นอกจากนั้น ประเด็นที่นักวิจัยให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ได้แก่ กลุ่มผู้สูงอายุที่มีน้ำหนักตัวลดลงจะมีอาการสุขภาพอ่อนแอง่ายกว่าคนชราที่มีรูปร่างปกติทั่วไป เช่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง เหนื่อยง่ายแม้ออกกำลังกายเพียงเล็กน้อยทั้งที่ไม่ได้ป่วย เช่น เป็นโรคหัวใจ โรคมะเร็ง ดังนั้น แพทย์จึงควรสังเกตสัญญาณเบื้องต้นแต่เนิ่นๆ เพราะสุขภาพอ่อนแอจะนำไปสู่การเสียชีวิตและความพิการ

ในอนาคต นักวิจัยจะศึกษาต่อไปว่าผู้สูงอายุกลุ่มใดมีสุขภาพดีที่สุด คาดว่าอาจเป็นกลุ่มที่รักษาน้ำหนักตัวให้สมดุลได้ตลอดเวลา หรือผู้ที่มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเข้าสู่วัย 60-70 กว่าปี
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

สาธุ อยู่ต่อชีวิตไปวันๆ มีแต่ปัจจุบัน เพราะอนาคตเราไม้รู้^^
ขอบคุณที่มีภัยมาให้เตือนค่ะ

 

น้ำท่วมโลกไม่ได้เกิดจากน้ำแข็งขั้วโลกละลายเพียงอย่างเดียว!!!​

​

ลูกเห็บยักษ์ขนาด 50 กิโลกรัม

“ท่าน(พระอาจารย์รัตน์) ได้เล่าให้น้องชายของผมฟังถึงเรื่องบรรยากาศของโลกซึ่งเกิดจาก ภาวะเรือนกระจก จนทำให้เกิดเป็นลูกเห็บน้ำแข็งหนักประมาณ 50 กิโลกรัมตกลงมาในอนาคต ท่านพอจะอธิบายเหตุการณ์ตรงนี้ ให้ละเอียดกว่านี้ได้ไหมครับ”

“ตอนแรกอาตมาใช้สมาธิเข้าไปดูว่าถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ คือมนุษย์เราเผาผลาญน้ำมันมากอย่างที่เป็นอยู่ขณะนี้ ผลจะเกิดขึ้นเป็นอย่างไรในอนาคต เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่คนเราสร้างนั้นไม่ว่ากายกรรมก็ดี วจีกรรมก็ดี มโนกรรมก็ดี สร้างเหตุอันใดผลมันก็ต้องย้อนกลับมาจนได้ในที่สุด มนุษย์นี่โง่เขลาเบาปัญญาจึงทำให้เกิดในจุดนี้ พวกเขาคิดแต่จะหาความสะดวกสบายในปัจจุบัน อนาคตผลเสียจะเกิดขึ้นอย่างไรเขาไม่รู้ .....

มีอยู่วันหนึ่งอาตมาไปหยิบหนังสือของศาสนาคริสต์ เกี่ยวกับวันที่พระเจ้าตัดสินโลกออกมาดู อุ้ย ! ทำไมมันเหมือนกับที่เราเห็นก็ไม่รู้ จากสภาวะเรือนกระจก (กรีนเฮ้าส์เอฟเฟค) นี่จะทำให้น้ำแข็งเป็นก้อนๆ หนัก 40 – 50 กิโลกรัม ไปเกาะตัวอยู่ข้างบนบรรยากาศ ในที่สุดก็จะตกลงมาเนื่องจากแรงสั่นสะเทือนของผิวโลก พื้นผิวโลกเกิดการสั่นสะเทือนทำให้บรรยากาศไหวตัว ไปดันเอากระแสของโมเลกุลของน้ำที่อยู่ใกล้ขอบที่อยู่เป็นน้ำแข็งแห้งตกลงมา

พอมันตกลงมาก็จะเป็นน้ำท่วมโลก เพราะว่าเดี๋ยวนี้เราเอามันขึ้นไปไม่รู้เท่าไรแล้ว มันไปหนักอยู่ข้างบนที่นี้พอถึงเวลานั้นน้ำ มันก็ต้องท่วมเป็นธรรมดา แต่มันก็จะต้องมีเหตุเกิดขึ้นเสียก่อนว่า มนุษย์ส่วนใหญ่เป็นคนทำคือไปกดดันสถาณภาพของโลกใบนี้ โลกของเรานี้มันลอยอยู่บนอวกาศแล้วพื้นดินมันก็ลอยอยู่ด้วย มนุษย์นี่ไม่เข้าใจใช้แสงใช้แรงกดดัน แสงนี่หนักที่สุดวัตถุทั้งหมดในโลกนี้ไม่ว่าก้อนอิฐ ก้อนหินหรือว่าแร่ธาตุอะไรที่ว่าหนัก ๆ แล้วก็ยังไม่เท่ากับแสง แสงนี่หนักมากถ้าเราเอาแสงไปกดที่พื้นผิวข้างใดข้างหนึ่ง มันก็จะเกิดการเคลื่อนตัว การแตกแยกเกิดแผ่นดินไหว” (มีการใช้อาวุธแสงในสงครามโลกครั้งที่ 3 – ผู้เขียน)

คำพูดท้ายสุดนี้คงต้องขยายความสักหน่อยว่า ภิกษุรูปนั้น(พระอาจารย์รัตน์)ได้เคยเล่าให้ผมฟังอย่างเป็นทางการว่าอีกไม่นานนัก มนุษย์คงค้นพบเรื่องแสงแล้วมาทำเป็นอาวุธยิงจากอวกาศ อาวุธที่เป็นแสงนี้จะมีลักษณะเป็นเหมือนอาวุธชีวภาพ คือทำให้ผู้คนที่โดนแสงเจ็บป่วยล้มตายได้ ท่านถึงกับบอกว่า “ในอนาคตข้างหน้า โรคภัยไข้เจ็บต่อไปจะเป็นอิทธิพลของแสงเท่านั้น” แต่มนุษย์ผู้คิดค้นอาวุธแสงออกมาได้ คงนึกไม่ถึงว่าอาวุธแสงนี้จะเป็นตัวการก่อให้เกิดแผ่นดินไหว มันจะไปดึงดูดในโมเลกุลของน้ำบนบรรยากาศ ที่อยู่ใต้กรีนเฮ้าส์เอฟเฟค เคลื่อนตัวตกลงมาเป็นน้ำแข็งก้อนใหญ่ จนทำให้น้ำท่วมโลกได้..........

เรื่องที่ผมฟังจากปากท่านแล้วถึงกับหูผึ่ง ก็คือนักวิทยาศาสตร์ชาวตะวันตกสมัยนี้ คือพวกชาวแอตแลนติสกลับชาติมาเกิดและอีกไม่นานคนพวกนี้คงคิดค้น “อาวุธมหาประลัยที่ใช้แสง” ได้เหมือนกับชาวแอตแลนติสในอดีต ซึ่งนำไปสู่จุดจบแห่งการล่มสลายของทวีปแอตแลนติกที่ต้องจมทะเลในที่สุด

ผมขอสารภาพว่าในตอนแรกที่ภิกษุรูปนั้น(พระอาจารย์รัตน์) ได้บอกกับผมว่า ในอนาคตอันใกล้นี้จะมีลูกเห็บน้ำแข็งหนักประมาณ 50 กิโลกรัมตกลงมาผมยังไม่แน่ใจนัก ผมได้พยายามศึกษาเอกสารงานค้นคว้าคำทำนายต่าง ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้จึงได้พบข้อความตอนหนึ่งในหนังสือ “ชนวนสงครามล้างโลก หรือนอสตราดามุส พยากรณ์ตอนสิ้นพิภพ” ของคุณสนธิ สารธรรม หน้า 283 ดังต่อไปนี้

“มนุษย์ที่เหลือต่างปล่อยตัวมัวเมาในกามกิเลสตัณหา และความชั่วร้ายสุดที่จะพรรณนา” จนกระทั่ง ทูตสวรรค์ต้องนำขันแห่งพระพิโรธ 7 ใบเทบนโลก ความหมายของขันที่เจ็ดมีดังนี้ (วิวรณ์ บทที่ 16 )

ขันที่ 7 เกิดวิบัตินานาชาติ แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดที่โลกเคยประสบ ลูกเห็บก้อนใหญ่ขนาดก้อนละ 50 กิโลกรัมตกลงมา คนจำนวนมากจะเสียชีวิต ทรัพย์สินเสียหายเหลือคณานับ เกาะทั้งเกาะจะจมหายไป…….."

(แหล่งที่มา จากหนังสือ มังกรจักรวาล1 ตอนสมาธิหมุน นอสตราดามุส และมนษย์ต่างดาวว่าด้วยญาณทัศนะกับหายนะของโลกก่อนสิ้นศตวรรษที่ 20 โดย ดร.สุวินัย ภรณวลัย)​

 

ยอดผู้เสียชีวิตในเหตุแผ่นดินถล่มในเหมืองเหล็กของจีนเพิ่มเป็น 78 คน​

​

ปักกิ่ง 6 มิ.ย. – หน่วยกู้ภัยจีนยังคงออกค้นหาร่างของผู้สูญหายจำนวน 78 คนในวันนี้ หลังจากเกิดแผ่นดินถล่มฝังเหมืองแร่เหล็กและบ้านเรือนหลายหลังในหุบเขาทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ

เจ้าหน้าที่ของทางการจีนระบุว่า มีประชาชน 7 คน ได้รับการช่วยชีวิตไว้ได้ แต่ 3 คนในจำนวนนี้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนผู้ที่ถูกฝังทั้งเป็น 78 คน มีทั้งประชาชนและคนงานเหมืองแร่เหล็ก รายงานระบุว่า ประธานาธิบดีหู จิ่นเทา และนายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่า ได้สั่งการให้ทางการท้องถิ่นเร่งช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายโดยเร็ว

รายงานระบุว่า จุดที่เกิดแผ่นดินถล่มอยู่ในเขตอู่หลงในหุบเขาห่างจากใจกลางเทศบาลนครฉงชิ่ง 150 กม. เทศบาลนครฉงชิ่ง ซึ่งมีประชากรหนาแน่น เป็นแหล่งอุตสาหกรรมเหมือง รวมทั้ง เหมืองแร่เหล็ก และก๊าซธรรมชาติ และมักเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง แต่เจ้าหน้าที่สำนักงานดูแลความปลอดภัยในการทำงานของฉงชิ่ง กล่าวว่า แผ่นดินถล่มครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากการทำเหมืองแต่อย่างใด. -สำนักข่าวไทย

2009-06-06 10:43:03

เกิดแผ่นดินไหว 6.3 ริกเตอร์ในญี่ปุ่น​

​

โตเกียว 5 มิ.ย.- เกิดแผ่นดินไหววัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.3 ตามมาตราริกเตอร์ นอกชายฝั่งของเกาะฮอกไกโดทางเหนือของญี่ปุ่น แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายหรือตัวเลขผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น รายงานว่า แผ่นดินไหวเกิดเมื่อเวลา 12.30 น. ของวันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับ 10.30 น.ของวันนี้ ตามเวลาในไทย โดยศูนย์กลางแรงสั่นสะเทือนอยู่ที่ระดับความลึก 20 กิโลเมตรในมหาสมุทรแปซิฟิก ห่างจากย่านโทคาชิ ของเกาะฮอกไกโดประมาณ 70 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากกรุงโตเกียวไปทางเหนือราว 800 กิโลเมตร

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นประกาศเตือนให้ระวังระดับน้ำทะเลผันผวนเล็กน้อยจากแผ่นดินไหว แต่ไม่มีความเสี่ยงที่จะเกิดคลื่นยักษ์ -สำนักข่าวไทย

2009-06-05 11:36:39

เพลิงไหม้รถโดยสารในจีน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 24 คน ​

​

จีน 5 มิ.ย. - เกิดอุบัติเหตุเพลิงไหม้รถโดยสารทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 24 คน

อุบัติเหตุดังกล่าว เกิดขึ้นที่เมืองเฉิงตูทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่า เพลิงไหม้เกิดขึ้นได้อย่างไร เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 24 คน บาดเจ็บอีก 44 คน และมีคนหนีเอาชีวิตรอดมาได้กว่า 10 คน

สื่อของจีน รายงานว่า ที่จุดเกิดเหตุซึ่งอยู่ใกล้กับสวนสัตว์เมืองเฉิงตูมีรถพยาบาลอยู่หลายคัน อย่างไรก็ดี ทางการจีนยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับอุบัติเหตุครั้งนี้.-สำนักข่าวไทย

2009-06-05 11:22:25

คาดแอร์ฟรานซ์หยุดนิ่งกลางอากาศก่อนตก​

​

ฝรั่งเศส 6 มิ.ย.-ผู้เชี่ยวชาญด้านการบิน คาดเครื่องบินมรณะแอร์ฟรานซ์ อาจหยุดนิ่งกลางอากาศ เพราะเกิดความผิดพลาดขึ้นที่ระบบชี้วัดความเร็ว

เวลานี้การตรวจสอบของคณะเจ้าหน้าที่ด้านการบินมุ่งประเด็นไปที่อุปกรณ์นอกตัวยานมากขึ้นว่า อาจถูกน้ำแข็งปกคลุมจนทำให้เซ็นเซอร์ตรวจจับความเร็วการบินแปรปรวน และส่งผลต่อการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ให้ตั้งความเร็วเครื่องบินเร็วหรือช้าเกินไป ซึ่งส่งผลเสียหายร้ายแรงอย่างยิ่ง ในขณะที่เครื่องกำลังตกหลุมอากาศอย่างรุนแรง ทั้งนี้คณะผู้ตรวจสอบพบว่าเครื่องบินมรณะลำดังกล่าว ได้รับข้อมูลการอ่านค่าความเร็วจากเครื่องมือต่างๆ ไม่สอดคล้องกัน การทำงานผิดพลาดของเครื่องชี้วัดความเร็วการบิน อาจทำให้ดูเหมือนกว่าความเร็วเครื่องสูงกว่าระดับที่แท้จริง หากนักบินรู้ปัญหานี้ช้าไป เครื่องอาจหยุดนิ่งอยู่กับที่จนนำไปสู่การเกิดโศกนาฏกรรม.-สำนักข่าวไทย

2009-06-06 10:27:57

บราซิลระบุซากเครื่องบินแอร์ฟรานซ์ที่พบเป็นเพียงขยะในทะเล​

​

ริโอเดจาเนโร 5 มิ.ย. - เจ้าหน้าที่บราซิลเผยว่า เศษซากวัตถุที่คิดว่าเป็นซากเครื่องบินสายการบินแอร์ฟรานซ์ที่ประสบอุบัติเหตุตกในมหาสมุทรแอตแลนติกที่แท้เป็นเพียงขยะในทะเล ยิ่งเพิ่มความไม่แน่นอนเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น

ผู้อำนวยการสำนักควบคุมการจราจรทางอากาศบราซิล ระบุว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่พบชิ้นส่วนเครื่องบินสายการบินแอร์ฟรานซ์ที่ตกในมหาสมุทรแอตแลนติก โดยชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่พบก่อนหน้านี้ อาทิ แท่นวางสินค้า 1 อัน และชูชีพ 2 อัน ที่เก็บกู้ขึ้นมาได้จากมหาสมุทรเมื่อเช้าวานนี้ ซึ่งเบื้องต้นมีการยืนยันว่า เป็นชิ้นส่วนของเครื่องบินสายการบินแอร์ฟรานซ์ เที่ยวบิน AF 477 แท้ที่จริงแล้วเป็นเพียงขยะในทะเล ส่วนใหญ่มาจากเรือเดินสมุทร เนื่องจากแท่นวางสินค้าที่พบทำจากไม้ แต่เครื่องบินแอร์บัส A330 ที่ประสบเหตุไม่มีแท่นวางสินค้าที่ทำจากไม้บนเครื่อง

