พระเครื่อง/วัตถุมงคลที่เลี่ยมกรอบพลาสติก พลังจะลดลงไหมค่ะ

จิตปรุงที่ปรุงแต่งเองนะกลัวนะครับ สำหรับการจับพลัง หายากในสภาวะที่หลุดพ้นแบบนี้ เพราะผมโดนมาแล้ว มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งอ้างการจับพลัง มีพลังรุนแรง แต่สุดท้ายไม่พ้นหลักการทางวิทยาศาสตร์ ในการตรวจแร่ธาตุต่างๆ ซึ่งการจับพลังเชื่อแ่น่ว่าทำได้ แต่น้อยคนนักจะสัมผัสได้ครับ

 

ขอแจม ผมไม่กล้าใส่หรอก...แหะๆ แต่จะเสริม

สนามพระผมเดินจนพรุนตั้งแต่หนุ่มๆ ซื้อพระน่าจะเป็นพันๆองค์ ไม่มีแบบนี้หรอกจ้า

แต่พวกนั่งจับนะมี วัดข้อศอกนะมี พูดเอง เออเอง ว่ามีแสง มีพลัง ต้องฟังกันสนุกๆ

 

ผมไม่รู้หรอกว่ากั้นได้หรือไม่ได้ เพราะไม่มีตาใน ไม่ได้แบบฝึกส่องหาพลังงาน หรือแสงออรอร่า

รู้แต่ว่า พระที่ผมใส่แล้วช่วยให้รอดตาย รอดจากอันตรายนั้น ล้วนอยู่ในพลาสติกหุ้มทั้งสิ้น

 

เรื่องแบบนี้เถียงกันมา น่าจะหลายศตวรรษนะจ้ะ

เอาว่า ใครมาถูกทาง แนวธรรมมะก็ไปน่ะครับ

ส่วนใครมาแนวกระพี้ ก็แนวกระพี้ไป ไม่ต้องมาเถียงกันหรอกครับ...แหะๆ

 

..... อ่านในเรื่องปริตรเถอะครับ

ทรายปริตร มีอยู่ ด้ายปริตร มีอยู่
ผ้าขาวที่ชาวบ้านนำมาประทับรอยเท้าพระ แล้วบูชามีอยู่ ข้อนี้เป็นเหตุให้ พระพุทธองค์ เว้น วินัยข้อ ห้ามเหยียบผ้าขาว
.......................
วัตถุมงคล คำว่ามงคลในที่นี้คือมงคลที่เกิดเอง จาก ศรัทธา ที่มีต่อพระรัตนตรัย และผู็้้ ควรบูชา เช่น บิดามารดา ครูบาอาจารย์

ไสยศาตร์ ศาสตร์ แห่ง การ หลับใหล ใช่ครับ หลับใหล โดยอวิชชาเป็นตัวเริ่ม อุปาทานเป็นตัวนำ

แต่โดย ความเป็นจริง ไสยศาสตร์ คือการ นำอำนาจแห่งจิตมาใช้ทางโลก ตรงกันข้ามของ พุทธศาสตร์ ทีี่ใช้อำนาจแห่งจิต มาประกอบเพื่อ ตัดทวนกระแสโลก

เมื่อตามโลก ย่อมมี สิ่งหนึ่งที่ สำคัญ คือ "อุปาทานเพื่อสมมุติ"
เป็นหัวใจ


แม้พระเครื่องมีปางต่างๆคือการ อุปาทาน เพื่อสมมุติว่านี่คือพระพุทธองค์ สังเกตว่าเป็นลักษณะการสมมุติธรรมให้เป็นรูป เช่น เกศเปลวเพลิง เป็นต้น

เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู็้ ้บูชา ในทั้ง รูปสมมุติ ให้จิตจดจ่อศรัทธา น้อมเชื่อ และ พระธรรมไปพร้อมๆกัน ดุจดังกับ
มาณพ ลูกศิษย์ที่พึงจะรดน้ำ อาบให้ครูบาอาจารย์ และ รดน้ำมะม่วงไปพร้อมๆกัน จึงเชิญครูบาอาจารย์ตนนั่งใกล้ ๆ ต้นมะม่วงและทำการรดน้ำ นั้นเทียว
คืออุบายได้ ผลประโยชน์ได้ทั้ง 2 คือ
1. ได้ทำการเคารพครูอันยิ่ง คือการรดน้ำ
2. ได้รดมะม่วงให้เกิดผล

