เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

เรากำลังจะวิจารณ์อีกศาสนาหนึ่ง อีกหนึ่งความเชื่อน่ะครับ ...ผมคงไม่ร่วมวิจารณ์ ถ้าจะวิจารณ์เรื่องนี้ กรุณาเปิดอีกกระทู้น่ะจ้ะ...แหะๆ กลัวศิษย์ไสยราม องค์มหาภควันครับ

สัญลักษณ์บางอย่างมีไว้ เป็นจุดรวม อาจจะไม่มีความหมายในด้านตัวตนก็ได้ แต่เป็นปรัญญาอีกด้าน มีผู้สร้าง ก็มีผู้ทำลาย แต่ล่ะศาสนามีการพัฒนาการกันมา องค์เทพ อาจจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ไปตามแนวปรัชญาและสังคมยุคนั้น ความคิดเหล่านั้นก็เริ่มเสริมแต่งขึ้นมา

สาเหตุนี้เอง จึงมีการอุบัติขององค์สมเด็จพระศาสดา พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อมาสั่งสอน แนวปรัชญานั่น ให้กลับเข้าสู่หลักของธรรมชาติ หลักของธรรม

จะอย่างไรก็ตาม ใครจะเชื่ออะไร มีสิทธิ์ทำตามที่เชื่อ ตราบใดอยู่อย่างสงบได้ เมื่อเป็นแบบนั้น ศาสนานั้น คนกลุ่มนั้น จึงควรเรียกว่า อารยชน ครับ หรือกลุ่มคนที่คิดแบบอารยะ

น่ะเอาเรื่องหลวงพ่อทรง ดีกว่าน่ะจ้ะ ของบางอย่างมีครู เราพูดมากจะซวย

พระอริยะบุคคลแบบพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงน่ะ ท่านถึง และ พ้นไปแล้ว ที่จริงท่านพูดอีกหลายเรื่อง แต่ล่ะเรื่องแรงกว่านี้ก็มี ครับไปอ่านหรือ ฟังเทศดูดีๆจิ เพราะอย่างท่านพูดได้ ท่านไปของท่านได้ ท่านมีทางออก และมีวุฒิภาวะที่ จะ commentได้

แต่อย่างคุณ อย่างผม อย่าดีกว่าครับ...แหะๆ

ด้วยรัก และ ห่วง

 

โม้...ไหนลองเล่ามาซิ

 

พระนารายณ์ไม่มีปรากฏในพุทธประวัติ แต่หลวงพ่อฤาษีบอกว่าท่านไปพบมาบอกว่า มีแต่เทวดาที่ชื่อ มเหสักขา องค์นี้เวลาใครบูชาพระนารายณ์เมื่อใดท่านองค์นี้จะทำหน้าที่รับเอง หากเป็นตามนี้ สรุปว่าพระนารายณ์ กับ ท่านมเหสักขา คือองค์เดียวกัน

 

หายไปนานเลยน่ะครับ

เป็นเศรษฐีใหม่หรือยังครับ??????

เรื่องเบี้ย...สวย แต่ถ้าจะให้ผมฟันธง ผมคงต้องโกหกคุณน่ะครับ

ต้องบอกมาก่อนว่าคุณได้มาจากใคร คนนั้นน่าเชื่อถือหรือไม่ครับ แต่ผมพอจะเดาออกน่ะครับ...แหะๆ

ถ้าเขว๋ มีคนอยากได้น่ะครับ

 

เรื่องนี้ กราบเรียนเชิญ พณท่าน ศาสตราจารย์ ศนิวาร มาแจงหน่อยจ้า

ผมย้ายห้องพระเสร็จหาของง่ายขึ้น ผมจะเอาปรอทที่ตายแล้วมาโชว์

เอาแบบโชว์กันด้วยของ ...แหะๆ

 