ส่วนคราบน้ำมันขนาดใหญ่ที่พบและเบื้องต้นเชื่อว่ามาจากเครื่องบินนั้น อาจมาจากเรือที่สัญจรบริเวณดังกล่าว ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของบราซิลราว 1,000 ก.ม. อย่างไรก็ดีแม้จะเข้าใจผิดเกี่ยวกับซากชิ้นส่วนที่พบ แต่กองทัพเรือบราซิลก็ถูกต้องในการระบุจุดที่เครื่องบินตกเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา พร้อมด้วยคนบนเครื่อง 228 ชีวิต ระหว่างเดินทางจากนครรีโอเดจาเนโร ของบราซิล สู่กรุงปารีส ของฝรั่งเศส

นายแบร์นาร์ด คุชแน รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส กล่าวหลังร่วมพิธีไว้อาลัยให้แก่ผู้เสียชีวิตในนครรีโอเดจาเนโร ว่า อาจต้องใช้เวลาระยะหนึ่งกว่าจะได้ทราบถึงสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้ ซึ่งเป็นครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์การบินของฝรั่งเศส. -สำนักข่าวไทย

2009-06-05 11:20:44

หลายฝ่ายเริ่มสงสัยอากาศแปรปรวนอาจไม่ใช่สาเหตุทำแอร์ฟรานซ์ตก​

​

วอชิงตัน 6 มิ.ย.- หลายฝ่ายเริ่มสงสัยอากาศแปรปรวนอาจไม่ใช่สาเหตุทำเครื่องบินของสายการบินแอร์ฟรานซ์ตกระหว่างบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก เพราะในเวลานั้น ก็มีเครื่องบินของสายการบินอื่นอีกอย่างน้อย 12 ลำ ร่วมบินด้วย แต่ก็ไม่ได้ประสบปัญหาใดๆ

มีเครื่องบินอย่างน้อย 12 ลำ ได้ร่วมเดินทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกในช่วงที่เครื่องบินแอร์บัส เอ 330-200 ของสายการบินแอร์ฟรานซ์ บินอยู่เช่นกัน แต่เครื่องบินเหล่านั้นก็สามารถบินตามเส้นทางได้อย่างราบรื่นดี ไม่มีรายงานสภาพอากาศย่ำแย่หรือเกิดปัญหาอื่น ส่งผลให้ผู้เชี่ยวชาญการบินบางคน เริ่มพุ่งประเด็นไปที่ปัญหาการขัดข้องทางเทคนิคว่า อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินตก แต่อาจเป็นไปได้ว่า สภาพอากาศในขณะนั้นก็มีส่วนทำให้ปัญหาทางเทคนิคยิ่งทวีความเลวร้ายมากขึ้น

ยังมีความเชื่อว่าเครื่องบินของสายการบินแอร์ฟรานซ์ได้ตกลงกลางมหาสมุทรแอตแลนติกเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ตรงเส้นทางที่เชื่อมระหว่างชายฝั่งของบราซิลและแอฟริกาตะวันตก และอาจคร่าชีวิตผู้คนบนเครื่องทั้งหมด 228 คน ระบบคอมพิวเตอร์บนเครื่องรายงานพบปัญหาทางเทคนิคหลายอย่างหลังเครื่องขึ้นบินไปได้เพียง 4 ชั่วโมง ทั้งยังรายงานผลทันทีที่เครื่องบินฝ่าลมพายุซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งทางตะวันออกของบราซิลไม่กี่ร้อยไมล์ ก่อให้เกิดข้อสงสัยว่า ลมพายุ ความแปรปรวนของอากาศ และแม้กระทั่งฟ้าผ่าที่อาจทำให้ระบบบนเครื่องมีปัญหาจนเครื่องบินร่วงตกในที่สุด

แต่ผู้เชี่ยวชาญการบินเห็นว่า สภาวะอากาศเพียงอย่างเดียวไม่น่าเป็นสาเหตุทำให้เครื่องตก เพราะตามปกติ เครื่องบินมักบินฝ่าลมพายุได้อยู่แล้ว โดยใช้ระบบตรวจจับเรดาร์บนเครื่องเป็นตัวนำทาง แต่ถ้าสภาพอากาศรุนแรงจริงๆ กัปตันก็สามารถเบนเครื่องบินออกจากพายุ หรือบังคับให้เครื่องบินอยู่เหนือพายุได้. -สำนักข่าวไทย

2009-06-06 10:48:25

รัสเซียให้คำมั่นจะเพิ่มการผลิตธัญพืชช่วยโลกผ่อนคลายวิกฤติอาหาร ​

​

มอสโก 5 มิ.ย. - ประธานาธิบดีดมิทรี เมดเวเดฟ ผู้นำรัสเซีย ให้คำมั่นว่ารัสเซียจะเพิ่มการผลิตธัญพืชเพื่อผ่อนคลายวิกฤติอาหารโลก และได้เรียกร้องการลงทุนจากต่างประเทศในภาคเกษตรกรรมของรัสเซีย

ทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียออกรายงานระบุว่า แม้ในปัจจุบันทั่วโลกเน้นไปที่การแก้ไขวิกฤติเศรษฐกิจ แต่ปัญหาตลาดอาหารยังไม่ได้ลดลง ประชาชนนับพันล้านคนยังคงอดอยากหิวโหย พวกเขาไม่มีรายได้เพียงพอที่จะซื้ออาหารมาบริโภคให้เพียงพอต่อความต้องการขั้นต่ำที่สุด ทางด้านผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่า ภายในปี 2573 หรืออีก 21 ปีข้างหน้า จะมีการบริโภคธัญพืชทั่วโลกเพิ่มขึ้นประมาณ 30-40% ดังนั้นประชาคมระหว่างประเทศยังไม่ปลอดภัยจากวิกฤตการณ์อาหารระลอกใหม่

ประธานาธิบดีเมดเวเดฟ กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่โลกมีแนวคิดบริหารจัดการปริมาณอาหารสำรอง รัสเซียซึ่งมีผลผลิตธัญพืชในช่วงไม่กี่ปีมานี้มากเป็นประวัติการณ์ถึง 108.4 ล้านตัน ยังคงมีความตั้งใจที่จะปรับปรุงภาคการเกษตรแม้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจขึ้น และว่าการเกษตรแบบเข้มข้น ซึ่งจะใช้เทคโนโลยีการเพาะปลูกธัญพืชและเพิ่มผลผลิตข้าวสาลีเฉลี่ย 2.4 ตันต่อเฮกตาร์ จะทำให้รัสเซียมีผลผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 115 ล้านตันต่อปี และถ้าหากสามารถเพิ่มที่ดินที่อุดมสมบูรณ์ในการเพาะปลูกก็อาจจะทำให้ผลผลิตธัญพืชเพิ่มขึ้นเป็น 136 ล้านตันต่อปี

ผู้นำรัสเซีย ระบุด้วยว่า พร้อมที่จะสนับสนุนการลงทุนระยะยาวจากต่างประเทศต่อภาคการเกษตร ซึ่งในวันเสาร์และอาทิตย์นี้รัสเซียจะเป็นเจ้าภาพประชุมเรื่องธัญพืชที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเพื่อตรวจสอบความมั่นคงทางด้านอาหารของโลกในช่วงที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจและการเงิน. - สำนักข่าวไทย

2009-06-05 12:12:04

WHO แนะควรให้เด็กทุกคนได้รับวัคซีนป้องกันท้องร่วง​

​

เจนีวา 5 มิ.ย.-องค์การอนามัยโลก แนะควรให้เด็กทุกคนได้รับวัคซีนป้องกันโรต้าไวรัส ซึ่งเป็นไวรัสที่ก่อให้เกิดอาการอาเจียนและท้องร่วง ส่งผลให้เด็ก 2 ล้านคนต้องเข้าโรงพยาบาลในแต่ละปี และคร่าชีวิตเด็กปีละกว่า 500,000 คน

เด็กที่เสียชีวิตจากโรต้าไวรัส ร้อยละ 85 พบในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในแอฟริกาและเอเชีย โรต้าไวรัสเป็นชื่อของไวรัสชนิดหนึ่งที่กุมารแพทย์พบว่า เป็นสาเหตุสำคัญที่สุดของโรคอุจจาระร่วงในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และยิ่งในช่วงอายุ 6-12 เดือน จะเป็นกลุ่มเสี่ยงมากที่สุด เพราะเด็กวัยนี้มักหยิบสิ่งของต่าง ๆ เข้าปากโดยทันที โดยไม่รู้ว่ามีโรต้าไวรัสปนเปื้อนอยู่ด้วย

ด้วยเหตุนี้ ผู้เชี่ยวชาญจากนานาประเทศจึงเห็นด้วยที่องค์การอนามัยโลกออกมาแนะนำให้เด็กทุกคนควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรต้าไวรัส ดร.ทาจิ ยามาดะ ประธานโครงการอนามัยโลกของมูลนิธิบิล แอนด์ เมลินดา เกตส์ เห็นว่า จำเป็นที่จะต้องจัดหาวัคซีนให้แก่เด็กในแอฟริกาและเอเชีย เพราะพบเด็กเสียชีวิตจากโรต้าไวรัสมากที่สุด แต่นักวิทยาศาสตร์ในอังกฤษติงว่า ราคาวัคซีนป้องกันโรต้าไวรัสยังแพงเกินไป จึงยากที่จะให้เด็กทุกคนได้รับวัคซีนนี้.-สำนักข่าวไทย

2009-06-05 17:46:03

ปธ.สภาผู้แทนสหรัฐตำหนิรัฐบาลจีนไม่ใส่ใจปัญหาสิทธิมนุษยชน​

​

วอชิงตัน 6 มิ.ย.- นางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐแสดงความผิดหวังที่แรงกดดันจากสหรัฐและความสำเร็จด้านการปฏิรูปเศรษฐกิจของจีน ไม่ทำให้รัฐบาลจีนให้ความสำคัญกับปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน

นางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐกล่าวถึงรัฐบาลจีนในการหารือกับผู้เชี่ยวชาญแห่งสถาบันบรูคกิ้งส์ว่า ทำให้ตนรู้สึกผิดหวังมากที่แรงกดดันจากสหรัฐและความสำเร็จในด้านการปฏิรูปเศรษฐกิจของจีน ไม่ได้ส่งผลให้รัฐบาลจีนให้ความสำคัญกับปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนเท่าที่ควร

อย่างไรก็ตาม นางเปโลซี ยืนยันว่าจะไม่ยอมลดละในการกดดันรัฐบาลจีนให้เห็นถึงความสำคัญในเรื่องปัญหาสิทธิมนุษยชนในจีนให้ได้ และปฏิเสธเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า นางระงับการกดดันจีนหลังจากกลับจากเยือนจีนเมื่อไม่นานมานี้ นางเปโลซี เผยว่า รัฐบาลจีนยังคงกักขังนักโทษที่มีความผิดฐานร่วมชุมนุมประท้วงที่จัตุรัสเทียนอันเหมินเมื่อ 20 ปีที่แล้วไว้จนกระทั่งปัจจุบันนี้

นางเปโลซี กล่าวว่า สิ่งเดียวที่นางสามารถชมเชยรัฐบาลจีนได้อย่างเต็มปากเต็มคำก็คือการยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนหลายร้อยล้านคนให้พ้นจากสภาพความยากจนไปสู่การอยู่ดีกินดีได้สำเร็จ นางเปโลซียกตัวอย่าง ไต้หวันและเกาหลีใต้ว่า ความสำเร็จในการปฏิรูปเศรษฐกิจนำไปสู่การปฏิรูปทางการเมือง ที่จีนควรจะเอาเยี่ยงอย่าง. -สำนักข่าวไทย

2009-06-06 09:37:24

ที่มา http://news.mcot.net/international/

 

เรื่องภัยพิบัติที่จะเกิด มีคนวิตกกังวลกันมาก แม้แต่ตัวดิฉัน แต่ดิฉันได้นำแนวของพระพุทธองค์ มาเจริญสติ เพื่อนธรรมทุกท่านลองนำมาใช้เป็นแนวทางดูก็ได้นะค๊ะ โดยเริ่มปฏิบัติดังนี้ค่ะ
เดินตามรอยพระพุทธองค์(วิปัสนากรรมฐาน)
คือ ทำใจยอมรับสิ่งที่จะเกิด โดยมีสติ ดังนี้ค่ะ
1.ให้มีสติ อยู่กับปัจจุบัน
(อดีตที่ผ่านมาแล้ว เปรียบเหมือน คนตายแล้ว ไม่มีคุณค่า)
(อนาคตที่มาไม่ถึง เปรียบเหมือน คนที่ยังไม่เกิด ไม่มีคุณค่า)
2.ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด
3.เต็มใจ ยอมรับ ผลที่เกิด
4.ปล่อยวาง
และต้องเข้าถึงกฏไตรลักษณ์(ของพระพุทธองค์)ให้ได้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่าง
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
มนุษย์เกิดมาทุกคนไม่อาจหนี ความตาย ไปได้ (แม้แต่พระพุทธเจ้า)
เพราะฉนั้นเราจงอยู่กับปัจจุบัน(เวลานี้) แล้วทำปัจจุบันให้ดีที่สุด
เลิกยึดมั่น ถือมั่น ในตัวตน ว่าเป็นของเรา
(ถ้าตัวตนเป็นของเรา เราต้องสั่งมัน ไม่ให้มันเกิด ไม่ให้มันแก่ ไม่ให้มันเจ็บ ไม่ให้มันตาย ได้สิ)
ธรรมะ คือธรรมชาติ ที่เป็นจริง ที่มีความยุติธรรม ให้กับทุกคน
ไม่ว่าจะ ยาก ดี มี จน ธรรมะ(ธรรมชาติ) ก็ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ให้ความยุติธรรมกับทุกคน นั่นคือ ความตาย

สรุป ก็คือให้เราดำเนินชีวิตของเราไปเรื่อยๆให้ดีที่สุด อดีตกับอนาคตก็ไม่ต้องคิดถึงมัน เพราะปัจจุบันที่เราดำเนินอยู่ก็แทบจะรับไม่ไหวแล้ว เหมือนกับเราเริ่มตั้งครรภ์ ถ้าเรากินอาหาร บำรุงร่างกาย กินอาหารที่ดีดี ทำใจให้เบิกบาน ลูกที่อยู่ในท้องก็ออกมาสมบูรณ์ดี (สร้างเหตุดี ผลก็ออกมาดี สร้างเหตุไม่ดี ผลก็ออกมาไม่ดี)
ส่วนจะออกมาเป็นหญิงหรือชายเราก็ยอมรับได้ ถ้าเราหวังให้เป็นลูกสาวแล้วออกมาเป็นลูกชายไม่ได้ดังหวังเราไม่ยอมรับเราก็เป็นทุกข์
ฉันใดก็ฉันนั้นก็เหมือนกับภัยพิบัติที่จะเกิด ซึ่งมันยังไม่เกิด เราก็อย่าเพิ่งไปวิตกกับมัน ให้เราทำปัจจุบันให้ดีที่สุด ไม่ทำให้ใครต้องทุกข์หรือเดือดร้อนเพราะเรา ผลที่ตามมาถ้าเกิดภัยพิบัตแล้วเรารอด (แสดงว่าเรารอด เพราะเราเป็นคนดีหรือต้องอยู่ใช้กรรมต่อ) ถ้าเราไม่รอดจะต้องตาย เราก็ต้องทำใจแล้ว
เพราะคนเกิดมาต้องตายทุกคน จะตายช้าหรือเร็วก็ต้องตาย (แม้แต่พระพุทธเจ้า)
กฏไตรลักษณ์ ทุกสิ่งทุกอย่างในโลก
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป (มันเป็นธรรมชาติ ที่เป็นจริง)