เช่นเดียวกับ วัตถุมงคล ให้พึงพิจารณาว่า พระพุทธ หรือพระสงฆ์ หรือรูปสิ่งที่ควรเคารพ หรือแทนสิ่งที่ควรเคารพ มาทำไว้ แล้วบรรจุ รูปลักษณ์สมมุติ เช่นอุ้มบาตร เพื่อหวังโภคทรัพย์ หรือ ยกมือห้ามบ้างเพื่อหวังห้ามศัตรู อันยิ่งคือบาป มาเป็นสมมุติ ของรูปนั้นๆ

การเสก หรืออธิษฐานจิต ก็เช่นเดียวกัน มัทั้งอัญเชิญ อำนาจ จิตของพระพุทธองค์ หรือพระธรรม พระสงฆ์เป็น พลังที่ฝากไว้ในโลก ก็ดี
หรือเชิญ เหล่าครู บิดามารดา เทพเจ้า มาอธิษฐานจิตไว้ก็ดี
หรือ เสกไว้ ให้จิตที่เต็มด้วยพลังฌาน สถิตย์ ไว้ แล้วทำหน้าที่ ต่างๆ แทนท่านก็ดี

จิตเหล่านี้ นั้น ต่างมีพลังแล้ว มีอานุภาพแล้ว แม้แค่ ผืนดินโลก ยังผ่านไปดูได้ ระยะภพต่างๆยังสามารถอาจดหรือไปท่องเที่ยวได้



พลาสติกบางๆ กระจิ๋วหลิวนี้หรือจะกั้นได้


....................พึงพิจารณาให้รอบคอบ
แม้จิตที่เปี่ยมพลังยังมีสมมุติ เป็นตัว นำทางหรือควบคุมไว้อีกอย่าง ก็ยังอาจพ้นได้เพระา สภาวะ พลาสติก อันเป็นวัตถุ อันธาตุ 4ประชุมกันแล้ว มีอากาศธาตุเข้าไปแล้ว
แตกต่างกับ พลังงานของจิตนัก
หากกั้นได้ก็กั้นเพียง พลังงานของธาตุต่างๆ ทางวัตถุธาตุเดียวกันนั้นเอง ที่ทำปฏิกิริยา กันเองเช่นความร้อน ของธาตุบางธาตุ เช่นเหล็กไหลเพลิง หรือความเย็นของเหล็กไหลเปียก

แต่หาก เหล่าผู้เสกอธิษฐานไว้ว่าไม่ให้มีสิ่งใดกั้น นั้นเป็นเรื่องแล้วแต่ผู็ิ้ ้ อธิษฐาน ท่านสมมุติบังคับจิตไว้เอง ไม่ได้เกี่ยวกับ ผู้อื่น นั้นเป็นของเฉพาะ อย่าเหมารวม ไว้

การไหว้ การบูชา หรือน้อมจิตเพื่ออัญเชิญหรือเคารพ เพื่ออธิษฐาน "ขอ"ของผูู้็บูชา ย่อมประสบทั้งบุญ ที่เกิดจาก ปูชาจะปูชนียานัง มงคล1 ใน 38 ประการ คือบูชาผู้็ที่ควรบูชาด้วย
และน้อมรับ เปิดกำลังใจ ให้อำนาจ จิตที่สถิตย์อยู๋มีผลขึ้นมา



ไสยศาสตร์ ที่ผมอ้างมานี้ อธิบาย หมายความ ทุกอย่าง ที่สมมุติ กันไว้ ทุกตัว

เช่น วิชาแพทย์ ก็ยังคือเป็นไสยศาสตร์ แต่เป็นฝ่ายใช้สมมุติ กับธาตุบนโลก กับ ร่างกาย และธรรมชาติบางอย่างๆ
ฟิสิกส์ก็ใช่ เพระาใช้สมมุติอุปาทาน

อักษรที่คุณพิมพ์คุณก็ใช้ไสยศาสตร์

คือจิต ไปผูกพันสมมุติกะมัน เท่านั้น
แม้พระ ที่ทักนิมิต เสมา เพื่อทำอุโบสถ นั้นก็ใช่ ไสยศาสตร์

ถ้าเรียกอีกชื่อให้เข้าใจง่ายก็คือ เดรัจฉานวิชา ก็ว่าได้ (อันแปลตรงตัวว่า วิชาอันไปทางขวาง ขวางพระนิพพาน )


คุณเทวทูต ไม่ได้เข้าใจไสยศาสตร์ หรือพุทธศาสตร์ พอละมั้ง
ท่านถึง ตะแบงแอก(เป็นภาษาชาวนาไทยโบราณ สมัยใช้แอกและคันไถ +
ชื่นชมควาย ที่น่ารัก แทนแพนด้า ) มาเช่นนั้น