ถ้าหาพระนายรายณ์ในพุทธประวัติก็ไปดูที่พระไตรปิฏกหมวดพระสูตรนะคับ
จะมีกล่าวไว้ในนามพระวิษณุกรรมคับ
ชื่อในพระไตรปิฏกกับชื่อทั่วๆไปอาจจะสับสนกันมั่งนะคับ
เพราะถ้าพรหมณ์จะเป็นสันสกฤต พระพุทธศาสนาจะเป็นภาษามคธหรือบาลีคับ
ความคิดเห็นส่วนตัวครับ...รอฟังท่านอื่น

 

มังกร ซ่อนกาย เริ่มปรากฎ กราบเรียนเชิญมา แถลงให้คุณ เทวทูต ท่านสว่างหน่อยเถิด

ภาษา มคธ บาลี หรือ สันสกฤต น่ะ ...แหะๆ น่ะ

ผมแค่ภาษาไทยยังตกเลย ที่สกดอยู่นี่ ก็ไม่มี spell check ภาษาไทย ลุกสาวมาอ่านเจอ มันยังเบิ้ลผมอยู่เรื่อยๆ ว่าผิดอีกแล้ว ...พ่อ สอนอะไรทำไมไม่ค่อยจำบ้างน่ะค่ะ...เหอๆ ถูกของมัน

ผมพวก ไส้เดือน อาจจะต้องค่อยๆ โม้น่ะ

 

ความคิดส่วนตัวอีกทีครับ...
เรื่องเบี้ยแก้นะครับ
ตามที่เคยได้ยินและฟังมา
ผมขอแสดงความคิดเห็นข้อ2 และ3
ข้อ2 คำว่าฆ่าปรอท คือการนำปรอทมาผ่านกรรมวิธีตามสูตร
เพราะสมัยก่อนปรอทต้องดักจับด้วยไข่เน่า พอได้ตามต้องการ
ก็เอามาหุง จึงเรียกว่าฆ่าปรอท
ส่วนที่เตือนได้หรือดิ้นได้ เพราะวัตถุมงคลที่เป็นรูปหรือตัว
ครูอาจารย์ท่านให้บรรจุ อาการ32 ธาตุ และขันธ์5 และพระคาถา
ประจำสาย เช่นสายวัดกลาง สายอ่างทอง
.........
ส่วนข้อ3
ปรอทสายหลวงปู่ทรง เป็นปรอทวิทยาศาสตร์
เลยไม่ต้องฆ่า และได้ข่าวว่ามีปรอทเชื้อครูประสมอยู่
บวกกับผู้มีคุณวิเศษและแรงครูสายอ่างทอง
จึงได้วิเศษ...ไชยชาญ..สมชื่อ

 

หากพูดถึงพระวิษณุกรรมที่ปรากฏในพระไตรปิฎก ว่าเป็นองค์เดียวกันกับพระนารายณ์แล้วไม่น่าจะใช่ เพราะพระวิษณุกรรมเป็นครูช่างทุกสาขา พระอินทร์ใช้ให้ไปเนรมิตสิ่งของเครื่องใช้ให้พระพุทธเจ้าเมื่อครั้งเสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์อยู่บ่อยๆ หากท่านเป็นพระนารายณ์จริงพระอินทร์คงไม่กล้าใช้อย่างแน่นอน

และพิจารณาดูจากเรื่องรามเกียรติแล้วก็เป็นคนละองค์กัน แต่ตำราไสยศาสตร์ทางพราหมณ์ในไทยบางสาขาก็กล่าวว่าเป็นองค์เดียวกันกับพระนารายณ์แต่มีอีกชื่อหนึ่งว่า พระเพชรฉลูกรรม

บังเอิญว่าทำหนังสือ เทวาปกรณ์ หายเลยไม่สามารถสอบทานให้ได้ แต่ความคิดของผมนั้นไม่ใช่องค์เดียวกันอย่างแน่นอน

 