จงมีสติอยู่กับปัจจุบัน แล้วทำปัจจุบันให้ดีที่สุด
rabbit_run_awayrabbit_run_awayrabbit_run_awayrabbit_run_awayrabbit_run_away​

ตั้งสติ ก่อนสตาร์ท​

<!-- google_ad_section_end -->

 

จิตก่อนตาย ....ทรมานไหม?​

​

ผมถามนะครับ จิตก่อนสิ้นลมหายใจ เป็นอย่างไร ทรมานไหม ผมเป็นคนคิดมาก มีห่วงอยู่มาก ผมเคยคิดทุกครั้งนะครับ ก่อนนอน เวลาเราสิ้นลมหายใจสุดท้าย จะทรมานไหม แล้วเป็นอย่างไร จะไปทางไหน มีคนบอกผมหลายคนว่า จิตก่อนตายเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด และเวลาสิ้นแล้ว เหมือนเราอยู่คนเดียวท่ามกลางความมืด จริงไหมครับ

boing747 วันที่ 16 ธ.ค. 2548

************************************************************

เรื่องความเป็นไปในขณะใกล้ตาย แต่ละคนไม่เหมือนกัน

ถ้าเป็นผู้ที่สิ้นอาสวะกิเลสแล้วไม่มีปัญหา เพราะท่านไม่เกิดอีก

สำหรับผู้ที่มีศีล และทำบุญไว้ในชาตินี้มาก บางท่านมีราชรถจากสวรรค์มารับ คือสิ้นลมอย่างไม่ทรมาน ไม่กลัวอะไรเลย

แต่ผู้ที่ทำแต่บาปไว้มาก ในเวลาใกล้ตายจะกลัว และทรมานมาก

study วันที่ 16 ธ.ค. 2548

ที่มา http://www.dhammahome.com


จิตเป็นธรรมชาติที่บังคับให้เป็นไปดังใจไม่ได้ครับ อย่างถ้าสร้างเหตุแห่งความฟุ้งซ่านไว้มากๆ ก็จะต้องทนทรมานกับคลื่นความฟุ้งไปนาน ถึงแม้จะสั่งว่าจงฟุ้งน้อยๆเถิด จงสงบเดี๋ยวนี้เถิดก็เป็นไปไม่ได้ที่จะฟุ้งน้อย เป็นไปไม่ได้ที่จะสงบ

ถ้าสร้างเหตุเป็นอกุศลไว้มากๆ ก็จะต้องมืดมน อึดอัด คับแคบ และคิดอะไรร้ายๆประจำ ถึงแม้จะสั่งว่าจงสว่างขึ้นเถิด จงปลอดโปร่งสบายใจเดี๋ยวนี้เถิด ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะสว่าง เป็นไปไม่ได้ที่จะสบาย

วันไหนคิด พูด ทำในเชิงร้ายไว้หนักๆ ตอนง่วงจะหลับมิหลับแหล่ลองอธิษฐานดูว่า ขอให้นอนหลับอย่างสงบสุขเถิด จงฝันดีเถิดดูว่าเป็นไปได้ตามใจเราหรือไม่

พระพุทธเจ้าตรัสว่าสร้างเหตุไว้อย่างไร จิตก็ยึดคติ ยึดภพไว้เป็นอย่างนั้น ถ้าคิด พูด ทำไว้เป็นสุคติ ก็ต้องไปสุคติ แม้ว่าจะไม่อยากไปสุคติ หรือภาวนาว่าอย่าไปสุคติก็ตามทุกอย่างขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยที่สั่งสมมา ไม่ง่ายหรอกครับที่จะไปเตรียมบังคับจิตกันตอนใกล้ตาย

โลกตอนนี้เหมือนห้องที่แสงไฟติดๆดับๆ ไม่ประมาทไว้ก็ดีครับ ใครจะรู้ว่าพรุ่งนี้หรือเมื่อไหร่โลกจะมืดลง และหาเวลาคุยธรรมะกันได้ยากขึ้น


จากคุณ : ดังตฤณ [ 20 ก.ย. 2545]
ที่มา http://www.dharma-gateway.com/ubasok/dangtrin/dangtrin-21.htm

 

เกิดแผ่นดินไหว 5.9 ริกเตอร์ เขย่ากรุงโตเกียว​

​

โตเกียว 6 มิ.ย. - เกิดแผ่นดินไหวในภาคตะวันออกของญี่ปุ่น เมื่อเวลา 14.52 น.ตามเวลาท้องถิ่น วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.9 ริกเตอร์ ขณะนี้ยังไม่มีรายงานความเสียหาย หรือผู้บาดเจ็บ เสียชีวิต

จุดศูนย์กลางอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกนอกชายฝั่งจังหวัดชิบะที่ระดับความลึก 30 กิโลเมตร แรงสั่นสะเทือนรู้สึกได้ถึงกรุงโตเกียว แต่ไม่รุนแรงถึงขั้นทำให้สิ่งของที่วางอยู่บนชั้นเคลื่อนที่หรือตกลงมาจากชั้นวาง และไม่มีความเสี่ยงเกิดคลื่นยักษ์สึนามิ ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เกิดแผ่นดินไหวเป็นประจำ โดยมีการบันทึกไว้ว่า ร้อยละ 20 ของแผ่นดินไหวครั้งสำคัญๆ ของโลกนั้น มักเกิดขึ้นที่ญี่ปุ่น. -สำนักข่าวไทย

2009-06-06 14:08:03

พายุถล่ม 5 มณฑลของจีนมีผู้เสียชีวิต 27 คน​

​

จีน 6 มิ.ย.-สภาพอากาศเลวร้ายในพื้นที่ตอนกลางของจีน สร้างความเสียหายหนักให้กับพืชผลทางการเกษตร และทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 27 คน

สถานีโทรทัศน์ CCTV ของทางการจีนรายงานว่าพายุฝน ลูกเห็บและลมกระโชกแรงที่พัดกวาด 5 มณฑลทางตอนกลางและตะวันออกของจีนช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 27 คน นอกจากนี้ยังสร้างความเสียหายอย่างมากให้กับพื้นที่เพาะปลูกและอาคารบ้านเรือน

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า บ้านเรือนของประชาชนเกือบ 4.5 ล้านหลังถูกกระแสลมแรงพัดจนพังเสียหาย พื้นที่เพาะปลูกมากกว่า 2 ล้านไร่ กระทรวงกิจการพลเรือนเผยว่า มูลค่าความเสียหายจากพายุที่เกิดขึ้นสูงถึง 2,200 ล้านหยวน หรือราว 11,000 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย

2009-06-06 16:08:39

ยอดผู้เสียชีวิตจากไฟไหม้สถานเลี้ยงเด็กในเม็กซิโกเพิ่มเป็น 29 คน​

​

เม็กซิโกซิตี้ 6 มิ.ย. - ตำรวจเม็กซิโกรายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุไฟไหม้สถานรับเลี้ยงเด็กในช่วงเวลากลางวันในเมืองเอร์โมซีโย รัฐโซโนรา ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ เพิ่มเป็นอย่างน้อย 29 คนแล้ว

วิทยุเม็กซิโกรายงานว่า ศูนย์เอบีซีถูกเปลวเพลิงเผาผลาญจนหลังคาพังถล่มลงมา โดยขณะเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น.วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเวลา 03.00 น.วันนี้ตามเวลาในไทย มีเด็กอยู่ประมาณ 176 คน มีอายุตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 5 ปี รายงานระบุว่า มีเด็กอย่างน้อย 30 คนถูกไฟลวกอาการสาหัส ต้องส่งตัวไปยังโรงพยาบาลเฉพาะทางในรัฐแอริโซนาของสหรัฐ และมีการกระจายผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลอย่างน้อย 5 แห่ง

ด้านเจ้าหน้าที่สอบสวน พร้อมด้วยพนักงานดับเพลิง เจ้าหน้าที่กาชาด และตำรวจได้รีบรุดไปยังจุดเกิดเหตุแล้ว ส่วนสาเหตุของเพลิงไหม้ยังไม่ทราบแน่ชัด กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวน เบื้องต้นเชื่อว่าต้นเพลิงอาจมาจากร้านยางรถยนต์ในบริเวณใกล้เคียงแล้วลามไปยังศูนย์เลี้ยงเด็ก เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงได้ภายในเวลา 2 ชั่วโมง เด็กส่วนใหญ่เสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจ ศูนย์รับเลี้ยงเด็กแห่งนี้เป็นของเครือข่ายประกันสังคมเม็กซิโก. -สำนักข่าวไทย

2009-06-06 11:15:22

ชาวอินเดียนแดงในเปรูปะทะ ตร.เสียชีวิตหลายสิบ​

​

6 มิ.ย.-การประท้วงของชนพื้นเมืองชาวอินเดียนแดงในเปรู ลุกลามกลายเป็นการปะทะกับตำรวจ ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบคน

ชนพื้นเมืองชาวอินเดียนแดงในแถบลุ่มน้ำอะเมซอนของเปรู พากันชุมนุมประท้วงโครงการขุดสำรวจน้ำมันและก๊าซของรัฐบาล ได้กลายเป็นการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างรุนแรง หลังจากทางการทลายการปิดกั้นถนนของกลุ่มผู้ประท้วงที่มีอยู่ราว 5,000 คน ผู้นำการประท้วงกล่าวว่า ตำรวจยิงปืนและแก๊สน้ำตาลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจบอกว่า กลุ่มผู้ประท้วงโจมตีเจ้าหน้าที่ด้วยอาวุธปืน และจุดไฟเผาอาคารสถานที่ของราชการ

ผลจากการปะทะกันทำให้ตำรวจเสียชีวิต 11 นาย ผู้ประท้วงเสียชีวิต 25 คนและได้รับบาดเจ็บอีก 50 คน ชนพื้นเมืองได้ปิดกั้นถนน รวมทั้งทาง่น้ำและท่อส่งน้ำมันของรัฐมาตั้งแต่เดือนเมษายน เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกกฎหมายที่เปิดทางให้บริษัทต่างชาติเข้ามาฮุบที่ดินทำกินของชาวบ้าน.-สำนักข่าวไทย

2009-06-06 15:42:33

ผู้นำเกาหลีใต้ยืนยัน ไม่รอมชอมกับเกาหลีเหนือ​

​

โซล 6 มิ.ย.- ประธานาธิบดี ลี มยอง-บัก ของเกาหลีใต้ ยืนยันเกาหลีใต้ไม่มีวันรอมชอมแน่นอน ถ้ายังต้องเผชิญภัยคุกคามด้านนิวเคลียร์จากเกาหลีเหนือ ทั้งยังเรียกร้องให้เกาหลีเหนือกลับเข้าร่วมโต๊ะเจรจา 6 ฝ่ายสลายวิกฤตนิวเคลียร์

โดยระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์เนื่องในวันไว้อาลัยให้แก่ผู้เสียชีวิตในสงครามเกาหลี ประธานาธิบดี ลี ย้ำว่า เกาหลีเหนือไม่เพียงคุกคามเกาหลีใต้แต่ยังคุกคามสันติภาพและเสถียรภาพโลกด้วยการทดสอบนิวเคลียร์และยิงขีปนาวุธ

ด้านคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ กำลังพิจารณาคว่ำบาตรเกาหลีเหนือรอบใหม่ หลังทดสอบนิวเคลียร์เป็นครั้งที่สองเมื่อเดือนที่แล้ว ขณะที่มีรายงาน เกาหลีเหนือเตรียมทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีป รวมถึงขีปนาวุธพิสัยกลางอีกหลายชุด ส่งผลให้ประธานาธิบดีลี ของเกาหลีใต้ ต้องเรียกร้องให้เกาหลีเหนือทำตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้เรื่องการปลดนิวเคลียร์ออกจากคาบสมุทรเกาหลี และกลับร่วมโต๊ะเจรจา 6 ฝ่ายสลายวิกฤตินิวเคลียร์ รวมถึงเปิดการเจรจาระหว่างสองเกาหลี. -สำนักข่าวไทย

2009-06-06 12:06:39

IAEA เผยอิหร่านกำลังขยายโครงการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม​

​

6 มิ.ย.-ทบวงพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ เผยอิหร่านกำลังเดินหน้าขยายโครงการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมทั้งที่ถูกประชาคมโลกประณาม

รายงานของทบวงพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือ IAEA เผยว่าอิหร่านได้เพิ่มจำนวนแกนเหวี่ยงที่ใช้ในการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม ที่โรงงานนิวเคลียร์ในเมืองนาทานซ์ โดยขณะนี้จำนวนแกนเหวี่ยงอยู่ที่ 4,920 แท่น เพิ่มขึ้นจาก 4 เดือนก่อนหน้านี้ถึง 1,000 แท่น นอกจากนี้อิหร่านยังเร่งพัฒนาโครงการนิวเคลียร์ ด้วยการเพิ่มอัตราการผลิตแร่ยูเรเนียม ที่สามารถนำไปใช้ผลิตอาวุธนิวเคลียร์อีกด้วย

IAEA ระบุว่า อิหร่านไม่ให้ความร่วมมือกับ IAEA ทำให้ประชาคมโลกจับจ้องด้วยความสงสัยมากขึ้นว่า อิหร่านพัฒนานิวเคลียร์เพื่อวัตถุประสงค์ทางการทหาร แต่อิหร่านยืนยันว่าโครงการนิวเคลียร์ของตนมีวัตถุประสงค์เพื่อการผลิตไฟฟ้าและใช้ในทางสันติ.-สำนักข่าวไทย

2009-06-06 15:50:15

อิหร่านโชว์ภาพการทดสอบยิงขีปนาวุธ​

​

อิหร่าน 6 มิ.ย.- สถานีโทรทัศน์อิหร่าน แพร่ภาพการทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยกลางแบบพื้นสู่อากาศ ที่ผลิตขึ้นเองภายในประเทศ

สถานีโทรทัศน์ IRINN รายงานว่า อิหร่านได้เริ่มผลิตขีปนาวุธพิสัยกลางแบบพื้นสู่อากาศชาฮินแล้ว และยังได้ทดสอบยิงขีปนาวุธรุ่นดังกล่าว ซึ่งในภาพแสดงให้เห็นขีปนาวุธพุ่งชนกับเครื่องบินเป้าหมาย ที่ลอยอยู่ในอากาศและแตกเป็นเสี่ยงๆ ในรายงานข่าวยังมีภาพของนายมอสตาฟา โมฮัมหมัด นัจจาร์ รัฐมนตรีกลาโหมอิหร่าน ซึ่งเดินทางมาที่โรงงานเพื่อทำพิธีเริ่มเดินเครื่องผลิตขีปนาวุธชาฮิน โดยรัฐมนตรีกลาโหมอิหร่านเชื่อว่า ขีปนาวุธชาฮินจะช่วยเสริมเขี้ยวเล็บให้แก่กองทัพอิหร่านในการป้องกันการโจมตีทางอากาศที่อาจจะเกิดขึ้น.- สำนักข่าวไทย

2009-06-06 21:48:19

ฟิลิปปินส์เลื่อนการเปิดเรียนออกไปอีก 1 สัปดาห์​

​

มะนิลา 6 มิ.ย.- เจ้าหน้าที่ของทางการฟิลิปปินส์กล่าวว่า จะเลื่อนการเปิดเรียนออกไปอีก 1 สัปดาห์ เนื่องจากยังคงวิตกต่อการระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่

กระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์รายงานพบผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 33 คน ซึ่งทั้งหมดไม่ได้มีอาการรุนแรง องค์การอนามัยโลกระบุฟิลิปปินส์มีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่มากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ประธานคณะกรรมการการศึกษาฟิลิปปินส์ กล่าวว่า การเลื่อนการเปิดชั้นเรียนออกไปจนถึงวันที่ 15 มิ.ย. เพื่อให้นักศึกษาต่างชาติที่มาจากประเทศที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ได้สังเกตอาการตนเอง คำสั่งเลื่อนการเปิดชั้นเรียนมีขึ้นหลังจากพบเด็กนักเรียน 3 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็กชาวญี่ปุ่น 2 คน ติดเชื้อไวรัส

องค์การอนามัยโลกระบุ เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่แพร่ระบาดไปถึง 69 ประเทศ มีผู้ติดเชื้อเกือบ 22,000 คน และมีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 125 คน ส่วนใหญ่อยู่ในเม็กซิโก. -สำนักข่าวไทย

2009-06-06 13:50:04

ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในออสเตรเลียทะลุ 1,000 คนแล้ว​

​

ซิดนีย์ 6 มิ.ย. – กระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลียรายงานว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 1,009 คนแล้วในวันนี้ เพิ่มขึ้นจากเมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อนถึงกว่า 3 เท่า

รายงานระบุว่า ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ 874 คน อยู่ในรัฐวิกตอเรีย ทางตอนใต้ของประเทศ ทำให้รัฐอื่น ๆ และดินแดนภายใต้การปกครองของออสเตรเลียต้องสั่งกักตัวเด็กนักเรียนที่เดินทางกลับจากรัฐวิกตอเรียเป็นเวลา 7 วัน นอกจากนี้ ทางการสิงคโปร์ยังประกาศเตือนประชาชนผ่านเว็บไซต์ไม่ให้เดินทางไปยังรัฐวิกตอเรียโดยไม่จำเป็น รวมถึงสหรัฐ เม็กซิโก แคนาดา ชิลี และบางพื้นที่ของญี่ปุ่น สาธารณสุขฟิลิปปินส์ระบุว่า มีแนวโน้มที่เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่จะยังคงระบาดในพื้นที่ภาคใต้ช่วงฤดูหนาว

ด้านกระทรวงกลาโหมออสเตรเลียได้ยกเลิกการสวนสนามประจำปีใกล้กรุงแคนเบอร์ราเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระราชินีอังกฤษในวันนี้ หลังจากพบว่าทหารนายหนึ่งในขบวนสวนสนามติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่. -สำนักข่าวไทย

2009-06-06 15:04:00

ที่มา http://news.mcot.net/international/

 

อย่าแตกตื่น "เสียงลือ!" "22ก.ค.-ตะวันดับ" "สึนามิ" ถล่มเอเชีย??

​

โดย เดลินิวส์ วัน เสาร์ ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2552 เวลา 0:02:53 น.

ใกล้เข้ามาแล้ว ใกล้จะเกิดปรากฏการณ์บนท้องฟ้าอีกแล้ว นั่นก็คือ จันทรคราส-จันทรุปราคา แบบเงามัว วันที่ 7 ก.ค. และ สุริยคราส-สุริยุปราคา แบบเต็มดวง วันที่ 22 ก.ค. จากที่ก่อนหน้านี้ได้เกิดปรากฏการณ์ที่เรียกรวม ๆ ว่าอุปราคาแล้ว 2 ครั้ง คือสุริยุปราคาแบบวงแหวน 26 ม.ค. และจันทรุปราคาแบบเงามัว 9 ก.พ. และนอกจากที่ว่ามาแล้ว

ในปี 2552 นี้ยังจะมีปรากฏการณ์อุปราคาบนท้องฟ้าอีก 2 ครั้ง คือจันทรุปราคาแบบเงามัว วันที่ 6 ส.ค. และจันทรุปราคา แบบบางส่วน คืนรอยต่อ 31 ธ.ค. 2552-1 ม.ค. 2553 เดือน ก.ค. ที่ใกล้จะมาถึงจะมีปรากฏการณ์อีก 2 ครั้ง ยิ่งสุริยุปราคาเต็มดวง 22 ก.ค. 2552 ตอนนี้ยิ่งน่าสน เพราะเกิดเสียงร่ำลือถึงภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ด้วย ?!? ทั้งนี้ กับ สุริยุปราคาเต็มดวง

หรือที่ทางโหราศาสตร์เรียก สุริย คราส สรรพคราส ซึ่งจะเกิดในวันที่ 22 ก.ค. 2552 นั้น จากข้อมูลใน เว็บไซต์ของสมาคมดาราศาสตร์ไทยระบุว่า... สุริยุปราคาครั้งนี้จะเกิดในช่วงสายของวัน ตามเวลาในไทย เส้นทางสุริยุปราคาเต็มดวงจะเริ่มต้นที่อินเดีย ผ่านจีน เกาะเล็ก ๆ ทางใต้ของญี่ปุ่น หมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก เป็น สุริยุปราคาเต็มดวงนานกว่า 6 นาที ณ กึ่งกลางคราส (เปรียบเทียบกับ สุริยุปราคาเต็มดวงในไทยเมื่อปี 2538 ที่นานประมาณ 2 นาที)

นับว่า ยาวนานที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่ 21 เป็นสุริยุปราคาชุดซารอสเดียวกันกับ สุริยุปราคาเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 2498 ซึ่งเห็นได้ในกรุงเทพฯ สำหรับครั้งนี้ เงามืดของดวงจันทร์จะเริ่มแตะผิวโลกบริเวณชายฝั่ง ด้านทิศตะวันตกของประเทศอินเดีย ในเวลาประมาณ 07.53 น. ตามเวลาประเทศไทย จากนั้นจะเคลื่อนไปทางตะวันออกอย่างรวดเร็ว ผ่านพื้นที่บางส่วนของเนปาล บังกลาเทศ ภูฏาน และตอนเหนือสุดของพม่า เข้าสู่ประเทศจีน ผ่านเฉิงตูในมณฑลเสฉวน และเมืองใหญ่อย่างเซี่ยงไฮ้ จากนั้นเงามืดจะเคลื่อนลงสู่ทะเลจีนตะวันออก ผ่านเกาะเล็กๆ หลายเกาะทางตอนเหนือของหมู่เกาะริวกิวทางใต้ของญี่ปุ่น แล้วเริ่มบ่ายหน้าลงไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านเกาะอิโวะจิมะ

จุดที่เห็นสุริยุปราคาเต็มดวงนานที่สุดจะอยู่ในทะเลทางด้านตะวันออกของเกาะ อิโวะจิมะ จะนาน 6 นาที 39 วินาที โดยเกิดขึ้นในเวลา 09.29 น. และช่วงท้ายของปรากฏการณ์นั้น จะสิ้นสุดเส้นทางคราสในมหา สมุทรแปซิฟิกในเวลา 11.18 น. ทั้งนี้ บริเวณที่เห็นสุริยุปราคาเพียงบางส่วนจะครอบคลุมพื้น ที่ส่วนใหญ่ของทวีป เอเชีย มหาสมุทรแปซิฟิก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยกเว้นทางใต้ของอินโดนีเซีย

ในประเทศไทยจะเห็นสุริยุปราคาครั้งนี้เป็นชนิดบางส่วน ในเวลาประมาณ 07.00-09.00 น. ภาคเหนือ และตอนบนของภาคอีสาน เป็นพื้นที่ที่มีโอกาสเห็นดวงอาทิตย์แหว่งเว้ามากที่สุด

ที่ว่ามาก็เป็นข้อมูลในทางดาราศาสตร์...ซึ่งก็น่าติดตาม แต่กับคนที่สนใจโหราศาสตร์ก็อาจจะติดตามในมุมของลางบอกเหตุ... ซึ่งศาสตร์โหรมีการระบุไว้แต่โบราณ ขณะที่ในปี 2552 นี้ กับปรากฏการณ์บนท้องฟ้าทาง อ.เก่งกาจ จงใจพระ ประธานสถาบันโหราศาสตร์เก่งกาจพยากรณ์ เคยทายทักตามหลักโหรไว้ก่อนหน้านี้ว่า... ปี 2552 จะเกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติหลายครั้ง รวมถึงเกิดสุริยคราส สรรพคราส ในวันที่ 22 ก.ค.2552

"ราศีที่ถูกคราสจะทำให้เกิดภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว ฝนตกใหญ่ น้ำท่วม" อ. เก่งกาจระบุไว้ พร้อมแจกแจงอีกว่า... ในย่านซีกโลกตะวันออก ตั้งแต่ราศีพฤษภถึงราศีกันย์ ก็มีประเทศ... อินเดีย, ปากีสถาน, พม่า, ทิเบต, เนปาล, บังกลาเทศ, พม่า, ศรีลังกา, จีน, ไทย, มาเลเซีย, กัมพูชา, ญี่ปุ่น, ฟิลิปปินส์, ไต้หวัน, เวียดนาม, อินโดนีเซีย ส่วนย่านซีกโลกตะวันตก ตั้งแต่ราศีพิจิกถึงราศีมีน ก็มีประเทศ... สหรัฐอเมริกา, เปรู, แคนาดา, นิการากัว, เอลซัลวาดอร์, ปานามา, อังกฤษ, บราซิล, อาร์เจนตินา, ไอซ์แลนด์, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อียิปต์, ตุรกี, กรีก, อิหร่าน, รัสเซีย ทั้งนี้การจะเกิดเหตุที่ไหนอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับดาวอังคารโคจรถึงราศีไหนในช่วงที่เกิด คราส "ปีนี้ทั่วโลกจะเกิดความวุ่นวายเพราะมีดาวใหญ่ย้ายราศี ีหลายดวง"

" โดยเฉพาะประเทศที่อยู่ในย่านมหาสมุทรจะโดนก่อน ก็มี... มหาสมุทรอินเดีย, แปซิฟิก, แอตแลนติก, อันดามัน จะถูกทั้งลมพายุฝน และแผ่นดินไหว แถมภูเขาไฟระเบิด" อ.เก่งกาจระบุไว้

ส่วนที่มีการ "ลือต่อๆ กันไป" ในตอนนี้ อีกทั้งยังมีแผนที่ประกอบ ก็คือ "จะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่จนเกิดคลื่นสึนามิ ในช่วงเดือน ก.ค. โดยเฉพาะวันที่ 22 ก.ค. 2552 ที่จะเกิดสุริยุปราคา ??" มีการลือว่าหลายประเทศในเอเชียที่ติดทะเล แต่ไม่มีการพูดถึงไทย เป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการเผชิญ ภัยคลื่นยักษ์ ??

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการลือดังกล่าวนี้จะเผอิญสอดคล้องกับคำ ทายทักทางโหราศาสตร์ แต่เรา ๆ ท่าน ๆ ทั้งหลายที่ได้ยินหรือได้อ่านข่าว ลือหรือคำเตือนลักษณะที่ว่านี้ ก็ "ไม่ควรตื่นตูม-ไม่ควรตื่นตระหนก !!" ซึ่งกับเรื่องนี้แหล่งข่าวนักพยากรณ์อากาศรายหนึ่งก็ บอกผ่าน "สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์" ว่า... เรื่องการเกิดแผ่นดินไหวนั้นไม่สามารถพยากรณ์ล่วงหน้ าด้วยวิทยาศาสตร์ได้ ขนาดระบบพยากรณ์ของสหรัฐอเมริกาที่ดีเยี่ยมและทันสมั ยมากก็ยังไม่สามารถ พยากรณ์ได้ ดังนั้น "ประชาชนจึงไม่ควรตื่นตกใจกับข่าวลือ !!"

ทั้งนี้ สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์ นำเสนอเรื่องนี้ วัตถุประสงค์หลักก็คือเพื่อให้ข้อมูลในศาสตร์แต่ละด้าน แต่ก็พร้อม ๆ ไปกับการนำเสนอเสียง เตือนในช่วงที่กำลังมีเสียงลือ เพื่อมิให้เราๆ ท่านๆ ตื่นตระหนก-วิตกจริต แค่รู้ไว้ใช่ว่าเพื่อ "ไม่ตั้งตนอยู่บนความประมาท" คงไม่เสียหาย แต่ "อย่าถึงขั้นตื่นกลัวจนเกินเหตุ" เพราะไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ !!

ที่มา http://news.nipa.co.th/news.action?newsid=93168

 

แผ่นดินไหวอีกลูก ที่กำลัง(อาจจะ)เกิดขึ้น!!!​

​

“Hello there. I just wanted [FONT=&quot]2 let you know that please stay away from the beaches all around in the month of July. There is a prediction that there will be another tsunami hitting on July 22[/FONT]<SUP>[FONT=&quot]nd[/FONT]</SUP>[FONT=&quot].[/FONT]​

[FONT=&quot]It is also when there will be sun eclipse. Predicted that it is going 2 be really bad and countries like Malaysia (Sabah & Sarawak), Singapore,Maldives, Australia, Mauritius, Si Lanka, India, Indonesia, Philippines are going 2 be badly hit. Please try and stay away from the beaches in July. Better 2 be safe than sorry. Please pass the word around. Please also pray for all beings.”[/FONT]​

Thanks and have a nice day​

Best Regards,
Nyan Tun ​

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Jaturongktpm<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2148086", true); </SCRIPT> สมาชิก

เค้าเขียนเตือนมาว่า ให้อยู่ห่างจากทะเลในรอบเดือนกรกฏาคมนี้ [FONT=&quot]เนื่องจากจะมีเหตุการณ์ซึนามิอีกครั้งในวันที่ [/FONT][FONT=&quot]22 [/FONT][FONT=&quot]กรกฏาคม 2552 [/FONT][FONT=&quot]และในเวลานั้นดวงอาทิตย์จะถูกปิดบังรัศมี [/FONT][FONT=&quot]ทำนายไว้ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายมาก และประเทศต่างๆ[/FONT][FONT=&quot]เช่น มาเลย์เซีย (ซาบาห์และซาราวัค)[/FONT][FONT=&quot],[/FONT][FONT=&quot]สิงคโปร[/FONT][FONT=&quot],[/FONT][FONT=&quot]มัลดีฟ,[/FONT][FONT=&quot]ออสเตรเลีย[/FONT][FONT=&quot],[/FONT][FONT=&quot]เมารีทัส[/FONT][FONT=&quot],[/FONT][FONT=&quot]ศรีลังกา[/FONT][FONT=&quot],[/FONT][FONT=&quot]อินเดีย[/FONT][FONT=&quot],[/FONT][FONT=&quot]ฟิลลิปปินส์ [/FONT]

[FONT=&quot]จะถูกโจมตีอย่างหนัก [/FONT][FONT=&quot]กรุณาอยู่ให้ห่างจากทะเลในช่วงเดือนกรกฏาคมดังกล่าวด้วย [/FONT][FONT=&quot]ปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่าจะเกิดโศกนาฏกรรม [/FONT][FONT=&quot]กระจายข่าวไปกันให้ทั่วนะครับ[/FONT]
[FONT=&quot]และโปรดช่วยกันสวดภาวนาให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง[/FONT]

01-06-2009, 12:16 PM

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->OLDMAN AND A CAR<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2149543", true); </SCRIPT> สมาชิก

...ตำแหน่งนี้.... ประเทศไทยยังคงปลอดภัย ยกเว้น ชายฝั่งทะเล จังหวดสงขลา ปัตตานี และ นราธิวาส ถ้าเกิด ซึนามิขึ้นจริง อาจโดนหางเลข....