ทิฏฐิของท่านเทวทูต ยังเป็นทิฏฐิที่ถูก คนและสถิติคัดง้าง ด้วยประสบการณ์และเหตุผลได้ เช่น มี ผู็้้ นำพระเลี่ยมมิดชิด เช่นคุณ ศนิวาร คัดค้านไว้

จริงๆ หากมีนิสัยผู้เจริญ เค้าจะถกเถียงกันต่อว่าทำไม ปิด ก็ใช้ได้ ไม่ปิดก็ไช้ได้

ไม่ใช่ยืนยันหัวแข็งกับความคิดเดิม นะ ท่าน


..................................................................

ปล. วัตถุมงคลที่พระองค์ สรรเสริญ ให้กราบไหว้มีอยู่

เจดีย์ 4 อย่างไงหละครับ
แถมพระองค์ยังสรรเสริญการกราบไหว้ต้นไม้


โพธิเจดีย์ ยังไงหละครับ

........อย่าเถียงว่านั้นไม่ใช่

"วัตถุ"ุ55555..................................................................



อ้อ.....อีกอย่าง อย่างพวก วัตถุมงคล มหาอุด กันปืน เทือกนั้น บางท่านบอกว่า ห้ามเลี่ยมปิด เดี่ยว พลังออกมาไม่ได้ 555+ รู้ไหมว่าการเสกมหาอุด ผู็้ ้ เกือบทุกท่าน มักมีเคล็ดอย่างหนึ่งคือ การอุด ปิด .....*** การกลั้นหายใจ ยังไงละครับ ..... เพื่อให้อำนาจเจตสิกของจิตไปสถิตย์ แล้วส่งพลังออกเป็นรูปพลังปิดกั้น รอบๆ วัตถุนั้น ยังไง หละ

บางท่านถึงกับใช้ ไม้สลักประตูที่แตกหักคาในช่อง ด้ามตาลปัตรที่แตกหักคาในรอยต่อของด้าม ถือเอาสมมุติว่าอุด กั้น ไว้ต่างหาก บางท่านเอาตะกรุดมามัด ปิดถัก ให้มิดชิดแล้วเสกอธิษฐานจิต ปิดทับเพื่อกรึงพลัง นั้นไว้ไม่ให้หลุดหรือคลายง่ายๆ (ที่เรียกกันว่าการ กรึง หรือตรึง ด้วยคาถาหิรัญยักษ์ม้วนแผ่นดินหรืิอคาถาอื่นๆ )
เป็นการเสกอีกอำนาจจิตหนึ่งเพื่อคุ้มครองพลังนั้นไม่ให้ เสื่อมหรือ ถอนไปได้ด้วยการคัด ...

เป็นพลังไปขัดขวางกระแสการถอนของอีกจิตหนึ่ง

เพราะ จิตที่อธิษฐานเป็นพลังงาน อุดปืน กันปืน ทำให้มั่น ได้พลังงานในแนวเดียว อารมณ์แน่วแน่ได้ ตัวเดียว (จะยับยั้งแล้วไปเสกเรื่องอื่นเช่นเมตตา โชคลาภ ซึ่งกระแสแทนที่จะดันออกไปกัน แต่เป็นกระแสเรียกเข้า ต้องปรับอารมณ์นานอยู่ หากไม่ชำนาญทำ ติดต่อกันเลย มีสิทธิ์ "บ้าได้" ยกเว้นแต่พระอรหันต์ หรือผู้ที่ได้ฌานทำเป็นวสีชนิด 1 วิ เข้าฌาน 4 แล้วอีก 1วิ เข้า สมาบัติ8 ได้ เลยทันที )
(สังเกตเกจิ ที่ท่าน เป็นพระที่เก่งคาถาอาคม ท่านจะเชี่ยวชาญด้านใดด้านหนึ่ง จริงๆ อีกด้านก็ทำได้ แต่ต้องปรับกำลังใจ นานหน่อย เท่านั้น )

เพราะเรื่องพวกนี้ต้องใช้แบบฉับพลัน อำนาจจิตต้องพร้อม เสมอ จึงมุ่งไปที่ เรื่องกัน หรืออุด เรื่องเดียว

แต่มีช่องโหว่ ในเรื่องของการต้าน พลังงานอีกตัวหนึ่งที่เป็นพลังจิตอีก พลังงานหนึ่ง ที่มาเพื่อถอน หรือสลาย หรือดึง พลังตัวนี้ไปใช้ จึงต้องตรึงกันไว้ อีกพลังงานเฉพาะตัวนึง