อ่านครั้งล่าสุดหน้าไหนจำไม่ได้เลย

เปืดมาอีกที คุยเรื่องพระนารายณ์กันซะแล้ว

กระทู้ฮอตจริงๆ ตามไม่ทันเลย

 

การฆ่าปรอทนี้เนื่องจากปรอทเป็นธาตุกายสิทธิ์มีพิษในตัวเองและสามารถหลบหนีได้ คือมีชีวิตนั่นเอง เมื่อโบราณาจารย์จะเอาปรอทมาใช้จึงทำการฆ่าพิษด้วยว่านยาและแร่ธาตุต่างๆไม่ให้เกิดพิษเป็นอันตรายแก่ผู้ใช้ และการฆ่าพิษนี้ไม่ได้ทำให้กายสิทธิ์ของนั้นปรอทตาย

คำว่า ตาย คือฆ่าพิษปรอท และ ตาย อีกลักษณะหนึ่งคือทำให้แข็งตัวเป็นก้อนไม่สามารถหนีไปไหนได้เมื่อจะทำเป็นปรอทสำเร็จ แต่กายสิทธิ์ยังคงอยู่สามารถบอกเตือนได้เมื่อเกิดอันตรายตามหลักวิชาอาคมที่กำกับเอาไว้

แต่ปรอทเป็นธาตุที่แปลกคือกินธาตุอื่นด้วยจะเห็นว่าทองพอถูกปรอทกินจะขาวไปหมดแต่พอใช้ไฟเป่าก็กลับสภาพเดิมแต่ปรอทระเหยหนีการฆ่าปรอทจึงต้องใช้แร่ธาตุและว่านยาต่างๆกำกับให้ปรอทกินเพื่อให้จับตัวเป็นก้อน แต่ผู้ที่มีวิชชาและอภิญญาจิตจริงๆสามารถฆ่าปรอทให้แข็งตัวโดยไม่ต้องใช้แร่ธาตุอื่นให้ปรอทเป็นตัวเกาะ และรู้หรือไม่ว่าเหล็กไหลก็คือปรอทสำเร็จชนิดหนึ่งนั่นเอง

 

บ่มีครับผม กะตุด

มีดอกเดียวเล็กเท่าพริกขี้หนู กะตุดต่อลาภ

ตอนที่เค้าโฆษณาขายกะตุดกันเมื่อหลายปีก่อน ผมทันทุกรุ่นแหละครับผม เห็นมาตลอด ตั้งแต่หลวงพ่อท่านเริ่มลงหนังสือ ถ้าจะจองก็ทันทุกรุ่นแหละครับผม

แต่ไม่จอง อ่านประวัติที่ลงแล้ว เจ๊แกเีขียนซะนึกว่าอ่านประวัติพระโมคคัลลา

ไม่ชอบวิธีนำเสนอ <label for="rb_iconid_10"></label><label for="rb_iconid_10"> เลยบ่มีซักองค์ครับผม ต้องมาหาเก็บเอาทีละชิ้น ทีละองค์</label>

 

พี่มาดคับ มองสาวๆระวังแฟนพี่มาดด้วยนะคับ เดี๋ยวเขาจะเสียใจ

 

ผมมีเมลล์ประสบการณ์หลวงพ่อมา แต่ต้องขออนุญาตเจ้าของซ่ะก่อน ถึงจะเอาลงได้น่ะครับ

 

พระวิษณุ

น่าจะเข้าใจอะไรกันผิดแล้วนะครับ

พระวิษณุ เป็นนามหนึ่งของพระนารายณ์นะครับ ถือเป็นนามหนึ่งที่เรียกกันนั่นคือ"วิษณุนารายณ์" ตามการอ่านออกเสียงแบบฮินดี ถือเป็นหนึ่งในสามเทพ ตรีมูรติ ผู้สร้างโลก