...ตำแหน่งของแผ่นดินไหวใต้ทะเล ที่ ไม่ปลอดภัย สำหรับ อ่าวไทย คือ อินโดนีเซีย และ บริเวณ ในอ่าวไทย....<!-- google_ad_section_end -->

02-06-2009, 12:44 AM

เกษม สมาชิก

ข่าวนี้เป็น Forward mail ไม่ทราบแหล่งที่มาที่แน่ชัด จึงไม่อาจจะยืนยันความถูกต้องได้ ท่านผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกันด้วยครับ

ที่มา http://palungjit.org/threads/แผ่นดินไหวอีกลูก-กำลังจะเกิดขึ้น.190346/

 

ไม่อยากให้แตกตื่น ...
แต่เวลาที่เราเตือนกันบ่อยๆทีไร มักไม่เกิดทุกที
สงสัยอยากให้คนเถียงกัน แต่ ไม่เกิดก็ดีไม่ใช่เหรอ
เพราะฉะนั้น ก็เตือนกันบ่อยๆ เถียงกันหน่อยก็คงไม่เป็นไร

เค้าว่าปีนี้จะมีเหตุใหญ่ นี่ก็ปาไปครึ่งปีแล้วนะ
ความเป็นไปได้ว่าจะเกิดช่วงนี้ มันก็เลยสูงขึ้น
นอกซะจากว่า ปีนี้จะไม่มีอะไรอีก

แต่ที่เป็นอยู่ มันก็มีเหตุใหญ่เยอะเหมือนกันนะ
แค่มันไกลตัวเท่านั้นเอง อีกหน่อยก็คงใกล้เข้ามา
เพราะฉะนั้น อย่าประมาทกันเลยนะคะ
ความมั่นใจในตัวเองน่ะ ลดลงหน่อยก็ดี ... เป็นห่วง

 

ชุมชนในแคนาดาขู่จะตอบโต้มาตรการซื้อของในประเทศของสหรัฐ​

​

บริทิชโคลัมเบีย 7 มิ.ย.- ผู้นำชุมชนในแคนาดาขู่จะตอบโต้มาตรการซื้อของในประเทศของสหรัฐ โดยเตือนว่ามาตรการดังกล่าวจะทำให้เศรษฐกิจเสียหายทั้งสองประเทศ

สหพันธ์เทศบาลแคนาดาเห็นชอบข้อเสนอสนับสนุนชุมชนไม่ซื้อสินค้าจากประเทศที่มีมาตรการจำกัดสินค้าและบริการจากแคนาดา เป็นการตอบโต้ข้อกำหนดหนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐสภาสหรัฐอนุมัติเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ว่า โครงการสาธารณูปโภคในสหรัฐควรใช้วัสดุที่ผลิตในประเทศ

นายฌอง แปร์โรลต์ นายกเทศมนตรีเมืองเชอร์บรูคและประธานสหพันธ์เทศบาลแคนาดาระบุว่า นโยบายปกป้องทางการค้าของสหรัฐทำความเสียหายให้แก่บริษัทและการจ้างงานในแคนาดาที่พยายามดิ้นรนท่ามกลางเศรษฐกิจถอถอยทั่วโลก สหพันธ์ฯ ให้เวลาเจ้าหน้าที่การค้าแคนาดาและสหรัฐ 120 วันเจรจาแก้ปัญหานี้ ไม่เช่นนั้นจะบังคับใช้ระเบียบการจัดซื้อต่อต้านมาตรการซื้อของในประเทศของสหรัฐ

อย่างไรก็ดี เทศบาลบางแห่งไม่เห็นด้วยกับการตอบโต้สหรัฐเพราะเกรงว่าจะส่งผลเสียต่อแคนาดาเองในการเข้าถึงตลาดสหรัฐ และอาจเพิ่มต้นทุนโครงการสาธารณูปโภคเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ.-สำนักข่าวไทย

2009-06-07 11:34:29

ตอลีบานชี้สุนทรพจน์ของโอบามาต่อมุสลิมเต็มไปด้วยคำหลอกลวง​

​

ลอนดอน 7 มิ.ย.- กลุ่มตอลีบานระบุว่า สุนทรพจน์ที่ประธานาธิบดีบารัก โอบามาของสหรัฐกล่าวต่อโลกมุสลิมนั้นเต็มไปด้วยโฆษณาหลอกลวง และไม่ทำให้ความสัมพันธ์ของสหรัฐกับมุสลิมเปลี่ยนแปลงไปแม้แต่น้อย

ข้อความของกลุ่มตอลีบานที่เผยแพร่ตามกระดานสนทนาทางอินเทอร์เน็ตระบุว่า สุนทรพจน์ของนายโอบามาที่มหาวิทยาลัยไคโรในอียิปต์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาไม่มีเนื้อหาสาระใดที่จะลดความไม่ลงรอยกันระหว่างชาวมุสลิมและสหรัฐที่รุนแรงถึงขีดสุดแล้ว การยึดครองและกองกำลังรุกรานของนายโอบามายังคงสังหาร ทรมาน จับกุมชาวมุสลิมในอัฟกานิสถานและอิรัก ด้วยการเหยียบย่ำสิทธิอันชอบธรรม สังหารผู้พยายามปกป้องสิทธิของตนเองอย่างไร้ความปราณี และโยนพวกเขาไปไว้ในคุกเลวร้ายที่สุดในโลก ดังนั้นสุนทรพจน์ความยาวร่วมชั่วโมงของนายโอบามาจึงเป็นเพียงการเดินหน้าโฆษณาหลอกลวงของสหรัฐเท่านั้น

ข้อความของตอลีบานถือเป็นปฏิกิริยาแรกต่อสุนทรพจน์ของผู้นำสหรัฐ ขณะที่โลกมุสลิมกำลังประเมินถ้อยคำในสุนทรพจน์อย่างถี่ถ้วน ชาวมุสลิมส่วนใหญ่พอใจที่สหรัฐเปลี่ยนแปลงท่าทีต่อมุสลิมแต่ต้องการเห็นเป็นรูปธรรมว่าเขาจะแก้ไขความขัดแย้งที่ดำเนินมายาวนาน รวมถึงความขัดแย้งระหว่างอาหรับและอิสราเอลได้อย่างไร .-สำนักข่าวไทย

2009-06-07 10:38:57

ผู้นำฝรั่งเศสแสดงความวิตกในผู้นำอิหร่าน ​

​

ปารีส 7 มิ.ย.- ประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซี ผู้นำฝรั่งเศส กล่าวแสดงความรู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับความเห็นที่ขาดสติของประธานาธิบดีมาห์มูด อาห์มาดีเนจัด ผู้นำอิหร่าน

โดยทัศนะดังกล่าวมีขึ้นในระหว่างการเปิดแถลงข่าวร่วมกับประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ ก่อนร่วมงานครบรอบ 65 ปีกองทัพสัมพันธมิตรยกพลขึ้นบกที่หาดนอร์มังดี หรือที่เรียกว่าวันดี-เดย์

ประธานาธิบดีฝรั่งเศส กล่าวย้ำว่าต้องการสันติภาพและการเจรจา เขาไม่ต้องการให้เกิดการแพร่ขยายของอาวุธนิวเคลียร์ย ทางด้านชาวอิหร่านในกรุงเตหะรานแสดงความเห็นว่า รู้สึกผิดหวังในตัวผู้นำฝรั่งเศส และกล่าวหาว่าฝรั่งเศสใช้สองมาตรฐานกับอิหร่าน ขณะที่ประธานาธิบดีอาห์มาดีเนจัดกล่าวย้ำมาโดยตลอดว่า จะขยายโครงการพัฒนานิวเคลียร์ให้กลายเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นสำคัญของเขา และจะชูเรื่องนี้ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 12 มิถุนายนนี้ด้วย.-สำนักข่าวไทย

2009-06-07 10:17:05

จีนพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เพิ่มเป็น 72 คน​

​

ปักกิ่ง 7 มิ.ย.- สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขยืนยันพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่อีก 5 คน ทำให้ยอดรวมเป็น 72 คนแล้ว แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากโรคนี้

ซินหัวระบุว่า ผู้ป่วยใหม่ 3 คน เดินทางกลับจากสหรัฐ ผู้ป่วย 1 คน เดินทางกลับมาจากแคนาดา และอีก 1 คนเดินทางกลับจากจิ่วจ้ายโกว อุทยานแห่งชาติในเมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน ทางการได้กักตรวจบุคคลที่มีประวัติใกล้ชิดกับผู้ป่วยเหล่านี้แล้ว

ด้านองค์การอนามัยโลกยืนยันพบผู้ป่วยราว 19,000 คน ใน 64 ประเทศ ในจำนวนนี้เสียชีวิต 117 คน.-สำนักข่าวไทย

2009-06-07 10:05:24

สังเวย 35 ศพ เหยื่อเพลิงไหม้ศูนย์ดูแลเด็กเล็กเม็กซิโก ​

​

เม็กซิโก 7 มิ.ย. - เด็กเล็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ อย่างน้อย 35 คน ถูกไฟคลอกเสียชีวิต หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ศูนย์ดูแลเด็กเล็กทางตอนเหนือของเม็กซิโกเมื่อวานนี้

เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า เหตุเพลิงไหม้ศูนย์ดูแลเด็กเล็กทางตอนเหนือของเม็กซิโกเมื่อวานนี้ ทำให้เด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ เสียชีวิตอย่างน้อย 35 คน แม้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจะพยายามช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถ และพ่อของหนูน้อยคนหนึ่งขับรถกระบะพุ่งชนกำแพงเพื่อเข้าไปช่วยลูกของเขา และเด็กคนอื่น ๆ

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงคนหนึ่งเปิดเผยว่า ทางศูนย์มีประตูเข้าออกทางเดียว เจ้าหน้าที่ต้องนำเด็กออกจากประตูเข้าออกทางนี้ และช่องที่ผู้ประสบเหตุช่วยกันทุบและเข้าไปช่วยเด็กออกมา ก่อนเจ้าหน้าที่จะเดินทางไปถึง ตัวเลขผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 35 คน เด็กอีกอย่างน้อย 41 คน และผู้ใหญ่อีก 6 คน ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เด็กบางคนถูกไฟไหม้ระดับ 3. -สำนักข่าวไทย

2009-06-07 05:06:14

พบศพชาย 2 ราย และเศษเครื่องบินแอร์ฟรานซ์ ​

​

บราซิล 7 มิ.ย. - กองทัพอากาศบราซิล ยืนยันพบศพชาย 2 คน และเศษเครื่องบินจากจุดที่เครื่องบินแอร์ฟรานซ์ตกในมหาสมุทรแอตแลนติกแล้วเมื่อวานนี้

เจ้าหน้าที่กองทัพอากาศบราซิล ยืนยันต่อผู้สื่อข่าวว่า ทางกองทัพพบศพชาย 2 คน และเศษเครื่องบินจากจุดที่เครื่องบินแอร์ฟรานซ์ตกพร้อมคนบนเครื่องรวม 228 คน ในมหาสมุทรแอตแลนติก เมื่อเกือบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยศพ 2 คนที่พบเป็นชาย ส่วนเศษชิ้นส่วนที่พบคือ เบาะนั่ง เป้ไนลอนที่บรรจุคอมพิวเตอร์ และกระเป๋าเอกสารที่ทำจากหนัง ซึ่งมีตั๋วของสายการบินแอร์ฟรานซ์อยู่ภายใน

โดยจุดที่พบอยู่ห่างจากเมืองเฟอร์นันโด เดอ โนรอนฮา ทางตะวันออกเฉียงเหนือของบราซิลประมาณ 450 กิโลเมตร โดยเบาะนั่งในเครื่องบินที่กู้ขึ้นมาได้จะมีหมายเลขประจำติดอยู่ ซึ่งทางแอร์ฟรานซ์จะตรวจสอบอีกครั้งเพื่อยืนยันว่าเป็นเบาะนั่งจากเที่ยวบินมรณะ. -สำนักข่าวไทย

2009-06-07 02:03:29

ที่มา http://news.mcot.net/international/

 

มีเสียงจากภายในบอกค่ะ ว่าให้ระวัง ภูเขาไฟระเบิด ไม่รู้ว่า ใต้น้ำ หรือบนบก

อย่าตื่นตูม แต่ไม่ควรประมาทค่ะ เตรียมการณ์ไว้เป็นดี

 

7 มิ.ย. 52

เรื่องเก่าๆ

6 มิ.ย. 52

H1N1

7 มิ.ย. 52

ยาตราม้า

 

มีเสียงจากภายในบอกค่ะ ว่าให้ระวัง ภูเขาไฟระเบิด ไม่รู้ว่า ใต้น้ำ หรือบนบก
อย่าตื่นตูม แต่ไม่ควรประมาทค่ะ เตรียมการณ์ไว้เป็นดี

บอกแล้วให้ดูหนังสึนามิ ยังฉายอยู่ในโรงไหมนี่???

 

<B><BIG><BIG>HOME หนังสารคดีที่ฉายภาพโลกผ่านภาพถ่ายมุมสูงในมุมมองแปลกตา </BIG></BIG></B>
<B><BIG><BIG></BIG></BIG></B><!--InformVote=0--><SCRIPT language=JavaScript>MsgStatus(Msv[0], 0);</SCRIPT>
<B><BIG><BIG></BIG></BIG></B>

<!--MsgIDBody=0-->​

เคยคิดว่าจอที่สกาล่าใหญ่สะใจเป็นที่สุด แต่วันนี้กลับรู้สึกว่า ถ้าจอสกาล่าใหญ่กว่านี้ได้อีกสักสองเท่าก็ดีสิ มีคนสงสัยว่าเป็นหนังเกี่ยวกับอะไร สารคดีแบบไหน วันนี้ไปดูมาเลยมาบอกเล่าให้ฟัง สำหรับคนที่สนใจค่ะ

หนังสารคดีเรื่องนี้ นำเสนอด้วยภาพภูมิทัศน์ในมุมสูงของโลก เป็นภาพจากมุมมองแปลกตาที่หาดูได้ยากประกอบเสียงดนตรี และเสียงบรรยาย ความยาวสองชั่วโมงของหนัง ประกอบด้วยภาพมุมสูงเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ มีแทรก CG ให้เห็นวิวัฒนาการของการขยายตัวชุมชนที่รุกล้ำพื้นที่สีเขียวแค่เล็กน้อยเท่านั้นที่เหลือเป็นภาพโลกของเราล้วนๆ ทั้งความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ และความมหัศจรรย์ของเมืองที่มนุษย์สร้างขึ้น

หนังเล่าเรื่องของโลก การกำเนิดและวิวัฒนาการ โดยถ่ายทอดด้วยภาพธรรมชาติของภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ แทนภาพการก่อนำเนิดโลกยุคแรกการกำเนิดของแร่ธาตุ น้ำ(สิ่งมหัศจรรย์และพิเศษกว่าดาวดวงอื่น) ที่แปรรูปได้หลายสถานะ ต้นไม้ ดิน สัตว์นานาชนิด ที่เกิดขึ้นก่อนที่สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า โฮโมซาเปี้ยน จะกำเนิดขึ้นมา โฮโมซาเปี้ยน ที่มีวิวัฒนาการก้าวกระโดด โดยอาศัยทรัพยากรดั้งเดิมที่โลกสร้างไว้ และเป็นสิ่งมีชีวิตเดียวที่ทำลายโลกได้อย่างก้าวกระโดดเช่นกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 50 ปีที่ผ่านมานี้

ตัวภาพ...งามจนบรรยายไม่ถูก ..แต่อันนี้ขอออกตัวว่า เชียร์กันแบบเอียงสุดๆ (เพราะ จขกท. ชื่นชอบผลงานช่างภาพ/ผกก.เรื่องนี้มานาน เคยแอบเพ้อว่าถ้าเขารับเด็กแบกถุงโอเลี้ยงบนเครื่องจะขอทำงานแบบไม่คิดค่าตัว 555) ส่วนบทบรรยาย...ส่วนตัวคิดว่าเนื้อหาออกจะแน่นไปสักนิด...น่าจะปล่อยให้ผู้ชมให้ดื่มด่ำกับภาพและดนตรีประกอบมากกว่านี้ (แบบในช่วงท้ายๆ) เพราะภาพแทนคำบรรยายได้ดีมากอยู่แล้ว...