นั่นหละ ส่วนการใช้ จะเปิด หรือเลี่ยมปิด ไม่ได้ส่งผลอะไรไว้กับ พลังงานที่สถิตย์ เพราะการเลี่ยมปิด ไม่ได้เสกอะไรไว้เพื่อกดพลังนั้นเดิม และไม่ได้ เสกอะไรไว้ เพื่อคุ้มครองพลังใดๆ แต่เพื่อให้สะดวกในการใช้
เขียนอย่างง่ายๆคือ พลาสติก ไม่มีผลอะไร ต่อสนาม พลังงานจิตนั้น
ดีซะอีกอย่าง จะเป็นการสมมุติเคล็ดเพิ่มเพื่อเพิ่มเคล็ดการ อุด ปิด กันปืน ป้องกัน อีกต่างหาก
แต่ถ้าเลี่ยมแล้ว ขณะเลี่ยมดันทำจิตให้มีพลัง มั่น ในการ ปิดพลังงาน ของวัตถุนั้น เสกพลาสติกที่หุ้มเพื่อสะกด ลงไปละก็ ห้อยแบบเปิดจะดีกว่า

แต่ส่วนมากไม่เคยมีอย่างนั้น ........ ไม่มีใครติ๊งต๊อง ที่จะสะกดพลังอำนาจจิตที่ให้มาเพื่อช่วยตัวเอง ................หรือคุณเทวทูต จะทำ ..555



......เรื่องอีกอย่าง เช่นการเปิด หรือเจาะพลาสติกที่เลี่ยมพวกกุมารทองหรือหุ่นพยนต์
พวกนี้ คือผี ผี .. ประตูมันยังทะลุได้ แล้วพลาสติกแค่นี้ ทำไมมันจะทะลุไม่ได้
555+
แต่ที่มักจะเลี่ยม แล้วเจาะน่ะ มาจาก ผ้ ู็ที่เสก ทำเคล็ดไว้ว่า มีรูไว้ เสมือนให้มีีอากาศ ไว้หายใจสำหรับ เจ้าตัวนั้น เพราะพวกนี้ผ ู้็เสก มักจะเสกจน"เห็น"(ตรงนี้คุณน่าจะเข้าใจว่าเห็นยังไง อย่างไร เห็นอะไร) ว่ามันเป็นคนไปแล้ว
เลยทำเคล็ดไว้ เฉพาะ เท่านั้น เพราะพวกนี้ ไม่ใช่วัตถุมงคลอันควรกราบไหว้บูชา
มันคือผี ภูต หรือ บริวาร ที่เรา นำมาเลี้ยงไว้ต่างหาก เพื่อใช้งาน เท่านั้น และสั่งให้ทำอย่างไรก็ได้ .... ซึ่งผีพวกนี้ ถ้าหุ้มปิดมันก็อยู่ได้ แต่อุปทานของคนเสกก็ดี หรือตัวมันก็ดี คิดไปเองว่าเข้าไม่ได้ สิงไม่ได้เท่านั้น แต่ผู็เสกที่ดีหรือผู้เลี ้ีี้ยงที่ดี ย่อม สั่งสอน หรือคุยตกลงให้คลายทิฏฐิอุปาทานนั้นลงได้

เหมือนคุณเป็นผี ถ้าเห็นประตูปิด อยู่ ด้วยสำนึกเมื่อเป็นคน คุณจะเปิดประตูโดยจับที่ลูกบิดผลักหรือดึงเข้าไป แต่ถ้ารู็้ ้ตัวว่าว่าเป็นผี ว่าตายแล้ว หรือตกใจ คุณสามารถทะลุประตูผ่านเข้าไปได้เองเลย .....555+



(ปล. พวกนี้ กุมารทอง รักยม พยนต์ พราย หากไม่ทำบุญให้จนเป็นเทวดาเสียก่อน ก็ไม่ถือว่าเป็นวัตถุมงคล แต่เป็น วัตถที่มีพลังงานจิต ผสมอยู่เท่านั้น
ยกเว้นุ ...ทำุบุูญให้เป็นเทพ อันนี้ก็ยังถืออนุโลมว่าเป็นวัตถุมงคล ในแง่ของเทวตานุสติได้ แต่หากเป็นเทพ เค้าก็ยังรำลึกถึุงคุณ ว่าเป็นผู็้ ้ ช่วยเหลือเค้า ให้ดี เค้าย่อมต้องยอม รับใช้ให้ เช่นเดียวกับ พระราชา ผู้เคยเป็น เด็กวัด หรือลูกศิษย์รับใช้ของครูธรรมดาๆคนนึงที่คอยช่วยเค้าให้ได้ดี ถึงคราวพระราชามาหาย่อมต้องกราบพระ หรือครู ผู็นั้น แม้ยศท่านจะใหญ่ปานใด เนื่องเพราะ บุญคุณ อันเก่าก่อน ที่จำไม่เคยลืมต่างหาก )