ส่วนเทพที่เป็นที่นับถือกันในหมู่สายช่าง ทั้งหมดทั้งปวง มีการนำพระนามของทานมาตั้งเป็นชื่อคณะในหลายๆมหาวิทยาลัย ท่านมีนามว่า พระ"วิศวกรรม" หรือ หากอ่านออกเสียงแบบฮินดี ก็จะมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า พระ"วิศวกรรมมันต์" ซึ่งทางอินเดีย หรือ ฮินดูจะนิยมนับถือ ท่านว่าเป็นเทพแห่งการเนรมิตร สรรค์สร้าง เฉกเช่นเดียวกับคตินิยมเดียวกัน แต่คนไทยชอบเข้าใจผิดและตีว่าเรียกชื่อใกล้เคียงกันเลยตีเหมาเป็นเทพองค์เดียวกัน ทั้งๆที่การอ่านชื่อก็แตกต่างกันอย่างชัดเจน

 

เเล้วปรอทกรอละครับ
รอพี่ศนิวารเล่าให้ฟัง สนุกดีครับ
เคยมีคนผ่ามาให้ดู โห เป็นซี่ๆเล็กๆๆ เหมือนเฟือง คนโบราณทำได้ไง เก่งครับ

 

ตัวผู้ แบบเลี่ยม ( เคยใช้ติดตัวเข้าป่า หากินมา หกปีกว่า ) และแบบผ่า ลูกนี้ ถูกปรอกกัดทะลุมาจากในกรุ เขาผ่าออกดู ผมเลยซื้อต่อมาไว้ดู



ตัวผู้และตัวเมีย ( เปียกทอง ) และแบบผ่า มีไว้คู่กัน แต่ไม่เคยออกลูกหลานมาให้น่ะครับ อยู่กันเงียบๆคู่นี้...แหะๆ


๑) ตัวผู้ผม เอามาโชว์แบบผ่าให้ดูเอง ข้างในจะเป็นแบบลูกกอล์ฟ แบบลูกในเป็นหลายเหลี่ยมก็มี หายังไม่เจอ สงสัยแขวนไว้ที่หัวเสาเอกที่บ้าน ต้องปีนขึ้นไปดู แขวนไว้แล้ว ...เฮงๆๆ

ไม่รู้ว่าคนโบราณท่านตีกอล์ฟหรือปล่าว มันมีหลักฐานน่ะ...แหะๆ ใครว่าคนชาติสก็อตคิดค้นกอล์ฟ ผมไม่เชื่อน่ะ

๒) ตัวเมีย ข้างในจะเป็นเหมือนลานนาฬิกา มีแต่ไม่กล้าผ่า ฟังเขาเล่า

เอาไว้ เรื่องหลวงพ่อทรงให้เข้าที่ คุณจินไปเปิดกระทู้ ผมจะเอาของแปลกๆมาร่วมแจม แต่ขอย้ายห้องพระก่อน เพราะตอนนี้หาอะไรไม่ค่อยเจอ

เคยเอาไปให้ทั้งอาจารย์และหลวงพ่อทรงท่านพิจารณาดู

หลวงปู่ผมบอกว่า อื้อๆ ของเก่า แล้วเสกให้

ส่วนหลวงพ่อทรงว่า ของแปลก แล้วเสกให้อีกที...แหะๆ

ผมประเภทชอบของพุทธคุณ ต้องเสกอัดซ้ำ ไม่ชอบของทำขาย ผมชอบใช้ของแบบนี้มาก...เหอๆ

 

กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรงครับ

ขออนุญาตถามพี่พีคับ (ในฐานะผู้รู้มาก่อน)
ตื่นเต้นครับพรุ่งนี้จะมีรถเป็นของตนเองคันแรก
ขอคำแนะนำหน่อยครับว่าควรจะทำอย่างไรให้เป็นมงคลกับรถคันแรกครับ
และการนำรถไปให้ครูบาอาจารย์เจิมต้องเลือกอย่างไร
หากหลวงพ่อทรงยังอยู่ต้องไปขอเมตตาหลวงพ่อแน่นอนครับ
ขนาดองค์ท่านไม่อยู่ผมก็จะเอาน้ำมนต์ที่ขอให้หลวงพ่ออธิษฐานไว้ให้
พรมที่รถแล้วห้อยหน้ารถด้วยพระหลวงพ่อก็คงได้นะครับ
ยอมรับว่าตื่นเต้นมากๆครับ....
แต่เมื่อท่านไม่อยู่แล้วกำลังหาว่าจะไปหาหลวงพ่อองค์ใดดีขอคำแนะนำหน่อยครับ
เอาที่ใกล้ๆเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ก็ได้ครับ