คำบรรยายเป็นซับตอกอีกตามเคย มีขาดๆ แหว่งๆ เล็กน้อยบางตอน เสียดายที่บางคำแปล (ส่วนน้อย) ไม่ค่อยตรงกับภาษาที่ใช้เชิงวิชาการนัก เช่น ตอนพูดถึงลุ่มน้ำ ที่ใช้คำว่า ฟองน้ำ แทนคำว่า พื้นที่ชุ่มน้ำ (wetlands) เลยอ่านแล้วแปร่งๆ นิดหน่อย

นอกจากภาพสวยๆ และคำบรรยายแล้ว ยังมีอะไรน่าสนใจอีกไหม...?

อืม...สิ่งที่เราเองคาดหวังไว้ก่อนจะดู ก็คือ การนำเสนอมุมมองของทางออก ทางแก้ไข ที่จะรักษ์โลกนี้ไว้ ซึ่งตัวหนังก็ได้นำเสนอไว้ในตอนท้ายๆ ว่าหลายพื้นที่ หลา่ยประเทศ ได้ลงมือทำแล้ว...ก่อนที่ "บ้าน" แห่งนี้จะถูกทำลายจนเสียสมดุลของระบบนิเวศ จนก้าวไปถึงขั้นที่ไม่สามารถคาดการณ์ความเสียดายได้ หนังไม่ได้กล่าวหาแบบเจาะจงว่า ประเทศใด ชนชาติใดที่ทำลายสมดุลธรรมชาติเป็นพิเศษ แต่ตั้งข้อหาโดยรวมให้แก่ โฮโมซาเปี้ยนทั้งหมดให้พึงรับผิดชอบรักษา "บ้าน" ร่วมกัน

สำหรับคนที่กลัวคำว่า "หนังสารคดี" จะชวนง่วง ไม่รู้ว่าจะไปดูดีหรือเปล่า อันนี้ จขกท. ก็ตัดสินใจแทนไม่ได้นะ เพราะความชอบไม่เหมือนกัน แต่สำหรับคนที่ชอบหนังภาพสวยๆ ในฐานะคนที่ชอบหนังภาพสวย ขอรับรองว่า ภาพจากหนังเรื่องนี้ สวยกว่าหนังเรื่องไหนๆ ที่เคยดูมา และเป็นภาพโลกของเราของแท้ (แทบ)ไม่ใช้ CG ไม่มีตัวแสดงแทน เพราะเรามีโลกนี้แค่ใบเดียวที่เป็น"บ้าน" ของทุกสิ่งชีวิตของโลกค่ะ

ดูภาพยนต์ตัวอย่าง และเบื้องหลังเพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ
http://www.youtube.com/homeproject

จากคุณ : <!--MsgFrom=1-->Quasar [ <!--MsgTime=1-->5 มิ.ย. 52 00:38:02 <!--MsgIP=1-->]

ที่มา http://www.pantip.com


ตลอด 200,000 ปี บนโลก มนุษยชาติพลิกผันดุลยภาพของดาวดวงนี้ ซึ่งกว่าจะเข้ารูปเข้ารอย ก็ต้องอาศัยวิวัฒนาการเกือบ 4 พันล้านปี ทุกวันนี้คือเวลาแห่งการชดใช้อย่างสาสม และสายเกินกว่าจะคร่ำครวญ มนุษยชาติเหลือเวลาอีกไม่ถึง 10 ปี เพื่อกลับตัวกลับใจ เพื่อตระหนักถึงความอุดมสมบูรณ์ของโลก ที่สูญสิ้นไปทุกหย่อมหญ้า และเพื่อเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการผลาญทรัพยากร

นอกจากจะได้เห็นฟุตเทจแปลกตา ซึ่งรวบรวมมาจากเหนือพื้นดินของกว่า 50 ประเทศ รวมถึงได้ร่วมแบ่งปันความพิศวงสงสัยและความกังวลใจ ญานน์ อาร์ทูส์-แบร์ทรองด์ ยังหวังว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นให้เราร่วมแรงร่วมใจกันฟื้นฟูบ้านหลังใหญ่ขึ้นมาอีกครั้ง

20% ของประชากรโลกถลุงทรัพยาการของดาวดวงนี้ไปถึง 80%
จากรายงานฉบับที่ 4 ของโครงการ GEO ในแผนงานสหประชาชาติเพื่อพัฒนาสิ่งแวดล้อม (UNEP) ปี 2007

ทั้งโลกใช้จ่ายด้านยุทโธปกรณ์มากกว่านำเงินไปช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนาถึง 12 เท่า
จากหนังสือประจำปี 2008 ของสถาบัน Stolkholm International Peace Research Institute และ องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ปี 2008

5 พันคนต่อวันเสียชีวิตเพราะน้ำดื่มที่ปนเปื้อน และ 1 พันล้านคนไม่มีน้ำสะอาดไว้ดื่ม
จากแผนงานสหประชาชาติเพื่อการพัฒนา (UNDP) ปี 2006

1 พันล้านคนกำลังหิวโหย
จากองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ปี 2008

กว่า 50% ของเมล็ดธัญพืชที่ซื้อขายกันทั่วโลก ใช้เป็นอาหารสัตว์ และผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ
จากสถาบัน Worldwatch Institute ปี 2007 และ องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ปี 2008

พื้นที่กสิกรรมเสื่อมสภาพไปถึง 40%
จากแผนงานสหประชาชาติเพื่อพัฒนาสิ่งแวดล้อม (UNEP) / หน่วยงาน ISRIC World Soil Information

ทุกๆ ปี พื้นที่ป่าสูญหายไป 13 ล้านเฮกตาร์
จากองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ปี 2005

1 ใน 4 ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม, 1 ใน 8 ของนก และ 1 ใน 3 ของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำใกล้จะสูญพันธุ์ สัตว์หลายๆ สปีชี่ตายเร็วกว่าอายุขัยตามธรรมชาติถึง 1 พันเท่า
จาก สหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) ปี 2008
และการประชุมพฤกษศาสตร์นานาชาติครั้งที่ 16 ในเซนต์หลุยส์ สหรัฐอเมริกา ปี 1999

ผลิตผลทางการประมงลดน้อยลง สูญสิ้น หรือเสี่ยงต่อการสูญสิ้นถึง 75%
ข้อมูลจากสหประชาชาติ

ตั้งแต่เริ่มบันทึกสถิติ อุณหภูมิเฉลี่ยในช่วง 15 ปีที่ผ่านมานับว่าสูงที่สุด
ข้อมูลจากสถาบัน NASA GISS

แผ่นน้ำแข็งขั้วโลกบางลงถึง 40% ในระยะเวลา 40 ปี
จากศูนย์ข้อมูลน้ำแข็งและหิมะแห่งชาติ (NSIDC) ปี 2004

ก่อนถึงปี 2050 คาดว่าจะมีผู้ลี้ภัยจากสภาพอากาศอันเลวร้าย 200 ล้านคน
จากบทวิเคราะห์ The Stern Review: the Economic of Climate Change ฉบับที่ 2 บทที่ 3 หน้า 77​

HOME เปิดหน้าต่างโลก (เอ็ม พิคเจอร์ส) กำหนดฉาย : 4 มิถุนายน 2552 (EXCLUSIVE AT APEX SIAM-SQUARE) กำกับ : ญานน์ อาร์ทูส์-แบร์ทรองด์​

ที่มา http://hilight.kapook.com/view/37584​

 

แดดแรงแต่เช้าเลยค่ะ นึกว่าสิบโมงแล้ว (ทั้งที่เพิ่งแปดโมงเอง)

ต้องไปดูภาพยนตร์สึนามิให้ได้ (ว่าแต่ออกไปหรือยังเนี่ย) - -"

 

<CENTER>พระอัจฉริยะภาพของในหลวงในด้าน IT

</CENTER>

<CENTER></CENTER>

<A onclick="pageTracker._trackPageview ('/outgoing/http_www_prdnorth_in_th_king60_king_it_01_php');pageTracker._trackPageview ('/outgoing/http_www_prdnorth_in_th_king60_king_it_01_php');" href="http://www.prdnorth.in.th/king60/king_it_01.php">[SIZE=+1]พระราชกรณียกิจในด้าน IT[/SIZE]

[SIZE=+1]ในหลวงกับคอมพิวเตอร์[/SIZE]

[SIZE=+1]ในหลวงกับการสื่อสารในด้านต่าง ๆ[/SIZE]

ในหลวงท่าน ทรงเป็นห่วงพสกนิกรของท่านอยู่เสมอ ทรงคอยสอบถามความทุกข์สุขของประชาชนกับหน่วยงานของรัฐมิได้ขาด ทรงคอยติดตามข่าวสารตามเว็บไซต์ต่างๆ อยู่เป็นปกติ ดังนั้นทุกข้อมูล ข่าวสาร ความคิดเห็น ในเว็บพลังจิตแห่งนี้ พระองค์ท่านก็อาจจะทรงกำลังทอดพระเนตรอยู่ก็ได้ ขอให้คนที่จะมาแสดงความคิดเห็นในเว็บพลังจิตแห่งนี้ กรุณาระมัดระวังในการใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสมออกไปด้วยนะครับ

และผมกราบขอพระราชทานอนุญาต ขออัญเชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์ "แสงเทียน" ซึ่งผมประทับใจมากกับเพลงนี้ เพราะแสดงให้เห็นพระอัจฉริยะภาพของในหลวงท่าน ในด้านความรู้ความเข้าใจในพุทธศาสนาอย่างลึกซึ้ง มาให้ท่านทั้งหลายได้ชื่นชมในบทเพลงนี้ด้วยกันนะครับ


<CENTER>แสงเทียน
SAENG TIEN
</CENTER>
ทำนอง: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช
คำร้อง: พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ

<CENTER>
<TABLE border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD>
จุดเทียนบวงสรวงปวงเทพเจ้า
สวดมนต์ค่ำเช้าถึงคราวระทมทน
โอ้ชีวิตหนอล้วนรอความตายทุกคน
หลีกไปไม่พ้นทุกข์ทนอาทรร้อนใจ
ต่างคนเกิดแล้วตายไป
ชดใช้เวรกรรมจากจร

นิจจังสังขารนั้นไม่เที่ยงเสี่ยงบุญกรรม
ทุกคนเคยทำกรรมไว้ก่อน
เชิญปวงเทวดาข้าไหว้วอน
ขอพรคุ้มไปชีวิตหน้า
ทนทรมานมามากแล้วจะกราบลา
หนีปวงโรคาที่เบียดเบียน
แสงแววชีวาเปรียบแสงเทียน
​

เปรียบเทียนสิ้นแสงยามแรงลมเป่า
ชีพดับอับเฉาเหมือนเงาไร้ดวงเทียน
จุดเทียนถวายหมายบนบูชาร้องเรียน
โรคภัยเบียดเบียนแสงเทียนทานลมพัดโบย
โรครุมเร้าร้อนแรงโรย
หวนโหยอาวรณ์อ่อนใจ

ทำบุญทำทานกันไว้เถิดเกิดเป็นคน
ไว้เตรียมผจญชีวิตใหม่
เคยทำบุญทำคุณปางก่อนใด
ขอบุญคุ้มไปชีวิตหน้า
ทนทรมานมามากแล้วจะกราบลา
แสงเทียนบูชาจะดับพลัน
แสงเทียนบูชาดับลับไป
​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD>[FONT=AngsanaUPC, Thonburi]เกร็ดน่ารู้
[/FONT]
[FONT=AngsanaUPC, Thonburi]เพลง<WBR>พระราชนิพนธ์<WBR>แสงเทียน: Candlelight Blues เป็น<WBR>เพลง<WBR>พระราชนิพนธ์<WBR>เพลง<WBR>แรก ทรง<WBR>พระ<WBR>ราชนิพนธ์<WBR>ใน<WBR>เดือน<WBR>เมษายน พ.ศ. ๒๔๘๙ ครั้ง<WBR>ดำรง<WBR>พระราช<WBR>อิสริยยศ<WBR>เป็น<WBR>สมเด็จพระ<WBR>อนุชาธิราช ได้<WBR>ทรง<WBR>พระ<WBR>กรุณา<WBR>โปรดเกล้าฯ ให้<WBR>พระเจ้า<WBR>วรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า<WBR>จักรพันธ์<WBR>เพ็ญศิริ (ขณะ<WBR>ดำรง<WBR>พระยศ<WBR>เป็น<WBR>หม่อมเจ้า<WBR>จักรพันธ์<WBR>เพ็ญศิริ จักรพันธ์) นิพนธ์<WBR>คำร้อง<WBR>ภาษาไทย แต่<WBR>เนื่องจาก<WBR>มี<WBR>พระราชประสงค์ ที่<WBR>จะ<WBR>ทรง<WBR>แก้ไข<WBR>ทำนอง และ<WBR>คอร์ด<WBR>บาง<WBR>ตอน จึง<WBR>ยัง<WBR>ไม่<WBR>โปรดเกล้าฯ พระราชทาน<WBR>ให้<WBR>นำ<WBR>ออกมา บรรเลง<WBR>ใน<WBR>เวลา<WBR>นั้น ต่อมา ได้<WBR>พระราชทาน<WBR>ให้<WBR>นำ<WBR>ออก<WBR>บรรเลง<WBR>ครั้งแรก พ.ศ. ๒๔๙๐ และ<WBR>ใน พ.ศ. ๒๔๙๖ นางสาว<WBR>สดใส วานิชวัฒนา (รองศาสตราจารย์ สดใส พันธุมโกมล) ประพันธ์<WBR>คำร้อง<WBR>ภาษา<WBR>อังกฤษ<WBR>ถวาย[/FONT]
</TD></TR></TBODY></TABLE>

ที่มา http://kanchanapisek.or.th/royal-music/saengtien.html​

</CENTER>

 

พายุถล่มภาคเหนืออิตาลี ​

​

อิตาลี 7 มิ.ย.-พายุพัดถล่มพื้นที่ภาคเหนือของอิตาลีอย่างหนัก จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 28 คน อีกทั้งยังทำให้บ้านเรือนและทรัพย์สินเสียหายจำนวนมาก

สถานีโทรทัศน์ของอิตาลี แพร่ภาพความเสียหายของอาคารบ้านเรือนและรถยนต์หลายคัน ต้นไม้ใหญ่และเสาไฟฟ้าหักโค่นจำนวนมาก หลังจากเกิดเหตุพายุทอร์นาโดพัดถล่มหลายพื้นที่ทางภาคเหนือของประเทศ โดยที่เมืองเตรวิโซได้รับผลกระทบมากที่สุด จนหน่วยงานฉุกเฉินต้องประกาศอพยพชาวบ้านออกจากบ้านเรือนกว่า 200 ครอบครัว

ขณะที่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 28 คน ส่วนใหญ่เกิดจากกิ่งไม้และวัตถุตกใส่ หน่วยงานอุตุนิยมวิทยาอิตาลี ประกาศเตือนภัยจากพายุกำลังแรงในหลายพื้นที่ของประเทศ หลังจากมีพายุเคลื่อนผ่านพื้นที่ตอนเหนือของคาบสมุทรอิตาลีมาตั้งแต่หลายวันก่อน.-สำนักข่าวไทย