............ทิฏฐิ บางคนสูงค่ามาก......................
จนทำให้ชีวิตของตนเองพลาดโอกาส ดีไปก็มี ......

บางทีก็สูงพอที่จะทำให้ ชีวิตตัวเอง สูญเสียไปก็มี ....................

..........หรือบางทีเผยแพร่ความเชื่อผิดๆ จนเป็นเหตุแห่งการ เสียชื่อเสียง หรือชีวิต และความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเลยก็มี.............................................................................


.เช่นนี้ พระพุทธองค์จึงบอกว่า กาลามสูตร ควรนำมาใช้ก่อนจะเชื่อสิ่งใด ............................................................................


อ้อ ผมไม่ได้เถียงพระพุทธเจ้า แต่ผมเถึยงคุณที่เข้าใจผิด นะ


อีกอย่าง มีชาดกหลายเรื่อง หรือแม้แต่พุทธประวัติหลายเหตุการณ์ ที่ อ้างถึง วัตถุที่มีพลัีงอำนาจบันดาล อะไรได้แปลกๆ ในหลายรูปแบบ
เช่นเรื่อง ไม้เท้าที่ ท่านอนาถบิณฑิกะวางไว้หัวนอนที่มีสิริมาสิง จนสิริพราหมณ์มาขอ ในอรรถกถาอธิบายว่าเป็นไม้เจว็ด แต่ ... บาลีใช้คำว่า ฑันทะ ที่แปลว่าไม้เท้า
แต่ไม้เืท้าอะไรสำคัญมากถึงวางไว้ที่หัวนอนหละ (คนสมัยก่อน เช่น อินเดียถือ เรื่องหัว อย่างมาก )

แก้วมณีโชติ ที่ หมูตัวนึงขุดได้ใต้ต้นอุทุมพร คาบไปแล้วเหาะได้
หม้อที่บันดาลนมส้ม ให้
กลองที่ตีเรียกช้างทั้งโขลง ในป่า
น้ำที่เสกด้วยมนต์เสกมะม่วง รดแล้ว มะม่วงออกผล ทันที สุกพร้อม
ทราย ด้ายปริตร
แก้วที่ หนึ่งในสี่บัณฑิต ขโมยไป ในมโหสถชาดก ที่บันดาลทรัพย์ให้
ดอกบัวที่พระพุทธองค์เนรมิตให้พระภิกษุผู็มีโทสะจริตไปปักกลางทราย เพื่อ ให้เพ่งกสิณ
น้ำมนต์ ที่พระอานนท์เถระเจ้ากล่าวสัจจะกิริยาด้วยรัตนสูตร พรมรดทั้งเมือง
น้ำที่ล้างอาสนะ แท่นหินแห่งพระองคุลิมาลเถระเจ้า เพื่อนำไปดื่มกินประพรมให้คลอดลูกง่าย
อานันทโพธิ์ ที่นำเอาเมล็ดมาจากพระศรีมหาโพธิ์ เพื่อปลูก ในสมัยพระพุทธองค์ จุดประัสงค์เพื่อให้ เหล่าสาวกบูชา เมื่อมาแล้วไม่เจอพระพุทธองค์
เจดีย์ 4 อย่าง หาเอา เหอะ มากมาย อธิบายได้ดีกว่าผมเยอะ
เจดีย์ที่ก่อจากทราย ก่อเพื่อบูชาและกราบไหว้แทนองค์สมมุติ พระพุทธเจ้า
เรือนเหล็กที่สร้างขึ้นไว้คลอดบุตรเพื่อ กัน นางยักษิณีมากินลูก
ขนของหนูเผือกโพธิสัตว์ ที่ สลัดไว้ ให้เศรษฐีผู้หนึ่งบูชา ให้เกิดความร่ำรวย
รองเท้าที่ถักจากหญ้าของ พระรามโพธิสัตว์ ที่หากตัดสินความผิดจะกระทบกันเกิดเสียงดัง
ไก่ 2 ตัวที่ตัวบน กินแล้วได้ทรัพย์ พันหนึ่ง ตัวล่างเก๋ากว่า กินหัวใจ ได้เป็นราชา รึไงนี่หละ จำไม่ค่อยได้แล้ว .....