 

ผมยังจำความรู้สึกของผม ตอนมีรถคันแรกได้ครับ ยังจำรถได้เลย

แถวเชียงใหม่ ผมไม่ค่อยชำนาญครับ ต้องถามคุณสายละลอง คุณส้มฟัก

แต่ถ้าเป็นผม ผมจะ วิ่งไปหาหลวงปู่ครูบา ดวงดี วัดบ้านฟ่อน ทันทีครับ

 

ได้มาอีกเรื่องครับ
คือเมื่อคืนวันที่ 9/6/09 passport ของผมหมด visa ผมเลยส่งไปให้สำนักงานใหญ่ของบริษัทต่อ visa ให้ แล้วผมพักที่โรงแรม โรงแรมที่นี่จะเก็บ passport ของผมไว้เพื่อให้ตำรวจที่นี่ตรวจสอบว่ามีคนต่างประเทศเข้ามาพัก พอตอนกลางคืนตำรวจเค้ามาตรวจเห็นของผมไม่มี passport ก็คุยกับคนดูแลของโรงแรม พอตำรวจคุยกับคนดูแล คุยกันอี่ท่าไหนไม่รู้ตำรวจจะไม่ให้ผมพักที่นี่จะให้ผมออกไปนอนที่อื่น(ที่ไหนก็แล้วแต่เอ็งจะหา) ข้อหาเดียวครับเพราะไม่มี passport แต่ผมได้ copy passport ไ ว้ให้ทางโรงแรมเก็บไว้แทนตัวจริง ตอยเค้าคุยกันผมไม่ได้อยู่ด้วย ผมอยู่ในห้อง คนทางโรงแรมก็เข้ามาบอกผมให้ไปคุยกับตำรวจเองเพราะเค้าคุยแล้วยังไงตำรวจก็ไม่ยอมให้ผมพักที่นี่ ไอ่ผมก็ตายล่ะแล้วจะไปนอนที่ไหนว่ะไม่รู้จักใครสักคน คือบริษัทเค้าให้ผมมาดูแลฟาร์มปลาสวายแถวบ้านนอกด้วยสิมาคนเดียวด้วย เลยแต่งตัวออกไปคุยกับตำรวจ ก่อนออก ก็ขอหลวงพ่อทรง แ ล้วก็ใ ส่ สร้อยพระออก ไ ป ขอ ใ ห้ตำรวจเข้าใจเราหน่อยเราไม่ได้เข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย พอไปเจอตำรวจ(มาตั้ง 3 คน) ผมก็สวัสดีตามธรรมเนียม เค้าก็ยิ้มรับ(เริ่มอุ่นใจหน่อย) เชื่อไหมครับผมไม่ได้คุยอะไรกับตำรวจเลยเค้าคุยกับคนดูแลเ องว่าไม่เป็นไร แล้วก็ไล่ให้ผมกับไปพักผ่อน ไอ่ผมก็งงอะไรว่ะไหนตอนแรกจะให้เราไปนอนที่อื่น ยังไงก็เข้านอนที่โรงแรมไม่ได้ พอกลับเข้าห้องก็ขอบคุณหลวงพ่อทรง หลวงปู่หมุน แ ล้วหลวงพ่อสง่า เพราะผมห้อย 3 องค์ แต่ตอนขอ ขอหลวงพ่อทรงองค์เดียวครับ
กราบหลวงพ่อทรงครับ