2009-06-07 23:03:33

เก็บกู้ร่างผู้โดยสารแอร์ฟรานซ์ขึ้นมาแล้ว 17 ศพ​

​

เรซีเฟ, บราซิล 8 มิ.ย.-โฆษกกองทัพอากาศบราซิล เผยสามารถเก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิตจากซากเครื่องบินแอร์บัส A330 สายการบินแอร์ฟรานซ์เที่ยวบินที่ AF 447 ขึ้นมาได้แล้ว 17 ศพ

โฆษกกองทัพอากาศให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวที่เมืองเรซีเฟ ทางชายฝั่งด้านตะวันออกเฉียงเหนือของบราซิล ว่า ศพที่พบจะถูกลำเลียงใส่เรือไปขึ้นฝั่งเกาะเฟอร์นันโด เดอ โนรอนญา จากนั้นจะถูกลำเลียงไปชันสูตรเพื่อระบุเอกลักษณ์บุคคลที่เมืองเรซีเฟ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเก็บกู้ซากชิ้นส่วนตัวเครื่องบินขึ้นมาได้อีกหลายสิบชิ้น

ทหารเรือบราซิลเก็บกู้ศพผู้เสียชีวิตเพศชาย 2 ศพแรกขึ้นมาได้เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ห่างจากเมืองเรซีเฟราว 1,150 กม. และเมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่จากเรือรบบราซิล และฝรั่งเศสสามารถเก็บกู้ศพขึ้นมาได้อีก 15 ศพ เป็นชาย 4 ศพ หญิง 4 ศพ ส่วนที่เหลือยังไม่ได้ระบุเพศ

เครื่องบินสายการบินแอร์ฟรานซ์เที่ยวบินที่ AF 447 ประสบอุบัติเหตุตกระหว่างเดินทางจากนครรีโอเดจาเนโรของบราซิล สู่กรุงปารีสของฝรั่งเศส จนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ และยังไม่พบกล่องบันทึกข้อมูลการบิน.-สำนักข่าวไทย

2009-06-08 07:16:30

เรือดำน้ำฝรั่งเศสจะร่วมค้นหากล่องดำเครื่องบินแอร์ฟรานซ์วันพุธนี้​

​

ปารีส 7 มิ.ย.-รัฐบาลฝรั่งเศส เผยว่า เรือดำน้ำขับเคลื่อนด้วยพลังงานนิวเคลียร์ของฝรั่งเศส จะเดินทางมาถึงบริเวณที่เครื่องบินโดยสารแอร์ฟรานซ์ประสบอุบัติเหตุตกในมหาสมุทรแอตแลนติกวันพุธนี้ เพื่อช่วยค้นหากล่องบันทึกข้อมูลการบิน (กล่องดำ)

ก่อนหน้านี้ เรือฟริเกตของฝรั่งเศสพร้อมด้วยเฮลิคอปเตอร์ ได้เดินทางมาถึงน่านน้ำใกล้หมู่เกาะเฟอร์นันโด เดอ โนรอนญา ของบราซิลแล้ว เพื่อช่วยค้นหาร่วมกับเครื่องบินค้นหา 5 ลำของฝรั่งเศส และนอกจากฝรั่งเศสได้จัดส่งเรือและเครื่องบินร่วมการค้นหาครั้งนี้แล้ว บราซิลได้ส่งเครื่องบินตรวจการณ์ 9 ลำพร้อมเรือ 5 ลำ ส่วนสหรัฐ ส่งเครื่องบิน 1 ลำช่วยการค้นหาอีกด้วย

เจ้าหน้าที่เชื่อว่าข้อมูลจากกล่องดำอาจช่วยไขปริศนาของเครื่องบินตก โดยกล่องดังกล่าวจะส่งสัญญาณชี้ตำแหน่งของตัวเองกลับสู่อุปกรณ์แม่เป็นเวลาประมาณ 1 เดือน โฆษกกองทัพฝรั่งเศส กล่าวว่า การที่ไม่ทราบตำแหน่งชัดเจนในจุดที่เครื่องบินตก ทำให้ต้องพึ่งโชคชะตาในการค้นหา.-สำนักข่าวไทย

2009-06-08 10:54:46

จีนระดมค้นหาเหยื่อดินถล่ม​

​

ปักกิ่ง 7 มิ.ย.- จีนระดมเจ้าหน้าที่กู้ภัยราว 1,500 นาย ช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่คาดว่าติดค้างอยู่ใต้ซากปรักหักพังจากเหตุดินถล่มทางภาคตะวันตกเฉียงใต้


จนถึงขณะนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตจากเหตุดินถล่มที่เทศบาลนครฉงชิ่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (5 มิ.ย) แล้วอย่างน้อย 26 ราย ขณะที่ยังคงมีผู้สูญหายอีกราย 72 ราย ล่าสุดทางการได้ส่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยทั้งทหาร ตำรวจ นักดับเพลิง และอาสาสมัครพร้อมสุนัขและเครื่องจักรขุดดินระดมค้นหาผู้รอดชีวิต โดยเฉพาะที่เหมืองแร่เหล็กซึ่งคาดว่ามีคนงานติดค้างอยู่ 27 คน ขณะที่ส่วนหนี่งพยายามระเบิดหินเปิดทางเข้าเหมือง และขุดรูลึกราว 40 เมตรเพื่อเปิดช่องอากาศและใช้เป็นทางลำเลียงอาหารและน้ำแก่คนงานเหมือง

ดินและหินน้ำหนักราว 3.5 ล้านตันที่ทลายลงมาจากภูเขาหวู่หลงยังได้ถล่มทับบ้านเรือนและสร้างความเสียหายทั้งต่อระบบไฟฟ้าและการขนส่งในหลายพื้นที่ โดยคาดว่าปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตในวันนี้อาจเป็นไปอย่างล่าช้าจากอุปสรรคด้านสภาพอากาศ ทั้งนี้ อุตสาหกรรมเหมืองของจีนนับเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงสูงสุดเป็นอันดับโลก เมื่อปีก่อนทางการจีนแจ้งตัวเลขคนงานเสียชีวิตกว่า 3,200 คน แต่หลายฝ่ายเชื่อว่ามีการปกปิดรายงานอุบัติเหตุ และตัวเลขผู้เสียชีวิตจริงอาจสูงกว่ามาก.-สำนักข่าวไทย

2009-06-07 14:01:22

ชาวเม็กซิโกร่วมไว้อาลัยเหยื่อเพลิงไหม้สถานรับเลี้ยงเด็ก​

​

เอร์โมซีโย 8 มิ.ย. – ชาวเม็กซิโกหลายพันคนร่วมไว้อาลัยเหยื่อเหตุเพลิงไหม้สถานรับเลี้ยงเด็กของรัฐบาลในเมืองเอร์โมซีโย ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 41 คน ส่วนใหญ่เป็นเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 2 ปี

ประชาชนราว 3,000 คน ร่วมชุมนุมที่หอประชุมในเมืองเอร์โมซีโย ทางตอนเหนือของประเทศ เพื่อสวดภาวนาให้แก่เด็กผู้เคราะห์ร้ายในเหตุเพลิงไหม้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ด้านเจ้าหน้าที่สาธารณสุขรัฐโซโนรากล่าวว่า ยังมีเด็กอีก 22 คน ที่ยังรักษาตัวในโรงพยาบาล โดย 12 คนอาการสาหัส นอกจากนี้ ยังมีผู้ใหญ่ 6 คน เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยเช่นกัน

ส่วนสาเหตุของเพลิงไหม้ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่ได้มีการตั้งคำถามเกี่ยวกับความปลอดภัยของศูนย์เอบีซี ซึ่งทางการยืนยันจะเร่งพิสูจน์เรื่องนี้อย่างเต็มที่ ประธานาธิบดีเฟลิเป คัลเดรอน กล่าวว่า นับเป็นโศกนาฏกรรมอันเจ็บปวดของชาวเม็กซิโก มีรายงานว่า ผู้ปกครองได้เริ่มทำพิธีฝังศพบรรดาลูกหลาน ซึ่งส่วนใหญ่เสียชีวิตจากการสำลักควันไฟและบางส่วนถูกหลังคาพังถล่มลงมาทับ รายงานระบุว่า สถานรับเลี้ยงเด็กแห่งนี้ไม่มีทางออกฉุกเฉินและโครงสร้างไม่แข็งแรง โดยหลังคาพังถล่มลงมาในจุดที่ทารกกำลังนอนหลับ. -สำนักข่าวไทย

2009-06-08 10:13:41

พบผู้ป่วยหวัดใหญ่ 2009 เพิ่มในนิการากัว อุรุกวัย และอาร์เจนตินา​

​

มานากัว 8 มิ.ย.-ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ยังคงแพร่ระบาดในภูมิภาคละตินอเมริกาอย่างต่อเนื่อง โดยนิการากัวรายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 6 รายเมื่อวานนี้ ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อทั่วประเทศทั้งสิ้น 26 คน ส่วนอาร์เจนตินาพบผู้ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อเพิ่ม

นายกิลเลอร์โม กอนซาเลซ รัฐมนตรีสาธารณสุขนิการากัว ระบุว่า พบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 เพิ่มขึ้นเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตรวจหาผู้ติดเชื้ออย่างจริงจัง หลังพบผู้ป่วยรายแรกเมื่อ 7 วันก่อน ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เคยเดินทางไปประเทศที่พบการระบาดของโรค โดยมากเป็นเด็กในวัยเรียน ทำให้ทางการต้องสั่งปิดทำการเรียนการสอนชั่วคราวที่โรงเรียนอย่างน้อย 2 แห่ง และส่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขลงตรวจสอบบ้านเรือนประชาชนราว 20,000 หลังในย่านชุมชนของกรุงมานากัว ซึ่งเป็นพื้นที่พบการแพร่ระบาดของโรค

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอุรุกวัย รายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 3 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อทั่วประเทศอยู่ที่ 25 คน ส่วนอาร์เจนตินาพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 13 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่พุ่งเป็น 215 คน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระบุว่า 3 ใน 4 ของผู้ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อเป็นเด็กนักเรียน นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ในกรุงบัวโนสไอเรสกำลังตรวจสอบผู้ต้องสงสัยจะติดเชื้ออีกกว่า 800 คน.-สำนักข่าวไทย

2009-06-08 07:45:41

กองทัพเปรูประกาศเคอร์ฟิวในหลายเมือง​

​

เปรู 8 มิ.ย. - ทางการเปรูพยายามควบคุมสถานการณ์รุนแรงจากการประท้วงของชาวพื้นเมือง ขณะที่กองทัพต้องประกาศเคอร์ฟิวในหลายเมือง

เหตุรุนแรงจากการประท้วงของชนพื้นเมืองชาวอินเดียนแดงในเปรู ยังไม่น่าไว้วางใจ ทำให้กองทัพเปรูต้องประกาศเคอร์ฟิวห้ามประชาชนออกนอกเคหสถาน ตั้งแต่เวลา 21.00 น. ไปจนถึง 06.00 น. ของวันใหม่

มาตรการดังกล่าวบังคับใช้หลายเมืองแถบอเมซอน เพื่อป้องกันเหตุรุนแรงกลับมาปะทุขึ้นอีก หลังจากรัฐบาลได้เข้าสลายการชุมนุมของชาวอินเดียนแดงที่ปิดถนนประท้วงเพื่อต่อต้านแผนการสำรวจและพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา จนเกิดปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับผู้ประท้วง ทำให้ตำรวจเสียชีวิต ไปถึง 22 นาย และมีพลเรือนเสียชีวิต 9 คน ขณะที่บางรายงานระบุว่ามีผู้เสียชีวิตถึง 60 คน.-สำนักข่าวไทย

2009-06-08 09:41:24

จีนสั่งให้พีซีทุกเครื่องต้องติดตั้งซอฟต์แวร์บล็อกเว็บไซต์ต้องห้าม​

​

สิงคโปร์ 8 มิ.ย.- หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานว่า รัฐบาลจีนสั่งให้เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (พีซี) ทุกเครื่องที่ขายในประเทศตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม เป็นต้นไปจะต้องติดตั้งซอฟต์แวร์บล็อกเว็บไซต์ต้องห้าม

รายงานอ้างบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ของจีนว่า ซอฟต์แวร์ดังกล่าวมีชื่อว่า กรีนแดม ยูธเอสคอร์ท (Green Dam-Youth Escort) จะเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลเพื่อสกัดไม่ให้เข้าเว็บไซต์ต้องห้าม ส่วนใหญ่เป็นเว็บลามกอนาจารเพื่อคุ้มครองเยาวชนไม่ให้เข้าถึงเนื้อหาที่เป็นภัย รายงานระบุด้วยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีนได้แจ้งข้อกำหนดนี้ตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภคม แต่ยังไม่ได้ประกาศให้สาธารณชนทราบ.-สำนักข่าวไทย

2009-06-08 10:10:35

เกาหลีใต้ร่างแผนตอบโต้เกาหลีเหนือ​

​

เกาหลีใต้ 7 มิ.ย.-เกาหลีใต้ร่างแผนรับมือหากถูกเกาหลีเหนือโจมตีด้วยจรวด หนึ่งในแผนดังกล่าวคือการโจมตีทางอากาศต่อฐานยิงจรวดของเกาหลีเหนือ

สำนักข่าวยอนฮัพของเกาหลีใต้ รายงานว่าคณะเสนาธิการทหารร่วมของเกาหลีใต้เสนอการจำลองสถานการณ์กรณีที่ถูกเกาหลีเหนือโจมตีให้ประธานาธิบดีลี มยอง บัก พิจารณาแล้ว แผนการรับมือประกอบด้วยการโต้กลับในกรณีที่เกาหลีเหนือ ยิงจรวดถล่มเรือประจัญบานของเกาหลีใต้ในน่านน้ำที่ยังเป็นข้อพิพาทนอกชายฝั่งด้านตะวันตก

การตอบโต้ของเกาหลีใต้จะเป็นการโจมตีร่วมกันทั้ง 3 เหล่าทัพต่อฐานยิงจรวดของเกาหลีเหนือ เมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เกาหลีใต้และสหรัฐได้ยกระดับการเตือนภัยทางทหารในคาบสมุทรเกาหลีหลังจากเกาหลีเหนือสร้างความตึงเครียดโดยขู่ว่าจะทำสงคราม อีกทั้งทดลองจรวดและระเบิดนิวเคลียร์.-สำนักข่าวไทย

2009-06-07 23:02:37

ที่มา http://news.mcot.net

 

สเปน - ชุมนุมต้านการสู้วัว

​

​

ผู้ชุมนุมหลายร้อยคน พร้อมใจกันถอดเสื้อผ้าจนเหลือน้อยชิ้นที่สุด ในกรุงมาดริด นครหลวงของสเปน เพื่อรณรงค์ให้มีการห้ามการสู้วัวและการทารุณกรรมวัวในสเปน

ผู้ชายและผู้หญิงทุกวัย พร้อมใจกันนุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ มานอนใกล้สนามสู้วัวเบนตัสของกรุงมาดริด โดยมีเลือดปลอมและไม้ตะบองมีหนาม เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของวัวตาย

แม้อากาศจะร้อนอบอ้าวเพียงใด แต่นายนอร์แบร์โต ก็องตรัต หนึ่งในผู้ประท้วงก็กล่าวว่า เขาตั้งใจแน่วแน่ที่จะส่งสาสน์ต่อต้านออกไป เขากล่าวว่า เขาต่อต้านการสู้วัว ก็เพราะการสู้วัวเป็นของศตวรรษที่ผ่านๆมา และไม่มีที่ให้กับการสู้วัวในศตวรรษที่ 21