พวงมาลัยทองคำที่เสกจากหญ้า ที่ พระอรหันต์องค์หนึ่งท่านพระปิลินทวัชร มั้ง ที่ทำให้เด็กลูก ของคนที่ศรัทธาท่านผู้หนึ่ง ที่เกิดเรื่องราวใหญ่โต จนถูกจับไปไต่สวนกันทั้งบ้านฐานมีของล้ำค่าไว้ในบ้าน ทั้งๆที่เป็นคนธรรมดา พระต้องไปช่วย
ผ้าโพกหัวของ อาฬวกะยักษ์ ที่ซัดไปในอากาศฝนแล้ง 7 ปี ซัดลงมหาสมุทร น้ำแห้งทันที


.....เยอะครับ จำได้ประมาณนี้ หามาอีก คงตะลึง มากกว่านี้

 

แหะ ๆ กระทู้สาระครับ น่าอ่าน ๆ

 

ไม่น่าเถียงกัน...ถ้ามั่นคงในพระรัตนตรัยและความดีของเราเอง...
พลังที่ลดลง...คือกำลังใจของเรา...กำลังของพระไม่มีประมาณอยู่แล้ว
พุทโธ อัปมาโณ
ธัมโม อัปมาโณ
สังโฆ อัปมาโณ
..พุทธบูชา มหาเตชวันโต
..ธัมมบูชา มหาปัญโญ
..สังฆบูชา มหาโภควาโห..
...ท่องกันทุกวันอยู่แลัว...

 

กระจ่างแจ้ง จับใจ นักแล

 

เขียนยังไม่จบครับ กรุณาอ่านใหม่อีกครั้ง

สาเหตุที่เขียนเนื่องจาก ผมอารมณ์พุ่งปริ๊ด จากโพสของ คุณ เทวทูต

เลยพิมพ์ ซะก่อน คร่าวๆ หลังๆเพิ่มอะไรอีกนิดให้ดูเข้าใจง่าย พอที่จะตอบคุณเทวทูต ได้ เท่านั้นหละครับ

...............................................................................................

("นายเม" คิด โชว์โง่อีกแล้วตรู)

 

ผมว่าคุณเทวทูตและหลายท่านคงเข้าใจเจตนาผมผิดแล้วมั้งครับเนี่ย

ทั้งคุณเทวทูต ท่านพี และ คุณspecialize โดยเฉพาะท่านพีเนี่ยผมนับถือท่านเป็นครูคนนึงเลยในการศึกษาพระเครื่อง ท่านคงเข้าใจความหมายในคำพูดของผมผิดไป

1. ผมไม่ได้กล่าวเลยนะครับว่าการจับพลังพระนั้นไม่จริง และก็ไม่ได้มีเจตนาจะปรามาสท่านทั้งหลายด้วย ว่าที่ท่านเช็คพลังได้นั้นเหลวไหล เพราะพุทธคุณนั้นยอมมีอยู่ในองค์พระอยู่แล้ว การเช็คพลังพระนั้นมีจริงแท้แน่นอน เช่นหลวงปู่ท่อนท่านสัมผัสได้ถึงพลังในองค์พระหลวงพ่อกวยบนคอของคนที่กำลังกราบท่าน ท่านกล่าวว่า เก่ง เก่งมากๆ

2. ที่คุณเทวทูตถามผมว่าลองแล้วหรือยัง ผมไม่เข้าใจว่าลองอะไร หากท่านจะลองผมก็ยินดี(อันนี้ไม่ได้ท้าหรืออะไรทั้งนั้น) คือผมไม่เข้าใจหนะครับไม่ได้มีเจตนาจะโต้เถียงหรือท้าทาย

- ที่ผมห้อยมีหลายองค์หลายพวงครับ นางกำแพง หลวงพ่อกวย หลวงพ่อโหน่ง หลวงพ่อพรหม(ช่องแค) หลวงพ่อเงิน(ดอนยายหอม) หลวงพ่อจาด หลวงพ่อจง หลวงพ่อแดง(เขาบันไดอิฐ) หลวงปู่ทิม(พระขาว) หลวงปู่ขาว(ถ้ำกลองเพล) หลวงปู่เจี๊ยะ พระมหาชนก พระปรอท หลวงพ่อพูล(ทั้งบ้านแพนและไผ่ล้อม) เศษสมเด็จวัดระฆังและพระธาตุพระสิวลี ....... ห้อยสลับกันไป

........ ทั้งหมดนี่ผมไม่ได้ลองและก็ไม่ได้แน่ใจเต็มที่ว่าแท้หรือไม่แท้ ..... ห้อยเพราะนับถือ และทั้งหลวงปู่บุดดาและสายหลวงปูมั่นเนี่ยถ้าผมเจอที่ไหน มีตังค์ผมเช่าเก็บหมด เอาไว้แจก

 

3. ผมไม่เคยปรามาสพระพุทธเจ้านะคุณ specialize การปลุกเสกพระเครื่องนั้นเป็นการอัญเชิญพระรัตนตรัยมาแผ่พลังพุทธคุณอยู่แล้ว และหลวงพ่อฤาษีผมก็นับถือท่านเป็นครูบาอาจารย์สุดหัวใจองค์นึง เทศน์ท่านคำสอนท่านหนังสือท่านผมก็ฟังบ่อยๆ เพื่อนผมก็ศิษย์ใกล้ชิดหลวงพี่เล็ก ออกเงินหล่อสมเด็จองค์ปฐมคนเดียวเลยถวายท่านไปด้วย

และขณะที่ผมแวะมาดูกระทู้เนี่ยผมกำลังโรยพระธาตุสมเด็จองค์ปฐมวรรณะปุพโพธาตุลงบนองค์พระหางหมากเพื่อจะเอาขึ้นคอพอดีเลย ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่านี่อะไรกันหว่า ........ งง

4. ที่หลายคนแสดงความเห็นกันว่าพลาสติกกั้นพุทธคุณได้หรือไม่ได้นั้น ผมถือว่าเป็นความเห็นเฉพาะตัวของแต่ละท่าน เป็นการแสดงความเห็น ไม่ควรเป็นการโต้เถียงจนกลายเป็นทะเลาะเบาะเเว้ง

5. เจตนาที่เล่าให้ฟังคือให้ท่านทั้งหลายพึงระวังไว้ เป็นการเล่าสู่กันฟังด้วยเจตนาดี และที่ผมกล่าวถึงคำว่า หลอกควายสบายใจจังหรือหมูเข้าเล้า ผมไม่ได้ด่าว่าท่านเป็นควายหรือเป็นหมู เพียงแต่ผมเจ็บใจแทนคนที่โดนหลอกและชิงชังพวกหลอกขายพระปลอม



ผม งง มากเมื่อกลับมาดูกระทู้ว่าทำไมมันไปไกลขนาดนี้ หวังว่าที่ผมชี้แจงไปคงครอบคลุมทุกประเด็น

ถ้าคำพูดใดที่ผมกล่าวแล้วท่านทั้งหลายไม่พอใจผมขออภัยไว้ในที่นี้และขอให้เชื่อเถอะว่า
ผมไม่ได้มีเจตนาไม่ดีกับท่าน

 

แหะๆ...ผมก็ว่าไปไกลไปหน่อย

เคยพูดกันทำนองนี้หลายครั้ง ผมเห็นการจับพลังพระมาเยอะหลายแบบครับ และดูแบบไม่ได้ปฏิเสธหรือยอมรับ มีทั้งแบบวัดความยาวศอก การจับแบบมือสั่น จับแบบตัวสั่น ( ปลุกพระ ) และจับแบบทางในเห็น สี แสง ฉัพพรรณรังสีของพระ หรือ เห็นนิมิต

ส่วนปลาสติกน่ะ เลี่ยมเถอะ เก็บพระไว้ดูนานถึงลูกหลาน ยกเว้นพระเนื้อผงบางประเภท อาจจะแตกเสียหายในเลี่ยมปลาสติกได้ แต่ถ้าเป็นโลหะ งา เขี้ยว เลี่ยมได้จะได้ไว้ดูน่านๆครับ

ส่วนเรื่องพลังพระเครื่องผ่านปลาสติกนี่ ไม่ใช่เรื่องใหม่ เถียงกันมาก่อนนานแล้วครับ มีทั้งสองฝ่าย เหตุผลก็ดีๆทั้งนั้น

เปิดประเด็นโดย อาจารย์อาวุโสท่านหนึ่งที่ มีชื่อเสียงมาก ท่านว่าพลังพระออกจากปลาสติกไม่ได้ จะวนเวียนอยู่ข้างในแค่นั้น