รูท โตเลนาโด นักเขียนสเปน ที่นั่งประท้วงอยู่แถวหน้า กล่าวว่า การสู้วัวเป็นการปฏิบัติที่น่าละอาย การประท้วงครั้งนี้จัดโดย องค์กรสิทธิมนุษยชนชื่อ เอกัวนีมัล ที่เคยบุกเข้าขัดขวางการสู้วัวที่สนามแห่งนี้เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว แม้จะมีการประท้วงอย่างสงบเพื่อต่อต้านการสู้วัวมานาน แต่การสู้วัวก็ฝังแน่นในวัฒนธรรมสเปน

ซิลเวีย โตบาล โฆษกหญิงของเอกัวนีมัล กล่าวว่า เธอหวังว่า การประท้วงครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการสิ้นสุดของการสู้วัว ในแต่ละปี จะมีวัว 12,000 ตัวถูกฆ่าในสเปน

สนามสู้วัว ลาส เบนตัส ของกรุงมาดริด เป็นสนามสู้วัวที่สำคัญที่สุดในโลก โดยมีชื่อเสียงทั้งในเรื่องที่ถูกวิจารณ์หนักที่สุด และมีแฟนเหนียวแน่นที่สุด การสู้วัวเป็นที่นิยมมากที่สุดอันดับ 2 ในหมู่ชาวสเปน รองจากฟุตบอล

ข่าวจาก ครอบครัวข่าวช่อง 3 วันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ.2552

ที่มาhttp://www.krobkruakao.com/kkn/?a=news&s=detail&news_id=2940

ความจริงเบื้องหลังเกมสู้วัว
ฉากที่ 1 ​

​

นี่คือุปนิสัยที่แท้จริงของวัวกระทิง ยามที่มันไม่ถูกทำร้ายหรือถูกยั่วยุตรงข้ามกับ
คำโฆษณาชวนเชื่อ ของพวกปกป้องเกมสู้วัวจริง ๆ แล้ว ตามธรรมชาติ พวกมัน
ชอบอยู่เงียบ ๆ และเป็นสัตว์รักสงบ หากจะมีปฏิกิริยาตอบโต้ก็เพียงเพื่อป้องกัน
ตนเอง หรือหวงหญ้าของมันเท่านั้นก่อนหน้าการต่อสู้เป็นเวลาหลายชั่วโมง มัน
จะถูกขังในที่แคบ ๆ และโดดเดี่ยวไม่มีอาหาร น้ำ แสงสว่าง หรือเพื่อน ๆ ในฝูง
ของมันเหล่านี้ทำให้มันตื่นกลัวและสับสน มันอ่อนล้าทั้งสภาพร่างกายและจิต
ใจและก่อนจะถูกปล่อยเข้าไปในสังเวียน มันจะถูกทิ่มแทงด้วยฉมวก มันจึงได้
รับบาดเจ็บและโชกเลือดอยู่แล้ว ก่อนหน้าที่การต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดจะเริ่มขึ้น
ดังนั้น การต่อสู้นี้ จึงถูก "กำหนดเอาไว้แล้ว" อย่างสมบูรณ์​

<HR width=250>

[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ฉากที่ 2[/FONT]​

​

ม้าก็เป็นเหยื่ออีกชนิดหนึ่งในเกมสู้วัว เมื่อถูกปิดตามันจึงไม่สามารถหนีไปไหน
ได้ มันถูกใช้ล่อวัวที่กำลังโกรธและมึนงงให้พุ่งเข้าหา ชายสองคนบนหลังม้า
เป็นผู้แทงหอกลงไปบนหลังวัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ม้าเป็นผู้รับเคราะห์แทน แม้ว่า
มันจะถูกพันด้วยเบาะไว้อย่างดี แต่ม้าก็ยังบาดเจ็บและถูกขวิดตายเป็นประจำใน
สนามสู้วัว​

<HR width=250>

[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ฉากที่ 3[/FONT]​

​

คนขี่ม้าทิ่มหอกให้ลึกเข้าไปในแผงคอและแผ่นหลังของวัว บิดคว้านเพื่อฉีก
กล้ามเนื้อและเอ็น เพื่อไม่ให้วัวต่อสู้ป้องกันตัวเองได้ ทั้งช่วยให้เลือดออกมาก
ยิ่งขึ้น​

<HR width=250>

[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ฉากที่ 4[/FONT]​

​

บาดแผลและการเสียเลือดจากคมหอก เป็นสิ่งอำมหิตเหลือเชื่อและยิ่งทำลาย
ข้ออ้างว่านี่เป็นการต่อสู้ที่ยุติธรรม​

<HR width=250>

[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ฉากที่ 5[/FONT]​

​

คนเหล่านี้กล้าหาญดั่งคำโฆษณาโอ้อวด เกี่ยวกับเกมสู้วัวจริงหรือ ผู้กล้าเหล่านี้
จะรอคอยจนกระทั่งวัวจวนพิการ ด้วยหอกบนหลังม้าจึงจะกรูเข้าหา แต่พวกเขา
ก็พร้อมเสมอที่จะมุดแผล็วเข้าแอบหลังกำบังข้างสนามได้ทุกเวลา ในภาพจะ
เห็นแผ่นป้ายโฆษณา Corona Beer ของบริษัท Anheuser-Busch ซึ่งให้
การสนับสนุนความโหดร้ายและขี้ขลาดนี้​

<HR width=250>

[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ฉากที่ 6[/FONT]​

​

ขณะที่วัวกำลังเหนื่อยหอบ เลือดโทรม และสิ้นแรง พวกผู้กล้าก็จะออกมาจากที่
กำบัง แล้วเข้าโจมตีเหยื่อด้วยฉมวก เงินค่าโฆษณาเบียร์ไหลเข้ากระเป๋าขอเจ้า
ของสนาม เป็นการสนับสนุนอย่างเปิดเผยต่อการทรมานสัตว์ และกิจกรรมอัน
ผิดกฎหมายทั่วทั้งสหรัฐและทั่วโลก​

<HR width=250>

[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ฉากที่ 7[/FONT]​

​

หอกและฉมวกยิ่งทำร้ายหัวไหล่ที่เต็มไปด้วยบาดแผล ให้ฉีกขาดมากยิ่งขึ้นรวม
ทั้งกล้ามเนื้อคอ ทำให้วัวช็อก หอบสำลัก และร้องออกมา

<HR width=250>
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ฉากที่ 8[/FONT]​

​

ยิ่งฉมวกพุ่งแทงตัวมันมากขึ้นเท่าไหร่ การเสียเลือดก็จะเพิ่มขึ้นเท่านั้นทำให้มัน
อ่อนล้าและเคลื่อนไหวลำบากยิ่งขึ้น บางครั้งมันไม่สามารถจะก้าวเดินยกหัวขึ้น
ได้เลย นั่นยิ่งทำให้มันไม่มีโอกาสต่อสู้หรือป้องกันตัวเองได้เลย

<HR width=250>
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ฉากที่ 9[/FONT]​

​

บ่อยครั้ง ที่วัวเกร็งค้างไปทั้งตัวไม่อาจเคลื่อนไหว เนื่องจากความเจ็บปวด
ทรมาน มันถึงกับลงไปคลานหรือล้มทั้งยืน ขณะพยายามที่จะกระเสือกกระสน
เอาชีวิตรอด​

<HR width=250>

[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ฉากที่ 10[/FONT]​

​

แม้จะบาดเจ็บสาหัส เจ้าวัวน้อยแค่โตกว่าลูกวัว ยีนหยัดขึ้นปกป้องตัวเอง ทำให้
"นักสู้วัวผู้กล้าหาญ" ถึงกับวิ่งแจ้นเข้าที่หลบภัย​

<HR width=250>

[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ฉากที่ 11[/FONT]​

​

ต่อเมื่อวัวผ่านขั้นตอนการถูกทรมานด้วยวิธีการต่าง ๆ ของเหล่าสมุนนักสู้วัว
เป็นเวลาหลายชั่วโมง จนเสียขวัญ สับสน และหมดแรง ร่างกายเต็มไปด้วยบาด
แผล และเสียเลือดใกล้พิการอยู่แล้ว จึงวาระนั้นเอง ที่มาตาดอร์ผู้องอาจจะ
ปรากฏตัวออกมา เพื่อโอ้อวด "ความกล้าหาญ" ต่อหน้าผู้ชม นักสู้ผู้สง่างามจะ
แสดงลีลาต่างๆ หยอกล้อ ท้าทาย วัวที่หมดแรงใกล้ตายยืนแทบไม่ไหว แม้แต่
ขี้เยี่ยวก็ไหลออกมาอย่างอั้นไม่อยู่​

<HR width=250>

[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ฉากที่ 12[/FONT]​

​

หลังจากบำเรอความกระหายเลือด ของเหล่าผู้ชมที่กรึ๊บของเมาได้ที่ไปแล้ว
ฆาตกร "ผู้กล้าหาญ" ก็เร่งเหยื่อเข้าสู่ความตาย ด้วยการคลุมหัวของมันด้วย
ผ้าแดงแล้วแทงด้วยดาบ พวกโฆษกของเกมสู้วัวอ้างว่าดาบนั้นจะทะลุพรวด
เข้าถึงหัวใจและทำให้มันขาดใจตายทันที แต่สิ่งนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
โอกาสดีที่สุดของวัวที่จะตายได้เร็วโดยเกี่ยวเนื่องกัน ก็ต่อเมื่อมันถูกแทงเข้า
ไปในปอด ซึ่งจะทำให้มันกระอักเลือดออกมาทั้งปากและจมูก แล้วจมอยู่ในกองเลือดของมันเอง บ่อยครั้งที่มันถูกแทงซ้ำแล้วซ้ำอีก จนส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดและพยายามดิ้นรน ที่จะหนีไปให้พ้นจากแก็งค์ฆาตกรโหดที่รุมล้อมอยู่​

<HR width=250>

[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ฉากที่ 13[/FONT]​

​

วัวถูกห้อมล้อมด้วยฝูงฆาตกร โดยมีผืนผ้าสีสามผืนปรากฏลวงอยู่โดยรอบ
เลือดทะลักออกมาทั้งปากและจมูก ทันทีที่แทงมันด้วยดาบยาวพวกฆาตกรพยายามที่จะกดและลากใบดาบให้กินเข้าไปลึกที่สุดในเนื้อ บีบให้มันยอม
ทรุดตัว เพื่อจะยอมรับการทรมานอยู่ตรงนั้น​

<HR width=250>

[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ฉากที่ 14[/FONT]​

​

ท้ายที่สุดวัวก็ไม่อาจทนยืนอยู่ได้อีกต่อไป มันทรุดลงยอมศิโรราบ ฆาตกร"ผู้
กล้าหาญ" ถือมีดอยู่ในมือ ย่างเท้าเข้ามาหาวัวที่สิ้นเรี่ยวแรงและใกล้ตายเพื่อ
ทรมานมันต่อนักฆ่า (thug) บรรจงแทงเข้าไปที่ด้านหลังคอ แล้วคว้าน
มีดกลับไปกลับมาอย่างเลือดเย็นเพื่อตัดสันหลังของมัน​

<HR width=250>

[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ฉากที่ 15[/FONT]​

​

การตัดเฉือนของคมมีดทำให้วัวกลายเป็นอัมพาตแต่ยังไม่ตายและยังคงรู้สึกตัวอยู่​

<HR width=250>

[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ฉากที่ 16[/FONT]​

​

ภาพนี้แสดงถึงเนื้อแท้ของเกมสู้วัวได้อย่างเหมาะเจาะ นั่นคือ มันสะท้อนให้เห็น
ถึงโฉมหน้าของพวกตาขาวแต่ใจอำมหิต ชื่นชอบการเข่นฆ่าทารุณซึ่งพยายาม
จะอำพรางตัวเองไว้ด้วยหน้ากากของ ศิลปะ ความกล้าหาญ และ ประเพณี โดย
อ้างว่าเป็นการ "ท้าทาย" ศัตรู- ซึ่งถูกทำให้สิ้นหวังพ่ายแพ้อยู่ก่อนแล้ว​

<HR width=250>

[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ฉากที่ 17[/FONT]​

​

พลเมืองส่วนใหญ่ทั้งของสเปนและเม็กซิโกไม่สนับสนุนเกมสู้วัว เสียงร้องแห่ง
ความเมตตาที่ต้อต้านความเลวร้ายนี้ได้รับการตอบรับจากรัฐบาลอย่างเงียบงัน
และเมินเฉยซึ่งเป็นความฉ้อฉลและทรยศเช่นเดียวกับอุตสาหกรรมเกมสู้วัว​

<HR width=250>

[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ฉากที่ 18[/FONT]​

​

วัวที่ขยับตัวไม่ได้แต่ยังมีความรู้สึกตัวอยู่ ถูกลากไปรอบ ๆ สนามเพื่อให้ความ
บันเทิงครั้งสุดท้ายแก่ฝูงชนที่กระหายเลือดและอีกครั้งหนึ่ง คุณจะมองเห็นป้าย
โฆษณาของเบียร์โคโรน่าที่ให้การสนับสนุนการฆ่าและทรมานสัตว์อย่างชัดเจน​

<HR width=250>

[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ฉากที่ 19[/FONT]​

​

เหยื่อของเกมสู้วัวไม่ได้มีแค่วัวและม้าเท่านั้น แม้แต่วัวสาวที่ผอมแห้งเหล่านี้
ก็ยังใช้เป็นเครื่องมือฝึกสำหรับนักสู้วัวและนักท่องเที่ยวเพื่อความสนุกบันเทิง
รวมทั้งลูกวัวก็ยังมีไว้ให้บริการ ขอเพียงแค่มีเงินจ่ายค่าธรรมเนียม ใครก็ได้ที่มี
อาการป่วยทางจิต สามารถที่จะลงไปฆ่าหรือทรมานสัตว์เหล่านี้ในสนามสู้วัว
ได้ทุกเมื่อ​

<HR width=250>

[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ฉากที่ 20[/FONT]​

​

ลูกจ้างในสนามสู้วัวจุ่มปลายฉมวกโชกเลือดลงไปในจอกเบียร์ ฉมวกนี้เพิ่งดึง
ออกมาจากร่างของวัวที่ถูกทรมานจนตายในสนามสู้วัวของเมืองพูบลาเม็กซิโก
เบียร์โคโรน่านั้นมีเลือดของสัตว์ผู้บริสุทธิ์แปดเปื้อนอยู่อย่างแท้จริง หวังเป็น
อย่างยิ่งว่าผู้คนที่มีเมตตาธรรมจะระลึกถึงภาพนี้ก่อนที่จะสั่งเบียร์ยี่ห้อนี้มาดื่ม
หรือซื้อสินค้าทุกตัวของ Anheuser-Busch น่าขำ บริษัทซึ่งเป็นผู้ผลิตเบียร์
Budweiser และเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ เบียร์โคโรน่าก็ยังเป็นเจ้าของ Sea
World marine parksซึ่งอ้างว่าเป็นผู้ใส่ใจต่อชีวิตสัตว์และสิ่งแวดล้อม
ภาพนี้สะท้อนความเป็นจริงที่แท้ ​

Anheuser-Busch ปฏิเสธที่จะยกเลิกการสนับสนุนกิจกรรมที่อาจจะกล่าวได้
ว่าเป็นการทารุณสัตว์ที่เลวร้ายที่สุดบนผืนโลกและยิ่งน่าประหลาดใจที่พวกเขา
ยังเป็นผู้สนับสนุนการแข่งขันขี่ม้าพยศ(rodeos) ทั้งในสหรัฐและแคนาดาอีกด้วย​

<HR width=250>

ที่มา http://www.sharkonline.org/bullfighting1.mv