พอเปิดประเด็นนี้แหละ เถียงกันมาเป็นปี จนมาบัดนี้ยังไม่จบเลยแหะๆ มีสองฝ่าย

คือฝ่ายที่ไม่เลี่ยม

และฝ่ายที่เลี่ยม

และความเป็นจริงคือ ช่างเลี่ยมเก่งๆ เช่นบนบางลำภู ทำงานไม่ค่อยทัน คิวยาวสามวันก็มี แต่กรอบ สแตนเลส ก็ขายดี ขายได้เรื่อยๆ

คนเลิก ถักลวดพระ หรือ ใส่ถุงห่อไป หรือ อมพระในปากไปแล้วครับ...แหะๆ

คุยกันสบายๆครับ

คนชอบพระ เพราะชอบครับ

ส่วนธรรมมะ นะของดีแน่อน ไม่มีกล้าใครปฏิเสธได้ครับ

 

ใช่ครับท่านพี ......

อย่างเราเนี่ยเห็นพระสึก พระบิ่นแบบไม่น่าจะเป็นเนี่ยมันเสียดาย ความซึ้งความงามในเม็ดมวลสารและบนผิวเนี่ยหายไปหมด

ส่วนคนจับพลังพระเนี่คงต้องดูว่ามีเจตนาอะไร ได้ยินมาว่าทุกวันนี้มีคนนึงถ้าเดินเข้าสะพานใหม่นี่มีตาย ต้องไปหากินแถวต่างจังหวัด

รบกวนท่านพี3ประเด็นดีกว่า(จะเกี่ยวกะกระทู้มั้ยเนี่ย)
1. คุณปู่ท่านนึงเอาพระบนคอให้ชม แล้วบอกว่าที่เนื้อดินออกสีจัดๆโทนเนี้ย เพราะองค์นี้ปพ่อแกเคี้ยวหมากแล้วอมพระเป็นประจำ อันนี้พอมีเค้าบ้างมั้ยครับ หรือพระนิทาน
2. หลวงพี่ท่านนึงชอบเก็บสมเด็จ แกบอกว่าเวลาเก็บสมเด็จไม่ควรเลี่ยมเก็บแต่ควรปล่อยให้องค์พระสัมผัสอากาศ เนื้อจะได้ธรรมชาติความเก่า อันนี้เป็นยังไงหรือครับ

ผมก็สบายๆทั้งวันแหละครับเดี๋ยวนี้ เน้นทำจิตใจให้ผ่องใส ชิล ชิล

 

รับทราบครับ

รับทราบครับท่าน แต่ไม่ได้ร้อนตัวนะ jaah

 

เผอิญผมกดเข้ากระทู้จากหน้า history อะครับ โผล่มาหน้าสามเลย เลยพยายามตอบรวมๆให้ครบประเด็น พอย้อนกลับไปอ่านใหม่แต่หน้าแรก อ้าว หน้าแตกสิกรู เอิ๊กๆๆขอบคุณครับ บอกแล้ววันนี้มันงงๆ

 

ประเด็นการจับพลังมีมานานแล้ว วิวาทะประเด็นเลี่ยมพลาสติกก็มีมานานแล้วตั้งแต่เริ่มมีการเลี่ยมใหม่ๆ การจับพลัง หรือการเช็คพลังขอให้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลดีกว่าครับ ผมมีประเด็นใหม่ครับ ผมใด้ยินใด้ฟังมาดังนี้ครับ พระที่อราธนาใช้บ่อยๆ กับพระที่เก็บใว้เฉยๆ พลังมิใด้น้อยลงไปคงเท่ากัน แต่พระที่ใช้บ่อยๆกับมี รังสี รัศมี ออร่า หรืออะไรตามแต่สมมุติกัน กับมีพลังเร็วกว่า แรงกว่า จึงเป็นประเด็นให่มว่าพระเลีย่มพลาสติกหากอารธนาเป็นก็ใช้ใด้ พระเกจิบางองค์ สายพลังจิตท่านว่าใช้จิตกระทุ้งให้พลังระเบิดออกมาก็ใช้ใด้ หากเป็นอย่างนี้จริง ก็เป็นการพัฒนาวงการไปอีกขั้น นะครับ เริ่มจากถักลวด เลี่ยมหุ้มแต่เจาะรู มาถึงเลี่ยมกันน้ำอย่างดี แลอารธนาหรือกระทุ้ง ก็เป็นทางออกที่ดีกับคนรุ่นให่มนะครับ

 

พอเรืองงูก็มาเลย ท่านเทวทูตชอบจริงนะ